Google 眼中的 #人才 長什麼樣子?
外界普遍認為「學歷高、英文能力好」是 Google 員工的基本條件,但他們真正重視的求職者其實有4 大特質:
1. 溝通表達與解決問題的能力(General Cognitive Ability)
這個能力是考驗求職者的問題思辨能力,看他是否能在面試過程中想出方法,題目不一定有正確答案,主要是讓面試官知道你怎麼看待問題、解決問題。
2. 針對各職缺的專業能力(Role Related Knowledge)
不同職缺所需的專業技能都不同,評選過程可能會有不同的測試來確認求職者是否具備相應的技能。
如何做出快狠準的關鍵決策?10/15 線上直播講座,完全解析!
3. 領導力(Leadership)
領導力不一定是要在管理階層才能展現,跟別人合作的時候,如果能影響他人或利益關係人的決定,也是一種領導力的展現。換句話說,這個能力是看你是否具備團隊驅動、利益關係人管理的經驗與能力。
4. 對 Google文化的適應性(Googleyness)
強調應徵者是否能適應Google的企業文化,並為團隊、公司帶來更多的啟發。石啟瑞表示,這考驗求職者有沒有辦法在不確定下工作、會不會堅持用對的方式做事,或是想不想把事情做得更好,「我們希望每個人進來都能給Google帶來新的東西。」
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...
googleyness 在 Dek Thai Klai Baan เด็กไทยไกลบ้าน Facebook 的最讚貼文
ดีมากกกกกกกกก
Google มองหา “เมล็ดพันธุ์” แบบไหน?
.
ผมเคยถามคนรุ่นใหม่หลายคนว่าอยากทำงานกับบริษัทแบบไหน ชื่อหนึ่งที่ผมจะได้รับคำตอบเสมอก็คือ Google
.
“ผมอยากทำงานที่รู้สึกว่าเราได้ทำอะไรที่สร้าง impact ให้กับสังคมจริงๆ อย่าง Google พี่ดูสิ เขาทำอะไรที มันมีผลต่อโลกหมด ทำแล้วคงรู้สึกว่างานมีความหมาย”
.
น้องคนหนึ่งเคยบอกผม และไม่ใช่น้องคนนี้คนเดียวที่ให้เหตุผลแบบนี้นะครับ
.
ข้อสังเกตหนึ่งที่ผมมีจากการได้สัมผัสกับคนรุ่นใหม่ เมื่อก่อนเวลาคนเราจะมองหางาน เราดูก่อนเลยว่าเงินดีไหม มั่นคงหรือเปล่า งานที่ทำเป็นงานที่เราชอบไหม ถนัดไหม แต่มาตอนนี้ ผมพบว่าสิ่งเหล่านั้นไม่เพียงพอที่จะดึงดูดคนรุ่นใหม่แล้ว
.
เหมือนอย่างที่น้องคนนั้นบอกครับ เขามองหางานที่ทำให้เขารู้สึกว่าได้ทำสิ่งที่มีความหมาย งานที่เขาทำแล้วได้เปลี่ยนแปลงโลก
.
ไม่ใช่ทำเพราะมั่นคง ไม่ใช่ทำเพราะถนัด แต่ทำเพราะมันมีความหมาย
.
สงสัยกันไหมครับว่าบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Google เขามองหาคนแบบไหน สร้างคนแบบไหน และรักษาคนแบบไหนไว้
.
วันนี้ผมไปงาน Techsauce Cultural Summit 2019 มาครับ Session หนึ่งที่ผมรอฟังก็คือ Google : What’s secret of the world’s happiest place to work at? บรรยายโดยคุณ Pim Suvitsakdanon Head of Sales - Thailand Google Customer Solutions เป็นบรรยายที่ผมได้อะไรดีๆ กลับมาแบ่งปันให้คุณผู้อ่านเยอะเลยครับ
.
Google เปรียบการเฟ้นหาบุคลากรเหมือนการหาเมล็ดพันธุ์ที่ดีเพื่อมาปลูกเป็นต้นไม้ที่เติบใหญ่และให้ดอกผลงดงาม โดยมองหาคนที่มีลักษณะ 4 ข้อครับ
.
