這是美國的福斯電影公司(Fox Film Corporation)於1930年2月15日(農曆正月17日)在臺灣臺南拍攝的有聲新聞影片,攝影師為 Eric Mayell,忠實紀錄了日治時期的臺灣廟宇慶典活動,包括大觀音亭興濟宮恭送天師爺並列位尊神回鑾遶境,以及開山神社(今延平郡王祠)270年祭典活動。在這段影片裡,我們可以看到穿著日本傳統服飾在路旁圍觀的孩童、參與慶典遊行的人力車與轎子,以及北管陣等珍貴畫面。
大觀音亭興濟宮恭送天師並列位尊神路關表 開山神社祭典參加行列:
昭和五年二月十五日(舊曆正月十七日)午前十時本廟神輿出發,十一時開山神社著,正午開山神社二百七十年祭典參加行列遶境順序如下:(○記號表示有送佛)
本廟起行→蕃薯崎→竹仔行→打銀街→上橫街→天公埕○→三界壇○→清水寺→萬川前→府城隍○→戲臺後→岳帝廟→大人廟→車埕→大埔→送火王○→開仙王→郡役所→新路→壽町→停車場→ 本廟口 →五全境→打銀街→三四境○→竹仔街→武廟口駐駕五分間→內宮後→城邊→內新街→開仙宮→西轅門→末廣町→至運河→新町→北頭→南頭→保安宮→三條巷→良皇宮→出大路→法院前→神社→檨仔林→五帝廟→上橫街→大上帝→測候所→至壽像→孔子廟→大路→至開仙王→仁厚境→岳帝廟○→元會境→清水寺→馬公廟→廟邊→柱仔行→永華宮○→出大路→孔子廟→菜市埔→法院前→入下太子○→出下太子→良皇宮→經管埕→總趕宮→東西轅門→下橫街→武廟街→廟邊→赤崁樓○→縣口尾○→縣城隍○→溝墘→小媽祖○→米街○→小公園→大舞臺→牛塭堀→大廠口→草寮後→媽祖樓→試經口→普濟殿後→磚仔埕→粗崎糠→普濟殿○→蔡厝巷→仁和街→杉行街→水仙宮○→北勢街→藥王廟→海安宮→西羅殿○→南勢街→內外宮後→關帝港→大天后宮→武廟前→范進士→三元巷→小上帝→五全境→本廟中午→起行→安祿境→總爺街○→鎮東門→玉皇宮→本廟邊→出大路→陰陽公→福隆宮○→停車場→大路→入廟→平安大吉
1930年(昭和5年),日本政府為紀念荷蘭人在臺灣建城300年(由建立熱蘭遮城,即安平古堡算起),特於10月26日至11月4日一連10天在臺南舉辦「臺灣文化三百年紀念會」,展出臺灣從原住民自由部落開始,歷經荷蘭、明鄭、清領到當代(日治時期)的文化史料與產業展;除了靜態展覽外,還有煙火秀、音樂會、戲劇、電影、詩人大會、主題講座、全島野球(棒球)大賽等琳瑯滿目的慶祝活動。與臺南息息相關的開山神社(主祭鄭成功,今延平郡王祠)也是此次紀念會的重頭戲,10月30日當天舉辦盛大的臨時祭典,還特地將延平郡王鄭成功請出來遶境市區,宛如一場盛大的嘉年華會,盛況空前。
1930年10月26日的《臺灣新民報》之相關報導如下:
臺灣文化三百年紀念會
為紀念荷蘭人興建熱蘭遮城(即安平古堡)300年,由臺南市役所(市政府)主辦,舉行了規模宏大的「臺灣文化三百年紀念會」,活動項目,多采多姿,有煙火、競馬、划龍船、音樂、戲劇、電影、雜技等康樂活動,並有史料、教育、衛生、產業、花卉等展覽會。
「臺灣文化三百年紀念會」聘有10名顧問,連雅堂為唯一的臺灣人。紀念活動最有意義,當為展覽會與演講會,展覽會從1930年今日開始,至11月4日,歷時10天。陳列的文史資料多達好幾千件。
演講會主講學者專家有幣原坦(臺北帝國大學總長)、村上直次郎(臺北帝大文政學部南洋史教授)、粟原俊一(臺灣總督府建築技師)、山中樵(臺灣總督府臺北圖書館館長)、尾崎秀真(臺灣史專家),以及連雅堂等人。
連雅堂於11月1日,在臺南「公會堂」主講「鄭氏時代之文化」,由於「聽者未能詳細飫聞,意猶未盡」,三六九小報社「爰應鄉人之請」,另主辦「臺灣三百年史講演會」,於20日起至29日,每晚七時至九時,在臺南武廟佛祖廳,由連雅堂「開講」臺灣三百年史,從荷蘭人竊臺,以至乙未割日,探原究委,巨細靡遺。
關於福斯影音新聞:
1927年,福斯電影公司便已取得有聲電影的製作專利,其運用李德福瑞斯特(Lee De Forest)於1923年發明的「Phonofilms」系統(在底片上製造音軌然後用攝影的方式記錄聲音)所攝製的「福斯影音新聞」(Fox Movietone News),是新聞界最早出現的有聲新聞影片,而我們現在所看到的這段1930年拍攝的臺南廟宇慶典活動影片(Formosan New Years Procession / Parade)正是這些「福斯影音新聞」之一。
近年,二十世紀福斯電影公司(Twentieth Century-Fox Film Corporation)將昔日所拍攝的眾多「福斯影音新聞」影片捐贈給美國的南卡羅來納大學(University of South Carolina),並將之分享於網路上,而讓我們有機會得以享受這段珍貴的影音紀錄。
1934年12月28日成立的二十世紀福斯電影公司,乃「新藝綜合體」(原名CinemaScope,即一種使用弧形寬銀幕與立體音響發聲的電影)之領導者,該公司由約瑟夫賢克(Joseph Schenck)在1932年創立的二十世紀電影公司(Twentieth Century Pictures)和威廉福斯(William Fox)於1915年創立的福斯電影公司合組而成。
1953年,二十世紀福斯公司改編羅意德.道格拉斯(Lloyd C. Douglas)的暢銷書,推出「新藝綜合體」影片《聖袍千秋》(The Robe,1953),該影片在寬度約為高度二倍半的弧形銀幕上呈現,從此電影邁入寬銀幕的新紀元;其後有《國王與我》(King and I,1956)、《南太平洋》(South Pacific,1958)和《真善美》(The Sound of Music,1965)等電影相繼問世,皆叫好又叫座。
影片來源:http://mirc.sc.edu/islandora/object/usc%3A2099
同時也有5部Youtube影片,追蹤數超過4萬的網紅Culture Trip,也在其Youtube影片中提到,Every year, more than 450 balls take place across Austria, with hundreds of thousands of people in attendance. But while most balls have stayed much t...
