ขอความร่วมมือจากทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นเด็ก(6ปีขึ้นไป)และผู้ใหญ่ ช่วยกันตอบแบบสำรวจนี ซึ่งเป็นงานวิจัยเกี่ยวกับ ผลกระทบด้านสุขภาพกายและจิตใจจากการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งแบบสำรวจนี้ใช้เวลาทำราวครึ่งชั่วโมง(แต่ถ้าเป็นแบบสำรวจของเด็กจะใช้เวลาสั้นกว่า)
การสำรวจครั้งนี้เป็นงานวิจัยระดับชาติและระดับโลกเลย ข้อมูลที่ได้จะนำไปใช้เพื่อการป้องกันและจัดการผลกระทบทางกายและจิตใจในอนาคตจากสถานการณ์โรคระบาด เพราะเราไม่รู้ว่าอาจมีโรคระบาดเช่นนี้เกิดขึ้นอีกก็ได้
ข้อมูลที่ตอบส่วนบุคคลนั้นจะเก็บเป็นความลับ
คลิกไปตอบได้ที่ลิงค์ bit.ly/cohfitthailand ได้เลยนะคะ หรือสแกนผ่าน QR Code ในภาพก็ได้
เนื่องจากอยากได้คนเป็นจำนวนมาก เพื่อเป็นข้อมูลของประเทศไทย ดังนั้นจึงต้องรบกวนให้ทุกคนช่วยกันทำและช่วยแชร์ไปให้มากๆ ด้วยค่ะ อาจจะก๊อปปี้ไปแชร์ในไลน์กลุ่มก็ได้ ถ้าสะดวก ถ้าได้กลุ่มตัวอย่างจำนวนมากและหลากหลาย ข้อมูลก็จะครบถ้วนดี
ขอบคุณมากค่ะ
หมายเหตุ:
-โปรเจคนี้เป็นความร่วมมือของภาควิชาจิตเวชฯ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ กับสถาบันวิชาการอื่น ๆ ทั่วโลกกว่า 190 ประเทศ
-ในการทำแบบสอบถาม อาจจะมีคำถามมากสักหน่อย เนื่องจากเป็นแบบสอบถามของงานวิจัยสากลที่ต้องแปลมาตามนั้นทุกข้อ ไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้
#หมอมินบานเย็น
ขอความร่วมมือจากทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นเด็ก(6ปีขึ้นไป)และผู้ใหญ่ ช่วยกันตอบแบบสำรวจนี้ ซึ่งเป็นงานวิจัยเกี่ยวกับ ผลกระทบด้านสุขภาพกายและจิตใจจากการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งแบบสำรวจนี้ใช้เวลาทำราวครึ่งชั่วโมง(แต่ถ้าเป็นแบบสำรวจของเด็กจะใช้เวลาสั้นกว่า)
การสำรวจครั้งนี้เป็นงานวิจัยระดับชาติและระดับโลกเลย ข้อมูลที่ได้จะนำไปใช้เพื่อการป้องกันและจัดการผลกระทบทางกายและจิตใจในอนาคตจากสถานการณ์โรคระบาด เพราะเราไม่รู้ว่าอาจมีโรคระบาดเช่นนี้เกิดขึ้นอีกก็ได้
ข้อมูลที่ตอบส่วนบุคคลนั้นจะเก็บเป็นความลับค่ะ
ไปตอบได้ที่ลิงค์ bit.ly/cohfitthailand ได้เลยนะคะ หรือสแกนผ่าน QR Code ในภาพก็ได้
หมายเหตุ:
-โปรเจคนี้เป็นความร่วมมือของภาควิชาจิตเวชฯ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ กับสถาบันวิชาการอื่น ๆ ทั่วโลกกว่า 190 ประเทศ
-ในการทำแบบสอบถาม อาจจะมีคำถามมากสักหน่อย เนื่องจากเป็นแบบสอบถามของงานวิจัยสากลที่ต้องแปลมาตามนั้นทุกข้อ ไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ โดยมีจิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้แปลมาจากภาษาอังกฤษค่ะ
-สามารถไปกดติดตามเพจ Coh-Fit Thailand ซึ่งเป็นเพจทางการของผู้วิจัย หรือหากมีข้อสงสัย สามารถไปสอบถามคณะผู้ทำวิจัยได้ค่ะ
#หมอมินบานเย็น
