สรุปประเด็นจากกองทุนบัวหลวง
เปิดสูตรเฟ้นหา หุ้นอนาคตในอเมริกาเข้าพอร์ตระยะยาว
BBLAM x ลงทุนแมน
อังคารที่ 8 กันยายน ที่ผ่านมา ลงทุนแมนได้ชวนผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ คุณมทินา วัชรวราทร CFA®, Head of Investment Strategy กองทุนบัวหลวง
มาพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นการเฟ้นหาหุ้นอนาคตในอเมริกาเข้าพอร์ตระยะยาว
โดยเริ่มตั้งแต่อัปเดตสถานการณ์ล่าสุดในสหรัฐอเมริกา ที่เริ่มเปิดเผยตัวเลขทางเศรษฐกิจในช่วงเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ไปจนถึงผลประกอบการของบริษัทต่าง ๆ ในไตรมาสที่ 2
ตัวเลขเหล่านี้กำลังส่งสัญญาณอะไร ?
เราจะมีวิธีการปรับพอร์ตการลงทุนอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟัง..
มาเริ่มต้นกันที่ สรุปภาพรวมเศรษฐกิจมหภาคของสหรัฐอเมริกา เกิดอะไรบ้างในช่วงที่ผ่านมา ?
ที่ผ่านมาสหรัฐอเมริกา มีการทำ QE หรือ การซื้อสินทรัพย์ เช่น พันธบัตรรัฐบาลและหุ้นกู้ เพื่อให้ระบบมีเงินหมุนเวียนมากขึ้น ทำให้ภาพรวมตลาดหุ้นสามารถดำเนินต่อไปได้
โดยประเด็นหลักที่ตลาดยังคงจับตามองในปีนี้คือ การลดขนาดการเข้าซื้อสินทรัพย์ หรือที่เรียกว่า QE Tapering ซึ่งประธาน FED ออกมาพูดว่า การทำ Tapering จะเริ่มขึ้นในปีนี้ และเป็นการตัดสินใจแยกกันกับ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
หมายความว่า หากเริ่มทำ Tapering ดอกเบี้ยก็ไม่จำเป็นจะต้องปรับขึ้นในทันที
นอกจากนี้ สหรัฐอเมริกาจะยังใช้นโยบายการเงินที่ค่อนข้างผ่อนคลายต่อไป ทำให้ตลาดสหรัฐอเมริกา กลับมาเป็นขาขึ้น และเงินก็จะวิ่งเข้าหาสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง
ซึ่งทางกองทุนบัวหลวงคาดว่า FED จะค่อย ๆ ลดการทำ QE ลงโดยจะใช้เวลาประมาณ 8 เดือน และ FED มีแนวโน้มจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในปี 2024 แต่ก็ยังเป็นอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ
ดังนั้น นโยบายโดยรวม จึงยังเอื้ออำนวยให้การลงทุนในตลาดหุ้นยังให้ผลตอบแทนได้ดีกว่าสินทรัพย์อื่น ๆ ไปอีกสักระยะ
แต่ก็ยังมีปัจจัยหลายอย่างที่อาจทำให้ FED ชะลอการทำ QE Tapering ได้ เช่น ตัวเลขการจ้างงาน ที่ต่ำกว่าตลาดคาดการณ์ไปมาก
อีกหนึ่งประเด็นที่ต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง คือ เงินเฟ้อ ที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 5.4%
ถึงแม้ว่า ราคา สินค้าโภคภัณฑ์บางตัว ลดลงมาแล้ว เช่น ราคาไม้ ทองแดง แต่ราคาบ้านและค่าเช่าบ้านในสหรัฐอเมริกาที่ยังไม่ลดลงมา ก็อาจทำให้เงินเฟ้อยังคงสูงได้
แล้วโหมดการลงทุนช่วงนี้ต้องปรับ หรือจับสัญญาณต่ออย่างไรดี ?
