รฟท.กู้เงินเพิ่มอีก 13,500 ลบ. แก้ปัญหาขาดสภาพคล่องในปี 2565
อ่านเพิ่ม https://wp.me/p1YZB1-39S6
.
การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. ตั้งขึ้นในปี 2433 เป็นรัฐวิสาหกิจในกระทรวงคมนาคม ทำหน้าที่ดูแลกิจการด้านรถไฟของประเทศไทย มีทางรถไฟอยู่ภายใต้ขอบเขตดำเนินการทั้งหมด 4,070 กม. และมีที่ดินในมือมากกว่า 270,000 ไร่ทั่วประเทศ ซึ่งแม้ว่าเป็นเจ้าของทรัพย์สินรายใหญ่ที่สุด แต่...ก็เป็นหนึ่งในหน่วยงานของรัฐที่มีหนี้มากที่สุด
.
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา รฟท. ประสบปัญหาขาดทุนอย่างต่อเนื่อง ในปี 2565 รฟท.คาดการณ์ว่าจะมีเงินสดรับ 60,965.26 ลบ. และเงินสดจ่าย 74,565.26 ลบ. โดยมีเงินสดยกมาจากปี 2564 จำนวน 100 ลบ. ส่งผลให้ รฟท.ขาดเงินสดไว้ใช้จ่ายในปีงบประมาณ 2565 จำนวน 13,500 ลบ. จึงจำเป็นต้องกู้เงินในจำนวนดังกล่าวเพื่อให้มีเงินสดหมุนเวียนในการใช้จ่ายดำเนินงาน การลงทุน การจ่ายเงินบำเหน็จบำนาญ และการชำระหนี้เงินกู้ โดย รฟท.คาดว่าจะเริ่มขาดเงินในช่วงเดือนตุลาคม 2564
.
ล่าสุดเมื่อ 28 ก.ย. ที่ผ่านมา ครม. ได้เห็นชอบให้ รฟท. ดำเนินการกู้เงินเพื่อบรรเทาการขาดสภาพคล่อง ในปีงบประมาณ 2565 วงเงิน 13,500 ลบ. และเงินกู้ระยะสั้น (วงเงินกู้เบิกเกินบัญชี) วงเงิน 800 ลบ.
.
อ้างอิงจาก Bloomberg และ The Standard Wealth ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา รฟท. ขาดทุนรวมกว่า 40,000 ลบ. ซึ่งเพื่อแก้ปัญหาหนี้ที่สะสมมานาน รฟม. ได้มีการวางแนวคิดที่จะสร้างรายได้จากทรัพย์สินที่มีอยู่ โดยการนำเอาที่ดินมาให้เอกชนประมูลเพื่อพัฒนาร่วมกัน
.
จากมุมมองของ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม หนึ่งในโครงการที่มีความเป็นไปได้คือ #สถานีกลางบางซื่อ ที่เพิ่งเปิดใช้งานสดๆ ร้อนๆ มีมูลค่าการลงทุนกว่า 44,000 ลบ. พื้นที่โดยรอบกว้างถึง 2,325 ไร่ ซึ่งสามารถพัฒนาเป็น อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า และที่อยู่อาศัย
.
หากความพยายามของ รฟท. ประสบความสำเร็จ ศักดิ์สยาม มองว่า รฟท. อาจมีมูลค่ามากกว่า บมจ.ท่าอากาศยานไทย หรือ AOT ซึ่งปัจจุบันเป็นบริษัทจดทะเบียนที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ มีมูลค่าแบรนด์องค์กร 788,000 ลบ.
.
ที่มา: https://www.bloomberg.com/news/articles/2021-09-26/troubled-thai-state-railway-targets-18-billion-in-land-projects?fbclid=IwAR1fTOIXIql8qKEO9_qtAyeS2Ovqpt14JViZ7YG4mZkLtS9gt42AoaLiiTU
https://www.facebook.com/thestandardwealth/photos/a.183297416759288/401156544973373
-----------------------------
ติดตามกันต่อได้ผ่านทาง Line Official Account คลิก https://lin.ee/svACOxc
同時也有107部Youtube影片,追蹤數超過19萬的網紅OmegaGamesWiki™,也在其Youtube影片中提到,PS5版のGhost of Tsushima Director's Cut(ゴースト・オブ・ツシマ ディレクターズカット)の難易度万死+のノーダメージ&攻略動画です、Part 6。 PART 6 ・浮世草 - 情けは人の為ならず/A Helping Hand ・浮世草 - 寄す波/Troubled...
「troubled」的推薦目錄:
troubled 在 Facebook 的精選貼文
Love you to Himalayas
Namaste Annapurna Base Camp
เนปาล...นานมาแล้ว
.
เรื่องเล่าบทสุดท้ายของการเดินทางสู่หิมาลัย
การเดินทางที่แสนเหนื่อยและคุ้มค่าที่สุดในชีวิต
.
----------------------------------------------------
.
