Saverin อยู่กับเฟซบุ๊กปีเดียว แต่มีทรัพย์สิน 6 แสนล้าน /โดย ลงทุนแมน
Mark Zuckerberg เริ่มก่อตั้ง Facebook ในปี 2004 ร่วมกับเพื่อนอีก 4 คน
หนึ่งในนั้นคือรุ่นพี่ที่ชื่อว่า “Eduardo Saverin”
Saverin คือเพื่อนคนแรกที่ Zuckerberg ชวนมาร่วมทีมและเขาคนนี้ยังเป็นคนแรกที่ร่วมลงทุนใน Facebook
แต่ผ่านไปเพียงปีเดียว กลับมีเรื่องราวที่ทำให้เขากลายเป็นผู้ร่วมก่อตั้งที่ต้องออกจากบริษัทไปเป็นคนแรกเช่นกัน
แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับ Saverin ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
“Eduardo Saverin” เกิดที่เมืองเซาเปาลู ประเทศบราซิล ในปี 1982 ก่อนจะย้ายไปอยู่ที่เมืองรีโอเดจาเนโร
เขาเกิดมาในครอบครัวชาวยิวที่ร่ำรวย โดยพ่อของเขาเป็นนักธุรกิจ ที่เป็นเจ้าของกิจการทั้งการส่งออก เรือขนส่ง ไปจนถึงอสังหาริมทรัพย์
แต่ความมั่งคั่งนี้ ก็เป็นที่ล่อตาล่อใจของแก๊งมาเฟีย ทำให้เมื่อปี 1993 Saverin ในวัย 11 ปี มีชื่ออยู่ในลิสต์เหยื่อที่จะโดนแก๊งลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่
โชคดีที่พ่อของเขาไหวตัวทัน เขาจึงพาครอบครัวอพยพไปตั้งต้นชีวิตในที่ที่ปลอดภัยกว่า อย่างประเทศสหรัฐอเมริกา จน Saverin ได้สัญชาติอเมริกันในปี 1998
หลังจากเรียนจบมัธยมศึกษา Saverin เลือกเรียนเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
เขาโดดเด่นเรื่องการลงทุนเป็นพิเศษ ทั้งการได้เป็นประธาน Harvard Investment Association และยังเป็นที่เลื่องลือจากการทำกำไรเป็นเงิน 3 แสนดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 10 ล้านบาท จากการลงทุนในฟิวเจอร์สน้ำมัน
ปี 2003 ขณะที่ Saverin เรียนอยู่ปี 3 รูมเมตรุ่นน้องของเขาที่ชื่อ “Mark Zuckerberg” กำลังพัฒนา TheFacebook.com หรือที่เรารู้จักกันก็คือ Facebook ในปัจจุบัน
เวลานั้น Zuckerberg กำลังมองหาพาร์ตเนอร์มาร่วมทีม ซึ่งเขามองหาคนที่มีเงินทุนและเก่งในด้านที่เขาไม่ถนัด นั่นคือการลงทุนและการทำธุรกิจ ซึ่ง Saverin ก็เรียกได้ว่ามีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่ Zuckerberg ต้องการ นั่นจึงทำให้เขาถูกชวนมาเป็นพาร์ตเนอร์คนแรก
พวกเขาตกลงว่าจะร่วมทุนกันคนละ 15,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 5 แสนบาทและแบ่งหน้าที่กัน โดย Zuckerberg โฟกัสการพัฒนาเซิร์ฟเวอร์ ส่วน Saverin รับผิดชอบด้านการเงินและธุรกิจ
จนในที่สุด TheFacebook.com ก็ได้เปิดตัวในช่วงต้นปี 2004 และได้รับความนิยมไปทั่วมหาวิทยาลัยทันที โดยมีผู้สมัครใช้งานกว่า 4 พันคนภายใน 2 สัปดาห์แรก
พวกเขาเลยชวนรูมเมตอีกคนที่ชื่อ Dustin Moskovitz มาร่วมทีม ซึ่งรับหน้าที่เป็นโปรแกรมเมอร์ และหลังจากนั้นไม่นานก็มีเพื่อนอีก 2 คนมาร่วมทีม
เดือนเมษายน หรือหลังเปิดตัวเว็บไซต์ไปได้ 2 เดือน TheFacebook ก็จดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัด
โดยมีผู้ถือหุ้นคือ Zuckerberg ถือหุ้น 65%, Saverin ถือหุ้น 30% และ Moskovitz ถือหุ้น 5%
