มีข้อมูลอยู่ในมือก็ไร้ประโยชน์ ถ้าคุณไม่โค้ดแสดงผลออกมาเป็นภาพได้
.
การทำ visualization กับ data จุดประสงค์เพื่อนำข้อมูลมาแสดงผลเป็นกราฟฟิกสวยงาม สามารถเล่าเรื่องได้ตามภาพ ซึ่งจะเข้าใจมากกว่าอธิบายเป็นตัวอักษร หรือพูดปากเปล่า
.
ลองนึกถึงเวลาเราไปพรีเซนต์งานให้ลูกค้าหรือ users ดูซิ
ยืนหน้าห้องประชุม สบตาคุยกันไปคุยกันมา
มัวแต่คุยภาษาเทคนิค ยิ่งไม่เห็นภาพด้วย
.
users ฟังจะงงแค่ไหน???
เดี่ยวมาบ่นคนไอที .....พูดอะไรไม่รู้เรื่อง....
เดี่ยวไม่จ่ายเงินจ้างเรา ...เอ๊ะเกี่ยวกันไปเปล่า
.
พอดีผมได้มีโอกาสแตะ ได้มีโอกาสเล่นไลบรารี่ฝั่ง JavaScript
เอาไว้แสดงผลข้อมูล หรือก็คือการทำ visualization กับข้อมูลนั่นเอง
แล้วเราแสดงผลหน้าเว็บบราวเซอร์ได้เลยครับ
.
ใช้งานได้ฟรีนะ เลยมาแชร์ให้ดู
ชื่อไลบรารี่คือ "d3.js" ลองอ่านคู่มือการใช้งานได้ที่นี้
https://d3js.org/
.
ตัวนี้นิยมมาก ตัวโค้ดเผยแพร่อยู่ใน github
มีคน fork ไปเกือบ 2 หมื่น ให้ดาว 8 หมื่น เกือบๆ 9 หมื่น
เอกสารถูกแปลไปหลายภาษา
https://github.com/d3/d3/wiki
(ยกเว้นภาษาไทยไม่มีนะครับ ให้ตายซิผับผ่า)
.
ไลบรารี่ตัวนี้ใช้ JavaScript ในการเขียนแสดงกราฟต่างๆ
แต่เป็น ES6 ขึ้นต่ำขึ้นไปนะ
.
ใครไม่เคยเขียน JavaScript อาจงงเล็กน้อยถึงขั้นมาก
เพราะจะเจอไวยากรณ์ชวนปวดหัวเล่นๆ
เจอทั้งวงเล็บ และปีกกาซ้อนหลายตลบ
.
ถ้าใครไม่เป็น javaScript ซื้อหนังสือของผมมาอ่านได้เลย
(โปรโมทขายหนังสือหน่อย ไม่ได้โฆษณานาน)
.
https://docs.google.com/…/1FAIpQLSfZp0Vz-p6Oj1cDA…/viewform…
It's useless to have information on hand. If you don't have a code, you can show it as a picture.
.
Visualization with data. Purpose to show information as graphics. Beautiful graphics. You can tell stories in a picture which is more understood than describing letters or empty words.
.
Think about when we went to present a presentation for customers or users.
Standing in front of the conference room. Eye contact. Let's talk.
Just talking in technical language. The more I don't see the picture.
.
How confused will the users listen???
I will complain about IT people..... I don't know what to say....
I won't pay for you to hire me... eh, related.
.
I have a chance to touch it. I have a chance to play the JavaScript library.
Is it for visualization or is it visualization with information?
And we can show you the results of the browser web page.
.
It's free to use. Let's share.
The name of the library is ′′ d3 js ′′ Check out the usage manual here
https://d3js.org/
.
This one is very popular. The code is published on github.
There are people fork going to be almost 2 ten thousand to give 8 ten thousand stars. Almost 9 ten thousand.
Documents are translated in many languages
https://github.com/d3/d3/wiki
(Except Thai, I don't have it. Damn. Pub)
.
This library uses JavaScript to write graphs
But ES6 is going to get lower.
.
Who has never written JavaScript. A little to much.
Because I will find grammar to make me feel headache for fun.
Found both brackets and wing stacked.
.
If anyone isn't javaScript, buy my book, read it.
(Promote to sell books. I haven't advertised for long time)
.
https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSfZp0Vz-p6Oj1cDAKIXfmexAbTh2vFDymFYlCIn8JwkA7UIrA/viewform?c=0&w=1Translated
同時也有3部Youtube影片,追蹤數超過47萬的網紅Twopee Southside,也在其Youtube影片中提到,Lyric by twopee Product by lopex Co produce by Keezy Mix and master by EazyIAM Direct by ...
「how about you กับ what about you」的推薦目錄:
- 關於how about you กับ what about you 在 โปรแกรมเมอร์ไทย Thai programmer Facebook 的精選貼文
- 關於how about you กับ what about you 在 โปรแกรมเมอร์ไทย Thai programmer Facebook 的最讚貼文
- 關於how about you กับ what about you 在 โปรแกรมเมอร์ไทย Thai programmer Facebook 的最佳貼文
- 關於how about you กับ what about you 在 Twopee Southside Youtube 的精選貼文
- 關於how about you กับ what about you 在 เรียนเหอะ อยากสอน Youtube 的最佳貼文
- 關於how about you กับ what about you 在 PicniclyNOW Youtube 的精選貼文
how about you กับ what about you 在 โปรแกรมเมอร์ไทย Thai programmer Facebook 的最讚貼文
มีน้องๆ ถามมาว่าอยากเป็นโปรแกรมเมอร์ได้มั๊ย
.
