วิกฤติประชากรจีน ทำให้เกิด นโยบาย "คลายกำเนิด" /โดย ลงทุนแมน
รู้ไหมว่า ในโลกเรานั้น ประชากรทุก ๆ 100 คน จะเป็นชาวจีน 18 คน
จึงทำให้จีนเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก
จนทำให้ครั้งหนึ่งรัฐบาลจีนเคยอนุญาตให้ชาวจีนส่วนใหญ่ มีลูกได้เพียงคนเดียว
แต่แล้วในปี 2016 รัฐบาลจีนก็จำเป็นต้องใช้นโยบาย “คลายกำเนิด”
เพื่อรณรงค์ให้ชาวจีนกลับมามีลูกกันอีกครั้ง
เพราะประเทศกำลังเผชิญกับปัญหาประชากรเกิดใหม่ที่ลดลง
แล้วที่ผ่านมานโยบายนี้ได้ผลหรือไม่ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ปัจจุบัน จีนเป็นประเทศที่มีประชากรมากกว่า 1,440 ล้านคน สูงที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งถ้าถามว่า อะไรคือ สาเหตุสำคัญที่ทำให้จำนวนประชากรจีนมีจำนวนสูงขนาดนี้ ก็อาจจะเป็นเพราะหลายปัจจัย ด้วยเหตุผลที่ประเทศจีนมีดินแดนกว้างใหญ่ มีพื้นที่เพาะปลูกอุดมสมบูรณ์ รวมไปถึงนโยบายในบางช่วงของประเทศ
ย้อนกลับไปในช่วงทศวรรษ 1960s
ในสมัยนั้น เหมา เจ๋อตง อดีตประธานาธิบดี และผู้ก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์ของประเทศจีน ได้สนับสนุนให้ชาวจีนมีลูกมาก ๆ เพราะเขาเชื่อว่า ประเทศไหนที่มีประชากรมาก จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโต
พอเรื่องเป็นแบบนี้ จำนวนประชากรของจีนจึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 667 ล้านคน ในปี 1960
กลายเป็น 818 ล้านคน ในปี 1970 หรือเพิ่มขึ้น 151 ล้านคน ในระยะเวลาแค่ 10 ปี
อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของประชากรจีน เริ่มนำมาซึ่งความกังวลเกี่ยวกับปัญหาวิกฤติประชากรล้น จนอาจนำไปสู่ปัญหาใหญ่ต่อไปในวันข้างหน้า นั่นก็คือ การขาดแคลนและแย่งชิงทรัพยากร
ขณะเดียวกันหนังสือที่มีชื่อว่า “The Limits to Growth” ที่ออกมาในปี 1972 ซึ่งเป็นหนังสือที่ได้รับการกล่าวถึงกันมากในสมัยนั้น ได้ตอกย้ำปัญหาเรื่องวิกฤติประชากรล้น
ใจความสำคัญในหนังสือนั้นสรุปได้ว่า “ด้วยทรัพยากรต่าง ๆ ที่มีอยู่บนโลกจะไม่สามารถรองรับการเพิ่มขึ้นของประชากรได้ จนอาจทำให้ประชากรโลกประสบกับภาวะความอดอยากอย่างน่ากลัว”..
