關於 demolition man ，我們在網路上蒐集到這些相關的討論、資訊與評價

Speed (7.5/10)
มาพูดถึงหนังเรื่อง Speed กันหลังหนังฉายไปแล้ว ผู้คนคงจะจดจำแต่ความสำเร็จและความสนุกของหนัง แต่ถ้าพูดถึง Speed เมื่อตอนก่อนออกฉายแล้วคงจะมีแต่ประเด็นว่าหนังแบบนี้จะไปรอดเหรอ ขนาดสตูดิโอ Paramount ที่ได้สคริปต์มาในปี 1992 ยังปฏิเสธที่จะทำเป็นหนังเพราะคิดว่ามันคงไม่เวิร์ค ซึ่งทำให้สตูดิโอ 20th Century Fox เอามาทำต่อเอง แต่พอเอาไปเสนอผู้กำกับดัง ๆ ในยุคนั้นอย่าง 'จอห์น แมคเทียร์แนน' ที่ประสบความสำเร็จต่อเนื่องมาจาก Predator, Die Hard, The Hunt for Red October แต่มาเจ๊งกับ Last Action Hero ก็ยังโดนปฏิเสธ ตอนนั้นสตูดิโอเลยล้มเลิกความคิดจะเอาผู้กำกับดังมาทำหนังแล้วไปหาผู้กำกับหน้าใหม่เอาก็ได้ มองซ้ายมองขวาไม่เห็นใครสักคน สุดท้ายสงสัยอยากได้กลิ่นอายความเป็นหนังแอ็คชั่นแบบ Die Hard เลยไปเลื่อนขั้นเอา 'แจน เดอ บอนต์' ผู้กำกับภาพในหนังของจอห์น แมคเทียร์แนนมากำกับหนังซะเลย ซึ่งตอนนั้นเขาก็คุ้นเคยกับหนังแอ็คชั่นอยู่พอตัวเพราะเป็นคนกำกับภาพทั้ง Die Hard, The Hunt for Red October, รวมถึง Black Rain กับ Lethal Weapon 3 ด้วย
-------------------------------

