ราคาเมล็ดกาแฟกำลังพุ่ง อาจทำให้ราคากาแฟสูงตาม เร็ว ๆ นี้ /โดย ลงทุนแมน
หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า วันนี้ราคาเมล็ดกาแฟ ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการนำมาทำกาแฟที่เราดื่มกันทุกวันนี้ กำลังมีราคาเพิ่มขึ้นมาอย่างมาก
พอรู้แบบนี้แล้ว หลายคนก็เริ่มตั้งคำถามกันขึ้นมาว่า
ถ้าราคาวัตถุดิบอย่างเมล็ดกาแฟเพิ่มขึ้น
แล้วธุรกิจร้านขายกาแฟชื่อดังอย่าง Starbucks จะได้รับผลกระทบหรือไม่ ?
สาเหตุอะไร ที่ทำให้ราคาเมล็ดกาแฟปรับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ปัจจุบัน กาแฟนับเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดชนิดหนึ่งในโลก ทั้งยังเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีมูลค่าการส่งออกมากเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากน้ำมัน
หากลองย้อนไปดูประวัติศาสตร์ของกาแฟแบบคร่าว ๆ จะพบว่า กาแฟเริ่มปลูกขึ้นครั้งแรกในแถบตะวันออกกลางในช่วงศตวรรษที่ 15
เวลาผ่านไปหลายร้อยปี ปัจจุบัน มีการปลูกกาแฟกันมากกว่า 70 ประเทศทั่วโลก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในเขตร้อนชื้น ที่เอื้อต่อการเติบโตของต้นกาแฟ
โดยเฉพาะประเทศที่ตั้งอยู่ในทวีปลาตินอเมริกาและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ลองมาดู 3 ประเทศ ที่ผลิตเมล็ดกาแฟรายใหญ่ของโลก ในปี 2019
1. บราซิล ปริมาณการผลิต 3.6 ล้านเมตริกตันต่อปี
2. เวียดนาม ปริมาณการผลิต 1.8 ล้านเมตริกตันต่อปี
3. โคลอมเบีย ปริมาณการผลิต 0.9 ล้านเมตริกตันต่อปี
จากตัวเลขที่เห็นนี้ รู้ไหมว่า แค่ปริมาณการผลิตเมล็ดกาแฟจากบราซิลประเทศเดียว ก็คิดเป็นสัดส่วนถึง 1 ใน 3 ของปริมาณการผลิตของโลก
ดังนั้น หากเกิดเหตุการณ์อะไรที่มากระทบกับปริมาณการผลิตกาแฟภายในประเทศเหล่านี้ ก็ย่อมจะส่งผลต่อราคาเมล็ดกาแฟอย่างมีนัยสำคัญ
ทีนี้เราลองมาดู เหตุการณ์สำคัญ ที่ทำให้ราคาเมล็ดกาแฟปรับตัวสูงขึ้น
- สภาพภูมิอากาศที่แปรปรวนในแถบอเมริกาใต้
ช่วงที่ผ่านมา เกิดสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวนในแถบอเมริกาใต้ โดยเฉพาะบริเวณประเทศบราซิล ส่งผลต่อปริมาณผลผลิตเมล็ดกาแฟของบราซิล
อุณหภูมิที่ลดต่ำอย่างรวดเร็วในบางช่วง ทำให้เกิดปรากฏการณ์น้ำค้างแข็ง เกาะบริเวณต้นและใบของต้นกาแฟที่อยู่ในช่วงของการเจริญเติบโต ซึ่งไม่ใช่สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับต้นกาแฟ
โดยเฉพาะพื้นที่ทางตอนใต้ของประเทศที่ชื่อว่า “Minas Gerais” ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกกาแฟหลักของประเทศ
ในปี 2020 รัฐแห่งนี้เป็นผู้ผลิตเมล็ดกาแฟสายพันธุ์อะราบิการายใหญ่ที่สุดในบราซิล โดยมีปริมาณการผลิตคิดเป็นสัดส่วนกว่า 74% ของปริมาณการผลิตของประเทศ
- เหตุการณ์การประท้วง ในโคลอมเบีย
ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ประชาชนจำนวนมากได้ออกมาคัดค้านและต่อต้านการปฏิรูปภาษีของรัฐบาลของประเทศตนเอง
กลุ่มผู้ประท้วง ตอบโต้การกระทำของรัฐบาลด้วยการออกมาปิดเส้นทางสัญจรในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ส่งผลให้การขนส่งสินค้าต่าง ๆ ได้รับผลกระทบอย่างหนัก
รวมถึงการขนส่งเมล็ดกาแฟและผลิตภัณฑ์จากเมล็ดกาแฟอื่น ๆ เนื่องจากการปิดถนน ทำให้ผู้ส่งออกหลายราย ไม่สามารถรับกาแฟและเมล็ดกาแฟเพื่อไปส่งออกได้ และทำให้ยอดการส่งออกเมล็ดกาแฟของประเทศลดลง
สองเรื่องนี้ ถือเป็นปัจจัยหลัก ๆ ในช่วงที่ผ่านมาและในตอนนี้ ที่ทำให้ราคาเมล็ดกาแฟที่ซื้อขายกันในตลาดนั้นเพิ่มสูงขึ้น
สิ้นปี 2020 ราคาเมล็ดกาแฟเท่ากับ 1.28 ดอลลาร์สหรัฐต่อน้ำหนัก 1 ปอนด์
สิ้นเดือนกรกฎาคม 2021 ราคาเมล็ดกาแฟเท่ากับ 1.80 ดอลลาร์สหรัฐต่อน้ำหนัก 1 ปอนด์
จะเห็นว่าในระยะเวลา 7 เดือนที่ผ่านมา ราคาเมล็ดกาแฟปรับขึ้นมาประมาณ 41%
นอกจากนั้น ราคาเมล็ดกาแฟอะราบิกาในตลาดซื้อขายล่วงหน้า ICE Futures ในสหรัฐอเมริกา ก็มีราคาสูงขึ้นมาก ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
พอหลายคนรู้แบบนี้ก็น่าจะคิดต่อไปว่า แล้วธุรกิจร้านกาแฟที่ต้องอาศัยวัตถุดิบสำคัญอย่างเมล็ดกาแฟ จะได้รับผลกระทบแค่ไหน ? โดยเฉพาะ “Starbucks” ที่ทำธุรกิจเชนร้านกาแฟที่มีสาขาทั่วโลก
โดยทั่วไปแล้ว บริษัทที่ขายเครื่องดื่มที่ใช้กาแฟเป็นวัตถุดิบนั้น มักจะทำสัญญาซื้อเมล็ดกาแฟล่วงหน้า เพื่อลดความผันผวนของราคาต้นทุน
ซึ่งในกรณีของ Starbucks บริษัทบอกว่าทำสัญญา ซื้อเมล็ดกาแฟล่วงหน้าประมาณ 14 เดือน
และบริษัทยังได้ระบุว่า ราคาการซื้อเมล็ดกาแฟของบริษัท มีการทำสัญญาล่วงหน้าไว้แล้ว ทั้งสำหรับปี 2021 และ 2022
หมายความว่า ราคาเมล็ดกาแฟที่ปรับขึ้นในปัจจุบัน ก็คงยังไม่ได้ส่งผลกระทบกับบริษัทมากเท่าไร เนื่องจากต้นทุนเมล็ดกาแฟที่บริษัทซื้อนั้น เป็นต้นทุนที่เกิดขึ้นในช่วงที่ราคายังไม่ปรับตัวสูงก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม ถ้าราคาเมล็ดกาแฟยังปรับตัวสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ บริษัทขายเครื่องดื่มหลายแห่งที่ใช้เมล็ดกาแฟเป็นวัตถุดิบก็ต้องเข้าไปทำสัญญาซื้อเมล็ดกาแฟล่วงหน้าในราคาที่สูงขึ้น
ดังนั้นก็เป็นไปได้ว่า หากราคาเมล็ดกาแฟยังมีราคาอยู่ในระดับสูงแบบนี้
พวกเราก็จะต้องจ่ายเงินซื้อกาแฟที่แพงขึ้น ในเร็ว ๆ นี้..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
รู้ไหมว่าในปี 2019 ทั่วโลกมีการบริโภคกาแฟวันละ 2,250 ล้านแก้ว โดยประเทศที่บริโภคกาแฟมากที่สุดในโลกคือ สหรัฐอเมริกา ที่มีการบริโภคกาแฟ เฉลี่ยวันละ 500 ล้านแก้ว
