รีวิวการจัดฟันด้วย Invisalign 4 ปี
เชื่อเลยว่าถ้าใครเคยจัดฟัน หมอฟัน จะเป็นบุคคลที่เราต้องพบเจอบ่อยมากที่สุดคนหนึ่งในชีวิต
วันนี้เป็นวันที่ไปพบหมอฟันประจำตัว และได้รับการแจ้งว่า ให้ใส่ retainer เฉพาะตอนนอนก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องใส่ทั้งวันอีกต่อไปครับ ก็เลยขอมาเล่าเรื่องราวการจัดฟันด้วยวิธี การจัดฟันแบบใส (Invisalign) ตลอดเวลาที่ผ่านมา
ผมเลือกจัดฟันด้วยวิธี Invisalign ที่ Puredent Dental Clinic โดยคุณหมอ นีน่า ผศ. ทพญ.ศรินนา ตันติธนเศรษฐ์
เริ่มต้นที่เหตุผลของการจัดฟันก่อน จริงๆแล้ว การจัดฟันเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาการสบฟันที่มีปัญหา การที่ฟันบนไม่สบกับฟันล่างอย่างพอดีก่อให้เกิดผลเสียระยะยาวมากมายเช่น การทำความสะอาดที่ทำได้ไม่ทั่วถึง การสึกของฟันอย่างที่ไม่ควรจะเป็น และแน่นอนคือ สิ่งหนึ่งที่ได้กลับมาคือ ยิ้ม ที่สวยงามมากยิ่งขึ้น ส่วนปัญหาของผมคือ ขากรรไกรล่างไม่พอดี และฟันบนซ้อนเก เกขนาดไหน ก็คือเกขนาดที่ไม่สามารถกัดเส้นบะหมี่ให้ขาดได้ด้วยฟันคู่หน้า ด้วยความที่ไม่อยากจัดฟันแบบใส่เหล็ก (Brace) ก็เลยเรียกว่ารอจน การจัดฟันแบบใส (Invisalign) มีงานวิจัยที่มากเพียงพอสำหรับกรณีของผมเอง จึงได้ไปปรึกษาหมอนีน่าเรื่องของความเป็นไปได้ เมื่อหมอคิดว่าสามารถทำได้ ก็เลยตัดสินใจทำเลย
เล่าเบื้องต้นก่อน Invisalign คือการจัดฟันแบบใส ใสขนาดที่เรียกว่า จัดไป 4 ปี จนจัดเสร็จแล้วคนส่วนใหญ่ยังไม่รู้เลยว่าผมจัดฟันอยู่ Invisalign คือ พลาสติคที่เอาไว้ครอบฟันอีกที แยกเป็นของฟันบน และ ฟันล่าง หลังจากสแกนช่องปากไป เราจะได้ชุด Invisalign ที่เรียกว่า Aligner มาตามจำนวนที่หมอจัดฟันประเมินไว้ให้เรา ซึ่ง Invisalign ก็มีหลายแพคเกจตามความรุนแรงของฟันที่ต้องถูกจัด ตั้งแต่แบบ
- Invisalign Express จะมี 7 คู่
- Invisalign Lite จะมี 8-14 คู่
- Invisalign Moderate มี 15-26 คู่
- Invisalign Full ไม่จำกัดจำนวนชิ้น
โดย Aligner แต่ละคู่ จะมีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย หลัก 0.0x มิลลิเมตร ทุกๆ aligner ที่เปลี่ยนไป คือ ฟันเราที่เปลี่ยนตำแหน่งไปอย่างช้าๆนั่นเอง เอาคู่ถัดกันมาเทียบกันจะมองไม่เห็นภาพ แต่ถ้าเอาคู่แรกกับคู่สุดท้ายมาเทียบกันจะเห็นว่าแตกต่างกันมากๆ และนั่นคือฟันของเราในอนาคตนั่นเอง
เริ่มต้น หมอจะให้เราไปพิมพ์แบบฟันด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ แล้วแทบจะวินาทีนั้นเอง เราก็จะเห็นฟันและขากรรไกรเราในอนาคต 2-3 ปีข้างหน้าแบบ real-time เหลือเชื่อสุดๆ เรียกได้ว่าเป็นกำลังใจชั้นดีก่อนจะต้องเจ็บตัวกันไปยาวๆ
ตัวผมเองโดนแบบ Full Invisalign เพราะประเมินแล้วอาการรุนแรง เพราะมีปัญหาที่ขากรรไกรด้วยครับ โดยผมใส่ไปเกือบๆ 70 คู่ได้ในเวลา 3 ปี พอครบ 3 ปี ก็ต้องตามใส่ retainer ไปอีกตลอดชีวิต
โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับ Invisalign คือ
1.) เราจะต้องเปลี่ยนตัว Aligner ทุกๆ 10-14 วัน แล้วแต่ที่หมอแนะนำ
2.) ต้องใส่ aligner ในวันหนึ่งๆไม่ควรน้อยกว่า 22 ชั่วโมง
3.) ควรจะต้องทำความสะอาดฟันทุกครั้งที่มีการกินอาหาร ทำให้เราต้องแทบจะแปรงฟันวันละไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง
4.) ทุกๆครั้งที่จะกินอะไรเข้าปาก ต้องถอด aligner ก่อนทุกครั้ง ทำให้การกินแต่ละครั้งล้วนต้องคิดตลอดว่า คุ้มที่กินหรือไม่ 555+ และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้การกินแต่ละครั้งล้วนต้องมีประโยชน์อย่างสุดสูง
ด้วยข้อจำกัดที่มากมาย compliance ของคนไข้จึงสำคัญแบบที่สุด ต่างจากการใส่เหล็ก (brace) ที่เราไม่สามารถเอาออกด้วยตนเองได้
ปกติการใส่ Invisalign หมอมักจะให้ aligner เราไป 3-4 คู่ ให้เราไปใส่เองตามวันและเวลาที่วางแผนไว้ และมาเจอหมอตามนัด เพื่อประเมินว่าฟันเราวิ่งไปตามแผนการที่วางไว้ไหม ระหว่างทางก็จะมีขั้นตอนต่างๆที่แทรกเข้ามาเช่น การกรอผิวฟันเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการเคลื่อน การติดหมุดเพื่อยึดยาง เรียกได้ว่าตลอด 3 ปี ผมโดนมาหมดทุกวิธี ถามได้เลยครับ ว่าแต่ละอย่างเป็นอย่างไร
พอจัดครบฟันเข้าที่ตามแผน ขั้นสุดท้ายก็คือการใส่ เครื่องมือคงสภาพฟัน หรือ retainer ไปอีกตลอดชีวิต ที่ผ่านมา 1 ปี คือต้องใส่ทุกเวลาที่มีลมหายใจ ตอนนี้หมอนีน่าเหลือให้ใส่เฉพาะเวลานอนเท่านั้น
ถามว่า Invisalign รบกวนชีวิตขนาดไหน ?
ผมว่ามันคล้องกับกิจกรรมมากๆ Invisalign นี้ ผมใส่ไปทุกที่ครับ เดินเขาขึ้นคิลิมานจาโร ดำน้ำ นอนแคมป์ เดินป่า ทำมาหมดแล้ว สะดวกสบายครับ จะรบกวนชีวิตจริงๆก็คือเรื่องการกิน แต่จริงๆผ่านไปสัก 2 อาทิตย์เมื่อเราชินกับวิถีชีวิตแบบใหม่ เราก็จะคุ้นเคยเองครับ อาการการกินจุกจิกจะหายไปแบบเหลือเชื่อ
Invisalign เป็นการจัดฟันที่ราคาถือว่าค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับการจัดฟันด้วยวิธีอื่นๆ เช่น การติดเหล็ก (brace) ถ้าเน้นการรักษาเป็นหลัก การติดเหล็กจัดฟันนั้นจัดฟันได้เกือบทุกประเภทและค่าใช้จ่ายต่ำกว่า การจัดฟันแบบ Invisalign ยังมีข้อจำกัดในหลายๆเคส ไม่สามารถทำได้ทุกเคส ต้องให้หมอฟันผู้เชี่ยวชาญประเมินก่อนและค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงแต่ได้ข้อดีที่สุดคือเรื่องความมั่นใจในเรื่องของบุคลิกภาพและการทำความสะอาดซอกฟันตลอดระยะเวลาการจัดฟัน
ถ้าใครกำลังวางแผนจะไปจัดฟันหรือรักษาฟันที่ไหนในกรุงเทพ ผมก็แนะนำหมอฟันที่ผมคุ้นเคยที่สุด หมอนีน่าที่คลินิก Puredent Dental Clinic อยู่ใกล้ๆกับ BTS สถานีวงเวียนใหญ่ ครับ
หมอมือเบาและเก่งเก๋าประสบการณ์แบบสุดๆครับ
