💡 Programmer, Coder, และ Developer 3 คำนี้ที่ผู้คนมักเรียกสลับกัน หรือเรียกรวมกัน แล้วรู้หรือไม่ว่า...ทั้ง 3 คำนี้มันต่างกันยังไง ?
.
วันนี้เรามาไขข้อสงสัยกันเถอะ! กับคำจัดกัดความของทั้ง 3 คำนี้ จะได้เห็นชัด ๆ กันไปเลยว่ามันต่างกันยังไง...และถ้าพร้อมแล้ว ไปอ่านกันโลดดดด !!
.
🌟 Coder
คือใครก็ได้ที่เขียนโค้ดในภาษาต่าง ๆ เช่น Python, Java, C#, JavaScript, C/C++ เป็นต้น ได้นั่นเอง ซึ่งอาจจะเป็นมือใหม่หรือเพิ่งเริ่มต้นทางสายนี้ และไม่ได้มีความรู้เรื่องอัลกอริทึมหรือตรรกะในการเขียนโปรแกรมมากนัก
.
🌟 Programmer
เป็นการเขียนโปรแกรม ที่คิดเป็นตรรกะ และเหตุผล โดยใช้อัลกอริทึมต่าง ๆ มาสร้างสรรค์โปรแกรมมากขึ้น ซึ่งต้องทำให้คอมพิวเตอร์รู้ว่าต้องทำอะไรในสถานการณ์ต่าง ๆ และสามารถเขียนโปรแกรมให้ทำงานบนระบบที่หลากหลายมากขึ้นนั่นเอง
.
🌟 Developer
เป็นคนเขียนโค้ดที่มีประสบการณ์และมีหน้าที่รับผิดชอบมากกว่า มีความเชี่ยวชาญในภาษาโปรแกรมมิ่งอย่างน้อย 2-3 ภาษานั่นเอง เขียนโค้ดโดยใช้ความรู้ อัลกอริทึม และกระบวนการต่าง ๆ ในการสร้างโปรแกรมที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ในบางครั้งอาจจะต้องดูแลและรับผิดชอบโปรเจกต์ตั้งแต่เริ่มจนจบนั่นเอง
.
แล้วเพื่อน ๆ ล่ะ เป็นสายไหนกันบ้างงง ? คอมเมนต์บอกกันหน่อยเร็ววว 🔥
.
💥 Source : https://www.freecodecamp.org/news/programming-coding-developement-whats-the-difference/
.
borntoDev - 🦖 สร้างการเรียนรู้ที่ดีสำหรับสายไอทีในทุกวัน
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過86萬的網紅Aotter Girls: Girl's Tech Talk,也在其Youtube影片中提到,天阿天阿今天我們要來學習當工程師寫Code啦!! 這場辦給媒體們的體驗會要教大家寫Code的基本觀念喲:D 絡甯跟蜜柑都學起來而且寫了幾十行程式了呢(得意) 到底是為什麼這麼簡單呢? 快看看影片吧!! 微軟臉書粉絲團: https://www.facebook.com/MicrosoftTaiwa...
coder, programmer 在 โปรแกรมเมอร์ไทย Thai programmer Facebook 的最佳解答
🔥👍 การันตีได้ว่าทุกคนเป็นเหมือนกันหมด
เวลานั่งแก้ปัญหาอะไรตั้งนาน
แบบคิดจนสมองจะระเบิด ก็คิดไม่ออกซะที
เช่น การเขียนโปรแกรม แล้วติดบั๊ก ติด error
.
แต่พอเราลืมเรื่องนั้นไปซะ!
เปลี่ยนไปอาบน้ำ ดูทีวี เดินเล่นสวีตกับแฟน
อยู่ดีๆ ดันปิ๊งแว็บคิดแก้ปัญหานั้นออกมาได้ซะงั้น
:
:
จะบอกว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด
ไม่ใช่คุณคนเดียวที่เป็นโรคนี้
คนทั่วโลกก็เป็นเช่นเดียวกับคุณ
:
ถ้าเราจะเข้าใจอาการพวกนี้
ต้องใช้วิทยาศาสตร์ด้านสมองมาอธิบายโดยตรง
ตามทฤษฏี สมองมนุษย์มีการเรียนรู้อยู่ 2 โหมด ได้แก่
"โหมดเซียน" กับ "โหมด 9 หาง"
...อ้าวผิดเรื่อง ...อันนั้นมัน นารูโตะ
.