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://markets.businessinsider.com/commodities/coffee-price
-https://globalnews.ca/news/8091684/retail-coffee-prices-to-climb/
-https://www.investing.com/commodities/us-coffee-c
-https://farrerscoffee.co.uk/top-10-coffee-producing-countries-around-the-world/
-https://elevencoffees.com/top-coffee-producing-countries/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Minas_Gerais
-https://worldpopulationreview.com/country-rankings/coffee-consumption-by-country
-https://perfectdailygrind.com/2021/05/the-colombia-protests-how-is-the-situation-affecting-the-population-and-the-coffee-sector/
-https://www.mreport.co.th/news/industry-movement/214-Container-Shortage-2021
-https://www.businessinsider.com/starbucks-hedges-coffee-prices-taking-a-cue-from-airlines-2021-7
-https://www.dearretailinvestors.com/the-coffee-crisis-is-coming/
同時也有10部Youtube影片,追蹤數超過12萬的網紅王炳忠,也在其Youtube影片中提到,🔥支付寶打賞:13581883245 🔥王炳忠今日頭條:搜索「王炳忠台灣」 🔥王炳忠臉書粉專:https://www.facebook.com/bingzhong.wang ♦♦♦ The Real Threat to the US is the loss of self-confidence ─...
「countries by population」的推薦目錄:
- 關於countries by population 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
- 關於countries by population 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
- 關於countries by population 在 國立臺灣大學 National Taiwan University Facebook 的最讚貼文
- 關於countries by population 在 王炳忠 Youtube 的最讚貼文
- 關於countries by population 在 阿滴英文 Youtube 的最讚貼文
- 關於countries by population 在 lifeintaiwan Youtube 的精選貼文
- 關於countries by population 在 Top 20 Countries by Population (1950 to 2100) 的評價
countries by population 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
รู้จัก Vinamilk ผู้ผลิตนมสัญชาติเวียดนาม ที่ใหญ่กว่า CPF /โดย ลงทุนแมน
รู้ไหมว่า บริษัทนมที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนามมีมูลค่ามากกว่า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ผู้ประกอบธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารแบบครบวงจรในประเทศไทย
บริษัทนี้ชื่อว่า “Vinamilk” ที่น่าสนใจคือ
หนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Vinamilk คือบริษัทของคนไทยอีกด้วย
เรื่องนี้เป็นอย่างไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
Vinamilk หรือชื่อเต็มคือ Vietnam Dairy Products Joint Stock Company ก่อตั้งขึ้นในปี 1976 โดยบริษัท Southern Coffee-Dairy ซึ่งเป็นบริษัทของรัฐบาลที่ไปซื้อกิจการมาจากบริษัทเอกชนอีกที
Vinamilk เข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่ปี 2003
โดยปัจจุบัน ผู้ถือหุ้นใหญ่สุดของ Vinamilk คือ
- กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของเวียดนาม (State Capital Investment Corporation) ถือหุ้นอยู่ 36.0%
- กลุ่มบริษัท F&N ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ ของคุณเจริญ สิริวัฒนภักดี ถือหุ้นอยู่ 20.0%
- Jardine บริษัทโฮลดิงจากสิงคโปร์ ถือหุ้นอยู่ 10.6%
- ผู้ถือหุ้นรายย่อย ถือหุ้นอยู่ 33.4%
ก่อนหน้านี้ นักลงทุนต่างชาติที่สนใจลงทุนในหุ้น Vinamilk ไม่สามารถซื้อหุ้นของบริษัทได้ เนื่องจากติดข้อจำกัดการถือหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ (Foreign Holding Limit) ให้ถือได้ไม่เกิน 49%
ที่เป็นแบบนี้ เพราะรัฐบาลเวียดนามเกรงว่า ถ้านักลงทุนต่างชาติเข้ามาซื้อหุ้นจนเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ อาจทำให้เข้ามามีอิทธิพลกับการดำเนินงานของบริษัทมากเกินไป
อย่างไรก็ตาม กฎเกณฑ์นี้ได้ถูกยกเลิกไปแล้วในปี 2016 โดยอนุญาตให้นักลงทุนต่างชาติสามารถเข้าถือหุ้นในบริษัทได้สูงสุด 100%
แต่ปัจจุบันผู้ถือหุ้นใหญ่สุดก็ยังเป็นกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของเวียดนามอยู่ดี
ปัจจุบัน Vinamilk ทำธุรกิจผลิตนมและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับนมรายใหญ่ที่สุดในเวียดนาม มีโรงงานผลิตนม และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 15 แห่ง กระจายอยู่ทั้งในเวียดนาม กัมพูชา และสหรัฐอเมริกา
สินค้าของบริษัทที่ผลิตออกมาขายนั้นมีมากกว่า 250 รายการ เช่น นมพร้อมดื่ม, นมผง, โยเกิร์ต, นมข้นหวาน, ครีมเทียมข้นหวาน, ไอศกรีม, ชีส, นมถั่วเหลือง
รู้ไหมว่า ผลิตภัณฑ์นมหลายชนิดของ Vinamilk ครองส่วนแบ่งในสัดส่วนที่สูงในเวียดนาม เช่น
โยเกิร์ต 83%
นมข้น 79%
นมเหลว 59%
นมผง 42%
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Vinamilk มีความได้เปรียบในการทำธุรกิจคือ การที่บริษัททำธุรกิจผลิตนมและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับนม ครอบคลุม “ต้นน้ำถึงปลายน้ำ” โดยเริ่มตั้งแต่
- มีฟาร์มโคนมของตัวเอง รวมไปถึงการทำสัญญาซื้อขายนมจากฟาร์มจากเครือข่ายเกษตรกร
- มีโรงงานผลิตเป็นของตนเองหลายแห่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ
- มีระบบกระจายสินค้าขนาดใหญ่ เพื่อช่วยให้วางขายได้หลายช่องทาง ตั้งแต่ร้านค้าปลีกดั้งเดิม ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ โรงแรม และร้านอาหาร