หลังจากออกจาก Poon Hill เราก็ที่จะเริ่มเข้าสู่เขตตีนเขาของหิมาลัย ทางเดินเริ่มมีหลากหลายระดับ และท้าทายความอดทนของร่างกายมากขึ้นเรื่อยๆ ปอดและหัวใจของเราทำงานอย่างหนักหน่วง ช่วงเวลาที่เสียงของลมหายใจดังชัดมาก เมื่อเริ่มเข้าใกล้เทือกเขาหิมาลัย ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของชาวเนปาล ที่เชื่อว่ายอดมัจฉาปูชเรเป็นที่ประทับของพระแม่อุมาเทวี เทพสตรีในศาสนาฮินดูที่ชาวเนปาลให้ความนับถืออย่างมาก ดังนั้นการเดินทางเข้าเขตศักดิ์สิทธิ์นี้นั้น ทำให้อาหารหลักในแต่ละมื้อของเราจะมีเพียงแค่ผักพื้นบ้าน เนื้อสัตว์จะมีเพียงปลาและไข่เท่านั้น จะไม่สามารถนำเนื้อสัตว์ใหญ่เข้าเขตนี้ได้ พวกเราที่พกมาม่าหรือโจ๊กคัพรสไก่มาด้วยก็ต้องระบายเสบียงกันให้หมดก่อน และข้อห้ามเด็ดขาดที่หัวหน้าไกด์บอกกับเราคือ ระหว่างทางเดินห้ามทิ้งขยะลงพื้นเรี่ยราด ห้ามถ่มน้ำลายลงตามพื้นดิน เหล่าผู้ชายทั้งหลายต้องทำธุระเป็นที่ในห้องน้ำเท่านั้น เพราะเชื่อว่าจะทำให้การเดินทางไม่ราบรื่น เมื่อเราทุกคนรับรู้อย่างนั้น แน่นอนเราปฏิบัติตามตามคำบอกของบักตะ เราเคารพธรรมชาติ ความสวยงามขนาดนี้ไม่ควรแปดเปื้อนจากเศษขยะของผู้มาเยือนอย่างเรา
.
เราต้องใช้เวลาเดินอีก 3 วันที่เราจะถึง Base Camp มาถึงจุดที่ร่างกายเริ่มออกอาการงอแง ไม่เคยคิดว่าแค่การก้าวขาไปข้างหน้ามันจะยากเย็นได้ขนาดนี้ ช่วงวัดใจที่แท้จริงมาถึงแล้ว เหนื่อยจนแทบไม่เหลือเรี่ยวแรง ใจที่ว่าแข็งก็ยังกลายเป็นความลังเลว่าจะพอแล้วหรือไปต่อเพราะลิมิตของร่างกายมันฟ้อง เท้าที่ก้าวไปพร้อมกับความคิดที่ตีกันในหัวตัวเองไม่หยุด ถ้าขาดเพื่อนกับไกด์ที่คอยเชียร์ให้กำลังใจเรื่อยๆ ไม่แน่เราอาจถอดใจจากหิมาลัยไปแล้วก็ได้ ระหว่างทางเราก็จะได้เจอเพื่อนร่วมทางกลุ่มอื่นๆ และนักเดินทางที่กลับลงมาจากหิมาลัย เราเดินมาเจอกับชาวต่างชาติที่กำลังเดินกลับ เดาว่าหน้าตาเราคงจะเหยเกและดูจะขาดใจเอามากๆ จนผู้หญิงที่กำลังจะเดินผ่านเราไปหยุดแล้วเอามือสองข้างจับที่บ่าของเราแล้วพูดเป็นกำลังใจสั้นๆ ว่า “Slow and Steady” และเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ถึงจะชื้นใจขึ้นมาหน่อย แต่สุดแล้วเราสองคนเป็นขาประจำเดินรั้งท้ายสุดอยู่ดี เรามาถึงที่หมายก็ใกล้หมดวันเต็มแก่ แน่ละเราจะถึงเป็นกลุ่มสุดท้ายตลอด ยิ่งตกดึกอากาศยิ่งเบาบางและเย็นจัด อาหารเย็นที่ทุกคนพร้อมหน้าพร้อมกันตากันอย่างคึกครื้นเวลานี้ค่อนข้างเงียบ เราแทบกินอะไรไม่ลงเลย เพราะความล้าที่สะสม เราต้องอาศัยมาม่ารสต้มยำกุ้ง (ไกด์บอกว่าพกขึ้นมาได้) ประโลมชีวิตให้ได้มีรสชาติบ้างหน่อย
เมื่อจบมื้อเย็นทุกคนแจกจ่ายยาแก้ปวดให้กันแล้วต่างแยกย้ายไปนอน ไม่มีเวลามาจอแจสนุกสนานเหมือนวันแรกๆ เพราะต้องนอนเอาแรงกลับมาให้เยอะที่สุด สำหรับวันรุ่งขึ้น
.
The Mountain Sound
.
