🔷“กาทอง” เชียงดา จากผักพื้นเมืองสู่สากล
🔷@ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มสันมหาพนสมุนไพรอินทรีย์ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
🔷“ผักเชียงดา” ราชินีผักพื้นบ้านล้านนา “นักฆ่าน้ำตาล”
🔶“ผักเชียงดา” ถูกขนานนาม “สมุนไพรฆ่าน้ำตาล” เพราะมีสาร “จิมเนมิก แอซิด ” โครงสร้างโมเลกุลคล้ายกับของน้ำตาล
เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะเข้าจับเซลล์ตัวรับในผนังลำไส้ ทำให้ลำไส้ไม่มีพื้นที่เพียงพอจับกับน้ำตาล จึงขับออกไป ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือดได้ดี ผักเชียงดาที่ปลูกบนพื้นที่ลุ่มน้ำแม่แตงจะมีปริมาณสารออกฤทธิ์สูงที่สุด เรียกว่าเด่นทั้งคุณค่า และมูลค่ากลุ่มเกษตรกรจึงนำมาแปรรูป แม่อุ้ย มุทิตา สุวรรณคำซาว ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มสันมหาพนสมุนไพรอินทรีย์ ริเริ่ม คิดค้น ปลูกผักเชียงดาแบบอินทรีย์กว่า 200 ไร่ สมาชิก มีรายได้ ชูผักพื้นเมือง ดังไกลระดับโลก
🔶ญาณธิชา น้ำเพชร หัวหน้าฝ่ายประกันคุณภาพ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มสันมหาพนสมุนไพรอินทรีย์ กล่าวว่า “แบรนด์ที่เราทำเองชื่อว่าแบรนด์กาทอง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากผักเชียงดาแปรรูปเป็นทั้งเครื่องดื่มสมุนไพร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร กาแฟปรุงสำเร็จ ส่วนที่ 2 ก็จะเป็นผักเชียงดาอบแห้ง ที่ทำส่งโรงงานอื่น”
“การผลิตเริ่มตั้งแต่การปลูกแบบออแกนิค เลือกเก็บเฉพาะใบอ่อน ซึ่งมีรสชาติดีกว่า และมีตัวยาสูงกว่า เวลาเก็บตั้งแต่ ตี 5 ถึง 9 โมงเช้า ตามภูมิปัญญาพื้นบ้าน จากนั้นนำมาล้างน้ำสะอาด หั่นให้เป็นชิ้นเล็กๆ ก่อนที่จะนำไปตากด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ หลังจากนั้นนำเข้าอบ นำมาคั่ว นำมาสับ ร่อน หลังจากนั้นจึงบรรจุ มาตรฐานการผลิต จะมีตั้งแต่ออร์แกนิคสากล USDA EU มาตรฐาน GMP โคเดค รวมไปถึง อย. ฮาลาส มาตรฐาน มผช. และ ไบโออีโคโนมี่”
🔶“ยอดสุด สู่ สุดยอดชา”
ญาณธิชา น้ำเพชร หัวหน้าฝ่ายประกันคุณภาพ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มสันมหาพนสมุนไพรอินทรีย์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “เราเริ่มมีการพัฒนามาขายออนไลน์ โดยการให้ความรู้ผู้บริโภคทางเว็บไซด์ แล้วก็มีการขายทางไลน์แอด หรือว่าเฟซบุ๊ก หลังจากที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เข้ามาแนะนำให้เราทำตลาดออนไลน์ จะเป็นการเปิดกว้างตลาดของเรา ทำให้จากเดิมที่ไม่มีใครรู้จักเรา ได้รู้จักเรามากขึ้นสินค้าของเราสามารถขยายไปจำหน่ายต่างประเทศได้”
🔶เลือกซื้อสินค้าคุณภาพจากชุมชน สุขใจคนผลิต ชื่นใจคนซื้อ ตอนนี้นอกจากระบบออฟไลน์ ยังเลือกซื้อได้ง่ายๆแค่คลิกผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ชั้นนำ และสามารถติดตามคาราวานแคมเปญสุดพิเศษ ชวนช้อปผลิตภัณฑ์ชุมชนทั่วไทยได้สบาย ง่ายแค่ปลายนิ้ว สร้างสรรค์โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ จับมือกับผู้นำช้อปปิ้งออนไลน์
🔶วิสาหกิจชุมชนกลุ่มสันมหาพนสมุนไพรอินทรีย์
📍ติดต่อ: 089-899-9546
📍Website: www.gathong.com
📍Line ID: @gathong
📍เพจ: ผักเชียงดากาทอง สันมหาพนสมุนไพรอินทรีย์ - ลดน้ำตาล เบาหวาน organic
