"ทำไม คนบางคนถึงป่วยจากโรคโควิด รุนแรงกว่าคนอื่น ? คำตอบอาจจะอยู่ที่ #ระดับน้ำตาลในเลือด ครับ"
หนึ่งในปริศนาเกี่ยวกับโรคโควิด 19 มาอย่างยาวนานตั้งแต่เริ่มการระบาด คือ ทำไมคนบางคนติดเชื้อไวรัส แล้วไม่มีอาการอะไรหรือมีเพียงเล็กน้อย ขณะที่บางคนติดเชื้อแล้วกลับป่วยรุนแรงมาก ?
งานวิจัยล่าสุด จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อาจจะทำให้เราได้คำตอบนั้น ผ่านการใช้เทคโนโลยี machine learning
ดร. Emmanuelle Logette, และคณะวิจัยในโครงการ the Blue Brain Project ที่สถาบัน École Polytechnique Fédérale de Lausanne (หรือ EPFL) ในกรุงเจนีวา ได้อาศัยฐานข้อมูล CORD-19 มาวิเคราะห์ และพบว่า "ระดับน้ำตาลในเลือด" (blood glucose level) จะเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อระดับความรุนแรงของโรคโควิด-19 !
งานวิจัยนี้ ชื่อว่า "A Machine-Generated View of the Role of Blood Glucose Levels in the Severity of COVID-19" ตีพิมพ์ในวารสาร Frontiers in Public Health ฉบับวันที่ 28 July 2021 (ดู https://www.frontiersin.org/articles/10.3389/fpubh.2021.695139/full?utm_source=fweb&utm_medium=nblog&utm_campaign=ba-sci-fpubh-covid-19-elevated-blood-glucose-blue-brain) ซึ่งพวกเขาได้ใช้เทคโนโลยี machine learning มาวิเคราะห์ข้อมูลที่ดึงมาจากบทความวิจัยในฐานข้อมูลเปิด (open access) แล้วทำให้ค้นพบบทบาทสำคัญของ "ระดับน้ำตาลที่สูงขึ้น" ในเส้นเลือด ที่มีต่อความรุนแรงของโรค Covid-19
1. ปกติ เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า ผู้สูงอายุ นั้นจะเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงต่อการป่วยหนักจากโรคโควิด .. แต่คนที่อายุน้อย หลายคนก็พบว่า ต้องเข้าโรงพยาบาลจากโรคนี้เช่นกัน
- มีโรคประจำตัวหลายอย่าง ที่ทราบกันว่า มีผลต่อระดับความรุนแรงของโรคโควิด ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคอ้วน และโรคความดันโลหิตสูง
- แต่ผลการวิจัยใหม่นี้ ทำให้เห็นว่า ระดับกลูโคสที่สูงขึ้นในเลือด ก็มีผลต่อคนที่ "ไม่ได้เป็น" โรคเบาหวานด้วย
2. คณะนักวิจัยของโครงการ the Blue Brain Project และพัฒนาแบบสำรอง machine learning ที่ขุดข้อมูลจากบทความวิจัยกว่า 240,000 ฉบับ ในฐานข้อมูล CORD-19 (เป็นฐานข้อมูลที่สนับสนุนโดยรัฐบาลสหรัฐอเมริกา , มูลนิธิ Chan Zuckerberg Initiative, Microsoft Research และกลุ่มอื่นๆ เพื่อเป็นฮับ hub งานวิจัยเกี่ยวกับโควิด-19)
- ผลการวิเคราะห์ของคณะผู้วิจัย ทำให้พบว่า แนวโน้มที่ปรากฏขึ้นซ้ำๆ ในบทความวิชาการที่ผ่านมาเกี่ยวกับอาการป่วยรุนแรงจากโรคโควิด ก็คือ ระดับน้ำตาลในเส้นเลือดที่สูงขึ้น
- โดยจากข้อมูลกว่า 400,000 ค่า ที่วิเคราะห์ คำว่า "glucose น้ำตาลกลูโคส" ปรากฏขึ้นถึง 6,326 ครั้ง ทำให้คณะผู้วิจัยค้นหาต่อไป ถึงบทบาทหน้าที่ของกลูโคส ที่มีต่ออาการป่วยของโรค ไปจนถึงกลไกทางชีวเคมีในระดับที่ลึกที่สุด
3. เรื่องหลักๆ ที่พวกเขาค้นพบ ได้แก่
- ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงขึ้น ไปทำให้การตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันแรกๆ ของปอดเราแย่ลง ทำให้เกิดสภาวะที่เอื้อต่อการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโรคโควิด
- ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงขึ้น ทำให้เกิดความผิดปกติในการควบคุมระดับการตอบสนองของภูมิคุ้มกัน ซึ่งส่งผลให้เกิดภาวะ cytokine storm (การเพิ่มขึ้นอย่างมากและรวดเร็วของสารไซโตไคน์) และภาวะ acute respiratory distress syndrome (อาการอักเสบเฉียบพลันของระบบทางเดินหายใจ หรือ ARDS )
- อาการป่วยต่างๆ ที่ตามมาของโรคโควิด-19 ได้แก่ hyperinflammation (การอักเสบขั้นรุนแรง) และ pro-coagulation (การแข็งตัวของเลือด) ก็เกิดขึ้นตามมาจากการมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเช่นกัน
- ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงขึ้น นั้น ทำงานร่วมกันกับกลไกของการหยุดการทำงานของ ACE 2 receptor ด้วยเชื้อไวรัสโควิช ไปเพิ่มระดับความรุนแรงของโรค ให้อวัยวะต่างๆ ทำงานล้มเหลว และเกิดลิ่มเลือดอุดตัน (thrombotic)
4. การที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นแล้วไปทำให้กลไกแรกๆ ในการต่อสู้กับไวรัสของปอด แย่ลงนั้น เป็นการค้นพบที่สำคัญมาก และได้รับความสนใจน้อยกว่าที่ควร ในฐานข้อมูล CORD-19
- คณะผู้วิจัยระบุว่า การมีระดับน้ำตาลที่สูงขึ้นในเลือดแล้วไปช่วยให้เกิดสภาวะที่เอื้อต่อเชื้อไวรัส ในการเคลือบโปรตีนหนามของมันแล้วผ่านทะลุเข้าระบบภูมิคุ้มกันของปอดได้นั้น เป็นเรื่องที่ไม่เคยทราบชัดกันมาก่อน
- ก่อนหน้านี้ การรักษาโรคโควิด-19 ในผู้ป่วยบางรายอาจต้องมีการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดด้วย แต่ถ้าสมมติฐานจากงานวิจัยนี้เป็นเรื่องถูกต้อง ต่อไป การจัดการระดับน้ำตาลก็จะกลายเป็นกลยุทธ์หลักอีกอย่าง ในการควบคุมระดับอาการของโรค
- จากรายงานที่ว่า ผู้ป่วยโรค covid-19 ที่อยู่ในห้องไอซียูกว่า 80% นั้น มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง คณะผู้วิจัยจึงเสนอให้เพิ่มการควบคุมระดับน้ำตาลของผู้ป่วย เพื่อให้มีอาการที่ดีขึ้นด้วย
5. ดังนั้น ทางเลือกหนึ่งในการช่วยรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่มีความเสี่ยงสูง ก็คือใช้ยา metformin เมทฟอร์มิน ที่ได้รับการรับรองจาก FDA แล้วให้ใช้ควบคุมระดับน้ำตาลได้
- นอกจากจะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดแล้ว ยา metformin ยังมีสรรพคุณต้านการอักเสบด้วย จากการที่ไปลดระดับของโปรตีน C-reactive protein ลง
- ยา metformin ยังช่วยในเรื่องการป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ ป้องกันการตัวของหลอดเลือด และป้องกันการเกิดลิ่มเลือด
ทิ้งท้ายว่า นอกจากกันใช้วิธีวิเคราะห์ด้วย AI แบบ machine learning อันนี้ จากฐานข้อมูลงานวิจัยขนาดใหญ่แล้ว ก็ยังต้องมีการศึกษาวิจัยในคลินิกอีก เพื่อพิสูจน์ยืนยันว่า ระดับน้ำตาลกลูโคสที่เพิ่มขึ้นนั้น เป็นปัจจัยพื้นฐาน ทำให้เกิดความรุนแรงของโรค covid-19 ขึ้นจริง
ภาพและข้อมูลจาก https://blog.frontiersin.org/2021/07/28/severe-covid-19-elevated-blood-glucose-blue-brain/
同時也有36部Youtube影片,追蹤數超過11萬的網紅ครูอ้อย เข็มทิศชีวิต,也在其Youtube影片中提到,ติดต่อทีมงานเข็มทิศชีวิต ไลน์@: @lifecompass IG : DDNARD Facebook เข็มทิศชีวิต ฐิตินาถ ณ พัทลุง...
