"จดหมายเตือนจากFacebook"
“ถ้าวันนี้ธุรกิจคุณ
ต้องพึ่งการยิงadsอย่างเดียว
ในปี2021หรือในอนาคตอันใกล้
อาจจะเริ่มทำงานยากขึ้น”
—————
ช่วงที่ผ่านมาใครที่ทำธุรกิจ
ค้าขายบนFacebook
มีการทำโฆษณา
ยิงAds ขายสินค้าตรงๆ
จะเห็นเลยว่าข้อดีอย่างนึง
ของการทำการตลาดผ่านFacebook
และข้อดีที่....
ทำให้เราไม่อยากหนีไปทำการตลาด
ในplatformอื่นๆ
คือเรื่องของ “Data “
Facebook
มี อัลกอลิธึม
ที่การเก็บพฤติกรรมของคนใช้อย่างเราๆ
พวกเราทุกคน
ถ้ามองในฐานะคนใช้จะรู้กันว่า
หลายๆ ครั้ง ...
เหมือน Facebook
“มันจะรู้จักตัวเรามากกว่า
ตัวเรารู้จักตัวเองซะอีก”
และเหมือน Facebook จะรู้ใจ
เราไปซะทุกเรื่อง
ว่าเรากำลังอยากได้อะไร?
หรือตอนนี้กำลังค้นหาข้อมูล
หรือสินค้าอะไรอยู่?
เพราะ....
Facebook มันก็จะพยาม
โชว์ข้อมูล
โชว์โฆษณา
ของ สินค้า บริการที่เราต้องการ
ให้เราเห็นทางfeedข่าว
เป็นแบบนี้เสมอ
“อย่างกับเป็นเรื่องบังเอิญ
เหมือนกับว่ามันแอบฟังเราอยู่”
————
ซึ่งจริงๆ...
แล้วมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
แต่เป็นความฉลาดของระบบFacebook
ในการเก็บข้อมูลเก็บพฤติกรรมของเรา
ในแง่ดีคือ....
มันจะคัดกรองอะไรที่เราไม่สนใจออก
และส่งแต่เรื่องอะไรที่เราสนใจมาให้
เพราะฉะนั้นหน้าFeed
Facebookของเรา
กับ
หน้าFeed
Facebookของเพื่อนเรา
มันเลยไม่เหมือนกัน
ขึ้นอยู่กับความสนใจของแต่ละคน
เพราะฉะนั้นแต่ละคนรวมถึงเรา
ก็จะมีความรู้สึกว่า....
ในFacebookมีแต่เรื่องที่เราสนใจอยู่เสมอ
ทำให้เราสามารถนั่งดูFacebookเพลินๆ
เรื่อยๆได้ตลอดเวลา
(ประเด็นนี้ผมขอไม่พูดถึงเยอะ
เพราะพี่น้องที่ตามเพจ
ส่วนใหญ่คือคนทำธุรกิจ
เพราะฉะนั้น
ผมจะพูดถึงให้น้ำหนักในแง่ของการทำธุรกิจ)
————
และในแง่ดีของการทำธุรกิจ
คือ....
“การที่Facebook มี data เหล่านั้นของทุกคน”
“การที่Facebookมีการเก็บพฤติกรรม
ของคนใช้
ว่าคนๆนี้มีความสนใจเรื่องอะไรอยู่
กำลังค้นหาอะไร
ชอบอะไร”
“การที่Facebookสามารถ
แยกพฤติกรรมความสนใจของคนใช้ทั้งหมด
และแบ่งเป็น
ประเภทความสนใจแต่ละกลุ่มออกมา”
ในแง่คนที่ทำธุรกิจ
คนที่ยิงads ทำโฆษณาในFacebook
การที่Facebook มีการรวมรวม data ตรงนี้
นี่จึงเป็นเรื่องที่ดีมาก
เพราะเค้าสามารถที่จะยิงโฆษณาตัวเอง
ไปหากลุ่มว่าที่ลูกค้าตัวเอง
ได้แม่นยำยิ่งขึ้น
และ.....
