การรู้ตัวเร็วของ Foxconn เปลี่ยนจากเคสมือถือ เป็นตัวถังรถยนต์ /โดย ลงทุนแมน
อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าถูกคาดการณ์ว่า
จะมีมูลค่ากว่า 187 ล้านล้านบาท ในปี 2035
ก้อนเค้กชิ้นโตนี้ จึงดึงดูดใจทั้งผู้ผลิตรถยนต์รายเดิม บริษัทเทคโนโลยี ไปจนถึงบริษัทผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์ไอที ให้กระโดดเข้ามาร่วมพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ากันอย่างคึกคัก
ซึ่งบริษัทที่ผลิตอุปกรณ์ไอทีแบรนด์ดังมาตลอดเกือบสามสิบปี อย่าง Foxconn Technology ก็ไม่พลาดที่จะเข้าร่วมในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตนี้
Foxconn Technology หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า Foxconn
จะเข้ามามีบทบาทอะไรในวงการรถยนต์ไฟฟ้า ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่านและนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
Foxconn Technology เป็นบริษัทสัญชาติไต้หวัน ที่ถูกก่อตั้งในปี 1990
โดยในตอนแรกใช้ชื่อ Q-RUN Technology เพื่อดำเนินกิจการผลิตอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และกล้องวงจรปิด
จนในปี 1996 Q-RUN Technology ก็ได้เข้าตลาดหลักทรัพย์ไต้หวัน
และ 3 ปีต่อมา Q-RUN ได้เข้าเป็นซัปพลายเออร์ของบริษัทชื่อว่า Foxconn Precision Components ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Hon Hai Precision Industry บริษัทรับผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่สัญชาติไต้หวัน
โดยบริษัทแห่งนี้มีหน้าที่ผลิตชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ ให้กับคอมพิวเตอร์แบรนด์ดังในยุคนั้นอย่าง Compaq และยังรับประกอบแผงวงจรให้เครื่อง iMac ของ Apple มาตั้งแต่ปี 2000
ในปี 2004 Q-RUN Technology ก็ควบรวมกิจการเข้ากับ Foxconn Precision Components และได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Foxconn Technology ซึ่งเราจะเรียกสั้น ๆ ว่า Foxconn
Foxconn เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในฐานะที่เป็นผู้ประกอบ iPhone มาช้านาน
ซึ่งแท้จริงแล้ว บริษัทนี้รับผลิตและประกอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากมายนอกจาก iPhone เช่น ผลิตอุปกรณ์ระบายความร้อนให้คอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊ก โดยมีลูกค้าหลักอย่าง Acer, Dell, Compaq
นอกจากนั้นบริษัทได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีในการหล่อฉีดชิ้นส่วนต่าง ๆ
จนสามารถผลิตเคสที่มีความทนทานสูงให้กับอุปกรณ์ไอที
โดยมีลูกค้าคนสำคัญ อย่างเช่น NOKIA มาจ้างผลิต
โดยเฉพาะเคสรุ่นที่มีความทนทานและมีส่วนผสมโลหะอะลูมิเนียมและแมกนีเซียม ล้วนมาจากการผลิตโดย Foxconn Technology ทั้งสิ้น
ซึ่งนี่ก็คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้ มือถือ NOKIA ในช่วงนั้น ขึ้นชื่อเรื่องความทนทานของวัสดุนั่นเอง
หรือแม้แต่ฟีเจอร์โฟนที่ได้รับความนิยมอีกเจ้าหนึ่งอย่าง BlackBerry ก็มาจ้าง Foxconn ผลิตเคสและฝาปิดเครื่องเช่นกัน
สำหรับคนที่หลงใหลในการเล่นเกมผ่านเครื่องเล่นคอนโซลทั้ง PlayStation, Wii, Nintendo DS, Xbox ก็ถือว่าได้สัมผัสงานประกอบจาก Foxconn กันมาแล้วทั้งสิ้น
ส่วนลูกค้าคนสำคัญอย่าง Apple ก็ไว้วางใจ และมอบให้ Foxconn เป็นซัปพลายเออร์หลักในการผลิตเคสของผลิตภัณฑ์ของ Apple เช่น iPhone, iPad, MacBook Pro, Retina MacBook Pro มาจนถึง iPhone 12 ในปัจจุบัน
ปัจจุบัน Foxconn มีโรงงานผลิตและประกอบชิ้นส่วนอยู่ในหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา, อินเดีย, เกาหลีใต้, มาเลเซีย, ญี่ปุ่น, บราซิล