「new century film」的推薦目錄:
- 關於new century film 在 Facebook 的最佳貼文
- 關於new century film 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
- 關於new century film 在 Scholarship for Vietnamese students Facebook 的最佳解答
- 關於new century film 在 Culture Trip Youtube 的最佳貼文
- 關於new century film 在 Steve's POV Steve's Point of View スティーブ的視点 Youtube 的精選貼文
- 關於new century film 在 Steve's POV Steve's Point of View スティーブ的視点 Youtube 的最讚貼文
new century film 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
จอร์จ ลูคัส ผู้กำกับภาพยนตร์ ที่รวยสุดในโลก ผู้สร้าง Star Wars /โดย ลงทุนแมน
ถ้าพูดถึงภาพยนตร์ที่ทำรายได้ทั่วโลกได้สูงสุดตลอดกาล
ก็ต้องมีชื่อ Avatar, Avengers: Endgame และ Titanic
แต่ถ้าเรารวมค่าเข้าชมภาพยนตร์กับยอดขายจากสินค้าและค่าลิขสิทธิ์ที่ต่อยอดจากภาพยนตร์เข้าไปด้วย
ภาพยนตร์ที่สามารถกวาดรายได้ไปได้มากที่สุดในโลกจะเป็น “Star Wars”
และนั่นก็ได้ทำให้ผู้สร้างจักรวาล Star Wars อย่าง “George Lucas”
กลายเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ที่รวยที่สุดในโลก ด้วยทรัพย์สินมูลค่ากว่า 2.2 แสนล้านบาท
แล้วเบื้องหลังเรื่องราวชีวิตของ George Lucas เป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
George Lucas เกิดในปี 1944 และเติบโตที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
เมื่ออายุได้ 11 ปี Lucas ได้ไปเที่ยวกับครอบครัวที่ Disneyland ซึ่งเพิ่งเริ่มเปิดให้บริการเป็นครั้งแรก
และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาหลงใหลในการ์ตูนภาพเคลื่อนไหวและนวนิยายแนววิทยาศาสตร์
แต่พอเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น เขามีความสนใจอีกอย่างเพิ่มเข้ามานั่นก็คือ การแข่งรถ
Lucas จึงตั้งเป้าหมายที่จะเป็นนักแข่งรถ แต่ต่อมาแผนการนี้ก็ถูกล้มเลิก
เพราะในวัยเพียง 18 ปี Lucas ได้ประสบอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำอย่างรุนแรงจนเขาต้องรักษาตัวอยู่นาน
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ก็ได้ทำให้ความตั้งใจที่จะเป็นนักแข่งรถหมดลง
เขาจึงนำความหลงใหลในวัยเด็กหรือ “การ์ตูน” กลับมาเป็นเครื่องนำทาง
แม้ว่าพ่อของ Lucas ที่เปิดกิจการขายเครื่องเขียน อยากให้ลูกชายมาช่วยกิจการครอบครัว
แต่ Lucas ที่ตั้งใจแล้วว่าจะไปเรียนต่อในด้านศิลป์ จึงได้ตัดสินใจออกจากบ้าน
พร้อมกับบอกครอบครัวของเขาว่าจะมีเงิน 30 ล้านบาท ก่อนอายุ 30 ปีให้ได้
Lucas จึงเลิกเรียนมัธยมกลางคันทั้งที่ใกล้จะจบแล้ว
และไปสมัครเรียนที่ Modesto Junior College ซึ่งเป็นวิทยาลัยชุมชนแทน
ซึ่งในตอนแรก Lucas ได้ลงเรียนหลายแขนงวิชามาก เพราะยังไม่แน่ใจว่าตัวเองอยากทำอะไรกันแน่
ระหว่างเรียนอยู่ที่นี่ Lucas ก็เริ่มสนใจเกี่ยวกับการถ่ายภาพเคลื่อนไหวและการสร้างภาพยนตร์
เขาจึงตัดสินใจเรียนต่อระดับปริญญาตรีด้าน Cinematic Arts ที่มหาวิทยาลัย Southern California
ซึ่งหนึ่งในเพื่อนสนิทของ Lucas ที่มหาวิทยาลัยก็คือ Steven Spielberg ผู้กำกับระดับตำนานอีกคนหนึ่ง
หลังเรียนจบในปี 1967 Lucas เลือกเรียนต่อปริญญาโทด้าน Film Production ที่มหาวิทยาลัยเดิม
และได้ทำหนังสั้นประเภท Sci-Fi ที่ชื่อ Electronic Labyrinth: THX 1138 4EB โดยได้นำภาพยนตร์เรื่องนี้ไปแข่งขันในงาน National Student Film Festival และได้รับรางวัลชนะเลิศ
รางวัลที่ Lucas ได้รับ นอกจากทาง Warner Bros. จะให้ทุนการศึกษาแล้ว
บริษัทยังให้สิทธิ์กับเขาไปดูงานเบื้องหลังการถ่ายทำภาพยนตร์ได้หนึ่งครั้ง
ซึ่ง Lucas ได้เลือกภาพยนตร์ที่กำกับโดย Francis Ford Coppola
Coppola ประทับใจความสามารถของ Lucas จึงชักชวนเขามาร่วมกันเปิดสตูดิโอ
ที่ชื่อว่า American Zoetrope ในปี 1969 และแนะนำให้ Lucas ดัดแปลงภาพยนตร์สั้นที่ได้รับรางวัล
มาทำเป็นภาพยนตร์ยาว แต่ผลตอบรับของผลงานชิ้นนี้กลับไม่ดีเท่าที่ควร