ข้อมูลตรงนี้
แทบไม่เคยมีสื่อใดๆในอดีต
ทำได้ลึกขนาดนี้มาก่อน
Tv วิทยุ หนังสือ
ก็ไม่สามารถทำสิ่งนี้ได้
————ก่อนจะไปถึง
ประเด็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับเราในปี2021
ผมอยากเล่าเรื่องนึง
เพื่อจะทำให้เราเข้าใจที่มาที่ไป
จะบอกว่าจริงๆการเก็บพฤติกรรมลูกค้า
มันก็มีมานานแล้ว
เหมือนกับสมัยก่อนคุณจะไปลงโฆษณา
ในทีวี วิทยุ
อย่างสมัยก่อนตอนที่ผมฝึกงานช่วงเรียน
ในสำนักพิมพ์ที่มีสถานีวิทยุแห่งนึง
มีการขายพื้นที่โฆษณาขณะจัดรายการ
ลูกค้าที่เป็นเจ้าของธุรกิจที่จะมาลงโฆษณา
ก่อนที่เค้าจะมาลง
เค้าจะมีการทำการบ้านมาก่อน
เค้าจะรู้แล้วว่าช่องของวิทยุแต่ละช่อง
หรือช่องที่ผมไปฝึกงาน
ใครเป็นฐานแฟนที่ฟังอยู่?
ฐานแฟนเป็นประมาณไหน?
เค้าวิเคราห์แล้วว่า...
มันน่าจะเป็นกลุ่มคนที่
สามารถมาซื้อมาใช้สินค้าเค้าได้
เค้าก็จะมาติดต่อลงโฆษณา
แล้วเค้าก็จะมาดูรายละเอียด
ว่ารายการในช่อง
มีรายการไหนบ้างที่เหมาะที่สุด
มีกลุ่มแฟนที่ติดตามที่น่าจะใช่ที่สุด
ที่จะลงโฆษณา
หลังจากนั้นเค้าก็ทุ่มเงินก้อนใหญ่
จ่ายเงินลงโฆษณากับช่อง
กับรายการนั้น
นี่คือการตลาดปกติ
ที่เค้าจะทำResearchกันละเอียดมาก
ก่อนที่จะตัดสินใจลงโฆษณาแต่ละครั้ง
“เพราะใช้เงินสูง”
————กลับมาที่ ณ ปัจจุบัน
ซึ่งพอวันนึงที่Facebook
เป็นสิ่งที่ทุกคนเล่นกันเป็นปกติ
แทบทุกคนได้มีโอกาสใช้Facebook
ถ้าเปรียบFacebookเป็นสื่อวิทยุ หรือTV
ก็คงเป็นทีวีที่มีหลายๆช่อง
(หลายๆเพจ)
ที่แต่ละคนสามารถติดตามสิ่งที่ใช่
สิ่งที่ชอบสำหรับตัวเองได้อย่างอิสระ
แต่สิ่งที่ต่างคือ
Facebook มีระบบ
ที่สามารถ Trackเรา
รู้ว่าเราสนใจสิ่งไหน
กำลังให้ความสนใจอะไรอยู่
และFacebookสามารถรวบรวมสถิติ
พฤติกรรมทุกคนได้
และมีกระบวนการแยกหมวดหมู่ออกมา
เหมือนกับFacebook
มีข้อมูลมาแบ่งประเภทได้ว่า
ว่ากลุ่มไหนกำลังสนใจอะไร?
เป็นหมวดหมู่แยกไว้ให้
(ในแง่ดีของผู้ใช้
การที่มีDataทำให้
ที่ผ่านมาเค้าเลยรู้ว่าสนใจอะไร
เลยสิ่งที่เราสนใจมาให้อีก)
และในแง่ของคนทำธุรกิจ
ที่ต้องทำการโฆษณา
ถือเป็นเรื่องที่สะดวกมากเพราะเรา
สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้า
ได้ด้วยราคาที่ถูกมาก
เมื่อเทียบกับสื่อสมัยก่อน
แต่สามารถเทสทีละนิดได้
และเจาะตรงกลุ่ม
ได้ในระดับพฤติกรรม
สามารถส่งไปหาคนที่ใช่
ได้ละเอียดกว่าเยอะ
ถ้าเทียบกับ
การลงโฆษณาในสื่อสมัยก่อน
เพราะฉะนั้นคนทำธุรกิจ
ที่ศึกษาเรื่องการตลาด
เรื่องการทำโฆษณา
วิเคราห์กลุ่มเป้าหมาย
ทำContent
การที่Facebook
มีDataตรงนี้ไว้ให้
เราทำโฆษณา หรือยิงAds
จึงเป็นโอกาสให้
คนค้าขายทำธุรกิจบนFacebookสามารถ
สร้างตัวเติบโตกันในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
———แต่ล่าสุด....
