Sean Quinn มหาเศรษฐีรวยสุดในไอร์แลนด์ ล้มละลายใน 3 ปี /โดย ลงทุนแมน
รู้หรือไม่ว่าเศรษฐกิจของประเทศไอร์แลนด์ เติบโตอย่างร้อนแรงในช่วงปี 1995 ถึง 2007
จนมีชื่อเรียกว่า “The Celtic Tiger” ซึ่งในช่วงเวลานั้น GDP ของไอร์แลนด์เติบโตขึ้นเกือบ 4 เท่า
ในเวลาเพียง 12 ปี โดยเฉพาะระหว่างปี 1995 ถึง 2000 ที่ GDP เติบโตเฉลี่ยปีละ 9.4%
นั่นจึงทำให้ไอร์แลนด์ กลายเป็นประเทศที่ประชากรโดยเฉลี่ยร่ำรวยติด 10 อันดับแรกของโลก
และผู้ที่ร่ำรวยสุดในไอร์แลนด์ ในเวลานั้นก็คือชายที่ชื่อว่า “Sean Quinn”
แต่เพียง 3 ปีหลังจากนั้น Sean Quinn กลับต้องกลายเป็นคนล้มละลาย
แล้วชีวิตของ Sean Quinn พลิกจากคนรวยสุดในไอร์แลนด์
จนไม่เหลืออะไรเลยใน 3 ปี ได้อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
“Sean Quinn” เกิดที่ประเทศไอร์แลนด์ในปี 1947 ในครอบครัวที่ไม่ได้มีฐานะดี
เขาจึงต้องออกจากโรงเรียนตอนอายุ 15 ปี เพื่อมาช่วยงานที่ฟาร์มเล็ก ๆ ของครอบครัว
ปี 1973 คุณ Quinn ในวัย 26 ปี ก็ได้เริ่มค้าขายครั้งแรก หลังจากที่เขาพบว่าที่ดินตรงเนินเขาหลังบ้าน มีหินกรวดที่ใช้ก่อสร้างอยู่ เขาเลยยืมเงินจากเพื่อน 4,500 บาท หรือคือเป็นมูลค่าราว 55,000 บาทในปัจจุบัน เพื่อซื้อเครื่องจักรมาขุดหินและกรวดไปขาย
แต่ในช่วงนั้นเศรษฐกิจของประเทศไอร์แลนด์ยังอยู่ในช่วงฟื้นฟูหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 การทำธุรกิจจึงยากลำบากมาก จนกระทั่งมาถึงปลายทศวรรษ 1980 ที่เศรษฐกิจไอร์แลนด์เริ่มฟื้นฟูและกลับเข้าสู่ช่วงเติบโตอีกครั้ง
ปี 1989 คุณ Quinn ได้ต่อยอดมาทำธุรกิจซีเมนต์และคอนกรีต โดยใช้ชื่อว่า Quinn Cement ซึ่งได้กลายเป็นธุรกิจหลักที่สร้างรายได้ จนทำให้คุณ Quinn สร้างตัวขึ้นมาได้จนกลายเป็นเจ้าตลาดซีเมนต์ในประเทศ
หลังจากประสบความสำเร็จในขั้นแรกแล้ว คุณ Quinn ก็ได้ขยายธุรกิจไปสู่อุตสาหกรรมอื่น ๆ อย่างเช่น
โรงงานแก้วและพลาสติก ที่ธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็วจนสามารถขยายโรงงานไปได้ทั่วยุโรป
รวมถึงกิจการโรงแรมอย่าง Quinn Hotel ที่เป็นเจ้าของโรงแรมหรู 7 แห่งทั่วยุโรป
ต่อมาในปี 1996 บริษัท Quinn ก็เริ่มให้บริการทางการเงินอย่างประกัน โดยตั้งเป็นบริษัท Quinn Insurance จนกลายเป็นบริษัทประกันที่มีลูกค้ามากเป็นอันดับ 3 ในไอร์แลนด์ในเวลา 10 ปี
ก่อนที่ในปี 2007 Quinn Insurance ก็ขยายใหญ่ขึ้นไปอีก จากการเข้าซื้อกิจการ Bupa Ireland ซึ่งเป็นบริษัทประกันสุขภาพที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของไอร์แลนด์ในขณะนั้น
อาณาจักรธุรกิจของคุณ Quinn ที่ขยายไปในหลายอุตสาหกรรม มีชื่อเรียกรวมกันว่า “Quinn Group” ซึ่งถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเครือบริษัทที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในไอร์แลนด์
Quinn Group ครอบคลุมกิจการหลากหลาย ทั้งโรงงานวัสดุก่อสร้างและบรรจุภัณฑ์ ประกัน โรงแรม อสังหาริมทรัพย์ ผับ ร้านอาหาร และอื่น ๆ อีกมากมาย จนเมืองที่เป็นที่ตั้งของบริษัท Quinn Group ถูกเรียกว่า “ประเทศ Quinn”
นอกจากนี้ คุณ Quinn ยังถูกยกย่องให้เป็นฮีโรของชาวเมือง เพราะการลงทุนมหาศาล ได้ช่วยพลิกฟื้นจากเมืองที่ไม่มีอะไรเลย ให้กลายเป็นเมืองอุตสาหกรรม ที่สำคัญก็คือช่วยให้เกิดการจ้างงานมากกว่า 8,000 คน
และความสำเร็จของ Quinn Group ก็ทำให้ในปี 2007 คุณ Quinn ในวัย 60 ปีและครอบครัวของเขา มีทรัพย์สิน 1.95 แสนล้านบาท ถูกจัดอันดับจาก Forbes ว่าเป็นคนที่รวยสุดในไอร์แลนด์และรวยเป็นอันดับที่ 164 ของโลก
แต่นอกจากการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจให้อาณาจักร Quinn Group แล้ว
คุณ Quinn ได้เข้าไปซื้อหุ้นของธนาคาร Anglo Irish Bank อย่างลับ ๆ ด้วย
Anglo Irish Bank เป็นธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่มีสาขาทั่วยุโรปและในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเติบโตอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี 1964 จากการปล่อยสินเชื่อให้ภาคธุรกิจและอสังหาริมทรัพย์เป็นหลัก
ด้วยความที่คุณ Quinn ทำธุรกิจและยังมีกิจการที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์มากมาย เขาเลยตั้งใจที่จะเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Anglo Irish Bank โดยเริ่มเข้าซื้อหุ้น Anglo Irish Bank ในปี 2007
แต่ผ่านไปเพียง 1 ปี การครอบครอง Anglo Irish Bank กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้สิ่งที่คุณ Quinn สร้างมาทั้งชีวิต ต้องจบลง..
