วิวัฒนาการ NBA จากลีกบาสเกตบอลไม่มีคนดู สู่ธุรกิจ 2 ล้านล้าน /โดย ลงทุนแมน
หากพูดถึงลีกการแข่งขันบาสเกตบอลที่ใหญ่ที่สุดในโลก
คงหนีไม่พ้น “NBA” ลีกบาสเกตบอลของสหรัฐอเมริกา
ที่ก่อตั้งมายาวนานกว่า 72 ปี
รู้หรือไม่ว่าฤดูกาลแข่งขันปี 2019/2020 NBA มีรายได้ 2.4 แสนล้านบาท
เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว เมื่อเทียบกับเมื่อ 9 ปีที่แล้ว แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ Forbes ยังได้ประเมินว่าทีมบาสเกตบอล
ที่อยู่ในการแข่งขัน NBA ทั้ง 30 ทีม มีมูลค่าตลาดรวมกันเกือบ 2 ล้านล้านบาท
แล้ว NBA มีกลยุทธ์อย่างไร
และปัจจัยใดที่ทำให้ความนิยมของ NBA
เพิ่มขึ้นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
NBA ย่อมาจาก National Basketball Association ก่อตั้งขึ้นในปี 1949
โดยเป็นการรวมตัวกัน ระหว่างลีกบาสเกตบอลของสหรัฐอเมริกา 2 ลีก
คือ Basketball Association of America (BAA) ก่อตั้งในปี 1946
และ National Basketball League (NBL) ก่อตั้งในปี 1937
แม้ในปัจจุบัน NBA จะมีทีมบาสเกตบอลถึง 30 ทีม
แต่ในช่วงเริ่มแรกนั้น NBA มีทีมบาสเกตบอลทั้งหมดเพียง 17 ทีม
แถมในช่วงเริ่มต้น NBA ก็ไม่ได้รับความนิยมมากนัก
เพราะในปี 1955 มีทีมบาสเกตบอลแข่งขันกันเพียง 8 ทีมเท่านั้น
แต่สิ่งที่ทำให้ NBA กลับมาเป็นที่นิยม และกลับมาเติบโตได้
มาจากการปรับโครงสร้างการแข่งขันขึ้นใหม่
เริ่มต้นจากการเปลี่ยนแปลงกฎกติกาการแข่งขัน
ยกตัวอย่างเช่น การเพิ่มเขตทำคะแนน 3 แต้ม
จากเดิมที่มีการทำคะแนนได้เพียง 2 แต้มต่อการชูตลง 1 ลูกเท่านั้น
ซึ่งลูก 3 แต้มนี้ทำให้เกิดความหลากหลายและรูปแบบการเล่นใหม่เข้ามาในเกม
หรืออีกกฎที่เพิ่มเข้ามาคือ การเพิ่มระบบ “Shot Clock”
ที่กำหนดเวลาในการครอบครองบอลของแต่ละฝั่ง
ทำให้แต่ละทีมต้องรีบทำคะแนนภายในเวลาที่กำหนด
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ทำให้เกมการแข่งขันมีความรวดเร็ว
มีรูปแบบที่กระตุ้นให้นักกีฬาต้องแข่งกันทำแต้มตลอดเวลา
ส่งผลให้เกมดูสนุกและตื่นเต้นมากขึ้น และผู้ชมก็เริ่มให้ความสนใจเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
นอกจากนี้ อีกหนึ่งในโครงสร้างของ NBA ที่แตกต่างจากลีกกีฬาอื่น
คือรูปแบบโมเดลธุรกิจของ NBA ที่สร้างความมั่นคงให้กับทุกทีมที่มีส่วนร่วม
และลดความได้เปรียบหรือเสียเปรียบระหว่างกัน
เช่น การเลือกตัวนักกีฬาหน้าใหม่เข้าทีมหรือการดราฟต์
ด้วยระบบที่เน้นให้โอกาสกับทีมที่ทำผลงานได้ไม่ดี
มีโอกาสในการคว้าตัวนักกีฬาอันดับต้น ๆ ในระบบดราฟต์ มากกว่าทีมที่มีผลงานดี
โดยปัจจุบัน 3 ทีมที่มีผลงานแย่สุด จะมีโอกาสเท่ากันที่ 14% ที่จะคว้าสิทธิ์ดราฟต์อันดับ 1
ซึ่งสิทธิ์ดราฟต์ที่แต่ละทีมได้มา สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการเจรจาแลกเปลี่ยน
ตัวนักกีฬาระหว่างทีมได้อีกด้วย
นอกจากการรักษาสมดุลระหว่างผู้เล่นในแต่ละทีม
NBA ก็ยังได้กำหนดเพดานค่าจ้างนักกีฬาของแต่ละทีม
โดยมีระบบการคำนวณมาจากรายได้รวมของลีก
ทำให้แต่ละทีมมีเพดานสำหรับการจ่ายค่าจ้างเท่ากัน และหากทีมใดจ้างนักกีฬาเกินเพดานที่กำหนด
จะต้องเสียภาษีเพดานค่าจ้างในอัตราที่สูงมาก ระบบนี้จึงกลายมาเป็นการป้องกันการซื้อตัวนักกีฬาดังไม่ให้ไปอยู่รวมกันภายในทีมเดียวมากเกินไป
อีกระบบที่สำคัญไม่แพ้กันคือ ระบบการคำนวณรายได้มวลรวมของลีก
เป็นระบบที่ช่วยการกระจายรายได้ของแต่ละทีม
โดยทุกทีมจะต้องนำรายได้ส่วนหนึ่งมารวมกันและเฉลี่ยไปยังทีมอื่นเท่า ๆ กัน
เพื่อเป็นการปรับช่องว่างรายได้ ระหว่างทีมที่อยู่ในตลาดขนาดเล็กและใหญ่