กองทุนบัวหลวงก็เชื่อว่าในระยะสั้น เงินจะยังไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงอย่างต่อเนื่อง และเงินยังอยู่ในหุ้นสหรัฐอเมริกา
โดยในเดือนที่ผ่านมา ผู้จัดการกองทุนหลายรายในสหรัฐอเมริกาเข้าลงทุนกลุ่ม Healthcare มากที่สุด
จากความต้องการหาการลงทุนในเชิงคุณภาพ และหุ้นใหญ่ที่ปลอดภัย และที่ผ่านมากลุ่ม Healthcare ยังถือเป็นกลุ่มที่ Laggard หรือเติบโตได้ช้า เมื่อเทียบกับกลุ่มอื่น
แต่ถ้าหากดูกลุ่มที่ผู้จัดการกองทุนมีการถือครองมากที่สุด ก็ยังคงเป็นกลุ่มเทคโนโลยี
ถ้าเทียบระหว่างเทคโนโลยีที่เป็น Hypergrowth อย่างเช่น หุ้น Tesla, Roku, Shopify กับ ดัชนี Nasdaq ที่ เป็นหุ้นเทคโนโลยีใหญ่ ๆ เช่น Microsoft, Facebook, Amazon ก็จะเห็นว่าในภาพรวม เงินไหลออกจากกลุ่ม Hypergrowth มาเข้าฝั่ง Nasdaq
ซึ่งปริมาณเงินส่วนที่ไหลเข้ามาในตลาด Nasdaq ยังอยู่ที่ประมาณค่าเฉลี่ย ซึ่งหมายความว่า ไม่น่าเกิดฟองสบู่หุ้นเทคโนโลยี อย่างที่หลายคนกังวล
โดย Nasdaq ให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีเพิ่มมา 18% ประกอบกับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ยังมีผลกำไรที่ยังเติบโตต่อเนื่อง
กองทุนบัวหลวงมองว่า หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีน่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีได้ต่อไป แต่อาจต้องใช้วิธี Active Management หรือการบริหารพอร์ตเชิงรุก เพื่อหาบริษัทที่มูลค่ายังไม่สูงเกินไป
นอกจากนั้น กองทุนบัวหลวงยังมองว่าในสามเดือนสุดท้ายของปีนี้ เงินจะยังอยู่ในฝั่งตลาดพัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น เนื่องจากมีความสามารถในการบริหารจัดการโควิด 19 ได้ดี และมีอัตราการฉีดวัคซีนสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เศรษฐกิจกลับคืนสู่ภาวะปกติได้เร็ว
สำหรับรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนสหรัฐอเมริกา ในไตรมาสที่ผ่านมา ถือว่าเติบโตได้ดีมาก
ผลกำไรภาพรวมของตลาด ออกมาสูงกว่าตลาดคาดการณ์ไว้
อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีความเสี่ยงและความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ จากห่วงโซ่การผลิตที่มีปัญหาและค่าจ้างที่สูงขึ้น ซึ่งกองทุนบัวหลวงมองว่า เป็นเพียงระยะสั้น และจะคลี่คลายในระยะปานกลางจนกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
คำถามต่อมาคือ S&P 500 จะสามารถไปได้ต่ออีกหรือไม่ และแพงไปแล้วหรือยัง ?
ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้นมา ตามกำไรของบริษัทที่ปรับตัวดีขึ้นมาต่อเนื่อง และนักวิเคราะห์มีการปรับประมาณการเป้าหมาย S&P 500 เป็น 4,600 (ตอนนี้อยู่ที่ราว ๆ 4,500) หมายความว่า ดัชนี S&P 500 จะยังคงไปต่อได้
อีกทั้งสหรัฐอเมริกายังเป็นตลาดการเงินที่สภาพคล่องสูงที่สุดในโลก รวมไปถึงมีบริษัทที่มีคุณภาพดีมากที่สุดในโลก ทำให้ P/E ที่ 20 เท่า ก็ยังสามารถลงทุนได้
แล้วควรลงทุนเมื่อไร ดอกเบี้ยขึ้น จับจังหวะอย่างไร ?
ถ้าเราลองย้อนไปดูสถิติ 12 เดือนก่อนที่จะมีการขึ้นดอกเบี้ย จะเห็นว่าตลาดสามารถปรับตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถปรับตัวขึ้นได้อีกหลังจากที่อัตราดอกเบี้ยปรับตัวขึ้นครั้งแรก
โดยกองทุนบัวหลวง แนะนำหนึ่งเทคนิคที่น่าสนใจ คือให้เข้าสะสมแบบมีวินัย ลงทุนแบบสม่ำเสมอ หรือ DCA เนื่องจากการจับจังหวะตลาดสหรัฐอเมริกา หรือไม่ว่าตลาดไหน ๆ เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก
ทีนี้หลายคนคงกังวลว่า เงินทุนเริ่มไหลออกจากกลุ่ม Hypergrowth แล้วเงินส่วนนี้ย้ายไปอยู่ที่ไหน ?