ได้ตัวผู้กำกับมาแล้วก็ถึงคิวการหานักแสดง ในเมื่อหนังขายชื่อผู้กำกับไม่ได้ก็ขอขายชื่อนักแสดงนำชายละกัน ตอนนั้นสตูดิโอเลยเล็งไปแต่ตัวเป้ง ๆ ไล่ตั้งแต่ ทอม แฮงค์ส, ทอม ครูซ, ไมเคิล คีตัน ตอนนั้นเป็นแบทแมน, จอห์นนี่ เดปป์, แฮร์ริสัน ฟอร์ด, เมล กิ๊บสัน, กระทั่ง อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ กับซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ยังได้รับการทาบทามแต่พวกเขาล้วนปฏิเสธบทกันมา พอสตูดิโอไปหาตัวรอง ๆ ที่ตอนนั้นยังไม่ดังมากอย่างพวกแบรด พิตต์, จอร์จ คลูนี่ย์, นิโคลัส เคจ, มิกกี้ รู้ค, จอห์น ทราโวลต้า ก็ไม่มีใครเอาสักคน สุดท้ายผู้กำกับเลยเสนอไปว่าเอา 'คีอานู รีฟส์' ไหมล่ะ ผมเคยเห็นเขาเล่น Point Break (1991) แล้วโอเคเลยนะ เขาดูเป็นมิตรสำหรับผู้ชายด้วยกันแถมยังหน้าดีในสายตาสาว ๆ ด้วย
.
แต่พอสตูดิโอติดต่อคีอานู รีฟส์ปุ๊บ เจ้าตัวอ่านบทแล้วปฏิเสธปั๊บ เหตุผลง่าย ๆ เลยคืออ่านสคริปต์ตอนแรกแล้วทำไมมันคล้าย Die Hard ขนาดนี้ จะให้เล่นเป็นบรูซ วิลลิสคนที่สองเหรอไง ตอนนั้นบอนต์คงคิดเหมือนกันเลยไปดึงตัวนักแก้บทมือวางอันดับต้น ๆ ของฮอลลีวูดอย่าง 'จอส วีดอน' มาแก้บทซะเลย ซึ่งพอคีอานู รีฟส์ได้ยินเช่นนั้นจึงตกลงเล่นหนังทันที ซึ่งหลัก ๆ แล้ววีดอนเข้ามาแก้ไดอะล็อกในหนังเกือบทั้งหมด แต่ว่าไม่ได้ขึ้นเครดิตเป็นคนเขียนบทหนังแต่อย่างใด (เอาแต่เงินไม่เอาหน้าจ้า)
.
อย่างไรก็ตามพอสตูดิโอเห็นคีอานู รีฟส์เป็นนำชายเดี่ยว ๆ แล้วกลัวจะไม่รอดเหลือเกิน เพราะว่ากันตามจริงแล้วในเวลานั้นเขายังเป็นนักแสดงค่อนไปทางไม่มีชื่อเสียงอยู่เลย สตูดิโอเลยเสนอไปว่าจะหานักแสดงหญิงดัง ๆ มาประกบซะหน่อยจะได้พอขายได้บ้าง แต่ผู้กำกับอย่างบอนต์ยืนกรานหนักแน่นว่าไม่เอา(โว้ย) เถียงกันอยู่นานจนในที่สุดสตูดิโอยอมอ่อนข้อให้(แต่นึกในใจว่าตูคนออกเงินนะ) แล้วก็ไปมองหานักแสดงหญิงไม่ค่อยดังเท่าไร ในตอนแรกพวกเขาเลือก 'ฮัลลี่ เบอร์รี่' ที่เริ่มถูกจับตามองจากบททาสในละครโทรทัศน์ขนาดสั้นเรื่อง Queen แต่เธอตอบปฏิเสธกลับมา โดยภายหลังที่ Speed ออกฉายแล้วประสบความสำเร็จอย่างดีก็มีคนไปถามเธอว่าเสียใจไหมที่ปฏิเสธหนังดัง ซึ่งเธอไม่เสียใจเลยพร้อมกับบอกว่าถ้าเธอแสดงหนังคงไม่ประสบความสำเร็จแบบนี้ เพราะบทเธอคงกลายเป็นแค่คนขับรถบัสผิวดำเท่านั้น
.
ในตอนนั้นสตูดิโอก็เริ่มหานักแสดงหญิงคนอื่น ๆ ไปด้วย มีทั้งโจแอน คูแซ็ค, เจนนิเฟอร์ เจสัน ลีห์, ชารอน สโตน (ตอนนั้นมี Basic Instinct), เดมี มัวร์ (Ghost), เด็บบรา วิงเกอร์ แต่สุดท้ายสตูดิโอเลือกเบนเข็มไปหา 'แซนดร้า บูลล็อค' ที่เวลานั้นมีผลงานเด่น ๆ เป็นบทสมทบในหนังไซไฟแอ็คชั่นเรื่อง Demolition Man ซึ่งก็ได้ตัวบูลล็อคมากระชั้นชิดมาก ๆ เพราะอีกแค่ 2 สัปดาห์ก็จะเปิดกองถ่ายหนังอยู่แล้ว
.