ปัจจุบัน สินค้าของบริษัทมีการส่งออกไปขายยังต่างประเทศถึง 55 ประเทศทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยด้วยที่ Vinamilk เริ่มเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2016
รายได้และกำไรของ Vinamilk
ปี 2018 รายได้ 73,600 ล้านบาท กำไร 14,300 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 79,000 ล้านบาท กำไร 14,800 ล้านบาท
ปี 2020 รายได้ 83,600 ล้านบาท กำไร 15,700 ล้านบาท
แม้ว่าปีที่ผ่านมา วิกฤติโควิด 19 จะทำให้เศรษฐกิจเวียดนามโตได้เพียง 2.9% ต่ำสุดในช่วงปี 2011-2020 แต่ทั้งรายได้และกำไรของบริษัทก็ยังสามารถเติบโตได้ประมาณ 6%
ซึ่งบริษัทก็ให้เหตุผลว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้บริโภคชาวเวียดนามให้ความใส่ใจต่อสุขภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงทำให้เริ่มหันมาบริโภคนมและโยเกิร์ตกันมากขึ้น
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ ในปี 2019 ข้อมูลจาก Euromonitor ระบุว่าเวียดนาม เป็นประเทศที่คนบริโภคนมยังถือว่าอยู่ในอัตราต่ำ เมื่อเทียบกับอีกหลายประเทศ
- คนเกาหลีใต้ บริโภคนม 42.5 กิโลกรัมต่อคนต่อปี
- คนไทย บริโภคนม 33.5 กิโลกรัมต่อคนต่อปี
- คนมาเลเซีย บริโภคนม 25.7 กิโลกรัมต่อคนต่อปี
- คนจีน บริโภคนม 22.3 กิโลกรัมต่อคนต่อปี
- คนเวียดนาม บริโภคนม 21.8 กิโลกรัมต่อคนต่อปี
นอกจากนี้ อีกกุญแจดอกสำคัญที่ทำให้นักลงทุนหลายคนเชื่อว่าธุรกิจของ Vinamilk มีโอกาสเติบโต เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศที่คาดว่ายังเติบโตในระดับสูง
โดยข้อมูลจากธนาคารโลกระบุว่า เศรษฐกิจของเวียดนามจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 6.5-7.5% ต่อปี ตั้งแต่ปัจจุบันไปจนถึงปี 2030
เมื่อรวมกับการที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับ
การดื่มและทานสิ่งที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ
และตลาดผู้บริโภคของเวียดนาม ที่มีประชากรมากถึง 98 ล้านคน
ธุรกิจผลิตนมของ Vinamilk ก็ดูจะมีโอกาสให้เติบโต ได้อีกไม่น้อย
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
ในปี 2015 มูลค่าบริษัท Vinamilk เท่ากับ 127,000 ล้านบาท ขณะที่ปัจจุบัน มูลค่าบริษัทของ Vinamilk เพิ่มขึ้นมาเป็น 250,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นมาเกือบ 1 เท่าตัว
ทำให้ไม่เพียงแต่ Vinamilk ถือเป็นหนึ่งในบริษัทจดทะเบียน ที่มีขนาดใหญ่รายหนึ่งในตลาดหุ้นเวียดนาม
แต่ยังใหญ่กว่าหุ้นของบริษัท CPF ที่มีมูลค่า 220,000 ล้านบาท ในวันนี้..
หมายเหตุ: บทความนี้ไม่ได้ชี้นำให้ซื้อหุ้นตัวนี้ การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.vinamilk.com.vn/en/investor-relations
-https://pitchbook.com/profiles/company/51388-93
-https://www.statista.com/statistics/1116885/vinamilk-market-share-of-dairy-products-by-type/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Vinamilk
-https://en.wikipedia.org/wiki/Jardine_Cycle_%26_Carriage
-https://forbesthailand.com/world/asia/%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%B8%A3.html
-https://www.macrotrends.net/countries/VNM/vietnam/population-growth-rate
-https://www.worldometers.info/world-population/vietnam-population/
countries by population 在 國立臺灣大學 National Taiwan University Facebook 的最讚貼文
【國立臺灣大學 109學年度畢業典禮 貴賓致詞】
Commencement Address, National Taiwan University Commencement 2021
.
巨大集團 羅祥安前執行長
Giant Group Former CEO Anthony Lo
管校長,羅副校長,各位貴賓,畢業生的家長跟朋友們,還有今天最重要的2021年臺大的畢業生,大家早安、大家好!
首先恭喜你們,今天從全世界最優秀大學之一的臺灣大學畢業了!
在過去幾年,在管校長,以「大學教改」和「國際化」的理念,率領全體師生的努力之下,臺大在全世界的能見度,和各項排名,都有顯著的進步,也讓身為校友的我們倍感光榮。
是不是我們大家一起鼓掌,給自己鼓勵一下好不好!
你們今天剛剛畢業,但是你們已經創造了臺大一項新的紀錄:第一次,沒有傳統畢業典禮的畢業生。這將是你們人生一個非常特別的回憶,也預表了你們未來將會有與眾不同的表現,和非凡的成就。
現在的世界,局勢是在東方跟西方的勢力,彼此對抗而動盪不安。而全世界的經濟活動,也因為科技的突破性創新,而受到很大的影響。不盡理想的、不盡公平的全球化,也將逐漸地變成 全球在地化。而COVID-19肆虐全球的結果,使得臺灣跟全世界,大家的生活型態、社會的結構、經濟活動的節奏都被打亂了,而必須要加以全面的整理跟重新的架構。這當然是一個危機,但是更是一個絕好的機會。所以,將你們迎面而來的,是無數的創新的機會,以及冒險卻令人興奮的全新挑戰。
因為臺灣,這是第一次跟全世界各個國家,同步的站在一個嶄新的共同起跑點上面。所以我要恭喜你們,你們躬逢其會,將要進入一個充滿希望、嶄新的時代。
我是1969年從臺大畢業的,所以我想今天就以我畢業之後的50多年,人生的一些學習和體會,來跟諸位分享,給諸位作個參考。
當我大學畢業的時候,我滿懷抱負,迫不及待地想要大展身手,我當時進入臺灣最大的貿易公司工作,但是我發現我所學的很多東西,只有一些國際貿易的實務跟英文有用,至於其他我所學習到的經營管理的很多知識,恐怕都要等到10年、20年之後,如果我有幸當上高級主管才能派上用場。
更諷刺的是,我是商學系畢業的,但是工作兩年後,我發現我真的不喜歡做商人,我也不喜歡做生意,我有興趣的是做事業。
後來,幸好我有聆聽我心裡面的微弱的聲音,決定踏進自行車業,放棄掉台北最好的貿易公司的金飯碗,而去參加在大甲一個只有38個人的小公司,來追求我的夢想。
那時候許多人認為我腦筋有問題,頭殼壞去,但現在回顧回來,我當時是做了人生一個非常好的決定。
創業的過程飽受艱辛,但是我也學到了很多寶貴的經驗:我首先學到的,是在做事之前,必須要先學做人。
人必須要誠信踏實,不能自私自利,而要利他共好。
要隨時心存感恩,尊重、關切別人。要熱愛這個世界,並且要了解到一個人的能力是有限的,而必須要去建立互信、互助的人際關係;要融入群體、要發揮團隊的精神。
在做事方面,一定要以正面積極的態度,認真努力去工作。 而且不要怕失敗,要勇於接受新的挑戰。因為如果有失敗了,那只是代表說你又更靠近成功一步了。要作中學,學中作,要虛心好奇的終身學習,開拓挑戰、追求卓越。
在這裡,我想要送給大家一個很特別的畢業禮物,就是兩個「成功的錦囊」。
第一個錦囊:不管你做什麼工作,不論你職務的高低,永遠都要站在顧客的立場,來為他們設想,還能做什麼,讓他們能夠得到更多的創新價值。
第二個錦囊:無論作什麼工作,不管你職務的高低,永遠都要站在經營者的角度來為公司設想,要做什麼,才能讓公司更健康,永續經營跟發展。
既使你們把我後面講的很多東西都忘記了,沒關係,但是這個畢業禮物你們一定要記得帶回去,因為這些「同理心」的兩個錦囊,在未來會給你們帶來意想不到的祝福!