และสำหรับชาวจีนนั้น บาดแผลและฝันร้ายที่เคยเกิดขึ้นกับประเทศ อันเกิดจากภาวะอดอยากครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของจีน หรือ “Great Chinese Famine” ในช่วงปี 1959-1961 ยังคงไม่จางหายไป เพราะเหตุการณ์ในครั้งนั้น ทำให้ชาวจีนจำนวนมากต้องอดอยากถึงขนาดมีการประเมินกันว่า จำนวนชาวจีนที่ต้องอดตายอาจสูงถึง 55 ล้านคน
รัฐบาลจีนในขณะนั้นที่นำโดยเติ้ง เสี่ยวผิง อดีตผู้นำที่มีชื่อเสียงโด่งดังของประเทศ จำเป็นต้องออกนโยบายลูกคนเดียว (One-Child Policy) ที่เริ่มถูกนำมาใช้ครั้งแรกในปี 1978
แม้ว่านโยบายดังกล่าวมีการผ่อนปรนให้แก่ชาวจีนได้ในบางกรณี เช่น ถ้าพ่อเป็นคนพิการ หรือลูกคนแรกเป็นผู้หญิง ครอบครัวนั้นก็สามารถมีลูก 2 คนได้
แต่อย่างไรก็ตาม ปัญหาการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรที่มากเกินไป ยังถือเป็นเรื่องที่รัฐบาลจีนให้ความสำคัญ จึงทำให้มีการบังคับใช้นโยบายนี้อย่างจริงจังและเข้มข้น ไม่ว่าจะเป็น
- มาตรการคุมกำเนิด ทั้งให้มีการทำแท้ง และการบังคับให้ทำหมัน
- พ่อและแม่คนไหนที่มีลูกมากกว่า 1 คน จะถูกไล่ออกจากงาน ตัดสวัสดิการต่าง ๆ ที่ควรได้
- ปรับเงินกับครอบครัวที่มีลูกมากกว่า 1 คน
- รวมไปถึงการให้เงินรางวัลแก่ครอบครัวที่มีลูกคนเดียว
ผลของการดำเนินนโยบายดังกล่าว ทำให้จำนวนเด็กเกิดใหม่ของจีนค่อย ๆ ลดลง
ปี 1980-2000 จำนวนเด็กเกิดใหม่เฉลี่ยปีละ 21.2 ล้านคน
ปี 2001-2020 จำนวนเด็กเกิดใหม่เฉลี่ยปีละ 16.0 ล้านคน
ถึงแม้จะได้ผลเป็นอย่างดีในช่วงเวลาหนึ่ง แต่เมื่อผ่านไป นโยบายนี้กลับเริ่มเป็นที่ถกเถียงกันมากขึ้น..
เนื่องจากสังคมจีนไม่เพียงแต่เริ่มมีสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุต่อประชากรเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่จำนวนแรงงานในวัยทำงานก็เริ่มเข้าสู่วัยเกษียณ ทำให้สังคมจีนจะกลายเป็นสังคมที่แก่ก่อนรวย
ทั้งยังมีการประเมินกันว่า ภายในปี 2050 สัดส่วนประชากรที่มีอายุเกิน 65 ปี จะเท่ากับ 39% ของจำนวนประชากรทั้งหมดของจีน
ยังไม่รวมถึง ปัญหาการขาดแคลนแรงงานในอนาคต ที่จะส่งผลเสียหายต่อเศรษฐกิจของจีนเอง และอาจกลายมาเป็นอุปสรรคสำคัญที่ไม่อาจทำให้จีนก้าวขึ้นมาเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุด
ในโลกแซงหน้าสหรัฐอเมริกา ในอนาคตอันใกล้
ในที่สุด ปี 2016 รัฐบาลจีนภายใต้การนำของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง จึงได้ตัดสินใจยกเลิกนโยบายดังกล่าว โดยอนุญาตให้ชาวจีนสามารถมีลูกได้ 2 คน ด้วยความหวังที่จะให้จำนวนเด็กเกิดใหม่ของจีนเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ถ้าเรามาดูจำนวนเด็กเกิดใหม่ของจีน ในช่วง 4 ปีย้อนหลัง จะพบว่า
ตัวเลขดังกล่าวยังมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่การยกเลิกนโยบายนี้
ปี 2017 จำนวนเด็กเกิดใหม่ของจีน 17.2 ล้านคน
ปี 2018 จำนวนเด็กเกิดใหม่ของจีน 15.2 ล้านคน
ปี 2019 จำนวนเด็กเกิดใหม่ของจีน 14.7 ล้านคน
ปี 2020 จำนวนเด็กเกิดใหม่ของจีน 10.0 ล้านคน
ทำให้ล่าสุดเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม ปี 2021 รัฐบาลจีนอนุญาตให้ชาวจีนมีลูกได้ 3 คน เพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้
การลดลงของจำนวนเด็กเกิดใหม่ทำให้ในวันนี้ จีนเป็นหนึ่งในประเทศที่ประสบปัญหาการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรที่รวดเร็ว
และรุนแรงที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง ถึงขนาดทำให้ทางการของจีนนั้นบอกว่า
“The biggest crisis the Chinese nation is facing” หรือวิกฤติที่ใหญ่ที่สุดที่จีนกำลังเผชิญอยู่
และเรื่องนี้ก็แสดงให้เห็นว่า การยกเลิกนโยบายลูกคนเดียวอาจไม่ใช่ทางออกที่ใช่สำหรับความท้าทายที่จีนกำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้
แล้วทำไมชาวจีนถึงมีลูกน้อยลง แม้นโยบายลูกคนเดียวจะถูกยกเลิกไปแล้ว ?
