關於 subscription wiki ，我們在網路上蒐集到這些相關的討論、資訊與評價

Fortune นิตยสารอายุเกือบ 100 ปี ที่ตอนนี้ เจ้าของคือคนไทย /โดย ลงทุนแมน
ในวงการธุรกิจ ถ้าอยากรู้ข้อมูลบริษัทที่มีรายได้มากสุดในโลก
หลายคนก็จะไปดูการจัดอันดับ โดยนิตยสาร “Fortune”

เคยสงสัยกันไหมว่า ทำไม Fortune ถึงเป็นแหล่งอ้างอิงอันดับรายได้บริษัท
แล้วปัจจุบัน ใครเป็นเจ้าของนิตยสารเล่มนี้ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่านและนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
Fortune เป็นนิตยสารธุรกิจ เศรษฐกิจ และการเงิน
วางขายครั้งแรกในประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 1929 หรือ 92 ปีที่แล้ว

ในช่วงเวลาดังกล่าว สหรัฐอเมริกา ได้เผชิญกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งรุนแรง หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ “Great Depression”

ด้วยเหตุนี้ คุณ Henry Luce ซึ่งเป็นเจ้าของนิตยสารข่าวรายสัปดาห์ชื่อดังอย่าง นิตยสาร Time
จึงต้องการตีพิมพ์นิตยสารเล่มใหม่ เพื่ออธิบายถึงสถานการณ์เศรษฐกิจและธุรกิจโดยเฉพาะ

และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของนิตยสาร Fortune

ข้อแตกต่างระหว่าง Fortune กับนิตยสารอื่นในสมัยนั้น
คือ การเขียนบทความยาว ที่วิเคราะห์ประเด็นธุรกิจต่าง ๆ ในเชิงลึก

ทำให้แม้บริษัทตั้งราคาขายนิตยสารไว้ที่เล่มละ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือว่าค่อนข้างแพงในเวลานั้น
แต่ผู้บริโภคก็เชื่อมั่นว่า มันคุ้มค่ากับเนื้อหาพิเศษที่อยู่ภายในเล่ม

ทำให้มีคนจองซื้อ Fortune ฉบับเปิดตัวถึง 30,000 เล่ม และได้รับความนิยมจากผู้อ่านอย่างต่อเนื่อง
โดยในปี 1937 นิตยสารทำยอดขายได้สูงกว่า 460,000 เล่ม

ต่อมาในปี 1955 กองบรรณาธิการของ Fortune พบเรื่องน่าประหลาดใจว่า
ที่ผ่านมา ยังไม่มีสื่อสำนักไหน รายงานข้อมูลเปรียบเทียบรายได้ของบริษัทต่าง ๆ ไว้เลย

และมองเห็นว่าข้อมูลลักษณะนั้น น่าจะเป็นประโยชน์ต่อภาคธุรกิจ ที่สามารถทำความรู้จักกับบริษัทอื่น ๆ เพื่อหาโอกาสขยายตลาดได้ และส่งผลให้เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา เติบโตอย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

นับตั้งแต่นั้นมา นิตยสาร Fortune จึงได้จัดอันดับบริษัทที่มีรายได้มากสุด 500 อันดับแรก
หรือที่เรียกว่า “Fortune 500”

โดยตอนแรก พวกเขาทำการจัดอันดับแค่บริษัทในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น
จนกระทั่งในปี 1995 ทาง Fortune ก็ขยายฐานข้อมูลให้ครอบคลุมบริษัทจากทั่วโลก เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ธุรกิจ ที่เกิดการค้าขายกันระหว่างประเทศมากขึ้น

ในปัจจุบัน จากการจัดอันดับ Fortune Global 500 ทำให้เราเห็นว่า
บริษัทที่มีรายได้มากสุด 500 อันดับแรกของโลกนั้น มีรายได้รวมกันประมาณ 1,050 ล้านล้านบาท
ซึ่งคิดเป็น 1.5 เท่า ของ GDP สหรัฐอเมริกา

โดยบริษัทที่มีรายได้สูงสุด 5 อันดับแรกของโลก ประจำปี 2020 ได้แก่

อันดับที่ 1
Walmart บริษัทห้างค้าปลีก จากประเทศสหรัฐอเมริกา
รายได้ 16.5 ล้านล้านบาท

อันดับที่ 2
Sinopec Group บริษัทน้ำมัน จากประเทศจีน
รายได้ 12.8 ล้านล้านบาท

อันดับที่ 3
State Grid บริษัทพลังงานไฟฟ้า จากประเทศจีน
รายได้ 12.1 ล้านล้านบาท

อันดับที่ 4
China National Petroleum บริษัทน้ำมัน จากประเทศจีน
รายได้ 11.9 ล้านล้านบาท

อันดับที่ 5
Royal Dutch Shell บริษัทน้ำมัน จากประเทศเนเธอร์แลนด์
รายได้ 11.1 ล้านล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทจากประเทศไทยเพียงรายเดียว ที่อยู่ใน Fortune Global 500
ก็คือ ปตท. ซึ่งมีรายได้อยู่ที่ 2.2 ล้านล้านบาท เป็นอันดับที่ 140 ของโลก

แล้วปัจจุบัน ใครเป็นเจ้าของนิตยสาร Fortune ?