มีข้อความแจ้งเตือนจากทางFacebook
เข้ามา
(ตามในรูปpostนี้)
ว่าApple มีการประกาศว่า
จะไม่ให้ Facebook
เก็บข้อมูลส่วนตัวง่ายๆ อีกต่อไป
———ผมขอเอาความสั้นๆด้านล่าง
ที่อั๋น เชิดพงษ์
เจ้าของเพจ Un+ Chirdpong
คู่หูของผมที่
ได้รับข้อความนี้เช่นกันแล้ว
เขียนเรื่องนี้ไว้ก่อนหน้าไม่กี่ชม
———— ข้อความจาก Un+ Chirdpong
**นี่คือ Trend ที่สำคัญที่จะเกิดขึ้นต่อไปนี้
IOS ไม่ยอมให้ Facebook
เก็บข้อมูลง่ายๆ อีกต่อไป
และ ไม่แน่ว่า แนวคิดนี้
จะถูกขยายออกสู่ไปสู่ Android หรือไม่
เหตุผลเพราะว่า....
พวกเราจะรู้กัน
หลายๆ ครั่ง ....
เหมือน Facebook จะรู้จักเรา
มากกว่า เรารู้จักตัวเอง
เหมือน Facebook
จะรู้ใจเราไปซะทุกเรื่อง
ว่าเรากำลังต้องการอะไร
กำลังค้นหาอะไรอยู่
Facebook ก็จะโชว์ข้อมูล
โชว์ ADs ตัวนั้นให้เรา
แต่ Apple ไม่คิดแบบนั้น
Apple คิดว่า
นั่นคือ สิ่งที่ทำลายความเป็น มนุษย์
สมองมนุษย์ง่ายที่จะถูก
ครอบงำ หรือ Manipulate -> ใช้กลยุทธ์หลอกสมองให้ตัดสินใจ
เพราะฉะนั้น การให้
AI หรือ Facebook Algorithm
มาบอกว่า เราอยากได้อะไร เราชอบอะไรอยู่
แล้วให้ Ads พวกนั้น ระดม เข้ามาหาเรา
Apple เชื่อว่า เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
เป็นการ แทรกแทรง
การตัดสินใจของมนุษย์มากเกินไป
====
เหมือนสมัยก่อน
มีการซ่อนรูปเล็กๆ
ของ Pizza, Popcorn เข้าไปใน
สื่อ - แบบเล็กๆ
ที่เรามองด้วยตาเปล่าไม่เห็น ซ้ำๆ บ่อยๆ ในทุกๆ Frame
ทำให้เราอยากกิน Pizza, PopCorn
ซึ่งเป็นการหลอกสมอง
และเป็นสิ่งที่
คนเราเชื่อว่าไม่ถูกต้อง ..
เทคนิคเหล่านั้นเลยถูกห้ามใช้อีกต่อไป
====
เพราะฉะนั้นในแง่ดีของคนใช้
IOS ตัวใหม่ที่ออกมา (และแนวโน้มต่อไปหลังจากนี้)
“จะให้เรา”
“ เลือกได้ว่า”
“เรา อนุญาติ ให้ “
“Facebook Track”
“ ข้อมูลอะไรเราบ้าง”
หรือ
“ไม่สามารถ Track อะไรได้เลย “
“ก็เป็นสิทธิของเรา...”
=== และในแง่ของคนทำโฆษณา
**นั่นหมายความว่าอะไร?
นั่นหมายความว่า.....
“การยิง Ads ไปที่คนที่ต้องการสินค้าตัวนั้น”
“ความแม่นยำ”
“จะเริ่มน้อยลงเรื่อยๆ”
———
“และการสร้าง Lead ที่แท้จริง”
“สร้าง Bond กับลูกค้าจริงๆ
ตั้งแต่ต้นทาง”
“จะยิ่งสำคัญขึ้นเรื่อยๆ”
เป็นเรื่องสำคัญ
ที่ต้องจับตา ในปีหน้า !
===
Note: คำว่า Trend
คือ แนวโน้มที่คาดการณ์ว่าจะเกิดนะครับ
เพื่อเราจะได้ ปรับตัว
และลงมือทำบางอย่างล่วงหน้าก่อน
เป็นความเห็นส่วนตัว
จะเกิดจริงหรือไม่ ไม่มีใครรู้ได้ 100% ครับ
Un+ Chirdpong
—————————
เพราะฉะนั้น
กลับมาที่สรุปของเราในวันนี้
เราไม่รู้หรอกว่า
เรื่องนี้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่
อาจจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป
หรือฉับพลันทันที
แต่ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่
“การที่เราสามารถเล่นFacebook
โดยที่สามารถเลือกได้ ว่า
“เรา อนุญาติ ให้
Facebook Track ข้อมูลอะไรเราบ้าง
หรือ ไม่สามารถ Track อะไรได้เลย “
บางคนอาจจะชอบ
เพราะไม่ต้องการเห็นadsอะไร
ในขณะมาเล่น
ชอบอารมณ์แบบ
อยากได้อะไรsearchหาเองเท่านั้น
แต่ก็อาจจะมีหลายคน
ยังปล่อยให้Trackได้อยู่
เพราะชอบที่จะได้เห็นข้อมูล
ที่ตัวเองสนใจส่งเข้ามาหา
ได้เห็นAdsได้เห็นของ
ที่ใช่ที่อยากได้ อยากซื้อ เข้ามา
ก็สะดวกดี
—————
แต่ในแง่การทำธุรกิจ
“การที่ให้ผู้ใช้”
“ เลือกได้ว่า”
“เรา อนุญาติ ให้ “
“Facebook Track”
“ ข้อมูลอะไรเราบ้าง”
“ไม่สามารถ Track อะไรได้เลย “
นั่นคือการที่....