เช่น LA Lakers ที่อยู่ในเมืองลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งมีประชากรเกือบ 4.0 ล้านคน
กับทีม Phoenix Suns ที่อยู่ในเมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา ซึ่งมีประชากรเพียง 1.6 ล้านคน
จะเห็นได้ว่าทั้ง 2 ทีม อยู่ในเมืองที่มีฐานประชากรห่างกันมาก และส่งผลต่อรายได้ของทีม
แต่ระบบของ NBA จะทำให้ทีมที่มีรายได้น้อยกว่าเกณฑ์ ได้รับเงินอุดหนุนจำนวนหนึ่ง
จากทีมที่มีรายได้มากกว่าเกณฑ์
ทั้งนี้ทีมขนาดเล็กก็ต้องมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 70% ของรายได้เฉลี่ยที่แบ่งกันในแต่ละทีม จึงจะสามารถรับส่วนแบ่งได้เต็มอัตรา เพื่อเป็นการจูงใจและผลักดันให้ทีมขนาดเล็กปรับปรุงและพัฒนาทีมอยู่ตลอดเวลา
เมื่อองค์ประกอบทุกอย่างถูกสร้างสรรค์และออกแบบมาอย่างดีแล้ว
ก็ส่งผลให้ความนิยมและรายได้ของ NBA เพิ่มขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ทีนี้เรามาดูกันว่าการหารายได้ของ NBA เป็นอย่างไร ?
NBA เป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องของความหลากหลายของช่องทางการหารายได้
ซึ่งก็คือการกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพารายได้เพียงไม่กี่ช่องทาง
โดยรายได้หลักของ NBA มาจาก 4 ช่องทางด้วยกันคือ
1. ค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด
รายได้ส่วนนี้ ถือเป็นรายได้หลักของ NBA ซึ่งในปี 2016 NBA ได้มีการเซ็นสัญญากับสื่อกีฬายักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกาอย่าง ESPN และ Turner Sports ด้วยสัญญา 9 ปี มูลค่าราว 720,000 ล้านบาท
หรือเฉลี่ยปีละ 80,000 ล้านบาท สำหรับการถ่ายทอดสดการแข่งขันของ NBA
โดยสัญญานี้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 180% จากสัญญาเดิมที่ได้ 29,000 ล้านบาทต่อปี
และแต่ละทีมสามารถเซ็นสัญญาถ่ายทอดสดกับสื่อท้องถิ่นได้อีกด้วย
นอกจากนี้ NBA ยังมีระบบสตรีมมิง ชื่อว่า NBA League Pass ที่ให้ผู้ชมสามารถเลือกซื้อได้ทั้งแบบ รายสัปดาห์ รายเดือน และรายปี ทำให้ผู้ชมทั่วโลกสามารถรับชมการแข่งขันได้แบบถูกลิขสิทธิ์
2. ลิขสิทธิ์ทางด้านสินค้าและการสนับสนุนจากสปอนเซอร์
ถึงแม้จะไม่ใช่รายได้ที่มีสัดส่วนที่มาก แต่ก็มีสินค้าหลากหลายแบรนด์ที่พร้อมจะร่วมสนับสนุนกับ NBA
อย่างเช่น การซื้อป้ายโฆษณาบนเสื้อนักกีฬา ซึ่งป้ายดังกล่าวมีขนาดประมาณบัตรประชาชนเท่านั้น แต่กลับมีมูลค่าที่สูงมาก
ในปี 2019 ป้ายแบรนด์เหล่านี้ทำรายได้ให้กับ NBA กว่า 4,500 ล้านบาท
อย่างเช่น Rakuten แบรนด์ E-commerce จากญี่ปุ่น ที่ยอมจ่ายถึง 600 ล้านบาทต่อปี
ให้กับทีม Golden State Warriors เพื่อซื้อโฆษณาบนเสื้อดังกล่าว
หรือจะเป็นสัญญากับ Nike แบรนด์เสื้อผ้ากีฬาอันดับหนึ่งของโลก
ที่ยอมจ่าย 30,000 ล้านบาทให้กับ NBA เพื่อแลกกับสิทธิ์ในการผลิตและจัดจำหน่ายชุดบาสเกตบอลของ NBA ทั้ง 30 ทีมเป็นระยะเวลา 8 ปี ซึ่งมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 2.5 เท่าของสัญญาเดิมที่เคยทำร่วมกับ Adidas
และ Nike จะต้องจ่ายค่าเครื่องแต่งกายของนักกีฬาใน NBA เป็นมูลค่ากว่า 3,750 ล้านบาทต่อปี ซึ่งคาดว่ามากกว่าที่ Adidas เคยจ่ายให้ถึงเท่าตัว เช่นกัน
3. รายได้จากการจำหน่ายตั๋วเข้าชมในสนาม
น่าแปลกใจที่รายได้ส่วนนี้กลับไม่ใช่รายได้หลักของแต่ละทีม เนื่องจากปัจจุบัน ผู้ชมสามารถรับชมผ่าน ระบบออนไลน์ได้ทุกที่ แต่มีรายงานว่าในฤดูกาล 2019/2020 ค่าใช้จ่ายในการเข้าชมการแข่งขัน 1 เกมสำหรับครอบครัว 4 คน ซึ่งรวมค่าใช้จ่ายหลัก ๆ เช่น ค่าตั๋ว ค่าที่จอดรถ และบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ตกเฉลี่ยเกมละ 13,000 บาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 2.5% จากฤดูกาลก่อนหน้า
