รัฐอิลลินอยส์ ประชากร 12 ล้านคน แต่มี GDP มากกว่าไทย /โดย ลงทุนแมน
ถ้าเราอยากกินแฮมเบอร์เกอร์จานด่วน หนึ่งในตัวเลือกที่อยู่ในหัวของเราคงหนีไม่พ้น
McDonald's ซึ่งเป็นเชนร้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ถ้าเราอยากกินขนมคุกกี้สอดไส้ครีม เชื่อว่า Oreo ก็คงเป็นหนึ่งในตัวเลือกของเรา
ที่มีจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อทุกแห่ง
หรือถ้าเราเดินทางโดยเครื่องบิน เราอาจพบว่าเครื่องบินของสายการบินที่เรานั่งอยู่นั้น
ถูกผลิตโดยบริษัท Boeing
รู้หรือไม่ว่า แบรนด์ทั้งหมดที่กล่าวมานั้นล้วนเป็นบริษัทที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในรัฐอิลลินอยส์
ซึ่งเป็นรัฐที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 5 ของสหรัฐอเมริกา
เป็นที่ตั้งของเมืองชิคาโก เมืองใหญ่อันดับ 3 และศูนย์กลางการขนส่งที่สำคัญของทวีปอเมริกาเหนือ
รัฐอิลลินอยส์มี GDP สูงถึง 27 ล้านล้านบาท
ซึ่งใหญ่เป็น 1.6 เท่าของ GDP ประเทศไทย ทั้งที่มีประชากรน้อยกว่าไทย 5 เท่า
ถ้าสมมติให้รัฐอิลลินอยส์เป็นประเทศแล้ว
จะทำให้รัฐอิลลินอยส์ มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 18 ของโลก
อะไรที่ทำให้รัฐที่มีประชากรเพียง 12 ล้านคน กลายเป็นรัฐที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่กว่าประเทศไทย ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
รัฐอิลลินอยส์ตั้งอยู่ภาคกลางของสหรัฐอเมริกา บนที่ราบใหญ่ หรือเกรตเพลนส์
ซึ่งเป็นเขตที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดของทวีปอเมริกาเหนือ
ด้วยขนาดพื้นที่ราว 149,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งมีขนาดใกล้เคียงกับภาคอีสานของไทย
ที่มาของชื่อ “อิลลินอยส์” มาจากนักสำรวจและมิชชันนารีชาวฝรั่งเศส ซึ่งเป็นชาวยุโรปชาติแรกที่เข้ามายังดินแดนนี้ในแถบแม่น้ำอิลลินอยส์ โดยชื่อของดินแดนในแถบนี้มาจากการตั้งชื่อตามชนพื้นเมืองอิลลินีเวกที่อาศัยอยู่แถวนี้
จักรวรรดิฝรั่งเศสได้นำดินแดนแห่งนี้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิอเมริกาเหนือของฝรั่งเศส
ซึ่งอาณานิคมแห่งนี้ยังรวมไปถึงดินแดนในรัฐควิเบกและดินแดนส่วนอื่น ๆ ของแคนาดาในปัจจุบัน
หลังจากนั้น เกิดสงครามแย่งชิงดินแดนในทวีปอเมริกาเหนือระหว่างจักรวรรดิฝรั่งเศสและจักรวรรดิอังกฤษ และเป็นฝ่ายจักรวรรดิอังกฤษที่ได้รับชัยชนะในสงคราม ทำให้ดินแดนส่วนใหญ่ในบริเวณนี้ตกเป็นส่วนหนึ่งของอาณานิคมอังกฤษหรือในตอนนั้นเรียกว่าบริติชอเมริกา
ไม่นานก็เกิดสงครามระหว่างประชาชนในอาณานิคมกับเจ้าอาณานิคมอังกฤษ ผลจากสงครามทำให้บริติชอเมริกาได้รับเอกราชในปี 1776 และก่อตั้งประเทศสหรัฐอเมริกาได้ในที่สุด
การเป็นประเทศสหรัฐอเมริกานั้น ส่งผลให้มีดินแดนอื่น ๆ ทยอยรวมตัวกันเป็นรัฐหนึ่งของสหรัฐอเมริกา ซึ่งดินแดนอิลลินอยส์ก็ได้เข้าไปเป็นรัฐที่ 21 ของสหรัฐอเมริกาในปี 1818
ด้วยความที่เป็นรัฐที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ราบอันอุดมสมบูรณ์ ประกอบกับอุณหภูมิที่พอเหมาะแก่การทำการเกษตรและปศุสัตว์ รวมถึงการที่มีแหล่งน้ำที่พอเหมาะ จึงทำให้มีการทำการเกษตรกันตั้งแต่ก่อนจะเป็นรัฐหนึ่งของสหรัฐอเมริกาแล้ว โดยพืชผลที่สามารถเติบโตได้ดีในรัฐนี้ก็คือ ข้าวโพด ถั่วเหลือง และข้าวสาลี
แต่หลังจากที่ได้เป็นรัฐหนึ่งของสหรัฐอเมริกา สิ่งแรกที่คณะผู้บริหารรัฐทำก็คือ ก่อตั้งหน่วยงานการเกษตร Illinois Agricultural Association ในปี 1919 และภายหลังก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น The Illinois Department of Agriculture