其次我體會到,名跟利都是副產品。正產品是你成為什麼樣的人,成就什麼樣的事。當正產品是對的時候,名跟利都自然會來。
所以我鼓勵大家在找工作的時候,不要太計較開始的薪水和待遇。因為事實上,一個新人,在前面三年是很難有大的貢獻的,反過來只是公司發薪水來給你培訓而已。所以選擇一個有意義的行業,找一家你可以學習進步的好公司,這才是重要的。
第三,我學習到 知識不等於智慧。諸位都學有專精,有很多寶貴的知識,但這些知識必須要實際去做才能夠產生經驗,而累積的時候會有不同經驗的反省、學習、跟體會,尤其是從那些失敗的經 驗,才能夠漸漸地凝結成有用的智慧。
我的成長過程分成三段,開始我是一個「I」型的人,我擁有一些經營管理的基本的能力。後來因為工作的需要和我的好奇心,我漸漸地學習到技術開發、製造生產、品牌推廣、全球經營、以及行銷、服務等等寶貴的經驗,這樣漸漸地,我就形成一個「T」型的一個跨界的人才。但是到了我真正找到公司未來的使命跟方向,並且把它跟我的人生目標結合在一起,熱情的、積極去推動的時候,那時候我終於成為一個「十字架」型的一個領導者。
當公司發展得比較穩定之後,我就面臨要如何來替公司規劃願景、使命、定位,跟長期策略。在這個階段,我有一些新的體會:首先,你必須要能夠畫出一個「黃金正三角形」,正三角形是最穩定的,上面是戰略,中間是戰術,下面是戰鬥。先要有正確的戰略,才能衍伸出有效的戰術,再根據這個戰術去貫徹戰鬥的執行。換言之,戰略就是做對的事情,戰術就是對的方法,戰鬥就是用對的方法去把事情做對做好,並且不斷地去持續改善。
想要能夠思考出長期的戰略,就必須要有洞察力。
我很喜歡看地球儀,就是那種在一個架子上面,有一個可以轉動的地球模型。當你把地球轉動的時候,你看到上面每一個地方、每一個國家,它的地理位置、它的自然生態,以及你思考它的歷史的演變跟它的發展,這樣子你就能夠得出一個整體的,跟全方位的一個概念。
在思考長期戰略的時候,很不容易得出一個有突破性的一個創見,它的原因往往是因為「當局者迷」的關係。
所以當我考慮長期戰略的時候,我會把自己設想,好像從一個人造衛星上面,來觀看一個轉動的地球。以宇宙格局的高度,以全球視野的廣度,以歷史演進的長度,這樣子你就能夠以一個「旁觀者清」的姿態和角度,來正面、反面深入思考,這樣子你就可能得到一個突破性的一個解答。「世界的捷安特」跟「全球在地化」的品牌經營—這樣子的策略、願景就是這樣產生的。
另外一種洞察力,是如何推出給人們有創新價值的產品跟服務。這就要時時地站在人文跟科技的十字路口,仔細觀察它們的變化,然後活用科技的進步,為人文潛在的需求,適時地提供最佳的解決方案。捷安特的Cycling世界,就是用這種方法,不斷的推出創新價值的產品。
我們在經營上也有發展出一個特別的理念,那就是「不求第一,要作惟一」。全世界的人這麼多,但沒有兩個人的指紋是一樣的, 所以每一個人都是獨一無二、都是惟一的。可見當上帝造每一個人的時候,祂都有衪特別的計劃,而且也把成功所需要的能力跟要素,已經放在你的心中,等待你取用。所以每一個人不應該只是模仿別人,或者是按照別人的期望來生活,而應該要找出並且發揮自己的天賦,真正做自己,成為惟一,才能夠活出精采的生命。
企業也是一樣,不能隨波逐流,必須要找出什麼才是對的,什麼是合適你的,什麼才是有意義、對這個世界有貢獻的,這個才是惟一。當你精益求精,努力的想要成為惟一的時侯,你才能夠找到真正正確的目標,以及永續生存的價值。如果事事都想為第一,那麼你可能去追求很多不切實際的目標,而被你無法承受的巨大壓力所摧毀。或者,因為不擇手段,最後走上一些錯誤的道路。
在長期追求惟一的過程當中,我也得到兩個重要的體會:當你決心做一件對的事情,而且不屈不撓,勇敢堅持奮鬥的時候,全宇宙的力量都會起來幫助你。另外,把一件有意義的事情,用生命的力量把它作好,你就有可能改變這個世界!
我鼓勵你們,聆聽你們內心深處的微小的聲音,讓它引導你們,去尋找到你們的天賦,了解你們的命定。
不求第一,要作惟一。做你真正的自己,成為惟一。活出你精彩的生命,享受你幸福的人生!
很多人說,生長在臺灣的人,一輩子裡面一定要完成三項挑戰:登玉山、泳渡日月潭、還有騎自行車環島。我覺得這非常有道理。所以我建議大家在畢業以後,在去當兵、就業之前,不妨參加一個自行車環島的旅行團,用九天的時間,仔細的去體會、欣賞寶島臺灣的美好,用自行車的輪胎去親吻,這塊生你長你的美麗大地,就當作是送給你自己的一個畢業禮物吧!
那教授們跟家長們,可能會想說,啊!太可惜了,我畢業的時候沒有騎自行車環島,我現在已經五六十歲了。沒關係,你這個年紀正好來從事人生的壯遊。
我們臺大的校長-管校長,在今年的一月份,就勇敢的完成他夢寐以求的自行車環島的壯遊。我們給管爺一個掌聲好不好?