เราตื่นกันแต่เช้าตรู่ เดินออกมาจากห้องแล้วสิ่งแรกที่ปะทะสายตาคือหิมาลัยที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า เราทุกคนมีสีหน้าเดียวกันคือสองตาวาวเป็นประกาย ใกล้แล้ว ใกล้มากๆ อีกอึดใจเดียวจะถึงแล้ว วันนี้คือวันสุดท้ายที่เราจะถึง Base Camp เราเดินผ่านลำธารเล็กๆ ข้ามเนินเขา และเลียบแม่น้ำที่เกิดจากการละลายของหิมะบนยอดเขา วิวสองข้างทางกลายเป็นหินผา ทุ่งหญ้าสีเหลือง เราแทบไม่เห็นความเขียวขจีเหมือนกับก่อนหน้านี้แล้วคงเพราะด้วยอุณหภูมิที่ลดลงต่ำของอากาศบริเวณตีนเขา ความซับซ้อน และชันของแต่ละเนิน บวกกับอากาศที่เย็นทำให้เราเดินช้าลงยิ่งกว่าเดิม จนทิ้งท้ายจากคนอื่นๆ เหลือแค่เรากับเป็ปและบอลลี่กันแค่สามคน หมอกเริ่มลอยต่ำจนแทบไม่เห็นข้างทางและทางข้างหน้าเท่าไหร่แล้ว บอลลี่กำชับให้เรารีบทำเวลาเพราะสภาพอากาศดูไม่ค่อยน่าไว้วางใจ เราอาจจะเจอกับพายุหิมะได้ เราเดินไปข้างหน้าอย่างไม่รู้ปลายทางเพราะหมอกที่หนาขึ้นเรื่อยๆ จมูกเริ่มแสบจนต้องหายใจทางปากช่วย ขอบตาและหน้าชาไปด้วยความเย็น พอเดินไปได้สักพักเราก็รู้สึกเหมือนหยดน้ำเล็กๆ ตกลงมาบนหน้า ฝนโปรยปรายลงมาแล้ว เราพยายามรีบเดินเท่าที่เท้าจะก้าวไหว ตอนนี้ละอองฝนเปลี่ยนไปเป็นก้อนน้ำแข็งจิ๋วๆ นิ่มๆ เราหันไปถามบอลลี่ด้วยความตื่นเต้นว่านี่คือหิมะใช่ไหม บอลลี่ยิ้มและบอกว่าไม่ใช่ นี่คือลูกเห็บจิ๋วๆ ถ้าเป็นหิมะมันจะลอยพลิ้วอยู่ในอากาศ พร้อมกับทำมือประกอบให้เราดู ว่าอย่างนั้นแล้วเราก็เดินกันต่อ อากาศเริ่มดูท่าจะแย่ลงสองข้างทางเปลี่ยนเป็นสีขาวโพลน หมอกทึบจนมองไม่เห็นทางข้างหน้า เราเปิดเพลง Your Bone ฟังซ้ำๆๆ พยายามให้มีสมาธิอยู่กับลมหายใจมากที่สุด และอย่างที่บอกเวลานั้นทำนองและเนื้อหาของ Of Monster and Men เป็นอะไรที่เข้ากับบรรยากาศที่สุดแล้ว ทำนองของกลองเต้นเป็นจังหวะเดียวกับเสียงหัวใจของเราในตอนนั้น
.
in the spring we made a boat
out of feathers, out of bones.
we set fire to our homes,
walking barefoot in the snow.
.
และแล้วเกร็ดน้ำแข็งสีขาวเล็กๆ ก็ปลิวลงมาผ่านหน้าเราไป เรายืนมือออกมาเกร็ดหิมะค่อยๆ ร่วงลงบนมือเราอย่างช้าๆ เหมือนกับภาพสโลว์ในฉากหนัง เราตะโกนถามบอลลี่ทันที ว่าใช่ไหม ใช่รึยัง บอลลิ่ยิ้มให้เหมือนเดิมแล้วพยักหน้า เราหันไปมองหน้าเป็ปแล้วตื่นเต้นกันสองคน แต่สิ่งที่เป็ปตื่นเต้นไม่ใช่แค่หิมะ แต่เป็นป้ายไม้ที่ตั้งอยู่กลางหิมะเขียนว่า "Namaste Annapurna Base Camp Warmly Welcome to all internal & External Visitors" เป็นการดีใจที่สุดแต่ไม่มีเสียง ฮ่าๆ ถึงแล้ววววว เรามาถึงแล้วในที่สุดดดด เราขอบอลลี่หยุดถ่ายรูปสักพักกับหิมะแรกของวัน และถ่ายรูปคู่กับป้าย ไม่นานหิมะก็ดูท่าจะตกหนักขึ้น เราเลยต้องรีบเดินเข้าเบสแคมป์ เราเห็นเหล่าลูกหาบของกลุ่มเรายืนโบกมือให้อยู่หน้าที่พัก เราเดินผ่านซุ้มโค้งที่ประดับด้วยใบไม้แห้งๆ กับธงมนต์ เหมือนเป็นประตูชัยของการเดินทางครั้งนี้ ยิ้มออกได้ในที่สุดเมื่อก้าวพ้นบันไดขั้นสุดท้าย พร้อมเสียงปรบมือของลูกหาบและไกด์ที่ยืนรอ เราหันไปขอบคุณบอลลี่ และเข้าไปพักที่โถงกลาง ที่เป็นเหมือนห้องกินข้าว บนนี้ไม่มีเครื่องให้ความอบอุ่นเพราะอุณหภูมิที่ติดลบของที่นี่ทำให้การจุดไฟจะยิ่งทำให้อากาศบางลงกว่าเดิม แม้ตัวจะเย็นเฉียบแต่หัวใจเรากลับอุ่นไปด้วยไฟจุดเล็กๆ
.
troubled spirits on my chest where they laid to rest.
the birds all left my tall friend as your body hit the sand.
million stars up in the sky formed a tigers eye
that looked down on my face, out of time and out of place.
so hold on, hold on to what we are,
hold on to your heart.