แต่ฐานการผลิตใหญ่สุดของ Foxconn ตั้งอยู่ในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่
ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 12 โรงงาน ใน 9 มณฑล
โดยโรงงานใหญ่สุดของ Foxconn ตั้งอยู่ในมณฑลเชินเจิ้น (Shenzhen)
ซึ่งมีจำนวนพนักงานทำงาน ณ โรงงานแห่งนี้ประมาณ 350,000-450,000 คน เลยทีเดียว
ทีนี้ ความท้าทายที่กำลังเกิดขึ้นกับ Foxconn ในระยะหลัง ๆ
คือการแข่งขันในอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟนและอุปกรณ์ไอทีที่ดุเดือดมากขึ้น
ยกตัวอย่างจากลูกค้าคนสำคัญอย่าง Apple ก็จำเป็นต้องต่อรองและกดราคาซัปพลายเออร์ เพื่อที่จะจ่ายค่าจ้างผลิตและประกอบที่ต่ำลง เพื่อให้สินค้าอย่างเช่น iPhone, iPad สามารถแข่งขันในตลาดได้ดีขึ้น
เรื่องนี้ทำให้หลายบริษัทที่เป็นซัปพลายเออร์ให้ Apple เริ่มทยอยถอนตัว เช่น
- Pegatron Corporation บริษัทรับจ้างผลิตชิ้นส่วนคล้ายกับ Foxconn ก็เริ่มลดรับคำสั่งชิ้นส่วนสำหรับผลิต iPhone แล้วไปเป็นซัปพลายเออร์ผลิตชิ้นส่วนให้ Tesla แทน โดยปลายปี 2020 มีข่าวว่าไปสร้างโรงงานที่รัฐเท็กซัส ในสหรัฐอเมริกา เพื่อผลิตชิ้นส่วนป้อนโรงงานแห่งใหม่ของ Tesla โดยเฉพาะ
- Catcher Technology บริษัทผลิตเคส iPhone เหมือนกับ Foxconn ได้ขายโรงงานในประเทศจีนให้กับ Lens Technology บริษัทสัญชาติจีนที่เป็นซัปพลายเออร์กระจกให้ iPhone ไปแล้ว
และถ้าย้อนดูผลประกอบการของ Foxconn Technology ในช่วงสามปีหลัง
ปี 2018 รายได้ 142,060 ล้านบาท กำไร 9,150 ล้าน อัตรากำไร 6.44%
ปี 2019 รายได้ 99,800 ล้านบาท กำไร 7,130 ล้าน อัตรากำไร 7.14%
ปี 2020 รายได้ 104,790 ล้านบาท กำไร 4,720 ล้าน อัตรากำไร 4.50%
จะเห็นว่า แม้ 3 ปีที่ผ่านมา Foxconn จะยังคงสามารถรักษารายได้เฉลี่ยอยู่ในระดับแสนล้าน แต่จะเห็นว่าอัตราการทำกำไรมีแนวโน้มลดลงเรื่อย ๆ ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปก็คงไม่ดีต่อบริษัทแน่ ๆ
นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ Foxconn ต้องมองหาโอกาสใหม่ ๆ ที่จะมาช่วยสร้างรายได้ และเพิ่มอัตราการทำกำไรให้สูงขึ้น
และอุตสาหกรรมที่ดูมีอนาคต อีกทั้ง Foxconn ยังสามารถนำเทคโนโลยีของตัวเองมาพัฒนาต่อยอดได้ ก็คือ การผลิตตัวถังหรือ Body ของรถยนต์ไฟฟ้า
หลายปีที่ผ่านมา Foxconn ได้มีการเร่งพัฒนาเทคโนโลยีการหล่อฉีดอะลูมิเนียมอัลลอย
ซึ่งเทคโนโลยีนี้ จะทำให้ได้ตัวถังของรถยนต์ที่แข็งแกร่งแต่มีน้ำหนักเบา
การมีเทคโนโลยีตัวนี้ ทำให้ต้นปีที่ผ่านมา Foxconn ได้รับคำสั่งซื้อจากค่ายรถยนต์ชั้นนำอย่าง BMW ในการผลิตชิ้นส่วนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า
นอกจากนี้ยังมีบริษัทแม่อย่าง Hon Hai Precision Industry ก็เริ่มทยอยเซ็นสัญญาร่วมมือกับบริษัทต่าง ๆ ในการร่วมพัฒนาและผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เช่น
- Byton บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน ที่เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าโมเดลแรกไปเมื่อปี 2018 (ซึ่ง Byton ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นมาจากการตั้งกิจการร่วมค้าระหว่าง Foxconn, Tencent และนายหน้าค้ารถหรูในฮ่องกงชื่อว่า Harmony New Energy เมื่อปี 2016)
- Geely บริษัทรถยนต์ชั้นนำของจีน ที่ปัจจุบันเป็นเจ้าของรถยนต์แบรนด์ดังอย่าง Volvo และ Proton
- Fiat Chrysler Automobiles บริษัทรถยนต์รายใหญ่ของโลก
- Fisker บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติอเมริกัน
นอกจากดีลเหล่านี้ ยังมีความเป็นไปได้ไม่น้อยที่ Apple เจ้าของ iPhone จะตัดสินใจเลือกพันธมิตรเก่าแก่อย่าง Foxconn ในการรับผลิต Apple Car ที่มีแผนจะออกตลาดในปี 2024 อีกด้วย
ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า การปรับตัวของ Foxconn ที่กำลังเริ่มเข้าสู่การผลิตตัวถังรถยนต์จะประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใด
แต่ที่แน่ ๆ สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากเรื่องนี้อย่างหนึ่งคือ
การทำธุรกิจนั้น ต้องปรับตัวให้ล้อไปกับเทรนด์ของโลกเสมอ
เพราะสิ่งที่เคยสร้างความสำเร็จให้บริษัทในอดีต ไม่อาจการันตีความสำเร็จในอนาคตได้
ซึ่งก็ดูเหมือน Foxconn จะรู้ตัวเร็ว
และกำลังเตรียมพร้อมรอขี่คลื่นลูกใหม่ ที่กำลังจะมาถึง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่านและนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-http://www.foxconntech.com.tw/en-about1-1.html
-https://www.moneydj.com/kmdj/wiki/wikiviewer.aspx?keyid=ec375f49-0371-4757-8320-ded3abc402f1
-https://zh.wikipedia.org/wiki/%E9%B4%BB%E6%B5%B7%E7%A7%91%E6%8A%80%E9%9B%86%E5%9C%98
-https://forum.uanalyze.com.tw/forum/%E3%80%90%E9%B4%BB%E6%BA%96%E3%80%91%E8%BB%8A%E7%94%A8%E9%9B%BB%E5%AD%90%E8%BC%AA%E7%95%AA%E5%A4%A7%E6%BC%B2%20%E9%80%99%E6%AC%A1%E8%BC%AA%E5%88%B0%E9%B4%BB%E6%B5%B7%E5%8F%A6%E4%B8%80%E5%AE%B6%E5%AD%90%E5%85%AC%E5%8F%B8%E9%B4%BB%E6%BA%96%20%E5%A4%A7%E6%BC%B2%E8%83%8C%E5%BE%8C%E7%9A%84%E7%9C%9F%E7%9B%B8.....%E5%8F%AA%E6%9C%89%E4%B8%80%E5%80%8B%EF%BC%81
-https://www.chinatimes.com/newspapers/20130411000748-260206?chdtv
-https://udn.com/news/story/7240/5344483
-https://www.cw.com.tw/article/5101577
-https://tw.stock.yahoo.com/news/%E9%B4%BB%E6%BA%96%E8%82%A1%E5%83%B9%E9%80%A32%E6%97%A5%E6%BC%B2%E5%81%9C-%E5%B0%88%E5%AE%B6%E6%9B%9D-%E9%97%9C%E9%8D%B5%E6%8A%80%E8%A1%93-apple-car%E5%B0%91%E4%B8%8D%E4%BA%86-031500546.html
geely wiki 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
รู้จัก Robin Zeng คนที่รวยสุดในฮ่องกง เจ้าพ่อแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า /โดย ลงทุนแมน
Robin Zeng หรือ Céng Yùqún ปัจจุบันอายุ 52 ปี และเป็นบุคคลที่ร่ำรวยสุดในฮ่องกง
ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 36,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1,101,000 ล้านบาท
ในขณะที่ Li Ka-shing ซึ่งเคยเป็นคนที่รวยสุดในฮ่องกงมาก่อน
ปัจจุบันรวยเป็นอันดับที่ 2 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 31,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 954,000 ล้านบาท
ซึ่งความมั่งคั่งของ Li Ka-shing มาจากหลากหลายธุรกิจ เช่น อสังหาริมทรัพย์, ท่าเรือ, โทรคมนาคม, พลังงาน, ค้าปลีก
แล้ว Robin Zeng ทำธุรกิจอะไร ถึงได้กลายเป็นคนรวยสุดในฮ่องกง?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
Robin Zeng เป็นผู้ก่อตั้ง และประธานของบริษัท Contemporary Amperex Technology (CATL)
ผู้พัฒนาและผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า
ซึ่งบริษัทครองส่วนแบ่งตลาดแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า เป็นอันดับต้นๆ ของโลก
โดยเดือนมกราคม - กรกฎาคม 2020
CATL ครองส่วนแบ่งตลาดแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก อยู่ 23.8%
ทั้งนี้ Robin Zeng จบการศึกษา ป.ตรี วิศวกรรมต่อเรือ ที่ Shanghai Jiao Tong University