ที่ผ่านมา นิตยสาร Fortune เป็นแบรนด์ภายใต้การบริหารของบริษัท Time Inc. ที่ก่อตั้งโดยคุณ Henry Luce มาโดยตลอด

แต่ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2017
บริษัทสื่อสัญชาติอเมริกัน ชื่อว่า Meredith Corporation ได้เข้าซื้อกิจการของ Time Inc.

และด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอ่านสื่อบนอินเทอร์เน็ตมากขึ้น
ส่งผลให้ยอดขายของสื่อแบบดั้งเดิมอย่าง นิตยสาร ปรับตัวลดลง
Fortune ต้องปรับตัวมาทำนิตยสารออนไลน์ เพื่อหารายได้จากช่องทาง Subscription

จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2018
บริษัท Meredith จึงตัดสินใจประกาศขายธุรกิจนิตยสาร Fortune

และผู้ที่เข้ามาซื้อกิจการต่อ ก็คือ..
คุณชัชวาลย์ เจียรวนนท์
ซึ่งเป็นหลานชายของคุณธนินท์ เจียรวนนท์ เจ้าของอาณาจักรเครือซีพีนั่นเอง

โดยคุณชัชวาลย์ ได้ซื้อนิตยสาร Fortune ไปด้วยเงินมูลค่าราว 5,000 ล้านบาท
ซึ่งเป็นการลงทุนในนามส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับเครือซีพีแต่อย่างใด

นิตยสารชื่อดังของวงการธุรกิจของโลก ที่มีคนติดตามอ่านกันทั่วโลก มานานเกือบร้อยปี
ก็ไม่น่าเชื่อว่า มาถึงวันนี้ จะมีเจ้าของ เป็นคนไทย นั่นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่านและนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://en.wikipedia.org/wiki/Fortune_(magazine)
-https://fortune.com/global500/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Fortune_Global_500
-https://www.nytimes.com/2018/11/09/business/dealbook/fortune-magazine-sold.html
-https://techsauce.co/news/member-of-cp-board-buys-fortune-magazine

รู้จัก Dollar Shave Club ธุรกิจมีดโกนหนวด Subscription 3 หมื่นล้าน /โดย ลงทุนแมน
“Our Blades Are F***ing Great”
นี่คือ ชื่อวิดีโอโปรโมตมีดโกนหนวดแบรนด์หนึ่งบนเว็บไซต์ยูทูบ
ที่เปลี่ยนจากเป็นแบรนด์ที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก
ให้กลายเป็นแบรนด์ที่โด่งดังเป็นพลุแตกในสหรัฐฯ ภายในชั่วข้ามคืน

เรากำลังพูดถึง “Dollar Shave Club”
ธุรกิจขายมีดโกนหนวดแบบ Subscription
ที่ถูกให้มูลค่ากว่า 31,000 ล้านบาท หลังจากก่อตั้งได้ 5 ปี

ธุรกิจมีดโกนหนวดแบบ Subscription ของ Dollar Shave Club น่าสนใจอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่านและนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
“มีดโกนหนวด” เป็นของใช้ส่วนตัวที่ผู้ชายต้องใช้กันเป็นประจำ
และปัญหาที่เจอบ่อยสำหรับการโกนหนวดก็คือ
ถ้าซื้อมีดโกนหนวดราคาถูกเกินไป ก็อาจโกนได้ไม่สบายผิวและไม่เรียบเนียน
แต่ถ้าอยากได้มีดโกนที่คุณภาพดีมาก ก็จะต้องแลกกับราคาที่สูงเช่นกัน

และนี่ก็คือ Pain Point ที่ Dollar Shave Club นำเอามาพัฒนาเป็นสินค้าและบริการ

Dollar Shave Club ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 2011 โดย Michael Dubin และ Mark Levine
ซึ่งไอเดียธุรกิจนี้ เกิดขึ้นมาหลังจากทั้งสองคนเจอกันที่งานปาร์ตี
แล้วคุยเกี่ยวกับปัญหาเรื่องมีดโกนหนวด
ว่ามีดโกนหนวดคุณภาพดีส่วนใหญ่ มีราคาที่แพงเกินจำเป็น