ที่เป็นแบบนี้ เนื่องจากชาวจีนมองว่า ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูลูกนั้นสูงขึ้นอย่างมาก เมื่อเทียบกับอดีต หรือพูดอีกอย่างก็คือ การมีลูกจะทำให้พ่อแม่ยุคใหม่มีภาระทางการเงินมากขึ้น
อีกประเด็นก็คือ การเพิ่มขึ้นของราคาอสังหาริมทรัพย์ของจีนโดยเฉพาะในเมืองใหญ่ ๆ ซึ่งเกิดขึ้นอย่างชัดเจน หลังจากวิกฤติสินเชื่อซับไพรม์ตั้งแต่ปี 2008 เมื่อรัฐบาลจีนได้อัดฉีดเม็ดเงินมหาศาลเพื่อกระตุ้นภาคธุรกิจต่าง ๆ หนึ่งในนั้นคือ ภาคอสังหาริมทรัพย์ จนทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ ปรับตัวขึ้นอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ซึ่งเรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่นักเศรษฐศาสตร์ของจีนระบุว่า คือ สาเหตุสำคัญที่ทำให้ สังคมจีนต้องการที่จะมีลูกน้อยลง เพราะชาวจีนรุ่นใหม่ ๆ มองว่า ราคาอสังหาริมทรัพย์ที่แพงจะเป็นอุปสรรคในการสร้างครอบครัว เมื่อตัวเองต้องมีลูก
ดังนั้น พวกเขาจึงนิยมเลือกที่จะเช่าอะพาร์ตเมนต์หรือคอนโดมิเนียมแล้วอยู่ตามลำพังดีกว่า
ดูเหมือนว่านโยบาย “คลายกำเนิด” ของจีนที่ถูกนำมาใช้เพื่อมาช่วยเพิ่มจำนวนประชากร อันจะเป็นกำลังหลักสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจีนให้สามารถเติบโตไปได้อย่างต่อเนื่อง ยังไม่ใช่คำตอบที่ใช่เพื่อมาช่วยแก้ปัญหาจำนวนเด็กเกิดใหม่ของจีนที่ยังลดลง อย่างน้อยก็ในตอนนี้..
ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า แนวทางในการแก้ปัญหานี้ของจีน ไม่ว่าจะเป็น นโยบายการเปิดรับแรงงานต่างชาติ การใช้เครื่องจักรเข้ามาทดแทนแรงงาน รวมไปถึงพึ่งพาปัญญาประดิษฐ์ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการใช้ชีวิตของคนในปัจจุบันมากขึ้น จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้มากน้อยแค่ไหน ?
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ สถาบันสังคมศาสตร์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน
คาดว่า จำนวนประชากรของจีนจะมีจำนวนสูงสุดในปี 2029 ที่ 1,464 ล้านคน และจะลดลงอย่างรวดเร็วหลังจากนั้น และเหลือเพียง 1,295 ล้านคน ในปี 2065
เท่ากับว่าจำนวนชาวจีนจะลดลงเกือบ 170 ล้านคนในระยะเวลา 36 ปี..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.worldometers.info/world-population/china-population/
-https://www.statista.com/statistics/250650/number-of-births-in-china/
-https://www.reuters.com/world/china/chinas-births-may-fall-below-10-million-annually-next-five-years-expert-quoted-2021-04-19/
-https://en.wikipedia.org/wiki/One-child_policy
-https://en.wikipedia.org/wiki/The_Limits_to_Growth
-https://en.wikipedia.org/wiki/Great_Chinese_Famine
-https://en.wikipedia.org/wiki/Aging_of_China
-https://www.the101.world/chinese-new-gen-no-child/?fbclid=IwAR3gPDegG9HuMMmGap2G2cyzFSmchQV9tMXUU7Rdo8HZEM1NJHQELZQG8lI
-http://www.realinstitutoelcano.org/wps/portal/rielcano_en/contenido?WCM_GLOBAL_CONTEXT=/elcano/elcano_in/zonas_in/cooperation+developpment/ari62-2009
-https://www.populationpyramid.net/china/2019/
-https://www.reuters.com/world/china/china-says-each-couple-can-have-three-children-change-policy-2021-05-31/
同時也有35部Youtube影片,追蹤數超過120萬的網紅Phê Phim,也在其Youtube影片中提到,Khái niệm 'CLIFFHANGER' là gì? Đây không phải review phim hay là tóm tắt phim! Nguồn tham khảo: -https://www.masterclass.com/articles/what-is-a-cli...