General Cognitive Abiility - Google ไม่ได้มองหาคนที่หาคำตอบมาได้ถูกต้อง (เพราะแน่นอนว่าคำตอบที่ผิดพลาดให้บทเรียนกับเราได้เหมือนกัน) แต่มองหาคนที่มี “วิธีการหาคำตอบ” ที่น่าสนใจ เพราะในการทำงานจริง เราไม่มีทางรู้ได้ว่าคำตอบไหนเป็นคำตอบที่ถูกต้องที่สุดตั้งแต่ต้น แต่ถ้ามีกระบวนการคิดหาคำตอบที่ดีก็อาจจะนำไปสู่ทางออกที่ดีได้
.
Role-related knowledge ข้อนี้น่าสนใจตรงที่ Google ไม่ได้มองหาคนที่เรียนหรือมีประสบการณ์มาในสายงานโดยตรง แต่เชื่อว่าแต่ละคนมีความสามารถที่แตกต่างกัน แบ็กกราวนด์ที่แตกต่างกันนำไปสู่วิธีคิดที่หลากหลายไปด้วย เป็นการมองแทนลูกค้าในหลายมุม เพราะฉะนั้น Google จึงเต็มไปด้วยคนที่มีแบ็กกราวนด์หลากหลาย มีคนที่ไม่จบตรงสาย หรือบางทีก็มีประสบการณ์จากสายงานที่ต่างออกไปเลยก็มี แต่สิ่งที่ Google มองหาคือ ความสามารถในการเรียนรู้ ทุกสิ่งสามารถเรียนรู้ได้หมด
.
คำที่ผมชอบมากคือ “Hungry but humble” ไม่ได้แปลว่าหิวแต่ทำเป็นไม่หิวนะครับ! แต่แปลว่ากระหายอยากเรียนรู้ตลอดเวลา ขณะเดียวกัน ก็มีท่าทีที่ไม่เย่อหยิ่งว่าเรารู้ไปหมด ไม่ดูถูกคนอื่นที่ไม่รู้หรือรู้แตกต่างจากเรา
.
Leadership ความเป็นผู้นำไม่ได้มีไว้เฉพาะคนเป็นหัวหน้านะครับ แต่เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องมี แต่ลึกไปกว่านั้น Google เชื่อในความเป็นผู้นำว่า คนที่มีความเป็นผู้นำต้องพร้อมจะก้าวไปข้างหน้าเพื่อนำคนอื่นและพร้อมจะกระเถิบมาข้างหลังเพื่อให้คนอื่นนำได้ นำอย่างเดียวแต่ตามไม่เป็นก็ไม่มีความหมาย หรือรู้จักแต่การขึ้นไปที่สูงแต่ลงมาอยู่ข้างล่างไม่เป็นก็เป็นผู้นำที่ไม่มีความหมายเช่นกัน —- ลึกซึ้งเว้ย!
.
Googleyness เป็นการดูว่าคนคนนี้มีความเป็นมนุษย์ Google แค่ไหน เช่น ทำในสิ่งที่ถูกต้องหรือเปล่า ติดอยู่ใน Comfort zone หรือเปล่า เป็นคนที่มีพลังงานบวกเมื่ออยู่กับทีมหรือเปล่า ฯลฯ ข้อนี้ถ้าจะ adapt ใช้กับองค์กรของเราเองก็คือ ดูทรงแล้วคนนี้มีความเป็นคนแบบที่องค์กรเรามองหาไหม หรือเข้ามาแล้วจะกลายเป็น “ข้อใดไม่เข้าพวก” แบบที่จะอยู่ในองค์กรไม่ได้
.
ที่ Google คุณจะต้องผ่านการสัมภาษณ์ถึง 4-6 ครั้ง ซึ่งการจะรับคนเข้าทำงาน กรรมการหรือผู้สัมภาษณ์ทุกคนจะต้องเห็นพ้องต้องกันหมด ถ้ามีแม้แต่คนเดียวไม่เห็นด้วย ก็ต้องเริ่มหาคนใหม่ นั่น!!!
.
นอกจากการหาเมล็ดพันธุ์ที่ใช่แล้ว การสร้างวัฒนธรรมองค์กรก็เป็นการสร้างดินที่ดีเพื่อให้เมล็ดพันธุ์สามารถเติบโตไปอย่างมีศักยภาพได้ครับ
.
