เจาะลึก! แนวคิดเหล่าผู้จัดการกองทุน ที่ทำกำไรได้มากที่สุดในปี 2020
ปี 2020 ที่กำลังจะผ่านพ้นไปนี้ถือว่าเป็นปีที่หินสุด ๆ ในทุกวงการ จากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ไม่มีใครคาดคิดว่ามันจะเกิดขึ้นและจะส่งผลกระทบเป็นเวลายาวนานขนาดนี้
สำหรับในแวดวงการลงทุนนั้น ไม่มีคำไหนที่จะอธิบายสภาวะของตลาดในปีนี้ได้ดีไปกว่าคำว่า "รถไฟเหาะ" อีกแล้ว เนื่องจากราคาสินทรัพย์ต่าง ๆ มีความผันผวนที่สูงมาก คือนึกอยากจะลงก็ลงลึกสุดใจ แต่พอจะขึ้นก็ขึ้นกันแบบทะลุฟ้า เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้
แต่เชื่อหรือไม่ครับว่าในปีที่ถือว่าปราบเซียนแบบนี้ก็ยังมีกองทุนรวมบางกองที่ทำผลตอบแทนได้สูงเกินกว่า 40% หรือบางกองเกือบถึง 150% ก็มี
คุณอาจคิดว่าผลตอบแทนในระดับเกิน 100% นั้นไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ เพราะถ้าคุณซื้อหุ้น Tesla หรือ Delta ตั้งแต่ต้นปีนั้นคุณจะมีกำไรมากกว่ากองทุนเหล่านี้หลายเท่า
แต่อย่าลืมนะครับว่าผมกำลังพูดถึง "กองทุนรวม" ที่ไม่ได้มีอิสระในการตัดสินใจมากนัก เพราะต้องมีการจัดสรรสัดส่วนของพอร์ตให้เป็นไปตามกฎหรือกรอบที่วางเอาไว้ ฉะนั้นผลตอบแทนระดับนี้จึงถือว่าน่าตื่นเต้นมาก ๆ
นั่นทำให้ทาง Business Insider ไปสัมภาษณ์กลยุทธ์ของ 8 ผู้จัดการกองทุนที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในปี 2020 รวมถึงมุมมองการลงทุนในปีหน้า (2021) ที่จะถึงนี้ด้วย ซึ่ง
คงจะเดากันได้ไม่ยากว่าสิ่งที่ทำให้กองทุนเหล่านี้ทำผลงานได้โดดเด่นคือการเลือกลงทุนใน "หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี" โดยเฉพาะ Tesla ที่มีกันเกือบครบทุกกองทุน
สิ่งที่น่าประหลาดใจคือกองทุนเหล่านี้ไม่ได้พึ่งมาซื้อหุ้นเทคโนโลยีกันปีนี้ แต่พวกเขาซื้อไว้ตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อนในช่วงที่บริษัทเหล่านี้ยังไม่เป็นที่สนใจ
สงสัยไหมครับว่ากลยุทธ์อะไรที่ทำให้กองทุนเหล่านี้ได้ซื้อหุ้นเทคฯ อย่าง Zoom, Tesla, Netflix ฯลฯ ตั้งแต่เนิ่น ๆ และที่น่าเหลือเชื่อไปกว่านั้นคือถ้าไปแกะคำสัมภาษณ์ดูก็จะพบว่าผู้จัดการกองทุนทั้ง 8 คนนั้นมีแนวคิดที่คล้ายกันมากและมีหลายคีย์เวิรดที่ซ้ำ ๆ กัน ทำให้สามารถสรุปคำตอบของพวกเขาได้ในบทความเดียว
ผมบอกได้เลยครับว่าแนวคิดของพวกเขาไม่ได้ซับซ้อนอะไรมาก รับรองว่าคุณสามารถนำไปปรับใช้กับการลงทุนของคุณได้อย่างแน่นอน
แนวคิด
พวกเขาจะมองหาบริษัทที่มีวิธีการใหม่ ๆ ในการทำให้โลกนี้ดีขึ้น น่าอยู่ขึ้น สะดวกสบายขึ้น และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
แม้ว่าในเวลานั้นบริษัทจะยังไม่มีความสามารถในการทำกำไร แต่พวกเขาเชื่อมั่นในศักยภาพของบริษัทเหล่านี้ว่าจะกินส่วนแบ่งตลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ เป็นผู้ชนะในอุตสาหกรรมนั้นในที่สุด
พวกเขาไม่ได้หวั่นไหวกับผลประกอบการในระยะสั้นหรือการคำนวณกระแสเงินสดมากนัก เพราะพวกเขามองว่านั่นเป็นสิ่งที่ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่พลาดโอกาสในการลงทุนกับบริษัทแห่งอนาคต
เพราะโลกจะไม่มีทางหันหลังกลับ ยังไงสิ่งที่ดีกว่าก็ต้องเข้ามาทดแทน แต่ปัญหาคือบริษัทที่เลือกนั้นจะเป็นผู้นำได้หรือเปล่าหรือไม่?