.
บรรยากาศของอาหารเย็นเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง ทุกคนตื่นเต้นกับการพิชิต ABC ได้สำเร็จ และที่สำคัญสมาชิกทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า ปลาทูต้มหวานที่ส่งตรงมาจากบ้านเพื่อนเราที่ชุมพรกลายเป็นอาหารแสนอร่อยและหรูหราที่สุดบนหิมาลัย เราแบ่งปลาทูแพ็คที่เหลือให้กับไกด์ ลูกหาบ เจ้าของเบสแคมป์ และกลุ่มพี่ๆ คนไทยโต๊ะข้างๆ ที่ออกเดินทางมาพร้อมๆ กันกับกลุ่มของเรา เราแลกเปลี่ยนพูดคุยกันอย่างสนิทสนม คงเป็นเพราะประสบการณ์ร่วมของการเดินทางครั้งนี้ แต่ละคนออกคุยอย่างออกรสกันสนุกสนานเพราะเหมือนเพิ่งรอดตายมาได้สดๆ ร้อนๆ เมื่อพอหอมปากหอมคอกันแล้ว พวกเราก็ต่างบอกลาและแยกย้ายกันเข้าห้องนอน เพราะพรุ่งนี้เป็นวันสำคัญที่ต้องตื่นเช้ามาดูพระอาทิตย์ขึ้น
.
Love You To Himalayas
.
หมดพายุจากเมื่อวานแล้วหลงเหลือแต่กองหิมะสีขาวโพลน ที่ตอนนี้ปกคลุมไปทั่วทุกที่ ยอดเขาที่เราหมายใจเอาไว้อยู่เบื้องหน้าเราแล้ว แม้จะเช้าแล้วแต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะเห็นแสงสว่างจากพระอาทิตย์ เพราะเมฆหนาสีเทา ภาพบรรยากาศเลยเหมือนถูกย้อมด้วยสีฟ้าหม่นๆ เราซึบซับภาพตรงหน้าไว้นานเท่าที่ร่างกายจะทนความหนาวได้ ใช้เวลาอยู่กับปัจจุบันในขณะนั้นอย่างตั้งใจ เพราะไม่มีสักนาทีเลยที่อยากจะละสายตาไปเลย หิมาลัยอยู่ตรงนั้น หิมาลัยอันทรงสง่า แม้จะผ่านกาลเวลาเนิ่นนานปีแล้วปีเล่าก็ยังคงงดงามตลอดมาและตลอดไปเท่าอายุขัยของโลกใบนี้
.
เราใช้เวลาเสพสมกับรางวัลตรงหน้าของเราอยู่นาน เรากลับเข้ามาที่ห้องโถง นั่งลงและเขียนโปสการ์ดที่ติดขึ้นมาด้วย ใบนึงถึงตัวเองและที่เหลือถึงเพื่อนสนิท เมื่อเขียนเสร็จเราถามกับเจ้าของเบสแคมป์ว่าจะรบกวนส่งโปสการ์ดนี้ให้เราได้ไหม เพราะเราอยากได้ตราแสตมป์ของ ABC เค้ามองหน้าเราแล้วอมยิ้มเล็กๆ พร้อมกับขอโปสการ์ดไปและแสตมป์ตรา ABC ลงวันที่ 12 April 2018 ลงไป ดีใจมากกกกก ขอบคุณเค้าแล้วยิ้มไม่หยุดเลย (หลังจากนั้นอีกสามอาทิตย์โปสการ์ดก็ถึงมือทุกคน) เราทานอาหารเช้ากันพร้อมหน้าพร้อมตา คุยเล่นกันตามประสา และแน่นอนมื้อนั้นเป็นอาหารเช้าที่วิวสวยที่สุดในชีวิต ถึงช่วงสายๆ เราเตรียมตัวและเตรียมใจกันบอกลาหิมาลัย เพื่อจะเดินกลับแล้ว ยากที่จะบอกลาเหมือนกัน เหมือนยังใช้เวลาไม่พอ เสพยังไม่เต็มอิ่ม แต่เราคิดว่านั่นเองที่ทำให้หิมาลัยงดงามตรึงอยู่ในหัวใจเราจนถึงทุกวันนี้
.
