BP บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ ที่วันนี้ต้องปรับตัว /โดย ลงทุนแมน
“มากกว่า 600,000 ล้านบาท” คือการขาดทุนในปีล่าสุด ของ British Petroleum หรือเรียกสั้นๆ ว่า BP
หนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งอุตสาหกรรมน้ำมันของอังกฤษ
หลายคนคงพอรู้กันแล้วว่า ช่วงที่ผ่านมา
อุตสาหกรรมน้ำมันทั่วโลกกำลังเจอความท้าทายอย่างหนัก
ทั้งจากสงครามราคาน้ำมัน การระบาดของโควิด 19
รวมไปถึง แนวโน้มการเปลี่ยนผ่านการใช้พลังงาน สู่พลังงานทดแทนในอนาคต
แล้ว BP ในตอนนี้ กำลังเจ็บหนักแค่ไหน
แล้วพวกเขามีแผนรับมือกับเรื่องนี้อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะมาสรุปให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
British Petroleum หรือ BP เป็นบริษัทน้ำมันและก๊าซขนาดใหญ่ของอังกฤษ
ซึ่งถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1909 หรือ 112 ปีที่แล้ว
ความยิ่งใหญ่ในอดีตที่ผ่านมาของ BP
ทำให้บริษัทถูกจัดอยู่ 1 ใน 7 บริษัทน้ำมันและก๊าซรายใหญ่ของโลก
ร่วมกับ Chevron, Eni, ExxonMobil, Royal Dutch Shell, Total และ ConocoPhillips
ซึ่ง 7 รายที่ว่านี้ ในวงการน้ำมัน เรียกกันว่า “Supermajors”
แต่ในปี 2020 ที่ผ่านมานั้น
ถือว่าเป็นปีที่สร้างความท้าทายให้กับอุตสาหกรรมน้ำมันอย่างหนัก
เมื่อราคาน้ำมันดิบทั่วโลกปรับตัวลดลงอย่างมาก
ซึ่งเหตุผลหลักเกิดมาจาก
- สงครามราคาน้ำมันระหว่างรัสเซีย และซาอุดีอาระเบีย ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2020
- การระบาดของโควิด 19 ที่เริ่มหนักขึ้นทั่วโลก ตั้งแต่ต้นปี 2020 มาจนถึงปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม สองเรื่องนี้ อาจดูเป็นผลกระทบเพียงชั่วคราว
เมื่อสงครามน้ำมันคลี่คลาย ราคาน้ำมันก็ดีดตัวกลับมา
และเมื่อสถานการณ์โควิด 19 คลี่คลาย ราคาน้ำมันก็คงปรับตัวสูงขึ้นได้อีกครั้ง
แต่เรื่องที่ดูเหมือนจะสร้างความท้าทาย
ให้กับอุตสาหกรรมน้ำมันมากที่สุดในตอนนี้
คือแนวโน้มของการใช้พลังงานในอนาคตที่กำลังเปลี่ยนไป
ในตอนนี้ ทั่วโลกกำลังเริ่มเข้าสู่ช่วงของการเปลี่ยนผ่าน
เปลี่ยนผ่านจากการใช้พลังงานจากน้ำมัน ไปเป็นพลังงานทดแทนมากขึ้น
ซึ่งพลังงานทดแทนในที่นี้ ก็อย่างเช่น พลังงานลม พลังงานน้ำ และพลังงานจากแสงอาทิตย์
หากเราลองมองย้อนกลับไป ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
รู้ไหมว่า การบริโภคน้ำมันทั่วโลกนั้นเพิ่มขึ้นเพียง 5.7% เท่านั้น
- ปี 2010 การบริโภคน้ำมันทั่วโลกต่อวันเท่ากับ 86.4 ล้านบาร์เรล
- ปี 2020 การบริโภคน้ำมันทั่วโลกต่อวันเท่ากับ 91.3 ล้านบาร์เรล
ส่วนการใช้พลังงานทดแทน ก็เริ่มมีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ
ยกตัวอย่างเช่น การนำมาผลิตไฟฟ้า
ลองมาดูสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าทั่วโลก ที่ผลิตมาจากพลังงานทดแทน
- ปี 2010 สัดส่วนการผลิตไฟฟ้าทั่วโลกมาจากพลังงานทดแทน 19%
- ปี 2019 สัดส่วนการผลิตไฟฟ้าทั่วโลกมาจากพลังงานทดแทน 27%
และมีการคาดการณ์กันว่า พลังงานทดแทนจะมีสัดส่วนในการผลิตไฟฟ้าทั่วโลกถึง 45% ในปี 2040
