關於 famous concept artist ，我們在網路上蒐集到這些相關的討論、資訊與評價

🎉🎉🎉#新媒體藝術家黃心健《 #輪迴》上集奪 #法國坎城影展最佳VR敘事大獎 ‼️

法國坎城影展市場展（ Marché du Film - Festival de Cannes ）於台灣時間2021年7月13日午夜於沉浸式虛擬場館MOR ( Museum of Other Reality)舉辦頒獎典禮並揭曉得獎名單，臺師大特聘教授、新媒體藝術家黃心健VR以最新力作《輪迴》上集(Samsara Ep.1)自16部精采的入圍作品中脫穎而出，一舉奪下本屆最佳VR敘事大獎( Best VR Story)殊榮。

《輪迴》上集是首部獲頒此重要獎項的台灣原生VR作品，台灣驚人的VR創作實力再度揚名國際！

黃心健在頒獎典禮上致詞：「首先，感謝坎城評審團的肯定與鼓勵，很榮幸能夠得到最佳VR敘事大獎。也感謝 國立臺灣師範大學 National Taiwan Normal University 、 文化內容策進院 Taiwan Creative Content Agency 與VR 體感劇院 VR FILM LAB 的全力支援，才能讓《輪迴》得以順利地製作完成。由衷感謝所有參與製作《輪迴》的幕前、幕後製作人員，一起讓來自於台灣精彩VR作品，再次讓世界看見。」

《輪迴》的劇情牽動著生態、科技、資源分配與戰爭等多元議題，是一段人類自核毀滅後逃離地球的故事。殘存的人類嘗試在無垠的星際中，尋找下一個可以賴以生存的新星球，並以人工方式進化成一種新的生命體。但許多年過去了，人們漸漸發現其實自己永遠到不了夢想中的全新星球，他們只不過是在另一個時代，以不同的生命形式，一遍遍地返回地球。黃心健藉此反思深刻反思生命哲理，並應用了所謂「具身認知」的抽象概念，以此讓觀眾轉換到不同的肉體中，進而以全新的視角來體驗《輪迴》上集片中的世界觀。

作為全球最受矚目的影展項目之一，法國坎城影展市場展為一向是全球影人不容錯過的影壇趨勢指標。而今年度為減緩疫情衝擊，Cannes XR 單元與 VR 線上內容平台 VeeR 攜手合作，特別在虛擬場館 MOR中打造大型的影展會場。活動展間的呈現方式非常活潑豐富，坎城團隊打破了現實世界中音訊、材料與硬體限制，以超現實的效果來為全世界的觀眾提供最為華麗的展場體驗，從觀影、走紅毯、入座到致詞，與會者皆透過VR頭顯連線參與頒獎典禮，黃心健尤其驚豔於主辦單位為他打造的專區。以創新的虛擬形式舉辦典禮，也正契合了VR作為影界新猷的開創性。

《輪迴》上集繼三月榮獲美國西南偏南影展（ #SXSW）「虛擬劇場」項目最大獎殊榮「評審團獎」後，再度斬獲國際影展肯定，再次證明了台灣深厚的VR創作實力！完整版《輪迴》預計將於今年九月起展開全球影系列巡演，並將在今年10月回到台灣高雄，作為亞洲首映展出。欲一睹風采的台灣的影迷敬請期待！

🎉Taiwan's VR artist Hsin-Chien Huang Wins the Best VR Story Awards of Cannes XR‼️

The awards ceremony of Le Marché du Film will be held at midnight of July 13, 2021, at the Museum of Other Reality. The latest VR production by Distinguished Professor of NTNU, artist Hsin-Chien Huang, has been riding high among the other 16 nominated productions and bring home the prestigious "Best VR Story" award. " #Samsara Ep. 1" is the first native VR production from Taiwan to receive such honor and has once again put Taiwan on the map!
In the acceptance speech, Huang first mentioned that he would like to thank the jury for the recognition and encouragement. It was a great honor for him personally to win this award. He'd also like to thank the full support from NTNU, Taiwan Creative Content Agency and the VR FILM LAB of Kaohsiung Film Archive for making the production happen. Finally, he thanked all the crew members for showing the world how amazing the VR production from Taiwan.
The plot involves many different social issues, including ecology, technology, natural resource, and war. It's about a journey for humans after destroying the Earth with nukes. The survivors seek a new planet to carry on their lives in the limitless interstellar space, gradually evolve into a new life form artificially. Yet, after so many years, they have come to realize that they would never make it to the new planet that they have been dreaming of. They have been simply returning to the Earth in different life forms time after time. Huang uses the story to reflect on the philosophy of life and applies the concept of "embodied cognition" to teleport audiences to different bodies and experience the worldview of "Samsara" via a new perspective.
As one of the most famous film festivals globally, the Cannes Film Festival has always been a trial balloon for filmmakers around the globe. This year, to lower the impact of the pandemic, the Cannes XR has built a unique venue in the MOR (Museum of Ohter Reality) with VeeR VR , an online platform for virtual content, offering various exhibitions during the event. The team has broken down the barriers across materials, audio, and hardware, in reality, using surreal effects to provide the most magnificent viewing experience. From screening, walking on the red carpet, being seated to giving speeches, all the details are not left out through the VR headsets. Huang is especially impressed by the special area built for him by the host team. The ceremony is presented virtually innovatively, resonating with the groundbreaking feature in the VR film industry.
After winning the top award of the SXSW, "Jury Awards", "Samsara" has yet again captured the attention of another international film festival, testifying the profound and vibrant creativity of VR from Taiwan. The full version of "Samsara: will start its tour in September this year and come back to host its Asian premiere in Kaohsiung in October.