หลังจากตอนแรก ที่เหมือนจะคุยกันแบบเล่น ๆ
แต่ยิ่งคุยกันไปเรื่อย ๆ ก็เริ่มเห็นช่องทางที่จะเริ่มทำธุรกิจนี้ได้

ทั้งสองคนลงความเห็นว่าอยากจะขายมีดโกนหนวดที่คุณภาพไม่ต้องดีขั้นสุด
เพื่อจะได้ตั้งราคาขายได้ในระดับไม่สูงและเข้าถึงได้ง่าย
โดยจะอาศัยช่องทางออนไลน์ เป็นช่องทางหลักในการขาย

ทั้งสองจึงนำไอเดียนี้ไปเสนอเพื่อขอเงินทุนจากนักลงทุน และก็ได้เงินสนับสนุนสำหรับเริ่มต้นธุรกิจจากบริษัทที่เน้นลงทุนในสตาร์ตอัปแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า Science Inc.

พวกเขานำเงินที่ได้ มาพัฒนาเว็บไซต์สำหรับเป็นช่องทางให้คนเข้ามาสั่งมีดโกนหนวด เริ่มหาซัปพลายเออร์ที่ผลิตมีดโกนหนวดตามที่พวกเขาต้องการ และก็เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2011

โดยที่มีดโกนหนวดที่ขายบนเว็บไซต์ในตอนนั้น
มีให้เลือกตั้งแต่แบบ 2 ใบมีด ไปจนถึง 6 ใบมีด
และมีราคาที่ถูกกว่าแบรนด์ดัง ๆ
(ราคาเริ่มต้นที่ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ไปจนถึง 10 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อชิ้น)

และจุดเปลี่ยนที่สำคัญของแบรนด์นี้ก็คือ วิดีโอโปรโมตแบรนด์ “Our Blades Are F***ing Great” ที่พวกเขาอัปโหลดลงบนเว็บไซต์ YouTube เมื่อเดือนมีนาคม 2012

ซึ่งในวิดีโอก็เป็นการถ่ายทำแบบง่าย ๆ โดยมีผู้ร่วมก่อตั้งอย่าง Michael Dubin มาเป็นคนนำเสนอสินค้าแบบกวน ๆ แต่ตรงไปตรงมา และพาเดินชมโกดังสินค้าตลอดความยาว 1 นาทีครึ่ง
ซึ่งปัจจุบันวิดีโอตัวนี้ ถูกรับชมไปแล้วมากกว่า 27 ล้านครั้ง

Michael Dubin เคยให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวหนึ่งเอาไว้ว่า
หลังจากได้ปล่อยคลิปวิดีโอตัวนั้นออกไปก็มีคนให้ความสนใจเข้ามาดูคลิปวิดีโอจำนวนมาก
และทำให้ภายในเวลาเพียง 2 วัน มีออร์เดอร์ผ่านเว็บไซต์มากถึง 12,000 ออร์เดอร์ ซึ่งมากกว่าจำนวนปกติที่ขายได้ในตอนนั้นมาก จนเขาต้องจ้างเพื่อน ๆ มาช่วยกันแพ็กของเลยทีเดียว

หลังจากนั้นมา ชื่อของ Dollar Shave Club ก็เป็นที่รู้จักมากขึ้นเรื่อย ๆ
และเงินลงทุนจากบรรดา VC ก็หลั่งไหลมายัง Dollar Shave Club มากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน
โดยในปี 2012-2013 บริษัทระดมทุนได้กว่า 670 ล้านบาท

หลังจากนั้น บริษัทก็เริ่มขยายโกดัง และไลน์สินค้าไปขายอย่างอื่นด้วย
อย่างเช่น ครีมโกนหนวด, ครีมอาบน้ำ, ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย
แล้วบริษัทก็เริ่มให้บริการขายสินค้าแบบ Subscription

Subscription ที่ว่านี้ก็คือ สมาชิกของ Dollar Shave Club
จะสามารถสั่งซื้อให้บริษัทส่งสินค้ามาเป็นประจำได้
โดยบนหน้าเว็บไซต์จะมีแบบสอบถาม เพื่อให้รู้ว่าสมาชิกแต่ละคนจะต้องใช้มีดโกนหนวดกี่ชิ้นต่อเดือน หรือเหมาะที่จะใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอื่นใด เท่าไรอีกบ้าง

