Invisalign นวัตกรรมจัดฟันใส ล้านล้าน /โดย ลงทุนแมน
หากเราพูดถึงเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการจัดฟัน
หนึ่งในนั้นก็ต้องมีชื่อของ “Invisalign” หรือการจัดฟันแบบใส
ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมการจัดฟัน ภายใต้บริษัท Align Technology
รู้หรือไม่ว่าบริษัทแห่งนี้ จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้น Nasdaq
และถือเป็นหนึ่งในบริษัท ที่มีมูลค่าเติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดด
ปัจจุบัน มีมูลค่าบริษัท 1.8 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 7.6 เท่า เมื่อเทียบกับ 5 ปีก่อน
เราเคยสงสัยไหมว่า การจัดฟันเริ่มขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไร
แล้วบริษัท Align Technology น่าสนใจขนาดไหน ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
จริง ๆ แล้ว หลักฐานทางประวัติศาสตร์ระบุว่าการจัดฟัน มีมาตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ
อ้างอิงจากการพบเครื่องมือทันตกรรมและอุปกรณ์จัดฟันที่ถูกผลิตขึ้น
โดยสมัยนั้นมีวัสดุเป็นทองคำ
หลังจากช่วงอียิปต์โบราณ การจัดฟันก็ยังไม่ได้เป็นที่แพร่หลายมากนัก
จนกระทั่งมาถึงศตวรรษที่ 19 ก็ได้มีการใช้คำศัพท์ “Orthodontics”
แปลว่าการจัดฟันอย่างเป็นทางการ
คำดังกล่าวถูกคิดค้นขึ้นโดย คุณ Pierre-Joachim Lefoulon หมอฟันชาวฝรั่งเศส
ที่เป็นผู้เรียบเรียงหนังสือ The Surgeon Dentist ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับการจัดฟัน
ซึ่งปัจจุบันได้รับการยอมรับให้กลายมาเป็นวิธีแก้ไขปัญหาการเรียงตัวของฟัน
รวมถึงเป็นการรักษาสภาพเหงือกและฟันให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น
รู้หรือไม่ว่ากว่า 60% ของประชากรทั่วโลกประสบปัญหาเรื่องการเรียงตัวของฟัน
ซึ่งในกลุ่มประชากรในประเทศพัฒนาแล้ว พบว่ามีการจัดฟันเฉลี่ยราว 15 ล้านรายต่อปี
จากภาพรวมตรงนี้ สะท้อนให้เห็นว่าการจัดฟันถือเป็นหนึ่งในธุรกิจ ที่มีความข้องเกี่ยวกับประชากรเป็นจำนวนมากและกำลังเติบโต โดยมีการคาดการณ์ว่าตลาดการจัดฟันจะมีมูลค่าราว 350,000 ล้านบาทในปี 2027
ทีนี้ เรามาดูกันว่า Invisalign หรือนวัตกรรมการจัดฟันด้วยพลาสติกใส
ถูกคิดค้นขึ้นมาเมื่อไร แล้วใครเป็นคนคิด ?
Invisalign เป็นชื่อเรียกของระบบการจัดฟันใส มีความหมายตรงไปตรงมา
ผสมกันระหว่างคำว่า “Invisible” แปลว่าล่องหน รวมกับ “Aligners” แปลว่าการจัดฟัน
เทคโนโลยีดังกล่าว เป็นของบริษัท Align Technology ที่มีจุดเริ่มต้น
มาจากอดีตนักศึกษา Stanford University 2 คน ก็คือ Kelsey Wirth และ Zia Chishti
หนึ่งในผู้ก่อตั้ง หรือ Chishti พบว่าหลังจากที่จัดฟันเสร็จแล้ว ทันตแพทย์จะพิมพ์ฟันของเรา
หลังจากนั้น ก็จะนำไปทำเป็นรีเทนเนอร์พลาสติก เพื่อให้เราใส่ไว้เพื่อคงสภาพฟัน
ให้เป็นระเบียบ ถือเป็น Post Treatment หรือการดูแลรักษาหลังถอดแบร็กเกต
หรืออุปกรณ์จำพวกโลหะ ลวดและยางออกไปแล้ว
จุดนี้เอง Chishti จึงได้ไอเดียขึ้นมาว่าแล้วทำไมเรายังต้องใช้เครื่องมือ
ที่ต้องติดอยู่กับฟันเราถาวรแบบนี้ เป็นระยะเวลาหลายปี
ทั้ง ๆ ที่รีเทนเนอร์พลาสติกใส แบบที่ใช้ทำรีเทนเนอร์ ก็น่าจะมีคุณสมบัติ
ในการเคลื่อนฟันและคงสภาพฟันให้เป็นระเบียบได้เหมือนกัน
นั่นจึงทำให้หลังจากนั้น Wirth และ Chishti เริ่มพัฒนาเครื่องมือพลาสติกใส
สำหรับการจัดฟันขึ้นมา เพื่อหวังว่ามันจะเข้าไปแก้ไขปัญหาการจัดฟันแบบดั้งเดิม