จากที่ได้กล่าวมาข้างต้น คือปัจจุบัน เงินทุนไหลออกจากหุ้นในกลุ่ม Hypergrowth แต่ปรากฏว่าดัชนี Nasdaq นั้นยังคงปรับตัวสูงขึ้น ที่เป็นแบบนี้เพราะเงินกำลังไหลไปยังบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ ๆ นั่นเอง
หลายคนอาจมองว่า บริษัทเหล่านี้น่าจะได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด 19 แต่กลับกลายเป็นว่า จากวิกฤตินี้ทำให้คนหันมาพึ่งเทคโนโลยีกันมากขึ้น
โดยสังเกตได้จากรายได้ของบริษัทเทครายใหญ่ ที่ยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเรื่องของแผนในอนาคตที่น่าจับตามอง ทำให้นักลงทุนยังคงให้ความสนใจ
ยกตัวอย่างเช่น บริษัท Facebook และ Microsoft
Facebook เป็นบริษัทเจ้าของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Instagram, WhatsApp ที่มีรายได้หลักมาจากค่าโฆษณาออนไลน์
โดยจุดเด่นของ Facebook คือ ความสามารถในการยิงโฆษณาที่ตรงกลุ่มเป้าหมายมากกว่าคู่แข่งรายอื่น ๆ พร้อมทั้งยังมีโอกาสเติบโตไปกับอุตสาหกรรมสื่อออนไลน์อีกมาก เนื่องจากโควิด 19 ก็เป็นตัวเร่งที่ทำให้คนหันมาพึ่งเทคโนโลยีกันมากขึ้น
สำหรับแผนในอนาคตของ Facebook นั้นยังคงเป็นเรื่องของแผนการปรับตัวให้บริษัทเป็น บริษัท “Metaverse” หรือโลกแห่งการผสมผสาน ระหว่างโลกจริงและโลกเสมือน อย่างเต็มตัว
โดย มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก CEO ของ Facebook มองว่า โลกของ Metaverse จะกลายเป็นอนาคตของโลกอินเทอร์เน็ต โดยล่าสุดก็ได้มีการเปิดตัว Horizon Workrooms ที่ให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าไปประชุมได้แบบเสมือนจริง ผ่านตัวละคร Avatar
มาต่อกันที่บริษัทซอฟต์แวร์ที่เราคุ้นเคยกัน อย่าง “Microsoft” ซึ่งในปีที่ผ่านมายังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุน โดยมูลค่าบริษัทยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ก็เนื่องมาจาก ผลประกอบการในไตรมาสที่ผ่านมา ที่ยังคงเติบโต 17% จากบริการ Intelligence Cloud ที่เติบโตได้ดี
แต่ที่น่าสนใจคือเรื่องของแผนในอนาคต อย่างการทำโลกเสมือน หรือที่ทาง Microsoft เรียกว่า Digital Twin ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับการทำ Metaverse ของ Facebook แต่จะเป็นการก๊อบปี้ของจริงมาไว้บนโลกออนไลน์แทน เช่น จำลองสถานที่ จำลองตึก เพื่อนำมาใช้ทดสอบการบินของโดรนก่อนเอาออกไปใช้งานจริง
ทั้งนี้ในส่วนของ Theme โลกเสมือนนั้น อาจมีความเสี่ยง เรื่องที่จะต้องใช้เวลาอีกไม่น้อย กว่าที่เราจะได้สัมผัสแบบเต็ม ๆ
แต่นี่เป็นเหมือนการส่งสัญญาณว่าบริษัทเทคโนโลยีหลายรายกำลังตื่นตัวกับการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ และมีการเตรียมพร้อม มองหาช่องทางการเติบโตใหม่ ๆ หรือที่เรียกว่า New S-Curve อยู่ตลอดเวลา
มาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะเริ่มสงสัยแล้วว่า แล้วกระแสเงินลงทุนที่ดูมีการเปลี่ยนทิศเปลี่ยนทางเช่นนี้ จะมีผลกระทบกับกองทุน B-USALPHA และ B-FUTURE แค่ไหน ?
สำหรับกองทุน B-USALPHA นั้น หลายคนอาจจะคิดว่ากองนี้มีแต่ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอย่างเดียว
แต่ถ้ามาดูสัดส่วนของหุ้นในพอร์ตการลงทุนนั้นจะพบว่า กองทุนพยายามให้ความสมดุลระหว่างหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี กับกลุ่มวัฏจักรในสหรัฐอเมริกา โดยกองทุนนี้มีแบ่งส่วนการลงทุนด้วยกันหลัก ๆ 3 อย่าง คือ
1. กลุ่ม Digital Advertising เช่น Facebook, Pinterest, Snap
2. กลุ่ม สถาบันการเงิน เช่น Morgan Stanley, PayPal, Square