จากนั้นสมาชิกก็สามารถเลือกได้ว่าจะรับสินค้าอะไร เท่าไรบ้าง ตามต้องการ
และก็สามารถเลือกได้ว่า จะจ่ายเงินและให้บริษัทส่งของมาทุก ๆ กี่เดือน
เช่น สามารถเลือกให้ของส่งมาทุก 2 เดือน 3 เดือน หรือ 4 เดือน โดยที่สมาชิกสามารถปรับเปลี่ยนรายละเอียดของที่ต้องการต่อครั้ง หรือยกเลิกบริการ Subscription นี้ได้ทุกเมื่อผ่านเว็บไซต์

จุดเด่นอีกเรื่องของ Dollar Shave Club
คือการคอยสร้างคอนเทนต์ให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลตัวเองในรูปแบบต่าง ๆ
อย่างเช่น การโกนหนวด การบำรุงผิว
โดยมีทั้งรูปแบบ Content บนเว็บไซต์ รวมถึงแนบไปในกล่องสินค้าที่ส่งให้สมาชิกในแต่ละครั้ง

ซึ่งการทำแบบนี้ นอกจากช่วยเสริมความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้าได้แล้ว
บริษัทยังสามารถเสนอขายผลิตภัณฑ์ที่ล้อไปกับ Content นั้น ๆ ได้
อีกทั้งยังทำให้อัตราการยกเลิกบริการ Subcription นั้นลดน้อยลง

จนในปี 2015 บริษัทก็ระดมทุนได้อีกกว่า 2,300 ล้านบาท
พร้อมสร้างรายได้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

ลองมาดูการเติบโตของรายได้ Dollar Shave Club ในสหรัฐอเมริกา
(อ้างอิงจากเว็บไซต์ Statista)
ปี 2012 รายได้ 124 ล้านบาท
ปี 2013 รายได้ 589 ล้านบาท
ปี 2014 รายได้ 2,015 ล้านบาท
ปี 2015 รายได้ 4,759 ล้านบาท

รายได้เติบโตขึ้นมากกว่า 38 เท่า ภายในเวลาเพียงแค่ 3 ปี

จนรายได้ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดนี้ ไปเข้าตาบริษัทเจ้าของแบรนด์สินค้าสำหรับผู้บริโภครายใหญ่สัญชาติอังกฤษ อย่าง “Unilever”

ปี 2016 Unilever ได้ตกลงซื้อกิจการ Dollar Shave Club ด้วยเงินสด 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 31,000 ล้านบาท และกลายมาเป็นแบรนด์ภายใต้การบริหารของ Unilever ตั้งแต่นั้นมา

ในปี 2020 ที่ผ่านมารายได้ของ Dollar Shave Club
อ้างอิงจากเว็บไซต์ Owler อยู่ที่ประมาณ 8,150 ล้านบาท

อีกทั้งยังเริ่มขยายการให้บริการไปอีกหลายประเทศ เช่น อังกฤษและแคนาดา
โดยมีสมาชิกที่ใช้บริการแบบ Subscription แล้ว ไม่ต่ำกว่า 4 ล้านคน
และสินค้าของแบรนด์ ก็เริ่มมีวางขายในช่องทางออฟไลน์ตามโมเดิร์นเทรดด้วย

และนี่คือเรื่องราวของ Dollar Shave Club
ธุรกิจที่หยิบเอาปัญหาง่าย ๆ อย่างมีดโกนหนวดที่มีราคาแพงเกินไปมาเป็นไอเดียตั้งต้น

แล้วอาศัยโมเดลแบบ Subscription รวมถึงการสร้างคอนเทนต์ สร้างเรื่องราว เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้ามาปรับใช้ จนไอเดียนี้กลายมาเป็นธุรกิจที่ถูกซื้อด้วยมูลค่ากว่า 31,000 ล้านบาท

ถึงแม้ในวันนี้หลายคนอาจจะไม่รู้จัก หรือยังไม่เคยได้ยินชื่อมีดโกนหนวดแบรนด์นี้
แต่ด้วยความที่แบรนด์ อยู่ภายใต้บริษัทใหญ่อย่าง Unilever ที่ขายสินค้าไปทั่วโลก
ก็ไม่แน่ว่าในอนาคต คนไทย อาจได้ใช้บริการ
มีดโกนหนวดแบบ Subscription ของ Dollar Shave Club ก็เป็นได้..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่านและนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
- https://www.dollarshaveclub.com/
- https://www.youtube.com/watch?v=ZUG9qYTJMsI
- https://www.businessinsider.com/unilever-buys-dollar-shave-club-for-1-billion-2016-7
- https://en.wikipedia.org/wiki/Dollar_Shave_Club
- https://bettermarketing.pub/3-strategies-to-learn-from-a-billion-dollar-shaving-brand-5415a35bd4cc
- https://www.imd.org/research-knowledge/articles/unilever-buys-dollar-shave-club/
- https://www.statista.com/statistics/670766/revenue-dollar-shave-club-us/

Vivendi บริษัทล้านล้าน ที่ก่อตั้งโดย นโปเลียนที่ 3 /โดย ลงทุนแมน
หากให้เรานึกถึงธุรกิจ ที่ดำเนินธุรกิจมายาวนานเกินกว่า 100 ปี
เราจะนึกถึงบริษัทอะไร?