ปี 1971 Lucas จึงตัดสินใจขอออกมาเปิดบริษัทของตัวเองโดยใช้ชื่อว่า “Lucasfilm”
ซึ่งหลังจากนั้น ปี 1972 Coppola ได้กลายเป็นผู้กำกับระดับตำนานจากภาพยนตร์เรื่อง The Godfather
และแม้ว่า Lucas จะออกมาแล้ว แต่ทาง Coppola ก็ยังคงคอยให้ความช่วยเหลือเขามาโดยตลอด
ตั้งแต่ภาพยนตร์เรื่องแรกของ Lucasfilm อย่าง American Graffiti ที่เข้าฉายในปี 1973
ซึ่งสามารถทำรายได้กว่า 4,500 ล้านบาทจากทุนสร้างเพียง 25 ล้านบาท
โดยถือเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ ที่มีอัตรากำไรมากที่สุดในขณะนั้น
American Graffiti ได้กลายเป็นผลงานแจ้งเกิดในฐานะผู้กำกับดาวรุ่งของ Lucas
และทำให้เขามีเงินถึง 30 ล้านบาทได้ในวัย 29 ปี ตามที่เคยบอกกับครอบครัวก่อนออกจากบ้านมา
ในปีเดียวกันนี้เอง ช่วงระหว่างรอ American Graffiti เริ่มเข้าฉาย
Lucas ก็เดินหน้าเสนอบทภาพยนตร์แนวที่เขาอยากทำมากที่สุดมาโดยตลอด
โดยเป็นภาพยนตร์ Sci-Fi ที่มีเรื่องราวการต่อสู้ในอวกาศ นั่นก็คือเรื่อง “Star Wars”
แต่ด้วยความที่ภาพยนตร์ Sci-Fi ในสมัยนั้นยังไม่ค่อยเป็นที่นิยม บวกกับต้นทุนการถ่ายทำที่สูง
เพราะยังแทบไม่มีการใช้คอมพิวเตอร์กราฟิกหรือ CG จึงมีตัวอย่างภาพยนตร์แนวนี้ที่เจ๊งแทนที่จะแจ้งเกิดมาแล้วหลายเรื่อง จนไม่มีบริษัทไหนสนใจให้ทุนเขาเลย แม้แต่ Universal Pictures ที่เป็นผู้ให้ทุนสร้าง American Graffiti
จนกระทั่ง Lucas ได้มาเจอกับผู้บริหารของ 20th Century Fox ที่รู้สึกสนใจในไอเดียของเขา
จึงตอบตกลงเป็นผู้ให้ทุนสร้างและเป็นผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์ Star Wars ให้ Lucasfilm
หลังจาก Lucas เริ่มเจรจากับ 20th Century Fox ไปได้ 3 เดือน ภาพยนตร์เรื่อง American Graffiti ที่เพิ่งเริ่มเข้าฉายได้รับกระแสตอบรับดี จึงทำให้ 20th Century Fox เสนอเพิ่มทุนสร้างให้กับ Star Wars เข้าไปอีก
และเหตุการณ์ที่จะเล่าต่อจากนี้ ก็น่าจะเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญที่สุดในชีวิตของ Lucas เลยก็ว่าได้..
นั่นก็เพราะว่า Lucas เลือกปฏิเสธเงินทุนที่มากขึ้น แต่เขากลับเจรจาขอเป็นผู้ครอบครองลิขสิทธิ์และสิทธิ์ในสินค้าที่เกี่ยวกับ Star Wars ทั้งหมดแทน
ซึ่งทาง 20th Century Fox ก็ตอบตกลงแต่โดยดี เพราะแม้จะสนใจในเรื่องราวของ Star Wars
แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าหลังจากนั้น Star Wars จะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในเวลาต่อมา
หลังจากซุ่มเขียนบทและเตรียมตัวอยู่ 3 ปี Star Wars ก็ได้เริ่มถ่ายทำในปี 1976
และผลจากการที่ Lucas ปฏิเสธข้อเสนอเพิ่มทุนสร้าง ทำให้เขาต้องเครียดจากการมีงบประมาณที่จำกัด
ด้วยเหตุผลที่ Star Wars คือเรื่องราวในโลกเสมือน ตัวละครที่ Lucas สร้างสรรค์มาจึงเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตรูปร่างหน้าตาแปลกใหม่ อย่างเช่น โยดาและชิวแบคคา รวมไปถึงฉากหลักที่เป็นโลกอวกาศ อุปกรณ์ประกอบฉากอย่างยานอวกาศหรือแม้แต่ดาบไลท์เซเบอร์
การแปลงภาพจากจินตนาการที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ให้มาปรากฏในภาพยนตร์ ยังเป็นยุคที่ต้องให้คนสร้างของจริงขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ส่งผลให้ต้องใช้งบประมาณมหาศาล ซึ่งจำเป็นต้องบริหารงบประมาณอย่างรอบคอบ
แต่ด้วยความประณีตและใส่ใจรายละเอียดของทั้ง Lucas และทีมงาน จึงทำให้ภาพยนตร์มีภาพออกมาสมจริงรวมถึงเนื้อเรื่องที่แปลกใหม่
และเมื่อ Star Wars: Episode IV - A New Hope ได้เข้าฉายในปลายปี 1977 ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับผลตอบรับดีแบบถล่มทลาย จนดังระเบิดไปทั่วทั้งสหรัฐอเมริกา ต่อเนื่องไปจนทั่วโลก
ทาง 20th Century Fox เลยให้ Lucas เริ่มถ่ายทำภาคต่อในทันที
แต่ Lucas ตระหนักดีว่าทุนสร้างภาพยนตร์ที่ได้รับ จะทำให้มีข้อจำกัดในการผลิตมากมายจากผู้ให้เงิน