3. กลุ่ม Technology Enabled หรือก็คือ ธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีสร้างนวัตกรรม เช่น Deere & Company, Freeport-McMoRan, Zillow Group
ทั้งกลุ่ม Digital Advertising และ Technology Enabled นั้นยังมีโอกาสเติบโตไปพร้อมกับการเปิดเมือง
ส่วนการลงทุนในกลุ่มสถาบันการเงิน จะช่วยสร้างสมดุล และลดความเสี่ยงของพอร์ตในเรื่องของอัตราเงินเฟ้อที่อาจปรับตัวสูงขึ้น ที่ทำให้กลุ่มของธุรกิจสถาบันการเงินนั้นได้รับประโยชน์ไปด้วย จากอัตราดอกเบี้ยที่จะปรับสูงขึ้น
ส่วนกองทุน B-FUTURE นั้น มีการกระจายลงทุนในธุรกิจ 3 กลุ่มคือ เทคโนโลยี Hypergrowth, อุตสาหกรรม และกลุ่มธุรกิจ Theme เปิดเมือง
โดยในส่วนของกลุ่ม Hypergrowth นั้น ทางผู้จัดการของกองทุน ก็ได้เน้นอย่างมาก กับการลงทุนในหุ้นที่ยังมี Valuation ไม่สูงจนเกินไป
นอกจากนี้ ทางกองทุนยังเน้นการลงทุนใน Theme อนาคต ไม่ได้เจาะจงในประเทศใดประเทศหนึ่ง โดยมีผู้จัดการกองทุนที่คอยปรับพอร์ตตามสถานการณ์การลงทุนต่าง ๆ
ด้วยนโยบายการบริหารแบบ Active Management ทำให้ B-FUTURE สามารถปรับเปลี่ยนพอร์ตให้เข้ากับสถานการณ์เศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไปได้ตลอดเวลา
เช่น หากมองว่าในระยะยาว หุ้นกลุ่มเอเชียหรือจีน ยังมีโอกาสเติบโตมาก ความกดดันของรัฐบาลจีนคลี่คลายลง แล้วยังมี Valuation ที่ไม่สูงเกินไป ทางกองทุนก็สามารถปรับน้ำหนักพอร์ตมาลงในหุ้นเอเชียหรือจีนเพิ่มขึ้นได้
ทำให้เห็นว่า B-FUTURE นั้นเป็นกองทุนที่สามารถทยอยสะสมเข้าได้เรื่อย ๆ และเหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลามาก แต่อยากลงทุนในหุ้นแห่งอนาคต
สำหรับใครที่กำลังมองหาโอกาสในการลงทุน จากหุ้นในสหรัฐอเมริกา หรือหุ้นใน Theme อนาคต
ทั้งกองทุน B-USALPHA และ B-FUTURE ก็ยังเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ ที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถสร้างผลตอบแทน ได้โดยมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล พร้อมคอยปรับพอร์ตการลงทุนให้ในระยะยาว ซึ่งการใช้กลยุทธ์ DCA ทยอยลงทุนทุกเดือนก็เป็นวิธีการที่น่าสนใจ
คำเตือน
การลงทุนมิใช่การฝากเงินและมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับเงินลงทุนคืนเต็มจำนวนเมื่อไถ่ถอน (ไม่คุ้มครองเงินต้น) / ผู้ลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน / กองทุนที่มีการลงทุนในต่างประเทศมิได้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด ทั้งนี้อยู่ในดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ดังนั้นผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในกองทุนดังกล่าว หรืออาจได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
同時也有3部Youtube影片,追蹤數超過67萬的網紅きぬちゃんねる,也在其Youtube影片中提到,提供:NEOGEN 紹介した商品はこちら!今なら楽天でも特別セール中!! Qoo10 NEOGEN公式サイト :https://www.qoo10.jp/gmkt.inc/Special/Special.aspx?sid=207214 Qoo10 SUR.MEDIC HEALTHCARE 公...
「amazon healthcare」的推薦目錄:
- 關於amazon healthcare 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
- 關於amazon healthcare 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
- 關於amazon healthcare 在 iThome Facebook 的精選貼文
- 關於amazon healthcare 在 きぬちゃんねる Youtube 的最佳貼文
- 關於amazon healthcare 在 KIM THAI Youtube 的最佳解答
- 關於amazon healthcare 在 SuzukaChannel Youtube 的最讚貼文
- 關於amazon healthcare 在 What Is Amazon Doing in Healthcare? - YouTube 的評價
amazon healthcare 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