มาถึงช่วงปิดเทอมหน้าร้อนในเดือนมิถุนายน Zuckerberg กับ Moskovitz เดินทางไปที่เมืองพาโล อัลโต รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นที่ตั้งของซิลิคอนแวลลีย์ เพื่อเช่าบ้านและโฟกัสกับการพัฒนา TheFacebook.com
ส่วน Saverin เลือกไปฝึกงานกับสถาบันการเงิน Lehman Brothers ที่นิวยอร์ก และ Zuckerberg ได้แบ่งความรับผิดชอบให้เขา 3 อย่าง คือ วางโครงสร้างบริษัท ทำโมเดลธุรกิจ และที่สำคัญคือหาเงินทุน
แต่การเลือกเส้นทางที่แตกต่างกันในครั้งนี้ กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของรอยร้าว
สิ่งที่ Saverin ให้ความสำคัญมากที่สุดในเวลานั้น คือการฝึกงาน
เขาจึงละเลยสิ่งที่ Zuckerberg ฝากให้เขาจัดการทั้ง 3 ข้อ
ทั้งที่ Zuckerberg และคนอื่นในทีม ทุ่มเทกับการต่อยอด TheFacebook.com ซึ่งในตอนนั้นมีจำนวนผู้ใช้งานเติบโตอย่างรวดเร็วแบบที่ไม่มีใครคาดคิด ดังนั้นสิ่งที่จำเป็นที่สุดก็คือการหาเงินทุน ซึ่งเป็นหน้าที่ของ Saverin มาตั้งแต่ต้น
แต่กลับกลายเป็นว่าคนที่รับหน้าที่ในการหานักลงทุนก็คือ Sean Parker ไอดอลแห่งวงการเทคโนโลยี ผู้ก่อตั้ง Napster แพลตฟอร์มแชร์และดาวน์โหลดเพลงออนไลน์ ที่เป็นต้นแบบของ iTunes
ก่อนหน้านี้ไม่นาน Parker ได้รู้จัก TheFacebook.com และรู้สึกสนใจ จึงติดต่อ Zuckerberg เพื่อมาร่วมทีมด้วย
ซึ่ง Parker สามารถโน้มน้าวให้ Peter Thiel ผู้ร่วมก่อตั้ง PayPal มาลงทุนใน TheFacebook.com ได้สำเร็จ เป็นเงิน 5 แสนดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 16.6 ล้านบาท
นอกจากนี้ Parker ซึ่งมีประสบการณ์ธุรกิจมาก่อน จึงกลายเป็นที่ปรึกษาคนสำคัญของ Zuckerberg และยังมีบทบาทสำคัญในการทำหน้าที่ทุกอย่างที่ Saverin ละเลย
มาถึงตรงนี้ Saverin ที่ให้ความสำคัญกับ TheFacebook.com น้อยกว่าคนอื่น ก็หมดความจำเป็น Zuckerberg เลยคิดจะตัดเขาออกจากทีม แต่ก็ติดปัญหาตรงที่เขาไม่รู้จะใช้วิธีไหน
เพราะ Saverin เป็นทั้งผู้ร่วมก่อตั้งและที่สำคัญคือเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท
Parker เลยแนะนำวิธีหนึ่งให้กับ Zuckerberg ซึ่งเป็นทริกที่ Thiel เคยใช้และเรียนรู้ต่อมาจากนักลงทุนระดับตำนานคนหนึ่ง
วิธีการนั้นก็คือ การลดสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทของ Saverin ลง ด้วยการตั้งบริษัทใหม่ เพื่อมาซื้อบริษัทเดิม หลังจากนั้นก็ออกหุ้นเพิ่ม และจัดสรรหุ้นของบริษัทใหม่ให้กับทุกคน ยกเว้น Saverin
Zuckerberg ได้ลองอธิบายแผนการนี้ผ่านทางอีเมลเพื่อขอคำปรึกษาจากนักกฎหมายของเขา ซึ่งนักกฎหมายก็เตือนว่าอาจจะเกิดการฟ้องร้องตามมาได้ แต่สุดท้ายแผนการนี้ก็ยังดำเนินต่อไป
ขั้นตอนแรกเริ่มขึ้นในปลายเดือนกรกฎาคม ทีม Zuckerberg จัดตั้งบริษัทใหม่และใช้บริษัทใหม่นี้ไปซื้อบริษัทเดิม ซึ่งสัดส่วนผู้ถือหุ้นของบริษัทใหม่ จะถูกจัดสรรโดยรวมผู้ลงทุนอย่าง Thiel เข้าไปด้วย ดังนี้
Zuckerberg ถือหุ้น 40%
Saverin ถือหุ้น 24%
Moskovitz ถือหุ้น 16%
และ Thiel ถือหุ้น 9%
ส่วนอีก 11% ที่เหลือ เก็บไว้เผื่อแจกเป็นอ็อปชันให้กับผู้ร่วมทีมในอนาคต
ขั้นตอนนี้ ทำให้สัดส่วนหุ้นของ Saverin ลดลงจากเดิม 30% มาเป็น 24%