ปรากฎว่ายังไม่ทันเปิดกองถ่ายก็มีความขัดแย้งรอบสองระหว่างสตูดิโอกับผู้กำกับเรื่องทรงผมของคีอานู รีฟส์ ซึ่งฝ่ายบอนต์ยืนยันหนักแน่นว่าบทตำรวจทำงานหนักมันต้องไว้ผมเกรียนทั้งหัว (buzz cut) แหละเหมาะสมดีแล้ว ส่วนฝั่งสตูดิโอไม่เห็นด้วยเลยตัดสินใจเลื่อนเปิดกองออกไปอีกหน่อยเพื่อรอให้ผมคีอานู รีฟส์ยาวขึ้นกว่านี้สักนิดนึง ซึ่งอันนี้อาจจะเป็นฝั่งสตูดิโอที่ตัดสินใจถูกต้องเพราะทรงผมของพระเอก Speed ฮิตไปทั่วบ้านทั่วเมืองจริง ๆ ส่วนบอนต์ก็มาได้เครดิตเรื่องการเพิ่มฉากรสบัสกระโดดข้ามถนนยกระดับที่ขาด ซึ่งกลายเป็นฉากดังของหนัง โดยในตอนแรกมันไม่ได้มีอยู่ในบทแต่บอนต์ได้ไอเดียมาจากตอนที่เขาขับรถในลอส แองเจลิสแล้วสังเกตว่าส่วนหนึ่งของถนน I-105 มันหายไป เลยเอามาใส่ในหนังซะเลย จะว่าไปหนังก็ถ่ายบนถนน I-105 มาตั้งแต่แรกแล้วด้วย โดยเวลานั้นมันเพิ่งสร้างเสร็จแต่ยังไม่เปิดให้คนทั่วไปใช้บริการ กองถ่ายเลยมีอิสระกันสุด ๆ
.
ทีนี้พอเปิดกองถ่ายหนังก็ดันกลัวแป้ก ๆ กัน นักแสดงในเรื่องอย่าง 'เจฟฟ์ แดเนียลส์' ก็คิดว่าหนังคงเจ๊งแน่นอน สตูดิโอยังเสียว ๆ ว่าหนังจะไม่รอดเลยจนกระทั่งเอาไปฉายรอบทดลองแล้วปรากฎว่าเสียงตอบรับดีมาก แถมระหว่างฉายเนี่ยมีคนปวดฉี่แต่แทนที่จะเดินออกไปตามปกติเขากลับค่อย ๆ เดินถอยหลังช้า ๆ เพราะแทบไม่อยากพลาดฉากในหนังแม้แต่นิดเดียว ซึ่งตอนนั้นทำให้สตูดิโอมั่นใจมากว่าหนังเปรี้ยงแน่นอน แล้วเจฟฟ์พอได้มาดูหนังหลังถ่ายเสร็จก็เปลี่ยนใจมาเชื่อว่าจะไม่เจ๊งหรอก ฟันธง
.
โดยตอนแรกสตูดิโอวางกำหนดฉาย Speed เอาไว้เดือนสิงหาคม เพราะคิดว่ายังไงหนังก็เจ๊งแน่ ๆ เอาไปฉายหลัง True Lies ของเจมส์ คาเมร่อนที่จะเปิดตัวเดือนกรกฎาคมเลยละกัน ยังไงก็ไม่น่ารอดอยู่แล้ว แต่พอฉายรอบทดลองแล้วกระแสดีมากกกกกกกกกกกจึงทำให้สตูดิโอเปลี่ยนใจทันที เลื่อน Speed เข้ามาฉายเดือนมิถุนายน ให้ชนกับช่วงต่อของ The Flintstones วัดกันไปเลยระหว่างหนังแอ็คชั่นสำหรับผู้ใหญ่กับหนังครอบครัวใครจะอยู่ใครจะไป ซึ่งน่าจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องของ 20th Century Fox เพราะหนังทำเงินเฉพาะในอเมริกาสูงถึง 121 ล้านเหรียญ ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับ 8 ของปี 1994 ทั้ง ๆ ที่ทุนสร้างแค่ 30 ล้านหรียญเท่านั้นเอง แถมทำเงินทั่วโลกสูงถึง 350 ล้านเหรียญ เป็นอันดับ 5 ของปีนั้นด้วย
.
ซึ่งความสำเร็จของ Speed จึงทำให้เกิดภาคต่อตามมาในชื่อ Speed 2: Cruise Control ที่สตูดิโอมั่นใจว่าภาคแรกดังขนาดนี้ภาคต่อคงฮิตถล่มทลายแน่นอน จึงทุ่มทุนสร้างสูงถึง 160 ล้านเหรียญ แต่ปรากฎว่าฉายจริงแป้กสนิท ทำเงินไปเหงา ๆ ในอเมริกาแค่ 48 ล้านเหรียญ รวมทั้งโลก 164 ล้านเหรียญ กลายเป็นหนังเจ๊งสนิทปิดอนาคตแฟรนไชส์ Speed กันไปเลย แต่ภาคแรกคือสนุกสุด ๆ เลยนะ
.
.
.
.
ดูแบบซับไทยได้เลยใน Disney+ Hotstar: https://www.hotstar.com/th/movies/speed/1770000923
.
.
.
.
ดูรีวิวซีรีส์จากทุกค่ายได้ที่: http://bit.ly/2STE5O4
อ่านเกร็ดหนังคั่นเวลา: http://bit.ly/2QMsEVV
หรืออยากอ่านสาระยาว ๆ แก้เบื่อ: http://bit.ly/2QnHCmb

