กรีนแลนด์ (Greenland) ดินแดนสีขาวชื่อสีเขียว
กรีนแลนด์ (Greenland) ดินแดนสีขาวสุดขอบโลกกับความหนาวติดลบ ประเทศทางตอนเหนือสุดของภาคพื้นทวีป ดินแดนแห่งธารน้ำแข็ง ภูเขาน้ำแข็ง พระอาทิตย์เที่ยงคืน แสงเหนือออโรร่า
ครั้งนี้ผมจะพาคุณเดินทางไปในพื้นที่สุดขอบโลกที่ยังมีคนอาศัยอยู่ ณ กรีนแลนด์ (Greenland) เกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก พื้นที่ประมาณ 2,175,900 ตารางกิโลเมตร กับ 2 ใน 3 ของประเทศที่เป็นน้ำแข็ง ไปสัมผัสความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ก้อนน้ำแข็งที่เคลื่อนตัวผ่านทะเล การเดินบนธารน้ำแข็งสุดตื่นเต้น และสัมผัสวิธีชีวิตของคน ชาวอินูอิต (Inuit)
มีเรื่องตลกแต่ว่าเป็นความจริง ผู้บุกเบิกกรีนแลนด์ในยุคแรกเมื่อราวๆหนึ่งพันปีที่แล้ว คือ นาย Erik the Red คือผู้ที่ถูกขับไล่ออกมาจากไอซ์แลนด์ พวกเขาล่องเรือขึ้นมาทางทิศเหนือและพบกับดินแดนแห่งใหม่ที่นี่ พวกเขาตั้งชื่อเกาะแห่งนี้ว่า กรีนแลนด์ (Greenland) เพื่อเหตุผลทางการตลาดที่ต้องการสื่อว่า ดินแดนแห่งนี้อุดมสมบูรณ์กว่าไอซ์แลนด์ (Iceland) ที่มีแต่น้ำแข็ง เพื่อเชื้อเชิญคนอพยพมาตั้งรกรากที่นี่ ทั้งๆที่จริงแล้ว กรีนแลนด์ต่างหากที่มีแต่สีขาว และ ไอซ์แลนด์นั้นมีแต่สีเขียว
ตัวภูมิศาสตร์ของกรีนแลนด์จริงๆนับว่าเป็นส่วนหนึ่งของทวีปอเมริกาเหนือ เกาะตั้งอยู่บนแผ่นกรีนแลนด์ (Greenland plate) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผ่นทวีปอเมริกาเหนือ (North American plate) ผู้คนชาวอินูอิตที่อาศัยมาแต่ดั้งแต่เดิมก็คือกลุ่มคนที่เคลื่อนย้ายมาจากแผ่นดินฝั่งเอเชียมาแคนาดาและมากรีนแลนด์นั่นเอง แต่ในทางการปกครองเนื่องจากกลุ่มคนชุดแรกที่เดินทางมาถึงทีนี่ เป็นชาวไวกิ้ง (Norse) เลยทำให้กรีนแลนด์ตกอยู่ในอิทธิพลของยุโรปมาในภายหลังและสุดท้ายเปลี่ยนมาอยู่ในการปกครองของเดนมาร์คในขั้นสุดท้าย
สิ่งหนึ่งถ้าพูดถึงกรีนแลนด์แล้วต้องเอ่ยถึงเสมอ นั่นก็คือ ความเป็นเกาะแห่งน้ำแข็งของกรีนแลนด์นั่นเอง ผมกำลังจะพูดถึง กรีนแลนดิคไอซ์ชีต (Greenlandic Ice Sheet) ภาษาไทยเรียกว่า "พืดน้ำแข็งกรีนแลนด์" เราไม่ค่อยคุ้นกับคำนี้เท่านั้น เพราะ นิยามคำว่า พืดน้ำแข็ง จะหมายถึงธารน้ำแข็งที่มีขนาดพื้นที่มากกว่า 50,000 ตารางกิโลเมตรขึ้นไป ซึ่งในโลกปัจจุบันนี้มีเพียงแค่ที่ กรีนแลนด์ และ แอนตาร์คติกา เท่านั้นครับ พืดน้ำแข็งพวกนี้ถือเป็นธารน้ำแข็งที่เก่าแก่ที่สุดของโลกอายุมากว่า 10 ล้านปีขึ้นไป และด้วยความมหึมาของพืดน้ำแข็งกรีนแลนด์ที่กินพื้นที่กว่า 79% ของเกาะ ว่ากันว่าถ้าน้ำแข็งของกรีนแลนด์ละลายทั้งหมด จะทำให้ระดับน้ำในทะเลสูงขึ้นกว่า 7.2 เมตร นั่นคือเมืองหลายๆเมืองบนโลกเราจะจมอยู่ใต้ทะเล สถานที่เที่ยวพวกบรรดาธารน้ำแข็งต่างๆในกรีนแลนด์ ก็คือ เศษของน้ำแข็งที่แตกตัวออกมาจากผืดน้ำแข็งแล้วไหลลงสู่มหาสมุทรนั่นเอง