4. รายได้จากต่างประเทศ
NBA ได้มีการขยายตลาดไปยังต่างประเทศมาหลายปีแล้ว และได้กลายมาเป็นรายได้สำคัญของลีก โดยเฉพาะประเทศจีน ซึ่งมีการประเมินว่า NBA มีรายได้จากประเทศจีนปีละกว่า 15,000 ล้านบาท ตัวเลขนี้รวมถึงดีลระหว่าง NBA กับ Tencent บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนด้วยสัญญา 5 ปี 45,000 ล้านบาท
ในการเป็นพาร์ตเนอร์ที่ได้รับสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดการแข่งขันจาก NBA เพียงรายเดียวในจีน
และกลยุทธ์สำคัญที่ผลักดันให้ NBA สามารถขยายไปยังต่างประเทศได้
ก็คือการเปิดรับนักกีฬาต่างชาติเข้ามาในลีกมากขึ้น โดยในฤดูกาล 2019/2020 มีจำนวนนักกีฬาที่ไม่ได้ถือสัญชาติอเมริกันกว่า 108 คน จาก 38 ประเทศ ซึ่งคิดเป็น 4 เท่าของฤดูกาล 1994/1995
กลยุทธ์นี้ได้ช่วยเพิ่มฐานคนดูของ NBA ในต่างแดน เพราะสำหรับบางประเทศที่กีฬาบาสเกตบอลยังไม่เป็นที่นิยม และไม่มีทีมที่คุ้นเคยไว้ตามเชียร์ คนดูก็สามารถเริ่มต้นได้ด้วยการเชียร์นักกีฬาของประเทศตัวเอง
ถึงตรงนี้ก็คงบอกได้ว่า NBA คือองค์กรที่มีโมเดลธุรกิจที่หลากหลาย
เป็นตัวอย่างขององค์กรที่พร้อมเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งที่ดีกว่า
และกระตุ้นให้มีการแข่งขันกันเองภายในลีกอยู่ตลอดเวลา
นำมาซึ่งผลงานที่น่าประทับใจแก่คนดูและเจ้าของทีมเอง
ก็เป็นที่น่าติดตาม ว่าถ้าหาก NBA เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
จะมีมูลค่าเท่าไร และในอนาคตจะมีอะไรใหม่ ๆ มาให้เราได้ศึกษา
แต่ดูเหมือนว่าทุกการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
นอกจากจะทำให้ผู้ชื่นชอบบาสเกตบอลสนุกขึ้นแล้ว
มันก็ยังได้กลายมาเป็นโครงสร้างที่แข็งแกร่ง จน NBA สามารถเติบโต
จากวันที่เหลือเพียง 8 ทีมในปี 1955 จนกลายมาเป็นธุรกิจ
ที่มีมูลค่าตลาด 2 ล้านล้านบาทไปแล้ว นั่นเอง..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
Joseph Tsai ผู้ร่วมก่อตั้งและรองประธานบริหารของ Alibaba Group
ได้เข้าซื้อทีม Brooklyn Nets ในปี 2019 ด้วยจำนวนเงิน 70,500 ล้านบาท
ซึ่งถือว่าเป็นมูลค่าที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์การซื้อทีมกีฬาของสหรัฐอเมริกา..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.investopedia.com/articles/investing/070715/nbas-business-model.asp
-https://www.investopedia.com/articles/personal-finance/071415/how-nba-makes-money.asp#citation-9
-https://www.forbes.com/sites/kurtbadenhausen/2021/02/10/nba-team-values-2021-knicks-keep-top-spot-at-5-billion-warriors-bump-lakers-for-second-place/?sh=2ea4a89645b7
-https://www.statista.com/statistics/193467/total-league-revenue-of-the-nba-since-2005/
-https://www.nba.com/news/nba-rosters-feature-108-international-players-2019-20
-https://bleacherreport.com/articles/1039092-nba-revenue-sharing-small-market-teams-to-benefit-from-new-sharing-structure
-https://nba.nbcsports.com/2015/06/10/nike-to-replace-adidas-as-official-maker-of-nba-uniforms-apparel/related/
-https://www.netsdaily.com/2019/8/15/20806783/with-joe-tsai-purchase-confirmed-nets-incredible-summer-continues
-https://www.history.com/this-day-in-history/nba-is-born
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...