#หนังโปรดของข้าพเจ้า

Bayangkan jika korang datang dari kurun terbaik, iaitu zaman ugama islam sedang naik, zaman masjid solat subuh penuh macam solat jummaat, zaman orang islam solat tahajjud meriah macam tengok bola, yang mana terdengar tangisan taubat di malam hari laksana tebuan yang sedang terbang berdengung.., zaman semua orang lelaki keluar berdakwah rumah ke rumah.., zaman perempuan berpurdah walaupun dalam gelap, bayangkan...

Err, bukan bayangkan perempuan berpurdah dalam gelap tu, maksud saya, bayangkan kegemilangan islam di zaman itu.., zaman dunia tunduk di bawah pemerintahan ‘kuku bersih’ ummat islam... zaman peniaga pakat-pakat meninggalkan kedai dan perniagaan sebaik azan berkumandang.., zaman budak budakpun jaga sembahyang, zaman di mana orang kafir masuk islam berbondong bondong sebab terkesan dengan akhlak mulia orang islam, zaman di mana perempuan cantik berjalan di malan hari tanpa gangguan.., bayangkan..

Tengok?! Bukan bayangkan perempuan cantik berjalan di malam hari tanpa ganguan, maksud saya, bayangkan kegemilangan islam di zaman itu.., zaman orang arab berdakwah ke seluruh dunia, zaman 1000 tahun yang lampau, zaman yang mana apabila lelaki bertemu lelaki, mereka akan bercakap tentang kebesaran Allah, apabila perempuan bertemu perempuan juga, mereka akan bercakap tentang kebesaran Allah, dan apabila kanak-kanak bertemu kanak-kanakpun, mereka juga akan bercakap tentang kebesaran Allah..

Lalu di zaman itu, korangpun ikut serta pergi berdakwah ke seluruh dunia, ditakdirkan tuhan, korang ikut berdakwah dengan satu jemaah ke kutub utara.., dakwah orang eskimolah pulak.., sampai kat sana, sedang asyik korang berzikir atas behtera, sekali kapal korang terlanggar iceberg, terus buat korang tercampak ke dasar lautan yang suhunya bawah paras beku, dan automatik korang terus jadi mayat beku macam ikan dalam ruang frozen peti ais, dan ditakdirkan tuhan, korang berada dalam zon “Suspended animation” atau apa nama ntah, macam "induced hibernation".., alahai macam Sylvester Stallone, dan Wesley Snipes dalam filem Demolition Man tu... (baca: sayau orang tua, rujukan filem pun adalah filem lama, adohai)

Update: Okey ada movie baru saya tengok kejadian macam ni, Captain Amarica beku di bawah ais, ha ha, tak lah tua sangat pakcik ni!

Nak di jadikan cerita, rakan pendakwah korang pulak tak jumpa cari korang di dasar kutub utara tu, maka berhabinasilah korang dalam kesejukkan yang menberhentikan segala perjalanan darah dan denyutan jantung...

1000 tahun kemudian, korang dijumpai oleh orang Malaysia yang bakal mendapat gelaran dato’ dan juga bakal mendapat imbuhan jutaan wang ringgit, dapat nama serta glamer, iaitu rakyat Malaysia yang sibuk mengharumkan nama Negara dengan buat benda benda yang pelik pelik kat kutub utara, mungkin buat ABC (air batu campur) terbesar di dunia siap campur dengan tapai dan pulut, mungkin?

Lalu korang yang ter’jeruk’ dalam iceberg selama 1000 tahun itu di bawa pulang ke Malaysia, lalu di bawa masuk ke makmal kat Universiti Sains Malaysia, dan dengan kaedah sains, fizik, bio serta kemia, maka korang dapat dihidupkan kembali setelah jantung korang di renjat dengan elektrik TNB, memandangkan segala jasad korang masih lagi elok sebab tak reput.., sama macam kes benar rakyat jepun Mitsutaka Uchikoshi pada tahun 2006, yang terperangkap dalam suhu sejuk tapi dapat hidup selama 24 hari tanpa makanan dan minuman akibat dari hypothermic state yang hampir sama dengan kes korang iaitu hibernation atau Suspended animation.. (lain kali jangan ponteng kelas sains PDPR)

Di pendekkan cerita, korang pun terjaga dan terkejut melihat dunia yang sudah berubah, ada ala-ala kisah pemuda al kahfi gitu.., yang terjaga selepas ‘berhibernasi’ selama 300 tahun, jadi korang pun tanya, “kat mana aku ni?”.., dan legalah korang bila di beritahu bahawa korang berada di negara Malaysia, yang mana agama rasminya islam, pemerintahnya islam, dan ramai rakyatnya juga berugama islam, juga ada sekolah islam, Universiti islam, Bank islam, penjiman islam, Coklat islam, kedai makan islam, zoo islam, parti islam, penyanyi islam, kereta islam dan kad kredit islam pun ada..,

Bila dah sembuh, korang pun jalan jalan kat Malaysia, bila tiba waktu azan, korangpun sukalah sebab bukan main kuat lagi azan, satu bandar boleh dengar.., lepas tu korang ke masjid, wah.., bukan main besar lagi masjid, siap ada karpet, lampu antik, sejadah lembut dan saujana mata..,

Tapi.., bila solat, tak sampai satu saf?