ด้วยความที่ทั้ง 2 ผู้ก่อตั้ง มีพื้นฐานการศึกษาสาขาวิชาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์
พวกเขาก็ได้เริ่มจำลองอุปกรณ์ต้นแบบบนโปรแกรมออกแบบ 3 มิติ
ก่อนที่จะนำต้นแบบไปนำเสนอ จนมีคนสนใจเข้าร่วมเป็นพาร์ตเนอร์กับพวกเขาอีก 2 คน
ในที่สุด พวกเขาก็ได้นำไอเดียดังกล่าวมาก่อตั้งเป็นธุรกิจผลิตอุปกรณ์จัดฟันใส
ภายใต้บริษัทที่ชื่อว่า “Align Technology” ในปี 1997
Align Technology ได้นำเทคโนโลยีการออกแบบ 3 มิติและการพิมพ์ 3 มิติ
มาพัฒนาเป็นซอฟต์แวร์ของทางบริษัทเอง เพื่อนำไปใช้สำหรับจัดทำเครื่องมือจัดฟันใส
นอกจากนั้น บริษัทก็มีการนำปัญญาประดิษฐ์มาใช้ศึกษาข้อมูลคนไข้ใหม่
รวมถึงศึกษาจากข้อมูลฐานคนไข้เดิมเพื่อนำไปออกแบบเครื่องมือ
ให้เข้ากับรูปฟันของคนไข้แต่ละราย ทั้งหมดนี้ ถูกเรียกว่า “Invisalign System”
หลังจากก่อตั้งบริษัท 2 ปี อุปกรณ์จัดฟันใสของบริษัทก็ถูกพัฒนาขึ้นจนสำเร็จ
และก็ได้การรับรองจาก FDA หรือองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา
โดยบริษัทก็ได้เริ่มดำเนินธุรกิจตั้งแต่นั้นมาและสามารถจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq ได้
หลังจากก่อตั้งธุรกิจได้เพียง 4 ปี
และในปี 2011 บริษัทได้เข้าซื้อบริษัทพัฒนาเครื่องสแกนช่องปาก iTero
เพื่อนำมาพัฒนาระบบให้วิเคราะห์ปัญหาของคนไข้ได้ถูกต้องและแม่นยำมากขึ้น
แล้วปัจจุบัน Align Technology ใหญ่ขนาดไหน ?
ปัจจุบัน บริษัท Align Technology ดำเนินธุรกิจมา 24 ปี รักษาคนไข้และมีฐานข้อมูลคนไข้
อยู่บนระบบกว่า 10.2 ล้านเคส และได้ขยายฐานลูกค้าครอบคลุมแทบทุกช่วงอายุ
แบ่งกลุ่มคนไข้ออกเป็นวัยรุ่น 25% และผู้ใหญ่ 75%
หากเรามาดูผลประกอบการของ Align Technology ในช่วงที่ผ่านมา
ปี 2017 รายได้ 48,770 ล้านบาท กำไร 7,660 ล้านบาท
ปี 2018 รายได้ 64,730 ล้านบาท กำไร 13,250 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 79,500 ล้านบาท กำไร 14,660 ล้านบาท
จะเห็นได้ว่าบริษัทมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด
มีรายได้และกำไรเติบโตเฉลี่ย 28% และ 38% ต่อปี
สำหรับในปี 2020 บริษัทก็ยังคงเติบโต แต่เติบโตในอัตราที่ต่ำลง เนื่องจากผลกระทบจากโรคระบาดโควิด 19 บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 81,800 ล้านบาท และมีกำไร 58,800 ล้านบาท ซึ่งบริษัทมีรายการพิเศษทางบัญชี
จึงทำให้กำไรเพิ่มขึ้นมาก เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ในขณะเดียวกัน หากเรามาดูผลประกอบการ
ไตรมาสที่ 2 ปี 2021 ที่เพิ่งประกาศเมื่อไม่นานมานี้
ไตรมาสที่ 2 ปี 2020 รายได้ 11,670 ล้านบาท
ไตรมาสที่ 2 ปี 2021 รายได้ 33,457 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 187%
โดยการเติบโตเป็นผลมาจากการส่งมอบอุปกรณ์จัดฟันไปกว่า 665,500 เคส
สะท้อนให้เห็นว่า Invisalign ถือเป็นอีกธุรกิจที่มีความต้องการฟื้นตัวขึ้นมาทันที
หลังสถานการณ์โรคระบาดปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีแรก
นอกจากการเติบโตของรายได้และกำไรแล้ว ข้อมูลจากผลประกอบการของ Align Technology ก็ยังถือว่ามีอีกหลายจุดที่น่าสนใจ
เรื่องแรกก็คือ จริง ๆ แล้ว บริษัทแห่งนี้มีกำไรขั้นต้น หรือ รายได้หักต้นทุน ที่สูงมาก
เฉลี่ยย้อนหลัง 4 ไตรมาส สูงถึง 74% หมายความว่าเครื่องมือจัดฟันใสของ Align Technology
มีความสามารถในการตั้งราคาที่แพงได้และยังมีคนยอมจ่าย