e market place คือ 在 Aten Arnon: เอเท็น อานนท์ Prince of Marketing Facebook 的最讚貼文
5อาชีพ/และธุรกิจที่เติบโต
สร้างเงินล้านได้ในยามวิกฤติ
ที่คุณสามารถเริ่มต้นได้ในช่วงนี้
ต้องบอกก่อนว่า...
เคสพี่น้อง
ที่ตอนนี้เจอวิกฤติกระทบจริงๆ
แบบหลีกเลี่ยงไม่ได้
ต้องเฝ้าเอาตัวออกมาไม่ได้
ที่ช่วงนี้ต้องนี้ปรับต้องพยุง
เพื่อให้อยู่ได้ก่อน
อาจจะได้ข้อมูลนี้
“แต่ยังไม่สามารถละเวลาไปทำอย่างอื่นได้”
อันนี้ผมเข้าใจและ
เห็นใจมากๆ
และอวยพร
ขอให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีอย่างรวดเร็วครับ
และ....
คนด่านหน้าทุกท่านที่สละความสุข
สละเวลาของตัวเอง
ทั้งคุณหมอ ทั้งพยาบาล
อาสาสมัคร
และอีกหลายอาชีพที่เป็นอาชีพที่ตอนนี้ต้อง
ต้องFocusช่วยเหลือผู้คน
ก่อนตัวเอง
“ไม่สามารถละทิ้งไปทำอย่างอื่นได้”
"หรือfocus ตัวเองได้"
อันนี้ผมRESpectมากๆครับ
และขอส่งกำลังใจให้
ในพลังอันยิ่งใหญ่
ที่ส่งมอบให้พี่น้องคนไทยทุกคน
สิ่งนี้ยิ่งใหญ่มากๆ
ขอบคุณมากๆแทนทุกคนครับ
——————
5อาชีพ/และธุรกิจที่เติบโต
สร้างเงินล้านได้ในยามวิกฤติ
ที่คุณสามารถเริ่มต้นได้ในช่วงนี้
สำหรับพี่น้องที่
กำลังอยากโตแบบก้าวกระโดด
วันนี้เป็นข้อมูลที่จะเป็นไอเดียแนวทาง
ที่สามารถเริ่มทำได้ตั้งแต่วันนี้
ที่คุณเริ่มต้นได้ในช่วงนี้
ไอเดียมีทั้งแบบแก้ขัดชั่วคราว
และเติบโตถาวร
ก่อนอื่นจำประโยคนี้ไว้ตลอดว่า
“เงินจะมาจากกระตอบโจทย์ผู้คนได้”
“เงินไม่ได้มาดื้อๆลอยๆ”
———————
#อาชีพ/ธุรกิจที่1
“ธุรกิจขายของที่เป็นกระแส
หรือของที่ผู้คนจำเป็น”
ผมจะไม่พูดถึงอะไรที่ทุกรู้อยู่แล้ว
แบบพวกแอลกอฮอ
หน้ากากผ้าอะไรพวกนั้น
เพราะโดยcommon Sense
ก็คิดกันได้อยู่แล้ว
เวลาจะค้าขายอะไรให้ตอบโจทย์
ต้องมองให้ลึกกว่านั้น
เราจะตอบโจทย์คนได้
เราจะได้เงินจากเค้า
“เราก็ต้องรู้ว่าเค้าต้องการอะไร”
วิเคราะห์....
อย่างเช่นตอนนี้
ผู้คนมีพฤติกรรมอะไร?
เช่น...
หลายคนหยุดงานหยุดพัก
(โอเคมีหลายคนที่มีวิกฤติจริงๆ)
แต่หลายคนที่เค้าก็ไม่ได้ลำบากอะไรก็มี
มีเงิน มีทุนสำรอง
แต่ว่างอยู่....