การเรียนรู้สมองมี 2 โหมดได้แก่
👉 1) โหมด FOCUSED
เป็นโหมดของสมองที่กำลังโฟกัส
หรือมีสมาธิเพื่อคิดทำบางสิ่งบางอย่างอยู่
โหมดนี้ สมองจะใช้แนวทางเดิมๆ เพื่อแก้ปัญหา
ทำให้เรามุ่งมั่นหาทางแก้ปัญา หรือพยายามค้นหาปัญหาให้ได้โดยไว
.
😀 ข้อดี ทำให้เรามีสมาธิ มุ่งที่จะบรรลุงานนั้นๆ ให้สำเสร็จโดยไว
เช่น กำลังเขียนโปรแกรมอยู่ ต้องโฟกัส จดจ่อเพื่อให้งานเสร็จ
.
😱 ข้อเสีย จะเกิดการวนลูปทางความคิด
เช่น ตอนเจอบั๊กในโปรแกรม
เราก็จะวนลูป ใช้วิธีเดิมแก้ไปหาซ้ำๆ อยู่นั้นแหละ
พยายามกดคีย์บอร์ดด้วยวิธีการเดิมๆ
จนนิ้วจะแทงทะลุแป้นพิมพ์อยู่แล้ว
ก็แก้บั๊กไม่ได้เสียที ...จนอยากร้องไห้
.
ที่เป็นเยี่ยงนี้ก็เพราะสมองไม่ยอมมองหาทางออก
ไม่ออกจากกรอบคิดแบบเดิมๆ นั่นเองครับ
นับเป็นข้อเสียของสมองโหมดนี้
.
👉 2) โหมดที่สองคือ โหมด DIFFUSED
เป็นโหมดของสมองที่กำลังคิด
เมื่ออยู่ในภาวะผ่อนคลาย หรือพักผ่อน
เช่นตอนที่เราเดินเล่น ขับรถ ฟังเพลง อาบน้ำ เข้าส้วม หรือกระทั่งนอนหลับ ฯลฯ เป็นต้น
.
ถ้านึกไม่ออก ก็นึกถึงตอนที่เราติดปัญหาอะไรซะอย่าง
พอหัวเราจะแตะถึงหมอนอยู่แล้ว ดันคิดออกมาได้เฉยเลย
หรือบ่อยครั้งที่นอนหลับไป
พอตื่นขึ้นมาหา ไอเดียแก้ปัญหาดันปิ้งแว็บออกมา
.
😀 ข้อดี โหมดนี้เอาไว้ใช้แก้ปัญหาที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน หรือยากที่จะเข้าใจ
สามารถใช้คิดพวกไอเดีย หรือคอนเซ็ป ความคิดสร้างสรรค์แปลกๆ ใหม่ๆ ทำให้เราคิดนอกกรอบเดิมได้
.
เช่น ช่วยหาทางแก้บั๊กในโปรแกรม
ในมุมหนึ่งที่ไม่เคยนึกถึงมาก่อน
ช่วยให้แหกกฏเกณฑ์เดิมที่เราติดปัญหาอยู่ได้
.
😱 ข้อเสีย โหมดนี้มันทำงานเมื่อเราผ่อนคลาย
เช่น โปรแกรมเมอร์ตอนกลางวัน
แก้บั๊กแทบตายทั้งวัน แก้ไม่ได้สักที
พอเลิกงานกลับบ้านปุ๊บ
กำลังจะงีบหลับ ดันคิดออกมาได้ ...โธ่ชีวิต
.
หรือบางคนมีสกิลพิเศษ แก้บั๊กในความฝันได้
จนต้องสะดุ้งตื่น
จากโปรแกรมเมอร์ กลายร่างเป็นนกฮูก
ไม่ยอมหลับยอมนอน เขียนโปรแกรมจนเสร็จ
:
:
+++++++++++++++++++
ถ้าเราเข้าใจคอนเซปต์ของสมอง 2 โหมดนี้ละก็
- ตอนแก้ปัญหาไม่ออกก็สลับไปใช้ โหมด DIFFUSED ซะ
- เมื่อได้ไอเดียมาแล้ว ก็สลับไปใช้โหมด FOCUSED ต่อ
:
แต่ทั้งนี้เราต้องเข้าใจเสียก่อนว่า
มนุษย์โลกทุกคนไม่สามารถใช้ 2 โหมดนี้ได้พร้อมกัน ...เศร้า
ต้องเลือกระหว่างโหมด FOCUSED หรือโหมด DIFFUSED
เลือกให้ทำงานโหมดใดโหมดหนึ่งเท่านั้น
:
ดังนั้นเราต้องหัดสลับสมอง 2 โหมดให้เป็นนะครับ
:
ซึ่งวิธีสลับโหมดของสมอง
มันมีประโยชน์ตอนทำงาน
หรือจะตอนอ่านหนังสือสอบก็ได้
.