สำหรับวันนี้ เรามารู้จักกับ Vivendi อ่านว่าวิวองดี เป็นบริษัทสัญชาติฝรั่งเศส
ที่ถูกก่อตั้งโดยจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 ตั้งแต่ปลายปี ค.ศ. 1853 หรือราว 167 ปีก่อน
หากเทียบกับประเทศไทย ตอนนั้นก็คือสมัยรัชกาลที่ 5

ที่น่าสนใจก็คือ Vivendi ทำธุรกิจสื่อบันเทิง และก็เป็นเจ้าของ Universal Music Group
ที่มีศิลปินในสังกัด เช่น เทย์เลอร์ สวิฟต์ และ เลดี้ กากา

แล้วธุรกิจที่ก่อตั้งโดยจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 ได้ทำธุรกิจผ่านกาลเวลา
จนกลายมาเป็นเจ้าของต้นสังกัดของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ ได้อย่างไร?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
บริษัท วิวองดี เดิมมีชื่อว่า Compagnie Générale des Eaux
หรือชื่อย่อ CGE ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1853 โดยจักรพรรดินโปเลียนที่ 3
เริ่มต้นจากธุรกิจการประปาให้กับจังหวัด ลียง ในประเทศฝรั่งเศส

หลังจากทำธุรกิจมาได้ 50 ปี CGE ได้ขยายธุรกิจการประปาไปยังเมืองหลวงของฝรั่งเศสอย่าง กรุงปารีส รวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน ที่เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี และ เมืองปอร์โต ประเทศโปรตุเกส

ปี ค.ศ. 1976 บริษัท CGE ก็ได้ขยายมาทำธุรกิจการจัดการของเสีย พลังงาน บริการขนส่ง และก่อสร้าง

จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1983 หรือราว 38 ปีที่ผ่านมา
ทางบริษัทก็เริ่มหันเข้าหาธุรกิจสื่อ และการบันเทิง

CGE ได้ทำการก่อตั้งกลุ่มบริษัท Groupe Canal+ ขึ้นมา โดยมีจุดประสงค์ในการเป็นสื่อโทรทัศน์
ที่เริ่มโมเดลการจ่ายเงินเป็นสมาชิก หรือ Subscription ที่เราคุ้นเคยกันในยุคปัจจุบัน
เพื่อได้สิทธิ์ในการรับชม เป็นช่องแรกของประเทศฝรั่งเศส

เมื่อเป็นผู้เริ่มก่อน และทำได้ดี
สื่อโทรทัศน์ของ CGE ก็ได้เติบโต และประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว
นั่นจึงทำให้ต่อมา ทางบริษัทก็ได้เริ่มผันตัวเข้าสู่วงการสื่อโฆษณา และการบันเทิง

หลังจากนั้น CGE จึงได้เปลี่ยนชื่อบริษัท เป็น Vivendi และก็ได้ทำการปรับโครงสร้างบริษัท
โดยการขายส่วนธุรกิจที่เป็นการประปา และสิ่งก่อสร้าง ออกไป และได้เข้าซื้อกิจการผลิตช่องรายการโทรทัศน์มากมาย เช่น

- Havas Group ในประเทศฝรั่งเศส
- Maroc Telecom ในประเทศโมร็อกโก (ปัจจุบันขายธุรกิจให้กับ Emirates Telecommunication Group)
- NetHold ในประเทศเนเธอร์แลนด์
- Cendant Software (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น Vivendi Games) ในประเทศสหรัฐอเมริกา

นอกจากนี้ ทางบริษัท ก็ยังได้ทำการขยายสัญญาณช่องโทรทัศน์ เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้รับชมในประเทศ อิตาลี, สเปน, โปแลนด์, เบลเยียม, เนเธอร์แลนด์ และประเทศในกลุ่มสแกนดิเนเวีย ทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม บริษัทอย่าง วิวองดี ที่ดูเหมือนจะประสบความสำเร็จมากขนาดนี้ ก็เกือบจะต้องล้มละลายในปี 2003

