ถ้าจะเริ่มเปิดเมือง "เครื่องฟอกอากาศ" มีประโยชน์กว่า "ใบรับรองการฉีดวัคซีน" ครับ
มีคนส่งคำถามมาขอความเห็นว่า คิดอย่างไรกับการที่ กทม. จะเริ่มผ่อนคลายการล็อคดาวน์ ในหลายๆ สถานที่ในหลายกิจกรรม โดยเฉพาะกับเรื่องการที่ "เข้าไปทานอาหารในร้าน" ได้ โดยไม่ต้องใช้ใบรับรองการฉีดวัคซีน อย่างที่เคยเป็นข่าวก่อนหน้านี้ ว่าจะให้ใช้ด้วย
ก็ขอให้ความเห็นว่า ไม่คิดว่าการมีใบรับรองการฉีดวัคซีน จะเป็นประโยชน์มากอย่างที่หลายๆ คนพยายามจะเน้นมันขึ้นมา (ว่าต้องฉีดวัคซีนแล้ว ถึงจะเข้าไปที่นั่นที่นี่ได้)
เพราะการที่เราฉีดวัคซีนแล้วนั้น ไม่ได้แปลว่า เราจะไม่ติดเชื้อโรคโควิดอีก หรือจะไม่แพร่เชื้ออีก .. วัคซีนเพียงแค่ช่วยให้เรามีความเสี่ยงน้อยลง ในการจะติดเชื้อโรคแล้วป่วยตั้งแต่เบา หนัก จนถึงเสียชีวิต
สิ่งที่สำคัญมากกว่า แล้วน่าแปลกใจว่า ในส่วนของสาธารณสุขไทย รวมถึง กทม. กลับไม่ค่อยให้ความสำคัญ คือเรื่องของ "การระบายอากาศ ventilation" ภายในร้านที่เราจะเข้าไป
เพราะปัจจุบัน เรารู้ค่อนข้างชัดเจนมากขึ้นแล้วว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้น มีเส้นทางหลักคือ เรื่องของการรับเอา "ละอองฝอย สารคัดหลั่ง" จากผู้ติดเชื้อ เข้าสู่ร่างกาย ผ่านทางลมหายใจเป็นหลัก (เรื่องการสัมผัสผิววัสดุที่มีเชื้อโรคปนอยู่ หรือแม้แต่การกินอาหารที่มีเชื้อโรคปนอยู่ จนเป็นโรคขึ้นนั้น ถือว่าเป็นเส้นทางที่เกิดขึ้นได้ยากมาก)
ซึ่งการรับเอาละอองฝอยจากผู้ติดเชื้อ ก็มี 2 แนวทาง คือ 1. แบบ droplet จากการพูดคุยกันในระยะใกล้ โดยไม่ใส่หน้ากาก เป็นเวลาตั้งแต่ 5 นาทีขึ้นไป / หรือ 2. แบบ aerosol airborne คือ ถึงแม้จะไม่ได้พูดคุยกัน แต่อยู่ในห้องเดียวกันกับผู้ติดเชื้อ ที่เป็นห้องปิดทึบ อากาศไม่ถ่ายเท โดยไม่ใส่หน้ากาก เป็นเวลานานกว่า 15 นาทีขึ้นไป
แบบที่ 2 นี่แหละ ที่ในต่างประเทศอย่างสหรัฐอเมริกา (ดู https://www.cdc.gov/coronavirus/2019-ncov/community/ventilation.html) ให้ความสำคัญขึ้นมามาก
โดยรณรงค์ ไปจนถึงออกกฎเกณฑ์ ให้มีการปรับเปลี่ยนห้องพัก ห้องทำงาน ร้านอาหาร โรงเรียน สถานที่ต่างๆ ให้อากาศถ่ายเท เปิดโล่งมากขึ้น
กล่าวคือ จะไม่ใช้เงินเลย ก็ให้เปลี่ยนไปทำกิจกรรมกลางแจ้งแทน / หรือถ้าต้องอยู่ในอาคาร ก็ให้พยายามเปิดประตู หน้าต่าง
ถ้าจะต้องใช้เงินมากขึ้นมาหน่อย ก็เปิดพัดลม เพื่อให้มีการไหลเวียนระบายอากาศ / หรือถ้าทำเป็นห้องที่ปิดทึบ ก็ต้องใช้เครื่องฟอกอากาศแบบที่มี HEPA ฟิลเตอร์ (ซึ่งแผ่นกรองระดับเฮปป้านี้ ก็เพียงพอที่จะดักละอองฝอยน้ำลาย ที่ติดเชื้อโรคได้)
หรือถ้าจะให้ใช้เงินมากกว่านั้น ระบบกรองอากาศก็ติดเครื่องที่ฉายแสงยูวี เพื่อฆ่าเชื้อโรคได้ด้วย แต่ต้องทำในเครื่องที่ปิดมิดชิด ไม่ให้แสง UV (รวมถึงก๊าซโอโซนที่มักเกิดขึ้นตามมา) ออกมาเป็นอันตรายต่อผู้คนในห้องได้