โดยหน้าที่หลักของหน่วยงานนี้ก็คือ การกำหนดข้อบังคับ สนับสนุนด้านเงินทุน และให้ความรู้ต่าง ๆ ในการทำการเกษตรภายในรัฐ เช่น การให้ความรู้เรื่องปุ๋ยและน้ำ การปล่อยเงินกู้ให้กับเหล่าเกษตรกรในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ การกำหนดราคาผลผลิตทางการเกษตร ทั้งยังมีการช่วยเหลือและให้ความรู้ทางด้านการส่งออกผลผลิตไปยังต่างประเทศอีกด้วย
และยังมีการจัดงาน Illinois State Fair ในทุก ๆ ปี เพื่อที่จะโปรโมตสินค้าเกษตรที่ผลิตภายในรัฐอีกด้วย
ด้วยประโยชน์ทางด้านพื้นดิน น้ำ สภาพอากาศ และการสนับสนุนจากทางภาครัฐ
ส่งผลให้มีฟาร์มการเกษตรและปศุสัตว์ในรัฐอิลลินอยส์อยู่มากถึง 72,000 แห่ง โดยส่วนใหญ่จะเป็นฟาร์มข้าวโพดและถั่วเหลือง
ซึ่งถ้ารวมพื้นที่ฟาร์มทั้งหมดในรัฐ จะมีขนาดพื้นที่ 100,000 ตารางกิโลเมตร
คิดเป็นขนาดพื้นที่ถึง 75% ของรัฐอิลลินอยส์
รัฐอิลลินอยส์เป็นรัฐที่สามารถผลิตสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะถั่วเหลือง
ซึ่งผลิตได้มากที่สุดในสหรัฐอเมริกาด้วยผลผลิตกว่า 16 ล้านตัน
และยังสามารถผลิตข้าวโพดได้มากถึง 64 ล้านตัน เป็นอันดับ 2 ของประเทศ
มูลค่าการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ทั้งหมดที่ผลิตในรัฐอิลลินอยส์
จึงมีมูลค่าสูงถึง 257,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์มากที่สุด
Top 3 ของสหรัฐอเมริกา
ด้วยการเป็นศูนย์กลางเกษตรกรรมที่สำคัญของประเทศ รัฐอิลลินอยส์จึงเป็นแหล่งกำเนิด
และที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัท John Deere หนึ่งในบริษัทรถแทรกเตอร์
และเครื่องจักรทางการเกษตรที่ใหญ่ที่สุดในโลก..
นอกจากภาคการเกษตรแล้ว ด้วยทำเลที่ตั้งที่อยู่ใจกลางประเทศ อีกหนึ่งกิจกรรมทางเศรษฐกิจของรัฐแห่งนี้ก็คือ “ภาคการขนส่ง”
ถ้าสินค้าที่ผลิตในรัฐตอนกลางของสหรัฐอเมริกาต้องการส่งออกไปยังยุโรป เอเชีย หรือภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วโลก จำเป็นที่ต้องลำเลียงสินค้าเหล่านี้ผ่านทางรัฐอิลลินอยส์ ไม่ว่าจะเป็นทางถนนหรือทางรถไฟ
โดยอุตสาหกรรมหลักในรัฐตอนกลางที่ต้องลำเลียงผ่านรัฐอิลลินอยส์ เช่น
อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอุปกรณ์ไฟฟ้าจากรัฐมิชิแกนและรัฐวิสคอนซิน
ไปจนถึงผลิตผลทางการเกษตรจากรัฐมินนิโซตาและรัฐไอโอวา
ด้วยความที่รัฐอิลลินอยส์เป็นที่ตั้งของเมืองชิคาโก
หนึ่งในเมืองที่มีความสำคัญในการขนส่งสินค้ามากที่สุดในสหรัฐอเมริกา
โดยชิคาโกเป็นเมืองทางผ่านและเป็นศูนย์กลางของการขนส่งทางรถไฟ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางของผู้โดยสารและการขนส่งสินค้า
นอกเหนือจากความสำคัญของการขนส่งทางรถไฟแล้ว ยังมีการขนส่งทางอากาศอีกด้วย
โดยสนามบิน O'Hare International Airport เป็นหนึ่งในสนามบินที่มีความคับคั่งมากที่สุดในสหรัฐอเมริกาและของโลก โดยในปี 2019 สนามบินแห่งนี้มีผู้โดยสารที่มาใช้บริการที่สนามบินกว่า 84 ล้านคน
รัฐอิลลินอยส์ยังเป็นศูนย์กลางการศึกษาของภูมิภาคกลางของสหรัฐอเมริกาอีกด้วย
โดยเป็นที่ตั้งของ University of Chicago ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่ถูกจัดอันดับโดย
Top Universities ให้เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดอันดับที่ 9 ของโลก
โดยเป็นมหาวิทยาลัยที่เด่นเรื่องการวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์และเศรษฐศาสตร์
ซึ่งนั่นทำให้ University of Chicago เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่ได้รางวัลโนเบลมากที่สุดในโลก
ด้วยรางวัลถึง 94 รายการ
ด้วยโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจ ทั้งการขนส่งทางบก การขนส่งทางอากาศ และการมีสถาบันการศึกษาชั้นนำระดับโลกที่ผลิตบุคลากรคุณภาพสูง อิลลินอยส์จึงสามารถดึงดูดบริษัทใหญ่ ๆ ให้เลือกตั้งสำนักงานในรัฐแห่งนี้..
