สรุปเรื่อง รัฐบาลจีน ทุบนายทุน ทำให้หุ้นเทคจีนลงแรง ในตอนนี้ /โดย ลงทุนแมน
รัฐ จัดระเบียบ ทุน น่าจะเป็นคำอธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในจีนตอนนี้ได้เห็นภาพที่สุด
รัฐ คือ ทางการจีน
ทุน คือ บริษัทเทคโนโลยีจีนยักษ์ใหญ่ทั้งหลาย
เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องใหญ่สุดในรอบหลายปีของตลาดทุนจีน
ใครโดนไปแล้วบ้าง แล้วใครกำลังจะโดนอีก
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ใครติดตามข่าวจะเห็นเรื่อง การจัดการการผูกขาดทางการค้ากับบริษัทเทคโนโลยีจีนยักษ์ใหญ่ทั้งหลาย โดยเริ่มต้นจาก
- เครือ Alibaba ที่หยุดการ IPO ของ Ant Group เจ้าของ FinTech ที่ใหญ่สุดในโลก จากแจ็ก หม่า ที่เป็นคนพูดเยอะกลายเป็นต้องเงียบไม่ออกสื่อ
และอีกหลายบริษัท ในหลายกลุ่มทุน
- Meituan Dianping แอปพลิเคชัน Food Delivery อันดับ 1 ของจีน
- Tencent Music แอปพลิเคชันฟังเพลงอันดับ 1 ของจีน โดนรัฐบาลจีนปรับเรื่องผูกขาดลิขสิทธิ์ธุรกิจเพลง
- Didi Chuxing แอปพลิเคชันเรียกแท็กซี่อันดับ 1 ของจีน ที่เพิ่ง IPO ที่ตลาดหุ้น Nasdaq โดนรัฐบาลจีนสั่งลบแอปพลิเคชันออกจาก App Store และ Play Store ห้ามมีผู้ใช้งานใหม่ โดยรัฐบาลจีนบอกว่ากังวลต่อความปลอดภัยของข้อมูลสำคัญของจีน
และล่าสุดคือธุรกิจกวดวิชา ซึ่งรัฐบาลจีนมองว่าจะกลายเป็นปัญหาของจีนในอนาคตได้ เพราะตอนนี้เด็กจีนเรียนหนักเกินไป ภาระค่าใช้จ่ายของพ่อแม่ที่จ่ายให้ธุรกิจกวดวิชาเหล่านี้ ก็สูงเกินไป หรือมองอีกนัยหนึ่งก็คือ ธุรกิจ AST (After School Tutoring) หรือกวดวิชาในจีนเหล่านี้ กำลังใหญ่และทรงอิทธิพลเกินไป
ทำให้ล่าสุดรัฐบาลจีนประกาศให้ธุรกิจกวดวิชาที่สอนเนื้อหาเหมือนในห้องเรียน ต้องเป็นธุรกิจที่ไม่แสวงหาผลกำไร และผู้ทำธุรกิจเดิมหรือผู้จะทำธุรกิจใหม่จะไม่สามารถระดมทุนในตลาดทุนได้
การที่รัฐเข้ามาควบคุม ผ่านการออกกฎที่กระทบกับการทำธุรกิจของบริษัทเหล่านี้ ส่งผลกระทบต่อความกังวลของนักลงทุนต่างชาติอย่างมาก สังเกตได้จากการเร่งเทขายหุ้นเทคโนโลยีจีน ทั้งในตลาดสหรัฐอเมริกา ตลาดหุ้นฮ่องกง และตลาดหุ้นจีน
เมื่อเป็นแบบนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นทันที คือ การปรับตัวลงของราคาหุ้นที่เกี่ยวข้อง
บริษัทเทคโนโลยีจีน มูลค่าหายไปเฉลี่ย 40% จากจุดสูงสุด
แต่ดูเหมือนว่า หุ้นที่ถูกกระทบหนักที่สุด ก็คือหุ้นกลุ่ม Education Technology ซึ่งหุ้นกลุ่มนี้บางรายปรับตัวลง 90% จากจุดสูงสุด
ทำไมรัฐบาลจีนถึงมองว่า ธุรกิจกวดวิชา เป็นธุรกิจที่ควรจัดระเบียบ ?