「health คือ」的推薦目錄:
- 關於health คือ 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的最佳貼文
- 關於health คือ 在 Eat with Pal Li - พี่แป๋วพากินเที่ยวสิงคโปร์ฮ่องกง Facebook 的最佳貼文
- 關於health คือ 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的最佳解答
- 關於health คือ 在 ครูอ้อย เข็มทิศชีวิต Youtube 的最讚貼文
- 關於health คือ 在 OverclockZoneTV Youtube 的最佳解答
- 關於health คือ 在 NinaBeautyWorld Youtube 的精選貼文
- 關於health คือ 在 ความหมายของปัจจัยกำหนดสุขภาพ Determinants of Health 的評價
- 關於health คือ 在 แนวคิดสุขภาพหนึ่งเดียว (One Health) 的評價
health คือ 在 Eat with Pal Li - พี่แป๋วพากินเที่ยวสิงคโปร์ฮ่องกง Facebook 的最佳貼文
🇸🇬 #Singapore
❗️ ผู้ติดเชื้อโควิดสับสน หลังพบปัญหาจากการเข้ารักษาตัว
.
นึกว่าอ่านข่าวเมืองไทย 🇹🇭 สมัยที่ผู้ติดเชื้อกำลังพีคๆ ค่ะ 🥲
.
ใครอยู่สิงคโปร์ 🇸🇬 ช่วงนี้ รักษาเนื้อรักษาตัวกันให้ดีนะคะ #พยายามอย่าให้ติดโควิดเป็นดีที่สุด เพราะรัฐเริ่มมาตรการให้รักษาตัวเองที่บ้านแล้ว โดยเฉพาะคนที่อายุไม่เยอะ ฉีดวัคซีนแล้ว และอาการไม่หนัก
.
แต่เท่าที่อ่านประสบการณ์ผู้ติดเชื้อจากข่าวแล้ว ระบบที่รัฐวางไว้ พอนำมาปฏิบัติแล้วยังมีจุดบกพร่องเยอะทีเดียวค่ะ
.
================
สื่อใหญ่ The Straits Times พบข้อมูลประสบการณ์ของผู้ติดเชื้อในสิงคโปร์ 🇸🇬 จากแชทรูม จึงออกไปสัมภาษณ์มา 5 ราย แต่ละรายเจอปัญหาอะไรบ้าง ลองอ่านเป็นกรณีศึกษาค่ะ
.
====================
#1 ให้รักษาตัวที่บ้าน แต่ไม่ได้รับการติดต่อกลับ
====================
Mr. Chow อายุ 37 ปี ตรวจพบเชื้อโควิดตั้งแต่ 13 กย และได้รับโทรศัพท์ให้เตรียมจัดกระเป๋าสำหรับไปอยู่ที่ศูนย์ดูแลชุมชนเป็นเวลา 7 วัน
.
แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีการติดตามผลใดๆ และเค้าก็ยังรออยู่ที่บ้านของเค้าจนบัดนี้
.