ในปี 2020 นิตยสารฟอร์จูน จัดอันดับบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลก 500 บริษัท โดยมีถึง 37 บริษัทที่ตั้งอยู่ในรัฐอิลลินอยส์
โดยบริษัทระดับโลกที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในรัฐอิลลินอยส์ที่คนไทยคุ้นเคย เช่น
McDonald's เชนร้านอาหารจานด่วน มีมูลค่าบริษัท 5.4 ล้านล้านบาท
Boeing บริษัทผู้ผลิตเครื่องยนต์อากาศยานและยุทโธปกรณ์ มีมูลค่าบริษัท 4.3 ล้านล้านบาท
John Deere บริษัทผู้ผลิตรถแทรกเตอร์และเครื่องจักรทางการเกษตร มีมูลค่าบริษัท 3.4 ล้านล้านบาท
Mondelēz International บริษัทผลิตขนมและอาหาร และเป็นเจ้าของแบรนด์ขนม Oreo
มีมูลค่าบริษัท 2.8 ล้านล้านบาท
CME Group ตลาดซื้อขายตราสารอนุพันธ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีมูลค่าบริษัท 2.5 ล้านล้านบาท
Walgreens Boots Alliance เชนร้านขายยา เจ้าของร้าน Boots มีมูลค่าบริษัท 1.5 ล้านล้านบาท
การเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทระดับโลก และมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หลากหลาย ทั้งภาคการเกษตร การขนส่ง อุตสาหกรรม และธุรกิจบริการต่าง ๆ จึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้รัฐอิลลินอยส์ มีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่มาก นั่นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.statista.com/statistics/303696/us-fortune-500-companies-by-state/
-https://www.businessinsider.com/most-influential-cities-in-the-world-2018-5#8-chicago-illinois-14
-https://www2.illinois.gov/dnrhistoric/Research/Pages/Timeline.aspx
-https://www2.illinois.gov/sites/agr/About/Pages/History-of-The-Illinois-Department-Of-Agriculture.aspx
-https://www.cropprophet.com/soybean-production-by-state-top-11/
-https://www.cropprophet.com/us-corn-production-by-state/
-https://chicago.curbed.com/2017/9/21/16344608/transportation-chicago-railroad-cta-union-station-history
-https://www.ursaspace.com/blog/tracking-the-uss-busiest-freight-rail-hub
-https://www.uchicago.edu/about/accolades/nobel_laureates
同時也有2部Youtube影片,追蹤數超過3萬的網紅[email protected],也在其Youtube影片中提到,肺癌 - 司徒達麟心胸外科專科醫生@FindDoc.com FindDoc Facebook : https://www.facebook.com/FindDoc FindDoc WeChat : 快徳健康香港 FindDoc FindDoc Instagram:@finddochk (一...
「statistics department」的推薦目錄:
- 關於statistics department 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
- 關於statistics department 在 Apple Daily - English Edition Facebook 的最佳貼文
- 關於statistics department 在 Apple Daily - English Edition Facebook 的最讚貼文
- 關於statistics department 在 [email protected] Youtube 的最讚貼文
- 關於statistics department 在 Raymond Regulus Youtube 的最佳貼文
statistics department 在 Apple Daily - English Edition Facebook 的最佳貼文
#Opinion by Kwan Cheuk-chiu 關焯照|"To correctly formulate anti-epidemic policies, high-level public health officials must consider many different epidemic indexes. Since the current 'reproductive rate' lacks high accuracy..."