ก็กำลังหาอะไรทำ
"ที่สามารถอยู่กับตัวเองคนเดียวได้"
แล้วมีอะไรบ้างที่พวกเค้าต้องการ
มีอะไรที่เค้าอยากซื้อ?
ผมมีนักเรียนของผมคนนึง
ที่เค้าขายของอยู่
เค้าบอกว่าสิ่งที่ขายดีตอนนี้
สิ่งที่คนถามหาแลพพร้อมจ่ายคือ...
“สิ่งที่ช่วยให้เค้าผ่านเวลานี้ไปได้”
และ....
"สิ่งที่ทำให้เค้าอยู่กับตัวเองคนเดียวได้มีความสุขขึ้น"
"หรือ ฆ่าเวลา"
อย่างที่บอกไปแล้วด้านบน
สิ่งที่จำเป็นที่ทำให้ผ่านเวลานี้ไปได้
พวกแอลกอฮอล์ ผ้าปิดปาก
แต่หลายคนลืมวิเคราห์ลูกค้า
เลยไม่เห็นมุม
"สิ่งที่ทำให้เค้าอยู่กับตัวเองคนเดียวได้มีความสุขขึ้น"
เค้าขายเกมส์
เกมส์ธรรมดาๆนี่แหละ
เกมส์ย้อนยุค นินเทนโด
จิ๊กซอว์ รูบิค
“ของเล่นอะไรที่เล่นคนเดียวได้”
Dvd หนัง เครื่องเล่น
หรืออย่างเช่น�อุปกรณ์ออกกำลังกาย ก็ขายดีสวนกระแส
เพราะตอนนี้
คนว่างไง
และไม่ได้เดือดร้อนมาก
ฟิตหุ่นมันซะเลย
อาชีพ/ธุรกิจที่1
“ธุรกิจขายของที่เป็นกระแส
หรือของที่ผู้คนจำเป็น”
“หรือที่ทำให้เค้าอยู่
กับตัวเองคนเดียวได้”
——————
#อาชีพ/ธุรกิจที่2
ผู้ที่ทำหน้าที่อำนวยความสะดวกให้ผู้คน
อาจจะเป็นคราว หรือ ถาวร
ตอนนี้มีรุ่นน้องสมัยที่ผมทำงาน
หลายคน
ตอนนี้เค้าต้องหยุดงาน
หลายคนตกใจ เครียดบ่น
ไม่ทำอะไรก็มี
แต่มีรุ่นน้องหลายคนเลือกที่จะ
ไปอำนวยความสะดวกผู้คน
พอเค้าได้ยินข่าวว่า
GRAB LINEMAN หรือ
หรือ บริษัทส่งของอื่นๆ
คนขาด
เค้าตัดสินใจใช้เวลาช่วงนี้
ไปสิ่งสินค้า
โดยไม่ปล่อยให้เวลาว่าง
ซึ่งช่วงที่ผ่านมาน้องๆเหล่านี้
นอกจากจะช่วยเหลือผู้คน
ตัวเค้าก็ได้รายได้แก้ขัด
ในช่วงที่ทำอะไรไม่ได้
มีหลายคนบอกว่า
ช่วงนี้รายได้
มากกว่างานประจำที่ทำอีก
และก็ยังมีธุรกิจอื่นๆที่
หันมาปรับ...
เป็นมีดิลิเวอรี่ด้วยตัวเอง
อาชีพ/ธุรกิจที่2
“ผู้ที่ทำหน้าที่อำนวยความสะดวกให้ผู้คน”
————
#อาชีพ/ธุรกิจที่3
“นักทำContent “
เช่น
ทำเพจ
หรือ
youtuber
เป็นเจ้าของช่อง/ ChannelทางSocial
ความว่าง
เป็นของคู่กันอยู่แล้ว
“กับContent”
พอคนว่างสิ่งที่มักทำ
"คือการเสพคอนเทน"
ถ้าจะเริ่ม...