หลังจากนั้น ทาง Zuckerberg ก็ได้ให้ Saverin เซ็นชื่อในข้อตกลงจัดสรรหุ้นของบริษัทใหม่นี้ในเดือนตุลาคม โดย Saverin ตกลงให้ทรัพย์สินทางปัญญาทุกอย่างของบริษัท รวมถึงสิทธิ์ในการออกเสียงในบริษัท ที่เคยเป็นส่วนของเขา โอนมาเป็นของ Zuckerberg แทน
และเมื่อปิดเทอมหน้าร้อนสิ้นสุด ความสำเร็จเกินคาดของ TheFacebook.com ก็ทำให้ Zuckerberg และ Moskovitz ตัดสินใจออกจากมหาวิทยาลัยและอยู่ที่แคลิฟอร์เนียต่อ ขณะที่ Saverin กลับมาเรียนต่อที่ฮาร์วาร์ดในปีสุดท้าย
ต่อมา ในต้นเดือนมกราคม ปี 2005 บริษัท Facebook ก็ได้ออกหุ้นสามัญเพิ่ม 9 ล้านหุ้น โดยถูกจัดสรรเป็นของ Zuckerberg 3.3 ล้านหุ้น Parker และ Moskovitz ได้ไปคนละ 2 ล้านหุ้น ส่วน Saverin ไม่ได้อะไรเลย
ขั้นตอนนี้ ทำให้สัดส่วนหุ้นของ Saverin ลดลงจาก 24% จนเหลือไม่ถึง 10%
Saverin ผู้ที่ไม่รู้อะไรเลยก็เพิ่งมารับรู้ถึงวิธีที่เขาโดนลดสัดส่วนการถือหุ้นหลังผ่านไปเกือบ 4 เดือน
ซึ่งในอีกไม่กี่สัปดาห์ต่อมา เขาก็ต้องออกจากบริษัทและถูกลบชื่อออกจากผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท
ความขัดแย้งนี้ก็นำไปสู่การฟ้องร้อง ตามที่นักกฎหมายของ Zuckerberg เคยเตือนไว้
Zuckerberg ยื่นฟ้อง Saverin โดยอ้างว่า Saverin ทำให้บริษัทเสียหาย จากการระงับบัญชีธนาคารของบริษัทเมื่อช่วงปิดเทอมหน้าร้อน รวมถึงอ้างว่าข้อตกลงเรื่องการจัดสรรหุ้นตอนจัดตั้งบริษัทใหม่ไม่มีผลบังคับใช้
Saverin ฟ้อง Zuckerberg กลับ โดยอ้างว่าในช่วงปิดเทอมหน้าร้อน Zuckerberg นำเงินทุนของบริษัทในตอนแรก ซึ่งเป็นส่วนที่เขาร่วมลงทุนด้วย ไปใช้กับเรื่องส่วนตัว และอีกข้อหาคือเรื่องที่เขาถูกบังคับให้ออกจากบริษัท
แต่สุดท้ายแล้ว ในปี 2009 ทั้งสองฝ่ายก็มาทำความตกลงกันนอกศาล ซึ่งจบที่การยอมความ
และชื่อของ Saverin ก็กลับมาอยู่ในผู้ร่วมก่อตั้งเหมือนเดิม
ตั้งแต่นั้นมา Saverin ก็ย้ายไปอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์
และได้เปลี่ยนสัญชาติจากอเมริกันเป็นสิงคโปร์ ในปี 2011
ซึ่งนอกจากจะแต่งงานและสร้างครอบครัวที่สิงคโปร์แล้ว ในปี 2015 Saverin ได้ร่วมก่อตั้งบริษัท Venture Capital ที่ชื่อ “B Capital” กับเพื่อนสมัยเรียนฮาร์วาร์ดที่ชื่อ Raj Ganguly ซึ่งเคยทำงานในบริษัทที่ปรึกษาธุรกิจระดับโลกอย่าง McKinsey & Company และ Boston Consulting Group
โดย B Capital จะเน้นให้เงินทุนกับสตาร์ตอัปในเอเชีย โดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดีย อย่างเช่นบริษัทจากอินเดียที่ชื่อ BYJU’S ซึ่งปัจจุบันเป็นสตาร์ตอัปด้านเทคโนโลยีการศึกษาที่มูลค่ามากสุดในโลก
แต่เรื่องการเปลี่ยนสัญชาตินี้ก็ได้ทำให้เขาถูกวิจารณ์ เพราะหลังจากนั้นไม่นาน Facebook ก็เตรียม IPO ในปี 2012 Saverin จึงถูกมองว่าเขาสละสัญชาติอเมริกันเพราะต้องการเลี่ยงภาษีกำไรจากเงินลงทุน
เพราะแม้ว่าการระดมทุนในตลาดหุ้นของ Facebook จะทำให้สัดส่วนการถือหุ้น Facebook ของเขาลดลงเหลือเพียง 2% ก็คิดเป็นมูลค่ากว่า 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งถ้าเขาขายทำกำไร เขาจะถูกคิดภาษีกำไรจากเงินลงทุนราว 2 หมื่นล้านบาท