Read more: https://bit.ly/2RCtd8B
"要準確制訂抗疫政策,負責公共衞生的高官必須參考多個疫情指標,因為現時採用的「繁殖率」是缺乏高度準確性⋯⋯"
________
📱Download the app:
http://onelink.to/appledailyapp
📰 Latest news:
http://appledaily.com/engnews/
🐤 Follow us on Twitter:
https://twitter.com/appledaily_hk
💪🏻 Subscribe and show your support:
https://bit.ly/2ZYKpHP
#AppleDailyENG
statistics department 在 Apple Daily - English Edition Facebook 的最讚貼文
#Opinion by Andy Ho | "Officials may continue to hide their heads deep in the sand. That will not stop the queues at biometric centres in Jordan and North Point for certifications for immigration applications."
Read more: https://bit.ly/3woBhdk
____________
📱Download the app:
http://onelink.to/appledailyapp
📰 Latest news:
http://appledaily.com/engnews/
🐤 Follow us on Twitter:
https://twitter.com/appledaily_hk
💪🏻 Subscribe and show your support:
https://bit.ly/2ZYKpHP
#AppleDailyENG
statistics department 在 [email protected] Youtube 的最讚貼文
肺癌 - 司徒達麟心胸外科專科醫生@FindDoc.com
FindDoc Facebook : https://www.facebook.com/FindDoc
FindDoc WeChat : 快徳健康香港 FindDoc
FindDoc Instagram:@finddochk
(一)肺癌死亡率這麼高,是否沒有好的治療方法? 00:06
(二)沒有症狀,怎麼可以發現早期肺癌? 00:58
(三)既然這麼有效,我也應該做LDCT篩查? 01:40
(四)電腦掃描上發現肺部有「陰影」、「結節」或「磨玻璃」,是否等於我有肺癌? 02:27
(本短片作健康教育之用,並不可取代任何醫療診斷或治療。治療成效因人而異,如有疑問,請向專業醫療人士諮詢。)
參考資料:
1Hong Kong Cancer Registry, Hospital Authority. (2019). Lung Cancer in 2017. Retrieved from https://www3.ha.org.hk/cancereg/pdf/factsheet/2017/lung_2017.pdf
2. Department of Health. (2019). Lung Cancer. Retrieved from https://www.healthyhk.gov.hk/phisweb/en/healthy_facts/disease_burden/major_causes_death/cancers/lung_cancer/
3. 衞生署 衞生防護中心. (2020). 二零零一年至二零一九年主要死因的死亡人數. Retrieved September 15, 2020, from https://www.chp.gov.hk/tc/statistics/data/10/27/380.html
4. Zhang, Y., Zheng, D., Li, H., Zhang, H., Xie, Y., Qian, B., . . . Chen, H. (2018). Changes in lung cancer incidence by sex and smoking status in China: A multicentre observational study. The Lancet, 392. doi:10.1016/s0140-6736(18)32633-3
5. 美國癌症協會. (2008). 非小細胞肺癌概述. Retrieved from http://www.acs-ccu.org/PDF/Cancer%20Information/Lung%20Cancer%20_Non-Small%20Cell_.pdf
6. Reduced Lung-Cancer Mortality with Low-Dose Computed Tomographic Screening. (2011). New England Journal of Medicine, 365(5), 395-409. doi:10.1056/nejmoa1102873
資料來源:https://www.FindDoc.com
查詢醫生資訊:
https://www.finddoc.com
statistics department 在 Raymond Regulus Youtube 的最佳貼文
HK Census and Statistics Department:
https://www.censtatd.gov.hk/hkstat/sub/sp260.jsp?productCode=B1040004
BIS early warning in March 2018:
https://www.bis.org/publ/qtrpdf/r_qt1803.pdf
Joseph Yam warns of challenges for Hong Kong dollar stability:
https://www.scmp.com/business/money/stock-talk/article/2148882/joseph-yam-warns-challenges-hong-kong-dollar-stability
My Facebook: www.facebook.com/raymond.regulus.80
Email: raymondregulus@gmail.com
No Chinese Media discussed or even mentioned this Hong Kong 1.7 trillion USD debt for God knows how many years. Media and Journalism is DEAD even in HK. The Chinese Super Rich aka the Establishment do not want you to know. Sell your assets, stocks, shares, real estate properties in HK and China, move the money all out of HK like Li Ka Shing did! DO NOT stay in HK and China banking system! Look it up yourself, but warn you, YOUR TIME is up!
I also challenge these establishment media to report this in details:
South China Morning Post, Bloomberg, FOX business, The Wall Street Journal, The New York Times, The Economist, Reuters, Yahoo! Finance, Forbes, Financial Times, CNBC, Business Insider