有人認為臺灣很小、沒有前途,真的是這樣嗎?世界經濟論壇每年都要把全世界的國家的實力做一個調查跟排名。讓我們來看一下臺灣的排名。全世界有235個國家,就面積來講,我們排名第137;就人口來講,第57;就經濟體來講,第21;就整體競爭力來講,排名第11;而創新力,臺灣排名第4。沒錯,臺灣的確不大,但是我們很強,我們可以很有前途!
可預見的,未來的世界將會成為美、歐、亞三區鼎力的這個新局面。就像三個圓圈,各自都以自己的利益為優先,並且彼此長期的競爭、對抗和抵制,但是同時又不得不相互的維持一些必要的連結。而在每一個圈裡面,它將持續的有很多劇烈的改變,就像一個暴風圈一樣。而這三個暴風圈連結在一起,就形成一個所謂完全風暴PERFECT STORM。
最近經濟學人雜誌,把臺灣當作封面,稱臺灣為地球上最危險的地方,但同時又是科技業最關鍵的地方。我個人倒認為,未來臺灣可能是處在一個最有利的地位,就在那三個暴風圈中間的那個颱風眼,也就是這三個圈圈彼此連結交會的中心點。這個地方看起來好像危險,其實是最安全、最有利、又是最關鍵的地方。
當三個暴風圈無可避免的,參與在一個長期的競爭、對抗、跟抵制-這樣一個零和的賽局裡面。那臺灣並不屬於任何一個圈圈,也不需要去參與這些競爭、對抗跟抵制。而可以去想說,我可以在這個關鍵的中心點,替這個世界來提供什麼樣子的創新價值的貢獻。
臺灣過去50年的努力累積了很多技術開發、製造管理、金融資本,社會資源,以及民主法治體制,這些稀有而寶貴的實力。而且如果以全世界作為舞台,那麼,能夠精通中文跟英文、能夠深切的了解東方西方的文化;有專業,又能跨界,謙卑而不自卑,自信而不自大的臺灣人,可能是全世界最優秀的人才。
未來無法被預測,但是可以被創造!30年前,有誰能夠預測到說臺灣會產生世界級的台積電跟捷安特?
台積電秉持著作惟一的理念,以全球晶圓代工的戰略,厚植實力,打造了優質高效的供應鏈,把臺灣變成一個科技島。以臺灣為核心,轉動引領全世界的半導體市場。
捷安特也秉持著作惟一的理念,以世界的捷安特,全球在地化的品牌戰略,帶領A-Team把臺灣變成全世界高級車的中心,又積極的推動Cycling的新文化,把臺灣發展成一個自行車島,以臺灣為核心,轉動引領全世界自行車的市場。
在這裡我也期許我們臺大,也能夠以作惟一這樣子的理念,轉動引領世界,變成全世界最優秀人才培養的最佳搖籃。
未來的50年,臺灣將迎來前所未有最大的機運!所以臺灣是不是應該要脫離過去單純競爭的心態,而來積極的謀求長期的未來生存之道,或者更進一步要問自己:臺灣可以為世界貢獻些什麼?臺灣不應該只是消極的「根留臺灣」,而應該更主動積極的「放眼全球、立足亞太、深根臺灣」。
臺灣過去的50年,那是一個非常艱辛跟特別的階段。很慶幸的,臺灣在那個階段裡面,是屬於勝利的這一組。
現在是應該到了必須要了解過去、深入現在、策劃未來,這個重要關鍵的時刻。要如何的以宇宙格局的高度、以全球視野的廣度、以及歷史演進的長度,衡外情,量己力,來為臺灣重新的定位,重新畫一個正確的戰略、戰術、戰鬥的黃金三角形。讓臺灣能夠真正發揮自己的長處,能夠打造創新價值的優勢,成為惟一、做Only One!要能夠創造一個更安全、更廣闊、更興盛-全新的藍海。臺灣必須要成為世界的好公民,繼續的為全世界做更多、更好的貢獻!
2021的畢業生們,在你們當中有未來國家的領導人、有全球企業的創造者、有在社會各行各業、方方面面的核心人才,所以臺灣未來50年的未來,就掌握在你們手中了。
最後,我想用一位著名科學家的名言來作結尾: Life is like riding a bicycle. To keep your balance, you must keep moving. 人生就像騎自行車,要保持你平衡最好的方法,就是繼續不斷地向前進。
你知道這是誰的名言嗎? 沒錯,就是愛因斯坦!
2021的畢業生們,請你騎上你人生的自行車,勇敢的向前邁進,去開創你獨一無二、精彩無比的新生命跟未來。再一次,恭喜你們,並且祝福你們每一位,將來都能夠有健康、幸福、精彩跟有意義的人生!
謝謝!
.
==============================
.
President Kuan, Executive Vice President Luo, Distinguished guests, family, friends, and most importantly, the graduating class of 2021, good morning!
First of all, congratulations! Today, you are graduating from one of the best universities in the world – National Taiwan University!
Over the last few years, President Kuan led the university forward with his vision of “educational reform” and internationalization”. Together with all the faculty and students, NTU has made significant progress in both ranking and global visibility, making us, alumni, extremely proud.
I think we deserve to give ourselves a round of applause!
You are the graduating class of 2021 and already, you have set a new record for NTU: For the first time, there will not be a traditional graduation ceremony. Let this be a very special memory of your life and a sign of the difference you will make in your future with extraordinary achievements.
The world is now in a volatile state where the East and the West are confronting each other. The world’s economic activities are also greatly affected by the breakthrough and innovations in technology. The less-than-ideal and less-than fair globalization will gradually become global localization. And as a result of COVID-19, Taiwan and the rest of the world’s lifestyle, social structure, and economy have been disrupted, and must be comprehensively reorganized and restructured. This is certainly a crisis, but in the midst of every crisis, lies great opportunity. So, what lies before you are countless opportunities for innovation, and exciting new challenges.
Because, for the first time, Taiwan is standing with the rest of the world on a new race-track. Therefore, I would like to congratulate you, you are entering a new era full of hope.
I graduated from NTU in 1969. It has been more than 50 years and today, I would like to share some of my life experiences and insights.
When I graduated from college, I was filled with ambition. I couldn’t wait to make my mark. I joined one of the largest trading companies in Taiwan, where I quickly realized the only materials I learned in school that came in handy are a little bit of international trade practices and English. Much of what I had learned about business management would only be relevant 10 or 20 years down the road, if I was lucky enough to become a senior executive.
What’s even more ironic is that I graduated with a degree in business, but after working for 2 years, I realize I really don’t like being a businessman, and I don’t like doing business. What I am actually interested in is building an enterprise.
Fortunately, I chose to listen to the faint voice in my heart and decided to enter the bicycle industry. I left my position at the best trading company in Taipei to join a small company with only 38 employees in Dajia to pursue my dream.
At the time, many people thought I must’ve broken my skull and gone crazy, but looking back, I have made a great decision in my life.
The process of starting my own enterprise has been very difficult, but I have learned many valuable lessons. The first thing I learned is that before you can do anything else, you have to learn to be a person of good character.
We must be honest, down to earth, selfless, self-serving, and altruistic for the common good.