อย่างไรก็ตาม บริษัทก็มีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการทำการตลาด ค่าคอมมิชชัน และเงินเดือนผู้บริหาร
สูงไม่แพ้กัน หรือที่เรียกรวมกันสั้น ๆ ว่า SG&A (Selling, General & Administrative Expenses)
ปี 2018 SG&A ต่อรายได้ คิดเป็น 43%
ปี 2019 SG&A ต่อรายได้ คิดเป็น 45%
ปี 2020 SG&A ต่อรายได้ คิดเป็น 49%
สำหรับค่าทำการตลาดก็เพื่อสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์ เนื่องจาก Invisalign
ยังนับว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศนอกสหรัฐอเมริกา
ในขณะที่ค่าคอมมิชชัน ในที่นี้ก็คือคลินิกหรือโรงพยาบาลที่นำ Invisalign ไปให้บริการ
ซึ่งจุดนี้ก็ถือเป็นการกระตุ้นยอดขายทางอ้อม ของบริษัท โดยที่มีคุณหมอฟันเป็นผู้แนะนำสินค้าให้
ถึงตรงนี้ ก็น่าติดตามกันต่อไปว่านวัตกรรมจัดฟันใส Invisalign จะเติบโตไปได้อีกไกลแค่ไหน
เพราะหากให้ดูจากจำนวนผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับฟันไม่เรียงกันเป็นระเบียบนั้น
มีจำนวนมากเป็น 6 ใน 10 ของประชากรโลก ซึ่งนั่นก็อาจจะหมายถึงโอกาสในการเติบโตที่ไม่น้อย
ซึ่งนักลงทุน ก็น่าจะเห็นศักยภาพในการเติบโต เหมือน ๆ กัน
เพราะปัจจุบัน Align Technology มีมูลค่าบริษัทมากถึง 1.8 ล้านล้านบาท
หลังจากทำธุรกิจมาได้เพียง 24 ปี ใหญ่กว่าทุกบริษัทในตลาดหุ้นไทย
และซื้อขายกันที่ P/E สูงถึง 80 เท่า เลยทีเดียว..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.washingtonpost.com/archive/lifestyle/wellness/1995/09/19/the-origins-of-orthodontics/3bf16abe-f5f1-4667-a143-54e5a5b77464/
-https://www.zippia.com/align-technology-careers-387/history/
-https://www.orchardscottsdental.com/the-startup-story-behind-invisalign/
-https://www.globenewswire.com/news-release/2021/01/21/2162193/0/en/Orthodontics-Market-Size-Worth-USD-10-60-Billion-by-2027-Surging-Demand-for-Cosmetic-Dentistry-Procedures-will-be-the-Key-Factor-Driving-the-Industry-Growth-States-Emergen-Research.html
-https://www.orthodonticslimited.com/orthodontics/orthodontics-history/
-https://investor.aligntech.com/static-files/c591d579-29b0-4abb-8dbc-31f10686c40b
-https://finance.yahoo.com/quote/ALGN/financials?p=ALGN
-https://investor.aligntech.com/static-files/766a6eaa-7cc7-4846-883b-ba65adcb1faa
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過6,060的網紅Faraz Wild Rift,也在其Youtube影片中提到,I managed to get my hands on Battlefield Hardline Beta Which was an Amazing Experience! You can download your own on your console's store directly or ...
origins sg 在 Bếp Thực Dưỡng Facebook 的最佳解答
HỌC HỎI BÍ KÍP SỐNG LÂU
Khi nói đến sống thọ, mọi người hay nghĩ tới Nhật Bản, nhưng thực ra tuổi thọ của người dân Hong Kong mới đang đứng đầu thế giới. Theo quan sát của mình, bí quyết nằm ở sự đơn giản, hiệu quả trong ăn uống, (cực kì) chăm chỉ làm việc, tập luyện. Không cần đi xa chỉ cần ra Chợ Lớn cũng học được cái hay của người Hoa Cantonese. Tinh hoa Sài Gòn theo mình chủ yếu đều từ đây ra. Nói vậy thôi chứ ko phải quán ăn người Hoa nào cũng chất lượng dưỡng sinh như tiệm Lâm Vinh Mậu, cẩn tắc vô ưu. Năm 2021 rồi , mọi thứ chỉ còn tương đối hic..