รู้จัก "ไรเดอร์ในยุคถัดไป" Nuro รถดิลิเวอรีไร้คนขับ /โดย ลงทุนแมน
ภาพที่ทุกคนเห็นว่ามีไรเดอร์คอยส่งอาหารดิลิเวอรีให้เรา
ภาพนี้อาจจะอยู่ได้แค่ในยุคนี้ก็เป็นได้
เพราะในอนาคตการดิลิเวอรีเหล่านี้ อาจทำได้โดยรถที่ไร้คนขับ
“Nuro” สตาร์ตอัปจากสหรัฐอเมริกา คือผู้พัฒนายานพาหนะไร้คนขับเพื่อรับส่งสินค้าแบบ “ดิลิเวอรี” โดยเฉพาะ
รถดิลิเวอรีไร้คนขับของ Nuro น่าสนใจอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
การดิลิเวอรี เป็นเมกะเทรนด์ของโลก
รถไร้คนขับ ก็เป็นเมกะเทรนด์ของโลก
ดังนั้นเมื่อนำ การดิลิเวอรี + รถไร้คนขับ มารวมกันก็น่าจะเป็นซูเปอร์เมกะเทรนด์ที่กำลังมีพัฒนาการอย่างรวดเร็ว
โดยยานยนต์ไร้คนขับในเชิงพาณิชย์ส่วนใหญ่ในปัจจุบัน จะถูกพัฒนาเพื่อการใช้งานใน 2 รูปแบบหลัก คือเพื่อรับส่งคนและขนส่งสินค้า
ซึ่งบริษัทที่เน้นพัฒนารถสำหรับรับส่งคน ก็มีผู้นำอยู่มากมาย อย่างเช่น Waymo ของ Alphabet, Zoox ของ Amazon และ AutoX จากประเทศจีน รวมไปถึงผู้ให้บริการแอปพลิเคชันเรียกรถรับส่งอยู่แล้วอย่าง Uber
ส่วนบริษัทที่เน้นพัฒนารถสำหรับขนส่งสินค้า ก็มีผู้นำอย่างเช่น TuSimple, Aurora และ Embark ซึ่งล้วนเป็นรถบรรทุกไร้คนขับที่ใช้สำหรับส่งสินค้าจำนวนมากเป็นระยะทางไกล จากจุดเก็บสินค้าหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง
นั่นจึงทำให้สตาร์ตอัปที่ชื่อว่า “Nuro” เลือกสร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์ของตัวเอง ด้วยการเน้นพัฒนารถไร้คนขับ เพื่อส่งสินค้าจากร้านค้าไปถึงมือผู้รับ อย่างเช่น ของสดจากซูเปอร์มาร์เกต อาหาร และพัสดุ ในรูปแบบบริการดิลิเวอรี
Nuro เพิ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2016 หรือ 5 ปีที่แล้ว ที่เมืองเมาน์เทนวิว รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยคุณ Dave Ferguson และคุณ Jiajun Zhu
ซึ่งผู้ร่วมก่อตั้งทั้งคู่ เคยเป็นหัวหน้าทีมวิศวกรในโปรเจกต์พัฒนายานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติของ Google ที่ภายหลังจดทะเบียนแยกเป็นบริษัทโดยใช้ชื่อว่า Waymo
ในปี 2017 Nuro ได้รับใบอนุญาตเพื่อทดสอบรถส่งของไร้คนขับในสนามทดลอง โดยในช่วงแรก Nuro เริ่มต้นพัฒนาระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ เพื่อใช้กับรถยนต์พริอุสของโตโยต้า
หลังจากนั้น Nuro ค่อยเปิดตัวยานยนต์ไร้คนขับที่ออกแบบเองรุ่นแรก ที่ชื่อ R1 ในปี 2018 และพัฒนาต่อยอดเป็นรุ่นที่ 2 ที่ชื่อว่า R2 ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นปี 2020
ที่น่าสนใจก็คือ ดีไซน์ยานยนต์ของ Nuro ที่ถูกออกแบบมาใหม่เพื่อการส่งสินค้าโดยเฉพาะ จึงไม่มีที่นั่งสำหรับคนขับ มีเพียงพื้นที่สำหรับบรรจุสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิได้
โดยตัวรถเป็นรูปทรงคล้ายกับเครื่องปิ้งขนมปังที่มีล้อขนาดเล็ก 4 ล้อ และขนาดกะทัดรัดกว่ารถยนต์ทั่วไป
ในเรื่องความปลอดภัย Nuro ได้ติดตั้งระบบความปลอดภัยจำนวนมาก ตามมาตรฐานของยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ เพื่อลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุ อย่างเช่น กล้อง 360 องศา, กล้องตรวจจับความร้อน, LiDAR และ Radar เพื่อตรวจจับสิ่งกีดขวาง
นอกจากนี้ Nuro ยังถูกกำหนดให้ทำความเร็วสูงสุดได้ไม่เกิน 56 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสามารถให้บริการได้เฉพาะในช่วงที่สภาพอากาศปกติ เท่านั้น
โดย Nuro เริ่มทดสอบระบบและให้บริการในรัฐแอริโซนาและเท็กซัสก่อน ซึ่งเป็นเมืองแห่งการทดสอบยานยนต์ไร้คนขับอยู่แล้ว และ Nuro เลือกให้บริการในย่านที่อยู่อาศัยและแถบชานเมืองที่รถวิ่งไม่พลุกพล่าน