วิธีสลับโหมด ผมขอเสนอ 2 วิธีแล้วกัน
👉 1) ใช้เทคนิคคือ "Pomodoro Technique"
คือให้ทำงานไป 25 นาที (โหมด FOCUSED)
แล้วผ่อนคลายอีก 5 นาที (DIFFUSED)
.
แต่วิธีนี้อาจไม่เหมาะ ตอนเอาไปใช้ในทำงานจริงเท่าไร
...เพราะถ้าหัวหน้างานเห็นเราทำแบบนี้
คงคิดว่าเราอู้งาน ทำไป หยุดไป
เราอาจดัดแปลง ทำไปได้สักชั่วโมง สองชั่วโมง
เมื่อสมองล้า ก็พักเบรกเสียบ้าง จิบกลางแฟ แชทคุยกับแฟน
เล่นเกมคลายเครียด เดินยืดเส้นยือดสาย เข้าไปนั่งในส้วมเล่นๆ
ทำสัก 5-10 นาที พอ
...แต่ทั้งนี้หัวหน้างานต้องเข้าใจนะ ว่าเรากำลังผ่อนคลาย
...เป็นเทคนิคการคิดงานโดยใช้สมองโหมด DIFFUSED
.
👉 2) หรือเราจะปล่อยให้คิดงานทั้งวันไปเลย
แล้วถ้าพระอาทิตย์ตกดิน ยังคิดไม่ออกละก็
อย่าไปซีเรียส ให้กลับบ้านเข้านอนโดยไว
เพื่อให้สมองเข้าสู่โหมด DIFFUSED โดยธรรมชาติ
เป็นการรีเซทความคิดใหม่ พอตื่นขึ้นมาสมองโล่งคิดออก
รุ่งเช้าค่อยกลับมาเข้าโหมด FOCUSED เพื่อทำงานต่อไป
:
:
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์
ถ้าชอบกระทืบ like ....มันชอบอย่าด่ากันเยอะมันเจ็บ
เขียน โดยโปรแกรมเมอร์ไทย thai programmer
.
++++
อ้างอิง
https://staciechoice1010.wordpress.com/…/focused-vs-diffus…/
https://www.themetalearners.com/how-to-utilize-both-brains…/
https://www.instructables.com/id/Learning-How-to-Learn/
.
.
.
.
++++++++++++++++++++++++++++
<ประชาสัมพันธ์ ขายหนังสือ/>
“โปรแกรมเมอร์ก็รวยได้ ด้วยเส้นทางเอาท์ซอร์สสายดำ”
ความยาว 176 หน้า กระดาษ A5 (≈ 41,002 คำ)
แบ่งเป็น 2 เวอร์ชั่น
.
👉 1) เวอร์ชั่นพิเศษเป็น PDF
ปรินต์ออกมานอนเกาพุงอ่านได้ ราคา 330 ฿
ติดต่อสั่งซื้อไดที่ไลน์ @269aibvq (เฉพาะ PDF)
.
👉 2) เวอร์ชั่นอีบุ๊กอ่านผ่านโปรแกรมของเว็บ mebmarket
ไม่มีแจก PDF ปรินต์ออกมาไม่ได้
ราคาถูกลงมาหน่อย 250 บาท ฿
กับ 279 บาท ฿ (ซื้อผ่านระบบ Apple)
ซื้อได้ที่ 👇
https://www.mebmarket.com/web/index.php…
.
สำหรับตัวอย่างหนังสือ ดาวน์โหลดได้ตามลิงก์ข้างล่าง 👇
https://drive.google.com/open…
.
✍ เขียนโดย โปรแกรมเมอร์ไทย thai programmer
🔥👍 Guarantee that everyone is the same.
When I sit to solve something for a long time.
I can't even think about it. My brain explodes.
For example, programming and getting hooked on error.
.
But when we forget about it!
Changed to take shower, watch tv, walk in sweat with my girlfriend.
I suddenly think that I can solve that problem.
:
:
To say this is not strange at all
Not you the only one who has this disease
People around the world are just like you.
:
If only we would understand these symptoms
It takes brain science to explain directly.
In theory, the human brain has 2 modes of learning.
′′ Sienna mode ′′ and ′′ 9 tail mode ′′
... Oh, it's wrong... That one is Naruto.
.
There are 2 modes of brain learning.
👉 1) FOCUSED mode
It's a mode of the brain that is focused.
