ทำไม บางบริษัทมีกำไร แต่ไม่ยอมจ่ายเงินปันผล /โดย ลงทุนแมน
สำหรับคนที่ลงทุนในหุ้น ผลตอบแทนจากการลงทุนจะมาจาก 2 ส่วน คือ
1. กำไรจากการขายหุ้น (Capital Gain) และ
2. เงินปันผล (Dividend)
ซึ่งโดยพื้นฐาน ทั้ง 2 ส่วนจะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับเรื่องของ กำไรของกิจการเป็นหลัก
เพราะโดยทั่วไปแล้ว ถ้าบริษัทมีกำไรเติบโตมาก
ราคาหุ้นก็จะปรับเพิ่มขึ้น รวมไปถึงจ่ายเงินปันผลมากขึ้น
แต่ประเด็นของบทความนี้ก็คือ มีบางบริษัท ที่แม้ว่าจะมีกำไรมาก แต่กลับเลือกที่จะไม่จ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นเลย
มีเหตุผลอะไรที่บางบริษัทแม้ว่าจะมีกำไรมหาศาล
แต่เลือกที่จะไม่จ่ายเงินปันผลออกมา
แล้วถ้าเราอยู่ในฐานะนักลงทุน เราควรหลีกเลี่ยงหุ้นที่ไม่จ่ายเงินปันผลหรือไม่ ?
ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า นักลงทุนบางส่วนที่ลงทุนในหุ้น หวังจะได้ผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ เป็นประจำทุก ๆ ปี เพราะฉะนั้น นักลงทุนในกลุ่มนี้ จึงชอบมองหา บริษัทที่มีการประกาศจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น จึงอาจมีนักลงทุนจำนวนหนึ่ง
ที่มีกฎเหล็กเลยว่า จะไม่ลงทุนในบริษัทที่ไม่จ่ายเงินปันผล
ในมุมของบริษัท หลัก ๆ แล้วจะสามารถจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้ เมื่อในรอบปีบัญชีนั้น บริษัทมีกำไร และไม่มีผลขาดทุนสะสม
อย่างไรก็ตาม ก็มีบริษัทจำนวนไม่น้อย ที่เลือกไม่จ่ายเงินปันผล ทั้งที่บริษัทก็มีกำไร และไม่ได้ขาดทุนสะสม
ซึ่งก็มีเหตุผลที่ไม่จ่ายหลากหลายกรณี เช่น
กรณีแรก: บริษัทต้องการนำผลกำไรนั้น ไปลงทุนต่อ
การนำผลกำไรกลับไปลงทุนต่อ (Reinvesting Profits)
คือสิ่งที่หลายบริษัทเลือกทำ โดยเฉพาะถ้าบริษัทนั้น กำลังอยู่ในช่วงของการเติบโต ซึ่งต้องการทุ่มเงินลงทุนไปในโครงการต่าง ๆ
บางบริษัทเชื่อว่า การนำผลกำไรนั้นกลับไปลงทุนต่อ จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่า การที่ผู้ถือหุ้นได้รับผลตอบแทนในรูปของเงินปันผล
ซึ่ง Netflix ผู้ให้บริการสตรีมมิงวิดีโอรายใหญ่ของโลก ก็คือกรณีศึกษาที่ดีของเรื่องนี้
เราลองมาดูผลประกอบการของ Netflix ในช่วงปี 2018-2020
ปี 2018 รายได้ 521,000 ล้านบาท กำไร 40,000 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 666,000 ล้านบาท กำไร 62,000 ล้านบาท
ปี 2020 รายได้ 833,000 ล้านบาท กำไร 92,000 ล้านบาท
รู้ไหมว่า สิ้นปี 2020 Netflix มีกำไรสะสมมากถึง 252,000 ล้านบาท แต่ที่ผ่านมา บริษัทไม่เคยจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นเลย
เนื่องจากบริษัทนำผลกำไรนั้นกลับไปลงทุนต่อในการผลิตคอนเทนต์ เช่น สร้างภาพยนตร์ สร้างแอนิเมชัน ซีรีส์ รวมไปถึงการจ่ายคืนหนี้ และซื้อหุ้นคืน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผู้ถือหุ้นจะไม่ได้เงินปันผล แต่มูลค่าบริษัทของ Netflix ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 119,000 ล้านบาท เมื่อ 10 ปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 8.5 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน
หมายความว่า ถ้าเราลงทุนในหุ้น Netflix 1 ล้านบาท เมื่อ 10 ปีที่แล้ว
มาวันนี้ เงิน 1 ล้านบาทนั้นของเรา จะกลายเป็น 71 ล้านบาท
และนั่นคงไม่ทำให้ผู้ถือหุ้น Netflix มีปัญหาอะไร แม้ว่าจะไม่เคยได้รับเงินปันผลเลยก็ตาม..