เขาจึงขอใช้เงินทุนตัวเองในการสร้างภาคต่อที่เหลือ
โดยยังมี 20th Century Fox เป็นผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์ให้อยู่
ภาพยนตร์ไตรภาคชุดแรกของ Star Wars ก็จบลงอย่างสวยงามในปี 1983 และได้ทำให้ Lucas กลายเป็นผู้กำกับและโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ชั้นนำของโลก ที่กวาดรางวัลใหญ่ไปมากมาย
นอกจากบทบาทการเป็นผู้สร้างภาพยนตร์ที่ครองใจผู้ชมไปทั่วโลกแล้ว
ในด้านของการผลิตภาพยนตร์ Lucas ยังเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี ซึ่งเขามุ่งมั่นและทุ่มงบประมาณให้ Lucasfilm วิจัยพัฒนา โดยได้แบ่งออกเป็นบริษัทย่อยที่เน้นโฟกัสคนละอย่าง
จนสามารถเป็นผู้นำในด้านนั้น ๆ ได้มาจนถึงปัจจุบัน ยกตัวอย่างเช่น
- ILM ที่ก่อตั้งในปี 1975 เน้นพัฒนาการสร้างภาพเคลื่อนไหวเสมือนจริงด้วยคอมพิวเตอร์
- Skywalker Sound ที่ก่อตั้งในปีเดียวกัน เน้นพัฒนาการใส่เสียงประกอบภาพยนตร์
- Pixar ที่ก่อตั้งในปี 1979 เน้นพัฒนาเทคโนโลยีด้านการสร้างแอนิเมชัน 3 มิติ
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจทั้งหมดนี้ต้องใช้เงินลงทุนสูงโดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้น
ส่งผลให้ Lucasfilm ประสบปัญหาทางการเงินจนได้ตัดสินใจขาย Pixar
ให้กับ Steve Jobs ในปี 1986 ซึ่งเป็นช่วงที่ Steve Jobs เพิ่งโดนไล่ออกจาก Apple
ในตอนนั้น George Lucas ผู้เป็นเจ้าของ ได้ขาย Pixar ให้กับ Steve Jobs ด้วยราคา 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดย 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จ่ายให้กับ George Lucas
และอีก 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ใช้เป็นเงินทุนของ Pixar
ก่อนที่ Disney จะขอซื้อ Pixar ต่อจาก Steve Jobs อีกทีในปี 2006
และทั้ง 2 บริษัทที่มีผู้ก่อตั้งคนเดียวกันอย่าง Pixar กับ Lucasfilm ก็ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง
เมื่อทาง Disney เจรจาขอซื้อ Lucasfilm จาก Lucas ในปี 2012
ด้วยมูลค่า 4.05 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือมากถึง 1.31 แสนล้านบาท
แต่รู้หรือไม่ว่าสิ่งที่สร้างมูลค่าให้กับ Lucasfilm และความมั่งคั่งของ Lucas อย่างมหาศาล
กลับไม่ได้มาจากรายได้ของภาพยนตร์ Star Wars ที่ทำเงินได้กว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทุกภาครวมกันในโรงภาพยนตร์ทั่วโลก
นั่นก็เพราะว่าความนิยมของจักรวาล Star Wars ไม่ได้จบลงที่จอภาพยนตร์เท่านั้น
แต่ยังถูกต่อยอดไปเป็นผลิตภัณฑ์นานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นสินค้าจากภาพยนตร์ อย่างเช่น หุ่นจำลองของตัวละครหรือดาบไลท์เซเบอร์ หรือจะเป็นในสื่อชนิดอื่น อย่างซีรีส์ที่ฉายในโทรทัศน์ วิดีโอเกม หรือหนังสือ
โดยสินค้าทั้งหมดนี้ทำรายได้ให้ Star Wars มากกว่าค่าเข้าชมภาพยนตร์เกือบ 6 เท่า
ซึ่งเราก็ต้องกลับไปดูการตัดสินใจครั้งสำคัญของ Lucas ที่ได้เลือกเจรจาขอเป็นผู้ครอบครองลิขสิทธิ์และสิทธิ์ในสินค้าที่เกี่ยวกับ Star Wars ทั้งหมด มันส่งผลให้ Lucas มีช่องทางรายได้ที่มั่นคงกว่ามากในเวลาต่อมา
ปัจจุบัน Forbes ได้จัดอันดับให้ Lucas เป็นเซเลบริตีที่รวยสุดในโลกในปี 2018 และครองตำแหน่งผู้กำกับที่รวยสุดในโลกได้อย่างยาวนาน ด้วยมูลค่าทรัพย์สินในปัจจุบันกว่า 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2.2 แสนล้านบาท
นึกย้อนกลับไปถึง Lucas ในวัย 11 ปี
ที่เริ่มหลงใหลในตัวละครโลกเสมือนจากการไป Disneyland เป็นครั้งแรก
มาถึงวันนี้ Disneyland แห่งเดิม ได้มีโซนใหม่ที่ชื่อว่า “Star Wars: Galaxy's Edge”
ซึ่งมันก็เป็นผลงานของ Lucas ที่เกิดขึ้นได้เพราะการเลือกเส้นทางชีวิตของตัวเขาเอง ที่สถานที่แห่งนี้ในวันนั้น
และเมื่อ 3 สิ่งนี้มาบรรจบกัน ก็ดูเหมือนว่าจะทำให้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในโลกจริง ดูน่าตื่นเต้นไม่แพ้โลกในภาพยนตร์เช่นกัน..