Mana pergi rakyat malaysia yang beragama islam? Kenapa zaman aku dulu, masjid penuh sampai ke belakang.., tapi sekarang takde orang? (maaf, sebab agak cliché dan kisah ni berlaku sebelum Covid 19 merebak)

Lepas solat di masjid yang lengang, korangpun pergi kedai makan, oh.., tahulah korang, kenapa masjid kosong, kat sini rupanya orang Malaysia sedang berkumpul.., penuh meja makan.., dan dalam semua kedai makan tu, ada TV besar, dan ada perlawanan bola secara langsung... UERO202$!

Oleh sebab meja makan penuh, korangpun tunggulah dulu kat luar.., sambil berniat nak buat dakwah sikit, nak bercakap tentang iman dan ketuhanan, sebab zaman korang dulu, jika ada masa lapang, terus ajak kawan kawan duduk dalam majlis iman.., majlis bercakap tentang kehebatan dan kebesaran Allah..

Korangpun nampak satu orang makcik, dah tua dah.., bertudung dan sedang duduk baca katalog iklan sebuah pasaraya islam.., korangpun tegur makcik tu, dan lepas tu korangpun nak bercakap tentang kebesaran Allah, lalu mulai perbualan dengan soalan siapa paling kuat? yang korang akan jawab sendiri, iaitu Allah paling kuat, dan terus merancakkan dakwah, tapi bila korang Tanya makcik tu akan soalan:

“makcik tahu tak siapa yang paling kuat?”

Belum habis korang bercakap, makcik tu terus menyampuk, “Serbuk pencuci X lah yang paling kuat dan handal menghapuskan kotoran, dengan sesudu sahaja, mampu menghilangkan segala kotoran degil!”

Terkejut berok korang dibuatnya, dan makcik tu juga terus ‘dakyah’ korang dengan macam macam lagi produk merujuk kepada katalog iklan tu.., “makluk A ni bagus,, Makhluk B ni hebat, makhluk C ni kuat”.., rupa-rupanya makcik tu adalah agen MLM yang sedang promote kehebatan prodoknya yang boleh bagi manfaat jika beli dan boleh bagi mudarat jika tak beli, lepas tu cerita tentang sistem piramid, ekonomi islam, harga yahudi dan kualiti palestin?..,

korangpun terus jadi takut dan blah..., sebab takut iman korang rosak melayan makcik yang dah jadi syirik sebab yakin dengan produknya boleh bagi manfaat, sedangkan yang boleh bagi manfaat dan mudarat adalah Allah..

Setelah korang berada agak jauh dari makcik tu, korang terjumpa pulak budak-budak yang sedang lepak sambil bermain game di Smart phone yang ayah dia beli secara hutang, korang rasa budak ni boleh ‘makan’ ni.., bolehlah aku meningkatkan keimanan dengan bercakap tentang kehebatan dan kebesaran Allah.. , korangpun tegur budak tu, dan macam tadi jugak, korangpun nak bercakap tentang kebesaran Allah, lalu mulai dengan soalan yang korang akan jawab sendiri, iaitu..

“adik tahu tak siapa yang paling kuat?”

Belum habis korang bercakap, budak tu terus menyampuk, “Thanos paling kuat!”

Terkejut berok korang dibuatnya, Thanos tu menanang apa? Lata dan uzza korang tahulah, ni nama berhala mana pulak ni? dan budak tu juga terus ‘dakyah’ korang dengan macam macam lagi kehebatan watak dalam game yang sedang mereka main .., “tapi One Punch Man juga kuat bang, Gokupun, Superman Zack Snyder pun kuat, DarkSide tak payah cakap ler, memang kuat sangat, Thor lagi, dia tu dewa.., Bezita, dan Jirenpun.., semua kuatlah bang.., itu belum cerita Keiju Pacific Rim punya geng!

Arghh, korangpun mulai pening.., lepas tu azan berkumandang lagi, dan korangpun terus ke masjid, tinggalkan budak tu, tinggalkan kedai makan yang penuh sebab bola belum habis lawan lagi, dah sampai masjid, sama macam tadi, solat jemaah tak sampai satu saf.., imampun baca surah pendek, doa pendek dan terus cabut, mungkin nak tengok bola, dan tinggallah korang sorang diri dalam masjid..