ดังนั้นผมจึงทำลิสต์ไว้ 3 ข้อเอาไว้เช็ค
ดูว่าเราเองนี้มีคุณสมบัติเหมาะกับการเป็นโปรแกรมหรือเปล่า
.
😍 1) ต้องมีความเป็นนักประดิษฐ์
การเขียนโปรแกรมต้องมีการสร้างโน่นสร้างนี้ตลอดเวลา
สร้างเว็บ เกม แอพลิเคชั่นมือถือ สร้างโปรแกรมต่างๆ บนโลกคอมพิวเตอร์
.
พูดง่ายๆ คือสร้างซอฟต์แวร์บนคอมนะครับ
นี้คือสิ่งประดิษฐ์ที่ล้วนเกิดจากแป้นพิมพ์คีย์บอร์ด
ที่เหล่าโปรแกรมเมอร์เสมือนร่ายเวทมนต์เสกมันออกมา
.
จะให้ลองนึกถึงนักวิทยาศาสตร์ นักประดิษฐ์ระดับโลก
เช่น โทมัส อัลวา เอดิสัน (Thomas Alva Edison)
ถ้าสมัยนี้ก็ พี่มาร์ค ซัคเคอร์เบิกผูสร้างเฟสบุ๊ค
บิลเกตผู้ก่อตั้งไมโครซอฟต์
สติฟจอป ผู้ก่อตั้งบริษัทแอปเปิล
.
นี้ขอยกตัวอย่างคนดังๆ
ถ้าน้องไม่รู้จักลองคนเหล่านี้
ลองเอาชื่อที่เอ่ยมาสักครู่ไปค้นประวัติดูได้
.
แล้วถ้าเกิดชอบ
รู้สึกว่ามีคนพวกนี้เป็นไอดอล
อยากขอลายเซนต์
อยากถ่ายรูปด้วย
ก็อยากจะกวักมือให้อ่านบทความนี้จนจบ
.
เอาเป็นว่าอยากให้ลองถามหัวใจตัวเอง
ถ้าน้องๆ ชื่นชอบการสร้าง การประดิษฐ์คิดค้น
มีความสุขที่ได้สร้างอะไรขึ้นมาด้วยสองมือเราเอง
ยิ่งมันเสร็จขึ้นมา เราจะรู้สึกวาว
มันเจ๋ง มันเยี่ยมยองกระเทียมเจียว
แล้วยิ่งมีคนมาใช้งานสิ่งที่เราสร้าง
.
ลองนึกถึงน้องๆ ได้สร้างเฟสบุ๊คมากับมือ
น้องภูมิใจไหมที่มีคนใช้กันเป็นพันล้านคนทั่วโลก
ถ้าน้องๆ รู้สึกโคตรภูมิใจมากๆๆ มีความสุข
ที่เห็นสิ่งประดิษฐ์เราออกสู่สายตาโลก
ยินดีด้วยนี้คือก้าวแรกของเส้นทางการเขียนโปรแกรม
.
😍 2) ต้องเป็นนักแก้ปัญหา
นึกถึงคนที่เขียนโปรแกรม
พวกเขาจะมีอุปสรรคปัญหาให้แก้ตลอดเวลา
.
✔ จากลูกค้าที่โยนปัญหามาให้เรา
✔ หรือโปรแกรมเราที่ติดบั๊ก แต่ไม่ติดรอหัวใจ
✔ โปรแกรมเกิด error หรือข้อผิดพลาดในโปรแกรม
✔ เวลาทำงานไม่ผ่าน ทำงานไม่ตรงตามจุดประสงค์
✔ โปรแกรมก็ต้องมานั่งตามเช็คตามล้าง
.
อาชีพนักเขียนโปรแกรม พวกเขาต้องมานั่งขบ คิด
บางทีปัญหาไม่จบในที่ทำงาน
นอกเวลาก็ต้องมานั่งคิด
เช่น กินข้าว อาบน้ำ นั่งถ่ายในห้องน้ำ ก็ต้องนั่งมานั่งคิด
.
เพราะบ้างทีชั่วโมงทำงานมันจบไปแล้ว
แต่หัวสมองเรายังไม่จบ
ยังเกิดความรู้สึกคาใจ อยากแก้ปัญหาคาใจให้ออก
.
บางคนขนาดตอนหลับก็เอาไปฝัน
สามารถคิดแก้ปัญหาตอนหลับได้ก็มี
หัวสมองเราต้องเป็นนักสู้
สู้ในที่นี้ หมายถึงสู้เพื่อแก้ไขปัญหา
พอแก้ปัญหาได้ รู้สึกว่ากูเจ๋ง กูเยี่ยมว่ะ
เราเองสุดยอดที่แก้ปัญหาได้
.
ลองนึกถึงเวลาเล่นเกมปัญหาเชาว์ต่างๆ เช่น
จับผิดสิ่งที่อยู่รูปภาพ
หรือทายปริศนาคำศัพท์
หรือเล่นเกมรูบิก เป็นต้น
.
ถ้าน้องรู้สึกชอบว่ะ พยายามสู้
พยายามแก้ปัญหาเชาว์พวกนี้
แก้ให้ได้ แก้ไม่ได้ จะไม่เลิก
.
ยิ่งแก้ได้ ยิ่งจะกระโดดโลดเต้น
ถ้าน้องมีความรู้สึกแบบนี้ ยินดีด้วยครับ
นี้คือก้าวที่สองของเส้นทางสู้การเขียนโปรแกรม
.
