關於 download software for pc ，我們在網路上蒐集到這些相關的討論、資訊與評價

ทำไม สหรัฐอเมริกา จึงเป็นประเทศแห่ง อุตสาหกรรมไอที ? ตอนที่ 1 /โดย ลงทุนแมน
เราก้าวเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 ด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศที่เปลี่ยนโลกของการสื่อสารไปตลอดกาล
การเกิดขึ้นของคอมพิวเตอร์ สมาร์ตโฟน อินเทอร์เน็ต ไปจนถึงโซเชียลมีเดีย
ล้วนค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของเราไปทีละน้อย
ท้ายที่สุด แทบทุกแง่มุมในชีวิตของเรากับโลกไอที ก็ล้วนข้องเกี่ยวจนราวกับเป็นโลกใบเดียวกัน

ซึ่งประเทศที่มีบทบาทในการพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้มากที่สุด จะเป็นที่ไหนไม่ได้
นอกจาก “สหรัฐอเมริกา”

สหรัฐอเมริกาส่งออกบริการด้านไอทีคิดเป็นสัดส่วนถึง 1 ใน 4 ของโลก
บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับ Top 5 ของโลก เป็นบริษัทไอทีสัญชาติอเมริกันถึง 4 แห่ง

และศูนย์รวมอุตสาหกรรมไอทีอย่าง “ซิลิคอนแวลลีย์”
คือยอดเขาแห่งเทคโนโลยี ที่คนทั้งโลกจับตามอง..

เส้นทางอุตสาหกรรมไอทีของสหรัฐอเมริกาเป็นอย่างไร ?
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ยินดีต้อนรับเข้าสู่ซีรีส์บทความ “Branding the Nation” ปั้นแบรนด์ แทนประเทศ
ตอน ทำไม สหรัฐอเมริกา จึงเป็นประเทศแห่ง อุตสาหกรรมไอที ?

“การเน้นการศึกษา” คือคุณสมบัติสำคัญที่สุดที่ผู้ตั้งรกรากในยุคอาณานิคมหล่อหลอมให้กับชาวอเมริกัน
นับตั้งแต่เข้ามาตั้งรกรากในศตวรรษที่ 17

จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่สหรัฐอเมริกาจะมีมหาวิทยาลัยหลายแห่ง
ที่ถูกก่อตั้งขึ้นมาก่อนการตั้งประเทศด้วยซ้ำ
ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด มหาวิทยาลัยเยล หรือมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย

นอกจากการศึกษา ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่ถูกสั่งสมมาควบคู่กันก็คือ “การทำงานหนัก”

การมุ่งเน้นด้านการศึกษา ทำให้มีองค์ความรู้ที่พร้อมสำหรับการต่อยอด
ส่วนการทำงานหนัก เป็นการปลูกฝังว่า ใคร ๆ ก็สามารถประสบความสำเร็จ
และสั่งสมความมั่งคั่ง จนเปลี่ยนฐานะเป็นคนร่ำรวยได้ ถ้ามีความพยายามมากพอ..

คุณสมบัติทั้งหมดล้วนหล่อหลอมให้ผู้อพยพที่เข้ามายังดินแดนแห่งเสรีภาพนี้
มีความเชื่อมั่นในความพยายาม มองโลกในแง่ดี และมั่นใจในอนาคต
ซึ่งเป็นคุณสมบัติของชาวอเมริกันที่โดดเด่นเหนือใคร และยังคงมีอยู่มาจนถึงยุคปัจจุบัน

แม้สหรัฐอเมริกาจะตามหลังประเทศในยุโรปในการปฏิวัติอุตสาหกรรม
แต่ก็สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำอุตสาหกรรมของโลกได้ภายในระยะเวลาไม่ถึง 100 ปี

การเป็นศูนย์รวมของผู้อพยพที่มีความคิดก้าวหน้า กล้าเสี่ยง
เปี่ยมไปด้วยความพยายามและความรู้ มีรัฐบาลที่สนับสนุนในเรื่องสิทธิบัตร
ทำให้เกิดสิ่งประดิษฐ์มากมายที่เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต
และก้าวข้ามทุกขีดจำกัดของความเป็นมนุษย์

โดยเฉพาะโลกของการสื่อสาร..