สำหรับเส้นทางการให้บริการดิลิเวอรีของ Nuro เริ่มขึ้นในปี 2018 โดยมี Kroger เชนซูเปอร์มาร์เกตขนาดใหญ่ มาร่วมมือพัฒนาระบบดิลิเวอรี เพื่อส่งสินค้าโดยเฉพาะของสดภายในวันที่สั่งเลย
ในปีนั้น Kroger เริ่มให้บริการดิลิเวอรีด้วยรถของ Nuro ที่เมืองสกอตส์เดล รัฐแอริโซนา ก่อนขยายไปที่เมืองฮิวสตัน รัฐเท็กซัส ในช่วงต้นปี 2019
ซึ่ง Kroger ให้บริการโดยไม่กำหนดยอดซื้อขั้นต่ำและคิดค่าบริการแบบคงที่ที่ 5.95 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 197 บาท
หลังจากนั้น Walmart ซึ่งเป็นเชนร้านค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุด ก็ได้เข้ามาร่วมมือกับ Nuro เพื่อให้บริการส่งสินค้าที่เมืองฮิวสตันเช่นกัน
ต่อมา Nuro ก็ได้ขยายตลาดไปสู่สินค้าประเภทอาหารพร้อมทานร่วมกับ Domino’s Pizza ในปี 2019
ก่อนที่จะเริ่มให้บริการส่งพิซซาแบบไร้คนขับได้จริง ที่เมืองฮิวสตัน เมื่อเดือนเมษายน ปี 2021 ที่ผ่านมา
ความร่วมมือกับ Domino’s Pizza นี้ก็นับว่าน่าสนใจและเป็นโอกาสขยายการให้บริการที่สำคัญ
ที่บอกแบบนี้ก็เพราะว่าในปี 2020 ที่ผ่านมา ชาวอเมริกันบริโภคพิซซาแบบดิลิเวอรีคิดเป็นมูลค่ากว่า 4.64 แสนล้านบาท ซึ่งเกือบครึ่งหนึ่งมาจากแบรนด์เดียว นั่นคือ Domino’s Pizza
รวมถึงในปี 2020 ที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด 19 Nuro ก็ได้ขยายการให้บริการไปสู่กลุ่ม Healthcare โดยร่วมมือกับ CVS เชนร้านขายยาขนาดใหญ่ เพื่อบริการขนส่งถึงบ้าน สำหรับยาที่มีใบสั่งยาจากแพทย์หรือเภสัชกร ในเมืองฮิวสตัน เช่นเดิม
นอกจากนี้ Nuro ยังใช้ประโยชน์ของรถดิลิเวอรีไร้คนขับเพื่อเข้าไปช่วยส่งอุปกรณ์การแพทย์ ยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์อื่นที่สำคัญ ให้กับสเตเดียม 2 แห่งในรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นศูนย์รักษาผู้ติดเชื้อโควิด 19
และล่าสุดในปี 2021 Nuro ก็ขยายมาสู่บริการขนส่งพัสดุ โดยร่วมมือกับ FedEx
การใช้บริการระบบดิลิเวอรีด้วยรถ Nuro ทำได้เหมือนการสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของแต่ละเจ้า เช่น Kroger และ Domino’s Pizza เพียงแค่เลือกวิธีการขนส่งเป็นของ Nuro ซึ่งสามารถเลือกเวลารับสินค้าได้เองด้วย
เมื่อสั่งซื้อสินค้าไปแล้ว ก็จะมีแผนที่ให้ดูได้ว่ารถส่งของอยู่ตรงไหนและจะมีรหัสส่งมาให้
เพื่อใช้ปลดล็อกเพื่อหยิบของเมื่อรถส่งของมาถึง โดยใส่รหัสผ่านหน้าจอแบบสัมผัส
แม้ว่าในปัจจุบัน ลูกค้าที่สั่งสินค้าและใช้บริการดิลิเวอรีของ Nuro ยังต้องเสียค่าบริการอยู่ แต่ผู้บริหารมีเป้าหมายที่จะไม่คิดค่าบริการในอนาคต โดยจะเก็บค่าบริการจากร้านค้าที่เลือกใช้บริการของ Nuro เท่านั้น
ซึ่งก็สอดคล้องกับข้อมูลที่ว่าชาวอเมริกันกว่า 90% ชื่นชอบบริการรถดิลิเวอรีไร้คนขับ แต่ยังมีอุปสรรคที่สำคัญคือค่าบริการ
สิ่งที่น่าติดตามก็คือว่า บางบริษัทที่เป็นพาร์ตเนอร์กับ Nuro ก็ยังร่วมพัฒนาระบบดิลิเวอรีไร้คนขับกับเจ้าอื่นด้วย อย่างเช่น Domino’s Pizza ที่เคยเป็นพาร์ตเนอร์กับ Ford มาก่อน และ Walmart ก็เลือกเป็นพาร์ตเนอร์กับสตาร์ตอัปอีกหลายเจ้า
แต่เมื่อเทียบกับพาร์ตเนอร์เหล่านั้น ยังคงมีเพียง Nuro ที่เป็นรถที่ออกแบบมาเพื่อบรรจุสินค้าโดยเฉพาะ
นอกจากผู้พัฒนารถไร้คนขับเพื่อส่งของเหมือนกันแล้ว คู่แข่งของ Nuro ก็ยังมีบริการส่งของไร้คนขับในรูปแบบอื่น อย่างเช่น หุ่นยนต์ส่งของมีล้อที่ชื่อ Scout ของ Amazon ที่มีขนาดเล็กกว่ารถของ Nuro และไม่ได้วิ่งบนถนน แต่วิ่งได้เฉพาะบนทางเท้า