😍 3) ต้องสนใจและติดตามเทคโนโลยี
งานเขียนโปรแกรม
งานส่วนใหญ่อยู่ใลกไอที คอมพิวเตอร์
พื้นฐานจะเป็นนักเขียนโปรแกรมได้
ต้องสนใจและติดตามเทคโนโลยี
ตรงไปตรงมามากๆ
อยากลืมว่าเทคโนโลยีมันเปลี่ยนแปลงเร็ว
บ้างตัวมา แล้วไปฆ่าเทคโนโลยีอื่นตาย
.
✔ กล้องถ่ายรูปแบบฟิล์ม เดี่ยวนี้เป็นกล้องดิจิตอล
✔ โทรศัพท์มือถือเมื่อก่อนยังขาวดำ ปุ่มกดธรรมดา
ปัจจุบันเป็นทัสสกรีน หน้าจอสัมผัส เป็นสมาร์ทโฟน
.
การที่คนเขียนโปรแกรมต้องเรียนรู้
ปรับตัวตามกระแสเทคโนโลยีให้ทัน
จะทำให้คนภายนอกมองว่าเราคือผู้เชี่ยวชาญ
เขามาจ้างเราเพราะอะไรรู้ไหมครับ?
.
เพราะเขาทำไม่เป็น
อย่าลืมว่าคนไม่เป็นไอที
ยังไงเขาก็ไม่เป็นจริงๆ เลยนะ
.
ด้วยเหตุนี้เขาจึงต้องจ้างเขียนโปรแกรม
ยิ่งเราเก่งด้านนี้
กล้าพูดได้เลยว่า
สามารถเรียกค่าตัวให้แพงได้
เพราะเราในสายตาลูกค้า หรือนายจ้าง
คือผู้เชียวชาญ เพราะเขาทำไม่ได้อย่างเรา
ดังนั้นเราไม่ใช่กระจอก
.
เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่หมั่นตามเทคโนโลยี
ไม่หมั่นฝึกฝน
ไม่เป็นผู้เชียวชาญ
แล้วเราจะเก่งได้ไง
.
นี้แหละคือคุณสมบัติ 3 ข้อ
ในการเช็คว่าเราเป็นนักเขียนโปรแกรมได้หรือไม่
.
.
🧘♂ ++++++ 🧘♂
.
ทิ้งท้าย
ทุกอาชีพมันก็มีด้านมืดด้านสว่าง
ด้านสว่างทางสายนี้ คือเงินดี
.
ยิ่งเป็น เอาท์ซอร์ส หรือ contact
เงินเดือนเกินครึ่งแสน
เก่งจริงมีให้เห็นมาแล้ว
ยิ่งภาษาอังกฤษได้
โปรไฟล์จะเราจะหล่อสวย
มีแต่คนจ้องตามจีบ
.
ยิ่งรู้จักเก็บเงินดีๆ
ยิ่งรู้จักใช้เงินทำงานให้เป็น
รับรองได้เห็นเงินล้านก่อนอายุ 30 ไม่ยาก
.
แต่ถ้าเป็นพนักงานประจำ
ก็ต้องบอกตามตรงรายได้จะไม่สูงมาก
ยกเว้นไปทำต่างชาติ
หรือพวก startup บางเจ้า เขากล้าจ้างแพง
.
ส่วนด้านมืดคืองานเครียด
อาชีพนี้อยู่ได้เพราะเรา....
ต้องใช้สมองแก้ปัญหา ให้ลูกค้า
เพราะลูกค้า หรือนายจ้าง
เขาทำไม่ได้เหมือนเรา
จึงต้องมาจ้างเราเขียนโปรแกรมให้
.
สำหรับบทบาทอาชีพนี้
ถ้าเปรียบเป็นนักฟุตบอลคือ
ไม่ตำแหน่งกองหลัง ก็ผู้รักษาประตู
ทำงานปิดทองหลังพระเสียมากกว่า
เราไม่ใช่กองหน้า
.
พอไม่ใช่กองหน้าซุปเปอร์สตาร์
บางคนเลยเจอกดเงินเดือนลง
ทั้งที่ความรับผิดชอบเกินเงินเดือน
.
ถ้าใจไม่รักไม่ชอบอยู่ยาก
ยิ่งถ้าไม่มีพื้นฐาน 3 ข้อที่กล่าวมา
รับรองอยู่ได้ไม่นาน
ก็เบื่อลาออก
ไปทำอย่างอื่นกันหมด
.
อย่าลืมในโลกใบนี้
มันมีงานที่เงินดี
ที่ไม่ต้องใช้สมองแก้ปัญหา
เหมือนนักเขียนโปรแกรม
งานดีเงินดีมีเยอะมากมาย
.
เพียงแต่อาชีพไหน?
จะเหมาะกับตัวตนน้องๆ
ถูกจริตหรือไม่ ก็เท่านั้นเอง
.
งานที่ไม่ใช่ ยังไงก็ไม่ใช่
.
.
.
.
.
.
.
.++++++++++++++++++++++++++++
<ประชาสัมพันธ์ ขายหนังสือ/>
“โปรแกรมเมอร์ก็รวยได้ ด้วยเส้นทางเอาท์ซอร์สสายดำ”
ความยาว 176 หน้า กระดาษ A5 (≈ 41,002 คำ)
แบ่งเป็น 2 เวอร์ชั่น
.
👉 1) เวอร์ชั่นพิเศษเป็น PDF
ปรินต์ออกมานอนเกาพุงอ่านได้ ราคา 330 ฿
ติดต่อสั่งซื้อไดที่ไลน์ @269aibvq (เฉพาะ PDF)
.
