雪倫今天來分享一則 #澳洲科技新聞 吧。#影音創作生態圈商機,依然是大企業重點關注的趨勢之一。
#微軟(8日)宣佈收購一間 澳洲初創公司 #Clipchamp。該公司主打影音編輯軟體&創作平台。在 Tiktok、Youtube 影音創作與社群分享大趨勢下,微軟也不錯過這波熱潮。
微軟一直對網絡影音業務懷有興趣,去年參與競標TikTok美國業務的談判,最終沒有取得成果。2018年,微軟收購了專注於教育產業的影片新創公司Flipgrid。
Clipchamp公司成立於2013年,總部位於澳洲布里斯本,Linkedin資料顯示員工92位。今年七月份,Clipchamp披露,公司擁有1700萬註冊用戶,軟體產品被全球39萬家公司所使用,企業用戶數增長了54%。客戶包括Google、微軟、Zendesk等。
微軟表示,未來將把 Clipchamp 的技術與Microsoft 365整合起來,除了主打消費者市場(toC),也將鎖定教育客戶、商業客戶(toB)。過去多年內,微軟一直拓寬軟體產品線,企圖覆蓋更多消費者與企業用戶。此次收購符合微軟的產品擴張戰略。
影片創作與社群分享蔚為熱潮,臉書日前宣佈,疫情期間旗下手機社群工具的用戶規模增長至35.1億人,增長了12%。三星期前,Adobe宣佈斥資12.75億美元,收購軟體公司Frame.io,該軟體可以讓用戶在影片編輯的過程中添加評論。
#希望有天來整理一下澳洲科技業系列
# 關注趨勢,對照職場,經常思考業界動態的下一步。一起來練習:)
同時也有2部Youtube影片,追蹤數超過11萬的網紅ลงทุนแมน,也在其Youtube影片中提到,โอกาสการเติบโต ในธุรกิจเมกะเทรนด์กับ Jitta Wealth Thematic ปัจจุบัน หลายธุรกิจ กำลังเผชิญกับดิสรัปชัน ในขณะที่โควิด 19 เป็นอีกตัวเร่งที่จะทำให้ผู้นำน...
「zendesk」的推薦目錄:
zendesk 在 Facebook 的最佳解答
*不到一天,剩下最後81席!*
再次感謝!這門課打磨整整半年,
還未上線,就收到不同產業的企業老闆、中高階經理人、業務主管、第一線業務菁英~踴躍線上報名免費體驗課。
一早開放300席。不到一天,只剩最後81席。
如果你有看到,歡迎有興趣的朋友,加入這門超級銷售課:【世界一流銷售技術.zoom免費限額直播課】。
額滿就會關閉。點一下線上報名:https://bit.ly/2X2ShIW
◎世界一流的銷售技術!為何這門課值1,000美金?
這是一門最扎實的銷售課!
這門課不僅被全球五百強企業一再證明有用,
而且能最快速的讓你學會,高含金量,
學會絕對一生受用無窮!
不少全球頂尖企業都採用「MEDDIC 銷售技術」
來訓練超級業務、打造頂尖銷售團隊。
包括:全球最大軟體服務商Salesforce、Zendesk、PTC參數科技⋯⋯等公司。
其中PTC 參數科技為全球產品研發領域最大的軟體公司,他們用【世界一流的銷售技術・MEDDIC】來訓練業務人員,並連續超過40季(十年)創下驚人紀錄,成功打造超過10億美金的世界級軟體企業。
現在,你可以搶先得到這一套華文獨家研發這一套好懂、好用,實戰的【世界一流的銷售技術・MEDDIC】線上課。若有興趣的朋友,請先線上填表成為我們的VIP會員(你將取得第一手的課程資訊):https://bit.ly/2X2ShIW
◎頂尖企業銷售教練范大,現在也能成為你良師益友!!
這門課誰來教?肯定,本身就必須是身經百戰,還是頂尖超級業務,也能帶出超業團隊!符合資格又能教的業界實在不多,而范永銀(Nathan,人稱:范大)絕對是第一人選,可以成為你一流銷售教練、好朋友。
誰是范大?我還是想多介紹一下,值得您先認識。
Nathan Fan 范永銀(范大)為全球知名企業總經理,一路從超級業務,幹到外商總經理。他,同時也是一位優秀的企業銷售培訓教練、銷售心理學專家。25年成功銷售客戶超過1,000家企業、上市企業客戶更超過上百家。范永銀(范大)曾任軟體、硬體、系統等企業中高階銷售主管,深諳各產業銷售技巧,擅長幫助企業打造超強銷售團隊、培訓業務核心幹部。
他將用這套【世界一流的銷售技術・MEDDIC】幫助你:
1. #有效突破銷售瓶頸:透過這套銷售管理工具,你將可以有效開發客戶、取得客戶資訊、贏得大客戶訂單!