ช่วงครึ่งหลังของปี 2008 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริกาเกิดภาวะฟองสบู่แตก ทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ร่วงลงอย่างรุนแรงและรวดเร็ว จนกลายเป็นวิกฤติเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของโลก
ซึ่งก็ลามมาถึงประเทศไอร์แลนด์ด้วย
Anglo Irish Bank ที่ปล่อยสินเชื่อให้ภาคอสังหาริมทรัพย์เป็นหลัก ก็แน่นอนว่าได้รับผลกระทบหนัก จนทำให้ราคาหุ้นร่วงหนัก
ซึ่งในระหว่างนั้นคุณ Quinn ไม่ได้ตัดสินใจตัดขาดทุน แต่เขากลับมองว่าเป็นโอกาสในการเพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้น Anglo Irish Bank เพราะหวังว่าเมื่อราคาหุ้นฟื้นกลับมาจะทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ
แต่ด้วยสภาพคล่องของเงินที่คุณ Quinn มีในตอนนั้นไม่เพียงพอ เขาเลยใช้เงินที่ยืมมา อย่างเช่นเงินกู้ เงินของบริษัท Quinn Insurance และที่สำคัญก็คือใช้เครื่องมือทางการเงินที่ทำให้ตัวเขาเองมีอำนาจในการเพิ่มมูลค่าเงินลงทุนมากกว่าเงินทุนของเขา หรือที่เรียกกันว่าการ “Leverage”
ทำให้คุณ Quinn มีสัดส่วนการถือหุ้นของ Anglo Irish Bank เพิ่มขึ้นจาก 5% ไปเป็นกว่า 25%
แต่สุดท้ายแล้วคุณ Quinn ก็คิดผิด เพราะ Anglo Irish Bank โดนผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจจนดำเนินกิจการต่อไม่ไหว รัฐบาลจึงต้องเข้ามาช่วยเหลือในเดือนมกราคม ปี 2009 และ Anglo Irish Bank ก็ได้กลายเป็นธนาคารของรัฐนับแต่นั้นมา
เรื่องดังกล่าว ส่งผลให้ราคาหุ้น Anglo Irish Bank นับจากจุดสูงสุดในปี 2007 จนถึงต้นปี 2009 ลดลงกว่า 98%
ซึ่งถ้าการลงทุนนี้ มาจากเงินของคุณ Quinn เองทั้งหมด เขาจะแค่เงินหายในส่วนของการลงทุนใน Anglo Irish Bank แต่เงินที่เขาใช้ในการเพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้น ดันเป็นเงินที่เขายืมมา
สุดท้ายแล้ว คุณ Quinn และบริษัทจึงเป็นหนี้กับ Anglo Irish Bank 9.24 หมื่นล้านบาท และเป็นหนี้กับเจ้าหนี้รายอื่นอีกกว่า 3 หมื่นล้านบาท
เงินส่วนหนึ่งที่คุณ Quinn เตรียมนำมาใช้หนี้ ถูกพบว่าเป็นเงินที่มาจากบริษัท Quinn Insurance ราว 1 หมื่นล้านบาท คุณ Quinn และบริษัท Quinn Insurance จึงถูกปรับราว 130 ล้านบาท และคุณ Quinn ต้องออกจากตำแหน่งบริหารใน Quinn Insurance ไป
แต่นอกจากการนำเงินไปช่วยใช้หนี้แล้ว บริษัท Quinn Insurance ยังมีสัดส่วนการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์สูงมาก นั่นจึงทำให้ในปี 2009 Quinn Insurance ขาดทุนจากการดำเนินงานเกือบ 2.5 หมื่นล้านบาท และยังส่งผลให้ Quinn Group ขาดทุนจากการดำเนินงานกว่า 3.4 หมื่นล้านบาท
สถานะทางการเงินที่ย่ำแย่นี้ ก็ทำให้ในเดือนมีนาคม ปี 2010 หน่วยงานที่กำกับดูแลเลยมีคำสั่งให้ Quinn Insurance ขายกิจการให้กับ Anglo Irish Bank และบริษัทประกันของสหรัฐอเมริกาที่ชื่อ Liberty Mutual
ต่อมาในเดือนเมษายน ปี 2011 Anglo Irish Bank จึงเข้าควบคุมกิจการทั้งหมดของ Quinn Group โดยมีคำสั่งให้คุณ Quinn และครอบครัวไม่มีอำนาจบริหารและพ้นจากการเป็นเจ้าของ ส่วนเหล่าผู้บริหารก็ถูกไล่ออก และแต่งตั้งทีมบริหารที่เป็นคนนอกเข้ามาแทน
จนกระทั่งปลายปี 2011 คุณ Quinn ได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอเป็นบุคคลล้มละลาย แต่ในระหว่างขั้นตอนถูกยึดทรัพย์ เขากลับพยายามทยอยแบ่งขายสินทรัพย์ที่มีค่า เพื่อเก็บเป็นเงินสดก่อนที่จะถูกยึด ซึ่งผิดกฎหมาย เขาจึงถูกศาลตัดสินจำคุก 9 สัปดาห์ ตอนปลายปี 2012