แล้วจะพิจารณาได้อย่างไร? คำตอบคือ "วัฒนธรรมองค์กร" ครับ คือกองทุนจะเน้นพิจารณาไปที่วัฒนธรรมองค์กรของบริษัทที่จะลงทุนว่าที่ต้องเอื้อต่อการสร้างและพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์มนุษย์ได้ดีกว่าและจะสามารถแก้ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของสังคมได้อยู่ตลอดเวลา
วิธีหนึ่งที่จะทำให้คุณมองหานวัตกรรมใหม่เจ๋ง ๆ ได้คือการคุยกับเด็ก ๆ ยิ่งถ้าคุณมีลูกที่อายุต่ำกว่า 20 ปีนี่บอกได้เลยครับว่าแค่คุณลองฟังวิธีคิด วิธีการใช้ชีวิตและความต้องการของเขานั้น คุณก็สามาถมองเห็นโลกอนาคตได้ชัดเจนมากขึ้น
โดยเทคโนโลยีนั้นไม่ได้ถูกตีกรอบว่าจะต้องเกี่ยวข้องกับซอฟท์แวร์หรือฮาร์ดแวร์เท่านั้น คุณไม่จะเป็นต้องเขียนโปรแกรมได้ เพียงแค่คุณมองหาสิ่งใหม่ที่เข้ามาแก้ปัญหาเท่านั้น
อย่าง Alex Ely ผู้จัดการกองทุน the Delaware Small Cap Growth ที่ทำกำไรได้ 70.72% ในปีนี้ ได้ทำการเข้าซื้อบริษัท บอสตันเบียร์ (Boston Beer) จากการได้คุยกับลูกชายแล้วพบว่าวัยรุ่นมีแนวโน้มที่จะดื่มมากขึ้น แต่พวกเขาไม่ค่อยชอบรสชาติเบียร์แบบเดิม ๆ ที่อยู่ในตลาดและมีแนวโน้มที่จะเลือกซื้อเบียร์ของบอสตันเบียร์มากขึ้น
แล้วจะลงทุนอย่างไรในปี 2021?
พวกเขาตอบว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงสำหรับกลยุทธ์ครับ ไม่ว่าตลาดจะเป็นอย่างไร แต่พวกเขาก็ยังทำงานหนักในการคิดไปข้างหน้า มองหาบริษัทใหม่ ๆ ที่มีแนวคิดในการพัฒนานวัตกรรมที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของมนุษย์ให้สะดวกสบายมากขึ้นเหมือนเดิม
รวมไปถึงการเลือกบริษัทในอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากการปิดเมือง แต่ยังคงสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ดี หากทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ เช่น โรงแรม ร้านอาหาร เป็นต้น
สิ่งที่ได้เรียนรู้จากบทสัมภาษณ์ครั้งนี้คือจริงอยู่ที่สถานการณ์ในปีนี้เอื้อประโยชน์ให้กองทุนที่มีแนวคิดแบบพวกเขาทำผลงานได้ดีเป็นพิเศษ แต่คุณไม่สามารถบอกว่าพวกเขา “ฟลุค” ได้เลย ผู้จัดการกองทุนเหล่านี้รู้จักตัวเองดีว่าพวกเขากำลังมองหาสิ่งใดและทำงานอย่างหนักเพื่อค้นหาบริษัทในแบบที่พวกเขาต้องการ
พวกเขาไม่ได้เหวี่ยงแหกับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี กลับกันพวกเขาเลือกหุ้นเทคโนโลยีไม่กี่ตัวที่มีคุณสมบัติตรงตามสเปก โดยมีสมมติฐานว่าคุณสมบัติเหล่านั้นคือกุญแจที่จะบริษัทสามารถฝ่าฝันอุปสรรคต่าง ๆ และประสบความสำเร็จในอนาคต
นั่นทำให้ผมนึกถึงคีย์เวิร์ดที่วอร์เรน บัฟเฟตต์, สตีฟ จ๊อบส์ และบิล เกตส์ ได้พูดไว้ตรงกันว่าหากคุณอยากประสบความสำเร็จคุณต้อง “โฟกัส”
แล้วเพื่อน ๆ มีแนวทางการลงทุนอย่างไรกันบ้างครับ มีใครชอบลงทุนหุ้นเทคฯ บ้าง คุณมีวิธีคัดหุ้นยังไง มาแชร์กันครับ
.
แอดปุง
แจ้งข่าว สัมมนารอบต่อไป
อสังหา 3in1 (อสังหาให้เช่า+อสังหาทางด่วน) รุ่น 10
วันที่ 9-10 มกราคม 2564
ดูรายละเอียดที่ลิงค์ในคอมเมนท์ครับ