🔎新聞聯絡人: 陳仲賢
✉️E-Mail: chunghsien1992@gmail.com
▪️更多關於黃心健與《輪迴》消息請繼續
關注黃心健Facebook粉絲專頁：https://www.facebook.com/HuangXinJianHsinChienHuang

🔎News Contact: Chen Chung-Hsien
✉️E-Mail: chunghsien1992@gmail.com
▪️Follow Huang Hsin-Chien’s Facebook page for more information about him and his work: https://www.facebook.com/HuangXinJianHsinChienHuang

ฝันสลาย.. Warner Bros. กล่าวจะไม่มีการเปิดตัวเกมต่อสู้ Injustice 3 ในงาน DC FanDome 2020
.
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงวันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา BossLogic ศิลปินชื่อดังที่เคยสร้างผลงาน Concept Art ให้วิดีโอเกมระดับยักษ์ใหญ่หลายเกม ได้อัปโหลดภาพแฟนอาร์ตปกเกม Injustice 3 (ในภาพเขียนว่า Injustic3) พร้อมใส่แท็กกล่าวถึง Ed Boon หรือผู้กำกับเกม Mortal Kombat
.
นอกจากนี้ Ed Boon ก็เป็นหนึ่งในแขกรับเชิญพิเศษที่จะเข้าร่วมในงาน DC Fandom 2020 จึงทำให้เกมเมอร์หลายคนเชื่อว่า Injustice 3 อาจจะมีแผนเปิดตัวในงานดังกล่าวที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้
.
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดก็มีข่าวร้ายสำหรับแฟน ๆ เกมต่อสู้ทุกคน เพราะบริษัท Warner Bros. ได้ออกแถลงการณ์ผ่าน press release เกี่ยวกับ DC FanDome 2020 ยืนยันว่าในงานจะมีการเปิดตัวสองเกมจากค่าย DC นั่นคือ Batman: Gotham Knights และ Suicide Squad: Kill the Justice League เท่านั้น
.
ส่วนสาเหตุที่ Ed Boon เป็นแขกรับเชิญในงาน DC FanDome 2020 ก็เพื่อให้สัมภาษณ์และพูดคุยในหัวข้อเกี่ยวกับการพัฒนาเกม Injustice หรือหมายความว่าในงานดังกล่าวจะไม่มีการเปิดตัวเกม Injustice 3 เหมือนที่หลายคนคาดหวังไว้
.
จัดว่าเป็นเรื่องน่าเสียดายสำหรับแฟน ๆ ผู้ชื่นชอบเกมต่อสู้ Injustice ที่อาจจะต้องรอคอยการเปิดตัวเกมภาคต่ออีกแสนนาน แต่อย่างน้อย การที่ Ed Boon ได้เข้าร่วมในงาน DC FanDome ก็เป็นโอกาสดีที่เกมเมอร์หลายคนอาจมีโอกาสได้สอบถามถึงความเป็นไปได้ในการสร้างเกม Injustice 3 ในอนาคต
.
ที่มา: https://www.dsogaming.com/…/despite-rumors-there-wont-be-a…/
.
#ข่าวเกม #GamingDose #Injustice
Dreams break.. Warner Bros. Injustice 3 fighting game will not be launched in DC FanDome 2020
.
Throwback to August 9th, BossLogic, a famous artist who created Concept Art for many giant video games, uploaded a fanart photo of Injustice 3 (Injustic3) ready to put in. Tags mention Ed Boon or Game Director Mortal Kombat
.
In addition, Ed Boon is one of the special guests to participate in the DC Fandom 2020, so many gamers believe Injustice 3 may have a launch plan to happen soon.
.
However, there is bad news for all fighting game fans because of Warner Bros company. Press release has been issued on DC FanDome 2020 Confirmed that there will be two games from DC camp. That's Batman: Gotham Knights and Suicide Squad: Kill the Justice League only.
.
As for why Ed Boon is a guest at DC FanDome 2020, it's to interview and talk about the topic of Injustice game development. It means that there will not be an Injustice 3 game launch as many expect.
.
It's a shame for Injustice fighting game fans who may be waiting for a long time to launch a sequel game. At least Ed Boon is in DC FanDome is a good opportunity that many gamers may have a chance to ask about the possibility of the possibility. Creating future Injustice 3 games
.
Source: https://www.dsogaming.com/news/despite-rumors-there-wont-be-an-announcement-for-a-new-injustice-game-at-dc-fandome-2020/
.
#ข่าวเกม #GamingDose #InjusticeTranslated