next wiki 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
ทำไม ซาอุดีอาระเบีย ถึงอยากเป็น "The Next Germany" /โดย ลงทุนแมน
ซาอุดีอาระเบียติด Top 10 ประเทศที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากที่สุดในโลก
ทั้งที่มีประชากรเพียง 34 ล้านคน อยู่ในอันดับ 41 ของโลก
ทำให้เมื่อหารเฉลี่ยต่อหัวแล้ว ชาวซาอุดีอาระเบียจะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
สูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลก มากถึงปีละ 18.5 ตันต่อคน มากกว่าชาวเยอรมันถึง 2 เท่า
การปล่อยก๊าซที่เป็นผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมมาอย่างยาวนาน
ทำให้ประเทศเศรษฐีน้ำมันแห่งนี้ ต้องการเปลี่ยนแปลงตัวเองครั้งใหญ่
โดยมุ่งหน้าสู่การเป็นผู้ผลิตพลังงานหมุนเวียนชั้นนำของโลก
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ต้องการที่จะลดการสร้างมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น
แต่เป้าหมายของซาอุดีอาระเบียคือการเป็นผู้ส่งออกพลังงานหมุนเวียน
โดยประเทศที่ซาอุดีอาระเบียอาศัยเป็นต้นแบบด้านพลังงานหมุนเวียนก็คือ ประเทศเยอรมนี
ถึงขนาดผู้นำประเทศประกาศว่า เป้าหมายของซาอุดีอาระเบีย
คือการเป็น “The Next Germany”
เรื่องนี้มีความน่าสนใจอย่างไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ซาอุดีอาระเบียเป็นประเทศที่มีปริมาณสำรองน้ำมันดิบกว่า 267,026 ล้านบาร์เรล
มากเป็นอันดับ 2 ของโลก ทำให้น้ำมันเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของซาอุดีอาระเบีย
กว่าร้อยละ 80 ของสินค้าส่งออกทั้งหมด
น้ำมันที่มีอยู่อย่างเหลือเฟือยังถูกนำมาใช้ในประเทศ ทั้งการขนส่ง และการผลิตกระแสไฟฟ้า
ซาอุดีอาระเบียผลิตไฟฟ้าจากน้ำมันเป็นสัดส่วนถึง 42% ของการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด
ซึ่งเป็นไม่กี่ประเทศที่ผลิตไฟฟ้าจากน้ำมันในสัดส่วนสูงขนาดนี้
นอกจากน้ำมัน แหล่งพลังงานที่สำคัญในการผลิตไฟฟ้าของประเทศนี้ ก็คือก๊าซธรรมชาติอีกราว ๆ 57.8%
เท่ากับว่า การผลิตไฟฟ้าในประเทศซาอุดีอาระเบีย จะมาจากเชื้อเพลิงฟอสซิลเกือบ 100%
ซึ่งแน่นอนว่า เป็นการสร้างปัญหามลภาวะในอากาศ โดยเฉพาะการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาในระหว่างกระบวนการผลิต
พอเรื่องเป็นแบบนี้ ซาอุดีอาระเบียจึงต้องการเปลี่ยนแปลงมาใช้พลังงานหมุนเวียน
และพลังงานสะอาดเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งยังรวมไปถึงการส่งออกพลังงานดังกล่าวเพื่อสร้างรายได้มาชดเชยรายได้จากการส่งออกน้ำมันที่ในอนาคตมีแนวโน้มที่จะลดลง
และประเทศซึ่งเป็นต้นแบบของพลังงานหมุนเวียนและพลังงานสะอาดที่ประสบความสำเร็จ
จนซาอุดีอาระเบียต้องการจะเดินรอยตาม จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก “เยอรมนี”
เรื่องนี้ถึงขนาดทำให้ เจ้าชายมูฮัมมัด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารของซาอุดีอาระเบียถึงกับกล่าวว่า “ประเทศเราจะเป็นเหมือนกับเยอรมนี เมื่อพูดถึงการใช้พลังงานหมุนเวียน”
รู้ไหมว่า เยอรมนีเป็นประเทศอันดับต้น ๆ ของโลก ที่เชี่ยวชาญการใช้พลังงานหมุนเวียนหลากหลายประเภทเพื่อการผลิตไฟฟ้า ซึ่งนับเป็นเวลากว่า 30 ปีแล้ว ที่สัดส่วนการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานหมุนเวียนของเยอรมนีเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ปี 1990 สัดส่วนการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานหมุนเวียน 3%
ปี 2005 สัดส่วนการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานหมุนเวียน 10%
ปี 2020 สัดส่วนการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานหมุนเวียน 45%
ถือได้ว่า พลังงานไฟฟ้าที่ใช้ในเยอรมนีในวันนี้ เกือบครึ่งมาจากพลังงานหมุนเวียน
และยังมาจากหลายแหล่ง ไม่ว่าจะเป็นพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม ชีวมวล และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ
เยอรมนีเป็นประเทศที่ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยในปี 2020 มีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลล์กว่า 51 เทระวัตต์-ชั่วโมง (TWh)