👉 2) เวอร์ชั่นอีบุ๊กอ่านผ่านโปรแกรมของเว็บ mebmarket
ไม่มีแจก PDF ปรินต์ออกมาไม่ได้
ราคาถูกลงมาหน่อย 250 บาท ฿
กับ 279 บาท ฿ (ซื้อผ่านระบบ Apple)
ซื้อได้ที่ 👇
https://www.mebmarket.com/web/index.php…
.
สำหรับตัวอย่างหนังสือ ดาวน์โหลดได้ตามลิงก์ข้างล่าง 👇
https://drive.google.com/open…
.
✍ เขียนโดย โปรแกรมเมอร์ไทย thai programmer
Sisters asked me if I want to be a programmer.
.
So I made 3 lists for checking out.
Let's see if we qualify as a program.
.
😍 1) An inventor must be
Programming must be built all the time.
Build web games, mobile application, create programs in the computer world.
.
Easy to say. It's built software on computer.
This is an invention that was all caused by keyboard.
Where the virtual programmers cast their spells.
.
Let's think about the scientists, the innovators, the world.
Like Thomas Alva Edison (Thomas Alva Edison)
If these days, it's me, Mark sạkh, the creator of Facebook.
Bill Gate, the founder of Microsoft.
Stiff Jopp, founder of Apple Company.
.
Let's give a celebrity example.
If you don't know, try these guys.
Let's get your name in a while. Let's go through the history.
.
What if I like it?
Feel like these people are idols
I want to ask for a signature.
Wanted to take a picture
I want to shake my hand to read this article until the end.
.
Let's just say that I want you to ask your heart.
If the sisters love creating invention
Happy to create something with our own two hands.
The more it's done we'll feel shiny
It's cool. It's great. Jeaw garlic.
And more people use what we create.
.
Let's think about the brothers and sisters. Created Facebook with their hands.
Are you proud that there are billions of people around the world?
If the sisters are feeling very proud and happy.
Seeing our invention out of the world.
Congratulations, this is the first step of the programming path.
.
😍 2) must be a problem solver
Think of the programming people.
They will always have obstacles to solve.
.
✔ from customers who throw us trouble
✔ or our program that sticks to the buck but doesn't get stuck waiting for the heart.
✔ error or error program error
✔ Working time, not working, not working on purpose.
✔ Programme, I have to come to sit and check and wash.
.
Programmers career. They need to sit and think.
Maybe problems don't end at work
I have to sit and think about it.
Such as eating, taking shower, sitting and filming in the toilet, I have to sit and think.
.
Because sometime in the working hours are over
But our head is not over yet.
I still feel like I want to solve my problem.
.
Some people even when they sleep, they take it to dream.
I can think of solving problems when I sleep.
Our head is a fighter.
Fighting here means fighting to fix the problem.
When I can solve the problem, I feel like I'm cool. I'm great.
It's me. The best that I can solve problems.
.
Think about game time, chow problems like
Catching the wrong thing in the photo
Or guess the vocabulary puzzle
Or play Rubik, etc.
.
If you feel like it, try to fight.
Trying to solve these chao problems
I can't solve it. I can't fix
.
The more I can solve, the more I can jump and dance.
If you have feelings like this, congratulations.
This is the second step of the path to programming.
.
😍 3) Must be interested and follow technology.
Programming
Most jobs are in computer IT.
The basics can be a program writer.
Need to be interested and follow technology
Very candid.
I want to forget that technology is changing fast.
Some of them come and kill other technologies.
.
✔ This single film camera is a digital camera.
✔ Mobile phone used to be white, black, black, normal pressing button.
Currently, it's Tuspicious. The touch screen is a smartphone.
.
The way a programmer needs to learn
Adapt to the technology trend.
Will make outsiders think that we are experts
Why did he hire us?
.
Because he can't do it.
Don't forget that people are not IT.
He's not really real at all
.
That's why he has to hire to program.
The more we are good at this.
I dare to say that
Can be charged to be expensive
Because we are in the eyes of customers or employers.
I'm an expert because he can't do it like me.
So we are not shoddy
.
So if we don't stand by technology
No practice.
I'm not an expert
How can I be good at it?
.
Here are 3 qualifications.
In check if we can be programmers
.
.
🧘♂ ++++++ 🧘♂
.
Backing up.
Every career has a dark side, bright side.
The bright side this line is good money
.
The more outsource or contact
Salary is over half hundred thousand
Really good. I have seen it.
The more English I get.
My profile will be handsome, beautiful.
There are many people who follow me.
.
The more you know how to save good money.
The more you know how to spend money to work.
I guarantee that it's not difficult to see a million before 30
.
But if it's a full time employee.
I have to be honest. The income won't be very high.
Except to go foreign.
Or some startups. They dare to hire expensive people.
.
The dark side is stressful work
This career lasts because of us....
Need brain to solve problems for customers.
Because of a customer or an employer.
He can't do it like us
So you have to hire us to program it.
.
For this career role.
If it's like a footballer, it's
No defender position, goalkeeper.
Working to close gold after monk's back is more broken.
We are not a striker
.
Enough is not a superstar striker.
Some people found that they pressed their salary down.
Responsibility is beyond salary
.
If you don't love, you don't like
If you don't have the 3 basics that you say.
Guaranteed it won't last long
I'm bored to quit.
Let's go do something else
.
Don't forget in this world
It has a job that pays well
That doesn't need brain to solve problems.
Like a program writer.
Good work, good money, lots of them.
.
Just what profession is this?
I will be suitable for the younger ones.
Right or not. That's all.
.
A job that is not a job is not a thing.
.
.
.
.
.
.
.