Không riêng gì HK, ở đâu càng giữ được Gốc (Đạo làm người) thì con người càng có nội hàm, duy trì được sự cân bằng, thì đương nhiên được cấp visa dài hạn. Đó là cả một nghệ thuật nói đéo với những thứ phù phiếm tân thời. Còn vừa visa dài hạn vừa minh mẫn là có lẽ còn là chuyện Nhân Quả và xổ số thiên đình. Bạn có tin 100% vào chuyện"Trời kêu ai nấy dạ"?
Mình thích chơi với các bác già trên 70, nghe những câu chuyện thật, bí quyết dưỡng sinh người thật việc thật, cách nuôi dạy con, làm người quân tử... chứ chỉ nghe mấy ông báo mạng chỉ là 1 nửa sự thật. Muốn tiến đến tương lai cứ nhìn vào quá khứ. Các bạn tìm trên youtube các clip của bác Lương Trùng Hưng (người gốc Hoa), Trần Ngọc Tài (người SG gốc Huế) rất hay. 2 bác đã U70 80 mà bền sức hết hồn. Ngoài chuyện ăn uống ra mình bắt chước dùng thuốc Bắc (người hiện đại giờ gọi là Thực Phẩm Chức Năng cho kêu) thêm từ chục năm nay, đây chính là chìa khóa 20% làm nên 80% sự khác biệt đấy. Còn nhiều bài lắm hãy tìm nghe.
Bạn nào muốn hiểu thêm về món ăn/ văn hóa người Hoa ở Chợ Lớn hay người Hong Kong có thể tham khảo các nguồn sau:
- Sách Chuyện Nhỏ Ở Chợ Lớn
- Sách Pàpá Mình Kiếm Món Gì Ngon Ăn Đi (Tản Mạn Ẩm Thực Chợ Lớn)
- Phim tài liệu Flavorful Origins trên Netflix
- Sách Hong Kong Food & Culture ebook tiếng Anh (inbox nếu quan tâm)
Món trong hình là Bánh Pía nhân hạt dẻ. Các tiệm "nổi tiếng" ở Chợ Lớn làm đều quá ngọt, choáng váng quá nên thử nghiệm thử, lỡ tay lại thành công mất rồi 😇
origins sg 在 Familystaysg Facebook 的最讚貼文
Two against the world or just mummy? These two getting indeed getting smarter and more witty with what they want. What to do, I feel liked how Malificent felt in this néw movie - trying to protect them from harm but knowing that it's not easy to let things be...
Though We all came dressed in black but the movie was painted in vibrant colors from the flowers, flowers to the costumes and wonderful digital effects. Pretty sure the dresses are going to have the little girls going waaaaaaaa~!
Always enjoyed Angelina Jolie movies as she always comes with that super/wonder woman vibe and, you know she will save the world again. But in this sequel, I was actually hoping to see more action from Elle fanning's character but she just remains the beautiful princess whom only weep and run that fast. Still need her godmother to save the day.
There will be more deeper understanding to how Malificent came about, and her origins, if you are looking for some Whimsical rebirth moments and believe that love prevails after all the bad things happened, then you don't miss out on this movie on 17 Oct!
Thanks so much @disneysingapore for this movie invite, definitely looking forward for the upcoming Frozen 2 as well!
.
.
.
.
#familystaysg
#malificent2
#malificentsg
#sgkids
#sgkidsmodel
#kidsootd
#kidslookbook
#igkids
#instakids
#sgchild
#sgfamily
#cutekiss
#disneysingapore
#goldenvillage
#sg
#momentsofmine
#motherofboys @ Golden Village at VivoCity
origins sg 在 Faraz Wild Rift Youtube 的最讚貼文
I managed to get my hands on Battlefield Hardline Beta Which was an Amazing Experience! You can download your own on your console's store directly or use this link if you are on PC:
https://www.origin.com/en-sg/store/buy/battlefield-hardline/pc-download/base-game/digital-deluxe-edition
..........
Thanks for all the support and be sure to check out the links below :))
Facebook: https://www.facebook.com/FarazGaming?ref=hl
Twitter: https://twitter.com/FarazGaming
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UC5MQrkdc0bxMNdEDbPaG7Jg/feed
..........
Music By:
Ahrix - Nova
NCS Version
Link: https://www.youtube.com/watch?v=FjNdYp2gXRY