นอกจากนี้ องค์กรพลังงานระหว่างประเทศ หรือ International Energy Agency
ก็ได้ระบุว่า 90% ของโรงไฟฟ้าที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ทั่วโลกในปี 2020 เป็นการใช้พลังงานทดแทน เพื่อมาผลิตกระแสไฟฟ้า
ขณะที่มีเพียง 10% เท่านั้น ที่ยังเป็นการใช้น้ำมัน และถ่านหินมาผลิตไฟฟ้าอยู่
ความท้าทายหลากหลายที่ว่ามานี้
ทำให้บริษัทน้ำมันหลายแห่งกำลังบอบช้ำอย่างหนัก ซึ่งก็รวมทั้ง BP
สะท้อนออกมาที่ผลประกอบการของบริษัท
ที่มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
ผลประกอบการของ British Petroleum
ปี 2018 รายได้ 8.9 ล้านล้านบาท กำไร 2.8 แสนล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 8.3 ล้านล้านบาท กำไร 1.2 แสนล้านบาท
ปี 2020 รายได้ 5.4 ล้านล้านบาท ขาดทุน 6.1 แสนล้านบาท
ที่น่าสนใจคือ การขาดทุนครั้งนี้
ยังถือเป็นการขาดทุนทั้งปีครั้งแรกในรอบ 10 ปี ของ BP อีกด้วย
พอเป็นแบบนี้ บริษัทจึงจำเป็นต้องลดจำนวนพนักงานทั่วโลกลงกว่า 10,000 ตำแหน่ง ในปีที่ผ่านมา
การขาดทุนอย่างหนักในปีล่าสุด
รวมทั้งแนวโน้มการลดการพึ่งการใช้น้ำมันในอนาคต
ยังสะท้อนออกมาที่มูลค่าบริษัทของ BP ที่ลดลงมาเหลือเพียง 2.3 ล้านล้านบาท
เทียบกับมูลค่าบริษัทของบริษัท BP เมื่อปี 2010 ที่เคยสูงถึง 4.1 ล้านล้านบาท
หรือหายไปเกือบครึ่งในระยะเวลาประมาณ 10 ปี
อย่างไรก็ตาม เมื่อการใช้พลังงานมีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงไปในอนาคต
BP ก็เริ่มตื่นตัว และหันเข้าหาการลงทุนในโครงการที่เกี่ยวข้องกับพลังงานสะอาดเพิ่มมากขึ้น
โดย BP ได้เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในพลังงานสะอาด
จาก 15,000 ล้านบาท ในปี 2019 มาเป็น 150,000 ล้านบาท ภายในปี 2030
หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 10 เท่า ภายใน 10 ปี ข้างหน้านี้
ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า
อนาคตของ BP หลังจากการปรับตัวครั้งนี้จะเป็นอย่างไร
แต่ที่แน่ๆ เรื่องนี้ก็ทำให้เราได้เห็นว่า
ธุรกิจที่เคยครองความยิ่งใหญ่ และรุ่งโรจน์ในอดีต
มันอาจไม่ได้เป็นแบบนั้นตลอดไป ก็เป็นได้..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.bp.com/en/global/corporate/news-and-insights/press-releases/from-international-oil-https://www.statista.com/statistics/271823/daily-global-crude-oil-demand-since-2006/
-https://en.wikipedia.org/wiki/BP
-https://finance.yahoo.com/quote/BP/financials?p=BP
-https://www.ft.com/content/d89f65d1-0c73-4575-aa11-8e770f8d90bd
- https://www.eia.gov/dnav/pet/hist/rbrteD.htm
-https://www.bbc.com/news/explainers-52966609
-company-to-integrated-energy-company-bp-sets-out-strategy-for-decade-of-delivery-towards-net-zero-ambition.html
-https://www.theguardian.com/environment/2020/nov/10/renewable-energy-covid-19-record-growth-2020
-https://www.iea.org/data-and-statistics/charts/shares-of-global-electricity-generation-by-source-2000-2040
-https://www.greentechmedia.com/articles/read/bp-to-invest-5b-a-year-on-low-carbon-and-cut-fossil-fuel-output-by-40-percent-by-2030