จนถึงปัจจุบันคุณ Quinn ในวัย 74 ปี ได้อาศัยอยู่กับครอบครัวในเมืองเกิดของเขา โดยที่ไม่ได้เป็นมหาเศรษฐีเหมือนเดิมแล้ว แต่เรื่องนี้ก็เป็นบทเรียนให้กับทุกคนได้ดี
เรื่องราวของคุณ Quinn ที่เริ่มทำธุรกิจในจังหวะที่เติบโตไปพร้อมกับเศรษฐกิจของไอร์แลนด์ และใช้กลยุทธ์ขยายกิจการไปสู่อุตสาหกรรมอื่น ๆ เพื่อกระจายความเสี่ยง ไม่ให้พึ่งพากับอุตสาหกรรมก่อสร้างเพียงอย่างเดียว ถือเป็นความสำเร็จที่น่ายกย่อง
อย่างไรก็ตาม คุณ Quinn กลับตัดสินใจทุ่มเงินลงทุนด้วยความเสี่ยงที่สูงมาก ซึ่งไม่ต่างจากการพนันใน Anglo Irish Bank แบบหมดหน้าตัก แถมยังใช้เงินที่กู้ยืมมา ก็ถือเป็นความผิดพลาดขั้นรุนแรง
ที่ได้ทำให้อาณาจักรธุรกิจและความมั่งคั่งที่คุณ Quinn สร้างมากว่า 35 ปี หายวับไปกับตา
ในเวลาเพียง 3 ปี เท่านั้น..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.bloomberg.com/features/2020-sean-quinn-ireland/
-https://www.ft.com/content/9d61e078-927b-11e3-8018-00144feab7de
-https://www.forbes.com/forbes/2011/0509/focus-sean-quinn-group-anglo-irish-bank-biggest-loser.html?sh=66279e4d71fa
-https://www.bbc.com/news/uk-northern-ireland-49754980
-https://www.bbc.com/news/uk-northern-ireland-19063419
-https://www.bbc.com/news/world-europe-58075623
-https://www.thejournal.ie/sean-quinn-anglo-bankrupt-671638-Nov2012/
-https://www.thejournal.ie/quinn-group-reports-operating-loss-of-e888m-for-2009-144756-May2011/?utm_source=businessetc
-https://www.irishtimes.com/business/quinn-and-family-buying-15-of-anglo-irish-bank-1.945177
-https://en.wikipedia.org/wiki/Mannok
-https://www.investopedia.com/terms/c/celtictiger.asp
-https://data.worldbank.org/indicator/NY.GDP.MKTP.CD?locations=IE
同時也有12部Youtube影片,追蹤數超過16萬的網紅chungdha,也在其Youtube影片中提到,This is my first bad purchase of this year! As seen so many Youtuber using Peak Design Straps and so many have recommended it during December, so I bo...
「group buying website」的推薦目錄:
group buying website 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
รู้จัก Rocket Internet ผู้ก่อตั้ง Lazada และ Foodpanda /โดย ลงทุนแมน
ถ้าพูดถึงสถานที่ตั้งของบริษัทเทคโนโลยีและสตาร์ตอัปชั้นนำ
หลายคนคงนึกถึง ซิลิคอนแวลลีย์ ในประเทศสหรัฐอเมริกา
แต่รู้ไหมว่า ในทวีปยุโรป มีบริษัทชื่อว่า “Rocket Internet”
คอยเฝ้ามองตัวอย่างธุรกิจจาก ซิลิคอนแวลลีย์
และนำเอาไปสร้างสตาร์ตอัปของตัวเองในประเทศอื่นที่ยังไม่มีธุรกิจเหล่านั้น
แล้ว Rocket Internet เป็นใคร อยู่เบื้องหลังสตาร์ตอัปรายไหนบ้าง ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
Rocket Internet เป็นบริษัทเทคโนโลยี จากประเทศเยอรมนี
ก่อตั้งขึ้นโดยสามพี่น้อง Marc, Oliver และ Alexander Samwer
ในช่วงปี 1998 พวกเขาไปอาศัยอยู่ที่เมืองซานฟรานซิสโก และเห็นชาวอเมริกัน นิยมซื้อขายและประมูลสินค้าบนเว็บไซต์ eBay กันเป็นอย่างมาก
เมื่อกลับไปที่เยอรมนี ทั้งสามจึงทดลองเปิดเว็บไซต์ลักษณะคล้ายกัน ชื่อว่า Alando
ซึ่งปรากฏว่า มีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนผ่านไปแค่ 100 วัน ก็ถูกต้นฉบับอย่าง eBay เข้าซื้อกิจการด้วยเงิน 1,300 ล้านบาท
ในปี 2005 พวกเขาได้รู้จักกับ Facebook ที่เริ่มมีชื่อเสียงโด่งดังในสหรัฐอเมริกา
จึงสร้างเว็บไซต์โซเชียลเน็ตเวิร์กสำหรับชาวยุโรป ชื่อว่า StudiVZ
ซึ่งต่อมาก็ถูกซื้อกิจการไปในราคา 2,700 ล้านบาท
มาถึงจุดนี้ สามพี่น้อง Samwer คิดว่า พวกเขาค้นพบสูตรสำเร็จในการทำธุรกิจแล้ว..