จากการสำรวจ ภาระค่าใช้จ่าย 3 อันดับสำคัญของคนจีนในยุคนี้ คือ ค่ารักษาพยาบาล ค่าการศึกษาลูก และ ค่าใช้จ่ายเรื่องที่อยู่อาศัย ดังนั้นจึงตีความได้ไม่ยากว่า นี่คือ กลุ่มอุตสาหกรรมที่ทางการจีนต้องเข้ามาจัดการ
รู้หรือไม่ว่า ธุรกิจกวดวิชาในจีน ถูกประเมินว่ามีมูลค่ากว่า 3.7 ล้านล้านบาท
คนจีนมีความเชื่อว่า การศึกษาสามารถเปลี่ยนชีวิตได้ ดังนั้นจึงไม่แปลกใจว่า ทำไมพ่อแม่ชาวจีน ถึงให้ความสำคัญ และยอมทุ่มเทค่าใช้จ่ายเพื่อให้ลูกเข้าถึงการศึกษาที่ดีที่สุด
จากผลสำรวจของคนจีนในเมืองใหญ่ พบว่า ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยสำหรับการเรียนกวดวิชาของลูก จะอยู่ที่คนละ 40,000-50,000 บาทต่อเดือน
ภาระค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง เป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้คนจีนไม่อยากมีลูก และประเด็นนี้กำลังส่งผลต่อเรื่องปัญหาประชากรของจีน โดยมีการคาดการณ์ว่า ภายในปี 2030 ประชากรจีนจะเริ่มหดตัวลง พร้อม ๆกับสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้น
ดังนั้นเพื่อเป็นการแก้ปัญหาระยะยาวเหล่านี้ สิ่งที่รัฐบาลจีนทำ นอกเหนือจากนโยบายคลายกำเนิดที่ประกาศไปก่อนหน้า คือการพยายามลดภาระค่าใช้จ่ายของการมีลูก และทำให้คนกลับมาอยากมีลูกเพิ่มขึ้น
และล่าสุดรัฐบาลจีนได้ออกนโยบาย Double Reduction Policy (双减) คือ นโยบายที่มุ่งเน้นการลดปริมาณการบ้าน และลดชั่วโมงเรียนพิเศษ ของเด็กจีน จึงถูกประกาศออกมาอย่างเป็นทางการเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อแก้ปัญหาและหวังลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของคนจีน
สาระสำคัญของนโยบายนี้ คือการลดความเครียดของเด็ก ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา และลดภาระค่าใช้จ่ายของพ่อแม่ โดยนโยบายนี้ครอบคลุมสำหรับการเรียนกวดวิชาของระดับชั้น K9 ลงมา หรือเทียบเท่า ม.3 ในไทย ซึ่งเป็นระบบการศึกษาภาคบังคับของจีน
นโยบายนี้จะบังคับให้ธุรกิจ AST ในจีน เปลี่ยนมาเป็น บริษัทที่ไม่เเสวงหาผลกำไร รวมถึงหน่วยงานกำกับดูแลจีน จะไม่ให้มีบริษัทติวเตอร์เปิดใหม่ที่มีการสอนซ้ำกับหลักสูตรภาคบังคับของโรงเรียนปกติ และห้ามธุรกิจกวดวิชาเหล่านี้เข้าระดมทุน ห้ามทำโฆษณาเชิญชวนขายคอร์สเรียน และห้ามโรงเรียนกวดวิชาสอนในช่วงวันเสาร์ อาทิตย์ วันหยุดเทศกาล และช่วงปิดเทอม
นอกจากธุรกิจการศึกษาของจีนที่โดนจัดการไปแล้ว รู้หรือไม่ว่า อีกหนึ่งภาคธุรกิจที่เป็นเป้าหมายต่อไปของจีน คือ ธุรกิจที่เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย เพราะค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องค่อนข้างสูง จากการที่ราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ปรับตัวสูงขึ้นจากการเก็งกำไร
ทำให้ทางการจีน ออกมาตรการลดความร้อนแรง ทั้งปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ การตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ การออกกฎควบคุมแพลตฟอร์มอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังในจีน อย่าง Lianjia ที่ทำแพลตฟอร์ม นายหน้า ซื้อ ขาย เช่า ที่อยู่อาศัยครบวงจร
ในประเทศจีน Lianjia ครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ในจีน คิดเป็นสัดส่วน 52% และที่ผ่านมาเพิ่งโดนทางการจีน สั่งปรับในประเด็นการผูกขาดตลาด นั่นก็คือ หากจะประกาศขาย เช่า ที่อยู่อาศัยใน Lianjia แล้วห้ามไปประกาศในแพลตฟอร์มอื่น จากมาตรการเหล่านี้ทำให้หุ้น KE Holdings ก็ปรับตัวลงมาจากจุดสูงสุดแล้วเกือบ 70%