pet statistics 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
สรุป อุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ กำลังวิกฤติในรอบ 21 ปี /โดย ลงทุนแมน
“ผมไม่มีทางปล่อยให้อุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐฯ พังทลายลงมาอย่างแน่นอน”
นี่คือ คำพูดของดอนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
ปัจจุบัน อุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐฯ มีมูลค่ากว่า 57 ล้านล้านบาท ใหญ่กว่า GDP ของประเทศไทยถึง 3 เท่า แต่ขณะนี้ราคาน้ำมันกำลังทำจุดต่ำสุดในรอบ 21 ปี
อุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐฯ กำลังเจอความท้าทายแค่ไหน
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit แหล่งรวมบทความวิเคราะห์
เจาะลึกแบบ deep content
ล่าสุดมีฟีเจอร์พอดแคสต์แล้ว
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ก่อนอื่นเราไปดูภาพรวมอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐฯ กันก่อน
ปัจจุบัน สหรัฐฯ คือประเทศที่ผลิตน้ำมันมากที่สุดในโลก
ในปี 2019 สหรัฐฯ ผลิตน้ำมันดิบเท่ากับ 15 ล้านบาร์เรลต่อวัน ประมาณ 19% ของปริมาณการผลิตทั้งโลก และที่น่าสนใจคือ การผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ นั้นเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า ภายในระยะเวลาเพียง 10 ปี
สิ่งสำคัญที่ทำให้สหรัฐฯ กลายมาเป็นผู้ผลิตน้ำมันมากที่สุดในโลกคือ พัฒนาการของ Shale Oil ที่เติบโตแบบก้าวกระโดดในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา
ปี 2010 การผลิตน้ำมันจาก Shale Oil เท่ากับ 0.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ปี 2019 การผลิตน้ำมันจาก Shale Oil เท่ากับ 7.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ปัจจุบัน การผลิตน้ำมันจาก Shale Oil ของสหรัฐฯ นั้นมีสัดส่วนถึง 51% ของการผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ
แน่นอนว่า พัฒนาการของการผลิตน้ำมันในสหรัฐฯ ส่งผลให้อุตสาหกรรมน้ำมันเติบโตจากอดีตเป็นอย่างมาก
วันนี้อุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐฯ มีมูลค่าสูงถึง 57 ล้านล้านบาท หรือประมาณ 8% ของ GDP สหรัฐฯ และมีการจ้างงานสูงกว่า 10 ล้านคน
พูดให้เห็นภาพง่ายๆ ก็คือ เฉพาะแค่มูลค่าอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐฯ เพียงอุตสาหกรรมเดียวมีมูลค่าเท่ากับ GDP ของแคนาดาทั้งประเทศ รวมทั้งยังใหญ่กว่า GDP ของประเทศไทยถึง 3 เท่า
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าการเกิดขึ้นของ Shale Oil เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่กดดันราคาน้ำมันดิบในช่วงหลายปีมานี้ และตอนนี้เมื่อมาเจอกับการระบาดของไวรัส Covid-19 จนทำให้ความต้องการน้ำมันนั้นลดลงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และการลดลงของปริมาณการเดินทาง จึงทำให้ราคาน้ำมันดิบนั้นลดลงแบบดิ่งเหว
ดังนั้น จึงไม่แปลกที่ดอนัลด์ ทรัมป์ จะรับไม่ได้ ถ้าอุตสาหกรรมน้ำมันของประเทศต้องพังทลายลงมา เพราะจะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อย่างมหาศาล