นับตั้งแต่วันที่ Alexander Graham Bell เป็นผู้ประดิษฐ์โทรศัพท์
สิ่งที่เปลี่ยนสัญญาณเสียงให้เป็นสัญญาณไฟฟ้า และเดินทางไปไกลตามสายไฟฟ้า
จนนำมาสู่การก่อตั้งบริษัท AT&T ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19

ด้วยความที่สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศกว้างใหญ่ การจะส่งเสียงจากฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก
ข้ามทวีปไปยังฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก จำเป็นจะต้องมีสิ่งที่ช่วยขยายสัญญาณไฟฟ้า

นำมาสู่การประดิษฐ์ “หลอดสุญญากาศ” หรือ หลอดอิเล็กตรอน
ซึ่งมีหลักการคือการให้กระแสไฟฟ้า ผ่านไส้หลอดที่เป็นโลหะ จนไส้หลอดร้อน และเกิดการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอน ความสามารถในการควบคุมการไหลของอิเล็กตรอนนี้เอง
ทำให้สามารถขยายสัญญาณอ่อน ๆ ให้แรงขึ้น และส่งสัญญาณไปได้ไกลกว่าเดิม

การสื่อสารผ่านโทรศัพท์ทางไกลครั้งแรก เกิดขึ้นในปี 1915 ระหว่างนครนิวยอร์ก เมืองใหญ่ทางตะวันออก กับซานฟรานซิสโก เมืองท่าที่กำลังเติบโตทางฝั่งตะวันตก

หลอดสุญญากาศนี้เองที่เป็นรากฐานและจุดเริ่มต้นของอุตสาหกรรม “อิเล็กทรอนิกส์”
ที่ปฏิวัติโลกของอุปกรณ์ไฟฟ้า และเทคโนโลยีการสื่อสาร

องค์ความรู้ด้านอิเล็กทรอนิกส์จุดประกายให้เกิดการวิจัยและพัฒนา
ในมหาวิทยาลัยทั่วสหรัฐอเมริกา หนึ่งในนั้นคือมหาวิทยาลัยในเมืองพาโล อัลโต
บริเวณหุบเขาทางตอนใต้ของอ่าวซานฟรานซิสโก ที่ชื่อว่า “มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด”

มหาวิทยาลัยที่เพิ่งก่อตั้งในปี 1891 แห่งนี้ จะเป็นผู้พลิกโฉมบริเวณรอบอ่าวซานฟรานซิสโก
หรือเรียกว่า “เบย์แอเรีย” จากย่านที่เต็มไปด้วยสวนผักและสวนผลไม้
ให้กลายเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์

โดยบุคลากรคนสำคัญที่มีส่วนผลักดันก็คือ ศาสตราจารย์ Frederick Terman
คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ ที่ได้ชักชวนเพื่อนนักวิจัยด้านอิเล็กทรอนิกส์
ให้มาร่วมงานที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ และบุกเบิกการเรียนการสอนอย่างเข้มข้น

พร้อม ๆ กับการพัฒนากระบวนการผลิตนักศึกษาให้เป็นนักธุรกิจ ด้วยการจัดตั้ง
Business Incubator for SMEs ที่ช่วยบ่มเพาะให้ลูกศิษย์ก่อตั้งบริษัทอิเล็กทรอนิกส์
เป็นของตัวเอง โดยใช้บ้านพักของอาจารย์ที่ยังว่างอยู่เป็นที่จัดตั้งบริษัท

แล้วความพยายามก็ประสบผลสำเร็จในปี 1939

เมื่อศิษย์เก่าวิศวกรรมไฟฟ้าจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด 2 คน
คือ Bill Hewlett และ David Packard ได้นำหลอดสุญญากาศมาพัฒนาเป็น
Electronics Oscillator จนประสบความสำเร็จ และได้ก่อตั้งบริษัท Hewlett Packard หรือ HP ขึ้นที่โรงรถในเมืองพาโล อัลโต โดยลูกค้าคนสำคัญที่ซื้ออุปกรณ์นี้ไปทำภาพยนตร์ก็คือ Walt Disney Production

Hewlett Packard นับเป็นบริษัทอิเล็กทรอนิกส์แห่งแรก ๆ ที่ลงหลักปักฐานในย่านเบย์แอเรีย
หลังจากบริษัทได้ทำสัญญากับกองทัพสหรัฐฯ ดึงดูดเม็ดเงินจากการลงทุนให้สะพัดไปทั่วย่านแห่งนี้

หลอดสุญญากาศยังถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากมาย รวมไปถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ในยุคแรก ๆ แต่หลอดสุญญากาศก็มีข้อเสีย
การต้องให้ความร้อนแก่โลหะจึงจะมีการปล่อยอิเล็กตรอน
ทำให้หลอดต้องใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างมหาศาล และมีราคาแพง

