德軍訓練鞋,GAT (Germain army trainers) 或稱 BW SPORT (BW = Bundeswehr,德國聯邦國防軍),由軍品成為時尚單品,MMM 與 Dior Homme 自然功不可沒,而這也具體而微地反映 20 世紀軍服與現今穿搭流行的關係。
前幾天整理這幾雙退役自德國的鞋,突然想起 2008 年造訪 MMM 紐約店時,與店員聊起品牌當季推出的高筒球鞋。
那是 Martin Margiela 還參與設計團隊的最後一季,而那雙融合照片中兩種 GAT 的球鞋,在後來這 12 年間儼然成為 Maison Margiela 主力商品,每一季持續推出。
真的是太棒的設計,將兩款鞋型特色完美融合,成為全新的雋永款式(照片我放在留言)。
我跟店員說,這是兩款德軍訓練用鞋的結合,鞋身取自室內訓練鞋、筒身及 triple strap 設計則是室外訓練鞋,他雙手一攤說怎麼你知道的比我多 😂
不過回想起這段對話,現在也不確定是否正確,室外訓練鞋還有另一低筒款式(跟 adidas 一現行商品長很像);照片這雙有人稱為空軍的 deck shoes。
有興趣的話,上述兩雙的照片也放留言。
是說,雖然喜歡白色這最經典的 GAT 這麼久,也買了好多雙,軍品、時裝品牌出的都有,其實我們緣分不夠…
超寬超厚的腳板,根本塞不下窄楦的 GAT 室內訓練鞋,一切都是看心酸的:~
同時也有3部Youtube影片,追蹤數超過2萬的網紅เปเป้ ละลายพันธุ์ รีวิวน้ําหอม,也在其Youtube影片中提到,น้ำหอม...นอกจากจะให้ความหอมแล้ว...ยังเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงเรื่องราวและความรู้สึกทั้งหมดที่มีร้อยเรียงกันออกมาแบบไม่รู้จบ...น้ำหอมยังสร้างมิตรภาพแบบไร้เ...
dior homme sport 2008 在 เปเป้ ละลายพันธุ์ รีวิวน้ําหอม Youtube 的精選貼文
น้ำหอม...นอกจากจะให้ความหอมแล้ว...ยังเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงเรื่องราวและความรู้สึกทั้งหมดที่มีร้อยเรียงกันออกมาแบบไม่รู้จบ...น้ำหอมยังสร้างมิตรภาพแบบไร้เงื่อนไขให้เกิดขึ้นระหว่างกัน...
น้ำหอมขวดแรก = VERSACE BLUE JEANS
น้ำหอมขวดแรกที่เชื่อมโยงเรื่องราวและความรู้สึก = CK ETERNITY FOR WOMEN
น้ำหอมขวดแรกที่สานต่อเรื่องราวแห่งความรักและสืบทอดความรักต่อยอดออกไป = DIOR HOMME SPORT 2012
ปล.รีวิวตัวนี้อาจจะดูเยิ่นเย้อ ดูซ้ำซากจำเจ เพราะเป็นการตอกย้ำความรู้สึกให้กับน้ำหอมตัวเดิมๆที่มักนำมาเล่าให้ทุกๆคนฟังเสมอ อย่างไรก็ตาม...ก็ยังเชื่อว่าต้องมีใครหลายๆคนที่ก็มีเรื่องราวกับน้ำหอมอันแสนรักของตัวเอง..
เอาเรื่องราวเหล่านั้นออกมาแชร์กันนะครับ...
![post-title](https://i.ytimg.com/vi/IBFIaTZSQv4/hqdefault.jpg)
dior homme sport 2008 在 เปเป้ ละลายพันธุ์ รีวิวน้ําหอม Youtube 的最佳解答
ขอกลับมาอีกครั้งกับการรีวิว Dior Homme Sport ในแบบเจาะลึกลงไปอีกสักหน่อย หนนี้จะนำตัวดั้งเดิมที่ผลิตครั้งแรกเมื่อปี 2008 มาจนถึงรุ่นปรับสูตรครั้งแรกในปี 2012 และล่าสุดปรับสูตรอีกครั้งกับปี 2017
ส่วนตัวแล้ว เริ่มต้นใช้ Dior Homme Sport ด้วยรุ่นปรับสูตรปี 2012 ซึ่งเป็นรุ่นที่กระแสเชิงลบค่อนข้างเยอะ แต่ผมกลับรู้สึกชอบและตกหลุมรักกับรุ่นนี้มากๆ เพราะครั้งที่รุ่น 2012 หมดลง ผมก็ตามหาขวดใหม่มาใช้ และก็บังเอิญได้ไปเจอกับรุ่น 2008 โดยบังเอิญ ตอนนั้นคิดว่าเจอของปลอม พราะกลิ่นไม่เหมือนกับ 2012 ซะทีเดียว กลิ่นดูบางกว่าและไม่ค่อยกระจายตัวได้ดีนักกับผิวผม และความต่างกันตรงคอของหัวสเปร์ยที่ไม่มีขอบเงินๆแต่กลับเป็นเพียงพลาสติกดำๆ ผมจึงคิดไปว่ามันคือของปลอม แต่พอหาข้อมูลเรื่อยๆก็ร้องอ๋อ....มันคือรุ่นดั้งเดิมนั่นเอง ซึ่งผมไม่โอเคเลย ผมชอบรุ่นปรับสูตรปี 2012 มากกว่า
