ข้อความนี้ตรงใจจริงๆ
สรุปง่ายๆคือ หน้าเว็บก็เหมือนพรีเซนเตชั่นสวยๆ แต่ API คือสิ่งที่ทำให้ระบบคุยกับรู้เรื่อง และเอาไปใช้ที่เว็บ หรือ แอพอื่นๆได้
E-Government ทำให้สวยหรูอย่างไร มันก็แค่จุดเดียว แต่ถ้าทำให้ระบบมี open API คือคุยกันรู้เรื่องและเปิดเผย สิ่งนี้จะช่วยให้ประชาชนนำสิ่งที่รัฐมีไปทำให้เจ๋งขึ้นได้
ข้อมูลดิจิตอลเรามีมากมาย ในโพสต์นี้ยกตัวอย่าง tracking number ของไปรษณีย์ หรือ พจนานุกรม
ลองคิดดูว่าถ้าเราสามารถทำให้ข้อมูลที่มีอยู่แล้วใช้ง่าย หาง่าย ประเทศไทยจะดีขึ้นอีกแค่ไหน
ยังพูดคำเดิมนะคะ ประเทศไทยจะดีขึ้นด้วย outside in คือ จากนอกสู่ใน จากประชาชนเข้ารัฐบาล เรามีระบบธนาคารที่แข็งแกร่ง เรามีระบบ health care ที่ยอดเยี่ยม เราจะเติบโตได้ เพราะเราพัฒนาตัวเอง
เราเป็นประเทศที่เก่งเรื่องออกแบบและดีไซน์ เราเห็นอกเห็นใจและเข้าใจผู้บริโภค การบริการอยู่ในจิตวิญญาณของคนไทย อยากให้รัฐเปิด API แล้วเราจะเห็นว่าคนไทยออกแบบได้ไม่แพ้ใครเลยจริงๆ
จริงๆ อยากจะบอกว่า หน่วยงานภาครัฐ เลิกบ้าทำแอป เลิกบ้าทำหน้าเว็บซะที ตอนนี้มันถึงเวลาต้องมาพูดถึง Government API (Application Programming Interface) กันจริงจังแล้ว
แต่นั่นแหละ คนแบบผม พูดไปก็ไม่มีใครฟัง ทำ API ทำไปทำไม ไม่ได้หน้าได้ตา ของบประมาณลำบาก เปิดตัวแอปเป็นตัวๆ ยังได้จัดงาน ได้หน้า ได้ตา ได้แถลงข่าว (ยังไม่รวมการได้งบด้วย)
ไม่ใช่หน้าเว็บ หรือแอป มันไม่จำเป็นนะ แต่เลิกทำแบบ "เกลื่อน ไร้ทิศทาง ทำเพื่อให้มี" ได้ไหมหนอ
ผมว่ามันเจ๋งกว่าเยอะนะ ถ้าหน่วยงานภาครัฐสามารถประกาศได้ว่า "แอปของนักพัฒนาไทย 200 แอป ไม่ต้องพึ่ง Foursquare แล้ว แต่ใช้ข้อมูลจาก API ของ ททท. แทน" หรือ "นักพัฒนาไทย ไม่ต้องไปเสียเงินค่า API เอา exchange rate real-time ต่างประเทศแล้ว เพราะ ธปท. เปิดให้เลย" .... หรือ "นักพัฒนาไทย ไม่ต้องพยายาม reverse engineer/crack ไอ้ปุ่มเลื่อนบ้าบอนั่นของไปรษณีย์ไทย เพื่อข้อไปถึงข้อมูล tracking number เพราะเรามี ThaiPost API"
อยากได้แอปภาครัฐเหรอ ... ไม่ต้องทำเองหรอก ...
ตัวอย่างเช่นนะ .... เชื่อผมไหมล่ะ ... ไปรษณีย์ไทย ไม่ต้องทำแอป tracking เองหรอกนะ แค่เปิด API เดี๋ยวจะมีแอป tracking เจ๋งๆ ที่ user experience ไม่แพ้ต่างประเทศที่ไหน ออกมาเยอะแยะ
แอปพจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน ไม่ต้องทำมาให้คนด่าหรอกครับ แค่เปิด API ผมเชื่อว่าจะมีคนทำแอปพจนานุกรมเจ๋งๆ มาให้เองเลย จะเอา UX เจ๋งขนาดไหน ผมเชื่อว่ามีคนทำได้แน่
นักพัฒนาทั้งประเทศ รอเรื่องพวกนี้อยู่ ...
ผมคงฝันไป .... เพราะหลายที่ ที่ผมพอจะมีบทมีบาทเข้าไปร่วมงาน ต่อให้เป็นเวทีหรือในโต๊ะที่ผมมีตำแหน่งเป็นทางเป็นการ ... เรื่อง API นี่พูดไปเถอะ ไม่มีคนสนใจและแทบไม่มีคนฟัง
แต่ทุกวันภาครัฐยังฝันหวานถึง "การเชื่อมต่อที่สวยงาม" เดี๋ยวเราจะเชื่อมนั่นเชื่อมนี่ได้ทุกอย่าง พูดถึงการนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์มากมาย ..... แต่กลับไม่สนใจเรื่องพวกนี้ในเบื้องลึกเอาซะเลย และสนใจแต่ "หน้าฉาก" เท่านั้น
นักวิชาการ ก็มองในแง่วิชาการ academic merit กันล้วนๆ ว่ากันบนกระดาษ ฝันกันไปว่าคนนั้นคนนี้จะนำไปใช้ได้ และได้ประโยชน์ มากกว่าการนำไปใช้ประโยชน์จริงในทางปฏิบัติ
สิ่งเดียวที่นักพัฒนาโปรแกรมใช้ต่อยอดได้ ไม่ใช่หน้าเว็บสวยๆ หรือฐานข้อมูลใหญ่ๆ หรือโครงการประกาศตัวนี่นั่นโน่นเท่ๆ หรือโครงการประกวดอะไรมากมาย ... แต่เป็น Application Programming Interface เท่านั้น
และนั่นแหละ ระบบอะไร ข้อมูลอะไรที่ภาครัฐทำจะมีประโยชน์จริงๆ ก็ต่อเมื่อคนทำโปรแกรมสามารถเชื่อมต่อระบบได้ง่าย ถ้าไม่มีตรงนี้ซะแล้ว ทุกอย่างมันก็ยากหมด และการแก้ปัญหาแทบทุกอย่างมันก็ต้องพึ่งข้อมูลจากรัฐหรือฟังก์ชั่นอะไรบางอย่างจากทางรัฐเป็นพื้นฐานทั้งนั้น
ติดปีกให้นักพัฒนาทั้งประเทศ ด้วย Government API เถอะครับ ไม่งั้นอย่าไปพูดถึง Thailand 4.0, 5.0, 6.0 อะไรพวกนี้เลย ถ้าคิดว่ารัฐยังจะต้องทำทุกอย่างเองหมด ทุกคนต้องเข้าเว็บภาครัฐหมด เอะอะก็ทำแอปใหม่ ของบใหม่หมด
กรอบความคิดมันไม่ได้ขยับไปจาก Thailand 1.0 (alpha version) เลยสักนิด
[อัพเดทเพิ่มเติม]
ผมทราบดีเรื่องโครงการ open government data และเว็บไซต์ data (dot) go (dot) th ครับ ... ผมเป็นหนึ่งในคณะกรรมการของ EGA สำหรับเรื่องนี้ ... สองเรื่องนี้ไม่ใช่ API นะครับ :-)
Search