Lucas | Star Wars | Disney
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.businessinsider.com/how-star-wars-made-george-lucas-a-billionaire-2015-12
-https://www.businessinsider.com/star-wars-george-lucas-net-worth-movies-house-spending-2019-7
-https://www.theatlantic.com/magazine/archive/1979/03/the-man-who-made-star-wars/306228
-https://www.radiotimes.com/movies/how-to-watch-the-star-wars-movies-in-the-right-order/
-https://clubjade.net/nine-ways-george-lucas-changed-movies-forever/
-https://en.wikipedia.org/wiki/George_Lucas
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_highest-grossing_media_franchises
-https://www.forbes.com/profile/george-lucas/?sh=35340de56e63
new century film 在 Scholarship for Vietnamese students Facebook 的最佳解答
KINH NGHIỆM TĂNG BAND IELTS NƯỚC RÚT CHO NGƯỜI KHÔNG CÓ THỜI GIAN VÀ KHÓ TẬP TRUNG.
Cả nhà join English Club HEC để học hỏi các bài kinh nghiệm hữu ích như thế này nữa nha 🔥🔥🔥
Tác giả: Claire Vu
*Bài viết về một phương pháp không truyền thống nhưng hiệu quả.
*
◼️ PHẦN I. GIÁC NGỘ
🔻Thực trạng:
Hiện mình vẫn đang là sinh viên năm 4. Bên cạnh đó, mình có một công việc part-time làm makeup artist, nhưng vì là start-up nên khối lượng và thời lượng làm việc tính ra cũng ngang full time. Trước đây mình có học để thi Đại học khối D, nhưng kể từ đó, tuyệt nhiên chưa có giây phút nào ôn luyện tiếng Anh nghiêm túc. Mà mọi người biết đấy, ngoại ngữ chỉ cần nửa năm không động đến thôi là đã mai một rất nhiều, huống chi là 3 năm. Mình có thể cảm nhận được vốn tiếng Anh của mình bị thui chột đi mỗi ngày, nhưng chỉ đến khi mình thi lần 1 vào cuối năm ngoái và nhận kết quả rất thảm hại (không tiện nêu điểm chi tiết vì thực sự thảm hại) thì mình mới biết mình đã bỏ bê bản thân đến mức nào.
🔻Vấn đề:
Có quyết tâm thôi là chưa đủ, mình lại bị thực tế tát vào mặt.
Nếu như hồi cấp 3 mình có thể ngồi ngắm một trang từ mới hàng giờ và ghi nhớ một cách khổ sai nhất thì giờ đây mình không thể học theo cách trâu bò đấy nữa. Mình có lập to-do list để làm test nhưng cứ hôm nào đi làm về mệt là mình skip không học ngày đó. Trong lúc làm bài mình cũng rất dễ mất tập trung, chỉ cần có một tin nhắn của khách là mình lại nhảy sang công việc kia cả tiếng đồng hồ. Sau đó, mình sẽ xem video mèo thêm 1 tiếng nữa và thế là đến giờ đi ngủ. Có giai đoạn mình cũng thử làm test liên tục nhưng điểm cứ giậm chân tại chỗ khiến mình bị nản. Tính đến nay, mình chưa làm hết full một quyển Cambridge nào.
🔻Giải pháp:
Mình phải khiến cho việc học dễ tiếp cận, tự nhiên và liên quan đến công việc/sở thích của mình để không còn lý do trì hoãn nữa.
Học là phải vui. Vì vui thì mới bền.
Ví dụ, mình đam mê về làm đẹp, thời trang và tất cả những gì liên quan đến phụ nữ. Giai đoạn đầu, việc học của mình sẽ lấy những chủ đề này làm gốc để nuôi dưỡng tình yêu ngoại ngữ. Sau đó, mình sẽ chuyển sang các chủ đề khác cũng thú vị như quản lý tài chính (financial management), thương hiệu cá nhân (personal branding), truyền thông và quảng cáo (marketing and advertisement), sức khoẻ tinh thần (mental health),... Theo mình đây là những chủ đề mà sớm muộn gì cũng phải biết, vậy sao không tìm hiểu bằng tiếng Anh để một mũi tên trúng hai đích luôn, hay còn gọi là một viên đá giết hai con chim? (kill two birds with one stone).
🔻Kết luận: Chỉ khi bạn gắn được tiếng Anh vào một đam mê hoặc một chủ đề gây hứng thú thì động lực học của bạn mới không chết yểu.
◼️PHẦN II. TU
I. Listening
Điểm yếu của mình từ trước đến nay luôn là phần nghe. Không phải vì mình không nghe được mà vì mình có khả năng tập trung kém, dễ mất bình tĩnh nên nếu nhỡ một câu là cả đoạn tiếp theo sẽ cuống và làm sai hết. Và việc luyện đề nhiều chỉ khiến mình củng cố nỗi ám ảnh đó, nhất là khi trình độ còn đang ở mức intermediate.
Vì vậy, mình quyết định tạm dừng nghe Cam, chủ yếu là vì mình thấy nó không còn vui nữa.
▪️Giai đoạn đầu, mình chọn nghe những nguồn thuộc chuyên môn của mình luôn. Subscribe các channel về makeup, beauty, fashion, lifestyle,... Khi nghe có thể nâng dần độ khó lên bằng cách nghe các kiểu accent hoặc tăng tốc độ lên từ từ.
▪️Tuy nhiên, đến một thời điểm nhất định, những chủ đề này sẽ trở nên quá dễ dàng vì mình đã quen hết với các từ vựng của chủ đề đó rồi. Đó là đến lúc mình phải chủ động vượt ra khỏi comfort zone và bắt đầu nghe đa dạng kênh lên. Lúc này, ngoài vui ra chúng ta sẽ cho thêm tiêu chí hữu dụng. Dễ tiêu hoá nhất có lẽ là TED, vì kênh này đa dạng, diễn giả đáng tin cậy và luôn lồng ghép nội dung tạo động lực. Về lịch sử có Oversimplified rất xuất sắc. Nhiều lúc mình xem cười chảy cả nước mắt. Về tâm lý học có the School of Life,.. và rất nhiều nguồn khác. Mình sẽ chia sẻ trong một phần riêng về resource học.