Be grateful, respectful and caring at all times. To love the world and to understand that one person’s ability is limited and that is necessary to build interpersonal relationships of mutual trust and support; to be part of a group and to play as a team.
When it comes to work, you must work hard with a positive attitude. And don’t be afraid to fail, be brave enough to accept new challenges. Because every time you fail, it just means you are one step closer to success. Learning is an active process. We learn by doing. We must stay open-minded and curious, aspiring to lifelong learning; to explore challenges and pursue excellence.
Here I would like to give everyone a special graduation gift, which are my two tips for success:
First, always put yourself in the customer’s shoes, regardless of what you’re doing or what kind of job title you hold. Think for them, think about what else you can do to create more value for the customers.
Second, regardless of what you’re doing or what kind of job title you hold, always think about the company from the proprietor’s point of view; what can we do to build a healthier company that’s sustainable.
Even if you are going to forget everything I say later, that’ ok. Just remember to take your graduation gift at heart, because these two tips on “empathy “are sure to bring you unexpected blessings in the future!
Later on, I realized that fame and money are merely byproducts. The real product is you, what kind of person you have become and what have you achieved. When the real product is identified, fame and money will come naturally.
So I encourage you, when you look for a job, don’t be too concerned about the starting salary and benefits. Because as a matter of fact, as a newcomer, it is very difficult to make a big contribution in the first three years, so really the company is paying to give you training instead. So choose a meaningful industry and find a good company where you can improve and grow, that’s what’s important.
Thirdly, I learned that knowledge is not the same as wisdom. All of you have learned a lot and have a lot of valuable knowledge, but this knowledge must be practiced in order to produce experience, and in the process of accumulation, there will be different experiences of reflection, learning and empathy, especially from failure, slowly and surely all these experiences will be condensed into useful wisdom.
My personal development can be divided into three stages. I began as a I-shaped person with some basic skills in business management. Later on, due to my job and curiosity, I gained respected experience in technology development, manufacturing, branding, global marketing, and service and thus gradually becoming a T-shape multidisciplinary professional.
However, when I combined the future mission and direction of the company with my life goals, promoting it enthusiastically and actively, that is when I finally became a X-shape transdisciplinary leader.
Once the company became more stable, I was faced with the challenge of planning the vision, mission, positioning, and long-term strategy for the company. At this stage, I had some new insights.
First, you must be able to draw a “golden triangle”, an equilateral triangle is the most stable shape with strategy on top, tactics in the middle, and operations at the bottom. In other words, the strategy is to do the right thing, the tactics is the using the right methods, and operations is using the right methods to excel on doing the right things while constantly improving them.
To develop long-term strategies, it is necessary to have insight.
I enjoy looking at the globe, yes, the spherical model of Earth that sits on a stand and can be rotated. When you rotate the globe, you can see every place and country on it, its geographical location, its natural ecology, and you can think about its historical evolution and development, so that you can come up with an overall comprehensive concept.
When thinking about long-term strategy, it is not easy to come up with a groundbreaking idea, because “men are often blind in their own cause”
Therefore, when I think about long-term strategy, I imagine myself as if I were looking at a rotating Earth from a man-made satellite. With the height of the universe, the breadth of global vision and the length of historical evolution, you will be able think about it from the perspective of an observer, and then you may have a breakthrough. This is how the strategy and vision of “GIANT for the World” and “glocalization” brand management came about.
Another kind of insight is how to introduce the products and services to create additional value to people. This requires standing at the crossroads of humanity and technology, observing their changes carefully, and then using technological advances to provide the best solutions for the potential needs of humanity in a timely manner. This is how GIANT’s Cycling World continues to introduce innovative values to its products.
We have also developed a special philosophy in our business, which is “don’t be the first one, be the only one”. There are so many people in the world, but no two people share the same fingerprints, making each person unique and one of a kind. God created each person with purpose and has gifted us with the abilities and elements needed for success. All of which is in your heart, waiting for you to take them. Therefore, we should not just follow each other’s footstep or live under the expectations of someone else. Instead, we should find and give reigns to our talents, to truly be ourselves, to become the only one and live a brilliant life.
The same applies to businesses, you can’t just go with the flow, we must find what is right and suitable and what is meaningful and contributive to the world, this is what it means to be the only one. When you strive for excellence and strive to be the only one, you will find the right goals and the value of sustainability. If you try to be first in everything, you may pursue many unrealistic goals and either be destroyed by unbearable pressure or resort to doing whatever it takes, and end up on the wrong path.
I have learned two important lessons in my long quest to be the “only one”. When you are determined to do the right thing and you are unyielding and persistent in your struggle, the power of the universe will rise up and help you. In addition, if you do something meaningful and do it well with the power of life, you may change the world.
I urge you to listen to the small voice deep within you and let it guide you to find your talents and understand your destiny.
Do not seek to be the first but to be the only. Be true to yourself and be the only one. Live your life to the fullest and enjoy your life to the fullest!
Many people say that growing up in Taiwan, you must complete three challenges in your lifetime: climb to the top of Jade Mountain, swim across Sun Moon Lake, and ride a bike around the island. I think this is very true. Therefore, I suggest that after graduation, before you go to the military or get a job, you might as well join a bicycle tour around the island and spend nine days to carefully experience and appreciate the beauty of Taiwan. As a graduation gift to yourself, let the tires kiss the beautiful land where you were born and raised.
All the professors and parents must be thinking in regret, “Ah! Too bad! I didn’t ride my bike around the island when I graduated and now I’m already in my 50s and 60s…” But that’s okay! You are actually at the perfect age to start your adventurous life.
Our President of NTU, President Kuan bravely completed his dream bike tour around the island in January this year. Let’s give President Kuan a round of applause!
Some people think that Taiwan is small and has no future. Every year, the World Economic Forum conducts a survey and ranking of the strength of countries around the world. Let’s take a look at Taiwan’s ranking. There are 235 countries in the world and we rank 137th in terms of landmass, 57th in terms of population, 21st in terms of economy, 11th in terms of overall competitiveness, and 4th in terms of innovation. It’s true that Taiwan is not big, but we are strong and we have a promising future.
In the foreseeable future there will become a new situation in which the United States, Europe and Asia will be the three focal regions. Just like three circles, each of which prioritizes its own interests and is in long-term competition, confrontation and resistance, but at the same time has to maintain some necessary links with each other. And in each circle, drastic changes will be endless, just like a storm circle. These three storm circles are linked together to form a so-called PERFECT STORM.
The Economist magazine recently featured Taiwan on its cover, calling it the most dangerous place on earth, but at the same time the most critical place for the technology industry. Personally, I think that Taiwan may be in the most favorable position in the future, right in the middle of the three storm circles, the eye of the typhoon, which is the center point where these three circles are connected. This place seems dangerous, but in fact it is the safest, most favorable, and most critical place.
When the three storm circles are inevitably involved in a long-term competition, confrontation, and boycott - a zero-sum game. Taiwan does not belong to any of these circles, nor does it need to participate in these competitions, confrontations, and boycotts. Instead, situated in this critical position, I should begin to think about what kind of innovative value I can provide to the world.