จากการสังเกต จะเห็นว่า การเข้ามาควบคุมของรัฐบาลจีนส่วนใหญ่ จะเกิดขึ้นในธุรกิจแพลตฟอร์มที่มีขนาดใหญ่ และมีการผูกขาด จนทำให้เกิดการแข่งขันในธุรกิจที่ไม่เป็นธรรม และส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อประชาชนส่วนใหญ่ ซึ่งส่งผลทำให้เกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำทั้งในการทำมาหากิน และการใช้ชีวิตของประชาชนตามมา
อย่างไรก็ดี การเข้ามาควบคุมโดยใช้นโยบายต่าง ๆ เหล่านี้ ที่รัฐบาลมุ่งหวังจะแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในระยะยาว จะตอบโจทย์ได้จริงหรือไม่ ? สิ่งเหล่านี้ถือเป็นประเด็นที่ต้องติดตาม
หนึ่งในตัวอย่าง ที่พอจะสะท้อนได้ จากสื่อจีนที่ไปสัมภาษณ์ผู้ปกครอง หลังนโยบาย Double Reduction ได้ประกาศบังคับใช้ โรงเรียนกวดวิชาหลายโรงเรียนต้องหยุดการเรียนการสอน พบว่าพ่อแม่ส่วนหนึ่ง มองว่าไม่ได้แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ เพราะตอนนี้ต้องดิ้นรนไปหาติวเตอร์ส่วนตัวมาสอนลูกแทน ซึ่งราคาต่อชั่วโมงของติวเตอร์เหล่านี้ ตอนนี้สูงถึงชั่วโมงละ 2,000-4,000 บาท เรียกว่าปรับตัวสูงขึ้นมาก จนแพงกว่าการจ่ายค่าคอร์สออนไลน์ให้กับบรรดาธุรกิจ AST หลายเท่าตัว
ผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมจีนหลังจากนี้ คงต้องรอติดตามในระยะยาวว่าจะแก้ปัญหาได้อย่างที่ทางการจีนหวังไว้ได้หรือไม่
แต่สิ่งที่สะท้อนทันทีในระยะสั้น คือ การเทขายของหุ้นเทคโนโลยีจีน ที่สร้างแรงกระเพื่อมไปยังตลาดหุ้นทั่วโลก
โดยถ้าประเมินจากดัชนีหุ้นเทคโนโลยีจีนที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ (NASDAQ Golden Dragon China Index) ถ้านับจากจุดสูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ มูลค่าของหุ้นกลุ่มนี้ได้หายไปแล้วกว่า 24.6 ล้านล้านบาท คิดเป็นการปรับตัวลดลงมากว่า 45% แล้วนั่นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://qz.com/2037818/china-is-extending-its-regulatory-storm-from-tech-to-education/
-https://www.reuters.com/world/china/chinese-parents-fret-after-government-bans-for-profit-tutoring-firms-2021-07-26/
-https://urldefense.com/v3/__http:/www.clsa.com/*ev/*Aw0H8G4Or2zL_czaDrP_dwgPGkSUPbLwJvu2NikZeg__;Ly8!!G1i-!f-6a-s5L1WM_qIToEXScAIcFWc5paEjE6_UeoaWDJGtzRUkKTPbNnB0lXhrQB43NzBgqgDAbUg$
-https://en.wikipedia.org/wiki/Lianjia
-https://www.straitstimes.com/business/companies-markets/china-stocks-in-us-suffer-biggest-two-day-wipeout-since-2008
-https://www.reuters.com/business/finance/exclusive-china-planning-new-crackdown-private-tutoring-sector-sources-2021-05-12/
「ธุรกิจ ev ในไทย」的推薦目錄:
ธุรกิจ ev ในไทย 在 คุยการเงินกับที Facebook 的最讚貼文
NIO : พี่ใหญ่รถไฟฟ้าในเมืองจีน
NIO-NIO Inc.
Price : 39.84$ (2/05/2021)
PS ratio : 20.86
Market cap : 6.528 หมื่นล้านเหรียญ
NIO หุ้นรถยนต์ไฟฟ้า ที่มีการเติบโตที่โดดเด่นมาโดยตลอด ยิ่งปีที่ผ่านมาที่เทรนด์รถยนต์ไฟฟ้ามารุนเเรงมาก ทำให้หุ้น EV อื่นๆ ก็ได้ประโยชน์เช่นกัน อย่าง Tesla , Xpeng เป็นต้น ในขณะที่อุตสาหกรรมรถยนต์สันดาป มียอดสั่งซื้อติดลบในปี 2020 ที่ผ่านมา
Nio ก่อตั้งโดยนาย William Li ผู้ได้ฉายาว่าเป็นเสมือน Elon Musk เเห่งเมืองจีน ยืนยันด้วยความสำเร็จ จากธุรกิจที่ผ่านมาที่เขาได้เคยทำ อย่าง ฺBitauto ธุรกิจ ecommerce สำหรับซื้อขายรถยนต์ เเละ ได้นำความรู้เหล่านั้น เเละ วิสัยทัศน์ที่มีว่ารถยนต์ไฟ้ฟ้า จะมาพลิกโฉมวงการรถยนต์ จึงนำมาต่อยอด เป็น NIO อย่างที่เห็นในปัจจุบัน ด้วยการเติบโตของยอดขายที่พึ่งประกาศไปล่าสุด ที่ 125% YoY (ยอดขายรวมที่ 102,803 คัน!!)