แต่ Saverin ก็ยืนยันว่าเขาตั้งใจจะทำงานและใช้ชีวิตที่สิงคโปร์มาตั้งแต่แรกจริง ๆ
และจากตอน IPO ปี 2012 มาถึงวันนี้ ปี 2021 Saverin ก็ไม่ได้ขายหุ้น Facebook เพื่อทำกำไร ในทางกลับกันเขากลับซื้อเพิ่มอีกเล็กน้อยด้วยซ้ำ
ปี 2012 Saverin มีหุ้น Facebook 53.13 ล้านหุ้น
ปี 2021 Saverin มีหุ้น Facebook 53.46 ล้านหุ้น
ปัจจุบัน Saverin ในวัย 39 ปี ได้กลายเป็นชาวบราซิลที่รวยสุดในโลก และเป็นคนที่รวยสุดเป็นอันดับ 2 ในสิงคโปร์ ด้วยมูลค่าทรัพย์สินกว่า 6.5 แสนล้านบาท ซึ่งความมั่งคั่งเกือบทั้งหมดมาจากการที่เขายังถือหุ้น Facebook โดยที่ยังไม่ได้ขายออกไป
โดยถ้าคิดจากราคา IPO ของ Facebook ที่ 38 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น ปัจจุบันราคาหุ้น Facebook อยู่ที่ 355 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น
ซึ่งมูลค่าหุ้นที่ Severin ถืออยู่ตอน IPO ปี 2012 ที่กว่า 6 หมื่นล้านบาท ตอนนี้ได้เพิ่มขึ้นกลายเป็น 6.2 แสนล้านบาทแล้ว
ที่น่าสนใจคือ 6.2 แสนล้านบาทนี้มีจุดเริ่มต้นจากเงินลงทุนหลักแสน
และเขาใช้เวลาอยู่ในบริษัท Facebook เพียงปีเดียว โดยแทบไม่ต้องทำอะไรเลย
สิ่งที่เขาทำหลังจากนั้น เป็นเพียงการถือหุ้น Facebook ที่มีอยู่ไปเรื่อย ๆ เท่านั้นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.businessinsider.com/how-mark-zuckerberg-booted-his-co-founder-out-of-the-company-2012-5
-https://www.businessinsider.com/goodbye-america-billionaire-facebook-cofounder-renounces-citizenship-2012-5
-https://www.forbes.com/sites/alexkonrad/2019/03/19/life-after-facebook--the-untold-story-of-billionaire-eduardo-saverins-highly-networked-venture-firm/?sh=21f9b3462c8c
-https://www.forbes.com/sites/briansolomon/2012/05/18/eduardo-saverins-net-worth-publicly-revealed-more-than-2-billion-in-facebook-alone/?sh=47dee32a32ac
-https://www.rollingstone.com/culture/culture-news/the-battle-for-facebook-242989/
-https://www.dailymail.co.uk/news/article-2143764/Facebook-founder-Eduardo-Saverin-risk-kidnapping-moving-US.html
-https://www.forbes.com/profile/eduardo-saverin/?sh=dbbbb3b7bd56
-https://www.sec.gov/Archives/edgar/data/1326801/000132680121000022/facebook2021definitiveprox.htm
同時也有84部Youtube影片,追蹤數超過27萬的網紅Lindie Botes,也在其Youtube影片中提到,Here's what you can consider to help you decide whether you want to learn Korean or Japanese or if it's possible to learn both. I've been learning Kor...
after life 2009 在 Facebook 的最讚貼文