กรณีที่สอง: เก็บเงินสดไว้ซื้อกิจการเป้าหมาย
อีกหนึ่งบริษัทที่ไม่จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นมานานแล้ว คือ Berkshire Hathaway ที่มีวอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนชื่อดังระดับโลกเป็นผู้บริหารอยู่
รู้ไหมว่า ปัจจุบัน Berkshire Hathaway นั้นมีเงินสดอยู่ในบริษัทกว่า 2 ล้านล้านบาท ซึ่งการที่ Berkshire Hathaway เลือกถือเงินสดไว้มาก ๆ เหตุผลหนึ่งก็คือ เก็บเอาไว้ใช้ซื้อกิจการที่น่าสนใจ
ตัวอย่างกิจการที่ Berkshire Hathaway เข้าไปซื้อในอดีตที่ผ่านมา เช่น
ปี 2010 ซื้อหุ้น 100% ของบริษัท BNSF Railway ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทางรถไฟรายใหญ่ ที่มีเครือข่ายในทวีปอเมริกาเหนือ มูลค่ากว่า 1.5 ล้านล้านบาท
ปี 2013 ซื้อหุ้น 50% ใน The H. J. Heinz Company บริษัทแปรรูปอาหารและผลิตซอสมะเขือเทศ มูลค่ากว่า 410,000 ล้านบาท
แม้ว่าหลัง ๆ มา Berkshire Hathaway จะไม่ได้เข้าซื้อกิจการด้วยมูลค่ามาก ๆ เท่าในอดีต
แต่การที่บริษัทมีเงินสดอยู่มหาศาล ก็ทำให้บริษัทสามารถเข้าไปซื้อกิจการเป้าหมายได้ เมื่อไรก็ตามที่บริษัทต้องการ
กรณีที่สาม: ปัญหาทางการเงินของบริษัท
นอกเหนือจากการนำผลกำไรนั้นกลับไปลงทุนต่อ และเก็บเงินไว้เพื่อซื้อกิจการเป้าหมายแล้ว การที่บริษัทจะไม่จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นอาจเกิดจากปัญหาทางการเงินของบริษัทเอง
บางบริษัทแม้ว่า จะมีกำไรในบางปี แต่ก็ไม่สามารถจ่ายเงินปันผลออกมาได้ เนื่องจากบริษัทยังมีผลขาดทุนสะสมอยู่ ซึ่งตามกฎแล้ว บริษัทจะยังไม่สามารถที่จะจ่ายเงินปันผลออกมาให้ผู้ถือหุ้นได้
หรือแม้แต่กรณีที่บริษัทมีกำไรสะสม และสามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นได้ แต่บริษัทก็อาจจะยังไม่จ่าย เนื่องจากสถานะการเงินที่ยังไม่แข็งแรง จึงเลือกที่จะเก็บเงินสดไว้ระดับหนึ่งก่อน
อ่านมาถึงตรงนี้ เราก็น่าจะพอได้ไอเดียแล้วว่า
ทำไมบางบริษัทที่มีกำไรแต่ไม่จ่ายเงินปันผลออกมาให้ผู้ถือหุ้น
เพราะว่าบริษัทเหล่านั้น ต้องการที่จะนำผลกำไรไปลงทุนต่อในธุรกิจตัวเอง ไปซื้อกิจการอื่น จ่ายคืนหนี้ ซื้อหุ้นคืน หรือแม้แต่เก็บเงินสดไว้ เพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงิน
ดังนั้น ก่อนที่เราจะปฏิเสธไม่ลงทุนในบริษัทที่ไม่จ่ายเงินปันผล เราต้องดูให้ดีก่อนว่า ที่บริษัทไม่ยอมจ่ายเงินปันผลนั้น เพราะอะไร หรือมีแผนเอาเงินที่ไม่จ่ายออกมาเป็นปันผลนั้น ไปต่อยอดได้ดีแค่ไหน
ถ้ามองแล้วว่า ถึงแม้บริษัทจะไม่จ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้น
แต่มีการเอาเงินส่วนนั้น ไปต่อยอดสร้างอนาคตที่ดีให้กิจการ
หุ้นที่เราถืออยู่ ก็สามารถมีมูลค่าที่เติบโตเพิ่มขึ้น
จนทำให้สุดท้ายแล้ว เราในฐานะผู้ถือหุ้น ก็อาจได้ผลตอบแทนจากราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ซึ่งถ้าผู้ถือหุ้นอยากได้เงินสดมาใช้ ก็อาจแบ่งขายหุ้นออกมาได้..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.suredividend.com/why-companies-never-pay-dividends/
-https://www.set.or.th/th/regulations/simplified_regulations/files/20200914_Dividend.pdf
-https://ir.netflix.net/financials/financial-statements/default.aspx
-https://www.investopedia.com/ask/answers/12/why-do-some-companies-pay-a-dividend.asp
-https://www.wallstreetzen.com/stocks/us/nasdaq/nflx/dividends
-https://finance.yahoo.com/quote/NFLX/balance-sheet?p=NFLX
-https://www.investopedia.com/ask/answers/021615/why-doesnt-berkshire-hathaway-pay-dividend.asp
-https://kunaldesai.blog/berkshire-hathaway-acquisitions/
同時也有238部Youtube影片,追蹤數超過1萬的網紅もちよ/ mochiyo,也在其Youtube影片中提到,スライムジャパンさんの「明け方のソイミルクティー」 "Soy milk tea" by Slime Japan. #スライムジャパン #slimejapan ─────────────────── このスライムは本日9月25日の20時から50個入荷されるので要チェックです! This slim...