ขาเดินกลับเป็นอะไรที่ทรหดมาก วันขาลงจาก ABC เราต้องรวบระยะทางของขามา 2 วันให้เหลือวันเดียว แทบตายแบบตายของจริง เริ่มด้วยอากาศหนาวสุดๆ พอกลับลงมาก็เจอกับอากาศร้อน และพลาดไม่ได้เลยคือตามมาด้วยฝน และเพราะทางลาดลงทำให้หัวเข่าเราเริ่มเจ็บแปลบ จากที่เดินช้ามากๆ อยู่แล้วคราวนี้ยิ่งไปกันใหญ่ รั้งท้ายห่างจากคนอื่นๆ ไกลขึ้นเรื่อยๆ เราเดินทำเวลากันอย่างเอาเป็นเอาตาย ฟ้าค่อยๆ มืดลงจนพวกเราที่รั้งท้ายเริ่มกังวล ทั้งไม่แน่ใจว่าระยะทางอีกไกลแค่ไหนและไหนจะทางลาดชันลื่นๆ อีก ในที่สุดความมืดครอบคลุมจนเรามองไม่เห็นอะไรอีกเลย มีเพียงแค่ไฟฉายดวงเดียวของบอลลี่เท่านั้นที่นำทางเรา ตอนนั้นมีแค่เสียงลมหายใจและฝนที่โปรยปรายลงมาไม่หยุด เราก้มหน้าก้มตาเดินจ้ำอ้าวเพื่อไปให้ถึงบ้านพักเร็วที่สุด เราเดินกันไปอย่างไม่รู้เวลาร่ำเวลา จนมีเงาลางๆ ข้างหน้าเราเห็นเหมือนมีคนกำลังเดินสวนมา พวกเราต่างคิดในใจกันว่าคงจะเป็นชาวบ้าน จนเมื่อใกล้ขึ้นเรื่อยๆ แล้วฝั่งนั้นทักมาว่า นมัสเต เราเงยหน้าขึ้นมองพร้อมกัน ปรับสายตาให้โฟกัส แล้วก็ร้องดีใจออกมาว่า พี่ตี๋!!! พี่ตี๋คือพี่แก๊งลูกหาบของกลุ่มเราเอง เค้าเดินมารับพวกเราเพราะเริ่มกังวลว่ายังมาไม่ถึงสักที ดีใจจนน้ำตาไหลเลย พี่ตี๋คุยกับบอลลี่แล้วบอกว่าอีกประมาณ 15 นาทีก็จะถึงจะบ้านพักแล้ว เป็นเวลาเกือบสามทุ่มที่เรามาถึงเป็นกลุ่มสุดท้าย บักตะที่รอพวกเราอยู่พาไปยังห้องพักและพาไปกินข้าว แต่พวกเราเหนื่อยและล้ากันเกินกว่าจะกินอะไรลง เลยขอแค่น้ำขิงผสมน้ำผึ้ง แล้วเข้านอนเลย
.
ในตอนเช้าเราเลยปรึกษากันในกลุ่มว่าอาจจะเดินกลับอย่างที่เดินขามาไม่ไหว เพราะนอกจากเราสองคนกันเอง คนอื่นๆ เองก็เริ่มล้าและเจ็บหัวเข่าตามๆ กันแล้ว พวกเราเลยคุยกับบักตะถึงว่าจุดไหนที่รถเข้าถึง ที่ใกล้มากที่สุด เราจะไปที่นั่นและนั่งรถยิงยาวเข้าไปที่โพคาราเลย ข่าวดีคือเดินเพียง 1 วันเท่านั้น เท่ากับว่าเย็นนี้เราไปถึงหมู่บ้านที่ว่า และเช้าวันถัดไปก็เดินต่ออีกนิดนึงไปขึ้นรถกลับ เรี่ยวแรงเริ่มกลับมาฮึดอีกครั้งพอรู้ว่าเป็นวันสุดท้ายแล้ว เรามาถึงหมู่บ้านที่จะเป็นที่พักคืนสุดท้ายของการเดินประมาณเกือบ 4 โมง ตอนนี้ทุกคนดูจะสดใสที่จะได้รู้ว่าจะมีรถมารับในวันพรุ่งนี้รวมถึงเราด้วย ที่นี่พอมีสัญญาณโทรศัพท์อยู่หน่อยทุกคนเลยรีบแยกยัายกันไปโทรหาที่บ้าน เพราะขาดการติดต่อไปหลายวัน จากนั้นทุกคนก็มานั่งรวมตัวกันที่ห้องเดียว แล้วคุยเกี่ยวกับทริปนี้ จำรายละเอียดไม่ได้แล้วว่าเรื่องอะไรบ้าง แต่จำได้ว่าหัวเราะกันท้องแข็ง คุยกันไป เราเริ่มได้ยินเสียงจากด้านนอกดังเข้ามาสู้เสียงในห้องเรา พวกเราเปิดประตูออกไป เหล่าไกด์และลูกหาบของเราและกลุ่มอื่นกำลังนั่งลอมวงร้องเพลงสังสรรค์กันอย่างสนุกสนาน เราฉุกคิดขึ้นได้ว่าวันนี้เป็นวันที่ 14 เมษา วันขึ้นปีใหม่ของชาวเนปาล ทุกคนร้องเพลง ปรบมือเป็นจังหวะแล้วออกมาเต้นกันอย่างมีความสุข พวกเราเองก็ไปร่วมวงด้วยอยู่สักพักนึงพร้อมกับอวยพรสวัสดีปีใหม่กับผู้นำทางของเรา เป็นบรรยากาศที่เรียบง่าย อบอุ่น และน่ารักจนเราอดไม่ได้ที่จะยิ้มและอบอุ่นหัวใจตามไปด้วย
.