Or concentrate on thinking about doing something.
This mode, the brain will use the same old way to solve problems.
Make us determined, find a solution, or try to find the problem quickly.
.
😀 Advantages make us concentrate on achieving those tasks quickly.
For example, programming, focus to get the job done.
.
😱 Disadvantages will be a thought loop.
Like when I found a buck in the program.
We are going to loop the same way. We are going to find it again.
Trying to press keyboard the same old way
My fingers are going to penetrate through the keyboard.
I can't fix my buck... I want to cry.
.
The reason I'm like this is because my brain doesn't want to look for a way out.
I don't leave the frame. I think the same way.
It's a disadvantage of brain mode.
.
👉 2) Second mode is DIFFUSED mode.
Is a mode of thinking brain
When resting or resting
For example, when we walk, drive, listen to music, shower, toilet or even sleep etc etc.
.
If I can't imagine, I think of when I'm in trouble.
When my head hits the pillow, I just think about it.
Or often sleep over.
When I wake up, I find an idea to solve problems. I push them out.
.
😀 This mode of advantages to solve problems you have never seen before or difficult to understand.
Can be used to think about ideas or concepts of innovative innovations. It makes us think outside the same box.
.
For example, help figure out a way to fix a bug in the program.
In a corner I never thought of before.
Help to break the same rules we are in trouble.
.
😱 Disadvantage. This mode works when we relax.
Such as a daytime programmer
I can't fix a buck all day. I can't fix it.
When I finish work, I go home.
About to take a nap. I figured it out... Oh life.
.
Or someone has special skills to fix the buck in their dreams.
Until I start to wake up.
From a programmer to an owl.
I don't want to sleep. Programming is done.
:
:
+++++++++++++++++++
If we understand these 2 modes of brain concepts.
- When I can't solve problems, I switch to DIFFUSED mode.
- When I get an idea, I switch to FOCUSED mode.
:
But we have to understand first.
All human worlds can't use these 2 modes simultaneously... Sad
Must choose between FOCUSED mode or DIFFUSED mode.
Choose to work in one mode only.
:
So we need to learn to switch brain 2 modes to be.
:
Which way to switch mode of brain
It's useful while working.
Or when I read the exam book.
.
How to switch mode. I would like to offer 2 ways.
👉 1) Technique is ′′ Pomodoro Technique ′′
Well, let's work for 25 minutes (FOCUSED mode)
Then relax for 5 mins (DIFFUSED)
.
But this method may not be suitable when you use it for real work.
... Because if the supervisor sees us doing this.
I guess I'm ooh. My work is done. Stop it.
We could be modified for an hour or two.
When my brain is tired, I take a break. Sip in the middle of a coffee chat with my boyfriend.
Playing games, relaxing, walking, stretching, hanging out, sitting in the toilet for fun.
Do it for 5-10 minutes. Enough.
... But the supervisor needs to understand that we are relaxing.
... It's a brain-thinking technique. DIFFUSED mode.
.
👉 2) or we'll let it think about work all day.
What if the sunset hasn't figured out yet?
Don't be serious. Go home. Get bed early.
In order to get the brain into DIFFUSED mode naturally.
It's a reset of new thoughts. When I wake up, my brain is clear.
Come back to FOCUSED mode in the morning to work.
:
:
Hope this article is helpful.
If you like to stomp like.... you like it. Don't scold too much. It hurts.
Written by Thai programmer thai coder
.
++++
Reference.
https://staciechoice1010.wordpress.com/2014/08/08/focused-vs-diffused-mode/
https://www.themetalearners.com/how-to-utilize-both-brains-thinking-modes-focused-vs-diffuse/
https://www.instructables.com/id/Learning-How-to-Learn/
.
.
.
.
++++++++++++++++++++++++++++
< Public relations book sale />
′′ Programmers can also be rich with black outsource routes
Length 176 pages h̄n̂ā paper (≈ 41,002 words)
Divided into 2 versions
.
👉 1) Special version as PDF
Princess came out to sleep and scratch my belly. Read it. Price is 330 ฿
Contact Line s̄ạ̀ng sụ̄̂x 269 aibvq (PDF only)
.
👉 2) Ebook version read through the program of mebmarket web.
There is no PDF giving away. Can't print.
The price is cheaper. 250 baht ฿
With 279 Baht ฿ (Buying via Apple System)
Buy it at 👇
https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTcyNTQ4MyI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjEzMTQxMiI7fQ
.
For the book preview, download the link below 👇
https://drive.google.com/open?id=1tAnMozeYd63dcbBGTQmT_ZrpSaamZS3e
.