「หมอมินบานเย็น」的推薦目錄:
- 關於หมอมินบานเย็น 在 Drama-addict Facebook 的最佳解答
- 關於หมอมินบานเย็น 在 Cherprang BNK48 Facebook 的最佳解答
- 關於หมอมินบานเย็น 在 Drama-addict Facebook 的最佳貼文
- 關於หมอมินบานเย็น 在 #หมอมินบานเย็น - เข็นเด็กขึ้นภูเขา | Facebook 的評價
- 關於หมอมินบานเย็น 在 'เข็นเด็กขึ้นภูเขา' : หมอมิน-พญ.เบญจพร ตันตสูติ - YouTube 的評價
- 關於หมอมินบานเย็น 在 10 เพจหมอเด็กที่คุณพ่อ-คุณแม่ต้องติดตาม ประจำปี 2017 的評價
หมอมินบานเย็น 在 Cherprang BNK48 Facebook 的最佳解答
#อะไรคือสิ่งสำคัญ_นอกเหนือจากความรักที่พ่อแม่มีให้ลูก
หมอประทับใจตัวละคร ‘ลุงตั้ม’ ในซีรีส์ One Year 365 วัน บ้านฉันบ้านเธอ จากหลายๆฉากในเรื่องที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าลุงตั้มเป็นตัวอย่างของพ่อแม่ที่มีความละเอียดอ่อนและเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของลูกๆ
ขอเท้าความสำหรับคนที่ไม่ได้ดู ซีรีส์เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับ ครอบครัว 2 ครอบครัว ที่พ่อและแม่ของแต่ละครอบครัวกำลังวางแผนจะแต่งงานกัน คือครอบครัวของ ‘ลุงตั้ม’ กับ ’แม่มุก’ ซึ่งแต่ละคนก็มีลูกๆของตัวเองอยู่แล้ว
วันหนึ่งแม่มุกบอกลูกๆว่า ลุงตั้มและครอบครัวจะย้ายมาอยู่ด้วยกันที่บ้านของแม่มุกและลูก เพราะอีกหน่อยก็จะกลายเป็นครอบครัวเดียวกันอยู่แล้ว การตัดสินใจของแม่มุก ทำให้ลูกบางคนไม่พอใจนัก
โดยเฉพาะ ‘ไพลิน’ ลูกสาวคนที่ 3 นักศึกษาแพทย์ปีที่สอง
.
(บทความต่อไปนี้เปิดเผยเรื่องราวจากซีรีส์)
ที่ผ่านมา ไพลินมีความปรารถนาลึกๆ มาตลอดว่าอยากให้พ่อกับแม่มาคืนดีกัน เมื่อแม่จะแต่งงานใหม่ไพลินจึงรู้สึกผิดหวังพอสมควร ช่วงเวลาที่ลุงตั้มย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้าน ไพลินเป็นคนหนึ่งที่แสดงออกชัดเจนว่าไม่ชอบหน้าลุงตั้มอย่างมาก
แต่ลุงตั้มไม่ได้โกรธหรือถือสากับการแสดงออกของไพลินที่แอนตี้ ไม่ชอบหน้าตัวเอง ลุงตั้มเข้าใจปฏิกิริยาที่เกิดขึ้น และคอยสังเกตไพลินด้วยความเป็นห่วงเสมอ (เพราะไพลินกำลังดร็อปการเรียนแพทย์อยู่ เธอไม่แน่ใจว่าเธออยากเป็นหมอจริงหรือไม่)
สิ่งที่ลุงตั้มทำไม่เคยขาด คือการทำอาหารอร่อยๆ ให้ไพลินรวมถึงลูกๆทุกคน ทั้งลูกตัวเองและลูกของแม่มุกทานเสมอๆ (ลุงตั้มมีอาชีพเป็นพ่อครัวที่ทำอาหารส่งตามออเดอร์ จึงทำอาหารอร่อยมาก)
เพราะความไม่พอใจและรำคาญลุงตั้ม ไพลินเลยไปนอนค้างที่คอนโดของพ่อ
มีฉากหนึ่งที่ไพลินทำแซนวิชให้พ่อทานเป็นอาหารเช้า แต่พ่อบอกเธอว่าไม่มีเวลาทาน ต้องรีบไปตีกอล์ฟ ขอเอาไปทานที่ตีกอล์ฟแทน แต่ด้วยความรีบร้อนและอาจจะไม่ได้ใส่ใจเพียงพอ พ่อก็ลืมแซนวิชไว้ตรงชั้นรองเท้า จริงๆ ไพลินก็ควรจะชินเสียแล้ว เพราะพ่อเป็นแบบนี้เสมอ แต่ก็อดน้อยใจไม่ได้
เหตุการณ์หลายๆอย่างต่อมาที่พ่อแสดงออกว่าไม่ได้ใส่ใจไพลินนัก ในที่สุดไพลินก็คิดว่าเธอน่าจะกลับบ้านแม่มุกดีกว่า
.