Perut masih lapar, korangpun keluar dan masuk jugak kedai makan, tengok semua orang sedang menjerit jerit melihat bola, ada pulak satu kerusi kosong, dan korang pun duduk dekat satu brader berkopiah yang sedang minum air teh tarik..

Brother ni punya penampilan ada ala ala sunnah Nabi, dengan serban hitam atas bahu, celak mata hitam, jubah labuh, dan kayu sugi tersebul dari celah poket, brother tu senyum memeberi salam sambil pelawa korang duduk.

“Bro, kau tahu siapa yang paling kuat?”

Tanya brader tu pada korang, korangpun senyum sebab ada jugak orang yang nak bercakap tentang kehebatan dan kebesaran Allah, tapi belum sempat korang jawab, brader tu dah jawab dah..,

“Perancis lah paling kuat bro, mereka sentiasa ada mentaliti untuk menang, personaliti setiap pemain selain kepantasan permainan serta kebijaksanaan semasa di dalam padang. Pergghh, terbaik! Sejarah dah buktikan mereka boleh menentang mana-mana pasukan tidak kira dari segi taktikal atau pasukan yang gemar menguasai permainan kerana mereka merupakan pasukan yang bijak. Pasukan yang kita tak jangka sebab boleh berubah-ubah dari segi taktikal. Tidak kisah mana-mana pemain yang beraksi. Secara fizikal mereka sangat padu dan penyudah mereka sangat sedap! bla bla bla..

*******

Malam itu, ketika korang sedang iktikaf sorang diri di Masjid, selepas solat tahajjud, korangpun berjalan mengambil udara segar se awal jam 3 pagi.., teringat korang pada kampung halaman, yang mana pada waktu begini, akan terdengar suara tangisan taubat di malam hari laksana tebuan yang sedang terbang berdengung.., lalu korangpun menyusuri perumahan islam di Malaysia, sunyi sepi, tiada tangisan kedangaran.., tiba tiba terdengar jeritan yang sungguh kuat!

“GOAL!!!”

Terjekut berok korang di buatnya, hampir setiap rumah terdengar orang menjerit, “goal” dan ketawa , menyanyi serta menari.., korangpun cabut lari.. lari sejauh jauhnya, lari untuk selamatkan iman...

Sehinggalah korang tiba ke satu gua, dan korangpun tertidur keletihan.., ditakdirkan tuhan, korang pun tertidur lagi.., dan berlakulah hypothermic state, lalu terus ber hibernation dan kekal dalam Suspended animation..

*****

1000 tahun kemudian, sejarah berulang kembali.., korang sekali lagi diselamatkan oleh Rakyat BolehLand a.k.a Malaysia yang bakal mendapat gelaran dato’ dan juga bakal mendapat imbuhan jutaan wang ringgit, dapat nama serta glamer, iaitu rakyat Malaysia yang sibuk mengharumkan nama Negara dengan buat benda benda yang pelik pelik dalam gua, mungkin buat ABC pertama dalam gua yang di campur bersama sarang burung layang layang, mungkin?
Lalu korang yang ter’jeruk’ dalam gua selama 1000 tahun itu di masuk ke makmal kat Universiti Sains BolehLand, dan dengan kaedah sains, fizik, bio serta kemia, maka korang dapat dihidupkan kembali setelah jantung korang di renjat dengan elektrik TNB...

Di pendekkan cerita, korang pun terjaga dan terkejut melihat dunia yang lagi banyak berubah, semua orang warna muka mereka sudah lain macam, ada yang warna biru, kuning, merah dan putih..

Korangpun Tanya, kenapa muka korang bewarna warni?

Jawab mereka, “bukankan sekarang Malaysia ni dah jadi tuan rumah piala dunia?, kita kenalah raikan bersama, sebab tu kami kaler muka kami dengan warna bendera, abangpun kenalah couler jugak!, lalu mereka pun menyanyi..

Selamanya! Selamanya!
Selamanya Harimau Malaya
Lelelelela OOOoo OOo,
Lelelelelaa aaaaa aaaaa,
Lelelelela OOOoo OOo,
Lelelelelaaa Harimau Malaya
Harimau Malaya

Arghh, korangpun jadi sasau.., lalu menjerit.., tolong!

Tiba tiba badan korangpun bergoncang.., makin lama makin kuat..,

“Bang bangun bang, dah dekat nak subuh dah ni..”