「twitter quote」的推薦目錄:
twitter quote 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
Wall’s จากร้านขายเนื้อ สู่ไอศกรีมที่ขายดีสุดในโลก /โดย ลงทุนแมน
ถ้าถามว่า ของว่างประเภทไหนที่เหมาะกับ เมืองร้อนอย่างประเทศไทยบ้าง
คำตอบของหลายคนต้องมี “ไอศกรีม” รวมอยู่ด้วย
ซึ่งในประเทศไทยก็มีแบรนด์ไอศกรีมชื่อดังต่าง ๆ มากมาย หนึ่งในนั้นคือ ไอศกรีม Wall’s
รู้ไหมว่า จุดเริ่มต้นของ Wall’s ไม่ได้มาจากการขายไอศกรีมตั้งแต่แรก
ความเป็นมาของไอศกรีม Wall’s ที่หลายคนชื่นชอบ เป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
จุดเริ่มต้นของไอศกรีม Wall’s ต้องย้อนกลับไปในปี 1786 เมื่อคุณ Richard Wall ที่ในตอนนั้นเขาได้เปิด ร้านขายเนื้อ ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
กิจการร้านขายเนื้อของตระกูล Wall ดำเนินกิจการมาจากรุ่นสู่รุ่น จนมาในปี 1913 หลานชายของคุณ Richard Wall เข้ามาบริหารต่อ และได้มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกิดขึ้น
การเปลี่ยนแปลงที่ว่า ตั้งต้นมาจากปัญหาหนึ่งที่กิจการร้านขายเนื้อของตระกูล Wall เจอมานาน
คือพอถึงช่วงฤดูร้อนของทุกปี ความต้องการไส้กรอก พาย และเนื้อ ซึ่งเป็นสินค้าหลักของร้านจะลดลง ทำให้เขาต้องลดจำนวนพนักงานในช่วงฤดูร้อนลงแทบทุกปี
พอเรื่องเป็นแบบนี้ คุณ Richard Wall II จึงพยายามหาทางช่วยให้พนักงานของเขามีงานทำในช่วงเวลาดังกล่าว รวมทั้งเพิ่มยอดขายให้แก่ร้านในช่วงฤดูร้อนไปในเวลาเดียวกัน
เขารู้ว่า ไส้กรอก พาย และเนื้อ ไม่ใช่สินค้าที่ตอบโจทย์ลูกค้าในช่วงเวลาดังกล่าว และสิ่งที่เหมาะที่สุด ที่จะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกสดชื่นในช่วงฤดูร้อน จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก “ไอศกรีม”
แต่ความคิดนี้ต้องถูกพับลงไปก่อน เนื่องจากช่วงนั้นเป็นช่วงเวลาของสงครามโลกครั้งที่ 1 จนเมื่อสงครามนั้นสิ้นสุดลง เขาจึงได้เริ่มนำไอศกรีมมาไว้ในเมนูของร้านเขา
รวมไปถึงเริ่มการใช้ม้าและเกวียน นำไอศกรีมไปขายตามท้องถนน จากนั้นก็เปลี่ยนมาใช้รถสามล้อ
ต่อมาในปี 1922 ธุรกิจไอศกรีม Wall’s ของเขา ได้ถูกซื้อกิจการไปโดย 2 บริษัท
คือ Lever Brothers ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจสบู่ในอังกฤษ และ Margarine Unie ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจอาหารของเนเธอร์แลนด์
หลังจากนั้น ความนิยมของไอศกรีม Wall’s ก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
จนต้องเพิ่มจำนวนรถสามล้อเพื่อขายไอศกรีมบนท้องถนนในสหราชอาณาจักร จากช่วงเริ่มต้นในปี 1922 ที่มีประมาณหลัก 10 คัน มาเป็นกว่า 8,500 คันในปี 1939
ตัดภาพมาที่ปัจจุบัน ไอศกรีม Wall’s มีขายในกว่า 50 ประเทศทั่วโลก โดยในแต่ละประเทศก็จะใช้ชื่อในการทำตลาดที่แตกต่างกัน เช่น
- ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ใช้ชื่อว่า “Good Humor”
- ในเยอรมนี ใช้ชื่อว่า “Langnese”
- ในอังกฤษ ไทย ญี่ปุ่น จีน อินเดีย เวียดนาม สิงคโปร์ ลาว และอีกหลายประเทศในเอเชีย ใช้ชื่อว่า “Wall’s”
แต่ไม่ว่าจะใช้ชื่ออะไร จุดสังเกตที่เห็นได้ชัดก็คือ จะมีโลโกรูปหัวใจสีแดงในตำนานของ Wall’s อยู่ด้วยเสมอ
โดยปัจจุบัน Wall’s เป็นส่วนหนึ่งในธุรกิจของ Unilever บริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ของโลก
ซึ่ง Unilever ก็เกิดมาจาก การควบรวมระหว่าง Lever Brothers และ Margarine Unie ที่เป็นสองบริษัทเจ้าของไอศกรีม Wall’s ก่อนหน้านี้ นั่นเอง
อีกเรื่องที่น่าสนใจคือ
ข้อมูลจากสถาบันวิจัยตลาด Euromonitor ในปี 2020 ระบุว่า ธุรกิจไอศกรีมของ Unilever ครองส่วนแบ่งตลาดในธุรกิจไอศกรีมเป็นอันดับ 1 ของโลก โดยมีส่วนแบ่งตลาดยอดขายประมาณ 19%