นั่นก็เพราะว่าบริษัทเข้าซื้อกิจการมากเกินไป จนขาดสภาพคล่องทางการเงิน

และอีกเหตุการณ์สำคัญ ก็คือ บริษัทโดนตลาดหุ้นฝรั่งเศสเข้ามาตรวจสอบเรื่องของความไม่ชอบมาพากลใน การตกแต่งงบการเงินของบริษัท เพื่อจูงใจให้นักลงทุนเข้ามาซื้อหุ้นของบริษัท ซึ่งผลปรากฏว่าเกิดการทุจริตขึ้นจริง

เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ ซีอีโอที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในสมัยนั้น
ก็ได้ถูกให้ออกจากบริษัท และถูกปรับไปมากถึง 600 ล้านบาท

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ ซีอีโอคนใหม่อย่าง Jean-René Fourtou
ได้เข้ามาพลิกวิกฤติในจุดที่ต่ำที่สุดของบริษัท Vivendi
เริ่มต้นจากการขายบริษัทย่อยในเครือที่ทำธุรกิจก่อสร้างออกไป
เพื่อหาเงินทุน มาหมุนเวียนให้บริษัทไปต่อได้

หลังจากผ่านเรื่องราวที่เกือบจะไปไม่รอด Vivendi ก็ได้เริ่มเข้าซื้อกิจการอีกครั้ง
โดยครั้งนี้ เป็นการเข้าซื้อบริษัท Universal Music Group ทำธุรกิจค่ายเพลง
ซึ่งปัจจุบัน ได้ผลิตศิลปินคุณภาพออกมามากมาย เช่น เทย์เลอร์ สวิฟต์ และ เลดี้ กากา

แล้วต่อจากนั้น เส้นทางของ Vivendi มีอะไรอีกบ้าง?

ปี 2007 เข้าซื้อ บริษัทเกม 2 ค่ายคือ Blizzard กับ Activision
หลังจากนั้น ก็ได้ควบรวมเป็นบริษัท Activision Blizzard
ซึ่งต่อมา ก็ได้ผลิตเกมดังอย่าง World of Warcraft และ Call of Duty ออกมา

ปี 2008 เข้าซื้อหุ้น 80% ของเว็บไซต์วิดีโอออนไลน์จากฝรั่งเศส Dailymotion

ปี 2013 ได้ขายกิจการ Activision Blizzard ออกไป

ปี 2015 ได้เข้าซื้อหุ้น 30% ของบริษัท Gameloft ค่ายผลิตเกมสมาร์ตโฟนชื่อดัง ของพี่น้องตระกูล Guillemot และในปีถัดไปก็ได้เพิ่มสัดส่วนเป็นมากถึง 96.9%

ในขณะเดียวกัน อีกบริษัทเกมของพี่น้องตระกูล Guillemot อย่าง Ubisoft เจ้าของเกมดังอย่าง Assassin's Creed ก็กำลังจะถูก Vivendi เข้าซื้อ

แต่ด้วยความที่นักเล่นเกมไม่พอใจกับการที่ Vivendi เข้าซื้อ Gameloft และทำให้บริษัทเกมหวังผลกำไรจากผู้เล่นมากเกินไป จึงเกิดกระแสต่อต้าน

นั่นก็รวมไปถึงพี่น้องตระกูล Guillemot ซึ่งพวกเขาก็ได้พยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อคงสัดส่วนการถือหุ้นใหญ่เอาไว้ และก็ได้ Tencent เข้ามาช่วยเหลือ ด้วยการถือหุ้นจำนวน 5% ของ Ubisoft เพื่อถ่วงดุลอำนาจกับ Vivendi

จนในที่สุด Vivendi ก็ได้ยอมแพ้ และขายหุ้นออกไปจากบริษัท Ubisoft ทั้งหมด..

หลังจากนั้น Vivendi ต้องการกลับมาโฟกัสกับอุตสาหกรรมสื่อ และเอเจนซีโฆษณา
และเช่นเคย พวกเขาก็ได้เข้าซื้อกิจการอีกครั้ง โดยครั้งนี้เป็น บริษัทผลิตสื่ออย่าง SFX Entertainment (ตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็น LiveStyle Inc.) และ บริษัท Paddington and Company ผู้เป็นเจ้าของหมีพูดได้แพดดิงทัน จากลอนดอน

และล่าสุด ในปี 2020 บริษัทวิวองดี ก็ได้ทำการขายหุ้นของ Universal Music จำนวน 20% ให้กับบริษัท Tencent