2. #打造黃金銷售團隊:在團隊中運用MEDDIC,你將可以建立共同默契,創造每年超標的業務團隊!
3. #客戶難題迎刃而解:每一堂課皆以MEDDIC銷售管理工具出發,搭配老師25年豐富的業界案例,讓你有效解決銷售上的所有難題!
無論你是企業老闆、業務銷售主管、第一線的業務人員,當你決定要加入我們,擁有「世界一流的銷售技術」時,你已經比別人領先一半!
別錯過!這半年,我跟范大打磨這門課的過程中,我敢保證,這門課能帶給你的效果,遠超過你的想像。
◎【最後81名】搶完截止,歡迎加入我們!
9月免費線上搶先體驗:https://bit.ly/2X2ShIW
zendesk 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
รู้จัก Salesforce เจ้าของซอฟต์แวร์องค์กร ที่หลายบริษัทตัดทิ้งไม่ได้ /โดย ลงทุนแมน
ถ้าถามว่าบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ประสบปัญหาเนื่องจากวิกฤติโควิด จะปรับตัวอย่างไรให้อยู่รอดได้บ้าง?
หนึ่งในวิธียอดนิยม ก็คงไม่พ้นการลดต้นทุน หรือลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
อย่างไรก็ตาม มันก็ยังมีค่าใช้จ่ายบางประเภทที่จำเป็นถึงขนาดที่ว่าเรา “ตัดทิ้งไม่ได้”
หนึ่งในนั้นก็คือค่าใช้จ่ายด้านซอฟต์แวร์
ไม่ว่าจะเป็น Microsoft หรือ Google ที่เราใช้สำหรับจัดทำเอกสาร
หรือ Adobe ที่เป็นหัวใจสำคัญสำหรับงานกราฟิกทุกประเภท
สำหรับวันนี้ เรามารู้จักกับอีกหนึ่งบริษัทอย่าง Salesforce
ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ประเภท Customer Relationship Management (CRM)
หรือ การบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า ที่หลายบริษัทก็ตัดทิ้งไม่ได้ เช่นกัน
แล้วทำไม Salesforce จึงเป็นต้นทุน
ที่หลายบริษัทใหญ่ไม่สามารถตัดออกได้?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
บริษัท Salesforce อ่านว่า เซลส์ฟอร์ซ มาจากคำว่า “Special Force” ก่อตั้งในปี 1999
โดย Marc Russell Benioff
เขาคนนี้เคยเป็นอดีตพนักงานที่บริษัท Oracle Corporation ยาวนานถึง 13 ปี
โดย Oracle ก็เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการซอฟต์แวร์องค์กรระดับโลก และ Benioff
เป็นผู้บริหารที่มีอายุน้อยที่สุด ซึ่งขึ้นรับตำแหน่งเป็นผู้บริหารในวัยเพียงแค่ 26 ปี เท่านั้น
แล้ว Benioff มองเห็นอะไร
ถึงลาออกมาเริ่มทำบริษัท Salesforce?
สิ่งที่เขาคิดว่าเป็นปัญหา สำหรับคนทำงานก็คือ เราเสีย “เวลา” และ “พลังงาน”
ไปกับกิจกรรมที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์
และที่สำคัญไปมากกว่านั้นคือ ยังไม่มีใครทำซอฟต์แวร์ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการในด้านนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พอเรื่องเป็นแบบนี้ Benioff ก็ได้นำคอนเซปต์การบริหารความสัมพันธ์ลูกค้ามาพัฒนาเป็นซอฟต์แวร์ และนำมาประยุกต์ใช้กับเทคโนโลยีคลาวด์ให้ผู้ใช้งานเข้าถึงข้อมูลการบริหารจัดการลูกค้าในที่เดียว
แล้วแค่ซอฟต์แวร์บริหารจัดการข้อมูลลูกค้า
มันจำเป็นถึงขนาดเป็นค่าใช้จ่ายที่ตัดไม่ได้?