สูงเป็นอันดับ 5 ของโลก และเป็นอันดับ 1 ในยุโรป
และยังเป็นประเทศที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมสูงถึง 134.5 เทระวัตต์-ชั่วโมง (TWh) สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก และเป็นอันดับ 1 ในยุโรป
ที่น่าสนใจคือ ภายในปี 2050 รัฐบาลเยอรมันตั้งเป้าไว้ว่า
การผลิตไฟฟ้าภายในประเทศจะมาจากพลังงานหมุนเวียนทั้งหมด 100%
ความสำเร็จของอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียนของเยอรมนี ล้วนเกิดจากการวางแผนที่ดี
การสนับสนุนและลงมือทำอย่างจริงจัง รวมไปถึงความร่วมมือกันระหว่างทั้งภาครัฐและเอกชน จนทำให้เยอรมนีได้รับการยอมรับจากหลายประเทศ ว่าเป็นหนึ่งในประเทศต้นแบบในด้านพลังงานหมุนเวียนที่หลายประเทศต้องการเดินรอยตาม ซึ่งรวมไปถึงซาอุดีอาระเบีย
สำหรับซาอุดีอาระเบียปี 2018 นั้น การผลิตไฟฟ้าในประเทศมาจากพลังงานหมุนเวียน
น้อยกว่า 1% ของแหล่งพลังงานทั้งหมด
พอเรื่องเป็นแบบนี้ จึงทำให้ซาอุดีอาระเบียตั้งเป้าที่จะผลิตไฟฟ้าด้วยการใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียนให้ได้ 50% ภายในปี 2030
แต่การเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนให้ไปถึงสัดส่วนดังกล่าว
นอกจากการศึกษากระบวนการทำงานของประเทศต้นแบบที่ประสบความสำเร็จแล้ว ซาอุดีอาระเบียจำเป็นต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมหาศาล
รัฐบาลของซาอุดีอาระเบียตั้งเป้าหมายว่า ในช่วงระหว่างปี 2020-2023
ซาอุดีอาระเบียจะลงทุนในโครงการพลังงานหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านล้านบาท
ปัจจุบันซาอุดีอาระเบียได้ก่อสร้างโครงการพลังงานลมที่ชื่อว่า The Dumat Al Jandal
ซึ่งเป็นโครงการพลังงานลมที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลาง
นอกจากนี้ รัฐบาลของซาอุดีอาระเบียยังวางแผนที่จะพัฒนาโครงการ Green Hydrogen ซึ่งนับเป็นโรงงานผลิตไฮโดรเจนสะอาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งโครงการนี้มีมูลค่าโครงการสูงกว่า 2.1 แสนล้านบาท
Green Hydrogen นั้นเป็นการผลิตไฮโดรเจนโดยการแยกน้ำด้วยไฟฟ้า ที่ไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา และก๊าซไฮโดรเจนที่ได้จะถูกนำไปผ่านเซลล์เชื้อเพลิงเพื่อเป็นแหล่งพลังงานในการผลิตกระแสไฟฟ้าต่อไป ซึ่งรัฐบาลของซาอุดีอาระเบียวางแผนที่จะส่งออกไฮโดรเจนสะอาดไปขายยังตลาดโลกอีกด้วย
ซึ่งการลงทุนดังกล่าวนั้น นับเป็นหนึ่งในแผนภายใต้ Vision 2030 ที่เป็นนโยบายหนึ่งของการพัฒนาซาอุดีอาระเบียไปสู่ยุคสมัยใหม่ ที่ต้องการลดการพึ่งพาน้ำมัน
เรื่องนี้เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ จากประเทศที่มีรายได้จากการส่งออกน้ำมันในปี 2019
กว่า 6 ล้านล้านบาท เป็นหนึ่งในประเทศที่มั่งคั่งที่สุดของโลก
แต่เมื่อแนวโน้มความต้องการใช้น้ำมันซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักของประเทศเริ่มลดลงเรื่อย ๆ
ซาอุดีอาระเบียก็ต้องปรับตัวให้ทันตามกระแสโลก
และที่สำคัญคือ การกระจายความเสี่ยง ไม่ให้พึ่งพาพลังงานใดพลังงานหนึ่งมากเกินไป..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://en.wikipedia.org/wiki/Energy_in_Saudi_Arabia#:~:text=Electricity%20generation%20is%2040%25%20from,to%20120%20GW%20by%202032
-http://www.nst.or.th/powerplant/pp04.html
-https://www.arabnews.com/node/1801291/business-economy
-https://ourworldindata.org/renewable-energy
-https://www.cleanenergywire.org/factsheets/solar-power-germany-output-business-perspectives
-https://en.wikipedia.org/wiki/Solar_power_by_country
-https://www.ucsusa.org/resources/each-countrys-share-co2-emission
-https://energy.economictimes.indiatimes.com/news/renewable/worlds-top-10-countries-in-wind-energy-capacity/68465090#:~:text=China%20has%20a%20installed%20capacity,larger%20than%20its%20nearest%20rival.&text=The%20US%20comes%20second%20with%2096.4%20GW%20of%20installed%20capacity.