เค้าเฝ้าตรวจโควิดด้วยตัวเองด้วยอุปกรณ์ artigen rapid test จนกระทั่งผลตรวจว่า ปลอดเชื้อแล้วตั้งแต่ 2-3 วันที่ผ่านมา
.
เค้ากำลังไม่แน่ใจว่าจะต้องทำอย่างไรต่อ จะกลับไปใช้ชีวิตปกติได้หรือยัง เพราะฮอทไลน์ของ สธ บอกให้เค้ารอฟังว่า ต้องปฎิบัติตัวอย่างไรต่อไป
.
และสถานะในแอพ TraceTogether ก็ขึ้นว่า “not cleared” หมายถึง ยังไปทานอาหารตามร้านไม่ได้ เว้นแต่ว่าจะได้รับข้อยกเว้นเป็นลายลักษณ์อักษร
.
อนึ่ง ผู้ติดเชื้อที่รักษาตัวเองที่บ้านตามแนวทาง home recovery scheme จะได้รับการประเมินผลของแพทย์ผ่านโทรเวชกรรม (telemedicine)
.
แต่ Mr. Chow กลับไม่เคยได้รับการติดต่อใดๆ รวมทั้งแนวทางปฏิบัติตัวที่ชัดเจน
.
==================
#2 ผู้สูงอายุถูกทิ้งให้อยู่โดยลำพังที่บ้าน
==================
พ่อวัย 82 ปีของ Mr Liau ตรวจพบเชื้อโควิดในวันที่ 15 กย และถูกนำตัวส่ง รพ ในอีก 3 วันต่อมา
.
เค้าต้องทิ้งภรรยาวัย 79 ปีให้รออยู่ที่บ้าน แม้ภรรยาของเค้าจะตรวจพบเชื้อโควิดเช่นกันและเริ่มมีอาการแล้ว
.
Mr. Liau กังวลกับคุณแม่ของเค้ามาก เนื่องจากเพิ่งออกจาก รพ เพราะเป็นลม แต่ต้องอยู่บ้านคนเดียวตั้งแต่วันเสาร์
.
เค้าพยายามติดต่อกระทรวงสุขภาพ (MOH) แต่เพิ่งจะโทรติดไม่นานมานี้ จนเมื่อวานนี้ (22 กย) ถึงได้มีเจ้าหน้าที่มาที่บ้านแม่เค้าเพื่อตรวจโควิดแบบ PCR หมายเหตุว่า เป็นเวลา 1 สัปดาห์ หลังจากที่แม่ของเค้าตรวจพบเชื้อด้วยเครื่องมือด้วยตัวเอง
.
และตอนนี้ ก็ยังรอผลตรวจ PCR และก็ยังไม่ทราบว่า อะไรจะเกิดขึ้นต่อไป
.
Mr. Liau ทิ้งท้ายไว้ว่า หากไม่มีผลตรวจ แม่ของเค้าจะทำอะไรไม่ได้เลย ออกจากบ้านไม่ได้ เข้าแอดมิทไม่ได้ ไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น
.
====================
#3 ผู้ติดเชื้ออายุ 6 ขวบ
====================
ลูกชายวัย 6 ขวบของ Mr. Lee ตรวจพบเชื้อมา 7 วันแล้ว เค้าพาลูกชายไปพบแพทย์ทั่วไป (general practitioner) และได้รับคำแนะนำว่า ลูกชายเค้าควรเข้ารักษาในศูนย์การแพทย์ เค้าพยายามติดต่อ สธ แต่ไม่มีการตอบกลับแต่อย่างใด
.
ลูกชายของเค้าเคยมีประวัติเป็นลมชัก และตอนนี้พบอาการสวิงของไข้ขึ้นสูงและลดต่ำ ไอ จาม เจ็บคอ แม้อาการของลูกชายจะดีขึ้น แต่เค้าก็ยังกังวล เพราะผลตรวจจากเครื่องมือ artigen test ยังเป็นบวก
.
เค้ารู้สึกคับข้องใจกับการขาดการประสานงานของทางการ หลังจากการติดต่อทางโทรศัพท์ถูกโอนไปมาไปยังหลายหน่วยงาน
.