ในส่วนของประเทศไทยนั้น Wall’s เข้ามาทำตลาดช่วงแรกในปี 1989 หรือปี พ.ศ. 2532 โดยมีการลงทุนสร้างโรงงานผลิตไอศกรีมในไทย
เพราะมองว่า ตลาดไอศกรีมของไทยในตอนนั้นยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก เมืองไทยเป็นเมืองที่ค่อนข้างร้อน และอัตราการบริโภคไอศกรีมของคนไทยในตอนนั้น ก็ยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าหลายประเทศในเอเชีย
Wall’s เริ่มทำการพัฒนาสูตรไอศกรีม ช่องทางการขาย การโฆษณา ให้เหมาะกับพฤติกรรมการบริโภคของคนไทย
รวมไปถึงการที่ Wall’s พยายามสร้างฐานลูกค้าไอศกรีม ให้หลากหลาย
มีการเจาะกลุ่มลูกค้าวัยเริ่มทำงานหรือกระทั่งกลุ่มผู้ใหญ่มากขึ้น
เช่น มีการสร้างซับแบรนด์อย่าง Magnum ที่เจาะกลุ่มคนชอบไอศกรีมระดับพรีเมียม
โดยข้อมูลจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ในปี พ.ศ. 2560 ระบุว่า Wall’s เป็นแบรนด์ที่มีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 50% ในตลาดไอศกรีมของประเทศไทยเลยทีเดียว
จากจุดเริ่มต้นของร้านขายเนื้อในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ของคุณ Richard Wall เมื่อเกือบร้อยปีที่แล้ว และความคิดเพียงแค่ต้องการที่จะช่วยเหลือพนักงานในร้านให้มีงานทำในช่วงฤดูร้อน จนนำไปสู่การทำเมนูไอศกรีม จนกลายเป็นแบรนด์ไอศกรีมที่มียอดขายมากที่สุด ในวันนี้..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://edition.cnn.com/2020/11/14/business/unilever-ice-cream/index.html
-https://en.wikipedia.org/wiki/Wall%27s_(ice_cream)
-https://finance.yahoo.com/quote/UL/
-https://edition.cnn.com/2020/11/14/business/unilever-ice-cream/index.html
-https://e-journal.dip.go.th/dip/images/ejournal/8d790e74b422cafb81549dced75b6ad1.pdf
twitter quote 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
Nick Molnar มหาเศรษฐี อายุน้อยสุด ในออสเตรเลีย /โดย ลงทุนแมน
“ผมไม่รู้ว่าทำไมคุณถึงยังทำงานอยู่ที่นี่ คุณควรออกไปทำธุรกิจของตัวเองเต็มเวลาได้แล้ว”
ประโยคดังกล่าวถูกพูดโดยคุณ Mark Carnegie ผู้เป็นหัวหน้างานของหนุ่มชาวออสเตรเลีย
ชื่อว่าคุณ Nick Molnar ในปี 2012 หรือราว 9 ปีก่อน
ไม่น่าเชื่อว่าประโยคนี้เอง จะทำให้ในเวลาต่อมา คุณ Molnar ได้ตัดสินใจลาออก
จากงานประจำเพื่อนำเวลาทั้งหมดไปทุ่มเทให้กับธุรกิจของตัวเอง
จนปัจจุบัน เขาได้กลายเป็นเจ้าของบริษัท ที่มีมูลค่าระดับ 9.4 แสนล้านบาท
และกลายมาเป็นมหาเศรษฐีที่อายุน้อยที่สุดในประเทศออสเตรเลีย
Nick Molnar คือใคร
แล้วเขาก่อตั้งธุรกิจอะไรขึ้นมา ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
Nick Molnar เป็นชาวออสเตรเลีย ปัจจุบันมีอายุ 31 ปี
เขาถูกยกให้เป็น “Youngest Self-made Billionaire” หรือเศรษฐีที่มีทรัพย์สินเกินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3.3 หมื่นล้านบาท ที่มีอายุน้อยที่สุดในประเทศและสร้างธุรกิจขึ้นด้วยตัวเอง
Molnar เริ่มเส้นทางการเป็นนักธุรกิจตั้งแต่สมัยยังเป็นนักศึกษา
ในสมัยที่เขาศึกษาระดับปริญญาตรี ภาควิชาพาณิชยศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยซิดนีย์
ระหว่างเรียน เขาก็ได้เริ่มทำงานเพื่อหารายได้เสริมไปด้วย
โดยรายได้เสริมที่ว่านั้น เขาได้ไอเดียมาจากธุรกิจร้านขายอัญมณีและเครื่องประดับของครอบครัว ที่เปิดขายอยู่ที่สถานีรถไฟวินยาร์ด เมืองซิดนีย์
Molnar ได้มองว่าธุรกิจครอบครัวมีเพียงหน้าร้านเท่านั้น โดยเขาสามารถนำสินค้าเหล่านี้
ไปขายบนโลกออนไลน์ได้ อย่างน้อยก็ถือเป็นการสร้างรายได้จากช่องทางใหม่เพิ่มเติม
สำหรับช่องทางการขายออนไลน์ที่ว่านั้น ก็คือ “eBay”