▪️Cá nhân mình thấy phương pháp nghe chép chính tả không thần thánh với người có quỹ thời gian hạn hẹp hoặc khả năng nghe chưa ở mức ổn trở lên. Thay vào đó, mình tích hợp Shadowing. Nghe đến đâu mình nhắc lại đến đó luôn. So với việc viết ra 1 câu hoàn chỉnh thì việc nhắc lại câu đó chỉ tốn 1/3 thời gian. Chưa kể mình còn luyện luôn cả Speaking được nữa, lại trúng hai con chim.
▪️Mình có xem film nhưng mình xem có chọn lọc. Nếu tai nghe chưa vững, cộng thêm rào cản tâm lý thì rất khó xem không phụ đề. Vì vậy mình ưu tiên xem phim tài liệu. Phim tài liệu có nhiều điểm tương đồng với bài thi Ielts: từ ngữ chỉn chu, không có slang, tốc độ vừa phải và giọng đọc rõ ràng.
▪️ Quan trọng nhất: Cao thủ không bằng tranh thủ. Vì mình chỉ có khoảng 1 tiếng thời gian rảnh mỗi ngày nên mình phải tận dụng tối đa những khoảng trống khác để nghe thụ động. Mình cắm tai nghe lúc đánh răng, skincare, trên đường đi làm hoặc đến trường. Đặc biệt là trước khi đi ngủ, khi đó tần số não cao nên dễ hấp thụ thông tin.
II. Reading
Như đã nói, mình chưa từng làm hết một quyển Cambridge nào. Mình cũng không quá chú tâm đến những “chiến thuật làm bài đọc”. Công thức đạt điểm tối đa Reading của mình = 10% tốc độ + 90% hiểu sâu. Muốn có tốc độ thì phải đọc nhiều, muốn hiểu sâu thì phải đọc kĩ.
▪️Mình rất thích dùng Instagram, phần vì mình nhớ thông tin theo dạng hình ảnh tốt hơn, phần vì công việc của mình gắn liền với mạng xã hội này. Vậy nên mình tạo riêng một account, bên cạnh việc xem meme, sẽ follow các hãng tin lớn hoặc các tổ chức quốc tế. Ưu điểm của việc này là trong lúc giải trí vẫn có thể dung nạp kiến thức (scrolling without guilt). Hơn nữa, câu chữ dùng làm caption trên MXH phải cô đọng và súc tích, các bạn sẽ học được kha khá từ vựng và cấu trúc câu hay.
▪️Đọc sách, báo có chọn lọc, nên bắt đầu với những chủ đề bạn quan tâm trước. Nếu không thích đọc the New York Times hay the Guardian thì cũng không cần phải cố. Cá nhân mình cũng ít đọc những tờ này vì không phải là lĩnh vực quá quan tâm, hơn nữa lúc đầu vốn từ ít, đọc cũng dễ nản.
▪️Có một số cuốn bestseller mà mình nghĩ ai thi Ielts cũng nên đọc: 21 lessons for the 21st century. Đọc và nghiền ngẫm riêng cuốn này thôi thì độ tự tin khi thi đọc, nói và viết có thể tăng lên gấp đôi rồi. Cứ thử và trải nghiệm nhé.
▪️Trùm cuối và quan trọng nhất: Để tối ưu hoá việc đọc sách thì sau mỗi chương, đặc biệt là những chương tâm đắc, các bạn có thể dừng lại vài phút để tự sắp xếp lại ý chính trong đầu. Sau đó tóm tắt bằng sơ đồ tư duy hoặc viết vài câu ra giấy. Tuyệt vời hơn thì có thể tự thuyết trình cho bản thân qua tờ note đó. Đây chính là bước ngoặt trong việc học reading của mình. Cách này không chỉ buộc mình phải thực sự hiểu văn bản mà còn giúp xây dựng kho ý tưởng cho phần viết và nói. Chứ bình thường mình đọc đến cuối trang là đã quên mất đầu trang viết gì rồi.
3. Writing
Đây là kĩ năng mình chủ quan nhất, hôm đi thi là lần đầu tiên mình viết 1 bài hoàn chỉnh trên máy. Kết quả là mình chưa kịp viết xong kết bài task 2 thì máy đã tự động báo kết thúc. Qua đó, mình rút ra bài học trị giá 4.750.000 như sau:
▪️Dù ít dù nhiều, nhất định phải luyện viết dưới áp lực thời gian các bạn nhé.
▪️Với tư cách là một người yêu nước (H2O), mình đã dành 4 phút phần Writing để đi vệ sinh. Mình đã nghĩ có thể dành thời gian đi bộ từ phòng thi đến nhà vệ sinh để brainstorm, nhưng thực tế thì mình quá tập trung vào nhiệm vụ chính. Vậy nên nếu phải đi thì hãy đi từ lúc làm Reading.
▪️Dù không luyện viết full bài nhưng mình vẫn có một cuốn sổ nhỏ để ghi lại những câu và idea mình tâm đắc trong quá trình đọc sách hoặc luyện nghe ở trên. Tuy nhiên, mình không ghi chép tràn lan hay tuỳ tiện, chỉ note lại những ý thực sự gây ấn tượng, như thế mới nhớ lâu.
4. Speaking
Trước có thời gian mình học thử trên Cambly và nói chuyện với 2 thầy từng làm IELTS examiner. Các thầy đều nói rất khó để đạt điểm Speaking cao với một cái đầu rỗng. Không có kiến thức xã hội để phát triển ý mà chỉ chăm chăm nhồi nhét mẫu câu hay idioms thì chỉ dừng ở mức 6, cùng lắm là 7 chấm.