เค้าทิ้งท้ายไว้ว่า “หากรัฐบาลวางแผนไว้แล้วว่า ผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ก็ควรวางแผนเรื่องบุคลากรไว้ด้วย
.
===================
#4 ใช้ห้องน้ำร่วมกับผู้ติดเชื้อ
===================
Mr. Lim วัย 30+ ปี เป็นเพียงคนเดียวในครอบครัวที่ยังไม่ติดเชื้อโควิด นอกนั้นพ่อแม่ น้า และยายของเค้า ต่างติดเชื้อกันหมดแล้ว แม้ทุกคนรวมทั้งเค้าจะฉีดวัคซีนแล้วก็ตาม
.
พ่อและแม่ของเค้า ตรวจพบเชื้อตั้งแต่สัปดาห์ก่อน และได้รับข้อความในวันเดียวกันว่า จะถูกนำตัวไปรักษาที่ รพ หรือ ศูนย์พักฟื้นชุมชน แต่ในที่สุด ก็มีเจ้าหน้าที่มารับในอีก 2 วันถัดมา
.
ส่วนน้าของเค้า ตรวจพบเชื้อพร้อมกับพ่อแม่เค้า แต่กลับยังไม่ได้รับการติดต่อใดๆ เลยจวบจนวันนี้ ส่วนคุณยายของเค้า เข้ารักษาใน รพ แล้ว
.
ขณะที่พ่อแม่ของเค้ารอเจ้าหน้าที่มารับไปรักษา เค้าต้องใช้ห้องน้ำร่วมกับพ่อแม่ ซึ่งแม้เค้าจะพยามทำความสะอาด แต่ก็พบว่า ไม่มีสุขอนามัยนัก เนื่องจากพ่อแม่ของเค้าในวัย 60+ ปี ยังไม่ค่อยเข้าใจตรงจุดนี้
.
เค้าได้พูดถึงปัญหาที่พบ คือ ติดต่อเจ้าหน้าที่ยาก และต้องรอเวลาเพื่อได้รับการตอบกลับ เช่น เมื่อเค้าโทรติดต่อสายด่วน มีแค่ 2 จาก 10 ครั้งที่โทรติด แต่ก็เข้าสู่ระบบอัตโนมัติ ต้องรอไปเรื่อยๆ ไม่มีผู้รับสาย
.
==================
#5 ได้รับการติดต่อหลายครั้ง เพื่อข้อมูลเดิมๆ
==================
Christine อายุ 38 ปี ตรวจพบเชื้อโควิดในวันที่ 15 กย และถูกบอกว่า จะถูกนำตัวไปยังศูนย์ดูแลชุมชน
.
แต่ก่อนที่เธอจะถูกรับตัว เธอได้รับโทรศัพท์หลายครั้ง ถามข้อมูลเดิมๆ เช่น ที่อยู่และข้อมูลของลูก ฯลฯ จากเจ้าหน้าที่คนละคน ทำให้เธอรู้สึกว่า เคสของเธอไม่ได้เร่งด่วน
.
ในที่สุด เธอก็ถูกนำส่งศูนย์ดูแลชุมชนหลังจากตรวจพบเชื้อ 4 วัน เธอยังคงรักษาตัวอยู่ แม้อาการต่างๆ จะเริ่มดีขึ้น เช่น มีไข้ ไอแห้ง คัดจมูก สูญเสียการได้กลิ่นและรับรส ฯลฯ
.
การรักษาของเธอที่นี่ เธอจะอยู่ในห้องและรักษาผ่านโทรศัพท์ โดยยาและอาหารจะถูกส่งเข้ามาในห้อง
.
เธอกล่าวเพิ่มว่า ลูกชายของเธอในวัยมัธยมก็ติดเชื้อเช่นกัน แต่รักษาตัวอยู่ที่บ้าน ซึ่งอยู่ร่วมกับลูกสาวอีก 2 คนของเธอซึ่งไม่ติดเชื้อ โดยมีแม่ของเธอดูแลลูกๆ ให้
.