ดังนั้น ศบค. และ กทม. รวมถึงเราทุกคน คนต้องให้ความสำคัญอย่างมาก กับเรื่องที่จะกลับมาใช้ชีวิตแบบ new normal ในสถานการณ์ที่โควิดระบาดนี้ ด้วยการ "อยู่ในพื้นที่ที่อากาศถ่ายเท" ไม่ใช่แค่เรื่องใส่หน้ากากอนามัย และเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลเท่านั้น
ยกตัวอย่างเช่น แทนที่จะออกกฎเพียงแค่บอกว่า ร้านอาหาร "แบบปิด ติดแอร์" ให้นั่งกินในร้านได้ โดยมีลูกค้าจำนวนจำกัด ...แต่ถ้าอากาศไม่ถ่ายเท มีลูกค้า 1 คนที่ติดเชื้อ ก็สามารถแพร่เชื้อ ทำให้ทั้งห้องนั้นมีเชื้อโรคสะสม จนติดเชื้อกันได้ .. จึงควรจะเพิ่มกฎเรื่องให้ติด "เครื่องฟอกอากาศ" ที่มีประสิทธิภาพเพียงพอต่อขนาดพื้นที่ของร้านอาหารนั้นด้วย
ถ้าเข้าใจ concept นี้ เราก็ประยุกต์ใช้ได้อีกกับหลายๆเรื่องเลย เช่น นั่งรถแท็กซี่ รถตู้ รถขนส่งสาธารณะ อย่างไรให้ปลอดภัยขึ้น ? ก็ควรจะติดเครื่องฟอกอากาศ หรือแผ่นกรองอากาศแบบ HEPA ในรถด้วย
ฝากแชร์ไปให้ถึงระดับ ผู้ว่า กทม. หรือ ผอ. ศบค. รับทราบข้อเรียกร้องนี้ด้วยนะครับ 😀
ปล. เอาตัวอย่างเครื่องฟอกอากาศ หลายรุ่น ที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันดี มาให้ดูนะครับ ว่าจริงๆ ที่ใช้กันมาตั้งแต่สมัยเรื่องฝุ่น PM 2.5 นั่น ก็เอามาใช้ต่อในสถานการณ์นี้ได้ ขอเพียงให้มีแผ่นกรองอยู่ในระดับ HEPA filter
-----
(รายงานข่าว)
ประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง "สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 41)"
📌 3.ร้านอาหารหรือเครื่องดื่มเปิดให้บริการได้ ไม่เกิน 20.00 น. โดยร้านอาหารที่อยู่นอกอาคาร หรือในอาคาร แต่ไม่มีเครื่องปรับอากาศให้นั่งรับประทานได้ 75 % ส่วนร้านอาหารที่มีเครื่องปรับอากาศ ให้นั่งรับประทานได้ 50 %
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1-30 ก.ย.2564
ภาพ และข่าว จาก https://www.facebook.com/135182934814/posts/10163092314554815/
「droplet aerosol」的推薦目錄:
- 關於droplet aerosol 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的最佳解答
- 關於droplet aerosol 在 Drama-addict Facebook 的最讚貼文
- 關於droplet aerosol 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的最讚貼文
- 關於droplet aerosol 在 Understanding the Terms Aerosol, Droplet, and Airborne 的評價
- 關於droplet aerosol 在 Droplets versus aerosol transmission explained | By 7.30 的評價
droplet aerosol 在 Drama-addict Facebook 的最讚貼文
อันนี้กุเตือนคนในวงการบันเทิงหลายรอบละ หลายคนก็รู้ละว่าเฟซชิลด์ไม่ช่วยอะไร แต่บางคนยังประมาทอยู่ ก็รีรันอีกรอบ
การใส่ faceshield ที่เห็นดาราศิลปินชอบใส่ออกทีวีกัน อันนั้นปรกติจะใช้ในหมอพยาบาลที่ต้องดูแลผู้ป่วย แล้วใส่ป้องกันน้ำลายพุ่งใส่หน้าใส่ตา