พวกเขาจึงได้ตัดสินใจร่วมกันก่อตั้งบริษัท “Rocket Internet” ขึ้นมา ในปี 2007
โดยบริษัทจะคอยศึกษาโมเดลธุรกิจของบริษัทเทคโนโลยีที่เติบโตดี
ซึ่งส่วนใหญ่มาจากสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะจากบริษัทในซิลิคอนแวลลีย์
จากนั้นก็จะพัฒนาหรือลงทุนในสตาร์ตอัป ที่ให้บริการรูปแบบเดียวกันหรือคล้าย ๆ กัน
และเข้าไปเจาะตลาดในภูมิภาคที่ยังไม่มีผู้ให้บริการ หรือยังไม่มีผู้ชนะอย่างเด็ดขาด
ซึ่ง Rocket Internet กล่าวว่า บริษัทมีข้อได้เปรียบเหนือผู้ประกอบการรายอื่น
จากการมีข้อมูลและประสบการณ์พัฒนาสตาร์ตอัปหลากหลายประเภท
ทำให้สามารถวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้งานได้ตรงจุด และขยายธุรกิจได้รวดเร็วกว่า
นอกจากนั้นยังมีคนรุ่นใหม่จำนวนมาก สมัครเข้าทำงานที่ Rocket Internet เพื่อมีส่วนร่วมกับสตาร์ตอัปที่น่าสนใจ โดยปัจจุบัน บริษัทมีพนักงานอยู่ทั้งหมด 42,000 ราย
เรามาลองดูตัวอย่างบริษัทที่ถูกปลุกปั้นโดย Rocket Internet กัน
- Zalando แพลตฟอร์ม E-commerce สินค้าแฟชั่น ที่มีต้นแบบมาจาก Zappos ในสหรัฐอเมริกา
Zalando ยังถือเป็นสตาร์ตอัประดับยูนิคอร์น ที่มีมูลค่าบริษัทเกิน 31,000 ล้านบาท บริษัทแรกของเยอรมนี รวมทั้งยังมีการพัฒนาแพลตฟอร์มแบบเดียวกัน ชื่อว่า Zalora ที่เน้นทำตลาดในทวีปเอเชีย
- Lazada แพลตฟอร์ม E-commerce ขวัญใจชาวไทยที่มีต้นแบบมาจาก Amazon.com
โดยเน้นทำตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และปัจจุบัน Lazada อยู่ภายใต้การบริหารของ Alibaba Group
- CityDeal แพลตฟอร์มให้บริการซื้อแบบ Group Buying ที่มีต้นแบบมาจาก Groupon
CityDeal เติบโตเร็วมากในยุโรป จน Groupon ขอซื้อกิจการไปด้วยเงิน 3,100 ล้านบาท หลังจากก่อตั้งได้เพียง 5 เดือน
- Delivery Hero แพลตฟอร์มฟูดดิลิเวอรี ที่เป็นธุรกิจเมกะเทรนด์อยู่ในตอนนี้
ซึ่งปัจจุบันให้บริการอยู่ใน 40 ประเทศทั่วโลก และมีมูลค่าบริษัทสูงถึง 1.2 ล้านล้านบาท
หลายคนอาจไม่คุ้นชื่อ Delivery Hero แต่รู้ไหมว่า นี่ก็คือบริษัทแม่ของ Foodpanda แอปพลิเคชันฟูดดิลิเวอรีอีกแอปที่คนไทยคุ้นเคย
- Easy Taxi แพลตฟอร์มเรียกรถ ที่มีต้นแบบมาจาก Uber
โดยให้บริการใน 30 ประเทศ ในทวีปเอเชีย แอฟริกา และลาตินอเมริกา
ซึ่งถูกบริษัท Cabify บริษัทที่ทำแพลตฟอร์มเรียกรถสัญชาติสเปน ซื้อกิจการไปเมื่อปี 2017
จะเห็นได้ว่า Rocket Internet เป็นผู้ผลิตสตาร์ตอัปชื่อดังหลายแห่ง
ซึ่งทำให้ผู้ร่วมก่อตั้งอย่าง สามพี่น้องตระกูล Samwer มีฐานะร่ำรวยระดับมหาเศรษฐี
โดยนิตยสาร Forbes ประเมินว่า พวกเขามีมูลค่าทรัพย์สินส่วนตัว คนละ 37,000 ล้านบาท
แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทก็มักจะถูกวิจารณ์เรื่องการ “ลอกเลียน” คนอื่น
ในขณะที่เจ้าของไอเดียตัวจริง ต้องใช้เวลาคิดค้นบริการมาอย่างยากลำบาก
รวมทั้ง Rocket Internet ยังสนับสนุนเงินระดมทุนให้แก่สตาร์ตอัปในเครือของตัวเอง
ทำให้ในบางครั้ง ก็ถูกตั้งคำถามว่า อาจทำให้การประเมินมูลค่าบริษัทนั้น สูงเกินจริงไป
และในปี 2020 ที่ผ่านมา วิกฤติการระบาดของโควิด 19 ทำให้สตาร์ตอัปกว่า 200 แห่ง ในพอร์ตการลงทุนของบริษัท มีผลการดำเนินงานและมูลค่าประเมิน ที่ลดลงไปมาก
ส่งผลให้ Rocket Internet มีส่วนแบ่งกำไรมาที่บริษัทน้อยลง
ปี 2018 กำไร 7,300 ล้านบาท
ปี 2019 กำไร 10,500 ล้านบาท
9 เดือน ปี 2020 กำไร 600 ล้านบาท
ทั้งนี้ Rocket Internet จดทะเบียนบริษัทอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แฟรงก์เฟิร์ตในเยอรมนี มาตั้งแต่ปี 2014
แต่ด้วยสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้มูลค่าหุ้นปรับตัวลดลง