ดินที่ Google เตรียมไว้ มีอยู่ 2 เรื่องที่นำมาแบ่งปันกันในวันนี้ครับคือ
.
Learning culture สร้างสิ่งแวดล้อมให้เอื้อต่อการเรียนรู้ ที่ Google พนักงานสามารถเลือกเรียนได้ว่าอยากเรียนอะไรแล้วบริษัทจะมีทุนสนับสนุนให้ นอกจากเรียนรู้แล้วต้องแบ่งปันด้วย ที่ Google เชื่อว่า คนเราถ้าเก่งเรื่องไหน เขาจะต้องแบ่งปันด้วย เพราะฉะนั้น ไปเรียนเรื่องอะไรมา หรือเก่งเรื่องไหน ก็มาเปิดคลาสสอนเรื่องนั้นให้เพื่อนร่วมงานได้เรียนรู้ไปด้วย ยิ่งแบ่งปันความรู้กัน ทุกคนก็จะยิ่งเติบโต
.
Celebrating failure ข้อนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่า ล้มเหลวแล้วต้องฉลองด้วยเหรอ Google เองก็ Lauch ผลิตภัณฑ์ที่ล้มเหลวมาไม่น้อย (ยังจำ Google Glass ได้ใช่ไหมครับ) แต่ทุกครั้งที่ล้มเหลวถ้าเราได้เรียนรู้ มันจะไม่ใช่ความล้มเหลวที่สูญเปล่า และมันอาจจะทำให้เราพบทางออกที่ดีขึ้นก็ได้
.
ถ้าคิดใหม่ FAIL ที่แปลว่าล้มเหลวนั้น มันสามารถแปลได้ว่า FAIL = Fall And I Learn ล้มและเราได้เรียนรู้
.
ทุกครั้งที่ล้มเหลว ถามตัวเอง 3 ข้อครับ 1) เราได้เรียนรู้อะไรบ้าง 2) อะไรทำให้เราล้มเหลว 3) เราจะทำให้มันดีขึ้นได้อย่างไร
.
“I failed at... and that is ok!”
.
FAIL = Fall And I Learn
.
พอมีเมล็ดพันธุ์ที่ดี เติบโตในดินที่ดี ต้นไม้ก็จะงอกงามเป็นป่าไม้
.
ป่าที่สวยงามและยิ่งใหญ่นั้นไม่ได้เกิดจากต้นไม้ชนิดเดียว แต่เกิดจากต้นไม้หลากหลายพันธุ์ ที่ Google ก็เป็นป่าแบบนั้นครับ
.
Google เชื่อว่าทุกคนมีความแตกต่าง มีเอกลักษณ์ในตัวเอง และเป็นมาสเตอร์พีซของตัวเอง ไม่มีใครเหมือนกันเลย ซึ่งความแตกต่างนี้แหละครับที่ทำให้งานที่ออกมามีความสำเร็จได้
.
แต่เมื่อแตกต่างแล้ว เราต้องคำนึงถึงคนอื่นด้วย เราต้องสร้างสังคมที่เต็มไปด้วยความแตกต่างแต่อยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
.
เรื่องหนี่งที่ผมว่าน่ารักมากก็คือ ลิฟต์ที่ Google จะช้ามาก เป็นเราเราคงอยากไปไหนเร็วๆ แต่ทราบไหมครับว่าทำไม Google ต้องทำลิฟต์ให้ช้า
.
เพราะเขาคิดถึงคนที่ใช้วีลแชร์ไงล่ะครับ
.
อ่านถึงบรรทัดนี้แล้วคงมีคนอยากเป็นเมล็ดพันธุ์ของ Google กันหลายคนเลยล่ะครับ และถึงไม่ได้ทำงาน Google แต่วิธีคิดแบบ Google ก็น่านำมาใช้กับการทำงานของเราเองเหมือนกันนะครับ
.
หาเมล็ดพันธุ์ที่ดี เติบโตในดินที่ดี และงอกเงยเป็นป่าที่งดงามจากความหลากหลาย
.
นั่นแหละครับวิถี Google
.
.
ท้อฟฟี่ แบรดชอว์
#tscs19
What kind of " seed is Google looking for?
.
I've asked many new generation what kind of company I want to work with. The name I will always get the answer is Google.
.
"I want to work that I feel like I have done something that creates impact for society like Google. Let's see what he does. It affects the world. I feel that the work is meaningful"
.