หากเรายังจินตนาการไม่ออก
ลองคิดว่า ถ้าเราเป็นเจ้าของผู้ให้บริการท่องเที่ยว
ต้องบริหารพนักงานเป็นหมื่นคน
ติดต่อกับคู่ค้าทางธุรกิจหลายราย
ต้องตรวจสอบปัญหา ข้อเสนอแนะจากลูกค้า
แล้วเราจะมีกลยุทธ์บริหารจัดการทั้งหมดนี้อย่างไรให้มีประสิทธิภาพสูงที่สุด
เทคโนโลยี กับรูปแบบการใช้งานของ Salesforce จึงถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย และสามารถแก้ไขเรื่องราวเหล่านี้โดยเฉพาะเพราะเราสามารถอัปเดตข้อมูล จัดการลูกค้า และตรวจสอบความเคลื่อนไหวของกิจกรรมเหล่านี้ได้ทุกที่ ทุกเวลา
โดย Benioff ได้วาดเส้นทางรูปแบบการให้บริการ
ที่สร้างรายได้กับ Salesforce มีอยู่ 2 ส่วน แบ่งออกเป็น
การจัดทำข้อมูลรายงานการขาย หรือที่เรียกว่า Sales Report & Funnel
ระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ หรือที่เรียกว่า CRM
สองส่วนนื้จะช่วยประหยัดเวลาในการทำรายงานสำหรับการขาย และยังนำพลังงานไปใช้ในการพูดคุยกับลูกค้า เพื่อให้เกิดประโยชน์ได้สูงสุด
และสิ่งที่ตอบโจทย์มากไปกว่านั้นคือ Benioff ได้ทำการเข้าซื้อบริษัท Tableau มูลค่า 4.5 แสนล้านบาท เพื่อนำเทคโนโลยีการบริการจัดการข้อมูลในรูปแบบของ Big Data และ Data Visualisation มาพ่วงเข้ากับบริการดั้งเดิมของ Salesforce
จนตอนนี้ Salesforce ก็ได้กลายเป็นซอฟต์แวร์ที่สามารถบริหารจัดการข้อมูลที่
เกี่ยวข้องกับลูกค้าทั้งหมดได้อย่างครบวงจร และสามารถประมวลผลให้เราว่า
กิจกรรมใดในอดีตที่ทำแล้ว ก่อให้เกิดมูลค่ากำไรทางธุรกิจ
แล้วข้อมูลตลาดปัจจุบันมีความสอดคล้องอย่างไรบ้าง ที่จะทำให้เกิดความสำเร็จ
การพัฒนาการให้บริการทั้งหมดนี้ ตอบโจทย์ Pain Points ของผู้ใช้งานได้ทั้งหมด
แล้วที่ผ่านมา Salesforce เติบโตมากขนาดไหน?
ปี 2018 รายได้ 317,000 ล้านบาท กำไร 3,850 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 412,000 ล้านบาท กำไร 33,610 ล้านบาท (มีกำไรพิเศษ)
ปี 2020 รายได้ 517,000 ล้านบาท กำไร 3,810 ล้านบาท
(รอบบัญชีของบริษัทเริ่มตั้งแต่กุมภาพันธ์ปี 2019 ถึงมกราคม ปี 2020)
รายได้เติบโตเฉลี่ย 28% ต่อปี ซึ่งถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับอัตราการเติบโต
ของบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกันที่เติบโตเฉลี่ย 8% ต่อปี
โดย Salesforce มีส่วนแบ่งรายได้มาจาก
การเก็บค่าบริการรายเดือนของลูกค้าบริษัท และการให้บริการระบบคลาวด์ 94%
การให้บริการประเภทอื่นๆ เช่น การจัดสัมมนาอบรม และสัญญาจ้างเพิ่มเติม 6%
แล้วตอนนี้ Salesforce ใหญ่ขนาดไหน?