จากที่เคยสูงถึง 250,000 ล้านบาท เหลือราว 97,000 ล้านบาท หรือลดลงไปกว่า 60%
และในเดือนตุลาคม ปี 2020 นั้น Rocket Internet ก็ได้ประกาศนำหุ้นออกจากตลาดหลักทรัพย์
โดยให้เหตุผลว่า การมีสถานภาพเป็นบริษัทเอกชน น่าจะทำให้ลงทุนในสตาร์ตอัปได้คล่องตัวกว่าในระยะยาว และไม่ต้องถูกกดดันจากความคาดหวังของนักลงทุนหลาย ๆ กลุ่ม
นอกจากนั้น บริษัทยังมั่นใจว่า ความสำเร็จในการผลิตสตาร์ตอัปต่าง ๆ ในอดีตจะเป็นเครดิตให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนนอกตลาดได้เพียงพออยู่แล้ว..
จากเรื่องราวนี้ ก็เป็นกรณีศึกษาว่า
บางทีในโลกธุรกิจ ก็จะมีคนที่ประสบความสำเร็จได้
แม้ไม่ได้เป็นคนแรก ที่คิดค้นผลิตภัณฑ์หรือบริการนั้น
อย่างกรณีนี้ของ Rocket Internet
ที่นำเอาไอเดียที่มีอยู่แล้วของคนอื่น มาปรับใช้กับตลาดอื่นดู
อย่างไรก็ตาม เราคงต้องมีการปรับแนวทางให้ตรงกับพฤติกรรมผู้บริโภค ที่แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่
เพราะสิ่งที่ประสบความสำเร็จในที่หนึ่ง อาจใช้ไม่ได้ผลกับอีกที่หนึ่งเสมอไป
และเราก็คงไม่สามารถลอกเลียนแบบใคร ให้เหมือน 100% ได้..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.businessinsider.in/tech/the-insanely-successful-career-of-rocket-internet-cofounder-oliver-samwer/slidelist/48589648.cms
-https://www.businessinsider.com/rocket-internet-companies-2014-8
-https://www.cnbc.com/2020/09/01/startup-factory-rocket-internet-to-delist.html
-https://fortune.com/2020/09/01/rocket-internet-startup-incubator-germany-europe-tech-industry/
-https://www.rocket-internet.com/investors/financial-information
group buying website 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
รู้จัก Wang Xing จากนักก๊อบปี้ สู่เจ้าของธุรกิจ E-commerce 9 ล้านล้าน /โดย ลงทุนแมน
ถ้าพูดถึงธุรกิจ Food Delivery เราน่าจะรู้กันอยู่แล้วว่าเป็นอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันอย่างดุเดือด
แต่ละแบรนด์ต่างแข่งกัน “เผาผลาญเงิน” ออกโปรโมชันส่วนลดค่าอาหาร หรือบริการส่งฟรี
เพื่อที่จะดึงดูดผู้บริโภคให้เข้ามาใช้แอปพลิเคชันของตน
เพราะสุดท้ายแล้ว แอปพลิเคชันไหนก็ตามที่เป็นผู้รอดชีวิตและมีผู้ใช้งานมากที่สุด
ก็จะสามารถเป็นผู้ชนะ และครองตลาดในแต่ละประเทศ หรือแต่ละพื้นที่ไป
อย่างในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และในประเทศไทยจะมีผู้เล่นหลักๆ อยู่ไม่กี่ราย
นั่นก็คือ Grab, Gojek, LINEMAN และ Foodpanda
หรืออย่างในสหรัฐอเมริกา ก็จะมีผู้หลักๆ คือ DoorDash, Uber Eats, Grubhub และ Postmates
แต่สำหรับตลาด Food Delivery ในจีนนั้น ไม่เหมือนกับตลาดในประเทศอื่น
เพราะมีผู้ให้บริการ Food Delivery เจ้าหนึ่ง ที่เป็นผู้ชนะในสงครามครั้งนี้อย่างเห็นได้ชัด
แบรนด์นั้นก็คือ “Meituan Dianping”
เรื่องราวนี้น่าสนใจอย่างไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
Meituan Dianping ครองส่วนแบ่งตลาดในจีนกว่า 60%
ซึ่งถือว่าเยอะมาก เมื่อเทียบกับ อันดับ 2 ชื่อว่า Ele.me ในเครือ Alibaba
ที่มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ประมาณ 30%
จึงทำให้ตลาด Food Delivery ในจีนนั้นมีเจ้าตลาดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ความน่าสนใจอยู่ตรงที่ว่า Meituan Dianping ไม่ได้ทำธุรกิจ Food Delivery มาก่อนตั้งแต่แรก
และที่น่าสนใจไปมากกว่านั้นก็คือ
คุณ Wang Xing ที่เป็นหัวเรือของ Meituan Dianping
ถูกผู้คนในโลกตะวันตกให้ฉายาว่า เขาคือ “นักก๊อบปี้ตัวพ่อ” เลยทีเดียว..