.++++++++++++++++++++++++++++
< Public relations book sale />
′′ Programmers can also be rich with black outsource routes
Length 176 pages h̄n̂ā paper (≈ 41,002 words)
Divided into 2 versions
.
👉 1) Special version as PDF
Princess came out to sleep and scratch my belly. Read it. Price is 330 ฿
Contact Line s̄ạ̀ng sụ̄̂x 269 aibvq (PDF only)
.
👉 2) Ebook version read through the program of mebmarket web.
There is no PDF giving away. Can't print.
The price is cheaper. 250 baht ฿
With 279 Baht ฿ (Buying via Apple System)
Buy it at 👇
https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTcyNTQ4MyI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjEzMTQxMiI7fQ
.
For the book preview, download the link below 👇
https://drive.google.com/open?id=1tAnMozeYd63dcbBGTQmT_ZrpSaamZS3e
.
✍ Written by Thai programmer thai coderTranslated
how about you กับ what about you 在 โปรแกรมเมอร์ไทย Thai programmer Facebook 的最佳貼文
🔥👍 การันตีได้ว่าทุกคนเป็นเหมือนกันหมด
เวลานั่งแก้ปัญหาอะไรตั้งนาน
แบบคิดจนสมองจะระเบิด ก็คิดไม่ออกซะที
เช่น การเขียนโปรแกรม แล้วติดบั๊ก ติด error
.
แต่พอเราลืมเรื่องนั้นไปซะ!
เปลี่ยนไปอาบน้ำ ดูทีวี เดินเล่นสวีตกับแฟน
อยู่ดีๆ ดันปิ๊งแว็บคิดแก้ปัญหานั้นออกมาได้ซะงั้น
:
:
จะบอกว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด
ไม่ใช่คุณคนเดียวที่เป็นโรคนี้
คนทั่วโลกก็เป็นเช่นเดียวกับคุณ
:
ถ้าเราจะเข้าใจอาการพวกนี้
ต้องใช้วิทยาศาสตร์ด้านสมองมาอธิบายโดยตรง
ตามทฤษฏี สมองมนุษย์มีการเรียนรู้อยู่ 2 โหมด ได้แก่
"โหมดเซียน" กับ "โหมด 9 หาง"
...อ้าวผิดเรื่อง ...อันนั้นมัน นารูโตะ
.
การเรียนรู้สมองมี 2 โหมดได้แก่
👉 1) โหมด FOCUSED
เป็นโหมดของสมองที่กำลังโฟกัส
หรือมีสมาธิเพื่อคิดทำบางสิ่งบางอย่างอยู่
โหมดนี้ สมองจะใช้แนวทางเดิมๆ เพื่อแก้ปัญหา
ทำให้เรามุ่งมั่นหาทางแก้ปัญา หรือพยายามค้นหาปัญหาให้ได้โดยไว
.
😀 ข้อดี ทำให้เรามีสมาธิ มุ่งที่จะบรรลุงานนั้นๆ ให้สำเสร็จโดยไว
เช่น กำลังเขียนโปรแกรมอยู่ ต้องโฟกัส จดจ่อเพื่อให้งานเสร็จ
.
😱 ข้อเสีย จะเกิดการวนลูปทางความคิด
เช่น ตอนเจอบั๊กในโปรแกรม
เราก็จะวนลูป ใช้วิธีเดิมแก้ไปหาซ้ำๆ อยู่นั้นแหละ
พยายามกดคีย์บอร์ดด้วยวิธีการเดิมๆ
จนนิ้วจะแทงทะลุแป้นพิมพ์อยู่แล้ว
ก็แก้บั๊กไม่ได้เสียที ...จนอยากร้องไห้
.
ที่เป็นเยี่ยงนี้ก็เพราะสมองไม่ยอมมองหาทางออก
ไม่ออกจากกรอบคิดแบบเดิมๆ นั่นเองครับ
นับเป็นข้อเสียของสมองโหมดนี้
.
👉 2) โหมดที่สองคือ โหมด DIFFUSED
เป็นโหมดของสมองที่กำลังคิด
เมื่ออยู่ในภาวะผ่อนคลาย หรือพักผ่อน
เช่นตอนที่เราเดินเล่น ขับรถ ฟังเพลง อาบน้ำ เข้าส้วม หรือกระทั่งนอนหลับ ฯลฯ เป็นต้น
.
ถ้านึกไม่ออก ก็นึกถึงตอนที่เราติดปัญหาอะไรซะอย่าง
พอหัวเราจะแตะถึงหมอนอยู่แล้ว ดันคิดออกมาได้เฉยเลย
หรือบ่อยครั้งที่นอนหลับไป
พอตื่นขึ้นมาหา ไอเดียแก้ปัญหาดันปิ้งแว็บออกมา
.
😀 ข้อดี โหมดนี้เอาไว้ใช้แก้ปัญหาที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน หรือยากที่จะเข้าใจ
สามารถใช้คิดพวกไอเดีย หรือคอนเซ็ป ความคิดสร้างสรรค์แปลกๆ ใหม่ๆ ทำให้เราคิดนอกกรอบเดิมได้
.
เช่น ช่วยหาทางแก้บั๊กในโปรแกรม
ในมุมหนึ่งที่ไม่เคยนึกถึงมาก่อน
ช่วยให้แหกกฏเกณฑ์เดิมที่เราติดปัญหาอยู่ได้
.
😱 ข้อเสีย โหมดนี้มันทำงานเมื่อเราผ่อนคลาย
เช่น โปรแกรมเมอร์ตอนกลางวัน
แก้บั๊กแทบตายทั้งวัน แก้ไม่ได้สักที
พอเลิกงานกลับบ้านปุ๊บ
กำลังจะงีบหลับ ดันคิดออกมาได้ ...โธ่ชีวิต
.