ยังรวมไปถึงการขนส่งสินค้าด้วยโดรน ที่แม้จะเหมาะสำหรับใช้ขนส่งสินค้าบางประเภทที่แตกต่างกัน แต่ก็ถือเป็นพัฒนาการที่น่าจับตามอง
ซึ่งความเสี่ยงเหล่านี้ ก็ถือเป็นเรื่องปกติของการแข่งขันทางธุรกิจ แต่ที่สำคัญก็คือช่วงเวลาที่ผ่านมา Nuro ได้พิสูจน์มาในระดับหนึ่งว่าเป็นผู้นำของรถดิลิเวอรีไร้คนขับ
โดยรถรุ่น R2 ที่เปิดตัวช่วงต้นปี 2020 เป็นยานยนต์ไร้คนขับรุ่นแรก ที่ไม่มีพวงมาลัย คันเร่ง เบรก กระจกมองข้าง กระจกมองหลัง และส่วนประกอบอื่นตามมาตรฐานรถยนต์แบบดั้งเดิม ที่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย จากหน่วยงานภาครัฐ
หลังจากนั้นไม่นาน Nuro ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานด้านการขนส่งของรัฐแคลิฟอร์เนีย ให้เริ่มทดสอบวิ่งส่งของได้จริง เป็นบริษัทที่ 2 ต่อจาก Waymo
และปลายปี 2020 Nuro ก็แซง Waymo ได้ด้วยการได้รับอนุญาตให้บริการรถส่งของไร้คนขับ “เชิงพาณิชย์” เป็นบริษัทแรกในแคลิฟอร์เนีย นั่นคือสามารถเริ่มเก็บค่าบริการขนส่งได้
ซึ่งที่ผ่านมา Nuro ก็สามารถระดมทุนไปได้ราว 49,725 ล้านบาท จากกองทุนชั้นนำอย่าง Baillie Gifford และ Fidelity Management and Research รวมไปถึง Softbank Vision Fund ซึ่งเป็นผู้ลงทุนหลักกว่า 60% ของเงินทุนทั้งหมดที่ Nuro ได้รับ จนปัจจุบัน Nuro ถูกประเมินมูลค่ากว่า 165,750 ล้านบาท
จากเรื่องราวการสร้างความแตกต่างให้ยานยนต์ไร้คนขับของ Nuro ก็ทำให้เราสรุปได้ว่านวัตกรรมรถไร้คนขับกำลังจะเข้ามามีบทบาทต่อชีวิตเรามากขึ้นในอนาคต และก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งในเมกะเทรนด์ ที่น่าจับตามอง
และเมื่อถึงเวลานั้นจริง ไรเดอร์ที่เป็นมนุษย์ซึ่งมีบทบาทต่อวงการดิลิเวอรีในปัจจุบัน ก็อาจเจอความท้าทาย อย่างยิ่ง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.businessinsider.com/self-driving-delivery-vehicle-startup-nuro-how-it-works-2020-11
-https://techcrunch.com/2020/12/23/nuro-can-now-operate-and-charge-for-autonomous-delivery-services-in-california/
-https://techcrunch.com/2020/11/09/autonomous-delivery-startup-nuro-hits-5-billion-valuation-on-fresh-funding-of-500-million/
-https://www.theverge.com/2018/8/16/17693760/nuro-kroger-self-driving-delivery-scottsdale-arizona
-https://www.theverge.com/2018/1/30/16936548/nuro-self-driving-delivery-last-mile-google
-https://www.theverge.com/2020/4/22/21231466/nuro-delivery-robot-health-care-workers-food-supplies-california
-https://www.wired.com/story/vehicle-no-side-view-mirrors-legal/
-https://www.crunchbase.com/organization/nuro-2
amazon healthcare 在 iThome Facebook 的精選貼文
#Cloud周報第111期
AWS日前宣布為雲端DNS網路服務Amazon Route 53,新增應用程式復原控制器,具有整備度檢查和路由控制兩項功能,可持續地監控應用程式從故障中恢復的能力。
更多新聞
▶Akamai更新Edge DNS服務出包,導致亞馬遜、Airbnb等多個知名網站停擺,歷時一小時
▶Google雲端發布醫療業專用資料引擎Healthcare Data Engine,供協調不同格式的醫療資料
▶微軟正式推出Azure防火牆進階版,提供TLS檢驗、URL過濾等功能,鎖定支援高度敏感且受監管的環境
amazon healthcare 在 きぬちゃんねる Youtube 的最佳貼文
提供:NEOGEN
紹介した商品はこちら!今なら楽天でも特別セール中!!
Qoo10 NEOGEN公式サイト :https://www.qoo10.jp/gmkt.inc/Special/Special.aspx?sid=207214
Qoo10 SUR.MEDIC HEALTHCARE 公式サイト:https://www.qoo10.jp/shop/surmedic
楽天公式サイト:https://item.rakuten.co.jp/neogen/c/0000000138/
今日はめちゃめちゃいい天気だったね〜〜〜この天気がずっと続いて欲しいな〜〜〜
わたし夏になると毎日天気の話してるな〜〜
ヨーグルトが欲しい時のこむぎくらいしつこいな〜〜
__________________________________________________
本日もご視聴いただきありがとうございます!
チャンネル登録お願いします!