-https://sustainabledevelopment.un.org/index.php?page=view&type=99&nr=24&menu=1449#:~:text=Supply%20by%202050-,Germany%20has%20promised%20to%20transform%20its%20electricity%20supply%20to%20100,by%202050%20from%201990%20levels
-https://www.rechargenews.com/energy-transition/we-will-be-pioneering-saudi-arabia-reveals-50-renewables-goal-by-2030-but-is-that-realistic-/2-1-954094
-https://www.greentechmedia.com/articles/read/us-firm-unveils-worlds-largest-green-hydrogen-project#:~:text=Energy-,World%27s%20Largest%20Green%20Hydrogen%20Project%20Unveiled%20in%20Saudi%20Arabia,gigawatts%20of%20Saudi%20renewable%20electricity.&text=Massive%20green%20hydrogen%20facility%20would,Neom%20%22smart%20city%22%20project
-https://www.ammoniaenergy.org/articles/saudi-arabia-to-export-renewable-energy-using-green-ammonia/#:~:text=Last%20week%2C%20Air%20Products%2C%20ACWA,to%20be%20operational%20by%202025.
-https://www.statista.com/statistics/223231/opec-net-oil-export-revenue-streams-by-country/#:~:text=Saudi%20Arabia%20is%20the%20largest,Iraq%27s%2087%20billion%20U.S.%20dollars
next wiki 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
รู้จัก ย่างกุ้ง เมืองเศรษฐกิจสำคัญ ของเมียนมา /โดย ลงทุนแมน
แม้ว่าปัจจุบัน เมืองหลวงของเมียนมา ถูกย้ายไปยังกรุงเนปยีดอ 15 ปีแล้ว
แต่หลายคนก็คงจะคุ้นเคยกันดี กับชื่อเมืองหลวงเก่า อย่าง “ย่างกุ้ง”
แม้จะไม่ได้เป็นเมืองหลวงของประเทศแล้ว
แต่ ย่างกุ้ง ก็ยังเป็นเมืองที่มีความสำคัญอย่างมากต่อประเทศเมียนมา
โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ
แล้ววันนี้ เศรษฐกิจของเมืองย่างกุ้ง มีความสำคัญกับประเทศเมียนมา มากแค่ไหน ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ย่างกุ้ง อดีตนั้นมีชื่อเดิมว่า ดากอง ซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ
และมีสถานที่สำคัญของเมือง คือ เจดีย์ชเวดากอง
ที่เป็นหนึ่งสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนาที่ขึ้นชื่อมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมียนมา
ต่อมาในปี ค.ศ. 1755 พระเจ้าอลองพญา กษัตริย์ของเมียนมาในยุคสมัยนั้น สั่งให้มีการบูรณะเมืองดากองให้เป็นเมืองสำคัญ พร้อมกับสถาปนาชื่อใหม่ที่มีชื่อว่า “ย่างกุ้ง (Yangon)”
ความรุ่งเรืองจากการบูรณะเมืองครั้งใหญ่ในครั้งนั้น
ดึงดูดให้ประชากรชาวเมียนมา อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐาน ณ เมืองย่างกุ้งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ต่อมาในยุคล่าอาณานิคม
เมียนมาตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ ตั้งแต่ปี 1824
อังกฤษได้เข้ามาทำการพัฒนาเมืองย่างกุ้ง
ให้กลายเป็นศูนย์กลางทางการค้า และการเมืองของประเทศ
พร้อมทั้งแต่งตั้งให้ย่างกุ้งเป็นเมืองหลวงของเมียนมา ในปี 1853
ย่างกุ้งภายใต้อาณานิคมของอังกฤษเกิดการพัฒนาอย่างรวดเร็ว
มีการจัดตั้งสถานพยาบาล, ระบบคมนาคมขั้นพื้นฐาน, สถานศึกษา และก่อตั้งมหาวิทยาลัยย่างกุ้ง ขึ้นในปี 1878 ซึ่งนับเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศเมียนมา
ย่างกุ้ง ทำหน้าที่เป็นเมืองหลวงของเมียนมาถึง 153 ปี
ก่อนที่ต่อมารัฐบาลทหารของเมียนมา ได้ย้ายเมืองหลวงจากย่างกุ้ง ไปยัง กรุงเนปยีดอ ในปี 2006
ทำให้ย่างกุ้ง ได้ยุติบทบาทของการเป็นเมืองหลวงลง ตั้งแต่ตอนนั้น
ปัจจุบัน ย่างกุ้งมีพื้นที่รวม 10,170 ตารางกิโลเมตร
ซึ่งคิดเป็นประมาณ 1.5% ของพื้นที่ทั้งหมดในประเทศ
ขณะที่ย่างกุ้งมีจำนวนประชากรประมาณ 7.3 ล้านคน