แล้วกว่า Meituan Dianping จะมาเป็นเจ้าตลาด Food Delivery ในจีนอย่างวันนี้
คุณ Wang Xing เคยทำอะไรมาบ้าง ?
คุณ Wang Xing เป็นหนุ่มชาวจีน ที่สำเร็จการศึกษาปริญญาตรี สาขาวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์ จากมหาวิทยาลัยชิงหวา และได้เดินทางไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยเดลาแวร์ ในสหรัฐอเมริกา
ระหว่างที่ศึกษาอยู่ที่สหรัฐอเมริกา เขาได้ลองเข้าไปใช้งานเว็บไซต์โซเชียลมีเดีย ชื่อว่า “Friendster”
ซึ่งถือเป็นโซเชียลมีเดียในยุคบุกเบิก ที่มาก่อน Hi5, Myspace และ Facebook เสียอีก
เขาเห็นธุรกิจโซเชียลมีเดียในสหรัฐอเมริกาเติบโตอย่างรวดเร็ว
บวกกับความสนใจส่วนตัว ต่อแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย
เขาจึงตัดสินใจดรอปเรียนกลางคันจากมหาวิทยาลัยเดลาแวร์
และกลับมาที่จีนเพื่อที่จะทำโซเชียลมีเดียของเขาเอง
โดยโซเชียลมีเดียแรกที่เขาสร้างขึ้นมาก็คือ “Duoduoyou”
ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่เอา Friendster มาเป็นต้นแบบ
แต่ Duoduoyou ก็ไม่เป็นที่รู้จัก และไม่ประสบความสำเร็จเท่าไรนัก
ต่อมาในปี 2004 ก็มีแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอีกรายที่เป็นกระแสขึ้นมาในสหรัฐฯ
นั่นก็คือ “Facebook” ที่เริ่มให้บริการจากในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
จนเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในสหรัฐอเมริกา และประเทศอื่นๆ
หลังจากนั้น 1 ปี คุณ Wang Xing ก็ได้นำโมเดลธุรกิจของ Facebook มาทำตาม
โดยเขาได้สร้างโซเชียลมีเดียชื่อว่า “Xiaonei”
ที่เน้นให้บริการกับนักศึกษามหาวิทยาลัย
และได้ทำ Xiaonei ให้มีหน้าตาคล้ายๆ กับ Facebook
Xiaonei ได้รับความสนใจและเติบโตอย่างมากในจีน
แต่การที่มีผู้ใช้เพิ่มขึ้นเยอะมาก ก็ทำให้ค่าบริหารจัดการเซิร์ฟเวอร์ของแพลตฟอร์มเพิ่มขึ้นมากเช่นกัน
สุดท้ายแล้ว คุณ Wang Xing ก็ต้องขาย Xiaonei ออกไป
เนื่องจากเขาไม่สามารถหาเงินได้มากพอสำหรับค่าเซิร์ฟเวอร์ได้
และ Xiaonei ก็ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Renren ในเวลาต่อมา
หลังจากนั้นในปี 2007 เขาก็ได้ก่อตั้ง Fanfou
ซึ่งเป็นโซเชียลมีเดียแบบ Microblog ที่มีความเหมือนกับ Twitter
แต่ก็ต้องปิดให้บริการไป เนื่องจากเนื้อหาของข่าวในแพลตฟอร์ม
ไปขัดกับนโยบายด้านข่าวสารของรัฐบาลจีน
หลังการสร้างมาแล้ว 3 แพลตฟอร์ม แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
ก็ถึงคราว กำเนิด “Meituan” แล้ว..
ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ธุรกิจ Group buying หรือการซื้อแบบกลุ่มกำลังได้รับความนิยมในสหรัฐอเมริกา
โดยที่ผู้ขายจะขายสินค้าราคาถูกให้กับผู้ซื้อถ้าจำนวนซื้อมากพอ
ซึ่งในขณะนั้น Groupon คือบริษัทสตาร์ตอัปที่ให้บริการการซื้อแบบกลุ่มที่มาแรงมาก
คุณ Wang Xing จึงนำโมเดลของ Groupon มาสร้างบริษัทของเขาชื่อว่า “Meituan”
แต่หลังจากนั้นไม่นาน ตลาดผู้ให้บริการ Group buying ก็มีคู่แข่งมากมาย
แต่แทนที่เขาจะขยายธุรกิจแบบเร่งด่วน หรือเสนอโปรโมชันมากมาย เหมือนที่บริษัทอื่นทำ
สิ่งที่เขาตั้งใจทำก็คือเน้นการสร้างแอปพลิเคชันที่ใช้งานง่าย
และเอาข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้มาวิเคราะห์เพื่อที่จะขยายตลาดได้อย่างถูกต้อง
เขาใช้ข้อมูลของลูกค้า และคู่ค้าบนแพลตฟอร์ม
มาวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้งาน
ทำให้เขาสามารถขยายธุรกิจได้อย่างตรงจุดกว่าแพลตฟอร์มลักษณะเดียวกันของเจ้าอื่นๆ
นอกจากนั้น เขายังพยายามออกแบบแพลตฟอร์มให้มีบริการอื่น
ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ Food Delivery, ซื้อขายสินค้าออนไลน์, รีวิวร้านอาหารและไลฟ์สไตล์ และอื่นๆ อีกมากมาย
จริงๆ แล้วในตอนนั้น มีบริษัทที่เข้ามาในตลาดรีวิวร้านอาหารและไลฟ์สไตล์ก่อนแล้ว
บริษัทนั้นก็คือ “Dianping” ซึ่งในตอนนั้น Dianping ก็เพิ่งได้เข้ามาเล่นในอุตสาหกรรม Group buying เช่นเดียวกัน
ต่อมา ในปี 2015 บริษัท Meituan ก็ได้ควบรวมกิจการกับ Dianping
โดยที่คุณ Wang Xing ยังคงดำรงตำแหน่งเป็นหัวเรือใหญ่ของบริษัทใหม่แห่งนี้ ที่มีชื่อว่า “Meituan Dianping”
โดยสิ่งที่ทำให้ Meituan Dianping สามารถครองส่วนแบ่งตลาด Food Delivery ได้มากในจีนแผ่นดินใหญ่ก็เพราะว่า
Meituan Dianping มีความเป็น “Super App”
หรือก็คือ แอปที่ทำได้เกือบทุกเรื่องในที่เดียว
เพราะนอกเหนือจากการทำธุรกิจส่งอาหารออนไลน์แล้ว
ยังมีการให้บริการการเดินทาง, ค้าปลีก, รีวิวร้านอาหาร, แชร์ประสบการณ์ ไลฟ์สไตล์ และบริการอื่นๆ อีกมากมาย
ที่สำคัญก็คือผู้ใช้งานสามารถชำระเงินค่าบริการต่างๆ ผ่านแอปพลิเคชันได้
ซึ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนจีนที่กำลังเข้าสู่สังคมไร้เงินสด
นอกจากนั้นยังมีการเจาะกลุ่มลูกค้าตามพื้นที่ต่างๆ ในประเทศ
จากการเป็น Super App ที่มีบริการมากมาย จึงทำให้ Meituan สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าได้ตามสถานที่ต่างๆ อย่างเช่น ร้านอาหารหรือห้างสรรพสินค้าในแต่ละพื้นที่ และที่สำคัญยังมีรีวิวร้านอาหารต่างๆ อีกด้วย ซึ่งสามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีกับลูกค้าได้
โดยในปี 2019 ที่ผ่านมา Meituan Dianping มีรายได้ 453,000 ล้านบาท และกำไร 10,388 ล้านบาท
โดยรายได้โตจากปีก่อนหน้า +50% และในปี 2019 ยังเป็นปีแรกที่บริษัทสามารถทำกำไรได้
และปัจจุบัน Meituan Dianping มีมูลค่าประมาณ 9 ล้านล้านบาท
หลังจากล้มลุกคลุกคลานมาหลายหน มาถึงครั้งนี้
ต้องบอกว่า อาณาจักร Meituan Dianping ดูจะไปได้สวย
และทำให้ คุณ Wang Xing สามารถพิสูจน์ตัวเองได้ว่า
แม้ธุรกิจของเขาจะถูกมองว่าก๊อบปี้มา
แต่เขาก็สามารถทำให้อาณาจักรอีคอมเมิร์ซของเขาประสบความสำเร็จได้อย่างในตอนนี้
เพราะที่ผ่านมา มีผู้คนมากมายต่างบอกว่าเขาคือนักก๊อบปี้
แต่เขาไม่สนใจและได้ตอบกลับมาว่า
“การก๊อบปี้คือโจทย์ข้อหนึ่ง และยังมีโจทย์ข้ออื่นๆ ให้แก้อีก เช่น จะก๊อบปี้แล้วนำมาให้บริการในจีนอย่างไร”
ความสำเร็จของเขาทำให้ผู้คนทั่วโลกได้เห็นว่า
การจะเป็นผู้ชนะในตลาดที่มีการแข่งขันสูง ไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าแรกในตลาด
แต่การเป็นผู้ตาม หรือผู้ทำตาม ก็สามารถนำไอเดียของผู้เล่นเจ้าแรกมาปรับใช้ให้ตรงกับตลาดที่ตัวเองมีความชำนาญได้เหมือนกัน
อย่างที่คุณ Kai-Fu Lee ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI
ได้เขียนเอาไว้ในหนังสือ AI Superpowers ว่า
“การก๊อบปี้บริษัทจากสหรัฐอเมริกา และนำมาปรับให้เข้ากับผู้ใช้ชาวจีน ทำให้ คุณ Wang Xing คือผู้ประกอบการตัวจริง” ..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-AI superpowers, Kai-Fu Lee
-https://www.forbes.com/global/2011/0509/companies-wang-xing-china-groupon-friendster-cloner.html?sh=1aea256955a6
-https://www.techinasia.com/chinas-successful-founders-afraid-copycat
-https://www.techinasia.com/silicon-valley-copycat-ceo-meituandianping-wang-xing
group buying website 在 chungdha Youtube 的最佳解答
This is my first bad purchase of this year! As seen so many Youtuber using Peak Design Straps and so many have recommended it during December, so I bought one to see how well it works. Honestly gave me more headache using it and only great feature was that I could remove the straps quickly before it drove me crazy. And honestly for filmmakers the quick release pieces just make far too much noise to be useful. All in all I would say not to buy the Peak Design Slide Lite Strap at all. If you want to quickly add a strap and have nothing dangling off the camera, would recommend straps that only mount to the bottom of the camera instead.