เมื่อเวลาผ่านไป เธอเริ่มมองเห็นการกระทำของลุงตั้มมากขึ้น คนที่เธอไม่เคยยิ้มให้ พูดจาแรงๆใส่ แต่ก็คอยทำอาหารให้เธอทุกมื้อ สิ่งที่ลุงตั้มทำให้ แสดงถึงความเอาใจใส่ ละเอียดอ่อน ที่ไพลินไม่เคยได้รับจากพ่อแท้ๆ ที่สำคัญลุงตั้มสังเกตเห็นรายละเอียดหลายอย่างที่ไพลินรู้สึกและเป็นอยู่
ลุงตั้มดูรู้ด้วยว่าไพลินกำลังชอบพออยู่กับเพื่อนผู้หญิงที่ชื่อ ‘ทราย’ ลุงตั้มเป็นคนที่คุยกับแม่มุกให้เข้าใจไพลินในเรื่องนี้ จนไพลินไม่ต้องปิดบังครอบครัวเรื่องเป็นแฟนกันกับทรายอีกต่อไป ไพลินสบายใจขึ้นมาก
ขนาดแม่มุกที่อยู่กับไพลินมาตลอด แต่กลับไม่ได้มีความละเอียดอ่อนเท่าลุงตั้ม
หลายๆสิ่งที่แสดงออกมา ทำให้ไพลินเปิดใจกับลุงตั้มมากขึ้นเรื่อยๆ
.
หมอเชื่อว่าพ่อแม่ก็รักไพลินมาก แต่นอกจากความรักที่มีให้สิ่งที่พ่อแม่ยังขาดอยู่คือ ความละเอียดอ่อนและความเข้าใจอารมณ์ความรู้สึก ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นในความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ใดๆก็ตาม
แต่ที่อยากจะเน้นคือ ความสัมพันธ์แรกเริ่มที่เด็กมีตั้งแต่กำเนิด คือ ความสัมพันธ์ครอบครัว ในฐานะพ่อแม่กับลูก ตรงนั้นจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาความเป็นตัวตน
หากเด็กรู้สึกได้ว่าตัวเองเป็นที่รัก บวกกับความเอาใจใส่ใกล้ชิด พ่อแม่มีความละเอียดอ่อนมองเห็นอารมณ์ความรู้สึกของเด็ก แสดงออกว่าเข้าใจและยอมรับในตัวตนที่เด็กเป็น ส่วนในวันที่เด็กทำผิด ก็ไม่ใช้อารมณ์และให้โอกาสในการปรับปรุงตัวอย่างเหมาะสม ตรงนั้นจะนำมาซึ่งความรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเอง รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าพอที่จะได้รับความรักและเอาใจใส่จากผู้ใหญ่ที่ใกล้ชิด ทำให้เด็กเติบโตไปมีแนวโน้มจะมีสุขภาพจิตที่ดีด้วย
ความสัมพันธ์ที่ไม่ละเอียดอ่อน ไม่เอาใจใส่ในความรู้สึกของอีกฝ่าย แม้จะมีความรักให้กันแค่ไหน มักทำให้เกิดความไม่พอใจ ขัดแย้ง ความรู้สึกไม่ดีต่อกันได้มาก ถึงจะไม่ตั้งใจก็ตาม
นอกจากความรักที่พ่อแม่มีให้ลูก อย่าลืมที่จะมีความละเอียดอ่อน เข้าใจในอารมณ์ความรู้สึก มีเมตตากรุณาและเห็นอกเห็นใจ
ถ้าให้เห็นภาพมากขึ้น ลองคิดถึงตัวเราในวัยเด็กว่าเราอยากให้พ่อแม่ของเราเป็นแบบไหน ลูกๆก็คงไม่แตกต่างนักค่ะ
#หมอมินบานเย็น
#อะไรคือสิ่งสำคัญ_นอกเหนือจากความรักที่พ่อแม่มีให้ลูก
The doctor impressed the character of 'Uncle Tum' in the One Year 365-day series. Her home from many scenes in the past shows Uncle Tum is an example of parents who are delicate and understand the emotion of their feelings. My kids.