ปัจจุบัน ราคาน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) ซึ่งเป็นราคาอ้างอิงของน้ำมันในแถบอเมริกาเหนือ มีราคาอยู่ที่ประมาณ 16 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งลดลงมาแล้ว 73% จากปลายปี 2019
และเรื่องนี้กำลังส่งผลกระทบอย่างหนักต่อบริษัทน้ำมันในสหรัฐฯ ณ ตอนนี้
โดยคาดกันว่า ณ ระดับราคาน้ำมันที่ 20 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จะมีบริษัทสำรวจและผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ ล้มละลายถึง 530 บริษัท
ณ ระดับราคาน้ำมันที่ 10 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จะมีบริษัทสำรวจและผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ ล้มละลายถึง 1,100 บริษัท
ซึ่งแน่นอนว่า นี่แค่บริษัทสำรวจและผลิตน้ำมันเท่านั้น ยังไม่รวมบริษัทที่ให้บริการในอุตสาหกรรม หรือบริษัทที่ขายอุปกรณ์และเครื่องมือให้แก่บริษัทสำรวจและผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ อีกหลายแห่ง
พอเรื่องเป็นแบบนี้ จึงทำให้บริษัทพลังงานหลายแห่งต้องตัดลบงบประมาณการลงทุนลง หลังจากราคาน้ำมันที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง
Exxon Mobil ลดงบการลงทุนกว่า 330,000 ล้านบาท
Chevron ลดงบการลงทุนกว่า 130,000 ล้านบาท
การลดลงของงบการลงทุนของบริษัทพลังงานเหล่านี้ จะส่งผลกระทบต่อการจ้างงานและเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ซึ่งแน่นอนว่า เรื่องนี้กำลังสร้างความท้าทายอย่างมากต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และดอนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเราก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า สุดท้ายแล้วเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้ามีราคาติดลบ ซึ่งสัญญาซื้อขายน้ำมันดิบที่ส่งมอบในเดือนพฤษภาคมมีราคา -37 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
เรื่องนี้หมายความว่าอย่างไร?
การติดลบของราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าคือ นักลงทุนที่ทำการซื้อขายสัญญาล่วงหน้า ที่ใช้น้ำมันดิบเป็นสินทรัพย์อ้างอิงไม่ต้องการเก็บสัญญาดังกล่าวไว้
เนื่องจากผู้ถือสัญญาดังกล่าว ที่ทำการรับมอบน้ำมันดิบจริง จะต้องทำการหาที่เก็บน้ำมันดิบ ซึ่งแน่นอนว่าต้นทุนในการจัดเก็บจะสูงกว่าการถือสัญญาดังกล่าวไว้ จึงทำให้นักลงทุนจำนวนมากทำการขายสัญญาดังกล่าวที่กำลังจะหมดอายุลงจนทำให้ราคาติดลบ
ปัจจุบัน ศูนย์กลางในการส่งมอบน้ำมันดิบจริงๆ ในสหรัฐฯ เกิดขึ้นที่เมือง Cushing ในรัฐ Oklahoma ซึ่ง ณ ตอนนี้มีความสามารถในการเก็บน้ำมันได้สูงสุดที่ 76 ล้านบาร์เรล
ขณะที่ปัจจุบัน ที่นี่จัดเก็บน้ำมันดิบไปแล้วกว่า 59 ล้านบาร์เรล หรือ 78% ของความจุ แต่ที่น่าสนใจคือ พื้นที่การจัดเก็บที่เหลือนั้น ก็มีลูกค้าติดต่อมาทำสัญญาใช้จนเต็มกำลังความจุแล้ว
นั่นหมายความว่า ถ้าความต้องการน้ำมันยังไม่ฟื้นตัวในอนาคตอันใกล้ ไม่แน่ว่าเราอาจเห็นราคาน้ำมันดิบซื้อขายล่วงหน้าในเดือนถัดๆ ไป กลับมาติดลบอีกครั้งก็เป็นได้..