ในส่วนของราคาหุ้น NIO ปรับตัวขึนไป จากตอน IPO 6.25-8.25$ ไปสู่จุดสูงสุดที่ 62.84$ เติบโตราวๆ 1000%!!! เเละตอนนี้ก็ย่อตัวลงมา ที่ราวๆ 39$ จากปัจจัย ที่ CEO Wiliiam Li รายงานถึง supply chain ที่อาจจะมีปัญหา จากการขาดเเคลน semicondutor เเละการเติบโต ของ demand ที่โดดเด่นมากๆ
กับ อีกหนึ่งปัจจัย คือ ใน Q1 2021 กำไรต่อหุ้นที่ -0.49$ พลาดเป้าไป -0.33$ เเละ ในตอน Q4 2020 ก็พลาดเป้าราคาไปเช่นกัน ก็เลยมีการปรับฐานลงมาถึง 40% จากจุดสูงสุด
รายได้ที่ทำได้
2018 719.8M $
2019 1123.8M $
2020 2490.6M $
Gross Profit
2018 -37.2M$
2019 -172.2M$
2020 +287.0M$
จะเห็นว่าจากกการเติบโตของรายได้ที่ 3ปี เติบโต มากกว่า 3 เท่า ทำให้ GP เริ่มเป็นบวกมากขึ้นเรื่อยๆ เเละคาดว่าภายในไม่กี่ปี จะสามารถ breakeven เเละทำกำไรได้ เพราะ operating profit เริ่มลบน้อยลง จาก..
2018 -1395.0M$
2019 -1591.2 M$
2020 -705.8M$
จุดเเข็ง
สิ่งที่ทำให้ NIO โดดเด่นจากเพื่อนๆในอุตสาหกรรม EV ก็คือการขาย Baas (Battery-as-a-Service) โดยมองจากปัญหาของการชาร์จรถไฟฟ้าที่รอนานได้สร้างระบบการ Swap Battery (Nio House,Nio power) ทำให้ใช้เวลาน้อยลงอย่างมากเมื่อต้องเดินทางไกล โดยเฉลี่ยประมาณ 5-10 นาที ซึ่งเเนวคิดนี้ Tesla ได้เคยคิดไว้ในอดีตในปี 2013 เเต่ Tesla ได้ล้มเลิกไปในปี 2016 เเละ มองถึง Technology การ Supercharger มากกว่า โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที สามารถเดินทางได้ 200 ไมล์ หรือ ประมาณ 320 กิโลเมตร
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยสำคัญคือ ผู้บริหารที่มีความสามารถ ได้รับการลงทุน จากบริษัทใหญ่อย่าง Tencent จึงน่าจะเห็น snergy ที่เจ๋งๆได้ในอนาคต
ที่สำคัญที่สุดคือ การตั้งเป้า ของ สี จิ้น ผิง ที่จะเพิ่มยอดขายรถยนต์ไฟ้ฟ้า จาก 5% ในปะเทศ เป็น 25% ในปี 2025 เพื่อการเป็นประเทศ 0-Carbon emission จึงน่าจะได้รับผลเชิงบวกจากเทรนด์นี้
ความเสี่ยง
จากสภาวะเศรษฐกิจโลกที่เริ่มมีการตีกลับของเงินเฟ้อ มีสิทธิ์ที่จะทำให้ ต้นทุนการเงินในอนาคตสูงขึ้นได้
เเละ จากการสนับสนุนของจีนยังทำให้รายได้ยังติดลบ อยู่เลย ถ้าในอนาคต ขาดการสนับสนุน ตัวรถก็ถือว่ามีราคาสูงอาจกระทยต่อยอดขายได้เช่นกัน ประกอบกับ ผู้เล่นหน้าใหม่ที่เข้ามาเรื่อยๆ เพือ่เเย่ง market share อย่าง Xiaomi , Apple เป็นต้น
........................................
ติดตามข้อมูล เศรษฐกิจ การลงทุนในต่างประเทศ ในไทย ได้ที่คุยการเงินกับที
........................................
Ref :
https://seekingalpha.com/symbol/NIO/income-statement
https://seekingalpha.com/news/3688596-nio-stock-trades-lower-after-ev-maker-warns-on-supply-chain-issues
https://clickipo.com/offerings/ipo/nio-inc/
https://seekingalpha.com/article/4419650-3-reasons-nio-is-top-ev-pick
https://www.youtube.com/watch?v=JmjvVTxcWAk&t=177s
https://seekingalpha.com/pr/18296836-nio-inc-provides-april-2021-delivery-update
Trin T