A footprint for those who didn't watch this series is about the 2 families that each family and parents are planning to marry. The family of ' Uncle Tum ' and ' Mother Mook ', each of them are all. Already have my own kids
One day Mom Pearl told me that Uncle Tum and family will move together at mother's house, mother's and child's house because later they will become family. Mother Mook's decision makes some kids unhappy.
Especially 'Sapphire' 3nd daughter, second year medical student.
.
(The following article reveals stories from the series)
Sapphire has a deep desire for mom and dad to be reunited. Sapphire was disappointed when she was going to be remarried. Sapphire was somewhat disappointed when Uncle Tum moved into Sapphire's house. It was one that clearly expressed that she did n' My uncle Tum's face is so big.
But Uncle Tum doesn't get angry or considered by Sapphire's expression that Anti doesn't like her face. Uncle Tum understands the reactions and always observes Sapphire with concern. (Because Sapphire is dropping medical studies, she's not sure. That she really wants to be a doctor or not)
What Uncle Tum never lacks is making delicious food for Sapphire, including all children, both their children and mother's children. Always eating (Uncle Tum has a career as a chef who cooks the order, so cooking. Very delicious)
Because of frustration and annoyance, Uncle Tum Pelin went to sleepover at father's condominium.
There was a scene in which Sapphire made a sandwich for breakfast. But dad told her that she didn't have time to eat. She wanted to go golfing. She wanted to take it to golf, but was in a hurry and didn't care enough. She forgot the sandwich. It's really on the shoe layer. Sapphire should get used to it because father is always like this but I can't help but
Many events later that father expressed that he didn't care about Sapphire. Sapphire finally thinks she'd better go home to Mae Jo
.
As time goes on, she sees more of Uncle Tum's actions, who she never smiles to speak hard, but keeps cooking for her every meal. What Uncle Tum does to show the delicate care that Sapphire never gets from the important father. Uncle Tum has noticed many details of how Sapphire feels and is.
Uncle Tum also knows that Sapphire is in love with a friend of a woman named ' Sai '. Uncle Tum is the one who talks to mother Muk to understand Sapphire in this story so that Sapphire doesn't have to cover the family about being a lover. Sand anymore. Sapphire is much more relieved.
Even Mae Mook who has been with Sapphire all the time, but it's not as delicate as Uncle Tum.
Many things that appear to make Sapphire open up to Uncle Tum more and more.
.
Doctors believe that parents love Sapphire so much, but besides the love they give, what parents lack is the subtlety and understanding of emotion that is necessary in any relationship.
But I want to focus on the first relationship that kids have from birth is family relationship. Parents and kids. That's the foundation for developing identity.
If a child feels loved, positively, attentive, intimate parents are delicate. Visualize the child's emotion, understand and accept the child's identity. On the day when the child is wrong, they don't use the emotion and give an opportunity to improve the speculation. That's what they feel like. Pride of yourself. Feel yourself worthy enough to be loved and cared for by close adults. Growing up kids to have good mental health.
Unsensitive relationships, not caring for the feelings of the other. Despite how much love you give to each other, it often causes dissatisfaction and unintentional feelings.
Apart from the love that parents have for children, don't forget to be delicate, understand the emotion, be kind, kind, and compassionate
If you see more pictures, think about yourself in childhood, how we want our parents to be, they wouldn't be different.
#หมอมินบานเย็นTranslated
หมอมินบานเย็น 在 Drama-addict Facebook 的最佳貼文
เป็นกำลังใจให้เพจหมอๆที่พยายามออกมาให้ข้อมูลต้านข่าวลือเท็จๆเกี่ยวกับโคโรน่าไวรัสสายพันธ์ใหม่กันนะครับ ถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถ
มีคอมเมนท์หนึ่งในโพสต์ที่เขียนถึง Digital Intelligence กรณีของการติดตามข่าวไวรัสอู่ฮั่น ส่งคอมเมนท์มาแบบนี้ ... หมอก็รู้สึกงงนิดหน่อย เพราะบทความนั้นไม่ได้เขียนในแนวการเมืองเลย ...