และด้วยเหตุนี้เอง เราจึงจะเห็นเกมชื่อดังต่างๆ ที่ผลิตโดย บริษัท Tencent มีเพลงประกอบฉากที่ค่อนข้างไพเราะ ก็เป็นเพราะส่วนหนึ่งก็ได้ผลิตผลงาน มาจากสตูดิโอชื่อดังแห่งนี้นี่เอง

ทีนี้ เรามาดูกันว่า บริษัท Vivendi มีรายได้เท่าไร ?
ปี 2017 มีรายได้ 455,099 ล้านบาท กำไร 47,243 ล้านบาท
ปี 2018 มีรายได้ 506,506 ล้านบาท กำไร 42,047 ล้านบาท
ปี 2019 มีรายได้ 577,714 ล้านบาท กำไร 63,298 ล้านบาท

ปัจจุบัน Vivendi มีส่วนแบ่งรายได้มาจาก

Universal Music Group 45%
Groupe Canal+ บริษัทผลิตช่องโทรทัศน์ 33%
Havas Group บริษัทสื่อและโฆษณา 15%

ถึงตรงนี้ เราสามารถสรุปได้ว่า Vivendi น่าจะเป็นเพียงไม่กี่บริษัทบนโลกนี้ ที่ผ่านมาทั้งวิกฤติที่เกิดขึ้นในบริษัทของตัวเอง รวมถึงวิกฤติที่เกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจทั่วโลกมายาวนานกว่า 167 ปี

จากวันแรกที่ทำธุรกิจการประปาจนกลายมาเป็นธุรกิจสื่อบันเทิงในยุคนี้
ก็น่าเป็นกรณีศึกษาที่ดีให้กับเราว่า เราต้องเตรียมพร้อม
สำหรับการ “ปรับตัว” เพื่อให้เรา “อยู่รอด” ต่อไปได้ในอนาคต นั่นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.vivendi.com/en/our-group/key-milestones/the-groups-origins/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Vivendi
-https://seekingalpha.com/article/4201233-vivendi-plans-to-sell-50-of-umg-potentially-successful-tactical-move
-https://www.adweek.com/agencyspy/internal-memo-yannick-bollore-approves-of-vivendis-2-5-billion-offer-to-buy-havas/131291/
-https://www.reuters.com/article/us-vivendi-settlement-idUSKBN1782RQ
-http://vivendi.digital-publication.com/document-enregistrement-universel-2019/en/catalogue/index.html#page/198-199
http://oldrol.lbp.world/UploadArticle/138.pdf

ユーチューブから銀の盾（再生ボタン）が届きました
時間がかかるって聞いてたので早く送ってきて嬉しい
これをもらえたのは君のリクエストのおかげです
いろいろ荒らされたときもあったけど
若い人が悩みながら死ぬほどがんばっているのを見て
おじさんも初期衝動を忘れず　好きなことに突き進もうと思います　ユーチューブのストリームパンクス精神に感謝して
僕のくだらないチャンネルにチャンネル登録してくれた
君に感謝して　銀の再生ボタン噛みました
ありがとう　チャンネル１００万人目指して君と歩いていこう
あいしてます
I received a silver shield (play button) from YouTube I heard it took a long time, so I'm glad to send you this soon It is thanks to your request I received it from time to time Though it was variously rumbling Young people Seeing that I'm trying to die while I'm in trouble, I think I'll try to push the uncle too hard to forget the initial impulse I appreciate the Streampunks spirit of YouTube I subscribed to my silly channel to you Thank you I bitten the silver play button Thank you
Let's walk with you for a channel subscription of 1 million people
I LOVE YOU
↑この英語間違っていたら直してね

＃銀の再生ボタン　＃mic nibbling　＃Silver Play Button
チャンネル登録はこちら↓
https://www.youtube.com/channel/UCVcBzbRDZe2_Cv3HDbee5yA?sub_confirmation=1
まさよC女子　まさよC男子のことを
まさゾネス（MASAZONES）といいます
まさゾネス軍団です
世界中の
まさゾネスに栄光あれ
まさゾネスの語源
https://ja.wikipedia.org/wiki/%E3%82%A2%E3%83%9E%E3%82%BE%E3%83%BC%E3%83%B3
魔法を信じる大人向けて配信
え？子供だって
信じてたら　仲間

君を勝手に好きでいてもいいですか？
希望とレジリエンス（立ち直る力）を君に
私の出す音や言葉　画像 動画で君がちょっとだけでも幸せになればいいな
turn off your mind
What is your desire? Beyond your own gain
you will be little happy by some sounds' images that I gave to you.気に入ったら　高評価　チャンネル登録してクレヨン
チャンネル登録はこちら
http://qq2q.biz/Cao7

字幕作れる人は協力お願いします
I look forward to your cooperation in making the subtitles!
https://bit.ly/2P6gecC