ผมใช้รุ่นปี 2012 มา 2 ขวดละ ขวดที่ 2 ยังคงเหลืออยู่ และมาถึงการปรับสูตรอีกครั้งสำหรับปี 2017 ครั้งเมื่อผมได้ยินข่าวทางเว็บไซต์ www.fragrantica.com ผมก็ใจเต้นตึกตัก อยากมากๆ อยากได้ อยากลองกลิ่น อยากรู้ถึงความเปลี่ยนแปลง และพอของเข้าวางขายที่บ้านเรา ผมไม่รีรอเลยครับที่จะจัดมันมาในท้ายที่สุด
ความรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของรุ่นปรับสูตรปี 2017 นั้น ผมรู้สึกว่ามันมีควมเป็นมะนาวที่เข้มข้นขึ้น มีความหวานอมเปรี้ยวมากขึ้นของผลส้ม Blood Orange และ เกรปฟรุต มันจึงส่งให้กลิ่นมะนาวๆหรือเลมอนมีความคมมากขึ้น และแน่นอนมันดูหอมสดชื่นมากขึ้น อ่อ...มีกลิ่นหนึ่งที่หายไป นั่นคือ Ginger ที่เคยมีในรุ่นปี 2012 หลายคนพอใจที่ Francois Demachy ตัดสินใจหยิบมันออกไป นี่คือช่วง TOP NOTES ที่ทำให้รู้สึกถึงความต่าง และเมื่อเดินมาถึง Middle Notes ในปี 2017 กลิ่น Iris จะหายไป ซึ่งมันเป็นกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์น้ำหอมในไลน์ของ DIOR HOMME เลยทีเดียว และถูกแทนที่ด้วยกลิ่น Pink Pepper และ Nutmeg (ไม้จันท์ / ลูกจันท์) ซึ่งจะมอบความหอมแบบเผ็ดๆซ่าๆขึ้นมาในระดับหนึ่ง ทำให้เราสัมผัสได้ถึงความเป็นสปอร์ตๆแมนๆมากขึ้น ไล่มาจนถึง Base Notes ในรุ่นปี 2017 จะถูกปรุงด้วย Vetiver (หญ้าแฝก) และ Sandalwood แทนที่ Green notes และ Cedar คือเหมือนเปลี่ยนแต่ก็ยังคงความเป็นความหอมแบบเขียวๆและชื้นๆจากกลิ่นของไม้เนื้อหอมตามเดิม แค่เปลี่ยนตัวส่งกลิ่นเท่านั้น
สรุปแล้ว...ผมว่า DHS รุ่นปรับสูตร 2017 นั้น ดูเหมือน Christian Dior พยายามที่จะเรียกความรู้สึกแบบเดิมๆเมื่อครั้งรุ่นปี 2008 เคยทำไว้ แต่นำกลับมาทำให้ดีกว่าเดิม และทำให้ตอบโจทย์มากขึ้น ให้ความรุ้สึกว่าใช้ง่ายมากขึ้นกว่ารุ่นปรับสูตรในปี 2012 สเต็ปนึง ส่วนตัวผมแล้ว ผมยังคงรักรุ่นปี 2012 อยู่มาก เพราะผมชอบแนวๆนี้จริงๆ กลิ่นมะนาวของ Dior นั้นให้ความรู้สึกถึงความหอมสดชื่นแบบเรียบหรูมากๆ แต่ก็ยอมรับว่ารุ่นปี 2017 ก็มาแหย่หัวใจผมเหลือเกินตอนนี้ ก็คงจะยังรัก Dior Homme Sport ต่อไปไม่ว่าจะปรับสูตรสักกี่ครั้ง ก็รอดูว่าปรับสูตรครั้งต่อๆไป กลิ่นจะไปทางไหนอีก
เกริ่นมาซะเยอะ...ยังไงก็ฝากรีวิวตัวนี้ไว้ในดวงใจเช่นเคยครับ ผใก็ยังคงเดินหน้าทำรีวิวออกมาเรื่อยๆแบบนี้ ผมอาจจะไม่ได้อิงข้อมูลจากแหล่งไหนๆมาก อาจจะไม่อธิบายตามสูตรนัก ผมพยายามจะดึงความรู้สึกของผมที่มีต่อน้ำหอมตัวนั้นๆที่ผมนำมาใช้และรีวิวออกมาให้ตรงกับความรู้สึกชองผมมากที่สุด ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามารับชมและเป็นกำลังใจที่ดีให้กันเสมอมา
ปล.อย่าลืมร่วมสนุกกันนะครับ มีกิจกรรมและมีน้ำหอมขนาดจิ่วมาเป็นของรางวัลอีกแล้ว ดูเงื่อนไขและติกาในการร่วมสนุกที่คอมเม้นท์ปักหมุดของผมได้เลยครับ