วันรุ่งขึ้นเราขึ้นรถกลับมาพักที่โพคาราหนึ่งคืน และกลับมายังกาฐมาณฑุอีกหนึ่งคืนก่อนบินกลับบ้านในวันถัดมา จู่ๆ เวลาก็ผ่านไปไวอย่างน่าเหลือเชื่อ เราพูดกับตัวเองในวันนั้นว่าโชคดีจริงๆ สำหรับการตัดสินใจออกเดินทางในครั้งนี้ แม้จะเหนื่อยที่สุดในชีวิต แต่มันก็คุ้มค่าที่สุดในชีวิตเช่นกัน เราทิ้งความคิดถึงเอาไว้ที่นั่น เราเก็บความทรงจำที่ดีที่สุดกลับมา
.
การเดินทางที่ดีคือการเดินทางที่ทำให้กาลเวลาได้ทำงานอย่างต่อเนื่อง ทริปนี้เป็นทริปที่เรายังคิดถึงอยู่เนืองๆ คุยกี่ครั้งกี่ทีก็ไม่เบื่อ บอกทุกคนที่มีโอกาสให้ได้ลองไป ลองไปเห็นด้วยตา ไปค้นพบหิมาลัยของตัวเอง
.
จากวันนั้นเราค้นพบหิมาลัยของเราแล้ว งดงาม เรียบง่าย
และไม่ว่าชีวิตจะเป็นเช่นไร ย่อมมีความงามซ่อนอยู่ ณ ที่ใดสักแห่งเสมอ
.
Love you to Himalayas,
Mars
.
#ABOVETHEMARS
#NEPAL
troubled 在 每天為你讀一首詩 Facebook 的最讚貼文
The Sound Of Silence ◎Simon & Garfunkel
Hello darkness, my old friend
嗨囉,黑暗吾友
I've come to talk with you again
我又來到你眼前與你交談
Because a vision softly creeping
因著一種幻覺正悄悄向我爬來
Left its seeds while I was sleeping
趁我深眠留下種子遍地
And the vision that was planted in my brain
爾後深植於我腦海之中
Still remains
不斷纏繞
Within the sound of silence
伴隨寂靜之聲
In restless dreams I walked alone
無盡的夢裡我隻身行走
Narrow streets of cobblestone
於狹窄的鵝卵石之街
'Neath the halo of a street lamp
在路燈的光暈之下
I turned my collar to the cold and damp
我豎起衣領抵禦寒氣與溼氣
When my eyes were stabbed by the flash of a neon light that split the night
當一束劃破夜空的霓虹刺穿我的眼
And touched the sound of silence
觸摸著寂靜深處的聲音
And in the naked light, I saw
在奪目得近乎赤裸的光中,我看見
Ten thousand people, maybe more
成千上萬的人,或許更多
People talking without speaking
人們交談卻未發聲
People hearing without listening
聽見一切卻不聞
People writing songs that voices never share
人們寫下那些歌,卻未曾共享歌聲
And no one dared
終於無人再膽敢
Disturb the sound of silence
打擾寂靜之聲
"Fools", said I, "You do not know
「蠢人」,我說,「你不知道的是
Silence like a cancer grows
寂靜正如癌症蔓延滋長
Hear my words that I might teach you
仔細聽我的言語讓我教導你
Take my arms that I might reach you"
抓住我手臂讓我拯救你」
But my words, like silent raindrops fell
但我的話語,正寂靜如雨滴墜落
And echoed
並且敲起回音
In the wells of silence
於寂靜之井中
And the people bowed and prayed
於是人們鞠躬、祈禱
To the neon god they made
向著他們創造的霓虹之神
And the sign flashed out its warning
警告的燈在其中閃熾
In the words that it was forming
組織所有文字
And the sign said,
靜謐訴說:
"The words of the prophets are written on the subway walls
「先知的話語已被篆刻於地鐵牆上
And tenement halls"
與屋宇大廳裡
And whispered in the sound of silence
並低語於寂靜之聲中」
-
◎作者簡介
Simon & Garfunkel是著名美國民謠搖滾音樂二重唱組合,是六十年代最流行的樂團之一,被視為該年代社會變革的反文化偶像。其成名曲多不勝數,如〈The Sound of Silence〉、〈Scarborough Fair〉、〈Bridge Over Troubled Water〉等皆為家喻戶曉的名曲。
-
◎小編淵智賞析
〈The Sound of Silence〉是Simon & Garfunkel1964年的首張錄音室專輯《Wednesday Morning, 3 A.M.》中的一首歌。推出後卻售量慘淡,也導致兩人散夥。到了1965年春天,該歌曲開始在電台上播放,卻意外獲得播放量的增長,也使製作人決定重新將此歌進行混音並發行,〈The Sound of Silence〉因此爆紅,也使Simon & Garfunkel重組,並以該歌名作為第二張專輯的名字。
介紹完歌曲背景後,讓我們來開始看這首歌。從其中的詞彙選用,如「黑暗darkness」、「鵝卵石之街streets of cobblestone」、「霓虹neon」,我們不難感知到歌曲的場景錯落於彷彿十九世紀的倫敦,因為霧氣蔓延而顯得似乎無盡的街。歌曲開始於一種精神狀態的模擬「Because a vision softly creeping因著一種幻覺正悄悄向我爬來/Left its seeds while I was sleeping趁我深眠留下種子遍地」,此一幻覺的襲來承襲前面的「darkness黑暗」,我們可以意識到不管接下來發生的事情為何,對敘事者而言,他已經陷於一種昏昧、幻覺蔓生的精神狀態。當我們感知到了此一型態之後,這段便以「Within the sound of silence伴隨寂靜之聲」作收,這是這首歌第一次出現「矛盾」的語境——究竟寂靜深處為何會有聲音呢?