หรือคิดเป็นประมาณ 14% ของจำนวนประชากรเมียนมา
แม้ปัจจุบัน เมืองหลวงของเมียนมา ถูกย้ายไปอยู่เมืองเนปยีดอแล้ว
แต่ย่างกุ้งยังคงมีบทบาทเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ, อุตสาหกรรม, การค้า, การลงทุน, การเดินทาง, การท่องเที่ยว และเป็นศูนย์กลางกระจายสินค้าสำคัญของเมียนมา
ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของเขตเศรษฐกิจพิเศษติละวา
ซึ่งมีพื้นที่รวมกันประมาณ 15,000 ไร่
ที่ใช้เงินลงทุนพัฒนาเขตเศรษฐกิจแห่งนี้ไปกว่า 98,400 ล้านบาท
ซึ่งเขตเศรษฐกิจพิเศษติละวาเป็นการลงทุนร่วมกันระหว่างรัฐบาลเมียนมา กับบริษัทเอกชนญี่ปุ่นอีก 3 แห่ง
โดยรัฐบาลเมียนมาถือหุ้นในโครงการดังกล่าว 51%
และบริษัทเอกชนญี่ปุ่น 3 แห่ง คือ บริษัท Mitsubishi Corp., Marubeni Corp. และ Sumitomo Corp. ที่ถือหุ้นรวมกัน 49%
เขตเศรษฐกิจแห่งนี้ ทางรัฐบาลเมียนมาใช้เพื่อรองรับโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมไฮเทค อุตสาหกรรมสิ่งทอ และอุตสาหกรรมการผลิตเป็นหลัก
ด้วยการเป็นที่ตั้งของเศรษฐกิจพิเศษนี้เอง
ทำให้ขนาดเศรษฐกิจของเมืองย่างกุ้ง มีขนาดใหญ่
เมื่อเทียบกับเศรษฐกิจทั้งประเทศเมียนมา
โดยในปี 2018 มูลค่า GDP ของย่างกุ้ง สูงกว่า 570,000 ล้านบาท
หรือคิดเป็นสัดส่วนกว่า 1 ใน 4 ของมูลค่า GDP ทั้งประเทศ
ในแง่ของการเดินทางและการท่องเที่ยว
ย่างกุ้งยังเป็นที่ตั้งของหนึ่งในสนามบินนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดของเมียนมา
โดยในปี 2018 มีผู้โดยสารเดินทางมาใช้บริการสนามบินนานาชาติย่างกุ้ง กว่า 6.1 ล้านคน
ซึ่ง 64% เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ
ภายในตัวเมืองย่างกุ้ง ยังมีสวนสาธารณะ และทะเลสาบที่กว้างขวาง
ทั้งยังมีอาคารที่ทันสมัย และสถาปัตยกรรมไม้แบบดั้งเดิม
ทำให้เป็นที่รู้จักกันในชื่อ “สวนเมืองแห่งทิศตะวันออก” หรือ The Garden City of the East
เมืองย่างกุ้งยังเป็นที่ตั้งของ Myanmar Investment Commission
ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่อนุมัติการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติที่ต้องการเข้าไปลงทุนในเมียนมา
ที่สำคัญก็คือ ย่างกุ้ง เป็นที่ตั้งของตลาดหลักทรัพย์ย่างกุ้ง
หรือ Yangon Stock Exchange ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2015
ซึ่งเป็นตลาดหลักทรัพย์แห่งแรกของประเทศเมียนมา
และปัจจุบัน ตลาดหลักทรัพย์แห่งนี้ มีบริษัทจดทะเบียนอยู่ทั้งหมด 6 บริษัท
แม้ว่าวันนี้ ย่างกุ้ง จะไม่ได้ดำรงฐานะเป็นเมืองหลวงของเมียนมาแล้ว
แต่จากที่ได้กล่าวมาทั้งหมดนี้ ก็คงจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า
เมืองหลวงเก่าแห่งนี้ คือเมืองที่มีความสำคัญอย่างมาก ต่อเศรษฐกิจประเทศเมียนมา..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
เมียนมา เป็นประเทศที่มีทรัพยากรธรรมชาติหลายอย่าง รวมไปถึงแหล่งน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ
ซึ่งปัจจุบัน เมียนมานับเป็นหนึ่งในประเทศที่เป็นผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ในเอเชียเลยทีเดียว..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.macrotrends.net/cities/20339/yangon/population
-https://en.wikipedia.org/wiki/Thilawa_Special_Economic_Zone
-https://www.exim.go.th/eximinter/e-news/11285/enews_july2014_CLMV.html
-https://www.eyeonasia.gov.sg/asean-countries/know/overview-of-asean-countries/yangon-a-city
-https://elevenmyanmar.com/news/yangon-gdp-expected-to-hit-89-pc-next-fy
-https://data.worldbank.org/indicator/NY.GDP.MKTP.CD?locations=MM