แต่มันกันได้แค่นั้น มันกัน droplet หรือ aerosol ไม่ได้ ดังนั้นการใส่แค่เฟซชิลด์เปล่าๆ จึงไม่มีประโยชน์ใดๆในการป้องกัน covid-19 ไม่ช่วยอะไรเล้ยยยย ตอนนี้อย่าว่าแต่เฟซชิลด์เลย หน้ากากชั้นเดียวยังไม่พอด้วยซ้ำ แนะนำให้ใส่หน้ากากตลอดเวลา อย่างน้อย หน้ากากอนามัย 1 ชั้น หรือ สองชั้น โดยเป็น หน้ากากอนามัยชั้นใน ชั้นนอกเป็นหน้ากากผ้า จะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการป้องกันได้
แต่ห้ามใส่เฟซชิลด์เปล่าๆโดยเด็ดขาด
อ้อ นอกจากวงการบันเทิง พวกงานประกวดนางงามต่างๆไรนี่ ก็อย่าให้เห็นว่าใส่เฟซชิลด์อย่างเดียวนะ เด๋วติดกันทั้งงานไม่รู้ด้วย
droplet aerosol 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的最讚貼文
มีคนส่งมาถามว่า เห็นด้วยไหมกับที่มีคำเตือนออกมาว่า ห้ามกินน้ำแข็งเพราะจะปนเปื้อนเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 แล้วทำให้เราป่วยเป็นโรคได้ !?
คำตอบของผมคงทำให้หลายคนแปลกใจ เพราะผมตอบว่า "ไม่เห็นด้วยนะครับ" !
ถ้าจำกันได้ เมื่อปีก่อนผมเคยช่วยรณรงค์คำขวัญกระทรวงสาธารณสุขเรื่องให้ "กินร้อน ช้อนกลาง (ช้อนกู) ล้างมือ ใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างทางสังคม" ด้วย
แต่ก็สงสัยมาตลอดว่า โรคโควิด-19 มันเป็นโรคระบบทางเดินหายใจ ทำไมจะต้องเป็นเรื่องกินร้อนช้อนกลางด้วย .. คำตอบที่ได้จากเพื่อนที่เป็นหมอ ก็บอกว่า กระทรวงเขาคงอยากใช้คำขวัญเดิมๆ ที่คนคุ้นชินแล้วจากการรณรงค์พวกโรคติดต่อทางเดินอาหาร เอามาปรับนิดหน่อยให้ไว้ใช้สำหรับโรค covid
แต่องค์การอนามัยโลกเองก็เขียนไว้ชัดเจนว่า ไม่เคยมีหลักฐานยืนยันว่าโรคโควิดแพร่ระบาดทางการกินอาหาร !? ... ซึ่งเรื่องนี้ได้ถูก ก. สาธารณสุข นำมาใช้แก้สถานการณ์ตอนช่วงที่คนไทยไม่กล้ากินอาหารทะเลจากจังหวัดสมุทรสาครกัน เพราะกลัวติดเชื้อโรค covid ไปด้วย
แต่เห็นว่าคำขวัญรณรงค์ที่ใช้กับโรค covid-19 ของ สธ. ในปัจจุบันนี้ ก็เน้นเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องการกินอาหารแล้ว (เน้นแต่เรื่องระบบทางเดินหายใจ เช่น ใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างทางสังคม และไม่อยู่ในที่ที่แออัดเป็นต้น )
เอาเข้าจริงๆ แล้ว ปัญหาของการติดโรคโควิด-19 จากการกินข้าวร่วมกัน เป็นเพราะมีการพูดคุยกันระหว่างกินข้าว มากกว่าจะเป็นเรื่องของการที่กินอาหารร่วมจาน ร่วมช้อน กันนะครับ
ดังนั้น เราคงไม่ต้องหวาดกลัวติดโรคโควิดจากการกินน้ำแข็งอย่างที่เป็นข่าว ขนาดนั้นหรอกนะครับ ... แต่ควรจะต้องระวังเรื่องการคลุกคลีใกล้ชิดกับคนอื่น เหมือนเดิมต่อไปนั่นแหละครับ
ลองดูคำอธิบายเพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญอีก 2 ท่าน ตามข่าวด้านล่างนี้นะครับ
-------
(รายงานข่าว จาก TNN)
ผู้เชี่ยวชาญตอบข้อสงสัย ‘โควิด-19’ สามารถติดเชื้อผ่านการกินอาหาร-น้ำแข็งได้หรือไม่
วันนี้ ( 6 มิ.ย. 64 )จากกรณี ที่มีข่าวการติดเชื้อโควิด19ในคลัสเตอร์โรงงานน้ำแข็งหลายแห่งจนมี คำเตือนให้งดกินน้ำแข็งโดยตรง หรือใส่เครื่องดื่ม เพราะ เชื้อปนเปื้อนไวรัสโควิด19 ชอบความเย็นอยู่ได้นาน2-3วัน