This video was filmed with:
Gear used to make this episode:
Panasonic GH5 - https://amzn.to/2TWVa7H
Panasonic 25mm f1.7 - https://amzn.to/2EaCP19
Aputure mini 20d - https://amzn.to/2EdsstM
Yongnuo YN360 - https://amzn.to/2UZHgSc
Manfrotto Befree Live - https://amzn.to/2V1D1Wk
Manfrotto 1052bac - https://amzn.to/2TLMrF4
Edited with Adobe Premiere Pro - http://goo.gl/k2EagF
If you appreciate what I do, you can support me by donating any amount here on paypal:
http://paypal.me/ChungDha
? Facebook: http://www.facebook.com/chungdha
? Website: http://www.chungdha.nl
? Instagram: https://www.instagram.com/chungdha/
? Twitter https://twitter.com/chungdha
For any Questions Please Join our Facebook Group: https://www.facebook.com/groups/chungdhagroup
Business Inquiries, Sponsors & Collaboration email contact@chungdha.com
Chung Dha © 2019 Tsuen Wan, Hong Kong
![post-title](https://i.ytimg.com/vi/fk4wrfx1IKo/hqdefault.jpg)
group buying website 在 chungdha Youtube 的最讚貼文
I've been asked to review the DJI OSMO Pocket however after the hands on test at the Flagship store, I couldn't see the use of it compared to many gear I already own. As mainly its not that great to use as a vlog camera, yet also not great to film someone else with it. As its not really an all in one standalone kinda of camera and would rather need to be combined with a phone and a selfie stick for some work arounds. But also not having a 1/4" 20 mount not a clamp or holder for it to mount onto a tripod or monopod seem making it less useful, yet also not having a mic jack to get more proper audio.
DJI OSMO Pocket - https://amzn.to/2BDSKT8
Gear used to film this episode
Panasonic GH5 - https://amzn.to/2LrLi25
Olympus 12mm f2 - https://amzn.to/2R8RJwp
Rode Videomic Pro Plus - https://amzn.to/2R2m1B0
Manfrotto Befree Live - https://amzn.to/2LvVhnj
Manfrotto 1052BAC - https://amzn.to/2S9Mh9V
Profoto B10 - https://amzn.to/2UTuNAi
Profoto Black White umbrella - https://amzn.to/2UTV5SV
Edited with Adobe Premiere Pro - http://goo.gl/k2EagF
If you appreciate what I do, you can support me by donating any amount here on paypal:
http://paypal.me/ChungDha
? Facebook: http://www.facebook.com/chungdha
? Website: http://www.chungdha.nl
? Instagram: https://www.instagram.com/chungdha/
? Twitter https://twitter.com/chungdha
For any Questions Please Join our Facebook Group: https://www.facebook.com/groups/chungdhagroup
Business Inquiries, Sponsors & Collaboration email contact@chungdha.com
Chung Dha © 2018 Tsuen Wan, Hong Kong
![post-title](https://i.ytimg.com/vi/_PXi41fewn0/hqdefault.jpg)
group buying website 在 chungdha Youtube 的精選貼文
In this video I am unboxing the HP ENVY 13inch laptop and explain why I purchased this small 13inch laptop instead of buying a 13inch MacBook Pro or 15inch laptop. Main reason is traveling with a 15inch gets quite heavy especially in a laptop with other camera gear, but comparing with Macs 13inch laptops, the HP Envy got a GPU with 2GB ram to help while editing and rendering videos which is important as a vlogger, to make it easier to edit videos without slowing you down.
More info about HP Envy 13 here:
https://store.hp.com/us/en/pdp/hp-envy-laptop-13t-3en03av-1
This video was filmed with:
Panasonic G7 - https://amzn.to/2OVKMuv
Panasonic 12mm f2 - https://amzn.to/2wIiWtx
Rode Videomic Pro+ - https://amzn.to/2wK1dmm
Yongnuo YN360 - https://amzn.to/2Ond4gx
Manfrotto Compact Action - https://amzn.to/2MtgHkl
Manfrotto Befree Live - https://amzn.to/2Mfk41E
Edited with Adobe Premiere Pro - http://goo.gl/k2EagF
#chungdha #hp #hpenvy13
If you appreciate what I do, you can support me by donating any amount here on paypal:
http://paypal.me/ChungDha
? Facebook: http://www.facebook.com/chungdha
? Website: http://www.chungdha.nl
? Instagram: https://www.instagram.com/chungdha/
? Twitter https://twitter.com/chungdha
For any Question Please Join our Facebook Group: https://www.facebook.com/groups/chungdhagroup
Business Inquiries, Sponsors & Collaboration email contact@chungdha.com
Chung Dha © 2018 Tsuen Wan, Hong Kong
![post-title](https://i.ytimg.com/vi/4n0E8WCmGAc/hqdefault.jpg)