Oh, rupanya korang bermimpi.., jam menunjukkan waktu 3 pagi.., korang rupanya rakyat Malaysia, dan tahun sekarang adalah 2020.., dunia belum kiamat..

“Terima kasih sayang, kejut abang, solat tahajjud..”

“Pandailah abang buat lawak, kan abang suruh saya kejutkan abang malam ni sebab nak tengok bola piala eropah..”

“Oh, ye ke?,”

Korangpun bangun, pergi kencing, lalu duduk depan TV sambil tersengih sengih...

Siapa yang bakal menang?

Perancis atau iblis? kita jumpa di saf permata masjid subuh habis PKP nanti..

Woha!

ผมไม่ได้ไปร่วมชุมนุมในวันที่ 14-15 ตุลาคม ที่ผ่านมา เพราะก่อนหน้านี้ผมไปชุมนุมบ่อย และที่บ้านก็ทัดทานเอาไว้หลายครั้งว่าอย่าไป อย่าทำให้ตัวเองและครอบครัวเดือดร้อน
.
แต่การไม่ได้ไปสองวันที่ผ่านทำให้ผมรู้สึกเหมือนมีชะนักติดอยู่ในใจ มันเหมือนเวลาเราดูหนังสงคราม แล้วเพื่อนทุกคนหยิบดาบจับปืนไปรบกันหมด เหลือแต่เราที่ไปไม่ได้ ...จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่...มันทำให้ผมรู้สึกผิดมาก
.
พอรู้ว่าจะมีการชุมนุมวันนี้อีกวัน ผมเลยคิดว่า เออ...เราอยากไป...อยากชดเชยสิ่งที่เพื่อน ๆ ทำไว้เมื่อสองว...
Continue ReadingI didn't go to the congregation on October 14-15th, since I went to gather more often and at home, I have decided not to go. Don't bother myself and family.
.
But not going to the last two days makes me feel like I have a chance to be stuck in my mind. It's like when we watch a war movie and all friends pick up swords and fighters. There are only reasons we can't go... It makes me feel so guilty.
.
When I knew there would be another gathering today, I thought, um, we wanted to go... I wanted to make up for what friends did two days ago.
.
I drove through Chidlom station from 3 pm. I saw the police set up a police station, messing up and investigating from many directions. I saw that I was taking control of all the rules from 2 pm. I was still talking to friends. Today, I should be Moob. I'm ′′ pouring Let me come to watch.
.
After stirring until Siam, around 4 o'clock, eating and working. Waiting for news about how we are going to do it. Mob announces really postponed. Made an appointment at 5 o'clock, but moved to close to Pathumwan. ...
.
I walked from Paracetamol to the middle of the intersection with Kerry, sound, and the speaker. And the people stood down. But it wasn't like two days ago. From the angle where I stood from the stereo for 20 Meters. People are watching from the corner. Very few. (Let's see the picture behind the side where there are many people. It's the road in front of Bunchak
.
Standing to listen to the speech. The atmosphere is normal. The first time, it seems to be a smooth talk. But there is a sound. There is a sound in the moment that ′′ go out ′′ from the side of the Suphai field. I guess I'm going to chase the agent. I'm trying to break through, normally someone gives me free drinking water. I accept it without knowing it will save my life later....
.
It's raining while it's raining. I'm standing in the rain and working in the middle of the Mop (imitation of Northern Netanya). Sister, the lady pokes me, ′′ Do you want a rain coat? I bought it for those who don't have it. ′′ Which I also accept. Thank you very much.
.
Talking to his sister, standing behind me, makes me look at the back road (in front of paragon). I see the emergency light far away..... Do you think it's an emergency vehicle? I don't know how to feel... so I went to see it.
.
I walked closer to the emergency light in front of Paragon. I saw a man standing in front of the board, turning to the Ratchadraphaphat crossroads. And I found a lot of police, standing in front of the board in the formation, preparing to invade the back. There was a majestic water in the back. With a megaphone order all the time.
.
I was shocked, ran back to the spot where I was standing assembly and shouted, ′′ The water car comes! The water car came!" The people who listened for the first time. Most of them were shocked. I couldn't do anything right. I passed about 5 seconds until I started to move. It's broken now.
.
The biggest dharma puzzle in my life today is when I came running back to tell the news and thought it's okay. I sent the news and someone found out.... and I ran back to the front line of the point.... Why did I run.....
.
While going back, I heard a megaphone. ′′ Give the demonstrators 3 minutes to leave the area
.
Come back this time, vertical. Let's get the demolition like a shield. Prepare to get water from the water car. Sparta warrior in the movie 300 with a little ironing. There is a noise from the telephone. Counting down. My heart is beating like a battlefield.
.
10.... Damn. What do I do?
.
9.... They will be positive.
.
8.... Damn went to push the fence with him.
.
7.... I shouldn't be okay. You won't be healthy. You
.
6.... Let's take a video!
.
Taken my mobile phone camera and took it on the roadside. Not on the road.
.
3... 2... 1 Police move in vs Demonstrators
.
First round of sprinklers - second round. Federal station, no problem. The demonstrators are shouting. Happy to shoot around three times. Straightly hit the demonstrators. I watched the time they defeated the riot in the abroad. The water pressure was very high. I got the body blown away.
.
Demonstrators still stand. Water car. Change water color. Injection color to blue. Shooting at the demonstrators in mind. I wonder why they changed colors?.... But in the middle of the road, they were pushed for minutes. The situation is very disturbing. It seems like they saw the person. Snatch the shield from the police and use it to push the police.
.
A while back, some demonstrators joined the metal fence to the forefront. But it wasn't much, but it wasn't much. The demonstrators retreated and broke down from where I was standing for a while. The car was injected with the footprint. Made the front of me crack. I was in the second row. I took a water car and shot it. Now it's in my head. Face in my mouth.
.
I got water for 2-3 seconds. I feel pain in my eyes and face. Someone said that it's mixed with tear gas. So I took the water bottle that they gave away when I listened to it. I washed my face but I had less oil because I ate and divided other people. So I escaped into Siam. There was a person standing and watching in Siam. It was about 20 people from the point of the vagina. There was a woman shouting ′′ There was water in the water. If anybody got gas, I could wash my face
.
I have a sister. The old one was around the corner and said that ′′ you need to wash it off, you have been left before. It will have long term consequences
.
I tried to wash as much as I could and ran out of the area. Keep my life in the next battle. We will fight for a long time.
.
Ps. Found out later that blue is injected to identify the demonstrators to easily catch. Clear water is a chemical mix of eye pain.Translated