ผ่านไปเพียงไม่นาน ก็ไม่น่าเชื่อว่าสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของเขาได้กระแสตอบรับดีและขายดีเกินคาดในระดับที่มีออร์เดอร์เฉลี่ยไม่ต่ำกว่าพันชิ้นต่อวัน
ถึงขนาดที่ว่าคุณ Molnar ได้กลายเป็นพ่อค้าขายอัญมณี
ที่ขายดีที่สุดบน eBay ประเทศออสเตรเลียในขณะนั้น
ซึ่งจุดนี้เองก็ได้ทำให้เขาเริ่มคิดต่อว่าจะขยายกิจการ
และไม่ต้องการพึ่งพาตัวกลางในการขายอย่าง eBay อีกต่อไป
เขาเลยได้ตัดสินใจก่อตั้งเว็บไซต์เป็นของตัวเอง ซึ่งแบ่งออกเป็น
- Iceonline.com.au เว็บไซต์ขายเครื่องประดับและนาฬิกาในประเทศออสเตรเลีย
- Ice.com เว็บไซต์ขายอัญมณีและเครื่องประดับในประเทศสหรัฐอเมริกา
ซึ่งธุรกิจที่กล่าวขึ้นมาทั้งหมดเกิดขึ้น คาบเกี่ยวกับช่วงที่เขาจบปริญญาตรีและกำลังเริ่มงานเป็นนักวิเคราะห์อยู่ที่ M.H. Carnegie & Co. ซึ่งเป็นบริษัทที่จะคอยวิเคราะห์ธุรกิจและนำเงินไปลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทน
ที่นั่น Molnar ได้พบเข้ากับ Mark Carnegie หัวหน้าของเขา ซึ่งพอ Carnegie ได้รับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับการหารายได้เสริมหลังเวลาเลิกงานของนักศึกษาจบใหม่คนนี้ที่กำลังเป็นรูปเป็นร่าง
Carnegie จึงได้ให้คำแนะนำให้เขาออกไปทำธุรกิจส่วนตัวให้เต็มที่
รวมทั้งยังได้ยื่นข้อเสนอพ่วงไปด้วยว่าผมให้เวลาคุณ 12 เดือน
หากคุณล้มเหลว คุณสามารถกลับมาทำงานกับผมได้ทุกเมื่อ
หลังจากนั้น Molnar จึงได้ทำตามคำแนะนำและตัดสินใจลาออก
เพื่อหันมาโฟกัสกับธุรกิจส่วนตัวตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
2 ปีต่อมา หลังจากที่เว็บไซต์ขายเครื่องประดับของเขาอยู่ตัวและคงที่แล้ว
เขาก็ได้ไอเดียธุรกิจอีกครั้ง จากการสังเกตเห็นพฤติกรรมการซื้อของออนไลน์ของลูกค้า
โดยเฉพาะกลุ่มนักช็อปเจเนอเรชันมิลเลนเนียล ซึ่งก็ได้นำไปสู่การก่อตั้งบริษัทที่ชื่อว่า “Afterpay” ในปี 2014
สำหรับธุรกิจนี้ คุณ Molnar มีผู้ร่วมก่อตั้งต่างวัย คือคุณ Anthony Eisen ปัจจุบันมีอายุ 50 ปี
โดยคุณ Eisen เป็นทั้งเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกเดียวกัน รวมถึงยังเป็นผู้มากประสบการณ์ในสายอาชีพการเงิน
แล้ว Afterpay ทำธุรกิจอะไร ?
Afterpay เรียกได้ว่าเป็นสตาร์ตอัปฟินเทคผู้บุกเบิกโมเดลธุรกิจ “BNPL”
ย่อมาจาก Buy Now, Pay Later หรือซื้อตอนนี้จ่ายทีหลัง
อธิบายง่าย ๆ ก็คือเป็นบริการทางการเงินที่จะเข้ามาทำให้ผู้ซื้อได้รับสินค้าทันทีวันนี้
โดยที่ผู้ซื้อสามารถแบ่งจ่ายเป็นงวดทีหลัง แถมไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมหากจ่ายตรงเวลา
จุดนี้เอง ที่ได้เข้าไปตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้ที่ยังไม่มีบัตรเครดิตและคนรุ่นใหม่
ให้สามารถช็อปปิงออนไลน์ได้ง่าย สะดวกรวดเร็ว แถมยังไม่ต้องจ่ายเต็มจำนวน
ซึ่งหลายคนก็อาจจะสงสัยว่าไม่มีค่าธรรมเนียมผู้ซื้อแล้ว
รายได้ของ Afterpay จะมาจากใคร ?
คำตอบก็คือ รายได้ของ Afterpay จะมาจากร้านค้าเป็นหลัก
ตัวอย่างร้านค้าที่เป็นพาร์ตเนอร์กับบริษัท ก็เช่น Gap, JD Sports, Pandora, Ray-Ban, Levi’s และอีกหลายแบรนด์
ซึ่งหลายคนก็น่าจะถามต่อว่า
แล้วทำไมร้านค้าต้องยอมออกค่าใช้จ่ายส่วนนี้ ?
ด้วยโมเดลของ BNPL เป็นเหมือนการกระตุ้นยอดขายไปในตัว เพราะทำให้ผู้ซื้อสามารถได้รับสินค้าทันทีในระดับที่ว่าเสื้อผ้าราคาหลักร้อย เรายังสามารถแบ่งจ่ายได้ 4 งวด นั่นจึงทำให้ร้านค้าขายของง่ายขึ้น
ซึ่งก็เป็นอีกครั้งที่ไอเดียของ Molnar สำเร็จอย่างรวดเร็ว เพราะเขาสามารถนำบริษัท
จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ในปี 2016 หรือเพียง 2 ปีหลังจากการก่อตั้ง
ทีนี้เรามาดูกันว่า Afterpay เติบโตมากขนาดไหน ?