หรือบางคนมีสกิลพิเศษ แก้บั๊กในความฝันได้
จนต้องสะดุ้งตื่น
จากโปรแกรมเมอร์ กลายร่างเป็นนกฮูก
ไม่ยอมหลับยอมนอน เขียนโปรแกรมจนเสร็จ
:
:
+++++++++++++++++++
ถ้าเราเข้าใจคอนเซปต์ของสมอง 2 โหมดนี้ละก็
- ตอนแก้ปัญหาไม่ออกก็สลับไปใช้ โหมด DIFFUSED ซะ
- เมื่อได้ไอเดียมาแล้ว ก็สลับไปใช้โหมด FOCUSED ต่อ
:
แต่ทั้งนี้เราต้องเข้าใจเสียก่อนว่า
มนุษย์โลกทุกคนไม่สามารถใช้ 2 โหมดนี้ได้พร้อมกัน ...เศร้า
ต้องเลือกระหว่างโหมด FOCUSED หรือโหมด DIFFUSED
เลือกให้ทำงานโหมดใดโหมดหนึ่งเท่านั้น
:
ดังนั้นเราต้องหัดสลับสมอง 2 โหมดให้เป็นนะครับ
:
ซึ่งวิธีสลับโหมดของสมอง
มันมีประโยชน์ตอนทำงาน
หรือจะตอนอ่านหนังสือสอบก็ได้
.
วิธีสลับโหมด ผมขอเสนอ 2 วิธีแล้วกัน
👉 1) ใช้เทคนิคคือ "Pomodoro Technique"
คือให้ทำงานไป 25 นาที (โหมด FOCUSED)
แล้วผ่อนคลายอีก 5 นาที (DIFFUSED)
.
แต่วิธีนี้อาจไม่เหมาะ ตอนเอาไปใช้ในทำงานจริงเท่าไร
...เพราะถ้าหัวหน้างานเห็นเราทำแบบนี้
คงคิดว่าเราอู้งาน ทำไป หยุดไป
เราอาจดัดแปลง ทำไปได้สักชั่วโมง สองชั่วโมง
เมื่อสมองล้า ก็พักเบรกเสียบ้าง จิบกลางแฟ แชทคุยกับแฟน
เล่นเกมคลายเครียด เดินยืดเส้นยือดสาย เข้าไปนั่งในส้วมเล่นๆ
ทำสัก 5-10 นาที พอ
...แต่ทั้งนี้หัวหน้างานต้องเข้าใจนะ ว่าเรากำลังผ่อนคลาย
...เป็นเทคนิคการคิดงานโดยใช้สมองโหมด DIFFUSED
.
👉 2) หรือเราจะปล่อยให้คิดงานทั้งวันไปเลย
แล้วถ้าพระอาทิตย์ตกดิน ยังคิดไม่ออกละก็
อย่าไปซีเรียส ให้กลับบ้านเข้านอนโดยไว
เพื่อให้สมองเข้าสู่โหมด DIFFUSED โดยธรรมชาติ
เป็นการรีเซทความคิดใหม่ พอตื่นขึ้นมาสมองโล่งคิดออก
รุ่งเช้าค่อยกลับมาเข้าโหมด FOCUSED เพื่อทำงานต่อไป
:
:
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์
ถ้าชอบกระทืบ like ....มันชอบอย่าด่ากันเยอะมันเจ็บ
เขียน โดยโปรแกรมเมอร์ไทย thai programmer
.
++++
อ้างอิง
https://staciechoice1010.wordpress.com/…/focused-vs-diffus…/
https://www.themetalearners.com/how-to-utilize-both-brains…/
https://www.instructables.com/id/Learning-How-to-Learn/
.
.
.
.
++++++++++++++++++++++++++++
<ประชาสัมพันธ์ ขายหนังสือ/>
“โปรแกรมเมอร์ก็รวยได้ ด้วยเส้นทางเอาท์ซอร์สสายดำ”
ความยาว 176 หน้า กระดาษ A5 (≈ 41,002 คำ)
แบ่งเป็น 2 เวอร์ชั่น
.
👉 1) เวอร์ชั่นพิเศษเป็น PDF
ปรินต์ออกมานอนเกาพุงอ่านได้ ราคา 330 ฿
ติดต่อสั่งซื้อไดที่ไลน์ @269aibvq (เฉพาะ PDF)
.
👉 2) เวอร์ชั่นอีบุ๊กอ่านผ่านโปรแกรมของเว็บ mebmarket
ไม่มีแจก PDF ปรินต์ออกมาไม่ได้
ราคาถูกลงมาหน่อย 250 บาท ฿
กับ 279 บาท ฿ (ซื้อผ่านระบบ Apple)
ซื้อได้ที่ 👇
https://www.mebmarket.com/web/index.php…
.
สำหรับตัวอย่างหนังสือ ดาวน์โหลดได้ตามลิงก์ข้างล่าง 👇
https://drive.google.com/open…
.
✍ เขียนโดย โปรแกรมเมอร์ไทย thai programmer
🔥👍 Guarantee that everyone is the same.
When I sit to solve something for a long time.
I can't even think about it. My brain explodes.
For example, programming and getting hooked on error.
.
But when we forget about it!
Changed to take shower, watch tv, walk in sweat with my girlfriend.
I suddenly think that I can solve that problem.
:
:
To say this is not strange at all
Not you the only one who has this disease
People around the world are just like you.
:
If only we would understand these symptoms
It takes brain science to explain directly.
In theory, the human brain has 2 modes of learning.