สิ่งหนึ่งที่น่าตื่นเต้นสำหรับคนเอเชียแบบเราก็คือการได้มาเจอท้องถิ่นในกรีนแลนด์ที่หน้าตาคล้ายกับเราอีกครั้งนั่นเอง คนท้องถิ่นที่ว่าก็คือ ชาวอินูอิต (Inuit) ซึ่งมีต้นกำเนิดเดียวกับชาวมองโกลที่แพร่กระจายมาเรื่อยๆ โดยนักโบราณคดีสันนิษฐานว่า บรรพบุรุษของพวกเขาอพยพจากทวีปเอเชีย เข้าไปอยู่บริเวณตอนเหนือของทวีปอเมริกาเหนือ และกรีนแลนด์ ปัจจุบันกรีนแลนด์มีจำนวนประชากรชาวอินูอิตดั้งเดิมอาศัยอยู่มากสุดถึง 90% แต่หลังจากยุคล่าอาณานิคมของชาวยุโรป กาลเวลาเปลี่ยนไป สภาพอากาศก็เปลี่ยนตาม ทำให้วิถีชีวิตของพวกเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก ต้องเริ่มเข้ามาอยู่ในเมืองใช้ชีวิตแบบสมัยใหม่มากขึ้น ควบคู่ไปกับวิถีดั้งเดิมร่วมกับชาวเดนิชที่เป็นส่วนหนึ่งของสังคมในปัจจุบัน
สำคัญที่สุดคือ ต้องระวังเสมอว่า การเรียกชาวอินูอิต ว่า เอสกิโม (Eskimo) ถือเป็นคำที่หบายคายสำหรับที่นี่มาก เพราะคำว่า เอสกิโม มีความหมายว่า “คนกินเนื้อดิบ” ซึ่งในวิถีชีวิตดั้งเดิมการกินเนื้อดิบไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ในยุคปัจจุบันการใช้คำนี้คือคำที่ไม่สุภาพและไม่เหมาะสมกับสถานการณ์
ผมเดินทางไปกรีนแลนด์เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ซึงเป็นช่วงเวลาที่ถือว่าอากาศดีที่สุดในการเที่ยวธรรมชาติพร้อมกับการดูแสงเหนือก่อนที่จะเข้าสู่ฤดูหนาวอันโหดร้ายที่ไม่มีแสงอาทิตย์ให้เห็นเป็นเวลานาน แต่ถ้าใครชอบบรรยากาศแบบสบายๆ การมาหน้าร้อนแล้วได้เที่ยวแบบเต็มวันก็เป็นอีกอารมณ์ที่ดีไม่น้อย
ด้วยความใหญ่โตมหึมาของเกาะแห่งนี้ แต่กลับมีผู้คนอาศัยอยู่อย่างน้อยมาก ถนนหนทางมีเฉพาะในเขตเมืองเท่านั้น การเดินทางไปมาแต่ละจุดจึงต้องใช้เครื่องบินเป็นพาหนะหลัก และก็มีเพียงสายการบินเดียวที่ทำการบินระหว่างกรีนแลนด์และภาคพื้นทวีปยุโรปในฤดูหนาว คือ สายการบิน Air Greenland สายการบินประจำชาตินั่นเอง และจุดเริ่มต้นของทุกคนนั้นคือ เมืองโคเปนเฮเกน (Copenhagen) ของเดนมาร์ค นั่นเอง
“กรีนแลนด์” เป็นประเทศที่ถือว่าอยู่การปกครองของประเทศเดนมาร์ค ดังนั้นแล้วการทำวีซ่า ขั้นตอนวิธีการ การเตรียมเอกสารต่างๆ ล้วนมีความเหมือนกับการไปยื่นวีซ่าที่สถานทูตเดนมาร์คทุกประการ และที่สำคัญอย่าลืม!!! เช็ควีซ่าทุกครั้งหลังได้มาว่า มีคำว่า “Valid for Greenland” หรือไม่ ซึ่งจะชี้เป็นชี้ตายว่าเราจะได้ไปไม่ได้ไปก็ตรงนี้ละครับ
การท่องเที่ยวในกรีนแลนด์ หลักๆจะแบ่งเป็น 2 ด้าน คือ ด้านตะวันตก และ ด้านตะวันออก ครับ ซึ่ง 2 ด้านนี้จะมีความแตกต่างกันดังนี้
ด้านตะวันตก (West) เป็นด้านที่มีคนอาศัยอยู่มากกว่า เจริญกว่า สนามบินหลัก โรงแรม สาธารณูปโภค จะมากกว่า เป็นเมืองที่คนมาท่องเที่ยวมากกว่า เมืองที่คนแวะเที่ยวกันหลักคือ อิลูลิชแซต (Ilulissat) นุก (Nuuk) คังเกอร์ลุสซวก (Kangerlussuaq) จำชื่อยากนิดนึงนะครับ เพราะคำพวกนี้เป็นภาษาท้องถิ่นนั่นเอง
ส่วนด้านตะวันออก (East) มักจะเป็นด้านที่คนมาล่องเรือกัน ดิบกว่ามาก ผมยังไม่เคยไปแต่เขาว่ากันว่าโคตรสวยครับ หมดโควิดเมื่อไรอาจจะได้ไปอีกครั้ง ซึ่งเรื่องราวของอัลบั้มนี้จะเน้นที่ด้านตะวันตกเป็นหลักครับ
เชิญรับชมอัลบั้มภาพกรีนแลนด์จากปลายนิ้วผ่านกล้องของผมเองครับ
อุปกรณ์
- กล้อง Sony A7iii
- Zeiss Batis 85mm f/1.8
- Zeiss Batis 18mm f/2.8
- DJI Mavic 2 Pro
Search