Subtitles are automatically generated and subtitles can be seen when choosing a language

バイノーラル（立体音響）で撮ってるので
イヤフォンまたはヘッドフォンでお聞きください




妹のチャンネル
まりこちゃんねる
https://goo.gl/eNZGxC

twitter
https://twitter.com/arisugawanike

facebook
https://www.facebook.com/masayoshi.kobayashi

instagram
https://www.instagram.com/wizared_masayoshi/

ブログ
http://mindpower.cocolog-nifty.com/blog/

私の美容室
リップスティックビューティーサロン
https://lipstick-beautysalon.jimdo.com/
お店のLINE@
@lipstickbs

私が経営している
スマイルフィットネススタジオ
https://smilefitness.jimdo.com/

機材
アイフォンで使ってるバイノーラルマイク　注意Androidでは使えません
Scenes Lifelike イヤホン VRレコーディング バイノーラル録音 iphone専用 ASMR リモコン付き アプリ不要 通話非対応 ブラック
https://amzn.to/2MuCFEd

Camera
Canon　eos7d mark2
レンズ
Canon 超広角ズームレンズ EF-S10-18mm F4.5-5.6 IS STM APS-C対応 EF-S10-18ISSTM
このレンズ音フェチ最強レンズなんとオートフォーカス音がほとんどしない
アマゾンはこちら
https://amzn.to/314xQZl

Canon 単焦点レンズ EF28mm F1.8 USM フルサイズ対応
アマゾンはこちら
https://amzn.to/2CZtXv7

Canonパンケーキレンズ　EF-S24mm F2.8 STM
（AF起動音がちょっとします）
http://amzn.to/2weFmC1

SIGMA 超広角ズームレンズ 8-16mm F4.5-5.6 DC HSM キヤノン用 APS-C専用 203542
http://amzn.to/2mOOEA3

最近ゴープロも使ってます
GoPro HERO7 Black
Amazonはこちら
https://amzn.to/2PQFIf7

マイク
最近はこちらも使ってます
ＳＲ３D買い方はこちら
https://www.sr3d.co.uk/store/p27/SR3D_binaural_pro_series_-_RCA.html


Mic
Roland ローランド バイノーラル マイクロホン イヤホン CS-10EM
http://amzn.to/2mEdEvC
マイク
照明
リングライト
Neewer　外径14in 調光可能な二色SMD LEDリングライト照明キット　ポートレート、YouTubeビデオ撮影用　キット内容：（1）ライトスタンド、（1）ボールヘッド、（1）スマホホルダー、（2）リチウムイオンバッテリー、（1）充電器

https://amzn.to/2KY0dUW

ゼンハイザー ダイナミックマイクロホン スーパーカーディオイド/ボーカル向け e 945
http://amzn.to/2wS9SnJ

ヘッドホン
ソニー　MDR-CD900ST
http://amzn.to/2woe8e8
ユーチューブライブで使っているもの

エンコードソフトウェア
OBS
https://obsproject.com/
これ最強です　設定は難しいので検索してね

HDMIビデオキャプチャ FEBON238H
http://amzn.to/2oeG3tm
これ優れもの　これががないと
OBSが使えない
外での撮影はアイフォンX
ジンバル
Zhiyun Smooth-Q 3軸 ハンドヘルド ジンバル スタビライザー http://amzn.to/2tqvabN


よく聞かれるので書いときます
音フェチasmr動画を一番やすく撮るには
これが１番最強　下手するとバイノーラルマイクもいらないぐらい
http://amzn.to/2ntDHHc

こっちのほうが後追いなので
こっちのほうがいいかな
http://amzn.to/2mQMUpN
※私のアマゾンへのリンクURLはAmazonアソシエイトのリンクを使用しています。

Subscription歡迎訂閱頤齊邦的YOUTUBE
https://goo.gl/mG0yTA
---
【網路行銷】關鍵字SEO 如何增加網站排名 | 搜尋引擎行銷 HOW TO SEM #如何seo #網路行銷 #免費教學 #網站排名優化 #關鍵字SEO

SEM WIKI -
https://en.wikipedia.org/wiki/SEM

Google 搜尋趨勢-
https://trends.google.com.tw/trends/?hl=zh-TW

Search Console - https://www.google.com/webmasters/tools/home?hl=zh-TW

Google Analytics (分析) -
https://analytics.google.com/

Subscription歡迎訂閱頤齊邦的YOUTUBE
https://goo.gl/mG0yTA
--★Intro
wiki- https介紹
https://goo.gl/yJVbKf

wix support: about ssl and https
https://support.wix.com/en/article/about-ssl-and-https