╔═══════════╗
Blockdit แหล่งรวมบทความวิเคราะห์
เจาะลึกแบบ deep content
ล่าสุดมีฟีเจอร์พอดแคสต์แล้ว
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://www.ft.com/content/5f25bf72-6a0c-4b8e-abd4-63b9847b1578
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_countries_by_oil_production
-https://www.api.org/~/media/Files/Policy/Taxes/DM2018-086_API_Fair_Share_OnePager_FIN3.pdf
-https://www.api.org/news-policy-and-issues/taxes/oil-and-natural-gas-contribution-to-us-economy-fact-sheet
-https://www.statista.com/statistics/269959/employment-in-the-united-states/
-https://www.eia.gov/dnav/pet/hist/LeafHandler.ashx?n=PET&s=RWTC&f=M
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_countries_by_GDP_(nominal)
-https://edition.cnn.com/2020/04/20/business/oil-price-crash-bankruptcy/index.html
-https://www.eia.gov/tools/faqs/faq.php?id=847&t=6
-https://www.iea.org/data-and-statistics/charts/us-shale-oil-prospects-2010-2024
-https://www.macrotrends.net/2562/us-crude-oil-production-historical-chart
-https://en.wikipedia.org/wiki/Cushing,_Oklahoma
- https://www.eia.gov/dnav/pet/hist/LeafHandler.ashx?n=PET&s=W_EPC0_SAX_YCUOK_MBBL&f=W
pet statistics 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
อนาคตของรัสเซีย ในช่วง ราคาน้ำมันตกต่ำ /โดย ลงทุนแมน
ไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันที่กำลังทำจุดต่ำสุดในรอบ 18 ปี แน่นอนว่าส่งผลกระทบทั้งในระดับบริษัทและประเทศที่มีรายได้มาจากอุตสาหกรรมน้ำมัน หนึ่งในนั้นรวมถึงรัสเซีย..
แล้วรัสเซียจะได้รับผลกระทบจากสงครามราคาน้ำมันที่ตนเองก่อไว้มากแค่ไหน
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit แหล่งรวมบทความวิเคราะห์
เจาะลึกแบบ deep content
ล่าสุดมีฟีเจอร์พอดแคสต์แล้ว
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
รัสเซียเป็นประเทศที่มีขนาดพื้นที่เท่ากับ 17.1 ล้านตารางกิโลเมตร
ซึ่งด้วยพื้นที่ขนาดนี้ ทำให้รัสเซียเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก
โดยใหญ่กว่าประเทศไทย 33 เท่า
ด้วยพื้นที่ที่ใหญ่มหาศาล ทำให้รัสเซียนั้นครอบครองทรัพยากรธรรมชาติมีค่าจำนวนมาก เช่น น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน และแร่มีค่าต่างๆ
โดยธนาคารโลกนั้นประเมินว่า มูลค่าทรัพยากรธรรมชาติของรัสเซียมีมูลค่ากว่า 2,400 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนถึง 86% ของมูลค่า GDP ปัจจุบันของโลกที่ 2,800 ล้านล้านบาท
รัสเซียยังเป็นประเทศที่มีแหล่งน้ำมันดิบสำรองเท่ากับ 80,000 ล้านบาร์เรล สูงที่สุดเป็นอันดับที่ 8 ของโลก
ขณะที่ ถ้าเราใช้ราคาน้ำมันดิบ (เบรนท์) ณ ปัจจุบันที่ประมาณ 33 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล แหล่งน้ำมันดิบสำรองของรัสเซียจะมีมูลค่าสูงถึง 84 ล้านล้านบาท
ปัจจุบัน รัสเซียเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่อันดับที่ 3 ของโลก โดยผลิตวันละ 10.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน
หมายความว่า รัสเซียจะสามารถผลิตน้ำมันดิบจากแหล่งที่มีอยู่ไปได้อีกไม่ต่ำกว่า 21 ปี