กรณีศึกษา การใช้ SOFT POWER ของจีนในยุค COVID-19 /โดย ลงทุนแมน
ถ้าพูดถึงประเทศที่ใช้ Soft Power ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เราอาจนึกถึง ประเทศที่ประสบความสำเร็จในการส่งออกทางวัฒนธรรม อย่างเกาหลีใต้หรือญี่ปุ่น
แต่จริงๆ แล้ว Soft Power ไม่ได้มีแค่เรื่องที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมเพียงอย่างเดียว
โดยเฉพาะในสถานการณ์ตอนนี้ ที่มีการระบาดอย่างหนักของ COVID-19
จีน กลับเป็นหนึ่งในประเทศที่มีบทบาทโดดเด่นสุด ตอนนี้

เรื่องนี้น่าสนใจอย่างไร? ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit แหล่งรวมบทความวิเคราะห์
เจาะลึกแบบ deep content
ล่าสุดมีฟีเจอร์พอดแคสต์แล้ว
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ก่อนอื่นเรามาเริ่มจากการทำความเข้าใจกับคำว่า “Soft Power”

Soft Power มาจากแนวคิดของศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ชื่อ Joseph Nye
เป็นการขยายอิทธิพล หรือทำให้ผู้อื่นคล้อยตาม โดยไม่ใช้วิธีการบังคับ
ซึ่ง Soft Power จะเกิดขึ้นจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ วัฒนธรรม ค่านิยม และนโยบายต่างประเทศ

ตัวอย่างประเทศ ที่ประสบความสำเร็จจากการใช้ Soft Power

ฝรั่งเศส ขึ้นชื่อเรื่องอาหาร โดยถือเป็นประเทศที่ได้มิชลินสตาร์มากสุดในโลก
มีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง เช่น หอไอเฟล พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์
ทำให้เป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางไปเยือนมากสุดในโลก
คิดเป็นจำนวนเกือบ 90 ล้านคน ในปี 2018

สหราชอาณาจักร มีสื่อที่ได้รับการยอมรับ อย่าง BBC
ซึ่งนับเป็นหนึ่งในสื่อทรงอิทธิพล ที่มีคนดูมากที่สุดในโลก
นอกจากนั้นยังมี Premier League ที่เป็นการแข่งขันฟุตบอลที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก

สหรัฐอเมริกา เรียกได้ว่าเป็นอีกประเทศที่ประสบความสำเร็จในการเผยแพร่วัฒนธรรม
ผ่านอุตสาหกรรมภาพยนตร์ เพลง รวมถึงแบรนด์ที่เราใช้กันในชีวิตประจำวัน
ด้านการศึกษา สหรัฐอเมริกา ถือเป็นประเทศที่มีมหาวิทยาลัยระดับโลกมากสุดในโลก
รวมถึงด้านเทคโนโลยี ก็เป็นต้นกำเนิดของบริษัทอย่าง เฟซบุ๊ก แอปเปิล กูเกิล ไมโครซอฟต์

และอย่างที่รู้กันว่า คู่แข่งที่สำคัญของสหรัฐอเมริกา ก็คือ “จีน”

โดยเฉพาะ เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงอย่าง COVID-19
ซึ่งกลายมาเป็นปัจจัยสำคัญ ในการแข่งขันทางขั้วอิทธิพลระหว่าง 2 ประเทศนี้
และก็ดูเหมือนว่าจีน กำลังทำคะแนนในด้านนี้ได้อย่างโดดเด่น

เพราะแม้ว่าจีน จะเป็นศูนย์กลางการระบาดแห่งแรกๆ
แต่ก็เป็นประเทศที่สามารถจัดการกับ COVID-19 ได้เป็นแห่งแรกๆ เช่นกัน