หลังสงครามโลกครั้งที่สอง จึงมีการประดิษฐ์สิ่งที่จะมาทดแทนหลอดสุญญากาศ
เรียกว่า “ทรานซิสเตอร์”

ทรานซิสเตอร์ถูกประดิษฐ์ขึ้นในห้องทดลองของบริษัท AT&T ที่รัฐเวอร์จิเนีย ทางตะวันออกของสหรัฐอเมริกา มีคุณสมบัติเป็นสารกึ่งตัวนำ หรือ Semiconductor ทำให้ปล่อยสัญญาณไฟฟ้าที่อ่อนกว่า และควบคุมสัญญาณได้ดีกว่าหลอดสุญญากาศ

หนึ่งในผู้ประดิษฐ์ทรานซิสเตอร์ซึ่งได้รับรางวัลโนเบลก็คือ William Shockley ได้ออกมาตั้งบริษัทของตัวเองเพื่อพัฒนาทรานซิสเตอร์ให้ดียิ่งขึ้น ใช้ชื่อว่า Shockley Semiconductor

และก็เป็น ศาสตราจารย์ Frederick Terman แห่งมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ที่ได้ชักชวนให้ Shockley มาเลือกทำเลที่ตั้งของบริษัทอยู่ในย่านเบย์แอเรีย ซึ่งก็คือเมืองเมาน์เทนวิว
ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด จึงทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างภาคเอกชนกับนักศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัย

Shockley ได้ตัดสินใจจ้างวิศวกรปริญญาเอก 8 คน จากมหาวิทยาลัยชื่อดังฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกา ทั้งฮาร์วาร์ดและ MIT ให้มารวมตัวกันในบริษัทที่เมาน์เทนวิว
นับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เบย์แอเรียเริ่มมีนวัตกรรมที่ก้าวล้ำนำหน้าภูมิภาคอื่น ๆ ของสหรัฐอเมริกา

ในช่วงแรกสารกึ่งตัวนำที่นิยมใช้ก็คือธาตุเจอร์เมเนียม (Ge) ซึ่งหายาก และมีราคาสูง
แต่ต่อมาพบว่ายังมีธาตุอีกชนิดหนึ่งซึ่งสามารถนำมาทำสารกึ่งตัวนำได้ดี และพบได้ง่ายกว่าเจอร์เมเนียมมาก ธาตุนั้นก็คือ ซิลิคอน (Si)

การใช้ซิลิคอนมาทำสารกึ่งตัวนำนี้เอง เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้หุบเขาย่านเบย์แอเรีย
ถูกเรียกว่า “ซิลิคอนแวลลีย์” ในเวลาต่อมา..

หลังจากรวมตัวได้ไม่นาน วิศวกรทั้ง 8 คน ก็ตัดสินใจลาออกมาตั้งบริษัททรานซิสเตอร์ของตัวเองในปี 1957 ซึ่งต่อมาก็ได้บริษัทผลิตกล้องถ่ายรูป Sherman Fairchild เป็นผู้สนับสนุนทางการเงิน จึงใช้ชื่อบริษัทว่า Fairchild Semiconductor

การเข้ามาร่วมลงทุนของ Fairchild เป็นการปูทางให้นักลงทุนผู้มั่งคั่ง
เข้ามามีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีใหม่ ๆ เกิดเป็นธุรกิจเงินร่วมลงทุน
หรือ Venture Capital (VC) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วนักลงทุนเหล่านี้
ก็มักจะนั่งในตำแหน่งคณะกรรมการบริหาร และคอยให้คำปรึกษาด้านต่าง ๆ แก่บริษัท

ถึงแม้จะดีกว่าหลอดสุญญากาศ แต่ทรานซิสเตอร์ยังจำเป็นต้องต่อกับส่วนประกอบอื่น ๆ เช่น
ตัวต้านทาน และตัวเก็บประจุ

เหล่าวิศวกรใน Fairchild Semiconductor จึงเกิดความคิดที่จะวางทรานซิสเตอร์จำนวนมาก ๆ และส่วนประกอบอื่น ๆ ไว้ในแผ่นซิลิคอนเพียงตัวเดียว

ความคิดนี้บรรลุผลสำเร็จในปี 1959
และสิ่งนั้นถูกเรียกว่า “แผงวงจรรวม” (Integrated Circuit) หรือ “ชิป”
ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานร่วมกันระหว่างส่วนประกอบต่าง ๆ ภายในอุปกรณ์
ให้สามารถติดต่อและรับส่งข้อมูลถึงกัน และทำงานประสานกันได้อย่างลงตัว