ปี 2019 มูลค่าการส่งออกทั้งหมดของรัสเซียเท่ากับ 13.5 ล้านล้านบาท ซึ่ง 52% หรือประมาณ 7.1 ล้านล้านบาท เกิดจากการส่งออกผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม
แล้วรายได้จากการส่งออกน้ำมันของรัสเซียมีสัดส่วนเท่าไรต่อรายรับของรัฐบาล
ปี 2017 จำนวน 2.5 ล้านล้านบาท คิดเป็น 40% ของรายรับของรัฐบาล
ปี 2018 จำนวน 3.8 ล้านล้านบาท คิดเป็น 46% ของรายรับของรัฐบาล
ปี 2019 จำนวน 3.3 ล้านล้านบาท คิดเป็น 39% ของรายรับของรัฐบาล
ดูแบบนี้ แทบไม่ต้องแปลกใจว่า รายได้จากอุตสาหกรรมน้ำมันนั้น มีความสำคัญต่อรายรับของรัฐบาลรัสเซียมากแค่ไหน
จะเห็นว่า ในปี 2019 รายรับของรัฐบาลรัสเซียจากอุตสาหกรรมน้ำมันลดลงไปประมาณ 500,000 ล้านบาท
เนื่องจากราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยในปี 2019 ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2018
พอเรื่องเป็นแบบนี้ จึงทำให้หลายคนคาดว่า รัสเซียอาจเจอกับภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ เพราะเมื่อ 6 ปีที่แล้วเศรษฐกิจของรัสเซียเคยเข้าสู่ภาวะวิกฤติซึ่งเกิดจากการตกต่ำของราคาน้ำมันดิบที่ลดเกือบเท่าตัวในช่วงเวลาเพียงแค่ 1 ปี
ปี 2014 ราคาน้ำมันดิบ (เบรนท์) เฉลี่ยเท่ากับ 99 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
ปี 2015 ราคาน้ำมันดิบ (เบรนท์) เฉลี่ยเท่ากับ 52 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
เมื่อรวมกับการที่ประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจดำเนินมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียหลังจากที่รัสเซียรุกรานดินแดนยูเครน ทำให้รัสเซียเข้าสู่ภาวะวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2014
ซึ่งแน่นอนว่า รัสเซียตอบโต้ประเทศที่คว่ำบาตรด้วยการลดการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ไม่ให้เข้ามาขายในรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม เมื่อสินค้านำเข้าลดลง ส่งผลให้ราคาสินค้าในประเทศเพิ่มสูงขึ้นจนนำไปสู่ภาวะเงินเฟ้อจากปี 2014 อยู่ที่ 8% เพิ่มขึ้นเป็น 16% ในปี 2015
พอเรื่องเป็นแบบนี้ จึงส่งผลให้นักลงทุนจำนวนมากขาดความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจของรัสเซีย นำไปสู่การขายสินทรัพย์ที่อยู่ในรูปสกุลเงินรูเบิล จนทำให้ค่าเงินรูเบิลอ่อนค่าลงอย่างหนัก
พฤศจิกายน ปี 2013 เงิน 1 ดอลลาร์สหรัฐเท่ากับ 32.99 รูเบิล
กุมภาพันธ์ ปี 2015 เงิน 1 ดอลลาร์สหรัฐเท่ากับ 66.03 รูเบิล
ปัจจุบัน เงิน 1 ดอลลาร์สหรัฐเท่ากับ 75.44 รูเบิล
ซึ่งการอ่อนค่าลงของเงินรูเบิล ทำให้บริษัทรัสเซียจำนวนมากมีภาระหนี้สินในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐมากขึ้น และเกิดปัญหาในการจ่ายดอกเบี้ยที่เป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ ธนาคารกลางรัสเซียได้นำทุนสำรองระหว่างประเทศออกมาพยุงค่าเงินรูเบิล ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ทุนสำรองระหว่างประเทศของรัสเซียลดลงกว่า 4 ล้านล้านบาทในช่วงระหว่างปี 2014-2015
แต่ค่าเงินรูเบิลของรัสเซียก็ยังอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ธนาคารกลางต้องหยุดการนำเงินทุนสำรองออกมาพยุงค่าเงินรูเบิล แล้วหันมาใช้วิธีขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 10.5% เพิ่มไปถึง 17% ในเดือนธันวาคมปี 2014 เพื่อยับยั้งการอ่อนค่าของเงินรูเบิล