hi everyone! i wanna share with you a little bit more about myself today! my name is rayray and yes im from taipei, taiwan! you probably know me as an alien or a crazy person who likes to lie on the stage or drink vodka from the bottle. maybe this is something you don’t know - i started djing back in 2009, and I was a hip-hop dj. i was super into hip-hop culture and all the underground hip-hop music. i used to play vinyls and scratch. i competed quite a few dj competitions and finally i won the Red Bull 3Style taiwan championship in 2013. after that year, my whole world changed. i started to meet a lot of artists around the world & I got to explore more different music genres. i got myself into producing after I went to SXSW in 2015. and after that year, trap music became really big. i was so happy i found a music style I could explore and have fun with it. In 2016, i got selected in RBMA & that was another life turning point for me. i got to work with the super talented artists in the world in montreal. i also met Yellow Claw that year too. i’m so grateful that they gave me the opportunity to be part of Barong Family label. in the past few years, i tried to level up myself by learning how to sing & rap in my own music, and i have been devoting myself to the bass music scene in Asia. ive been releasing 3 EPs on barong family, and so many tracks on different labels. i’m really happy to be who I am & i always tell myself everything happens for a reason. many thanks to all the people who has been helping me & thank you for the opportunities and the support. it’s been a very hard time for all the artists since last year, but we are going through this all together. looking forward to see you all very soon, god speed!👽
#theloop
after life 2009 在 Facebook 的最佳解答
Posted @withregram • @photogstory 林嘉欣 遲來的寶麗來三部曲 Scroll down for English
「我喜歡將我的宇宙縮小在正方形的影像裏面。」擁有八部寶麗來SX-70相機的林嘉欣說。
她與寶麗來的邂逅,可追溯至二十年前,當時父親贈送她第一部SX-70相機,自此林嘉欣便用它來記錄心情及旅行的日常,每次出國總會帶上三部相機及十多盒菲林,至今已拍攝數千張寶麗來照片。2009年,當她出版第一本寶麗來相集《VOYAGES》時,已有三部曲的念頭,沒想到它的續集一直姍姍來遲,直至最近才如願以償。
回想當初,她並沒料到自己會在翌年結婚生女,加上後來底片停產,所以也曾放下相機,之後得知菲林重新生產後,便重拾起寶麗來,最近《VOYAGES II》及《VOYAGES III》一齊面世,也令這件事情變得圓滿。「第一本相集是關於我一個人的旅行,第二本是婚後育有大女兒的階段,第三本則是一家四口的畫面,會比較多小朋友的照片。這也是我人生歷程的一個見證。」
VOYAGES by @karenalamkayan
日期:即日至6月20日
時間:11am-7pm
地址:TASCHEN (中環荷李活道10號大館01-G02號舖)
完整文章:https://wp.me/p4xktX-1MA
"I like to shrink my universe into a square image," said actress Karena Lam, who owns eight Polaroid SX-70 cameras. Her encounter with Polaroid can be traced back to 20 years ago when her father presented her with the first SX-70. Since then, She has used it to record her travel and everyday life. So far, she has taken thousands of Polaroid images. In 2009, when Karena published the first Polaroid album "VOYAGES," she had the idea of a trilogy, but she didn't expect its sequel to be long overdue until recently.