ต่อมาวิศวกรที่เคยทำงานที่นี่ทั้ง 8 คนก็ได้ออกมาตั้งบริษัทของตัวเอง
ซึ่งความสามารถทางเทคโนโลยีจะทำให้เกิดธุรกิจย่อยขึ้นมาอีกกว่า 120 ธุรกิจ

2 ใน 8 คนก็คือ Robert Noyce และ Gordon Moore
ที่ได้ออกมาก่อตั้งบริษัทผลิตชิป ในปี 1968
โดยใช้ชื่อบริษัทว่า “Intel” โดยมีสำนักงานแห่งแรกในเมืองเมาน์เทนวิว

จำนวนแผงวงจรที่สามารถวางลงในชิปหนึ่งตัว เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ในทุก ๆ 1 ปีครึ่ง
ทำให้ประสิทธิภาพในการเก็บข้อมูลของชิปทุก ๆ 1 ปีครึ่ง ถูกพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด
ซึ่งมีมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดเป็นผู้ผลักดันงานวิจัยร่วมกับบริษัทเอกชน

ในที่สุดก็เกิดชิปที่มีขนาดเล็ก และมีแผงวงจรรวมมหาศาลที่เรียกว่า “ไมโครโพรเซสเซอร์”

การพัฒนาไมโครโพรเซสเซอร์จะเปิดทางให้การผลิตคอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กลงจนคนทั่วไปสามารถมีไว้ครอบครอง และถูกเรียกว่า คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
หรือ PC (Personal Computer)

หนึ่งในผู้พัฒนาคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเครื่องแรก ๆ
คือผู้ช่วย 2 คน ที่เคยทำงานให้กับบริษัท Hewlett Packard

ผู้ช่วย 2 คนนั้นมีชื่อว่า “Steve Wozniak” และ “Steve Jobs”..

ติดตามซีรีส์บทความ “Branding the Nation” ปั้นแบรนด์ แทนประเทศ
ตอน ทำไม สหรัฐอเมริกา จึงเป็นประเทศแห่ง อุตสาหกรรมไอที ? ตอนที่ 2 และอ่านบทความในซีรีส์นี้ย้อนหลังได้ที่ Blockdit - blockdit.com/download
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://atlas.cid.harvard.edu/explore?country=undefined&product=403&year=2018&productClass=HS&target=Product&partner=undefined&startYear=undefined
-https://www.forbes.com/sites/gilpress/2013/04/08/a-very-short-history-of-information-technology-it/?sh=82924872440b
-https://www.stanford.edu/about/history/
-https://www.capterra.com/history-of-software/
-https://www.internetsociety.org/wp-content/uploads/2017/09/ISOC-History-of-the-Internet_1997.pdf
-https://www.businessinsider.com/silicon-valley-history-technology-industry-animated-timeline-video-2017-5
-https://historycooperative.org/history-of-silicon-valley/
-https://endeavor.org.tr/wp-content/uploads/2016/01/How-SV-became-SV.pdf