นี่เป็นช่วงที่ดีที่สุดช่วงนึง
เพราะคนจำนวนมาก
ที่เคยไม่ว่าง
กลับมีเวลาเพิ่มขึ้น
และก็มักเอาเวลาไปเสพContent
คุณจะเห็นตามหน้าฟีดคุณ
คนถามหาNetflix
ถามหาหนังน่าดู
ถามหาเกมส์(พูดไปแล้วในอาชีพที่1)
ถามหาหนังสือดีๆ
ถามหาช่องYoutube
หรือเพจFAcebookน่าติดตาม
ช่วงนี้เป็นช่วงที่คนทั้งโลก
พร้อมเปิดใจดู Content
มากที่สุด
ตั้งแต่Streaming และSocial เคยมีมา
นี่เป็นช่วงที่ดีมาก
หากคุณมีอยากเปิดช่อง
อยากทำเพจ
————
#อาชีพ/ธุรกิจที่4
“ธุรกิจเดิม
อาชีพเดิม
เซอร์วิสเดิม
ที่คุณทำบนOfflineนั้นแหละ”
“แต่ปรับให้มันมีช่องทางซื้อคุณได้บนOnline”
ตามช่องทาง E-market Place
Shopee Lazada kaidee
Seekster Lineman GRAB
หรือเวปต่างๆ
โดยเฉพาะที่เวิร์ค
คือเพจ Facebook
เพราะมันสามารถ
ยิงตรงไปหาลูกค้าได้ดีที่สุด
และมีระบบdataที่แม่นยำ
“ทำOnline ทำเพจ
นี่คือเรียนรู้ที่จะทำจริงๆนะ
ไม่ใช่แบบมาเปิดเพจPostขายดื้อๆ
แล้วมาบอกว่าขายไม่ดี ขายไม่ได้”
(แล้วไปเที่ยวบอกว่ามาทำOnlineแล้วไม่เวิร์ค
จนคนอื่นเค้ากลัวกัน
จริงๆไม่อะ
"แบบนั้นไม่ถือว่าทำOnlineเลยด้วยซ้ำ"
ยกตัวอย่างเคสให้เห็นชัดขึ้น
ตอนนี้ลูกผมศิษย์ชาว 1YearCLUB
ชาว iClass Online Take Over
หลายคนโตได้สวนกระแส
รอดวิกฤติจากการSwitchมาทำOnlineล่วงหน้า
บางคนทำธุรกิจ
บางคนขายสินค้าเป็นชิ้นๆ ตั้งแต่ชิ้นเล็กๆ ยันเสื้อผ้า ยันอสังหา
บางคนขายอาหาร ขนม น้ำพริก ข้าว ร้านขายของฝากก็มี
บางคนขายservice เป็นฟรีแลนซ์รับงาน
หรือเป็นนายหน้า ตัวแทน ต่างๆ
ที่ผ่านมาเค้าใช้วิธีที่ผมถ่ายทอดได้ทันทั
Focusทำกันอย่างจริงจัง
สร้างเพจจนลูกค้ารู้จัก
มีฐานแฟนติดตามจริงจัง
การยิงโฆษณามีปัญหาก็น้อยมสห
จนเค้าไม่ต้องวิ่งไปขายแบบสมัยก่อน
และหลายคน
ก็กลายเป็นยอดOnline แซง Offlineเดิม
จนเลือกได้ว่าจะปิดOfflineหรือไม่ปิดก็ได้
หรือบางคนก็มีแต่Online อย่างเดียวเลย
และยิ่งเกิดวิกฤติ
ตอนนี้หลายคน
ยิ่งขายดีสวนกระแส
หรือมีคนติดตามมากขึ้น
ก็มีช่วงสัปดาห์แรกๆที่สะดุดบ้าง
เพราะคนShockอยู่
แต่ตอนนี้คนเริ่มทยอยกลับมาซื้อแล้ว
และคนขายคนอื่นหยุดไง
จิตตกอยู่
ไม่ทำคอนเทนต์
แต่อย่าลืมจำได้ไหม
ความว่าง=Content
เมื่อไหร่ที่คนว่างเค้าจะเสพคอนเทน
ตอนนี้
คนที่จะแต่งบ้านก็หาข้อมูลทางOnline
ผู้หญิงผู้ชายที่ชอบแต่งตัวก็หาแนวเสื้อผ้าทาง Online
จะซื้ออะไรเค้ามีเวลาหาข้อมูล ทางOnline
ตอนนี้คนซื้อวิ่งหาคนให้ข้อมูล
วิ่งหาคนขายอยู่นะ
จริงไหม?
ลองถามตัวเองดู
ตอนนี้คนดูเพียบ
แต่คนค้าขายดันหยุดทำ
เพราะฉะนั้นลูกศิษย์ผมช่วงนี้
หลายคนที่ขายสินค้า
เลยพีค
หลายคนที่ทำเซอร์วิส
ต้องเจอตัวออกไม่ได้
แต่ลูกค้าก็ทักมาถามข้อมูล
หรือจองล่วงหน้าแล้ว
คือ...
ทุกคนหยุดอยู่บ้าน
แต่เราก็ไม่ได้หยุดอยากได้จริงไหม?
คือถ้าเกิดสถานการณ์กลับมาปกติปุ๊บ
คนพร้อมใช้เงินทันที
เงินก็จะเทเข้ามา
เพราะทำรอไว้แล้วในช่วงวิกฤติ
“หลายคนจะชอบคิดว่าช่วงนี้คนเค้าไม่ซื้อ ไม่มีกำลังซื้อ”
คำตอบคือใช!