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า
แม้ Salesforce จะเกิดขึ้นมาจากอดีตผู้บริหารของ Oracle
แต่ตอนนี้ Salesforce มีมูลค่าบริษัท 7.1 ล้านล้านบาท
ซึ่งมูลค่าระดับนี้ใหญ่เป็น 1.4 เท่าของบริษัท Oracle แล้ว
อ่านมาถึงตรงนี้
เราก็คงสรุปได้ว่า นอกจาก Microsoft, Google, Adobe แล้ว Salesforce ก็เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่กลายเป็นของขาดไม่ได้ในการทำงานของบริษัทอื่นๆ ไปแล้ว แม้ว่าบริษัทนั้นจะเผชิญกับวิกฤติในรูปแบบไหน ก็ตาม..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://www.sales100million.com/
-https://www.salesforce.com/
-https://finance.yahoo.com/quote/CRM/financials?p=CRM
-https://www.statista.com/forecasts/954176/global-software-revenue-by-segment
-https://s23.q4cdn.com/574569502/files/doc_financials/2020/ar/Salesforce-FY-2020-Annual-Report.pdf
-https://www.dmit.co.th/th/zendesk-updates-th/what-is-crm-software-2
-https://www.salesforce.com/crm/what-is-crm-infographic/
zendesk 在 ลงทุนแมน Youtube 的最讚貼文
โอกาสการเติบโต ในธุรกิจเมกะเทรนด์กับ Jitta Wealth Thematic
ปัจจุบัน หลายธุรกิจ กำลังเผชิญกับดิสรัปชัน ในขณะที่โควิด 19 เป็นอีกตัวเร่งที่จะทำให้ผู้นำนวัตกรรม มีบทบาทเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด
การประชุมจากที่บ้าน การเก็บข้อมูลทางธุรกิจ ไว้บนอากาศ
สิ่งเหล่านี้ กำลังจะเป็นเมกะเทรนด์
แล้วเรา จะมีโอกาสเติบโตไปกับมัน อย่างไรได้บ้าง?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
รู้ไหมว่าธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี เติบโตมากถึง 48% ในปีที่ผ่านมา
(อ้างอิงจาก MSCI World Information Technology)
โดยธีมธุรกิจ ที่กำลังเป็นเมกะเทรนด์ มีตั้งแต่ธุรกิจที่จะเข้ามาช่วยให้การทำงาน มีประสิทธิภาพมากขึ้น
เช่น Zoom แอปพลิเคชันประชุมที่เติบโตขึ้นเป็น 6 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงต้นปี
รวมถึง ซอฟต์แวร์องค์กรอย่าง Salesforce และ Zendesk ที่กำลังเติบโตได้ดี เช่นกัน
อีกหนึ่งเมกะเทรนด์ ก็คือ อีคอมเมิร์ซ ที่กำลังเติบโต แบบก้าวกระโดด
มูลค่าการซื้อของบนอีคอมเมิร์ซ ทั่วโลก
ปี 2014 มูลค่า 39 ล้านล้านบาท
ปี 2020 มูลค่า 126 ล้านล้านบาท)
การเติบโตคิดเป็น 3 เท่า ภายใน 6 ปี
ซึ่งผู้ที่เป็นผู้นำในเรื่องนี้ก็คือ Amazon ที่สหรัฐ กับยุโรป และ Alibaba ที่ประเทศจีน
นอกจากนี้ ก็ยังมี เจ้าของเทคโนโลยีทางการเงิน เช่น Square และ PayPal ที่เป็นตัวกลางการจ่าย และโอนเงินผ่านอินเทอร์เน็ต ก็เป็นอีกเมกะเทรนด์ที่น่าสนใจ
ในขณะที่โรคระบาดโควิด 19 ก็ทำให้เราเห็นวิวัฒนาการเกี่ยวกับวงการแพทย์
หนึ่งในนั้นก็คือ การคิดค้นวัคซีนโดยบริษัท Pfizer ร่วมกับ BioNTech ที่ทำสำเร็จในระยะเวลาไม่ถึง 1 ปี
นอกจากนั้น การประยุกต์ใช้กัญชาในวงการแพทย์ ก็เป็นอีกก้าวสำคัญไม่แพ้กัน
ธุรกิจเหล่านี้ ถือเป็นเมกะเทรนด์ ที่มีแนวโน้มที่จะก้าวขึ้นมาเป็นธุรกิจ ยักษ์ใหญ่ในอนาคต
ซึ่งเราก็สามารถเติบโตไปกับธุรกิจเมกะเทรนด์เหล่านี้ได้ด้วยบริการกองทุนส่วนบุคคล Thematic จากบริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด หรือ Jitta Wealth
บริษัทแห่งนี้เป็น สตาร์ตอัป WealthTech แห่งแรกในประเทศไทย ที่ได้รับใบอนุญาต จาก ก.ล.ต. ในการบริหารจัดการเงินลงทุนในรูปแบบ กองทุนส่วนบุคคล