【我親愛的Zoom視訊客人們】
To My Dear Zoom Clients

我忍了真的⋯⋯真的⋯⋯很久，今天過後實在忍無可忍，一定要叮嚀所有過去和未來的客人們。

我年紀很大了，受不了太大的刺激。

拜託，你們可以Zoom好來嗎？😓😑

一、Zoom視訊的視角 = 拍護照照的視角

護照自2020年起就已成為古董，但大家這一生應該有拍過證件照吧！

對了，就是要頭髮整齊，讓我看到你的雙耳、雙眼、鼻子、嘴巴、頸項和肩膀，到胸部。

我批八字時，需要看整個面相。不要讓你一半的臉掉出鏡頭外，這樣很像鍾無艷，也不要嘴巴不見掉，這樣我很像在跟一條羅漢魚視訊。

我看面相包括看你的嘴巴、牙齒和說話時的嘴形。是的，看相就是需要那麼仔細。

如果你的螢幕太低，那就找書本或舊報紙，把螢幕墊高一點。別讓我整一個小時半只看到你的雙下巴，會把你的面相比例給看錯。

不要一直告訴我不好意思，方法是人想出來的。

•

二、光線

太暗，我看你如見鬼。
太亮，我會看不清你的膚色。
拉開窗簾，不要背向陽光。
有必要的話，就直接開燈！

•

三、勿放什麼椰樹沙灘/金門大橋的虛擬背景圖

什麼虛擬背景圖都不要放啦～

我的家美最重要，我不在乎你的家美不美，我只是來看命的。

如果你的Wi-Fi不是很強，電腦功能不是很厲害，這類的虛擬背景圖會讓你的視訊畫面卡卡的。

有時你轉個身，整個右邊不見了，或部份的頭髮少了，讓我覺得我好像在看恐怖片，嚇人啊～

•

四、環境和聲音

有些海外客人其實非常用心。為了與我視訊，特別去買有麥克風的耳機🎧，讓我能更清楚的聽到他們的聲音。😍

沒有使用耳機和麥克風的客人，往往他們的聲音會有種空氣般的回音，如果他們本身講話又小聲，我的耳機聲量開滿，我還是聽得滿辛苦的

也有香港和馬來西亞客人租過會議室、鐘點房間或單人工作室，就是為了不受家人的干擾，能安心的與我視訊。😍

最有趣的是，去年新加坡阻斷措施時，有位男客人跑到屋外的走廊坐在地上與我視訊。只是外頭風聲有點大，我好幾次都聽不清楚他的聲音。

曾有客人在咖啡廳與我視訊。咖啡廳裡的高談闊論聲和器皿的敲擊聲，頻頻從我的耳機闖進我的耳朵，哇～我的耳朵那時真的是活受罪，還要裝一副氣定神閒的樣子。

天啊，兩次過後，我寧願退錢，也不再見這樣的客人了。耳朵只有一對，我要保護好啊！

在這裡聲明：一般我們買手機時的那種有麥克風的耳機，就已能視訊。沒有戴耳機和麥克風的客人，我一概會拒絕諮詢，把費用原銀奉還。

五、孩子

曾試過諮詢的前20分鐘，一直被女客人的小孩打擾，進來哭著要媽媽主持公道。

如果你家中有六歲以下的兒童，會時不時來敲你的門，我建議你還是先別約我。你這樣會分心，無法聽好我交代的事，而我也得一直等你去安撫你的孩子，就無法在限定時間內看完你的八字，這樣對誰都不公平。

六、我只見客人一人

這個規矩，從我一出道就定下來，也清楚的寫在網站上，根本不用一而再的來試探水溫。

但這兩個星期，還是有客人硬闖關，事先安排自己的配偶/孩子坐在電腦的另一面，要他們聽我講他的八字。

我從不改我的規矩，也沒有八字或風水是我非看不可的。

讀書這麼高，連自己的命都不能自己負責，這已經不是能改到命的人了。

你一定要你的配偶陪你聽，那你需要的不是我來教你改命，是你的配偶來安你的心。

將來若還有這樣的事，我會直接中斷視訊，把錢退回去。

七、「我第一次用Zoom！」

可是從報名那天到今天的諮詢，你有兩個月的時間去摸索。

兩個月，怎麼還是錯誤百出？因為客人根本沒有事先準備和練習。

結果我就這樣等了20分鐘，還得等對方下載軟件。

Zoom不難使用，但如果是你沒有花時間去摸索，就不要撒謊，直接說，我就直接退現錢。

品德是改命的資糧，不要為了自己能脫身就隨便編一個漏洞百出的謊，還說自己是好人。這...不會臉皮太厚了嗎？

小事都不願做好，絕對不會成大器。

八、暈車

有些客人用Ipad或手機來視訊。

重點是，他一支手拿著手機，一支手拿筆寫筆記。他一邊寫，另一支手就一邊搖晃。他做在床上，移動一下，手機就彷彿大海嘯幾下🌊

我一天如果見三個這樣客人，我的視線就搖晃了5個小時。工作完畢後，頭也會痛得厲害，無法完成晚上製片的工作。

沒有自拍器三腳架，也應該有些書本或東西來頂著手機。

各位，多點善心，為我著想一下吧⋯⋯

__________________________

To My Dear Zoom Clients

I have been enduring it for a really really long time. That's it! I am gonna put a stop to this after today and send out this reminder to all my past and future clients.

I am getting on in years, and cannot stand too much stimulation.

Please.... can you guys do a proper Zoom?

Number 1: Going on screen in Zoom = Taking a photograph for your passport.

Since 2020, the passport has become something of an antique but I believe everyone has taken some kind of ID photos! Yes, the ones with your neatly combed trusses where I can see both your ears, nose, mouth, neck, shoulder all the way to your chest.

I would like to see your full face during the Bazi Consultation. Please don't allow half your face to fall off the screen and you end up looking like Zhong Wu Yan! Please also don't hide your mouth making me feel like I am talking to a Arrowana.

When I analyze your facial features, it includes your mouth, teeth and the shape of your mouth while you are talking. Yes, it is down to such level of details.