ซึ่งเมื่อการระบาดแพร่กระจายไปยังประเทศอื่น
จีน ก็ใช้โอกาสนี้ ในการส่งความช่วยเหลือไปให้ทั่วโลก

โดยรัฐบาลจีน ได้มีการส่งอุปกรณ์ที่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากอนามัย ชุดป้องกันเชื้อโรค ชุดตรวจโรค รวมถึงทีมแพทย์ ไปให้กว่า 120 ประเทศ

มีการเผยแพร่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการตรวจหาโรค การรักษาโรค และการป้องกันโรค โดยอ้างอิงจากประสบการณ์ที่จีนได้รับมาก่อน

นอกจากนั้น ยังมีการอนุมัติวงเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ และโครงการพักชำระหนี้
ให้กับประเทศซึ่งอยู่ภายใต้โครงการ Belt and Road ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19

ในส่วนภาคเอกชนของจีนเอง ก็ให้ความร่วมมือและช่วยเหลือในวิกฤติ COVID-19 นี้ไม่แพ้กัน

โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการผลิตอุปกรณ์การแพทย์ การเงิน และการขนส่ง มีการบริจาคอุปกรณ์การแพทย์ ไปยังประเทศต่างๆ

นอกจากนั้นยังมีมูลนิธิของ Alibaba และ Jack Ma ซึ่งบริจาคหน้ากากอนามัยให้เกือบ 100 ประเทศ

มีการเผยแพร่สื่อที่เกี่ยวกับวิธีการรักษาโรคใน 8 ภาษา ลงบนโลกออนไลน์
รวมถึงสร้างแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบเรียลไทม์ที่ชื่อว่า
Global MediXchange for Combating COVID-19 หรือ GMCC

ซึ่งในขณะที่จีนกำลังทำทุกอย่างนี้ สหรัฐอเมริกาที่เป็นพี่ใหญ่ของโลก กลับยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ในประเทศได้

ดังนั้น COVID-19 จึงเปรียบเหมือนโอกาสของจีน
ในการสั่นคลอนอิทธิพลของสหรัฐอเมริกา โดยใช้ Soft Power เป็นทรัพยากรที่มีอยู่ในมือ

และถ้าจีน สามารถผลิตวัคซีนได้สำเร็จเป็นประเทศแรก
ก็น่าสนใจไม่น้อยว่า สมดุลขั้วอำนาจระหว่างจีน และสหรัฐอเมริกาจะเปลี่ยนไปอย่างไร

จริงๆ แล้ว ก่อนหน้า COVID-19 จีนได้เริ่มมีการใช้ Soft Power มาสักระยะหนึ่งแล้ว

ในด้านวัฒนธรรม เราจะเห็นได้ว่าทั้งวงการบันเทิง สถานที่ท่องเที่ยว และภาษาจีนที่เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น ผ่านซีรีส์ ภาพยนตร์ เพลง รวมถึงการให้ทุนการศึกษาจำนวนมากแก่นักเรียนต่างประเทศ

ในด้านการต่างประเทศ ก็มีโครงการ Belt and Road ที่เข้าไปช่วยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในกว่า 60 ประเทศ

ซึ่งเมื่อมองย้อนกลับมาที่ไทย เราเองก็เป็นประเทศที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น

เรามีวัฒนธรรม มวยไทย อาหารไทย ที่ขึ้นชื่อ
เรามีภาพยนตร์ ละคร ศิลปิน ที่เริ่มเป็นที่รู้จักในต่างประเทศ
เรามีสถานที่ท่องเที่ยว ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ของโลก

และไทยยังได้รับการจัดอันดับว่ามีความมั่นคงทางสุขภาพเป็นอันดับที่ 6 ของโลก

แปลว่าจริงๆ ถ้าเราสามารถวางกลยุทธ์เพื่อบริหารจัดการจุดเด่นเหล่านี้ได้
ประเทศไทยเรา ก็มีศักยภาพในการใช้ Soft Power ได้ไม่แพ้ใครเช่นกัน..
╔═══════════╗
Blockdit แหล่งรวมบทความวิเคราะห์
เจาะลึกแบบ deep content
ล่าสุดมีฟีเจอร์พอดแคสต์แล้ว
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://softpower30.com
-https://www.statista.com/…/countries-ranked-by-number-of-i…/
-https://www.weforum.org/…/how-china-s-covid-19-recovery-co…/
-https://www.politico.eu/…/coronavirus-china-winning-propag…/
-https://www.silkroadbriefing.com/…/china-development-bank-…/
A case study of Chinese SOFT POWER in COVID-19 era / by investing manly.
Speaking of countries that use Soft Power effectively
We may think of a country that succeeds in cultural exports like South Korea or Japan.
But really, Soft Power isn't just a cultural thing.
Especially in this situation where COVID-19 outbreak is now.
China is one of the most iconic countries now.