=================
อนึ่ง ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดในชุมชนของสิงคโปร์ 🇸🇬 เมื่อวานนี้ เพิ่มขึ้น 1,453 คน โดยมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 3 คน
.
ผู้เสียชีวิตที่อายุน้อยที่สุดเมื่อวานนี้ คือ 50 ปี ไม่ได้ฉีดวัคซีนและไม่มีข้อมูลเรื่องโรคประจำตัว
.
ใน 3 คนนี้ มีผู้ที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว 1 คน เป็นหญิงวัย 90 ปี มีโรคประจำตัว
.
ทำให้ตอนนี้ สิงคโปร์พบผู้เสียชีวิตที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว จำนวน 4 คน ทั้งหมดเป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว
.
Source:
https://www.straitstimes.com/singapore/health/home-recovery-with-no-support-among-issues-aired-amid-surge-in-covid-19-cases?utm_campaign=stfb&utm_medium=social&utm_source=facebook&fbclid=IwAR38l5Zawp0a6MiknaGlVE8Ex6Z7LbJE_sFRO1NacamaaYVC-ckBrljnxIE
.
https://www.moh.gov.sg/news-highlights/details/update-on-local-covid-19-situation-(22-sep)
.
#EatwithPalLi #พี่แป๋วพากินเที่ยวสิงคโปร์ฮ่องกง 🇸🇬🇭🇰
health คือ 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的最佳解答
เรื่อง "ศาลฎีกาประเทศสหรัฐอเมริกาสั่งยกเลิกการฉีดวัคซีน covid" เป็นข่าวปลอมนะครับ !
อันนี้ก็เป็นอีกอัน ที่มีคนชอบส่งมาถามอยู่เรื่อยเลย ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า ? ที่มีการอ้างชื่อนักการเมืองสหรัฐอเมริกาคนหนึ่ง ระบุว่าศาลฎีกาของประเทศสหรัฐอเมริกาตัดสินแล้วให้การฉีดวัคซีน covid นั้นเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ให้ยกเลิก !?
แต่มันเป็นข่าวปลอมนะครับ !
1. มีการแชร์ข้อความว่า ศาลฎีกา (Supreme Court) ได้ยกเลิกการฉีดวัคซีนทุกชนิด (universal vaccination) แล้ว และมีรัฐต่างๆมากกว่า 40 ล้านที่จะออกกฎหมายห้ามไม่ให้บังคับฉีดวัคซีนโรค covid-19
- แต่เรื่องนี้เป็นข่าวปลอมที่เก่าแล้ว และยังวนเวียนกลับมาแชร์กันอยู่ในโลกโซเชียลอยู่เรื่อย
- ดังเช่น ภาพที่แชร์กันใน Instagram เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2021 ที่บอกว่า "บิล เกตส์ Bill Gates, ดร. แอนโทนี่ เฟาซี่ หัวหน้าคณะผู้เชี่ยวชาญเรื่องโรคติดเชื้อของสหรัฐอเมริกา Dr. Anthony Fauci, และบริษัทผลิตยา ยักษ์ใหญ่ ได้แพ้คดีในศาลฎีกาสหรัฐอเมริกา การที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าวัคซีนของพวกเขาทั้งหมดในช่วงเวลา 32 ปีที่ผ่านมานั้น ปลอดภัยต่อสุขภาพของประชาชน" ตามภาพที่แชร์กันนี้อ้างว่า คดีดังกล่าวเป็นการฟ้องร้องของกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ ที่นำโดยวุฒิสมาชิกเคเนดี้
- ภาพดังกล่าวนี้ อ้างอิงไปถึงบทความเรื่องยาว ต่อต้านการฉีดวัคซีนโรคโควิด เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม จากเว็บไซต์ของประเทศไนจีเรีย ชื่อว่า Inspirer Radio
- ส่วนวุฒิสมาชิกที่บทความพูดถึงนั้น หมายถึง โรเบิร์ต เอฟ เคนเนดี้ จูเนียร์ Robert F. Kennedy Jr. ซึ่งเป็นนักรณรงค์ต่อต้านวัคซีน และเป็นหลานของอดีตประธานาธิบดี จอห์น เอฟ เคนเนดี้
2. แต่ศาลฎีกาของสหรัฐอเมริกา ไม่ได้ตัดสินคดีห้ามการบังคับฉีดวัคซีน อย่างที่มีการแชร์กัน
- CEO บริษัทที่ทำเว็บไซด์ Inspirer Radio ได้ยอมรับกับหนังสือพิมพ์ USA TODAY เขาไม่ได้มีหลักฐานที่แข็งแรงพอจะยืนยันบทความที่ตีพิมพ์นั้นได้ และได้ระบุไปบนเว็บไซต์ของเขาแล้วเมื่อวันที่ 26 พ.ค. ว่าบทความนั้นไม่ถูกต้อง (แต่กว่า Inspirer Radio จะลบบทความทิ้ง ก็เมื่อวันที่ 28 พ.ค.)