Đây cũng chính là tiền đề để mình theo đuổi phương pháp học thật, học những thứ có ích và thực tế.
So với lần thi trước, mình đã tăng 1.5 band điểm nói chỉ nhờ áp dụng những cách sau:
▪️Đọc và nghe nhiều giúp cải thiện tư duy trình bày RẤT ĐÁNG KỂ.
▪️Như đã nói ở trên, việc luyện Shadowing từ lúc nghe giúp mình luyện phát âm, ngữ điệu,... Đừng coi thường việc nhại. Kể cả khi bạn nhại theo một cách vô thức, một lượng kiến thức nhất định cũng sẽ đi vào tiềm thức và trở thành của bạn.
▪️Nói chậm lại và hạ giọng xuống. Khoa học đã chứng minh khi bạn nói nhanh thì nhịp thở và nhịp tim của bạn cũng nhanh theo, khiến bạn càng lo lắng và dễ nói vấp.
▪️Luyện nói nhuần nhuyễn ở các thì quá khứ, hiện tại hoàn thành và tương lai. Chia động từ sai là một trong những lỗi phổ biến nhất khi tâm lý căng thẳng. Hãy thử tự ghi âm và nghe lại bài nói của mình để đếm số lỗi ngữ pháp này nhé.
▪️Hít thở hít thở hít thở. Mình đã thi hai lần và bài học xương máu là: Hít thở càng sâu, kiểm soát tâm lý càng tốt thì nói càng phiêu.
◼️PHẦN III. HÁI QUẢ
Mỗi người, ở mỗi thời điểm khác nhau, cần có những phương pháp học khác nhau.
Suy cho cùng, điểm IELTS cũng chỉ là một con số. Điều mình thấy tâm đắc nhất là đã tìm ra phương pháp biến nỗi sợ thành đam mê.
Hãy nhớ: "Chỉ khi bạn gắn được tiếng Anh vào một đam mê hoặc một chủ đề gây hứng thú thì động lực học của bạn mới không chết yểu."
Mình tin chắc rằng nếu những người áp dụng phương pháp “chơi ra học, học ra chơi” này mà kiên trì đeo bám mục tiêu thì cả vốn ngoại ngữ và vốn sống cũng sẽ không ngừng đi lên. Việc đạt điểm IELTS như mong đợi chỉ còn là một trong những hệ quả tất yếu.
Đừng coi ngoại ngữ là một cái đích đến. Thay vào đó, hãy xem nó như một công cụ để khám phá tri thức của nhân loại.
🔥 Change your mind, change your life.
Ps: Cảm ơn mọi người đã cùng nhau tạo ra một cộng đồng chia sẻ kiến thức văn minh.
Các kênh thông tin bổ ích của HannahEd:
- Website: https://hannahed.co/
Các group FB, cả nhà search là ra:
- Scholarship Hunters
- Học bổng ngắn hạn, trao đổi, tình nguyện - HannahEd
- English Club HEC
- Job Hunters & Career Builders – HannahEd.
- Học bổng Chevening UK và IDEAS Ireland.
Instagram/Tiktok: @hannahed.co https://www.instagram.com/hannahed.co/
Youtube HannahEd có nhiều video phân tích học bổng từ ngắn hạn tới cấp 3, Đại học, Thạc sỹ, Phd, Việc làm (Facebook office tour..vv): https://www.youtube.com/channel/UCLLoijCMPyDi3U8tw9-K_EQ...
Các bạn cũng có thể gửi CV, câu hỏi về email [email protected], fan page https://www.facebook.com/ScholarshipforVietnameseStudents/ và https://www.facebook.com/hoathanhdinh để được tư vấn miễn phí nhé.
Các lớp tìm và apply học bổng HannahEd, Mentor 1-1, Sửa hồ sơ, Tập phỏng vấn, Career Coach các bạn điền link: http://tiny.cc/HannahEdClassInfo
❤ Like page, tag và share cho bạn bè cả nhà nhé ❤
#HannahEd #duhoc #hocbong #sanhocbong #scholarshipforVietnamesestudents
new century film 在 Culture Trip Youtube 的最佳貼文
Every year, more than 450 balls take place across Austria, with hundreds of thousands of people in attendance. But while most balls have stayed much the same for the last century, a new era of more open-minded, inclusive balls has started in Vienna.
Director + Design - Ana Perez Lopez
Animation - Ana Perez Lopez + Ish Ali
Voiceover - Ricarda Ruff
Creative Director - Giles Dill
Producer - Eve Somerville
With thanks to Luke Marsh and Freya Godfrey
Culture Trip creates stories that reveal what is unique and special about a place, its people and its culture.
Find out more here: https://theculturetrip.com/europe/austria/vienna
new century film 在 Steve's POV Steve's Point of View スティーブ的視点 Youtube 的精選貼文
All My JDM Ferrari Videos? https://bit.ly/3aictaD
HUGE sale 50% OFF Everything on StevesPOV.com FREE Shipping too! Limited quantities available!
Ferrari build supported by:
Design and Artwork @Skepple
Wrap @ProtectiveFilmSolutions
Wheels @HREwheels @hre_wheels_japan
Lights: @ofcustoms ALPHA Restyling @alpharestyling
Exhaust @fiexhaust @azzurekimoto
Liqui Moly Oils: @liquimolyjapan @liquimoly.usa.canada
Mechanical: @germanautospecialist.inc @avant_garde_xotics
Carbon Paddles: @carbontastic
Air Suspension Support: @ChassisFab
@slow_pryus
@southoccarsandcoffee
Thumbnail Picture by Hunter & Soren Swift
I revealed my new JDM Kaido Racer Ferrari 458 design the other day at Protective Film Solutions (PFS) but I left the car there for a reason... (watch to find out why..) Today my friend Krishan and I get up early, make it to PFS, meet up with some friends including Kevin Cybergarage and head down to South OC Cars and Coffee for my very first outing with my new wrap and with a mission to park next to and finally meet TJ Hunt. The reaction to my new wrap is terrific but unfortunately we didnt get to meet TJ Hunt.. oh well.. hopefully next time!!