“การยิง Ads ไปที่
คนที่ต้องการสินค้าตัวนั้น
ความแม่นยำ จะเริ่มน้อยลงเรื่อยๆ”
และถ้าวันนึง
คนจำนวนมากขึ้นๆ
เกิดตั้งค่า
ไม่อนุญาติให้Facebook Trackข้อมูลได้
คนที่ปัจจุบันพึ่งแต่โฆษณาหรือ
ถ้าพูดตรงๆคือ
เพจปกติทั่วไปที่
พึ่งการยิงAdsแต่เพียงอย่างเดียว
อาจจะกระทบมากขึ้นๆเรื่อยๆ
————
แต่......
อีกนัยนึงมีความเป็นไปได้สูงที่
จะเป็นยุคทองของ
ธุรกิจหรือเพจที่
มีฐานแฟนเพจแนว
ที่ลูกค้าพิมพ์ชื่อเพจเข้ามาดูเอง
มีผู้คนติดตามจริงจัง
อย่างกรณีพี่น้อง
ที่ผมยกตัวอย่างไป
(ลองดูpostก่อนๆ)
ที่ไม่ได้ทำเพจแบบปกติทั่วไป
ที่เปิดเพจ ลงPost สร้างความน่าเชื่อถือ
แล้วก็ยิงAdsขายตรงๆ
แต่เค้าทำเพจแบบ แนวOTO System
ที่เน้นมีคอนเทนต์ที่ดี ให้ว่าที่ลูกค้าจริงๆ
หรือมีแฟนๆติดตามจริงๆ
แฟนๆตามเพราะคุณค่าที่เค้ามอบให้
ผ่านContent
และความมีRelationship กับแฟนเพจ
ซึ่งแม้ไม่ต้องยิงAds
หรือเจอสถานการณ์ที่ยิงadsไม่ได้
เค้าก็ไม่กระทบมากนัก
เพราะยังสร้างRelationshipกับฐานแฟนได้
(ซึ่งต้องบอกว่า
แบบแรกแบบปกติ
ที่เปิดเพจ ลงPost แล้วก็ยิงAdsขายตรงๆ
แบบนี้ก็ยังทำได้อยู่ ณ ปัจจุบัน
แต่ที่ผ่านมาก็เริ่มมีสัญญาณต่างๆ
เข้ามามากขึ้น
เช่น Adsแพงขึ้น
จากการที่คนใช้เยอะขึ้น
หรือมีกฏเกณฑ์ดีเทลยิบย่อยเยอะขึ้น
เริ่มยิงได้ยากขึ้นเข้มขึ้นเรื่อยๆในหลายๆครั้ง
และในอนาคต
จะเริ่มมีเงื่อนไขต่างๆภายนอก
เข้ามามากขึ้นๆ
เช่นแบบกรณีวันนี้)
————
เพราะฉะนั้นทางออกในระยะยาว
ถ้าทุกวันนี้
ธุรกิจคุณยังต้องพึ่งโฆษณา100%
ถ้าวันไหนadsยิงไม่ได้ธุรกิจมีปัญหา
นี่อาจะเป็นเรื่องที่ต้องเริ่มปรับตัว
1)ใครที่ทำธุรกิจบนFacebookอยู่แล้ว
เคยขายได้อยู่แล้ว
อาจจะค่อยๆปรับจากเพจที่ขายตรงๆ
ที่พึ่งการยิงadsอย่างเดียว
เป็นทำเพจ
ที่มีRelationship กับแฟนเพจจริงๆ
ถ้าเค้าอยากได้สิ่งนั้น
ต้องการของอย่างนั้น
ให้เค้านึกถึงคุณได้
โดยที่วันนึงAdsจะยิงได้ไม่ได้
แต่ธุรกิจคุณยังอยู่ได้
2)ใครที่เพิ่งเริ่มเข้ามาทำธุรกิจบนFacebook
หรือเปลี่ยนจากOfflineมาเป็นOnline
ก็ให้เริ่มทำเพจ
ที่เป็นแนวคุณค่า
และมีRelationship กับแฟนเพจจริงๆ
ตั้งแต่เริ่มได้เลย
เรื่องนี้เป็นสัญญาณเตือนถึงสิ่งที่
กำลังจะเกิดขึ้นในปี2021
หรือในอนาคตเร็วๆนี้
หลายครั้งที่เกิดการเปลี่ยนแปลง
แบบฉับพลัน
แล้วจะต้องมีธุรกิจล้มหายตายจากไปเสมอ