′′ Sienna mode ′′ and ′′ 9 tail mode ′′
... Oh, it's wrong... That one is Naruto.
.
There are 2 modes of brain learning.
👉 1) FOCUSED mode
It's a mode of the brain that is focused.
Or concentrate on thinking about doing something.
This mode, the brain will use the same old way to solve problems.
Make us determined, find a solution, or try to find the problem quickly.
.
😀 Advantages make us concentrate on achieving those tasks quickly.
For example, programming, focus to get the job done.
.
😱 Disadvantages will be a thought loop.
Like when I found a buck in the program.
We are going to loop the same way. We are going to find it again.
Trying to press keyboard the same old way
My fingers are going to penetrate through the keyboard.
I can't fix my buck... I want to cry.
.
The reason I'm like this is because my brain doesn't want to look for a way out.
I don't leave the frame. I think the same way.
It's a disadvantage of brain mode.
.
👉 2) Second mode is DIFFUSED mode.
Is a mode of thinking brain
When resting or resting
For example, when we walk, drive, listen to music, shower, toilet or even sleep etc etc.
.
If I can't imagine, I think of when I'm in trouble.
When my head hits the pillow, I just think about it.
Or often sleep over.
When I wake up, I find an idea to solve problems. I push them out.
.
😀 This mode of advantages to solve problems you have never seen before or difficult to understand.
Can be used to think about ideas or concepts of innovative innovations. It makes us think outside the same box.
.
For example, help figure out a way to fix a bug in the program.
In a corner I never thought of before.
Help to break the same rules we are in trouble.
.
😱 Disadvantage. This mode works when we relax.
Such as a daytime programmer
I can't fix a buck all day. I can't fix it.
When I finish work, I go home.
About to take a nap. I figured it out... Oh life.
.
Or someone has special skills to fix the buck in their dreams.
Until I start to wake up.
From a programmer to an owl.
I don't want to sleep. Programming is done.
:
:
+++++++++++++++++++
If we understand these 2 modes of brain concepts.
- When I can't solve problems, I switch to DIFFUSED mode.
- When I get an idea, I switch to FOCUSED mode.
:
But we have to understand first.
All human worlds can't use these 2 modes simultaneously... Sad
Must choose between FOCUSED mode or DIFFUSED mode.
Choose to work in one mode only.
:
So we need to learn to switch brain 2 modes to be.
:
Which way to switch mode of brain
It's useful while working.
Or when I read the exam book.
.
How to switch mode. I would like to offer 2 ways.
👉 1) Technique is ′′ Pomodoro Technique ′′
Well, let's work for 25 minutes (FOCUSED mode)
Then relax for 5 mins (DIFFUSED)
.
But this method may not be suitable when you use it for real work.
... Because if the supervisor sees us doing this.
I guess I'm ooh. My work is done. Stop it.
We could be modified for an hour or two.
When my brain is tired, I take a break. Sip in the middle of a coffee chat with my boyfriend.
Playing games, relaxing, walking, stretching, hanging out, sitting in the toilet for fun.
Do it for 5-10 minutes. Enough.
... But the supervisor needs to understand that we are relaxing.
... It's a brain-thinking technique. DIFFUSED mode.
.
👉 2) or we'll let it think about work all day.
What if the sunset hasn't figured out yet?
Don't be serious. Go home. Get bed early.
In order to get the brain into DIFFUSED mode naturally.
It's a reset of new thoughts. When I wake up, my brain is clear.
Come back to FOCUSED mode in the morning to work.
:
:
Hope this article is helpful.
If you like to stomp like.... you like it. Don't scold too much. It hurts.
Written by Thai programmer thai coder
.
++++
Reference.
https://staciechoice1010.wordpress.com/2014/08/08/focused-vs-diffused-mode/
https://www.themetalearners.com/how-to-utilize-both-brains-thinking-modes-focused-vs-diffuse/
https://www.instructables.com/id/Learning-How-to-Learn/
.
.
.
.
++++++++++++++++++++++++++++
< Public relations book sale />
′′ Programmers can also be rich with black outsource routes
Length 176 pages h̄n̂ā paper (≈ 41,002 words)
Divided into 2 versions
.
👉 1) Special version as PDF
Princess came out to sleep and scratch my belly. Read it. Price is 330 ฿
Contact Line s̄ạ̀ng sụ̄̂x 269 aibvq (PDF only)
.
👉 2) Ebook version read through the program of mebmarket web.
There is no PDF giving away. Can't print.
The price is cheaper. 250 baht ฿
With 279 Baht ฿ (Buying via Apple System)
Buy it at 👇
https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTcyNTQ4MyI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjEzMTQxMiI7fQ
.
For the book preview, download the link below 👇
https://drive.google.com/open?id=1tAnMozeYd63dcbBGTQmT_ZrpSaamZS3e
.
✍ Written by Thai programmer thai coderTranslated
how about you กับ what about you 在 Twopee Southside Youtube 的精選貼文
Lyric by twopee
Product by lopex
Co produce by Keezy
Mix and master by EazyIAM
Direct by Thekid and MeenPK
Edit and effect by @rapterqwerxy @Shxtz
Trust no body
No no no No No No No
*No no no no no you can’t trust nobody
I said oh oh oh give a zero fuck if you don’t know me
Here we go go go
Work hard matafucker get money
You see me ride ride with the team high high on the scene I don’t see nobody else
กูไม่ไว้ใจใคร can’t trust no one บางครั้งกูยังไม่ trust myself
กูไม่ไว้ใจใคร can’t trust no one บางครั้งกูยังไม่ trust myself
นี่ไม่ใช่ความบังเอิญ but กู plan it
21 เกินๆ แต่ยัง savage ไปทั่วโลกยังไม่มีบัตร credit
มึงทำงาน เสือกโลภ ขโมยแต่ credit
Now I’m back back back in my business
Cash cash cash cash เหมือนมีอภิสิทธ์ แปปๆๆๆ อยู่ที่ paris.