帶著這樣的疑問,我們來到了下一段,與第一段的精神狀態不同,第二段的描述卻絲毫未帶有個人的意識,而是從外界種種來進行投射——敘事者在無盡的街上行走,為了抵禦濕氣與寒氣而將領袖立起,而即使如此,卻依然有些事物是能穿過領袖直接侵襲的,那就是霓虹。我們不難感知到這裡的「霓虹」似乎帶有著文明、發展的想像,當這種感覺卻依然停留在模糊的型態,卻又回到了第一段那樣類似的語句作結:「And touched the sound of silence觸摸著寂靜深處的聲音」。然而有了第一段的內在精神型態、第二段的外在世界描摹,我們便似乎開始感受得到究竟何謂「sound of silence」。
接著,來到了第三段,承接上段的光,敘事者的意識開始與外界結合,而使得他看見了幻覺「And in the naked light, I saw在奪目得近乎赤裸的光中,我看見/Ten thousand people, maybe more成千上萬的人,或許更多」,這樣的幻象似乎替sound of silence作出了一種情境式的衍釋——到了此時,sound of silence的具體特徵也終於浮現:「People talking without speaking人們交談卻未發聲/People hearing without listening聽見一切卻不聞/People writing songs that voices never share人們寫下那些歌,卻未曾共享歌聲」。交談卻未出聲,聽見一切卻聽而不聞,擁有歌曲卻未共享歌聲,這是一種冷漠的姿態,在二重唱所生存的當代,這種冷漠、文明以及歌曲所想抵抗的意識形態正好重疊在此刻。因此,在下一段,他們也終於第一次對此冷漠做出了痛心的批判:
"Fools", said I, "You do not know
「蠢人」,我說,「你不知道的是
Silence like a cancer grows
寂靜正如癌症蔓延滋長
Hear my words that I might teach you
仔細聽我的言語讓我教導你
Take my arms that I might reach you"
抓住我手臂讓我拯救你」
然而,最淒涼的是,這樣的痛心疾首,卻依舊被冷漠所吞噬:「But my words, like silent raindrops fell但我的話語,正寂靜如雨滴墜落/And echoed
並且敲起回音/In the wells of silence於寂靜之井中」,此時,這一種「silence寂靜」也終於清楚地被我們所認知到。這是一種先知的嘆息,生存在知道一切正往著崩毀命運的當代,想要大聲疾呼卻始終徒勞無功,這或許是二重唱在他們唱著這些歌曲的當代,最無可奈何的命運吧。
因此,到了最後,他們也只能眼睜睜地看著人們向著人工的神「neon god霓虹之神」祈禱,並留下最後的遺言。
--
美編:浩瑋
圖源:浩瑋
#每天為你讀一首詩#當代詞選#西洋詞選#寂靜之聲
https://cendalirit.blogspot.com/2021/09/20210917.html
troubled 在 OmegaGamesWiki™ Youtube 的精選貼文
PS5版のGhost of Tsushima Director's Cut(ゴースト・オブ・ツシマ ディレクターズカット)の難易度万死+のノーダメージ&攻略動画です、Part 6。
PART 6
・浮世草 - 情けは人の為ならず/A Helping Hand
・浮世草 - 寄す波/Troubled Waters 5:22
・浮世草 - 返す波/Bloodletting 11:14
======================
・NEW GAME+
・難易度 - 万死/LETHAL DIFFICULTY
・NO DAMAGE(強制イベント以外)
・STEALTHY WAY
======================
回収した大事なもの:
1) 剛力の護符(「情けは人の為ならず」報酬)5:14
2) 文と書状 壱岐 9/25 8:00
3) 戦利の護符(「寄す波」報酬) 11:06
4) 隼の護符(「返す波」報酬) 21:06
5) 杉の笠 22:08
サムネイル製作:K.K
======================
GHOST OF TSUSHIMA - 100% COLLECTIBLES NO DAMAGE PLAYLIST:
⇒https://www.youtube.com/playlist?list=PL4fd59i0eA3WiG4ZlTrTw-xk7jOG0hKns
======================
- ゲームタイトル: ゴースト・オブ・ツシマ ディレクターズカット/Ghost of Tsushima Director's Cut(PS5版)
- 発売日: 2021年8月20日
- 価格: PS5 パッケージ版 価格 8,690円(税込)
- ジャンル : アクション/アドベンチャー
- ESRB : Cero Z
- 開発: Sucker Punch Productions
- 発売: (株)ソニー・インタラクティブエンタテインメント
=======================
#GhostOfTsushima #ゴーストオブツシマ #壱岐之譚
=======================
"Copyright Disclaimer Under Section 107 of the Copyright Act 1976,
allowance is made for "fair use" for purposes such as criticism,
comment, news reporting, teaching, scholarship, and research.