หากเรามาดูผลประกอบการปี 2021 โดยรอบบัญชีของบริษัท
เริ่มต้นวันที่ 1 กรกฎาคม 2020 ถึง 30 มิถุนายน 2021
บริษัท Afterpay
ปี 2018 รายได้ 4,642 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 8,612 ล้านบาท
ปี 2020 รายได้ 16,922 ล้านบาท
ปี 2021 รายได้ 30,127 ล้านบาท
คิดเป็นการเติบโตเฉลี่ยมากถึง 87% ต่อปี
โดยรายได้ทั้งหมดของบริษัทจะมาจากค่าธรรมเนียมจากร้านค้า 89%
ที่เหลือก็จะเป็นรายได้ เช่น ค่าปรับที่ลูกค้าจ่ายไม่ตรงงวด
หรือเรียกว่า Late Fee รวมกับรายได้อื่น ๆ อีก รวมกันเป็น 11%
Afterpay ได้รายงานอีกว่าในปีที่ผ่านมา
ร้านค้าที่ลูกค้าใช้บริการชำระเงินผ่านระบบของ Afterpay มีมูลค่าอยู่ที่ 730,000 ล้านบาท
โดยยอดดังกล่าว ได้สร้างรายได้ให้กับบริษัทราว 26,800 ล้านบาท
หมายความว่า Afterpay เก็บค่าธรรมเนียมต่อร้านค้าเฉลี่ยแล้วราว 3.7%
ปัจจุบัน Afterpay มี Active Customers หรือผู้ใช้งานที่ซื้อสินค้า
ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาราว 16.2 ล้านบัญชี มีร้านค้าบนระบบกว่า 98,200 ร้านค้า
ก็เรียกได้ว่านับเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดและเรื่องราวที่เล่ามานั้น ก็ได้เกิดขึ้นในระยะเวลาเพียง 7 ปีเท่านั้น
ซึ่งล่าสุด Afterpay ก็เพิ่งได้รับข้อเสนอการเข้าซื้อกิจการจากบริษัท Square ธุรกิจฟินเทค ที่มีเจ้าของคนเดียวกันกับ Twitter หรือก็คือ Jack Dorsey เป็นเงินมูลค่ามากถึง 9.4 แสนล้านบาท
จึงทำให้เจ้าของอย่าง Nick Molnar ที่ปัจจุบันมีอายุเพียง 31 ปี จะมีทรัพย์สินมูลค่า
ราว 65,000 ล้านบาท และได้กลายมาเป็นเศรษฐี ที่อายุน้อยที่สุดในประเทศออสเตรเลีย..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.businessinsider.com.au/afterpay-nick-molnar-anthony-eisen-net-worth-net-worth-2020-7
-https://tedxsydney.com/contributor/nick-molnar/
-https://www.cnbc.com/2020/12/11/the-advice-that-helped-nick-molnar-launch-multibillion-dollar-afterpay.html
-https://www.forbes.com/profile/nick-molnar/?sh=66d3a75913f6
-https://finance.yahoo.com/quote/AFTPF/financials?p=AFTPF
-https://afterpay-corporate.yourcreative.com.au/wp-content/uploads/2021/08/Afterpay-FY21-Results-Presentation.pdf
-https://www.bbc.com/news/business-58051815
-https://www.smh.com.au/business/banking-and-finance/genuine-gold-medal-contender-afterpay-gets-39b-endorsement-from-us-giant-square-20210802-p58f7q.html
-https://www.abc.net.au/news/2021-08-04/afterpay-square-millennials-lobbyists-covid-pandemic-shares-grow/100347562
twitter quote 在 もちよ/ mochiyo Youtube 的最佳解答
スライムジャパンさんの「明け方のソイミルクティー」
"Soy milk tea" by Slime Japan.
#スライムジャパン #slimejapan
───────────────────
このスライムは本日9月25日の20時から50個入荷されるので要チェックです!
This slime will be restocked from 20:00 on September 25th, so be sure to check it out!
スライムジャパンさん → https://linktr.ee/slimejapan_store
───────────────────
【タイムテーブル】
0:00 〜 OP
0:30 〜 本編開始
the beginning of the main part
0:46 〜 触り始め
begin to touch
1:54 〜 容器から出す
take out of a container
1:57 〜 片手で触る
touch with one hand
2:16 〜 両手でガッツリ遊ぶ
play with both hands
5:16 〜 ホウ砂調節
activation
7:43 〜 あたたたたたたいむ
mochiyo beam
7:49 〜 もこもこテクスチャーで遊ぶ
play with a fluffy texture
8:06 〜 もこもこにして容器に還元
fluff up and return to the container
8:12 〜 もこもこ
fluffy
───────────────────
【テロップ書き起こし】
ツヤッツヤのシックジグリースライムです
It is a super glossy thick jiggly slime.
「夏から秋へ空気の変化を感じる、少し早起きの朝。」
"A little early morning when you feel the change in air from summer to autumn."
「温かいソイミルクティーを適当にマグカップに入れてぼーっと。ゆっくり」
"Pour hot soy milk tea into a mug and relax."