แต่ถ้าเรา
คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า
ปรับตัวก่อน
วันนั้นธุรกิจเราจะยังอยู่ได้
และเมื่อเราเตรียมพร้อมกับโอกาส
ดักทุกอย่างไว้ล่วงหน้า
"ก็เป็นไปได้สูง
ที่ธุรกิจเราอาจจะโตสวนกระแส"
หวังว่าเรื่องราวในวันนี้
จะเป็นประโยชน์
กับพี่น้องชาวเพจเราทุกคนครับ
สวัสดีครับ
A10(เอเท็น)���
#iClassUniversity
#OnlineTakeOver
#1YearCLUB
同時也有195部Youtube影片,追蹤數超過7萬的網紅kangg,也在其Youtube影片中提到,มาอัพเดทสั้น ๆ เรื่องคอนเท้นท์การฟังเพลง Lossless ว่าตกลงจะได้ถ่ายม้ายยย ฮืออ ลุ้นอยู่เป็นอาทิตย์เลย ใครอยากดูคอนเท้นท์ดี ๆ ไปอีกนานเท่านานฝากกดซับส...
「ข่าว apple」的推薦目錄:
- 關於ข่าว apple 在 Aten Arnon: เอเท็น อานนท์ Prince of Marketing Facebook 的最佳解答
- 關於ข่าว apple 在 IT24Hrs - ไอที 24 ชั่วโมง by ปานระพี Facebook 的最讚貼文
- 關於ข่าว apple 在 อายุน้อยร้อยล้าน Facebook 的精選貼文
- 關於ข่าว apple 在 kangg Youtube 的最佳解答
- 關於ข่าว apple 在 kangg Youtube 的最佳解答
- 關於ข่าว apple 在 LDA World Youtube 的最佳貼文
- 關於ข่าว apple 在 Apple เข้าร่วมเทศกาลลดราคาชอปปิง “618” กลางปีนี้ใน ... - YouTube 的評價
- 關於ข่าว apple 在 ลองแล้ว! เล่าประสบการณ์การลองแว่นตา Apple Vision Pro ครั้งแรก l ... 的評價
- 關於ข่าว apple 在 ถ้าเป็น 'คุณ' จะซื้อ Apple Vision Pro ไหม ? - YouTube 的評價
- 關於ข่าว apple 在 นาซ่าประชุมใหญ่ UFO, วัตถุกึ่งบริวารโลก, Apple Vision Pro 的評價
- 關於ข่าว apple 在 CEO Facebook ออกปาก Apple Vision Pro ยังไม่ว้าว เพราะ Meta ... 的評價
- 關於ข่าว apple 在 [แจ้งข่าว] Apple... - Thai-Cashless-Society สังคมไทยไร้เงินสด 的評價
ข่าว apple 在 IT24Hrs - ไอที 24 ชั่วโมง by ปานระพี Facebook 的最讚貼文
เพลงยอดฮิตที่คนไทยเปิดฟังมากที่สุดบน apple music ปี 2020 ได้แก่ 🎉👉
https://vt.tiktok.com/ZStXsWju/
ตรงใจกันหรือเปล่าคะ ใช่เพลงที่ชอบไหมเอ่ย ^_^
ข่าว apple 在 อายุน้อยร้อยล้าน Facebook 的精選貼文
คนรวย รวยมาตั้งแต่เกิดเลยหรือเปล่า? นี่อาจจะเป็นคำถามที่ใครหลายๆ คนคิดสงสัยกันในใจ วันนี้เลยจะพามาดูอาชีพแรกของเหล่ามหาเศรษฐีระดับโลกที่กว่าจะมาถึงวันนี้ได้จุดเริ่มต้นการทำงานของพวกเขาคืออะไร แล้วทำยังไงพวกเขาถึงได้ประสบความสำเร็จเช่นวันนี้ และไม่น่าเชื่อว่าบางคนจะเคยทำงานนี้มาก่อน!
.