How interesting is this? Investing man will tell you about it.
╔═══════════╗
Blockdit. Analytical Articles Collection.
Deep content penetrating
The latest podcast feature is available.
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
First of all, let's start by understanding the word ′′ Soft Power ′′

Soft Power comes from the concept of Harvard University professor named Joseph Nye
Expanding influences or making others follow without a force.
Soft Power will occur from 3 main factors include culture, values and foreign policy.

Examples of successful countries by using Soft Power

France is famous for food. It is the most Michelin star country in the world.
There are many famous attractions such as the Eiffel Tower, Louvre Museum.
Make it the country with foreign tourists to visit the world's most.
As many as 90 million people as 2018

The UK has BBC recognized media
Which is one of the most viewed influential media in the world.
In addition, Premier League is a popular football match all over the world.

USA is called another successful country to publish culture.
Through the film industry, music including brands we use in everyday life.
U.S. education is the country with the world's most universities.
Including technology is the origin of companies like Facebook, Apple, Google, Microsoft.

And as you know, a major U.S. rival is ′′ China

Especially when unexpected events like COVID-19
Which became an important factor in the influential competition between these 2 countries.
And it looks like China is scoring this side outstandingly.

Because although China is the center of the first outbreak.
But it's also a country that can handle COVID-19 as well.

When the outbreak spread to other countries
China also uses this opportunity to send help to the world.

Chinese government has been sent necessary equipment, hygienic mask, anti-germs, examination kit, including medical team to over 120 countries.

Information related to disease detection, treatment and prevention of disease based on the experience China has obtained before.

In addition, low interest loan band approved and debt break project.
To the country under the Belt and Road project affected by COVID-19

In China's private sector, we are cooperating and helping with this COVID-19 crisis.

Specifically, businesses involved in the production of medical equipment, finance and transportation. Medical supplies are donated to different countries.

In addition, Alibaba and Jack Ma's foundation donated almost 100 countries of hygienic masks.

Media has been published on how to cure 8 languages online.
Including creating a real-time data exchange platform called
Global MediXchange for Combating COVID-19 หรือ GMCC

While China is doing everything, the world's big brother USA can't control the COVID-19 outbreak situation in the country.

Therefore, COVID-19 is like China's opportunity.
To shake U.S. influence using Soft Power as a resource on hand.

And if China can successfully produce vaccines first country.
Interesting how the power balance between China and USA will change.

In fact, COVID-19 China has started using Soft Power for a while.

In the culture, we can see that the entertainment industry, attractions and Chinese are becoming more popular through film series, music including scholarships. cuddle students abroad.

In foreign countries, there are Belt and Road projects that help develop infrastructure in over 60 countries.

When I look back at Thailand, I am a unique country.

We have a Thai boxing culture, famous Thai food.
We have a drama film, an artist that started to be known abroad.
We have the world's top popular attractions.

And Thai is also ranked as the world's number 6 health stability.

Really means if we can strategize to manage these highlights.
Thailand, we also have the potential to use Soft Power, not allergic to anyone..
╔═══════════╗
Blockdit. Analytical Articles Collection.
Deep content penetrating
The latest podcast feature is available.
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
Follow to invest manly at
Website - longtunman.com
Blockdit-blockdit.com/longtunman
Facebook-@[113397052526245:274: lngthun mæn]
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram-instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://softpower30.com
-https://www.statista.com/statistics/261726/countries-ranked-by-number-of-international-tourist-arrivals/
-https://www.weforum.org/agenda/2020/03/how-china-s-covid-19-recovery-could-bolster-its-global-influence/
-https://www.politico.eu/article/coronavirus-china-winning-propaganda-war/
-https://www.silkroadbriefing.com/news/2020/03/27/china-development-bank-provide-financial-support-belt-road-projects-affected-covid-19/Translated

**影像工作邀約來信請至 (Outerspace studio)
Any work invitations please mail us:
fxxkleo@hotmail.com

故事的開始，從歌手張靚穎所扮演的OL上班族拉開序幕，電話那頭傳來老闆的責駡，正在逛芝加哥美術館( Art Institute of Chicago)的倒楣OL，莫名闖入名畫的世界，展開一連串不可思議的奇幻冒險。