If your PC / Laptop monitor is too low, please find a book or old newspapers and stack it on top. Please don't let me only see your double chin for that 1.5 hours, as I would probably get the proportion of your face wrong.

Don't keep telling me you are apologetic. Think of a way out.

Number 2: The background lighting.

Too dark, you risk looking like a ghost.

Too bright, I cannot figure out your skin color.

Draw open the curtains, but don't face your back to the sunlight.

If necessary, just turn on the lights!

Number 3: Background images of coconut trees on sandy beaches or the Golden Gate Bridge.

There is no need to put on a virtual background. I only care about how my hone looks, I am not bothered by yours. I am only here to see your Bazi.

If your WIFI signal or your PC / Laptop performance is poor, using the virtual background can often make your Zoom video choppy. Sometimes when you turn your body, one side of your body or some part of your hair will disappear. It's really like one of those spooky movies scaring the wits out of me.

•

Number 4: Background environment and noise.

Some of my overseas clients really put in effort for our Zoom sessions. They bought a headset with a mic so that I can hear them properly and vice versa.

Those that did not use a earphone or a headset often sounded echo-ish, and if they spoke softly, I would have to turn on the volume on my side full throttle and still have a hard time trying to hear them.

There are some clients from Hong Kong and Malaysia who would rent meeting rooms, hotel rooms or private work spaces by the hour so as to reduce any disturbance from others and better focus on the Zoom session with me.

I recalled an interesting incident during the Circuit Breaker last year. A client from Singapore Zoom-ed with me along the corridor outside his house. Most of the time, I was hearing the howling of the winds rather than his voice.

Some clients sat themselves in coffee places for our session. These places are often filled with loud chatters and the clanging of cups and plates, and my ears suffered terribly. Yet, I have to continue to be seen as composed and attentive.

Goodness me, after 2 of such experiences, I decided that I rather refund these clients and never see them again. I have only 1 pair of ears and I want to protect them at all costs!

A normal earpiece that comes with the purchase of a handphone is good enough for Zoom video calls. For clients who do not have a earpiece/headset and a mic, I would end the consultation and refund the monies.

•

Number 5: Children

There was once where a session with a female client was repeatedly disrupted by her kids, running in crying for their mother to settle their quarrels. If you have children below 6 years of age, and likely to interrupt our session, I suggest you don't book a consultation with me.

You will be distracted, unable to focus on my advice and I have to wait for you to clear up the situation with your children, eating into the allowable time for me to complete the consultation. This is unfair to both you and me.

•

Number 6: I only meet one person, that is the Client.

I have set this requirement the day I stepped into this line of work, and it is clearly written in my booking form. There is no need to try your luck under any circumstances.

But in the space of 2 weeks, there were some clients who rode their luck and got their spouse / child to sit on the other side of the screen to listen in on our consultation.

I never change my stance, and there is no single client that I cannot afford to lose.

If you insist to have your spouse sit in, it is apparent that you do not need me to help transform your destiny. Rather you really need your spouse to put your heart at ease.

If such things happen the next time, I will end the session immediately and refund the fees.

•

Number 7: "My first time using Zoom"

But you have 2 full months to prepare before our actual consultation. You did not end up wasting time exploring the software and I wasted 20 mins waiting for you to download the software.

Zoom is an easy software to use but if you did not spend the time to familiarize yourself with it, please quit the lies and tell me directly. I will refund the consultation fees on the spot.

Our moral ethics serve as the foundation for our transformation. Stop weaving web of lies to get out of sticky situations, and still claim that you are a good person. Isn't this too thick-skinned?

•

Number 8: Giddy spells

Some clients use Ipad or their handphones for the Zoom session. Crucially, they hold the device with one hand, and take notes with the other. As they write, the other hand holding the phone becomes shaky. If he is doing that on his bed, his handphone would shake like a tsunami wave every time he changes his position.

If I see 3 such clients within a day, it would be 5 hours of shaking visuals for me. That would mean a splitting headache at the end of my work day, and not being able to work on my videos at night.

Even if you don't have a tripod stand, at least prop up the device with a book or something.

Please everyone, please be kind and have mercy on me......