คิดย้อนไปถึงบทความก่อนที่เขียนถึงนายกฯเรื่อง PM2.5 ก็มีคนทักมาว่าหมอเป็นเสื้อแดงหรือเปล่า ต่อต้านรัฐบาลมั้ย ...
เอาเป็นว่า หมอก็เป็นจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นคนหนึ่ง ที่เห็นว่าอะไรดีและมีประโยชน์ ก็จะเขียนแบ่งปันลงเพจ แต่หมอคงไม่สามารถห้ามความคิดหรือการตัดสินของคนอื่นได้
ส่วนหมอเองถึงแม้จะงงบ้าง แต่ก็ยังสบายดีอยู่ ไม่ได้รู้สึกแย่อะไร อาจจะเพราะชินเสียแล้วก็ได้ และก็จะไม่เสียกำลังใจ อย่างไรก็จะเขียนในสิ่งที่เราเชื่อมั่นต่อไปเรื่อยๆ ตราบใดที่ยังพอมีคนอ่าน
ที่หมอเล่าให้ฟัง เพียงอยากยกตัวอย่างสิ่งที่เกิดกับตัวเอง เพราะหมอคิดว่า ทุกคนก็คงเคยมีประสบการณ์เช่นนี้มาบ้าง ก็หวังว่าจะเป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน
ชีวิตก็เป็นแบบนี้ บางครั้งเรื่องที่เราตั้งใจที่จะทำในสิ่งที่ดีเพื่อคนอื่นๆ แต่บางคนกลับไม่เข้าใจและกลับตำหนิหรือทำร้ายเราด้วย ดังนั้นก็ต้องทำความเข้าใจในจุดนี้ก่อน มิฉะนั้นเราก็จะเสียกำลังใจได้ ถ้าเราคาดหวังว่าทุกคนต้องชื่นชมหรือเข้าใจเรา เมื่อนั้นเราคงต้องเป็นคนที่เจ็บปวดเองเพราะความคาดหวังนั้นๆ
ป.ล. ขออนุญาตว่าไม่ต้องไปตามดู หรือตอบโต้คอมเมนท์นี้ เพราะหมอคิดว่า ไม่มีประโยชน์ ถ้าเราไม่ชอบอะไร เราก็แค่ไม่ทำในสิ่งนั้นกับคนอื่นดีกว่า หมอก็อยากจะขอบคุณคอมเมนท์เหล่านี้ด้วยซ้ำ เพราะจริงๆ พวกเขาก็ทำให้หมอเข้าใจโลก และเติบโตทางความคิดมากขึ้นค่ะ
#หมอมินบานเย็น
หมอมินบานเย็น 在 'เข็นเด็กขึ้นภูเขา' : หมอมิน-พญ.เบญจพร ตันตสูติ - YouTube 的推薦與評價
เลี้ยงลูกอย่างไรดี ในยุคนี้???สัมภาษณ์พิเศษ...คุณ หมอ เจ้าของเพจ “เข็นเด็กขึ้นภูเขา” หมอมิน -พญ. ... <看更多>
หมอมินบานเย็น 在 10 เพจหมอเด็กที่คุณพ่อ-คุณแม่ต้องติดตาม ประจำปี 2017 的推薦與評價
เบญจพร ตันตสูติ หรือที่รู้จักกันในนามหมอมินบานเย็น เพจที่ให้ความรู้เกี่ยวกับจิตวิทยาแก่พ่อแม่ที่มีลูกเล็กจนถึงช่วงวัยรุ่น ... ... <看更多>
หมอมินบานเย็น 在 #หมอมินบานเย็น - เข็นเด็กขึ้นภูเขา | Facebook 的推薦與評價
28 ตุลาคม 2017 เวลา 09:23 น. ·.. #หมอมินบานเย็น · ไม่มีคำอธิบายรูปภาพ · 1 แชร์. เพจที่กดถูกใจโดยเพจ. ชมรมจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นแห่งประเทศไทย. ... <看更多>