ป้าเมย์ กับ Spider-Man3 ในอนาคต / James Gunn กับงาน Avengers [ Viewfinder : วิวไฟน์เดอร์ ]
ติดตามความเคลื่อนไหวของรายการ
https://www.facebook.com/viewfinderfanpage

#Viewfinder #ป้าเมย์ #SpiderMan3

Briana's YouTube: https://www.youtube.com/channel/UCSfTNuzvA4XwgrjViP8qfyA

My friend Briana and I took a day trip to Taichung to check out the up-and-coming destination, Rainbow Village. An old man single-handedly saved his village from demolition by painting every square inch of it with beautiful works of art!

ファミコンからXboxOneまでの注目すべきキャラゲーを集めました。
レゴシティアンダーカバーはPS4とNintendo Switchでも発売中です。
※2013年7月25日発売はPS4とNS版でWiiU版は2013年7月25日発売です。
【PS 奇抜ゲーム集1】https://goo.gl/SVpjXt
【PS 奇抜ゲーム集2】https://goo.gl/U42PRS
【PS 奇抜ゲーム集FINAL】https://youtu.be/Fl0Uk9nz0vk
【PS 奇妙ゲーム集】https://goo.gl/IbBSRf
【PS 奇妙ゲーム集２】https://goo.gl/abQMXb
【名作キャラゲー集】https://goo.gl/61CeAl
【PS クソゲー10選 PS1 worst games】http://goo.gl/rMNzvI
【PS 続･クソゲー10選択 PS1 worst games 2】 https://goo.gl/oGRgth
【クソゲーリスト】 https://goo.gl/d3y02o
【お蔵入りゲーム集リスト】http://goo.gl/eQDBwk
【PS vs SS 比較動画まとめ】http://goo.gl/dGhCiB
【SS 初級編】https://goo.gl/VNzUv1
【SS 中級編】https://goo.gl/4d71Iu
【SS 上級編】https://goo.gl/8pDiZ0
【SS 地獄級】https://goo.gl/pDlQsY
【鉄人28号プレイ動画】https://youtu.be/NCO4lggJOro

【チャンネルTOP Main channel】http://goo.gl/2bD2N9
【ゲームまとめ動画リスト】http://goo.gl/eQDBwk
Strange game collection From NES to Wii
#レトロゲーム #キャラゲー #AnimeGame