- Jeff Bezos เจ้าของบริษัท Amazon
อาชีพแรก : คนย่างเนื้อร้าน McDonald’s
ชายที่รวยสุดในโลก ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซชื่อดังอย่าง Amazon.com ใครจะรู้ว่าก่อนหน้านี้เขาเคยทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้านฟาสต์ฟู้ดอย่าง McDonald’s รับหน้าที่ในการยืนย่างเนื้อหน้าเตาร้อนๆ ตลอดทั้งวันแทบจะไม่ได้นั่งพักและไม่มีโอกาสได้เป็นแคชเชียร์หน้าร้านเลยสักครั้ง แต่แล้วยังไงในเมื่อตอนนี้เขากลายเป็นบุคคลที่โค่นสถิตคนที่รวยที่สุดในโลกของตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า!
.
- Bill Gates เจ้าของบริษัท Microsoft
อาชีพแรก : โปรแกรมเมอร์
มหาเศรษฐีที่เคยรวยที่สุดในโลก ถึงแม้ว่าตอนนี้จะถูกแย่งบัลลังก์จาก เจฟฟ์ เบโซส ตกลงมาที่ 2 แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขารวยน้อยลงเลย บิล เกตส์ เป็นผู้ก่อตั้งบริษัท Microsoft ที่มีความสนใจในด้านเทคโนโลยีมาตั้งแต่เด็ก โดยเริ่มจากการแฮกระบบคอมของโรงเรียนเพื่อที่จะได้เล่นคอมให้นานขึ้น พอเข้าช่วงมอปลายเขาก็ได้จริงจังกับการเขียนโปรแกรมและได้ขายให้กับโรงเรียน ซึ่งถือว่าเป็น Software ชิ้นแรกที่เขาทำเงินได้อย่างจริงจัง และไม่แปลกใจเลยที่ทำไมเขาถึงได้ประสบความสำเร็จเช่นทุกวันนี้
.
- Warren Buffett นักลงทุนระดับโลก
อาชีพแรก : เด็กส่งหนังสือพิมพ์
“ตำนานวงการตลาดหุ้น” เป็นคนที่นักลงทุนทั่วโลกไม่มีใครไม่รู้จัก แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้ว่าครั้งหนึ่งเขาเคยปั่นจักรยานส่งหนังสือพิมพ์มาก่อนไม่เพียงเท่านั้นเขานำเงินที่ได้ไปลงทุนต่อยอดในขณะที่มีอายุเพียง 13 ปีเท่านั้น และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขากลายเป็นเจ้าพ่อแห่งวงการตลาดหุ้นจนถึงทุกวันนี้
.
- Michael Bloomberg เจ้าของบริษัท Bloomberg
อาชีพแรก : คนเฝ้าที่จอดรถ
อดีตนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก ผู้ก่อตั้ง Bloomberg ผู้ให้บริการ ข่าว และ ซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวกับข้อมูลด้านการเงิน เขาเกิดมาในครอบครัวที่มีไม่ได้มีเงินมากนัก เขาต้องกู้เงินและทำงานรับจ้างเป็นคนดูแลที่จอดรถเพื่อส่งตัวเองเรียนจนจบมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ และมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ได้ในที่สุด
.
- Jack Ma เจ้าของบริษัท Alibaba
อาชีพแรก : ครูสอนภาษาอังกฤษ
นักธุรกิจชาวจีน เจ้าของบริษัทอีคอมเมิรซ์เจ้าใหญ่อย่าง Alibaba แจ็คเกิดมาในครอบครัวที่ยากจน เขามองเห็นว่าภาษาอังกฤษนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเปลี่ยนชีวิตเขาได้จึงฝึกฝนทุกวันโดยการปั่นจักรยานกว่า 45 นาทีเข้าไปคุยกับนักท่องเที่ยวในเมืองทุกวัน จนทำให้สามารถสอบเข้าเอกภาษาอังฤษและได้เริ่มเป็นครูสอนภาษาอังกฤษอยู่ 5 ปีหลังเรียนจบ ซึ่งได้เงินเดือนอยู่ที่ราวๆ 500-600 บาทเท่านั้น และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งบันไดที่ทำให้เขาสามารถสร้างบริษัทจนประสบความสำเร็จได้อย่างทุกวันนี้
.
- Michael Dell ผู้ก่อตั้งบริษัท Dell computer
อาชีพแรก : เด็กล้างจาน
ไมเคิลร่วมกับเพื่อก่อตั้งบริษัท Dell computer ในขณะที่มีอายุเพียง 19 ปีเท่านั้น ซึ่งครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นเด็กล้างจานในร้านอาหารจีนตอนอายุ 12 ปี ก่อนจะได้รับเลื่อนขั้นให้เป็นผู้ช่วยแม่บ้านแต่สุดท้ายเขาเลือกที่จะย้ายจากร้านอาหารจีนไปทำร้านอาหารเม็กซิกันแทนเพราะได้ค่าจ้างที่สูงกว่า ซึ่งเขาได้นำเงินสะสมมาซื้อคอมเก่าเพื่อซ่อมแล้วขายต่อจนเก็บเงินเปิดบริษัทคอมพิวเตอร์ได้ในที่สุด
.