(引用:スライムジャパンさんの公式インスタグラム)
(Quote: Slime Japan's official Instagram)
「#丁寧な生活」と言いたくなる、穏やかなテーマだと感じました
I felt that it was a theme that made me want to say "#slowlife".
朝6時に起きてゆっくり飲み物を飲むなんて、もう何年していないだろう
I don't have the habit of waking up at 6am and drinking slowly.
夜更かしして、朝は寝坊するのが日常になりすぎて忘れていました
I stayed up late and overslept in the morning, and I forgot about it.
早朝の空気は澄んでいて、穏やかで、時間がゆっくり流れてる
The air in the early morning is clear, calm and time is flowing slowly.
世の中の速すぎる流れに疲れてしまった時、思い出したいスライムです
I want to remember this slime when I'm tired of the fast-paced flow of the world.
こちらは伝説の神スライム「スイートミルクティー」のリメイク版です
This is a remake of the legendary god slime "Sweet Milk Tea".
滑らかで濃厚なテクスチャーです
The texture is smooth and rich.
少し溶けかけているので、とろっとろです
It's melting a little, so it's oozy.
ツヤツヤなのでタップ音が高らかに鳴り響きます
Because it is glossy, tapping sounds are high.
こんなに柔らかいのに、手離れがいいので全然ベタつきません
Even though it's so soft, it's easy to peel off from hands, so it's not sticky at all.
もちろん、バブル音も最高に気持ちがいいです
Of course, the bubble sounds are also super satisfying.
机にしっかりくっついて、よく伸びてくれます
It sticks well to the desk and stretches well.
少しジグリーなのでぶくぶく朗らかなバブル音です
The bubble sounds of Jiggly Slime are big.
ミルクティー飲みたくなってきちゃったなぁ〜
I want to drink milk tea ~
皆さんのおすすめミルクティーはなんですか?
What is your recommended milk tea?
もちよのお気に入りは、セ◯ンの「紅茶ラテ」とB◯SSの「とろけるミルクティー」です
Mochiyo's favorites are Seven-Eleven's "Tea Latte" and BOSS's "Melting Milk Tea".
言ってたら買いに行きたくなってきたあああああ
I want to go to a convenience store to buy them.
少しホウ砂水で調節してみます
Activate with borax water.
調節すると、コシがでてきます
When it was activated, it became chewy.
硬くすると膜が分厚くなって音がさらに良くなりました
The harder the texture, the better the bubble sound.
細かいバブル音も楽しむことができて最高です
It was a lot of fun to be able to enjoy the fine bubble sounds.
モッチモチのグニグニ!レッツストレス解消!
Chewy Chewy Chewy! Let's stress relief!
この音の爽快感たるや。スライムの醍醐味がこの手の中にあります
I was born to enjoy the exhilaration of this sound.
後半になると細かいバブル音が優勝するので是非最後までお楽しみください!
In the second half, the small bubble sounds will be champions,, so please enjoy the video till the end!
香りは濃厚なロイヤルミルクティーでした
The scent was a rich royal milk tea.
あまいミルクティーの裏に香り高い茶葉が隠れているような香りでした
It smelled like a fragrant tea leaf hidden behind a sweet milk tea.
アタタタタタタタァァッッ!!
Hissatsu! Mochiyo Beam!!!!
ココからは細かいバブル音祭です!
From here it's a small bubble sound festival!
さらなる細かいバブル音をお楽しみください♡
Please enjoy the fine bubble sound more♡
それでは引き続きASMRをお楽しみ下さい!
Please continue to enjoy ASMR!
ごちそうさまでした!
Thank you for the meal!lol
ご視聴ありがとうございました!
Thank you for watching!!!!
───────────────────
サブチャンネル【もちよの研究室】はコチラ!
↓ ↓ ↓ ↓ ↓ ↓ ↓ ↓ ↓ ↓ ↓ ↓
https://www.youtube.com/channel/UCWmSQDBSNQTX6kpFm6lYLnw
Instagram・ twitter・Tiktok・BASE shop・メルカリはこちら!
↓ ↓ ↓ ↓ ↓ ↓ ↓ ↓ ↓ ↓ ↓ ↓
https://linktr.ee/mochiyoslimestore
スライムの提供についてはコチラ!
↓ ↓ ↓ ↓ ↓ ↓ ↓ ↓ ↓ ↓ ↓ ↓ https://www.instagram.com/s/aGlnaGxpZ2h0OjE3ODQ4ODU4NzU3MDI2MzA3?igshid=1hr3jy34zfnpo&story_media_id=2286885986591781571
イヤフォンやヘッドフォンをして聴いて頂くとよりいい音で楽しめるかとおもいますので、是非に😎
また、画面右上のチョンチョンチョンのとこから画質を1080pに設定して動画を見ていただけると、高画質でお楽しみ頂けます💪💪
───────────────────
どうもこんびんは!
もちよすらいむです🧜🏻♀️
素敵なスライマーさんのスライムのレビューや、自分で作ったスライムの動画などのASMRを中心に、いろいろなジャンルの動画を上げていきたいと思います!