ล่าสุด ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักวิจัยด้านไวรัสวิทยา ไบโอเทค เผยข้อมูลจาก ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคของสหรัฐฯ หรือ CDC ที่แสดงไว้ชัดว่า ความเสี่ยงจากการติดเชื้อไวรัสโรคโควิดจากอาหารที่เจือปนเชื้อ รวมไปถึงน้ำดื่ม อยู่ในระดับต่ำมาก (Very low) เพราะหากรับประทานลงกระเพาะอาหาร เชื้อไวรัสจะถูกทำลาย ไม่มีผลเหมือนเชื้อแบคทีเรีย ที่เจริญเติบโตได้ แต่การติดเชื้อโควิด19 น่าจะมีความเสี่ยงจากมือที่ไปสัมผัสน้ำแข็งที่มีเชื้อแล้วไปโดนตาหรือจมูกมากกว่า
เช่นเดียวกับ นายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าห้องไอซียู เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ ประจำที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ เคยระบุไว้ว่า โรคโควิด-19 ไม่ติดต่อทางการกินอาหาร เหมือนกับ โรคติดต่อทางการกินอาหาร หรือการดื่มน้ำ เช่นโรคไวรัสตับอักเสบ A, โรคท้องร่วงจากโนโรและโรตาไวรัส
ทั้งนี้โรคโควิด-19 เป็นโรคติดต่อหลักๆ ทางการหายใจ โดยหายใจเอาหยดละออง (droplet) เมื่ออยู่ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อในระยะ 1-2 เมตร และหายใจละอองฝอย (aerosol) ลอยออกมาจากผู้ติดเชื้อ แพร่กระจายผ่านอากาศ (airborne) ไกลกว่า 2-10 เมตร ติดเชื้อได้โดยไม่ต้องเจอหน้ากัน ซึ่งมีงานวิจัยทางต่างเทศได้ทำการศึกษามาแล้ว
โดยการแพร่กระจายของไวรัสส่วนใหญ่เกิดภายในอาคารและสถานที่ปิด ที่พบกลางแจ้ง (open air) น้อยมาก และมีตรวจพบเชื้อไวรัสโควิด-19 มีชีวิตได้ในอากาศนานถึง 3 ชั่วโมง
นอกจากนี้ ยังพบเชื้อไวรัสโควิด-19 ในไส้กรองอากาศและท่ออากาศภายในโรงพยาบาลที่มีผู้ป่วยโควิด-19 นอนอยู่ ละอองฝอยเท่านั้นสามารถลอยขึ้นไปได้ ปัจจุบันองค์การอนามัยโลกยอมรับแล้วว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 แพร่กระจายได้ทางอากาศ
ดังนั้น คลัสเตอร์ โรงงานต่างๆ รวมถึงเรือนจำ ที่อยู่อย่างแออัดและไม่มีการระบายอากาศที่ดีพอ จึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เชื้อโควิด19ได้ง่าย ส่วนอาหารแช่แข็ง อาหารสด อาหารญี่ปุ่น เครื่องดื่มน้ำแข็ง รับประทานได้เหมือนเดิม แต่กระบวนการผลิตต้องสะอาดปลอดภัยได้มาตรฐาน จะปลอดภัยจากทุกเชื้อโรค
จาก https://www.tnnthailand.com/news/covid19/81827/
droplet aerosol 在 Droplets versus aerosol transmission explained | By 7.30 的推薦與評價
Droplets versus aerosol transmission explained. Many experts argue poor ventilation and airborne transmission of COVID-19 is not being taken as ... <看更多>
droplet aerosol 在 Understanding the Terms Aerosol, Droplet, and Airborne 的推薦與評價
In the wake of COVID-19, what do these terms mean? Understand the definitions of aerosol, droplet, and airborne. ... <看更多>