Steve's POV / Thumbs Up Shop:
https://www.stevespov.com
Steve's POV Amazon Japan Store:
https://amzn.to/2J1lHyu
My Favorite Japanese Products
https://yagiselect.com
My Ferrari 458 Italia with Liberty Walk Body Kit
https://www.youtube.com/watch?v=b6ol8I5iEt0&list=PL6uDDSEpgpxvAqBsg2NuJTMDUaV9Jenm7
Top 5 Recent Videos:
Japanese Barbers - a MUST Try !
https://youtu.be/Zg38xlDnM5U
Driving the Emperor's Toyota Century in USA
https://youtu.be/Xp2Lo-wdTFM
Liberty Walk Kato’s Secret Man Cave!
https://youtu.be/7hzfoxeqVzk
7-11 Part 1 Steve's POV
https://youtu.be/A4AaM5JCqbM
Japanese Toilet Hospitality OMOTENASHI in Public Restrooms
https://youtu.be/QjB6N7hMiDQ
All videos presented in both Japan and English.
New Releases 3-4 Times Weekly
◆PLEASE SUBSCRIBE◆
http://www.youtube.com/user/steevie333?sub_confirmation=1
Please visit my sites:
Instagram: http://www.instagram.com/StevesPOV
Facebook: http://www.facebook.com/StevesPOV
Twitter: http://www.twitter.com/StevesPOV
Ebay Store: https://ebay.to/2JjAKTU
StevesPOV Web: http://www.StevesPOV.com
Amazon: https://www.amazon.com/shop/stevespov
Steve's POV Real Estate Instagram
http://www.instagram.com/carsncastles
Steve Feldman “Steve’s POV” Realtor (Keller Williams) website
https://stevefeldmanrealtor.com
Music from Epidemic Sound
http://www.epidemicsound.com
Steve's POV
スティーブ的視点
#StevesPOV #JDMFerrari #KaidoRacerFerrari #LibertyWalk458
new century film 在 Steve's POV Steve's Point of View スティーブ的視点 Youtube 的最讚貼文
All My JDM Ferrari Videos? https://bit.ly/3aictaD
HUGE sale 50% OFF Everything on StevesPOV.com FREE Shipping too! Limited quantities available!
Finally!!! This day has come and the image of what I pictured my Liberty Walk 458 Ferrari looking like has come to life and it looks even better in person than I ever imagined!!!! This amazing car couldn't have been put together without the incredible help of Scott Skepple at Skepple Designs who has done the design work on all my cars. Protective Film Solutions did the actual wrap which was incredibly difficult; as many ofl the overlays needed to be hand cut with knifeless tape. And I want to thank my good friend Christian @alpharestyling for consulting with me from day one on the design and and all aspects of the project! Finally the SPOV 458 has come to life and this is only the beginning!!!
Ferrari build supported by:
Design and Artwork @Skepple
Wrap @ProtectiveFilmSolutions
Wheels @HREwheels @hre_wheels_japan
Lights: @ofcustoms ALPHA Restyling @alpharestyling
Exhaust @fiexhaust @azzurekimoto
Liqui Moly Oils: @liquimolyjapan @liquimoly.usa.canada
Mechanical: @germanautospecialist.inc @avant_garde_xotics
Carbon Paddles: @carbontastic
Air Suspension Support: @ChassisFab
Amazonストアでスティーブ的グッズ販売中
https://amzn.to/2J1lHyu
My Favorite Japanese Products
https://yagiselect.com
?見ておきたい人気動画トップ5?
日本の床屋は最高!!アメリカではありえない散髪技術とサービスは世界一!
Japanese Barbers - a MUST Try !
https://youtu.be/Zg38xlDnM5U
アメリカでトヨタセンチュリーを走らせてみた!運転も楽しいけど後部座席が最高!驚く車内オプションまで徹底分析!
Driving the Emperor's Toyota Century in USA
https://youtu.be/Xp2Lo-wdTFM
リバティーウォークの秘密基地に行ってみた!マンケーブとドリームガレージは世界共通語!加藤渉社長に特別に案内してもらった!
Liberty Walk Kato’s Secret Man Cave!
https://youtu.be/7hzfoxeqVzk
外国人が驚く日本のセブンイレブンの素晴らしさ!生活用品からお土産まで!第一弾!
7-11 Part 1 Steve's POV
https://youtu.be/A4AaM5JCqbM
外国人が日本の公衆トイレに潜入してみた!公衆便所にも日本のおもてなしを発見!
Japanese Toilet Hospitality OMOTENASHI in Public Restrooms
https://youtu.be/QjB6N7hMiDQ
日本語版&英語字幕
日本時刻で毎週3〜4回、朝7時に絶賛配信中!
気まぐれでランダムの動画公開もあります!
◆チャンネル登録はこちら◆PLEASE SUBSCRIBE◆
http://www.youtube.com/user/steevie333?sub_confirmation=1
スティーブ的視点 Steve's POV 関連ウェブサイト:
Please visit my sites:
Instagram: http://www.instagram.com/StevesPOV
Twitter: http://www.twitter.com/StevesPOV
Facebook: http://www.facebook.com/StevesPOV
Ebay Store: https://ebay.to/2JjAKTU
StevesPOV Web: http://www.StevesPOV.com
サムズアップT-シャツ好評発売中
https://www.stevespov.com
スティーブの不動産関連インスタグラム
http://www.instagram.com/carsncastles
スティーブ的視点アメリカ不動産関連ウェブサイト
https://stevefeldmanrealtor.com
音楽提供: Epidemic Sound
http://www.epidemicsound.com
Steve's POV
スティーブ的視点
#StevesPOV #Steves458 #BosoFerrari #KaidoRacerFerrari #JDMFerrari #JDM #JapanStyleFerrari