Ass ass ass ass fuck that baddest bitches
**ตาพวกมึงก็ดูอยู่ แต่ดันบอกไม่รู้
This is how we do พวกมึงก็เห็นอยู่
หูมึงเอง ก็ฟังแต่ดันบอกไม่รู้
This is how we do พวกมึงก็เห็นอยู่
(*, **)
นี่บีทแม่งเริ่มช้า ของแม่งเริ่มมา
Let me take you back to down south
You know about ไม่ได้แดก lean
แต่บีทแม่ง screw up you know what
สมัยนี้มึงคงไม่รู้จัก ไม่ give a fuck เหมือน Tupac
ไม่รู้จักกูก็ดูซะ ครูครับ มึงเรียกกู ขานชื่อ มือมึงก็ชูดิว่ะ
Pull up act a fool กูไม่อยากจะบู๊ เดี๋ยวสูทยับ
Can’t trust this hoes no ชูนิ้วกลาง to popo
Now กู back in studio เล่าเรื่องแรป เหมือนกูโม้
เหมือนใน Scarface ตอนที่ montana ตอน do blow
เพราะกู always said the truth even when I lie you know? Ok
นี่กูมาแรปให้ฟังถึงเพลงไม่ฮิต มันอาจไม่ดังพวก fake ทั้งหลาย ก็คงไม่ฟัง
แต่กูน่ะ making album เรื่องจริงในทุกๆ คำ ยิ่งพอ ยิ่งดึก ยิ่งคิด แต่กลอน
ที่บ้าน 22 ไม่เชื่อมึงถาม Poppa กับ Jayrun
Oh why you mad so sad ทำไมต้อง talking shit
ซุบซิบ อยู่ข้างหลัง when I’m with my clique
Bangkok best that’s my people who I ride with ใน ภูเก็ต
Southside นี่นะ finest
We behind this.
how about you กับ what about you 在 เรียนเหอะ อยากสอน Youtube 的最佳貼文
How about กับ What about ต่างกันอย่างไร | ติว Tuesday by เรียนเหอะ อยากสอน
ติว Tuesday วันนี้ ครูอายจะมาสอนความแตกต่างของ How about กับ What about ใช้ต่างกันอย่างไร
How about แปลว่าอะไร
What about แปลว่าอะไร
How about กับ What about ต่างกันยังไง
เจอกันกับ ติว Tuesday ทุกวันอังคาร
เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองฟรี กับครูอาย เรียนเหอะ อยากสอน ได้ที่ไหนบ้าง?
▸ Youtube : https://www.youtube.com/เรียนเหอะอยากสอน
▸ Facebook : https://www.facebook.com/reanher
▸ Instagram : https://www.instagram.com/reanher.ig
กดที่นี่เพื่อ Subscribe ช่องนี้กันได้นะคะ ^^
https://www.youtube.com/channel/UCRX0VwKduaOHqlGeIdeOAUg?sub_confirmation=1
ติดต่อสปอนเซอร์
▸ Email : reanher@gmail.com
ครูอาย สอนภาษาอังกฤษ #เรียนเหอะอยากสอน #ติวTuesday
how about you กับ what about you 在 PicniclyNOW Youtube 的精選貼文
Nobody really knows where General Tso’s Chicken came from. It’s a bit of a mystery how the most popular Chinese dish in America is unheard of in China … but … that’s not what this video is about. This is about taking a delicious dish and making it 100% vegan, healthy and clean by using cauliflower instead of chicken. Enjoy!
Ingredients
2 Heads Cauliflower
3 - 5 Cloves Garlic
1T Chopped Ginger
Juice from ½ orange
½ Sweet Bell Pepper
½ Onion
3-4 Dried Chillies (depends on your tongue!)
Batter Ingredients
1T Cornstarch
1C Crispy Flour (get it here http://amzn.to/2zpQ9O3)
1T Sesame Oil (get it here http://amzn.to/2gWviXk)
1t Baking Soda
Let’s Do It!
1. Chop your garlic, ginger, onion, bell peppers, cauliflower.
Wet the cauliflower.
2. Make the batter by mixing your flour, cornstarch, sesame oil, and baking soda.
3. Coat the cauliflower in the batter.
Ready for this? Take all that yummy cauliflower and fry it on oil. Keep turning it until it’s a nice brown color.
4. Now for the sauce. Use your existing oil to stir-fry garlic, ginger, bell-peppers, and onion. Keep stir-frying until you’re digging the smell.
Y’all ready? Just take everything you have and mix it together. Let that sauce coat the cauliflower and then enjoy. It’s good stuff, trust us.
Travel the world with us : https://goo.gl/Mmx82N
Explore Thailand : https://goo.gl/CTLLxQ
Stomach growling? : https://goo.gl/XrU9bD
YouTuber studio makeovers : https://goo.gl/jqxUso
Need inspiration? : https://goo.gl/RWi8vD
Love to eat? https://picnic.ly/food/
Contact:
Facebook: https://www.facebook.com/picnicly
Instagram: https://www.instagram.com/picniclythailand
Twitter: https://twitter.com/picnicly
Line: @picnicly
Work with us! Picnicly: luke@spstories.com
Follow Us
Luke Instagram: https://www.instagram.com/lukecd/
Tae Instagram: https://www.instagram.com/taedextor/