此MV我們嘗試以有趣流暢的轉場,貫穿12幅世界名畫，並且顛覆改寫原先名畫的世界觀，做出了全新的定義，例如：梵谷的耳朵原來是被拳王泰森給咬下來的、拾穗中間彎著腰的女性抬起頭來，原來是戴珍珠耳環的少女、孟克吶喊那座橋後方的兩個黑衣人原來是MIB，而吶喊的原因是看到了達利畫中的巨大神獸所以尖叫吶喊、而最後名畫Nighthawks寂寞咖啡廳裡背對西裝男，竟然是達利的背影……等等。

為了讓平面經典以3D重現，將名畫"立體化"是此次MV最大的挑戰，我們找來了優秀的藝術畫家們，將所有看的到的搭景、服裝、甚至演員與歌手全都畫上了"筆觸"，"極不正常"的MV拍攝手法，極度實驗性的拍攝現場，只有瘋狂！

雖然劇本創意不按牌理出牌，也可以說非常"前衛另類＆狂野"，但回歸現實製作層面，如何呈現畫作本質並賦予新的生命，新舊衝突的融合、筆觸的臨摹、質感呈現更是實際我們要克服的一大挑戰。以正統藝術與美感為基底，創意為輔，融入超展開的惡搞劇情，加上目不暇給的CG動畫特效，這是各方專業跨界努力後的成果，請開心享用!

此外，值得一提的是歌手張靚穎的勇氣與野心，沒有底線、不給創作者任何框架的創作空間，就算是被顏料畫得面目全非也盡力配合，求得只是一個創意的完整，這是身為一個主流歌手非常難能可貴的，你去看看那些主流的CD封面或MV就可充分瞭解這其中的突破了，華語歌手總是被要求臉要清楚、要大、要美、舞蹈要好記.....創意總是被放在很後面，而這MV最令人振奮的是，我們終於可以把創意放在第一位了!!!

---------------------------------------------------
深度解密!!! 翻玩名畫與藝術家一覽：
*事發地點-芝加哥美術館( The Art Institute of Chicago )
名畫1.愛德華•霍普-夜遊者(Edward Hopper – Nighthawks)
名畫2.梵谷-自畫像(Vincent Willem Van Gogh Museum) VAN GOGH Van Gogh Museum La Oreja de Van Gogh - Oficial
*亂入彩蛋-拳王泰森
名畫3.米勒-拾穗( Jean-François Millet- Des glaneuses)
名畫4.楊•維梅爾-戴珍珠耳環的少女( Johannes Vermeer -Het meisje met de parel)
名畫5.安德魯•魏斯-克莉絲蒂娜的世界 ( @Andrew Nowell Wyeth -Christina's World)
名畫6.喬治•秀拉-大碗島的星期天下午 ( Georges -Pierre Seurat-Un dimanche après-midi à l'Île de la Grande Jatte)
名畫7.孟克-吶喊（Edvard Munch -Skrik）
*亂入彩蛋-MIB Men In Black
名畫8.達利-聖安東尼的誘惑(Salvador Dali-A Tentação de Santo Antônio) Salvador Dalí
名畫9.瑪格利特-馬奇的夏天( Magritte Rene-The marches of summer )
名畫10.艾雪-上下階梯（Maurits Cornelis Escher-Ascending and descending) 莫里茲·柯尼利斯·艾雪
名畫11.艾雪-畫廊（Maurits Cornelis Escher- Gallery)
名畫12.瑪格利特-人子(Magritte Rene-The Son of Man)
*偉大藝術家-達利像(Salvador Dali)
*關於隱藏的第13幅藝術品: 在MV的1:35秒處點描派的爆炸瞬間,也展示了日本知名藝術家-草間彌生擅長的表現方式與符號

-------------------
Singer Zhang Liangying, portrays the role of an office lady and was presented at the beginning of the story. This unlucky lady was blamed by her boss over the phone when she visited the Art Institute of Chicago. Suddenly, she enters a world of famous paintings, and was on her way to a fantastic adventure.

In this MV, we try to connect 12 world-known paintings through interesting and smooth transitions. The original values of those paintings are re-defined. For example, Van Gogh’s ear is bitten by Mike Tyson; when the girl in the Gleaners looks up, she becomes the Girl with A Pearl Earring; the two men in black at the end of the bridge in the Scream by Edvard Munch are actually MIB, and they scream because they see the big monster in the painting of Dali; and the man in suit sitting with his back to us in the lonely café of the last painting Nighthawks, is Dali, and so on.

The 3D effect of those famous paintings is the largest challenge in this MV. We invited excellent artists to contribute their ideas and skills on all the scenes, costumes, actors and the singer. The innovative shooting methods are extremely experimental, which seems crazy!