![post-title](https://i.ytimg.com/vi/6pbv2mmvK9Y/hqdefault.jpg)
dior homme sport 2008 在 เปเป้ ละลายพันธุ์ รีวิวน้ําหอม Youtube 的最讚貼文
อีกครั้งแล้วสินะกับการปรับสูตรใหม่ (REFORMULATION) ของ DIOR HOMME SPORT ถือเป็นการกลับมาเริ่มต้นปี 2017 ที่ผมมองว่า Christian Dior มีความตั้งใจจริงอย่างยิ่งที่จะสรรสร้างให้ DHS นั้นมีความลงตัวสักที และแน่นอนครับการปรับสูตรในแต่ละครั้งของ CD มักตกอยู่ในเป้าสายตาและคำครหาต่างๆนานาของผู้คน เสียงอื้ออึงมากมายที่พยายามที่จะ Discredit ก็มี และเสียงอวยก็มีพอสมควร หลายๆคนให้ความรู้สึกว่ารุ่นปรับสูตรปี 2012 นั้นสร้างความผิดหวังให้กับน้ำหอมรุ่นนี้ของ CD และมองว่ามันสู้รุ่นปี 2008 รุ่นแรกที่ทำออกมาไม่ได้ บ้างก็ว่ามันไม่มีความสปอร์ตสมชื่อเอาซะเลย
แต่...เหมือน CD จะค้นพบทางสว่าง และปรับปรุงในจุดบอดของรุ่นปรับสูตรปี 2012 ได้ดีขึ้นจนอยู่ในระดับที่น่าพอใจ สังเกตจากเสียงตอบรับเชิงบวกที่รู้สึกดีกับรุ่นปรับสูตรล่าสุดปี 2017 นี้ การดึงเอากลิ่นที่เป็นหัวใจหลักของไลน์นี้ DH ออกไปนั่นก็คือกลิ่น Iris ที่ทำให้ผมมีความรู้สึกว่า DHS รุ่น 2017 นี้จะได้มีความสปอร์ตให้สมชื่อขึ้นมาสักที อีกกลิ่นที่หายไปนั่นคือ GINGER มันก็คือขิงนั่นเอง สิ่งที่มาแทนที่เจ้าสองกลิ่นนี้ที่หายไปก็คือ กลิ่นส้มที่เป็น Blood Orange และ เกรปฟรุต ใน TOP NOTES มันให้ความรู้สึกถึงความเปรี้ยวเพิ่มขึ้น เมื่อบวกกับกลิ่นเลมอนที่มีอยู่แล้ว และผมมองว่ากลิ่นเลมอนในแบบของ CD นั้น ทำออกมาได้หอมแบบหรูหรามาก และสดชื่นในขณะเดียวกัน ความเปรี้ยวของทั้งกลิ่นส้มและเกรปฟรุต ขลับให้รู้สึกว่ากลิ่นเลมอนมีความเข้มข้นมากขึ้นกว่ารุ่นปี 2012 แบบชัดมากขึ้น มาถึงช่วง Middle Notes ที่กลิ่นของ Iris หายไป แต่ถูกแทนที่ด้วย Pink pepper ละ Nutmeg ทำให้ DHS 2017 มีความเป็น Fresh Spicy มากขึ้น กลิ่นให้ความสดชื่นแบบคมกริบมากขึ้น จากตัวเดิมที่เป็นกลิ่น Iris จะให้ความรู้สึกนุ่มนวลแบบอวลๆมากกว่า และเมื่อมาบรรจบที่ Base Notes กลิ่นเขียวๆและความเป็น Cedar ถูกแทนที่ด้วย Sandalwood และ Vetiver ซึ่งก็ยังใกล้เคียงกับตัว 2012 อยู่เพียงแต่มาอาศัยความเขียวๆแบบ Vetiver และอาศัยความเป็นกลิ่นของเนื้อไม้ด้วย Sandalwood นั่นเองในรุ่น 2017
อย่างไรก็ตาม ผมยังคงรัก DHS ในทุกๆรุ่นปีที่มีการผลิตออกมา ไม่ว่าจะเป็นสูตร 2008 / 2012 / 2017 เพราะมันก็ยังคงความเป็น DHS อยู่ในสายเลือด ถ้าชอบความหอมสดชื่นมะนาวๆเต็มๆเฟรชๆให้ดูที่ 2008 และ 2017 แต่หากชอบสปอร์ตแบบหรูๆนุ่มนวลให้เพ่งไปที่ 2012 ลองค้นพบ DHS ในแบบของคุณเอง ไม่แน่ใจนักว่ารุ่นปี 2012 บนเคาท์เตอร์ทาง CD จะเรียกสินค้าเก็บเข้ากรุเมื่อไหร่ ถ้าชอบ 2012 ก็รีบหาซื้อมาเก็บไว้ซะ ก่อนที่มันจะไม่มีให้เห็นอีกต่อไป
![post-title](https://i.ytimg.com/vi/aGO7XyNLx_E/hqdefault.jpg)