- จากการตรวจสอบแฟ้มคดีต่างๆ ที่เกี่ยวกับการฉีดวัคซีน ของศาลฎีกา สหรัฐอเมริกา ไม่พบคดีดังกล่าว รวมทั้งไม่พบคดีที่อ้างว่า มีบิล เกตส์ และ ดร.เฟาซี่ เป็นจำเลยร่วม
3. รัฐบาลกลางของประเทศสหรัฐอเมริกาเอง ก็ไม่ได้บังคับให้มีการฉีดวัคซีนทั้งประเทศด้วย
- ไม่มีกฎหมายจากรัฐบาลกลางที่บังคับให้ฉีดวัคซีนกับประชาชนทุกคน แต่กลับกัน คือ เปิดโอกาสให้รัฐต่างๆมีสิทธิ์ที่จะจัดการฉีดวัคซีนตามที่ต้องการ
- ตัวอย่างเช่น ทั้ง 50 รัฐ ต้องการฉีดวัคซีนให้กับเด็กๆ ที่เข้าเรียนในโรงเรียนของรัฐ
ยกเว้นให้กับเด็กที่พิการ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับศาสนา ปรัชญา หรือข้อจำกัดของการแพทย์
- จนปัจจุบันนี้ (ตามข้อมูลอ้างอิง คือ 29 พ.ค. 2021) ไม่มีรัฐไหนที่ผ่านกฎหมายบังคับให้ฉีดวัคซีน covid 19 รวมทั้งประธานาธิบดี โจ ไบเดน ก็พูดเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีก่อน ว่าเขาจะไม่ออกกฎบังคับให้ฉีดวัคซีนโรคโควิด
4. ข้ออ้างเกี่ยวกับเรื่อง การตัดสินใจของศาลฎีกากับการฉีดวัคซีนทุกชนิด .. จริงๆ มาจากการฟ้องศาลแขวง ในรัฐนิวยอร์ก ซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องการออกกฎหมายห้ามฉีดวัคซีนทุกชนิด อย่างที่อ้าง
- คดีดังกล่าวมาจากการฟ้องร้องตามสิทธิเสรีภาพในการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร เมื่อปี 2018 โดยกลุ่มต่อต้านวัคซีนชื่อว่า Informed Consent Action Network ซึ่งสนับสนุนโดย วุฒิสมาชิก เคนเนดี้ ที่ฟ้องร้องหน่วยงาน Department of Health and Human Services ให้เปิดเผยรายงานเรื่องผลข้างเคียงต่างๆ ของวัคซีน
#สรุปว่า ที่แชร์กันว่า "ศาลฎีกาประเทศสหรัฐอเมริกาได้สั่งยกเลิกการฉีดวัคซีน" แล้วนั้น เป็นข่าวปลอม ! แล้วเป็นเรื่องแชร์มั่วเก่าๆ ที่ถูกตรวจสอบว่าเป็นของปลอม มาหลายทีแล้ว
ข้อมูล จาก https://www.usatoday.com/story/news/factcheck/2021/05/29/fact-check-supreme-court-didnt-cancel-universal-vaccination/7473627002/
health คือ 在 ครูอ้อย เข็มทิศชีวิต Youtube 的最讚貼文
ติดต่อทีมงานเข็มทิศชีวิต
ไลน์@: @lifecompass
IG : DDNARD
Facebook เข็มทิศชีวิต ฐิตินาถ ณ พัทลุง
health คือ 在 OverclockZoneTV Youtube 的最佳解答