Although the concept of the script is radical, weird and wild, the revival of paintings, the integration of the new and the old, the copy of painting lines and the texture presentation in the production process are all challenges. The traditional arts and aesthetics are supported by creativity, and innovative story line and the overwhelming CG are integrated. The MV was made possible through the efforts of experts in various fields. We hope you enjoy it!

The list of paintings and artists used in the MV:
1. Edward Hopper – Nighthawks
2. Vincent Willem van Gogh
3. Jean-François Millet- Des glaneuses
4. Johannes Vermeer-Het meisje met de parel
5.Andrew Nowell Wyeth-Christina's World
6.Georges-Pierre Seurat-Un dimanche après-midi à l'Île de la Grande Jatte
7. Edvard Munch-Skrik
8.alvador Dali-A Tentação de Santo Antônio
9. The marches of summer
10. Maurits Cornelis Escher-Ascending and descending
11. Maurits Cornelis Escher- Gallery
12. Magritte Rene-The Son of Man
13. Salvador Dali

* As for the 13th painting, the explosion at 1:35 of the MV adopts the style of Japanese artist, Yayoi Kusama.

**影像工作邀約來信請至 (Outerspace studio)
Any work invitations please mail us:
fxxkleo@hotmail.com

Singer Zhang Liangying, portrays the role of an office lady and was presented at the beginning of the story. This unlucky lady was blamed by her boss over the phone when she visited the Art Institute of Chicago. Suddenly, she enters a world of famous paintings, and was on her way to a fantastic adventure.

In this MV, we try to connect 12 world-known paintings through interesting and smooth transitions. The original values of those paintings are re-defined. For example, Van Gogh’s ear is bitten by Mike Tyson; when the girl in the Gleaners looks up, she becomes the Girl with A Pearl Earring; the two men in black at the end of the bridge in the Scream by Edvard Munch are actually MIB, and they scream because they see the big monster in the painting of Dali; and the man in suit sitting with his back to us in the lonely café of the last painting Nighthawks, is Dali, and so on.

The 3D effect of those famous paintings is the largest challenge in this MV. We invited excellent artists to contribute their ideas and skills on all the scenes, costumes, actors and the singer. The innovative shooting methods are extremely experimental, which seems crazy!

Although the concept of the script is radical, weird and wild, the revival of paintings, the integration of the new and the old, the copy of painting lines and the texture presentation in the production process are all challenges. The traditional arts and aesthetics are supported by creativity, and innovative story line and the overwhelming CG are integrated. The MV was made possible through the efforts of experts in various fields. We hope you enjoy it!

The list of paintings and artists used in the MV:
1. Edward Hopper – Nighthawks
2. Vincent Willem van Gogh
3. Jean-François Millet- Des glaneuses
4. Johannes Vermeer-Het meisje met de parel
5.Andrew Nowell Wyeth-Christina's World
6.Georges-Pierre Seurat-Un dimanche après-midi à l'Île de la Grande Jatte
7. Edvard Munch-Skrik
8.alvador Dali-A Tentação de Santo Antônio
9. The marches of summer
10. Maurits Cornelis Escher-Ascending and descending
11. Maurits Cornelis Escher- Gallery
12. Magritte Rene-The Son of Man
13. Salvador Dali

* As for the 13th painting, the explosion at 1:35 of the MV adopts the style of Japanese artist, Yayoi Kusama.



故事的開始，從歌手張靚穎所扮演的OL上班族拉開序幕，電話那頭傳來老闆的責駡，正在逛芝加哥美術館( Art Institute of Chicago)的倒楣OL，莫名闖入名畫的世界，展開一連串不可思議的奇幻冒險。

此MV我們嘗試以有趣流暢的轉場,貫穿12幅世界名畫，並且顛覆改寫原先名畫的世界觀，做出了全新的定義，例如：梵谷的耳朵原來是被拳王泰森給咬下來的、拾穗中間彎著腰的女性抬起頭來，原來是戴珍珠耳環的少女、孟克吶喊那座橋後方的兩個黑衣人原來是MIB，而吶喊的原因是看到了達利畫中的巨大神獸所以尖叫吶喊、而最後名畫Nighthawks寂寞咖啡廳裡背對西裝男，竟然是達利的背影……等等。

為了讓平面經典以3D重現，將名畫"立體化"是此次MV最大的挑戰，我們找來了優秀的藝術畫家們，將所有看的到的搭景、服裝、甚至演員與歌手全都畫上了"筆觸"，"極不正常"的MV拍攝手法，極度實驗性的拍攝現場，只有瘋狂！

雖然劇本創意不按牌理出牌，也可以說非常"前衛另類＆狂野"，但回歸現實製作層面，如何呈現畫作本質並賦予新的生命，新舊衝突的融合、筆觸的臨摹、質感呈現更是實際我們要克服的一大挑戰。以正統藝術與美感為基底，創意為輔，融入超展開的惡搞劇情，加上目不暇給的CG動畫特效，這是各方專業跨界努力後的成果，請開心享用!