แต่.....
คนที่มีกำลังซื้อตอนนี้และพร้อมซื้อ
มันก็มี ไม่น้อยเลย”
“หลายคนก็จะบอก
ตอนนี้คนไม่ออกจากบ้าน
จะไปขายได้ไง”
“ใช่ ออกไม่ได้”
“แต่ใช่ว่าจะหาข้อมูลไม่ได้นี่หว่า”
“ยิ่งว่าง ยิ่งมีเวลาดูยิ่งหาเรื่องเสียตังต์เลย”
แต่คนขายหลายคน
ดันShockหยุดทำไง
คนขายoffline Shock
คนหันมาซื้อOnline
คนที่ขายOnline ที่เป็นยุคเก่า
ไม่มีฐานแฟน
ที่เปิดเพจคือPostขายดื้อๆ
ได้ทำตามหลัก
คนขายทั่วไปตอนนี้Shock หยุดทำ
เพราะฉะนั้น
เงินจำนวนมากมันเลยเทมาเข้า
ที่เพจที่มีฐานแฟน
ที่เพจที่ยังทำContent อยู่ตลอด
เห็นไหม ไม่ใช่Onlineไม่Work
มันอยู่ที่ทำถูกวิธีไหม?
ถ้าวันนี้ยังไม่ทำOnline
หรือยังทำOnline ทำเพจแบบเดิม
แล้วไม่Work
คุณต้องปรับให้เป็นแบบใหม่
ผมมีคลิปนึงที่เคยPostไว้หน้าเพจ
ความยาวประมาณเกือบ1ชม.
แนะนำให้ไปดูคลิป
ที่ชื่อว่า 4 กฏใหม่สร้างรายได้บนFacebook
EP.0
แล้วเริ่มทำเพจ
หรือปรับเพจให้มันเป็นแบบยุคใหม่
—————————
#อาชีพ/ธุรกิจที่5
“ของหรือสิ่งที่ช่วยพัฒนาทักษะคน”
“ไม่ใช่ว่าคนที่หยุดที่ว่าง”
“เค้าจะสนแค่ของกิน”
“เค้าจะสนแค่เล่นเกม”
“หรือเค้าจะสนแค่ดูหนังฟังเพง เสพคอนเทนต์บันเทิง”
Okมันใช่
“แต่มันไม่ใช่ทุกคน”
คุณสังเกตุดีๆตอนนี้
จะมีคนที่หยุดเพื่อพัฒนาตัวเอง
จ่ายเงิน
เรียนรู้ในสิ่งที่ไ่ม่รู้เพื่อหาไอเดีย
จ่ายเงิน
เรียนรู้ในสิ่งในทักษะที่ทำให้ตัวเองเติบโต
ต่อยอดอนาคต
เช่น
ตอนนี้หลายคนซื้อหนังสือมาตุนอ่านหาไอเดีย จริงไหม?
หลายคนซื้อคลาสออนไลน์
หรือเรียนแบบPrivate ผ่านOnline
เช่น
ฝึกภาษา
เรียนการขาย
เรียนขายของบนPlatform E marketplace
เรียนการทำการตลาดOnline แบบจริงจัง
เรียนทำSocial หรือ ทำเพจ แบบจริงจัง
หรือ
ไม่ว่าจะเป็นทักษะอื่นๆที่เคยอยากเรียน
แต่ไม่เคยมีเวลา
ผมถามลูกศิษย์ผมหลายคน
ที่เคยมาเรียนiClass23 Expert Biz
เอาความรู้ความถนัดที่ตัวเองมี
ออกมาแปลงให้เป็นประโยชน์ต่อผู้คน
แล้วกลายเป็นรายได้
เค้าบอกว่าตอนนี้ยิ่งเริ่มดีสวนทาง
และสัญญาณดีขึ้นเรื่อยๆ
เพราะพอคนว่าง
คนจำนวนนึงเริ่มหายShock
และตั้งสติได้
เค้าเริ่มรู้ว่านี่เป็นโอกาสดี
ที่จะได้เรียนรู้สิ่งไม่รู้เสียที
“และเค้าไม่สามารถไปเรียนOfflineได้”
ลูกศิษย์ผมหลายคนตั้งแต่ต้นปี
ทำเงินหลายล้านจากการExpert Biz
บางคนสอนภาษาอังกฤษ
บางคนสอนทำขนม
บางคนสอนทำอาหาร
สอนเลี้ยงลูก
สอนทำบัญชี ทำภาษี
บางคนเป็นติวเตอร์สอนน้องๆ
สอนการพูด
สอนขายของในlazada shopee
สอนมือใหม่ทำOnline
สอนยิงads
สอนตัดต่อ
สอนแต่งตัว
วิธีการใช้คอม
สอนวิธีการจดโน๊ต
บางคนสอนสักคิ้วก็มี
ถ้าคุณตามเพจนี้มา
คุณก็คงงจะเห็นตัวเป็นๆ
ที่ผมแชร์ให้ดูอยู่ประจำ