One brother told me and not the only one who gave me a reason like this.
.
One notice that I have from touching the new generation. When we look for a job. Let's see if money is good or not. The job that I like. But now I found that they are not enough to attract the new generation.
.
Just like that brother said, he looks for a job that makes him feel like he has done meaningful. The work he has changed the world.
.
Not doing it because it's stable, not because I'm good at doing it because it's meaningful
.
Do you wonder what kind of people are you looking for? What kind of people are you to build and what kind of people they keep?
.
Today I went to Techsauce Cultural Summit 2019, one session I'm waiting to listen to: What's secret of the world's happen to work at? Lecture by Mr. Pim Suvitsakdanon Head of Sales - Google Customer Solutions. It's a lecture that I got a lot of good things back to share for readers.
.
Google compares to find personnel like finding good seed to grow as a growing tree and beautiful result by looking for people who have 4 items.
.
General Cognitive Ability - Google is not looking for the right answer (because of course, the wrong answer can give us the same lesson), but looking for someone who has an interesting "way to find answers" because in real work, we never know which answer. The most accurate answer from the beginning, but if there is a good thought process, it could lead to a good solution.
.
Role-related knowledge. This is interesting that Google is not looking for people who study or experience directly, but believes that each person has different capabilities. Different background leads to a variety of thinking. It is a look for customers. In many angles, Google is full of people who have a variety of background. There are people who don't end up or sometimes experience from different lines. But what Google is looking for is the ability to learn everything can learn.
.
My favorite word is "hungry but humble" doesn't mean I'm hungry but I'm not hungry! But it means that I want to learn all the time. While there is an arrogant attitude that I know that I don't insult others who don't know or know different from us.
.
Leadership. Leadership is not only for the boss, but it is something that everyone must have, but deeper than that Google believes in leadership must be ready to move forward to lead others and ready to be ready. Come in the back so that others can lead, but it doesn't know how to follow. It doesn't know how to go up high, but it's not a leader who doesn't know how to be a leader who does
.
Googleyness is to see how much this person is human being, such as doing the right thing. Stuck in comfort zone. Is it a positive energy when they are with the team, etc. If adapt use with our own organization, it's a look at the shape. Is this the kind of person that our organization is looking for? Or come in and it will become "no matter what we don't understand" that will be in the organization.
.
At Google, you have to pass 4-6 interviews. To accept all directors or interviewers must agree. If there is only one person, you need to start looking for a new person!!!
.
Apart from finding the right seed, creating a culture of organization is a good soil so that the seed can grow with potential.
.
There are 2 things that Google has prepared to share today.
.
Learning culture creates an environment for learning at Google. Employees can choose what they want to study. Then the company will have money to support. Besides learning. We have to share it. If you believe that if you are good at anything, they have to share. So what did you learn? No matter what you are good, let's open a class to teach your colleagues to learn. The more you share knowledge, the more you will grow.
.
Celebrating failure. Many people may wonder if they have to celebrate. Google is lauch. The product that have failed (still remember Google Glass) but every time we learn, it won't be a waste failure and it may make it. We found a better solution.
.
If you rethink FAIL that means fail, it can translate that FAIL = Fall And I Learn and we have learned.
.
Every time I fail, ask myself 3 items. 1) What have we learned? 2) What makes us fail? Haha) How can we make it better?
.
“I failed at... and that is ok!”
.
FAIL = Fall And I Learn
.
When there is a good seed growing in good soil, trees will flourish into a forest.
.
The beautiful and great forest is not a little tree, but it is caused by many trees that Google is like that.
.
Google believes that everyone has a difference in themselves and is their own master piece. No one is the same. This is the difference that makes the event that comes out to be successful.
.
But when we are different, we must also be mindful of others. We must create a society full of differences, but live together happily
.
One thing I think is very cute is that the elevator that Google will be very slow. I might want to go anywhere soon. But do you know why Google has to make the elevator.
.
Because he misses someone who uses Wheelshare.
.
After reading this line, there are many people who want to be Google's seed. And even though I don't work in Google, the way to think like Google, it's nice to use with our own work too.
.
Find a good seed, grow in good soil and grow into a beautiful forest from diversity.
.
That's it. Google way.
.
.
Diffeffy Bradshaw
#tscs19Translated