ป.โท วิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์และสารสนเทศ ที่ South China University of Technology
ป.เอก ฟิสิกส์ของสสารควบแน่น (Condensed Matter Physics) ที่ Chinese Academy of Sciences
ซึ่งเขาเป็นคนที่เติบโต และทำธุรกิจในเมืองหนิงเต๋อ มณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีน
แต่ตัวเขาเอง ถือสัญชาติฮ่องกง
ย้อนหลังไปเมื่อ 10 ปีก่อน
Robin Zeng มีวิสัยทัศน์ที่ว่า ต่อไปในอนาคต รถยนต์ไฟฟ้าจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ
บวกกับรัฐบาลจีน เริ่มส่งสัญญาณที่จะออกนโยบายผลักดัน ให้คนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น
ดังนั้น แบตเตอรี่ ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญ และหัวใจหลัก ของรถยนต์ไฟฟ้า จึงต้องเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เขาเลยตัดสินใจก่อตั้ง CATL ขึ้นในปี ค.ศ. 2011
และหลังจากนั้น ธุรกิจแบตเตอรี่ของเขาก็รุ่งเรือง ตามตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด
CATL ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เชินเจิ้น ในเดือนมิถุนายน 2018
ซึ่งปัจจุบัน ราคาหุ้นของบริษัท เพิ่มขึ้นกว่า 663% ตั้งแต่เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ
และมีมูลค่าบริษัท 4,405,000 ล้านบาท
ผลประกอบการย้อนหลังของ CATL
ปี 2017 มีรายได้ 92,563 ล้านบาท กำไร 18,037 ล้านบาท
ปี 2018 มีรายได้ 136,931 ล้านบาท กำไร 15,754 ล้านบาท
ปี 2019 มีรายได้ 211,703 ล้านบาท กำไร 21,209 ล้านบาท
ที่น่าสนใจคือ CATL เป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ และซัปพลายเออร์ให้กับ บริษัทรถยนต์ชื่อดังเกือบทุกราย
ไม่ว่าจะเป็น Tesla, BMW, Daimler AG, Volkswagen, Volvo, Toyota, Honda, Hyundai, Geely และ SAIC เป็นต้น
นอกจากธุรกิจพัฒนาและผลิตแบตเตอรี่ สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว
CATL ยังดำเนินธุรกิจอื่นๆ อีก อาทิ จัดหาโซลูชันสำหรับระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage Systems) ในรูปแบบพลังงานหมุนเวียน อย่างพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม
รวมถึงพัฒนานวัตกรรมรีไซเคิลแบตเตอรี่ และนำกลับมาใช้อีกครั้ง (Battery Recycling) เพื่อลดต้นทุนด้านแบตเตอรี่ในอนาคต
โดย CATL มีโรงงานการผลิตทั้งหมด 5 แห่ง ประกอบด้วยในจีน 4 แห่ง และ เยอรมนี 1 แห่ง
มีศูนย์วิจัยและพัฒนา 4 แห่ง ประกอบด้วย ในจีน 3 แห่ง และ เยอรมนี 1 แห่ง
สรุปแล้ว ด้วยเมกะเทรนด์ในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ที่ทำให้เกิดความต้องการในแบตเตอรี่มหาศาล
และยิ่งตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ยิ่งแข่งขันกัน หรือ มีผู้เล่นเข้ามาในตลาดมากเท่าไร
ก็ยิ่งทำให้ผู้ผลิตแบตเตอรี่ โดยเฉพาะเจ้าตลาดอย่าง CATL ได้รับอานิสงส์ มากเท่านั้น
CATL จึงเป็นดั่งขุมทรัพย์ และเครื่องจักรผลิตความมั่งคั่งให้กับ Robin Zeng จนทำให้เขาได้ครองบัลลังก์ บุคคลที่รวยสุดในฮ่องกง นั่นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://en.wikipedia.org/wiki/Robin_Zeng
-https://en.wikipedia.org/wiki/Contemporary_Amperex_Technology
-https://www.bloomberg.com/billionaires/
-https://www.forbes.com/profile/robin-zeng/?sh=c52fb3397f2a
-https://www.catl.com/en/about/profile/
-https://www.wsj.com/market-data/quotes/CN/XSHE/300750/financials/annual/income-statement
-https://insideevs.com/news/442875/lg-chem-leads-ev-battery-market/