✍ Written by Thai programmer thai coderTranslated
coder, programmer 在 โปรแกรมเมอร์ไทย Thai programmer Facebook 的最佳貼文
👨🏫 ในรูปได้ยกตัวอย่าง ช่องโหว่ของการเขียนโปรแกรม
ที่เปิดโอกาสให้ผู้ประสงค์ร้ายสามารถโจมตีด้วยวิธี
Command Injection
.
ช่องโหว่นี้เกิดจากในหลายๆ ภาษาโปรแกรมมิ่ง
ได้อนุญาติให้เรียกคำสั่งของระบบปฏิบัติการได้โดยตรง
ซึ่งสุ่มเสี่ยงให้ผู้โจมตีฉวยโอกาสนี้ฉีดคำสั่งเข้าไปในโค้ด
ด้วยการต่อท้ายด้วยข้อความ &&
จึงทำให้แทรกคำสั่งอันตรายเข้าไปได้ เช่น
:
del /F * บน window
หรือ rm -rf * บน linux
:
ในรูปได้ยกตัวอย่างโค้ดภาษา Java
ซึ่งทำงานบน Window
จะเห็นว่าสามารถใช้ && แล้วต่อท้ายด้วยคำสั่งอะไรก็ได้
เช่น && tasklist && dir เป็นต้น
.
แล้วถ้าโปรแกรมมันรันใน linux/Unix
ก็สามารถต่อคำสั่งเป็นลูกโซ่ด้วยข้อความ && หรือ ; ก็ได้
:
และไม่ใช่ Java ภาษาเดียว ที่มีช่องโหว่ประเภทนี้
มันเกิดได้หลายภาษา
ที่อนุญาติให้เรียกคำสั่งของระบบปฏิการโดยตรง
เช่น C#, Python, PHP และหลายๆ ภาษาที่ไม่ได้เอ่ยถึง
:
++++วิธีป้องกัน+++
🤔 ต้อง validate ข้อมูล input อย่างเข้มงวด เช่น
- กรอง input ที่เข้ามา กำหนดว่ามีอะไรได้บ้าง?
- input ที่เข้ามา ห้ามเป็นคำสั่งของระบบปฏิบัติการเด็ดขาด
- ห้ามมี && และ ; อยู่ใน input ที่เข้ามา
- เป็นต้น
.
😏 หรือจะเลี่ยงวิธีเขียนเรียกคำสั่งของระบบปฏิบัติการโดยตรง ไม่ต้องใช้ก็ย่อมได้
++++
เขียนโดย โปรแกรมเมอร์ไทย thai programmer
.
ดูตัวอย่างเพิ่มเติม
https://www.owasp.org/index.php/Command_Injection
👨 🏫 In the photo, for example, the loophole of programming.
Open doors for the evil wills to attack by the way.
Command Injection
.
This loophole is born in many programming languages.
Permission to call direct order of operating system
Who randomly risked this opportunity attacker to inject an order into code.
By ending with a text &&
It's so dangerous to insert like
:
del / F F on window
or rm-rf rf on linux
:
In the picture, for example, Java language code.
Which works on Window
Will see that I can use && and then end up with any order.
Like && tasklist && dir etc.
.
And if the program runs in linux / Unix
Can continue with chain order with text && or; either.
:
And not Java the only language has this type of loophole
It can be born in many languages.
Allowing to call direct command of the operational system.
Like C #, Python, PHP and many languages that are not mentioned.
:
++++ How to prevent +++
🤔 Must strictly validate input information like
- Input filter that comes to determine what's available?
- Input that comes to prohibit is an order of an operating system.
- Don't have && and; stay input that comes.
- etc.
.
😏 or avoid the way to write, call direct command of an operating system. No need to use it.
++++
Written by Thai programmer thai coder
.
See more previews
https://www.owasp.org/index.php/Command_InjectionTranslated
coder, programmer 在 Aotter Girls: Girl's Tech Talk Youtube 的最佳貼文
天阿天阿今天我們要來學習當工程師寫Code啦!! 這場辦給媒體們的體驗會要教大家寫Code的基本觀念喲:D 絡甯跟蜜柑都學起來而且寫了幾十行程式了呢(得意) 到底是為什麼這麼簡單呢? 快看看影片吧!!
微軟臉書粉絲團: https://www.facebook.com/MicrosoftTaiwan
Hour of Code: https://hourofcode.com/us/zh
電獺少女部落格: http://agirls.aotter.net/
電獺少女粉絲團: https://www.facebook.com/aottergirls
電獺少女PasteWall: https://pw.aotter.net/9/wall/1