Taiwan's efforts over the past 50 years have accumulated many rare and valuable strengths in technology development, manufacturing management, financial capital, social resources, and the democratic rule of law system. If the world is our stage, Taiwanese people who are proficient in Chinese and English, who have a deep understanding of Eastern and Western cultures, who are professional, who can cross borders, who are humble but not inferior, and who are confident but not arrogant, may be the best talents in the world.
The future cannot be predicted, but it can be created! 30 years ago, who could have predicted that Taiwan would produce globally renowned TSMC and GIANT?
TSMC is committed to the concept of being the only one, and has built up its strengths with its global foundry strategy, creating a high-quality and efficient supply chain and turning Taiwan into a technology island. With Taiwan as the core, TSMC is leading the worldwide semiconductor market.
GIANT also upholds the concept of "Be the only one" and leads the A-Team to turn Taiwan into the center of the world's premium bikes with the brand strategy of globalization and localization, and actively promotes the new culture of cycling, developing Taiwan into a cycling island and leading the world's cycling market with Taiwan as the core.
Here I also hope that we, NTU, can also lead the world with the concept of being the only one, and become the best cradle for the cultivation of the best talents in the world.
In the next 50 years, Taiwan will have the greatest opportunity ever! Therefore, Taiwan should get rid of the simple competitive mentality of the past and actively seek the long-term survival of the future, or go even further and ask itself: What can Taiwan contribute to the world? Taiwan should not just "secure Taiwan" in a conservative way, but should be more proactive with global outlook and establish a foothold in the Asia Pacific.
The last 50 years, for Taiwan, has been very difficult and significant. Fortunately, Taiwan pulled through and came out as one of the winners.
Now is the crucial moment to understand the past, delve into the present, and plan for the future. We must take the height of the universe, the breadth of our global vision, and the length of historical evolution, weigh the external situation, and measure our own strengths to reposition Taiwan and draw the golden triangle of strategy, tactics, and operations. Taiwan should be able to give full play to its strengths, create innovative value, and become the only one! Taiwan must become a good citizen of the world and continue to make more and better contributions to the world!
Graduates of 2021, among you are the future leaders of the country, the creators of global enterprises, and the core talents in all walks of life, the future is in your hands.
Finally, I would like to conclude with a quote from a famous scientist: Life is like riding a bicycle. To keep your balance, you must keep moving.
Do you know who this quote belongs to? That's right, Einstein!
Graduates of 2021, please get ready for your life adventure, get on your bikes and peddle courageously forward to create your own unique and exciting future. Again, congratulations and best wishes to each and every one of you for a healthy, happy, and meaningful life!
Thank you!
詳見:
https://www.facebook.com/NTUCommencement/posts/2718162161807541
.
#臺灣大學 #畢業典禮 #NTUCommencement2021 #貴賓致詞 #羅祥安
countries by population 在 王炳忠 Youtube 的最讚貼文
🔥支付寶打賞:13581883245
🔥王炳忠今日頭條:搜索「王炳忠台灣」
🔥王炳忠臉書粉專:https://www.facebook.com/bingzhong.wang
♦♦♦
The Real Threat to the US is the loss of self-confidence
──An Open Letter to Mr. Secretary Mike Pompeo
My name is Wang Ping-Chung, the spokesperson for the New Party, Taiwan’s political party. During the ongoing pandemic of the Covid-19, the enemy of all human beings, including the American people and Chinese people, is definitely the corona virus. However, as Secretary of State of the United States, you seem to consider China instead of the virus to be your enemy. It lets you do little in pandemic prevention but much in blaming the WHO and China. You have even made great efforts to politicalize the issue of public health in order to attack China, which reflects the United States’ prevailing concept of so-called China’s threat. Nevertheless, the real threat to the US is not China but the loss of self-confidence indeed.
As President Franklin Roosevelt once said, “Only thing we have to fear is the fear itself.” The threat you have to fear today is not other peoples but yourselves. Even though you have done your best to shift blames on the WHO and China, the fact is already clear of the US domestic misdiagnosed cases, which had been seen as H1N1 but in fact corona virus since last autumn. It is also your fault in underestimating the severity of the epidemic while China sacrificed itself to let the world have more preparation time. Accordingly, the Covid-19 has killed more than fifty thousand people in America. As China’s population is four times larger than the US, it is quite shocking that America’s death toll due to the Covid-19 has been above China’s.
I feel so sorry for the suffering of your people, yet it is never too late to mend. However, not only did you palm off the responsibility on others, but you also undermined international solidarity against the pandemic. Moreover, you even try to deny the status of the WHO as the coordinator for universal combat against diseases, which in some way means challenging the global institutions under the governance of the United Nations. It is so unbelievable that the United States, viewing itself as the world leader above half a century, is tending to destroy the world order recognized by the international society. The very reason I can think of is the loss of America’s self-confidence. It is the threat to both the US and the whole world.
For Liberalists in the United States, China has been believed either an opponent or a violator to international institutions. As far as it’s concerned, there had been debates whether to keep containing China economically and militarily or engaging it institutionally. Both were resulted from America’s confidence in its leadership. Consequently, the confidence gradually changed into arrogance, luring the United States into aggressions upon other countries as the global superpower without permission from the UN Security Council. It made America exhausted at last. Therefore, the United States has become an isolationist, and even a betrayer to the global institutions they established before. On the contrary, China seems more like a protector of the world order.
On the other hand, for Realists, the predominant thinkers in international politics, China has been seen as the primary rival to America. As they estimate there will be threat if any other regional hegemony occurs, the nation’s fear becomes beyond what its capability can hold. To some extent, this is the real crisis to your people. In fact, different from western nations developing themselves by oppressing and exploiting others, the Chinese people have risen out of poverty at the cost of blood, sweat, and tears of our own. I would like to remind you of Franklin Roosevelt’s self-evident words that nothing to fear but fear itself. The only threat you should conquer is the threat in your mind.
As Henry Kissinger has argued, relations between China and the United States need not – and should not – become a zero-sum game. He also suggested that China and America build a Pacific community with each other. Thinking in the same way, Chinese President Xi also claimed that the vast Pacific Ocean has enough space for the two large countries of China and the United States. Furthermore, I believe the world is large enough to embrace different political and social systems. As western liberalism in recent years has met difficulties in over-consumption and government failure, we should be more open-minded to the superiority of Chinese governance in some fields, especially the high efficiency in defeating the epidemic. The United States should also be more self-confident to have China rising under the global governance of international institutions, sharing with mutual benefits instead of destroying each other. Without doubt, only by doing so can the United States overcome the real threat and bring the world peace and prosperity, the real universal values for all mankind.
countries by population 在 阿滴英文 Youtube 的最讚貼文
Hello Internet, my name is Ray, I'm a YouTuber from Taiwan, and this is an open letter to the World Health Organization.
Dear WHO, I’m not sure if you’ve noticed, but a lot of your members have been voicing support for the inclusion of Taiwan in the WHO.