จริงๆ Expert Bizที่เมืองนอกนี่มีเยอะกว่าเราเยอะ
เลี่ยงหมา ฝึกนก ฝึกแมว
ทำฟัน หรือ ปลูกผัก มีหมด
เพราะฉะนั้น
อย่าดูถูกว่าความรู้ในตัวเอง
ว่ามันไมมีประโยชน์
คุณก็อาจจะได้อยากได้ความรู้จากคนอื่น
และยินดีจ่าย
ผมก็อาจจะอยากได้ความรู้ที่คุณมี
และยินดีจ่ายก็ได้
มันอาจจะเป็นประโยชน์ต่อผู้คนก็ได้
แล้วเค้าก็ยินดีจ่ายเงินคุณ
เพื่อความรู้เพื่อคุณค่านั้น
ช่วงหยุด
มันมีหลายคนที่ต้องการๆพัฒนา
ความรู้ที่มีในตัวคุณ
มันก็อาจจะเป็น1ในช่องทางที่เป็นธุรกิจได้
อย่าไปมองแต่ว่า
คนกำลังShock
คนไม่มีเงิน ไม่อยากใช้เงิน
คนส่วนนึงก็ไม่ใช่แบบนั้น
มีคนต้องการพัฒนาตัวเอง
ในช่วงเวลาหยุด
ช่วงนี้เยอะมาก
—————
และนี่คือ
5อาชีพ/ธุรกิจที่เติบโต
ได้ในยามวิกฤติ
------
“คุณสังเกตุไหม ว่าจริงๆแล้ว”
แก่นคือ......
“เงินจะมาจากการที่เป็นประโยชน์ต่อผู้คน”
“ตอบโจทย์ผู้คนได้”
“ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจ”
เพราะฉะนั้นการที่เราจะได้เงิน
มันไม่ใช่การที่เราวิ่งหาเงิน
แต่มันเป็นการที่เราแลก
หรือเอาตัวไปเป็นประโยชน์อะไรต่อใครได้บ้าง”
แรงเราได้ไหม?(เอาแรงไปเป็นประโยชน์)
สินค้าเราได้ไหม?
ความรู้เราได้ไหม?
อะไรที่มันจะออกไปเป็นประโยชน์ต่อผู้คนได้บ้าง!!!
———
�จริงๆยังมีอาชีพ หรือ ธุรกิจมากกว่านั้น
แต่ผมคัดจากที่เริ่มต้นได้ไว
ที่เหมาะกับเหตุการณ์ ณ ตอนนี้
ที่มีหลักฐานที่ประสบความสำเร็จตัวเป็นๆ
ที่โตได้
ที่เคยแชร์พี่น้องเหล่านั้นให้เห็นในเพจ
ผมเชื่อเลยว่า
จะมีหลายคนจะได้ไอเดีย
แล้วเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างได้หลังจากนี้
แล้วก็ถ้าวันนึงสำเร็จแล้ว
หรือเปลี่ยนแปลงแล้ว
ก็วันหน้าทักมาคอมเม้นต์บอกกันครับ
แล้วก็ใครฟังอยู่แล้วคิดว่า
ทำไมไม่มีอาชีพฉัน?
ก็ไม่ต้องมาด่านะครับ
ว่าเฮ้ย
อาชีพฉันก็ทำเงินล้านได้
อาชีพฉันก็เร็ว
ทำไมฉันไม่ได้ติด5อาชีพในคลิป
ทำไมธุรกิจที่ผมทำอยู่
ตอนนี้ก็ดีสวนกระแส
ทำไมไม่เอาชื่อธุรกิจฉันมาลง?
ไม่ต้องด่าเลย เลิกด่า
“ก็บอกเหตุผลไว้แต่แรกแล้วไง”
และก็แทนที่จะด่าก็
ก็พิมพ์ลงมาเลยสิ
อาชีพอะไรล่ะ
มันอาจจะเป็น
ประโยชน์ต่อเพื่อนพวกเราชาวเพจก็ได้
ถูกไหม?
“จำไว้จงเป็นประโยชน์ต่อผู้คน”
“อย่าลืมคำนี้”
“เงินจะมาจากการที่คุณเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น”
นี่ก็เป็นไอเดียวันนี้ครับ
5อาชีพ/ธุรกิจที่เติบโต
จนอาจจะพาใครทำเงินล้านได้ในยามวิกฤติ
ใครมีไอเดียอะไรมากกว่านี้ก็พิมพ์ลงมา
เพื่อเป็นแนวทางเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆในช่วงนี้
แล้วเราจะBig LEAP
โตแบบก้าวกระโดดไปด้วยกัน
A10(เอเท็น)