My Time at Portia เตรียมวางจำหน่ายบนระบบมือถือ Android เร็ว ๆ นี้
.
My Time at Portia เกมแนว Life Simulation สำหรับระบบ PC กับเครื่องคอนโซลที่มีกระแสตอบรับดีมากจากฝ่ายคนเล่น เตรียมถูกพอร์ตลงมือถือ Android ในเร็ว ๆ นี้
.
แม้ยังไม่มีการเผยรายละเอียดเกมอย่างชัดเจน แต่การประกาศเปิดตัว My Time at Portia เวอร์ชัน Android ได้เกิดขึ้นใน TapTap 2020 conference ซึ่ง TapTap เป็นแอปพลิเคชันดาวน์โหลดซอฟต์แวร์มือถือสำหรับประเทศจีน จึงสันนิษฐานว่าเกมดังกล่าวอาจจะไม่มีแผนเปิดให้ดาวน์โหลดผ่าน Google Play Store
.
My Time at Portia เป็นเกมแนวจำลองการใช้ชีวิตที่เคยวางจำหน่ายในช่วงปี 2019 ทั้งระบบ PC, PlayStation 4, Xbox One และ Nintendo Switch ซึ่งเกมดังกล่าวมีกระแสตอบรับดีมากในด้านการนำเสนอที่น่าสนใจ และมีระบบเกมเพลย์ทำให้ผู้เล่นเพลิดเพลินกับการเล่นเป็นเวลานาน
.
My Time at Portia เวอร์ชันมือถือ Android ยังไม่มีกำหนดการวางจำหน่ายอย่างชัดเจน ส่วนตัวเกมดังกล่าวจะลง iOS ด้วยหรือไม่นั้น ก็ต้องติดตามกันต่อไปครับ
.
ที่มา: https://www.droidgamers.com/…/stardew-valley-inspired-my-t…/
.
#ข่าวเกม #GamingDose #MyTimeatPortia
My Time at Portia. Available on Android mobile system soon.
.
My Time at Portia. Life Simulation game for PC system and console with great response from players. Prepare to be portfolio to Android mobile phone soon.
.
Although the game details have not been revealed, the release of My Time at Portia Android version has taken place on TapTap 2020 conference, TapTap is a mobile software download application for China, so it is assumed that the game might not have an open plan. Download via Google Play Store
.
My Time at Portia is a living simulation game that was released during 2019, both PC, PlayStation 4, Xbox One and Nintendo Switch. The game has a great response to the interesting presentation and game system. Players enjoy playing for long time
.
My Time at Portia. Android mobile version is not scheduled to be released clearly. Personally, the game will be on iOS or otherwise, we have to follow.
.
Source: https://www.droidgamers.com/2020/07/10/stardew-valley-inspired-my-time-at-portia-is-coming-to-android/
.
#ข่าวเกม #GamingDose #MyTimeatPortiaTranslated

#撞Online #邊鬼個係PatrickC
===========================================
立即下載 跑Online : https://bit.ly/2XX4ZWL

ToNick限定合作序號: TRXTONICK2021
去跑Online官網頁面儲值 就可獲得限定既道具啦！
官網連結: https://www.talesrunner.com.hk/tr_index.html
===========================================

仆直牛棚 DISCORD GROUP!!!!
https://discord.gg/NEUrvkf

商業聯絡:
[email protected]

Instagram: @POKJIC_C @cmg_chi_ma_gun
https://www.instagram.com/pokjic_c/?h

Song: ToNick - 一進不退

Background Music:
1. Madness Combat 2 - Unnamed Extended
2. Jazz in Paris
3. TR極速競賽
4. 鄧麗欣 - Fantastic Tale
5. TR 公園 bgm
6. Free Background Music For Youtube Videos No Copyright Download for content creators
7. Jarico - Landscape (Vlog No Copyright Music)
8. 花澤香菜 - 戀愛循環

FAQ:
Pc Spec:
CPU: AMD R9 3900X
GPU: ASUS RTX 2080 SUPER TURBR (WATER COOLED)
RAM: KLEVV 3600Mhz 32GB (4x8 GB)
M/B: ASROCK X570 TAICHI
CASE: ANTEC P120 CRYSTAL
FAN: PRIZM 120 ARGB
WATER COOLING: BARROW
SSD: Samsung PM981a 512GB 3D TLC M.2 NVMe PCIe 3.0 x4 SSD


Gaming Gear
Mice: Logitech G502 Lightspeed / Steelseries Aerox 3 Wireless
Mousepad: Steelseries QCK Prism 3XL
Keyboard: Logitech G913 Linear / Corsair K100
Headset: Razer Nari Essential / Apple Earpods / Logitech G Pro X Wireless
Mic: Razer SEIREN X / Elgato Wave 3
Chair: Zenox Nebula
SFX: Elgato Stream Deck
WiFi Router: NETGEAR XR1000

Camera: Sony A6400
Recroding Software: Nividia Shadow Play
Live Stream Software: OBS studio
Video Editing Software: Vegas Pro