Looking back, Karena did not expect that she would marry and have a daughter in the next year. In addition, the polaroid film was discontinued, so she stops taking photos for a while. When the film was re-produced later, she picked up Polaroid again. The recent release of Polaroid albums "VOYAGES II" and "VOYAGES III" also made her trilogy dream come true. "The first album is about my travels alone, the second is about the stage of having the eldest daughter after marriage, and the third is photos of the family of four, and it has more pictures of my daughters. These images are a witness of my life journey."
#photographer #photogStory #hkphotographer #hkigers #hkiger #karenalam #polaroid #onestep #sx70 #InstantCamera #Taschen #travel #顯影 #攝影 #攝影師 #影像 #即影即有 #寶麗來 #林嘉欣 #三部曲
after life 2009 在 Lindie Botes Youtube 的精選貼文
Here's what you can consider to help you decide whether you want to learn Korean or Japanese or if it's possible to learn both. I've been learning Korean since 2009 and Japanese since 2013. I hope this video helps you decide and inspires you to know that it's possible to learn both of these beautiful and exciting languages!
Still have questions? Here are some related videos I've made on the topic:
Learning Korean, Japanese and Chinese: https://www.youtube.com/watch?v=gQ-LpMTxGGY&t=337s
Learning Korean and Japanese at the same time: https://www.youtube.com/watch?v=0rJVZnwG9mE&t=239s
Choosing a language to learn: https://www.youtube.com/watch?v=ena5AvAEElQ
Korean language resources: → https://lindiebotes.com/korean-resources/
Japanese language resources → https://lindiebotes.com/japanese-resources/
Timestamps
0:00 Intro
0:36 Should you learn Korean or Japanese?
1:14 Questions to help you decide
2:16 Which language will you use in future?
3:30 Is it possible to learn both at the same time?
4:00 Language stacking
5:44 Comparing Korean and Japanese grammar
6:24 Comparing pronunciation
7:07 Korean vs Japanese writing
8:56 Summary and end
———
? SOCIALS
Insta → https://www.instagram.com/lindiebotes/
Website & resources → http://lindiebotes.com/
Twitter → https://twitter.com/lindiebee
FB → https://www.facebook.com/lindiebotesvideos/
Buy me a coffee → https://ko-fi.com/lindiebotes#
Book a session to chat → https://superpeer.com/lindiebotes
✨GOODIES
$10 free italki credits (after first lesson) → https://go.italki.com/LindieBotes
10% off Du Chinese (my favorite app!) enter LINDIE10 at checkout → https://www.duchinese.net/
All discounts → http://lindiebotes.com/discounts
Merch → http://society6.com/lindiebotes
?ABOUT
Welcome to my channel! My name is Lindie and I share my love for languages through my polyglot progress and language learning tips here. South African by birth, I spent most of my life in France, Pakistan, the UAE and Japan. Now I work as a UI/UX designer in Singapore. I'm a Christian and strive to shine God’s light in all I do. May this channel inspire you to reach your language goals!
New here? Best videos → https://www.youtube.com/playlist?list=PLRCVN94KILKXGx45JKaVBSpPkrpXhrhRe
FAQ → https://lindiebotes.com/faq/
?BOOKS I USE
Practical Chinese Grammar → https://geni.us/PracticalChineseGram
Japanese for Busy People on Amazon → https://geni.us/JapaneseForBusy1
Advanced Japanese for Busy People → https://geni.us/JapaneseForBusy3
Korean Grammar in Use Intermediate → https://geni.us/KoreanGrammarUse
Korean TOPIK exam prep → https://geni.us/TOPIK2prep
Short Stories in Spanish → https://geni.us/spanishshortstories
?EQUIPMENT
Camera → https://geni.us/CanonPowerShotG7
Mic → https://geni.us/RodeSmartLavMicr
Tripod → https://geni.us/ManfrottoTravel
———
Some links are affiliate links, and a percentage goes towards supporting my channel.