-https://marketdata.set.or.th/th/gms_exchanges/overview.html
-https://www.aseanbriefing.com/news/myanmar-opens-stock-market-to-foreign-investors
-https://ysx-mm.com/
next wiki 在 Phê Phim Youtube 的最佳貼文
Khái niệm 'CLIFFHANGER' là gì?
Đây không phải review phim hay là tóm tắt phim!
Nguồn tham khảo:
-https://www.masterclass.com/articles/what-is-a-cliffhanger-examples-of-cliffhangers-in-literature-film-and-television-and-tips-for-using-cliffhangers-from-dan-brown-and-rl-stine#3-examples-of-famous-cliffhangers-in-literature\
-https://en.wikipedia.org/wiki/Cliffhanger
-http://www.victorianweb.org/authors/hardy/diniejko6.html
-https://www.newyorker.com/magazine/2012/07/30/tune-in-next-week
-https://www.masterclass.com/articles/how-to-write-a-cliffhanger-14-tips-for-writing-page-turning-cliffhangers-with-dan-brown-and-rl-stine
-https://www.nytimes.com/2013/08/16/nyregion/getting-a-close-up-of-the-silent-film-era.html
next wiki 在 Dainghia25 Youtube 的最佳解答
Little Nightmares 2 wiki guide will walk you through getting the bully's key for the locked music room in The School. Getting the Bully's Key
There’s a crank to the back right of the piano, so head back there and start turning it. This will lift the piano up a little ways, then it’ll drop and break the flooring. However, it’s not all the way, so you and Six will have to jump on it until it fully breaks through the floor. n this next room, there’s a vent on the left side that Six will boost you through. On the other side is a Bully that’s holding a key. While the Bully is busy playing with it, drop down quietly and sneak over to the piece of wood, which you can use as cover.
Six will then distract the Bully by stepping on the piano, giving you some time to grab the pipe that was next to the Bully and smack it. Then, head over to the door on your right and Six will help you open it a crack to go back into the room.
Then, head over to the door and unlock it.
next wiki 在 Dainghia25 Youtube 的最佳解答
Little Nightmares 2 wiki guide will walk you through the TV puzzle. You'll encounter this one right away after entering into The Pale City.
Sneak through the broken door on the right and over into the next room. Here, you’ll find a bunch of TVs stacked on top of each other. These will come in handy later. For now, Six will boost you through the window. Now, you have to get her over. There will be a hook swinging in the middle of the room. Jump from the TV on the right over to it and swing into the TV on the left. Keep kicking it until it knocks over, and this will shoot you upwards. Then, swing over to the left and jump onto the platform.
Head through the door on the left and push the remaining TV down. This will lift Six up so she can join you again. Head back out the doorway on the right and meet her by the stairs. You’ll have to jump and grab her hand, so make sure to get a running start.
#dainghia25
▶ SUBSCRIBE MY CHANNEL : https://goo.gl/VPOrGK
▶ RENUMBER LIKE, SUBSCRIBE AND SHARE MY VIDEO!!!
▶ Fanpage Facebook : https://www.facebook.com/dainghia25gaming
▶ Facebook : https://www.facebook.com/dainghia25