โดย Thematic เป็นบริการจัดการกองทุนส่วนบุคคลที่จะเข้าไปลงทุนใน ETF ซึ่งจะลงทุนในเมกะเทรนด์ของโลก เช่น ธุรกิจคลาวด์ อีคอมเมิร์ซ ระบบ AI เทคโนโลยีทางการเงิน และเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่มีแนวโน้มในการเติบโตในระยะยาว ตามหลักการลงทุนแบบ Passive
โดยใช้เงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 100,000 บาท
ซึ่งถือว่าต่ำกว่า หากเราไปเริ่มลงทุนต่างประเทศเอง
อีกจุดสำคัญ คือเรา สามารถลงทุนได้ถึง 5 ธีม ในพอร์ตเดียวโดย Jiita ก็มีเทคโนโลยีมาช่วยในการจัดการให้อัตโนมัติ ทำให้เรา ไม่ต้องกังวล และคอยหาจังหวะตลาด ด้วยตัวเอง
บวกกับการลงทุนใน ETF ซึ่งจะเข้าไปลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรม ก็ถือเป็นการกระจายความเสี่ยง และอิงการเติบโตตามกลุ่มธุรกิจ นั่นเอง
วิกฤติปีนี้ เป็น Black Swan ที่ส่งผลกระทบรุนแรง ทั่วทุกมุมโลก
แต่มันก็เป็น โอกาส ที่ทำให้เราเริ่มต้นลงทุนในธุรกิจเมกะเทรนด์ ได้เช่นกัน
หากเราเป็นหนึ่งในผู้ที่กำลังมองหาธีมการลงทุนในธุรกิจเมกะเทรนด์ และต้องการเติบโตไปกับธุรกิจเหล่านั้นในระยะยาว
บริการ Thematic ของ Jitta Wealth ที่ทำให้เราลงทุนในธุรกิจเมกะเทรนด์และมีเทคโนโลยีการจัดพอร์ตการลงทุนส่วนบุคคล ครบวงจรก็น่าจะเป็นหนึ่งในตัวเลือก ที่น่าสนใจที่สุด ในช่วงนี้..
คำเตือน: การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วน ก่อนตัดสินใจลงทุน
zendesk 在 イケハヤ大学 Youtube 的最佳解答
【VIPメンバー参加はこちらから!】
https://www.youtube.com/channel/UCKSSZYcoRHkrF6lkarKYZvg/join
【無料メルマガでVIP動画のサンプル配布中!】
https://ikedahayato.com/mm/
・みんな勉強してなさすぎでは
・この言葉知ってる?
・D2C
・Direct to Comsumer
・メーカーの新しい形
・生産して直接顧客にネットで販売
・リアル店舗を持つケースも多い
・Casper(寝具)
・Warby Perker(メガネ)
・allbirds(靴)
・日本でもめちゃくちゃ増えてます
https://seedata.co.jp/blog/dnvb/2211/
・OEMハードルが下がる&SNS集客が可能に
・誰でもブランドが作れる時代に!
・SaaS
・Software as a Service
・いわゆるクラウドサービス
・昔はソフトウェアはパッケージだった
・メーラーは「Becky! Internet Mail」だった
・Adobe製品も昔は買い切りだった
・今は完全にクラウド化
・今はすべてインターネット経由で利用するサービスになった
・企業が利用していたソフトウェアをサービス化
・利用料はサブスクリプションでの支払い
・SaaS銘柄は株価がめっちゃ伸びる
・Salesforce
・Adobe
・Service Now
・Zendesk
・Zuora
・まだまだSaaSは盛り上がっていく
・DX
・デジタルトランスフォーメーション
・割とざっくりした言葉
・アナログ業務をデジタル化する
・名刺やハンコの廃止もDX
・リモートワークもDX
・よりハイレベルには「ビジネスそのものをデジタル化していく」
・Uberは配車サービスを完全にデジタル化
・コマツは重機をDX
https://home.komatsu/jp/ir/library/results/03_KomatsuDX.pdf
・テスラはクルマをDX(アップデートされるクルマ)
・「アナログをデジタルに」
・巨大な流れ、チャンスだらけ!
・イケハヤのメンバーシップは社会人向けスクールのDX
・まだまだ知っておくべき話はたくさんある
・noCode
・DeFi
・BMI
・大きな流れは抑えておくべき
・情報収集と勉強用にVIPをどうぞ
zendesk 在 Zendesk - YouTube 的推薦與評價
Zendesk is a customer service software company with support and sales products designed to improve customer relationships. We believe that every great ... ... <看更多>
zendesk 在 Zendesk Mobile SDK for iOS - GitHub 的推薦與評價
Zendesk SDK for mobile is a quick, convenient way to get customer support into your mobile apps. With just a few lines of code, you can provide your end ... ... <看更多>
zendesk 在 Zendesk - 首頁 的推薦與評價
Zendesk to Acquire Momentive and Its Iconic SurveyMonkey Platform. Beloved customer service and customer feedback brands will create powerful new Customer ... ... <看更多>