時間軸:
0:00 開場白
0:46 去跑Online 戲谷總部搞搞震
2:50 第一次去專業MV片場
5:27 跑Online GM 訪問大會
7:29 一進不退MV幕後花絮
8:56 同ToNick傾下計
11:10 完啦條片

#r6le
#R6搞笑時刻 EP. 36 【R6｜Siege】
NEXT LEVEL R6 ACTION

仆直牛棚 DISCORD GROUP!!!!
https://discord.gg/NEUrvkf

商業聯絡:
[email protected]


Instagram:
https://www.instagram.com/pokjic_c/?h


Background Music:
1. Chasing Scene Msuic
2. Funky Souls - Amarià [Vlog No Copyright Music]
––––––––––––––––––––––––––––––
Funky Souls by Amarià https://soundcloud.com/amariamusique
Creative Commons — Attribution 3.0 Unported — CC BY 3.0
Free Download / Stream: http://bit.ly/Funky-Souls
Music promoted by Audio Library https://youtu.be/jFMCyqKF-EE
––––––––––––––––––––––––––––––
3. In the Hall of the Mountain King
4. Metal gear solid alert theme
5. Brain_Trust
6. Benny Hill Theme
7. Investigations (Kevin MacLeod) - Gaming Background Music (HD)
8. Spiral Mountain - Banjo-Kazooie
9. [No Copyright Music] Retro 80's Funky Jazz-Hop Instrumental (Copyright Free) Music - Sundance Re
► Music Credit: SUNDANCE
Track Name: "Perséphone - Retro Funky (SUNDANCE remix)"
Music By: SUNDANCE @ https://soundcloud.com/sundancemusic
The SUNDANCE Official Website is HERE - http://lefthandmusic.fr/
Follow SUNDANCE on BandCamp: https://sundancemusic.bandcamp.com/
License for commercial use: Creative Commons Attribution 3.0 Unported (CC BY 3.0) https://creativecommons.org/licenses/...
Music promoted by NCM https://goo.gl/fh3rEJ
10. Hawaii campfire
11. mario kart 8 twisted mansion

FAQ:
Gaming Gear / Pc Spec:
CPU: AMD Ryzen 1700
GPU: ASUS GTX 1060 3GB
RAM: 16 GB
Mice: Logitech G502 RGB
Headset: Razer Nari Essential
Mic: Razer SEIREN X
Camera: Sony A6400
Recroding Software: Nividia Shadow Play
Live Stream Software: OBS studio
Video Editing Software: Vegas Pro

◆Windows10のダウンロードページ
https://www.microsoft.com/ja-jp/software-download/windows10
※ ［ツールを今すぐダウンロード］をクリック。

◆動画内のEeePCのその後
Win10へアップグレードしたHDDをいったん完全にまっさらにした後、上記ツールで作成したUSBメモリのインストールメディアで再度Win10のクリーンインストールを試しましたが、インストール実行ボタンを押下直後、「Your PC ran into a problem and needs to restart. We're just collecting some error info, and then we'll restart for you. 」というブルースクリーンのエラーメッセージが表示され、Win10をインストールすることはできませんでした。

このPCは本来Windows10に対応していないってことですね。Win10非対応のPCだと、そもそもクリーンインストール時に上記エラーが出て はじかれちゃうみたいです、たぶん。
ただ今回の動画のように、非対応PCでもアップグレードはできることがあるみたいなので、動画内のPCもWin7時のリカバリメディア（回復ドライブ）があれば一回Win7で初期化して再度Win10へアップグレードできます、たぶん。笑

ただ仮にアップグレードできてもディスプレイの解像度がおかしいので実用は現実的ではなさそうですが...。
結局最終的にはLinuxを入れました。
（このPCにLinuxを入れる様子も動画にまとめました。
https://youtu.be/3l4GjxXIWTM）

動画内のPCは、僕が互換性のないドライバーへ更新するという余計なことをしちゃったせいで死んでしまいましたが、microsoft公式のツールを使用すれば今でもwin10へ無償アップグレードできるのは間違いありません。
クリーンインストールする場合は、できれば現状問題なくwin７（win8）が動いているHDD（or SSD）以外のHDD（or SSD）で試したほうが安全と思います。。。

いずれにしても大事なデータのバックアップを取っておくことと、回復ドライブを作成しておくことを推奨いたします。
何らかのトラブルが生じてもすべて自分で解決できるように頑張ってください。。。笑

◆回復ドライブの作成、利用はこの動画
https://youtu.be/pTmcZa9s40U