Vivowatch SP คือ Smartwatch ที่เน้นออกแบบมาเป็น Health Tracker สำหรับคนรักสุขภาพโดยเฉพาะ ซึ่งมันจะมีการ Monitor สถานะต่างๆของร่างกายผู้สวมใส่ตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยเซนเซอร์ที่เยอะกว่า Smartwatch มาตรฐานทั่วๆไป แถมแบตเตอรี่รุ่นนี้จะใช้งานได้ยาวนานประมาณเกือบครึ่งเดือนเลยทีเดียว
health คือ 在 NinaBeautyWorld Youtube 的精選貼文
FB Fanpage: https://www.facebook.com/BeautyWorldbyNina
Instagram: NinaPraewpetch
Official Website: http://www.NinaBeautyWorld.com
สาวๆที่กำลังมองหาเซรั่มดีๆซักขวด อยากแนะนำตัวนี้เลยค่ะ "Wild Ferns" เป็นแบรนด์ใหม่ในไทยที่มีต้นกำเนิดมาจาก New Zealand ผลิตภัณฑ์ทุกตัว คือ made in New Zealand 100% นีน่าเพิ่งได้มาลองใช้เซรั่ม Manuka Honey หรือเซรั่มน้ำผึ้งของเค้ามา 1 เดือนเต็มๆ ใช้แล้วชอบมาก ผิวหน้าดีขึ้นมากๆ ที่สำคัญคือแม่ๆที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมลูกสามารถใช้ได้ ส่วนผสมจะมีทั้ง Anti-Oxidant และ Anti-Bacteria ช่วยทั้งเรื่องริ้วรอย ยกกระชับ และช่วยลดปัญหาการเกิดสิวอักเสบได้ด้วย ยังไงลองดูรีวิวและวิธีการใช้เต็มๆแบบละเอียดได้ในคลิปเลยนะคะ
ใครที่สนใจ แบรนด์ Wild Ferns สามารถหาซื้อได้ตามช่องทางด้านล่างเลยนะคะ
1. เคาน์เตอร์จำหน่าย: เซ็นทรัลศาลายา, เซ็นทรัลพัทยา และ Siam Paragon กำลังจะเปิดเคาน์เตอร์เร็วๆนี้เช่นกัน (ภายในเดือนคุลาคม 2020)
2. ร้าน Healthy Max: สาขา Icon Siam, โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ และ โรงพยาบาลศิริราช
3. ร้าน Health Club: สาขา โรงพยาบาลวิภาวดี, โรงพยาบาลสินแพทย์ และ โรงพยาบาลศิขรินทร์
4. ช่องทาง online: King Power Online, Central Online, Watsons Online, Lazada Mall, JD Central Flagship Store, Official Wild Ferns Online Store (www.wildfernsthailand.com), KTC U-SHOP
health คือ 在 แนวคิดสุขภาพหนึ่งเดียว (One Health) 的推薦與評價
สุขภาพหนึ่งเดียว คือ อะไร สำคัญอย่างไรกับตัวเรา มาดูคลิปนี้เพื่อทำความเข้าใจอย่างง่าย #Thaionehealth #onehealth. ... <看更多>
health คือ 在 ความหมายของปัจจัยกำหนดสุขภาพ Determinants of Health 的推薦與評價
ปัจจัยกำหนดสุขภาพ (Determinants of Health ) คือ ขอบเขตของปัจจัยทางด้านสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นตัวกำหนดสถานะสุขภาพของบุคคลหรือประชาชนในชุมชน. ... <看更多>