- Steve Jobs ผู้ก่อตั้งบริษัท Apple
อาชีพแรก : เด็กฝึกงานที่บริษัท HP
ผู้ก่อตั้งบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ระดับโลก สมัยเรียน สตีฟ จ็อบส์ ได้เข้าฝึกงานกับบริษัท HP ตั้งแต่ยังเรียนอยู่เพียงแค่ชั้นมอปลาย ซึ่งนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาได้พบกับผู้ร่วมก่อตั้ง Apple อย่าง สตีฟ วอซเนียก จนพวกเขาได้เริ่มต้นปฏิวัติวงการเทคโนโลยีของโลกด้วยผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงสุดไม่ว่าจะเป็น Iphone, Ipad, Ipod และ Mac
.
- Giorgio Armani เจ้าของแบรนด์ Armani
อาชีพแรก : ผู้ช่วยช่างภาพ
ใครจะคิดว่าดีไซเนอร์ระดับโลกเจ้าของแบรนด์ Armani คนนี้จะเคยเข้าเรียนด้านการแพทย์มาก่อนที่เขาจะค้นพบว่ามันไม่ใช่ทางของตัวเองสุดๆ ซึ่งก่อนจะก้าวเข้าสู่วงการแฟชั่นเขาได้ทำงานเป็นผู้ช่วยช่างภาพมาก่อนและนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาได้ซึมซับแนวคิดเรื่องของแฟชั่นจนเปิดแบรนด์เป็นของตัวเองในเวลาต่อมา
.
- Donald Trump ประธานาธิบดีประเทศสหรัฐอเมริกา
อาชีพแรก : เก็บขวดโซดาขาย
ประธานาธิบดีแห่งประเทศมหาอำนาจอันดับ 1 ของโลก ได้เคยเล่าว่าเขาหาเงินก้อนแรกในชีวิตด้วยการเก็บขวดโซดาที่โรงงานของพ่อมาขายกับพี่ชาย ซึ่งเป็นการทำให้เขาได้เรียนรู้การทำธุรกิจเป็นครั้งแรกก่อนที่จะโตขึ้นกลายเป็นนักธุรกิจและเดินสายมาทางด้านการเมืองจนได้มาเป็นประธานาธิบดีคนล่าสุดของอเมริกาในวันนี้
.
- Kevin Plank เจ้าของแบรนด์ Under Armour
อาชีพแรก : คนตัดหญ้า
อดีตนักอเมริกันฟุตบอล เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าและอุปกรณ์ชื่อดังอย่าง Under Armour มีชีวิตที่ไม่ได้เริ่มต้นมาสวยหรูนักเพราะเขาต้องเริ่มทำงานตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ด้วยการรับจ้างตัดหญ้าที่ได้เงินตอบแทนประมาณ 15-30 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อสนามเท่านั้น ก่อนที่เขาจะใช้ห้องใต้ดินเป็นฐานลับในการทำธุรกิจเขย่าวงการอุปกรณ์กีฬาในเวลาต่อมา
.
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับอาชีพแรกของเหล่ามหาเศรษฐีระดับโลกที่เส้นทางของแต่ละคนไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเหมือนในภาพฝัน พวกเขาเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เริ่มต้นทำงานและค่อยๆ สร้างเนื้อสร้างตัว ผ่านความยากลำบากมามากมายกว่าจะประสบความสำเร็จดังเช่นวันนี้ ดังนั้นขอทุกท่านอย่าพึ่งท้อหรือหยุดพัฒนาตนเอง เก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่มีค่าต่างๆให้ได้มากที่สุด เพื่อความสำเร็จที่กำลังรอคอยท่านอยู่ในวันข้างหน้า
.
ที่มา : https://money.kapook.com/view179007.html
.