此外，值得一提的是歌手張靚穎的勇氣與野心，沒有底線、不給創作者任何框架的創作空間，就算是被顏料畫得面目全非也盡力配合，求得只是一個創意的完整，這是身為一個主流歌手非常難能可貴的，你去看看那些主流的CD封面或MV就可充分瞭解這其中的突破了，華語歌手總是被要求臉要清楚、要大、要美、舞蹈要好記.....創意總是被放在很後面，而這MV最令人振奮的是，我們終於可以把創意放在第一位了!!!

---------------------------------------------------
深度解密!!! 翻玩名畫與藝術家一覽：
*事發地點-芝加哥美術館( The Art Institute of Chicago )
名畫1.愛德華•霍普-夜遊者(Edward Hopper – Nighthawks)
名畫2.梵谷-自畫像(Vincent Willem Van Gogh Museum) VAN GOGH Van Gogh Museum La Oreja de Van Gogh - Oficial
*亂入彩蛋-拳王泰森
名畫3.米勒-拾穗( Jean-François Millet- Des glaneuses)
名畫4.楊•維梅爾-戴珍珠耳環的少女( Johannes Vermeer -Het meisje met de parel)
名畫5.安德魯•魏斯-克莉絲蒂娜的世界 ( @Andrew Nowell Wyeth -Christina's World)
名畫6.喬治•秀拉-大碗島的星期天下午 ( Georges -Pierre Seurat-Un dimanche après-midi à l'Île de la Grande Jatte)
名畫7.孟克-吶喊（Edvard Munch -Skrik）
*亂入彩蛋-MIB Men In Black
名畫8.達利-聖安東尼的誘惑(Salvador Dali-A Tentação de Santo Antônio) Salvador Dalí
名畫9.瑪格利特-馬奇的夏天( Magritte Rene-The marches of summer )
名畫10.艾雪-上下階梯（Maurits Cornelis Escher-Ascending and descending) 莫里茲·柯尼利斯·艾雪
名畫11.艾雪-畫廊（Maurits Cornelis Escher- Gallery)
名畫12.瑪格利特-人子(Magritte Rene-The Son of Man)
*偉大藝術家-達利像(Salvador Dali)
*關於隱藏的第13幅藝術品: 在MV的1:35秒處點描派的爆炸瞬間,也展示了日本知名藝術家-草間彌生擅長的表現方式與符號

Kawaii♥Pateen Brands #06

Kawaii ambassador Kimura U launches her own brand called KOKOkim!
And here is the report of the exhibition!
Stay turned for a report on the store she will open in the famous building SHIBUYA 109 this month!!

Tons of exclusive photos will be released on our Facebook page:
https://www.facebook.com/Tokyo.Street.Fashion.KAWAII.PATEEN

☆ KAWAII & FASHION ☆ EVERYTHING KAWAII !
Japan Street Fashion, Shops and Events from Tokyo, Harajuku, Shibuya, Akihabara...
KAWAII♥PATEEN on Facebook with tons of exclusive photos!
https://www.facebook.com/Tokyo.Street.Fashion.KAWAII.PATEEN

--
Subtitles script hereunder :

1:48 - I am the pinkest artist on the planet, Kimura... U! (Japanese name order; the surname is Kimura)

1:52 - Hello, people of the world!

1:55 - You know what? At long last, my very own fashion brand has been launched!

2:01 - The brand is called KoKoKim, and it is built around the concept of 'lovable Harajuku' (a fashion hotspot in Tokyo). The fashions in this line are inspired by the kawaii (cute) costume designs typically seen in the world of anime, but instead of being like cosplay costumes which can only be used at such special events, they are made practical enough to be worn daily by the fashion-forward crowd.

2:19 - I call this fabric "Poison Melty Candy". The idea is that within the adorable sweetness lurks a certain gall, an edge.

2:26 - And this pattern is called "Candy Mille-feuille" - sweets sandwiched between Mille-feuille pastry. Totally sweet and adorable!

2:36 - Here I have the trendiest style for 2014, the gingham checks of springtime layered with organdy cloth. Soft and fluffy, it is the perfect feminine fabric.

2:49 - With the combination of gingham and feathery-soft organdy, the interplay between these two different materials creates a uniquely original look.