!初のスタイルブック 『Silky』
Amazonページ
https://www.amazon.co.jp/dp/4299008022
!サブチャンネル
https://www.youtube.com/channel/UCc9OAcTfTdA57v91THXf8MA
!Twitter
https://twitter.com/2_5_2555
!Instagram
https://instagram.com/2_5_2555/
!HP
https://garou-creators.com/kinu/
!M.o.s
https://mosshop.jp/
https://www.instagram.com/mos__official_/
!動画中のイラスト製作者様
hazi˙ᴥ˙ 様
Twitter @zurazzz
https://twitter.com/zurazzz
!使用BGM
OtoLogic 様
https://otologic.jp
#購入品 #Qoo10
![post-title](https://i.ytimg.com/vi/lplNEFvRN8k/hqdefault.jpg)
amazon healthcare 在 KIM THAI Youtube 的最佳解答
Dog Supplement Recommendation: Search "Zesty Paws" on Amazon - I trust and love this brand. You'll have to talk to your vet and see what is best for your pet.
Dog's Healthcare Insurance: Healthy Paws
Upset Stomach: Try 100% Pumpkin in their meals.
Anxiety with Grooming: Our Old English Sheepdog, Riley, has SEVERE anxiety when it comes to grooming. His vet prescribed him an anxiety medication that relaxes his muscles but still keeps him awake. He usually remains calm and tired for the next 6 hours. We give him this 1 hour before his groomer arrives to our house to groom him. We've noticed that it works and his grooming sessions have been more calm and relaxing! If you are not comfortable with anxiety medication for your dog, please also try CBD treats or oils recommended by your vet. We have found that CBD treats and oils don't work for Riley but it works for Casper and Rocky who experience separation anxiety.
Carlos and I are not professionals, please talk to your vet and see what is best for your pet! These are our recommendations and personal experiences.
⚡️ SHOP MY MERCH: https://shopkimthai.com ⚡️
⚡️ SHOP MY MERCH: https://shopkimthai.com ⚡️
⚡️ SHOP MY MERCH: https://shopkimthai.com ⚡️
? Partnerships and Sponsorships: nikki@expandentertainment.co
? Instagram: https://www.instagram.com/kkimthai
? Subscribe to my Food Channel: https://www.youtube.com/channel/UC5zak5tqTE3JJFtiIpXyOnA
? H I F R I E N D S
Welcome to my channel, where we do things all beauty, fashion and lifestyle! Here, you'll find makeup tutorials, lookbooks, my favorite beauty products and also a glimpse into my life! I love sharing as much as I can with all my wonderful subscribers. My online family and I like to keep this platform positive and uplifting. We hope you'll join us!
Federal Trade Commission: This video is not sponsored.
? Music by Zachary Friederich - Loddy Da (Instrumental) - https://thmatc.co/?l=69F49CC4
? Music by Zachary Friederich - Loddy Da (Instrumental) via @hellothematic
? Music by Wade Graves - Steamboat - https://thmatc.co/?l=7D2D9391
? Music by @wadegravesmusic - Steamboat via @hellothematic
![post-title](https://i.ytimg.com/vi/leV6nkhWyS0/hqdefault.jpg)
amazon healthcare 在 SuzukaChannel Youtube 的最讚貼文
▽今日の動画▽
みなさんこんにちは!Suzukaです:)
今日の動画は最近買って良かった物をご紹介します‼︎
今回は男女問わず使って頂ける物が多いので気になるものがあれば是非チェックしてみて下さい♪
--------------------------------------------
〜紹介商品情報〜
▽Aesop アンチオキシダントトナー
https://www.aesop.com/jp/p/skin/tone/parsley-seed-anti-oxidant-facial-toner/
Amazon→http://amzn.to/2nOzMTc
▽N.POLISH OIL
http://ndot.jp/styling_lineup
Amazon→http://amzn.to/2EO4KD7
▽フローフシ モテマスカラ ニュアンスブラウン
http://flowfushi-store.jp/products/detail.php?product_id=143
Amazon→http://amzn.to/2nNqDu8
▽サンテ新抗菌目薬
https://www.santen.co.jp/ja/healthcare/eye/products/otc/sante_koukin.jsp
Amazon→http://amzn.to/2BeTZJV
▽菊正宗 うるおう日本酒のクリーム
http://www.kikumasamune.co.jp/products/new/L47_cream.html
Amazon→http://amzn.to/2BJLDeE
--------------------------------------------
Amazonコスメ特集→http://amzn.to/2BdrPze
Amazonドラッグストア&ビューティー特集→http://amzn.to/2Bds0u8
Amazonベビー&マタニティ特集→http://amzn.to/2nOMlO3
--------------------------------------------
please Follow!! my social media.
▷ Twitter⇨ http://twitter.com/SuzukaBieber
▷ Instagram⇨ http://instagram.com/maplegirl26
▷suzuka blog⇨ http://suzuka-blog.livedoor.biz/
thank you for watching**
![post-title](https://i.ytimg.com/vi/DwWnHWXqhu0/hqdefault.jpg)
amazon healthcare 在 What Is Amazon Doing in Healthcare? - YouTube 的推薦與評價
Between the closure of Amazon Care and the recent acquisition of One Medical, Amazon has been making significant moves in healthcare this ... ... <看更多>