Since the novel coronavirus outbreak was designated as a global health emergency, core WHO members and their heads of state and officials, including Justin Trudeau, Shinzo Abe, 7 American senators, and the European Union (and more), have called on you to grant at the very least observer status to Taiwan. Having said that, I feel like as a Taiwanese citizen, it’s imperative that we also speak up for ourselves.
Disease knows no boundaries. Taiwan’s participation in the WHO is crucial not just to Taiwan but also to the world. A concerted, global effort is the only way to ensure the health and welfare of everyone. The coronavirus that began in Wuhan, China, has already spread to other regions and countries, excluding Taiwan could make it a "blind spot" in the international response to the disease.
Additionally, back in 2003, the SARS outbreak resulted in 73 lives taken in Taiwan. If we had been included in the WHO back then, we would’ve had better understanding of the virus and maybe, who knows, more lives could have been saved.
But we’re not just here playing the victim here, Taiwan can help. Taiwan’s healthcare system is lauded as among the best in the world, and our medical standards are generally on par with top global countries. The inclusion of Taiwan in world health assemblies and events would enable it to share its invaluable experiences in combating SARS, Ebola and other pandemics, helping countries around the world, including China. With our universal health coverage, health emergency response, and professional medical training, Taiwan can benefit the world.
Now you might say, Taiwan’s already represented by China in the WHO, but Taiwan’s geological separation and its independent disease control system and air traffic management provide further justification to why the WHO must take different approaches to Taiwan and China amid the coronavirus outbreak.
Also, given our proximity, Taiwan is at the very frontline battling this coronavirus from China, and we are skilled, determined, and equipped with past experiences combating different viruses. Excluding us is putting close to 24 million lives and the global population at risk.
As a Taiwanese, as a member of the global community, I am asking you on behalf of the world to include Taiwan. By allowing our participation in the WHO, you will be realizing the organization’s vision of health as a basic human right and health for all without exception. Thank you for your time.
-
大家好,我是阿滴,我是一名來自台灣的 YouTuber。這是給世界衛生組織的一封公開信。
親愛的世界衛生組織,不知道你們有沒有注意到,貴組織最近有越來越多成員在聲援台灣成為世衛的一分子。在新型冠狀病毒被列為全球衛生緊急事件後,世衛核心會員國的元首和官員們,包括加拿大總理杜魯道、日本首相安倍、七位美國參議員,和歐盟(以及其他代表)等等,皆紛紛站出來呼籲讓台灣至少能以觀察員的身份參與世界衛生組織。說到這裡,身為一個台灣人,我認為我們也必須站出來替自己發聲。
疾病的肆虐是無視國界的。台灣能否參與世界衛生組織不僅對我們重要,對全世界也很重要。全球團結一致、齊心協力,才能最有效的保障所有人的健康與福祉。從中國武漢開始的冠狀病毒疫情已擴散到其他地區與國家,將台灣排除在世界衛生組織外將造成國際上防疫的「盲點」。
此外,2003年爆發的SARS疫情,造成台灣失去了73條性命。如果我們當初有在世界衛生組織內,對於病毒就能有更深入的了解,而或許,就會有更多人因此得救了。
然而,我們並不是要博取同情,而是想讓世界知道台灣能幫上忙。台灣擁有全球最佳的健保制度,還有與其他先進國家並駕齊驅的醫療水準。如果讓台灣參與世界衛生組織,我們將有機會分享對抗SARS和其他流行疾病的寶貴經驗,進一步幫助世界各國,包括中國。透過我們的全民健康覆蓋、衛生應急響應,和專業的醫療訓練,台灣能幫助全世界。
不過,你可能會說,中國已經代表台灣參加世界衛生組織了。但是,台灣在地理位置的區隔下有獨立的疾病控管系統和航空交通管制,這說明了為什麼世界衛生組織在處理冠狀病毒的疫情時更應該對台灣和中國採取不同的應對方式。
同時,台灣跟中國就在隔壁,台灣站在對抗新型冠狀病毒的最前線,且我們有能力、有決心,也有對抗不同病毒的豐富經驗。將我們排除在外,即代表忽視將近2400萬的台灣人民與全球人口的生命安全。
身為一個台灣人、同時也是全球人民的一分子,我向你們請求讓台灣加入世界衛生組織。讓我們參與,即是實踐貴組織的願景:健康是基本人權,沒有人該被排除在外。謝謝你們的時間。
-
Behind the Scenes
https://youtu.be/-I6Co7q2wvA
References
http://www9.who.int/about/mission/en/
https://www.mofa.gov.tw/en/News_Content3.aspx?n=E641F7FF2AE058A1&sms=49FF69F409088525&s=E2EAB62FC6165C63&fbclid=IwAR1CAuYHEUWFQBCnC5E7zfRKnh6sR7E_Ir0qgfuT0TBHkJ6e_7XxkgZQAZk
https://www.youtube.com/watch?v=e_WRJzk22pE
Video credits
Script revision: Eric's English Lounge
Pronunciation revision: Columbus
Sound effects & mix: DJ Hauer
countries by population 在 lifeintaiwan Youtube 的精選貼文
After reading a very interesting report which ranked countries from around the world on how stressed they are, I was not shocked to discover Taiwan's position in the world's rankings! In this video I discuss the results of the survey, why I think this is the case and what it means for the health of the Taiwanese population!
#stress #壓力 #台灣
去看看我的Patreon,您可以幫助支持該頻道並訪問一些令人驚嘆的VVVIP附加功能:
https://www.patreon.com/lifeintaiwan2017
Check out my Patreon where you can help support the channel and access some AWESOME VVVIP Extra Features:
https://www.patreon.com/lifeintaiwan2017
Subscribe! 訂閱吧 ---- : https://www.youtube.com/c/lifeintaiwan
Facebook/FB ---- : https://www.facebook.com/lifeintaiwan2017
Instagram/IG ---- : https://www.instagram.com/lifeintaiwan2017
看其他的影片:
Check out some other videos:
台灣VS中國
https://youtu.be/L1FDjHDIXtI
與黑素斯一起泡餅乾 BISCUIT dunking with JESUS!!
https://www.youtube.com/watch?v=SeJgp6KvmvY
台灣的外國人吃3種米血! I EAT 3 kinds of PIG's BLOOD cake!
https://www.youtube.com/watch?v=mjWRxvltJdw&t=5s
外國人在台灣吃傳統壽司 BEST SUSHI in 台灣
https://www.youtube.com/watch?v=AfutAW6k7DE&t=171s
台灣的最好吃美式早餐 ! Best AMERICAN Breakfast in TAIWAN???
https://www.youtube.com/watch?v=6TpH1Cu_-10&t=334s
拍攝景點:
Shooting Location:
臺中市孔廟,北區,台中市
Confucius Temple, North District, Taichung City
送給我信吧!Send me something interesting!
404台中市北區漢口路四段196號
196 Hankou Road, Section 4, Taichung City, TAIWAN 404
音樂:
Music:
KSMK - Just my imagination (Vlog No Copyright Music)
Music provided by Vlog No Copyright Music.
Video Link: https://youtu.be/5v_zQANhToo
countries by population 在 Top 20 Countries by Population (1950 to 2100) 的推薦與評價
... <看更多>