【ごめんちゃいズ】
*更新が突然途絶える可能性があります🙇♀️
*慢性鼻炎でして、呼吸音が入ってしまうことがあります🤦♀️
*机に爪がコツンと当たる音が入ってしまうことがあります🙇♀️
*実家暮らしなので、稀に家族の出す生活音が紛れ込んでしまいます🙇♀️
動画を見てくださりありがとうございます💕
是非チャンネル登録をして、これからももちよの動画をお楽しみください💁♀️
───────────────────
#もちよすらいむ #mochiyoslime #べらちゃんのslimeしばき部屋 #slime #asmr #asmrsounds #asmrslime #スライム #音フェチ #音フェチ動画 #音フェチスライム #clayslime #slayslime #butterslime #cloudcream #thickslime #thickie #thickieslime #fluffyslime #clearslime #slusheeslime #slushieslime #fishbowlslime #crunchyslime #slimejapan #スライムジャパン #sakuraslime #さくらスライム #aisu屋さん #tiaslime #slimeogproof #ogslimeproof #aobaslime #awesomeslimeproof #awesomeslime #slimefantasies #slimefantasiesproof
#rodemslime #rodemslimeproof #mooncottonslime #slimebyktmproof
twitter quote 在 Battle Field Ver1 Youtube 的最佳貼文
チャンネル登録お願いします。
→ http://u0u1.net/QWo0
★Twitter
MotorSports Battlefield ver1 (MBFv1)
@BattlefieldVer1
★ホンダCBX1000-信じられないほどのエンジンサウンド
HONDA CBX1000 6-cylinder engine sound
●画像引用【Image quote】
●Honda CBX “Pregnant Duck”
Posted on August 8, 2012 by melwin23
Honda CBX “Pregnant Duck” by Totti Motori
https://greasengasoline.wordpress.com/2012/08/08/honda-cbx-pregnant-duck/
www.mc-spirits.net
●Mc SPIRITS
Flickr
Honda 1000 CBX "Branquart" (1979, Gerard Coudray) | Cedric JANODET | Flickr
●使用BGM
OPENNING&ENDING
More Plastic - Champion [NCS Release]
★動画クレジット【MovieCredit】
OPENNING
MotoGP YOU TUBE
https://www.youtube.com/user/MotoGP
MotoGP HP
https://www.motogp.com/ja
#CBX1000 #このバイクは動画に出てきません。 #6気筒エンジン
Please check this video as well.
↓↓↓↓↓↓↓↓↓↓↓↓↓↓↓↓
⚡yuya CB
【#CBX 】6-6 sound 0-7000rpm exhaust Special Exhaust Sound
https://www.youtube.com/watch?v=y3d_t3wk0lI
⚡CJ perfomance
CBX1000 カスタム F1サウンド 1000rpm~4500rpm
https://www.youtube.com/watch?v=UZ1m0zPgPFs&t=1s
⚡coregarage
CBX1000 TMR 6本マフラー 直管サウンド
https://www.youtube.com/watch?v=VSpORLBRZyc
⚡sjonniebigsix
cbx 1000 Austin racing exhaust
https://www.youtube.com/watch?v=BHbv8bkUo4M&t=5s
⚡WildJack500Four
CBX 1000 Racer Soundcheck
https://www.youtube.com/watch?v=ho-CIhh7qPM
⚡CBXFAN
Honda CBX 6 The "Beast 666 " Racing ,Turn up the sound!!
https://www.youtube.com/watch?v=M_TdKWBBxEE&t=29s
⚡runesika
HONDA CBX 1000 TURBO
https://www.youtube.com/watch?v=_2n0Tase728
⚡Lemans15
Honda CBX1000 6 Cylinder race bike Sound
https://www.youtube.com/watch?v=vKUwixRfBf4&t=31s
⚡Andy Ainsworth
zorstec cbx 1000 exhaust sound 6 into 6
https://www.youtube.com/watch?v=3GCYggzai4M
twitter quote 在 Rachel & Jun's Adventures! Youtube 的最讚貼文
Use my code RNJ10 and link: https://bit.ly/2WTRTw1 to get 10% off (save up to $47!) your own authentic Japanese subscription box from Bokksu! Don't miss out on this amazing snack-journey through Japan!
NEKOHA/INUHA shirts until Aug 31st!
https://crowdmade.com/collections/junskitchen
Though the plans for our house are complete, we still need to work out our driveway/deck/walkway, etc and have started consulting with a landscaper. Turns out these things are much more expensive than we were expecting (a very small patch of land with plain concrete paving for a single car plus a low-end carport above it, a small bit of fake grass, a mailbox atop some tile, and small shed cost someone else we know ~$30,000. Don't have the exact size but the total landscaped area is perhaps the size of 3 sedan cars). So far the quote we received (which already used many cheaper options and didn't include everything we were hoping to have) was still TWICE our budget, and so now we're trying to figure out ways to reduce the cost.
The official Crowdmade website is the only place we're selling merch
★ Patreon! http://patreon.com/junskitchen
►FOLLOW US ε=┌( ・д・)┘
Our Japan channel ⇀ https://www.youtube.com/RachelandJun
Jun's Kitchen ⇀ https://www.youtube.com/JunsKitchen
Twitch ⇀ https://www.twitch.tv/rachelandjun
Twitter | Instagram *@RachelandJun*
►EQUIPMENT (Amazon affiliates links) _〆(・∀ ・ )
Camera ⇀ GH5 (http://amzn.to/2GJWsN2)
►MUSIC ♪♪(o*゜∇゜)o~♪♪
Music from Epidemic Sound: http://share.epidemicsound.com/rDvsz