Collabs & partnerships: hello@lindiebotes.com
after life 2009 在 Shiney Youtube 的最佳解答
Call of Duty: Modern Warfare 2 is a 2009 first-person shooter game developed by Infinity Ward and published by Activision. It is the sixth installment in the Call of Duty series and the direct sequel to Call of Duty 4: Modern Warfare, continuing the storyline. It was released worldwide on November 10, 2009 for Microsoft Windows, the PlayStation 3, and Xbox 360. A separate version for the Nintendo DS, titled Modern Warfare: Mobilized, was also released on the same day. A version for macOS was developed by Aspyr and released in May 2014, and the Xbox 360 version was made backward compatible for the Xbox One in 2018.
The game's campaign follows the Task Force 141, a special forces unit fronted by Captain Soap MacTavish, as they hunt Vladimir Makarov, leader of the Russian Ultranationalist party, and the United States Army Rangers, who are defending the country from a Russian invasion. The game's main playable characters are Sergeant Gary "Roach" Sanderson, of the 141, and Private James Ramirez, of the Army Rangers, with Captain MacTavish becoming playable later in the campaign. An expansive multiplayer mode is featured in the game, with several new features and modes that were not seen in its predecessor.
Development for the game began in 2008, when it was still known as Call of Duty 6. It uses the IW 4.0 engine, an improved version of Call of Duty 4's IW 3.0. Infinity Ward was inspired by real-life conflicts when developing the campaign mode. They initially tested the multiplayer mode by playing an in-house beta version of the game. Modern Warfare 2 was officially announced in February 2009. Teasing of the game began in March, with short trailers being released for the game and, eventually, a full reveal trailer. The multiplayer mode was revealed shortly after. Two downloadable content packs were released for it post-release, each containing five new multiplayer maps, with some being remastered maps from Call of Duty 4.
Modern Warfare 2 received universal acclaim. Within 24 hours of release, the game sold approximately 4.7 million copies in North America and the United Kingdom. As of 2013, the game has sold 22.7 million copies. In addition to its release, a comic book series based on one of the game's characters was also produced, entitled Modern Warfare 2: Ghost. Despite the game's success, it was subject to some controversies, with one surrounding a playable level that had the player carry out a terror attack on an airport. A sequel, Call of Duty: Modern Warfare 3, was released in 2011 and finishes the original Modern Warfare storyline. A remaster of the game's campaign, Call of Duty: Modern Warfare 2 Campaign Remastered, was released in March 2020 on the PlayStation 4 and a version on Microsoft Windows and Xbox One is due a month later.
after life 2009 在 JinnyboyTV Youtube 的最讚貼文
2019 has been a year of many milestones, we revisit them in this rewind video. Thank you so much to everyone who has made this amazing year, a memorable one for us.
Contact Us:
contact@jinnyboytv.com
FOLLOW THE JTV TEAM
Jin Lim: http://www.instagram.com/jinnyboy
Michelle Ng: http://www.instagram.com/MichelleKoibito
Irwin Oon: http://www.instagram.com/irwinoon
Dixon Koay: http://www.instagram.com/dixonkfilms
Ryan Yee: https://www.instagram.com/ryanyee/
Zhao Quan: https://www.instagram.com/z.h.a.o.q.u.a.n/
Syafiq Azmi: https://www.instagram.com/syafiqdesign/
Davin Choo: https://www.instagram.com/davincq/
Track: Maryn - Shake You Off (feat. Shel Bee) [NCS Release]
Music provided by NoCopyrightSounds.
Watch: https://youtu.be/8Z_IFKjl2Pc
Free Download / Stream: http://ncs.io/ShakeYouOff
LIKE US ON FACEBOOK
http://www.facebook.com/Jinnyboytv
FOLLOW US ON INSTAGRAM
Official Instagram: http://www.instagram.com/jinnyboytv
WEBSITE
http://www.jinnyboytv.com