Fair use is a use permitted by copyright statute that might otherwise
be infringing. Non-profit, educational or personal use tips the balance
in favor of fair use."
=======================
troubled 在 王大喜 Youtube 的最佳解答
2021/06/11(野史型紀實、上碼;Coding)
333、
「莊稼神說鬼」之”地縛靈”、
大地素材的淤滯與破枉死城
(時空環繞金球系列、野史型紀實; Documentary)
/.王大喜(Rasta Wang)
人類的命運,怎麼能不將大自然考量在內呢?
His can the destiny of mankind doseste the nature?
*今日經文
「「你們心裏不要憂愁;你們信神,也當信我。 我往哪裏去,你們知道;那條路,你們也知道。」」
約翰福音 14:1, 4 CUNP-神
Today daily chapter
「“Let not your hearts be troubled. Believe in God; believe also in me. And you know the way to where I am going.”」
John 14:1, 4 ESV
(本台已被標籤,大量廣告被迫下架,因此所有視頻是沒有收入的,原初做影片動機也不是為了收入或觀眾量,重要訊息可以多分享,另外保護自己,尊重原創及智慧資產,請勿將視頻與其他通靈訊息或評論性頻道同時收藏於同一個檔案夾避免觀眾混淆的不良反應)
(目前專注於療癒及生命紀實、創作,恢復線上諮詢及捐款,麻煩名字不要打錯,如需手術請至以下官網詳閱。☀️🙏)
資訊如下
台幣帳號:
戶名:王大囍
銀行代號:808
銀行名稱:玉山銀行內湖分行
帳號:0462968127363
台幣帳號:
銀行代號:048
銀行名稱:王道銀行
帳戶名稱:王大囍
帳號:01000115473288
美元帳號:
戶名:王大囍
E.SUN Multi-Currency Deposit
存戶帳號:0015879086033
Dream Walker™: RastaWang.com
(夢行者,™,醒夢人)
troubled 在 王大喜 Youtube 的精選貼文
2021/05/13(紀實Channel documentary) 8:08AM
737、57、The Holy Ghost.精轉魄與靈魂的遷徙。(約翰福音 14; John 14)
「我」不是「我」、
而是一連串情感、記憶、與物質碎片的鏈接。
為什麼稱「夢行者」?
經過素材連結儲存記憶碎片後,
我便在行夢,解密基因密碼。
(不是綺夢啊😂)
*222、Light. /.Origin Nicole Mars.
*3、Power. /.Origin Nicole Marks.
*3:16、彼岸。橋。 /.王大喜(Rasta Wang)
「就是真理的 聖 靈,乃世人不能接受的;因為不見他,也不認識他。你們卻認識他,因他常與你們同在,也要在你們裏面。 我不撇下你們為孤兒,我必到你們這裏來。
我留下平安給你們;我將我的平安賜給你們。我所賜的,不像世人所賜的。你們心裏不要憂愁,也不要膽怯。
以後我不再和你們多說話,因為這世界的王將到。他在我裏面是毫無所有;」
約翰福音 14:17-18, 27, 30 CUNP-神
「the Spirit of truth. The world cannot accept him, because it neither sees him nor knows him. But you know him, for he lives with you and will be in you. I will not leave you as orphans; I will come to you.
Peace I leave with you; my peace I give you. I do not give to you as the world gives. Do not let your hearts be troubled and do not be afraid.
I will not say much more to you, for the prince of this world is coming. He has no hold over me,」
John 14:17-18, 27, 30 NIV
(目前專注於療癒及生命紀錄,也恢復線上諮詢及捐款,如需手術請至以下官網詳閱。☀️🙏)
資訊如下
台幣帳號:
戶名:王大囍
銀行代號:808
銀行名稱:玉山銀行內湖分行
帳號:0462968127363
台幣帳號:
銀行代號:048
銀行名稱:王道銀行
帳戶名稱:王大囍
帳號:01000115473288
美元帳號:
戶名:王大囍
E.SUN Multi-Currency Deposit
存戶帳號:0015879086033
Dream Walker™: RastaWang.com
(夢行者,™,醒夢人)
troubled 在 We're busy celebrating with... - Bridge Over Troubled Waters 的推薦與評價
We're busy celebrating with some holiday cheer! Together, we celebrated with a holiday luncheon served restaurant-style to our youth. Youth were able to... ... <看更多>