ขณะที่ดัชนี RTS Index ที่รวมหุ้นขนาดใหญ่ 50 ตัวในตลาดหุ้น Moscow ในช่วงระหว่างปี 2014-2015 ปรับตัวลดลงประมาณ 50%
กลับมาที่ปัจจุบัน น่าสนใจว่าสงครามราคาน้ำมันที่กำลังเกิดขึ้นระหว่างรัสเซียกับซาอุดีอาระเบีย ได้ทำให้ราคาน้ำมันดิบลดลงไป 63% จากปลายปี 2019 ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดในรอบ 18 ปี ก่อนที่จะปรับตัวขึ้นมาบ้าง แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับต่ำอยู่
สิ่งที่น่าคิดต่อมาก็คือ
ถ้าสถานการณ์ยังลากยาวไปเรื่อยๆ แบบนี้
รัสเซียก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดวิกฤติเศรษฐกิจเหมือนตอนนั้นอีกครั้ง
แต่เมื่อมองไปทั่วโลกตอนนี้
ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่แค่รัสเซียประเทศเดียวที่กำลังจะเจอปัญหา
ทุกประเทศที่พึ่งพาน้ำมัน
ทุกประเทศที่พึ่งพาการท่องเที่ยว
ทุกประเทศที่พึ่งพาการส่งออก
ดูเหมือนว่าจะมีอีกหลายประเทศที่กำลังย่ำแย่ ในอนาคตอันใกล้นี้..
╔═══════════╗
Blockdit แหล่งรวมบทความวิเคราะห์
เจาะลึกแบบ deep content
ล่าสุดมีฟีเจอร์พอดแคสต์แล้ว
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_countries_and_dependencies_by_area
-https://en.wikipedia.org/wiki/Economy_of_Russia
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_countries_by_GDP_(nominal)
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_countries_by_proven_oil_reserves
-http://www.worldstopexports.com/worlds-top-oil-exports-country/
-https://www.statista.com/statistics/1028682/russia-federal-budget-oil-and-gas-revenue/
-http://www.worldstopexports.com/russias-top-import-partners/
-https://www.eia.gov/dnav/pet/hist/rbrteM.htm
-https://russiabusinesstoday.com/economy/russias-duma-approves-amendments-to-russias-state-budget/
-https://www.minfin.ru/en/statistics/fedbud/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Russian_financial_crisis_(2014–2017)
-https://en.wikipedia.org/wiki/RTS_Index
-https://www.macrotrends.net/countries/RUS/russia/inflation-rate-cpi
-https://data.worldbank.org/indicator/NY.GDP.MKTP.CD?locations=RU
pet statistics 在 US pet ownership statistics - American Veterinary Medical ... 的相關結果
Companion animals ; Percent of households owning, 38.4, 25.4 ; Number of households owning, 48,255,413, 31,896,077 ; Average number owned per household, 1.6, 1.8 ... ... <看更多>
pet statistics 在 Pets by the Numbers: 40 Pet Statistics & Facts (2022 Update) 的相關結果
Top 10 Pet Statistics for 2022. Around 1 in 10 people are allergic to pets. There are around 5,000 tigers kept as pets in the United States. ... <看更多>
pet statistics 在 Pet Statistics | Shelter Intake and Surrender | ASPCA 的相關結果
Facts about Pet Ownership in the U.S.: · It's estimated that 78 million dogs and 85.8 million cats are owned in the United States. · Approximately 40% of dog ... ... <看更多>