#อายุน้อยร้อยล้าน #ryounoi100lan
#อายุน้อยร้อยล้านNEWS
#billionnaires #firstjob #business
#JeffBezos #Amazon #BillGates #Microsoft #WarrenBuffett #Investor #MichaelBloomberg #Bloomberg #JackMa #Alibaba #MichaelDell #Dell #SteveJobs #Apple #GiorgioArmani #Armani #DonaldTrump #KevinPlank #UnderArmour
ข่าว apple 在 kangg Youtube 的最佳解答
มาอัพเดทสั้น ๆ เรื่องคอนเท้นท์การฟังเพลง Lossless ว่าตกลงจะได้ถ่ายม้ายยย ฮืออ ลุ้นอยู่เป็นอาทิตย์เลย
ใครอยากดูคอนเท้นท์ดี ๆ ไปอีกนานเท่านานฝากกดซับสไคร้ช่องกันไว้ด้วยนะครับ
ข่าว apple 在 kangg Youtube 的最佳解答
MacBook Pro M1X มีแท็กมาแล้วแต่แอปเปิ้ลไม่เปิดตัวเพราะอะไร
Apple Lossless อย่าเริ่ม ฮ่าๆๆๆ
ได้ใช้ iOS/iPadOS 15 มาอาทิตย์นึงแล้ว ใครใช้แล้วเป็นไงเล่าให้ฟังบ้างนะครับ ส่วนตัวผมถ้าเรื่อง Privacy ชอบมากนะทำมาดีทุกสิ่งจริง ๆ แต่นอกนั้นถือว่ากลาง ๆ เหมือนว่าปีนี้แอปเปิ้ลเน้นปรับปรุงมากกว่าเพิ่มฟีเจอร์ว้าว ๆ
ข่าว apple 在 LDA World Youtube 的最佳貼文
หลังจากที่เพื่อน ๆ คอมเมนต์อยากให้เรารีวิวเปรียบเทียบ AirPods ไม่รู้จะซื้อรุ่นไหนดี
แต่ละรุ่นมีจุดเด่นยังไง เหมาะกับใคร แล้วคุ้มค่ามั้ยที่จะซื้อ?
.
วันนี้ มีร่า LDA สรุปมาให้ฉบับเข้าใจง่าย ข้อมูลครบ ดูจบตัดสินใจได้เลย!
.
00:42 AirPods หูฟังน้องเล็ก ใส่สบาย
02:31 AirPods Pro หูฟังพี่รอง สำหรับคน Active
04:59 AirPods Max หูฟังพี่ใหญ่ เสียงที่ใช่ คุณภาพเน้น ๆ
07:45 ฟีเจอร์ใหม่ เปิดตัวพร้อม iOS15
09:14 สรุป
.
ใครใช้ AirPods รุ่นไหนอยู่ ชอบอะไร มาป้ายยาเพื่อน ๆ ในคอมเมนต์กันนะคะ หรือ อยากให้มีร่ารีวิวหูฟังรุ่นไหน ก็มาคอมเมนต์กันไว้ได้เลยย ?
รีวิวเต็ม AirPods ทั้ง 3 รุ่น
AirPods : youtube.com/watch?v=gIRhI5snWZk
AirPods Pro : youtube.com/watch?v=z31Hjduv1Rs
AirPods Max : youtube.com/watch?v=iTfqDnsEhVM
-------------------------------------------------------------
ABOUT US
Facebook: http://www.facebook.com/LDAworld
Tiktok: https://www.tiktok.com/@ldaworld?lang=en
Blog: http://www.ldaworld.com
Instagram: http://www.instagram.com/ldaworld
Twitter: http://twitter.com/ldaworlds
PODCAST
Spotify : https://spoti.fi/2v8nNY9
Apple Podcast : https://apple.co/35NteJc
Podbean : https://ldapodcast.podbean.com
ติดต่องาน/ลงโฆษณา : contact@flourish.co.th
โทร : 086-363-6683
ข่าว apple 在 ลองแล้ว! เล่าประสบการณ์การลองแว่นตา Apple Vision Pro ครั้งแรก l ... 的推薦與評價
เปิดตัวแล้ว วิเคราะห์กันชัดๆ…อะไรมาแทน iPhone ? Apple Vision Pro แว่นตา3มิติ เป็นทั้งAR-VRในตัวเดียวในราคา 120000 บาทกว่าๆ ! ... <看更多>
ข่าว apple 在 ถ้าเป็น 'คุณ' จะซื้อ Apple Vision Pro ไหม ? - YouTube 的推薦與評價
ฮือฮากันมากเลย เมื่อ # Apple ตัดสินใจเปิดตัวแว่น #MixedReality รุ่นแรกอย่าง #AppleVisionPro วันนี้ #beartai ขอชวนผู้คนสายเทคในงานแถลง Tech ... ... <看更多>
ข่าว apple 在 Apple เข้าร่วมเทศกาลลดราคาชอปปิง “618” กลางปีนี้ใน ... - YouTube 的推薦與評價
ครั้งแรกที่ Apple เข้าร่วมเทศกาลลดราคาชอปปิงออนไลน์ครั้งใหญ่ในจีน ... 25K views 1 day ago # ข่าว สั้นล้ำหน้าโชว์ # apple #JD. ... <看更多>