The Vast of Night (2019) สามารถดูได้ใน Amazon Prime
ชัดเจนว่าหนังสร้างมาเชิดชูพวก The Twilight Zone และละครวิทยุ War of the Worlds ที่ออร์สัน เวลล์ส เคยเล่าออกอากาศจนแตกตื่นไปทั้งเมือง คือในหนังมันมีอะไรเล็กน้อยแสดงความเคารพถึง เช่น สถานีวิทยุ WOTW, ชื่อเมืองคายูก้า ที่จริง ๆ เป็นชื่อโปรดักชั่นผู้สร้าง The Twilight Zone ปี 1959, กระทั่งชื่อตัวละครยังตั้งใจอ้างอิงถึงนักแสดงที่เล่นเป็นเอเลี่ยนใน The Day the Earth Stood Still ปี 1951 คือรวม ๆ แล้วหนังมันชัดเจนว่าจะพาคนดูไปสู่อะไรในตอนจบ แต่ด้วยเทคนิคการเล่า ขับเคลื่อนด้วยไดอะล็อกบรรยายความลึกลับยืดยาว และพาคนดูตื่นเต้นไปด้วยตลอดทาง ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้หนังมีคุณภาพ (แม้ส่วนตัวจะรู้สึกว่ามันจะเข้มข้นกว่านี้ถ้าเป็นหนังสั้นสักตอนหนึ่งมากกว่าหนังยาว)
.
หนังมันมาแนวเดียวกับ Close Encounters of the Third Kind ของสปีลเบิร์ก แต่ไม่ได้เล่นใหญ่ขนาดนั้น ซึ่งเหมือนเป็นการพิสูจน์ไปในตัวว่าหนังทุนต่ำ โปรดักชั่นเล็ก ถ้าวางเทคนิคการเล่าเรื่องฉลาดและน่าดึงดูดก็เพียงพอจะทำให้หนังชวนติดตาม และมีความเป็นไซไฟไม่แพ้พวกหนังไซไฟทุนสร้างสูง จริง ๆ หนังไซไฟทุนต่ำหลายเรื่องก็พิสูจน์กันไปเยอะแล้ว แต่ The Vast of Night มาตอกย้ำในแนวของหนังเกี่ยวกับ UFO ได้อีก
.
พล็อตมันแค่เล่าเรื่องพนักงานสลับคู่สายในเมืองเล็ก ๆ บังเอิญได้ยินความผิดปกติระหว่างดีเจจัดรายการวิทยุกำลังดำเนินรายการอยู่ ทั้งคู่เลยค่อย ๆ ค้นหาว่าเป็นเสียงอะไร แล้วก็มีสายเข้าแปลก ๆ ว่าในป่ามีพายุหมุน, มีอดีตทหารโทรเข้ามาเล่าประสบการณ์ตัวเอง, ผู้คนบางส่วนในเมืองขับรถตามสิ่งประหลาดบนท้องฟ้า, และคุณยายชราที่เล่าถึงประสบการณ์อันน่าเหลือเชื่อ หนังขับเคลื่อนด้วยเรื่องเล่าถึงประสบการณ์แต่ละคน โดยมีสองตัวละครเอกที่มีความกระหายใคร่รู้คอยติดตามเบาะแสทุกอย่างเท่าที่หาได้ ก่อนจะพาไปสู่ตอนจบที่หยิบยืมเทคนิคของสปีลเบิร์ก แค่เล่นกับร่องรอยต่าง ๆ ก็พอจะเชื่อได้ว่ามีสิ่งลึกลับเกิดขึ้นจริงในเมืองนี้
Director: Andrew Patterson
screenplay: Andrew Patterson, Craig W. Sanger
Genre: sci-fi, drama, mystery
7/10