#กรมพัฒนาธุรกิจการค้า #DBD #SmartDigitalOTOP #OTOPSMART #ช้อปของไทยใช้ของดี #OTOPออนไลน์ชุมชนเข้มแข็ง
「กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เชียงใหม่」的推薦目錄:
- 關於กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เชียงใหม่ 在 TripTravelGang Facebook 的最佳解答
- 關於กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เชียงใหม่ 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
- 關於กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เชียงใหม่ 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
- 關於กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เชียงใหม่ 在 สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดเชียงใหม่ 的評價
- 關於กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เชียงใหม่ 在 หนังสือรับรอง 的評價
- 關於กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เชียงใหม่ 在 เชียงใหม่ อธิบดีกรมที่ดินเปิดบริการจดทะเบียนที่ดินต่างสำนักงานแบบ ... 的評價
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เชียงใหม่ 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
โอ้กะจู๋ ร้านสลัด 600 ล้าน ซึ่งเกิดจากคนที่ฝันอยากเป็น “เกษตรกร” /โดย ลงทุนแมน
ในสังคมเมืองไทย หลายคนฝันอยากเป็น แพทย์, วิศวกร, ครู, ผู้พิพากษา, นักธุรกิจ ฯลฯ
แต่น้อยคนนัก ที่มี “ความฝัน” และ “กล้า” บอกได้เต็มปากว่า พวกเขาอยากจะเป็น เกษตรกร..
แต่รู้ไหมว่า ร้านอาหารเพื่อสุขภาพที่กำลังโด่งดัง มีลูกค้ารอคิวยาวเหยียดในเกือบทุกสาขา
อย่าง “โอ้กะจู๋” นั้น เกิดจากหนุ่มนักล่าฝัน ที่มีความใฝ่ฝันตั้งแต่เด็กๆ ว่า
เมื่อโตขึ้น พวกเขาต้องเป็นเกษตรกรให้ได้
เรื่องราวของพวกเขาเป็นอย่างไร
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์มของแหล่งรวมนักคิด
ที่ช่วยอัปเดตสถานการณ์ ในรูปแบบบทความ วิดีโอ
รวมไปถึงพอดแคสต์ ที่มีให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
ลองใช้กันที่ Blockdit.com/download
╚═══════════╝
คุณชลากร เอกชัยพัฒนกุล หรือ คุณอู๋
คุณจิรายุทธ ภูวพูนผล หรือ คุณโจ้
ทั้ง 2 คนเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยมัธยม และทางบ้านก็ทำอาชีพเกษตรเป็นทุนเดิม
โดยครอบครัวคุณอู๋ ทำผลไม้ดอง ส่วนครอบครัวคุณโจ้ ปลูกหอม ลำไย
ด้วยความที่คลุกคลีกับอาชีพนี้ เลยทำให้คุณอู๋ และ คุณโจ้ มีความฝันอยากเป็นเกษตรกร ตั้งแต่วัยเด็ก
และเกิดแรงบันดาลใจที่จะทำธุรกิจเกี่ยวกับเกษตรร่วมกัน
ซึ่ง คุณโจ้ ตัดสินใจเลือกเข้าศึกษาที่ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
เพราะต้องการเก็บเกี่ยวความรู้ เอาไปต่อยอดอาชีพในฝันของตน
อย่างไรก็ดี คุณโจ้ ก็ได้รับคำสบประมาทไม่น้อย กับการเลือกเส้นทางนี้
เช่น เลือกเรียนเกษตรทำไม เรียนไปเพื่อขุดดิน ?
แต่คุณโจ้ก็รู้ดีว่า ในชีวิตตัวเองต้องการอะไร และเปลี่ยนคำสบประมาทเหล่านั้นให้เป็นแรงขับเคลื่อน
โดยเขาจบการศึกษาด้วยคะแนนเกียรตินิยมอันดับ 1 (เหรียญทอง)
และหลังจากจบการศึกษา คุณอู๋ และ คุณโจ้ ก็ได้ร่วมมือกันเริ่มปลูกผักแปลงแรกทันที ในพื้นที่ขนาด 1 ไร่
หลังจากนั้นก็เริ่มจากแจกจ่ายพืชผักให้เพื่อนบ้านและคนรู้จัก
ก่อนจะค่อยๆ ขายส่งให้กับร้านอาหารต่างๆ ทั่วเชียงใหม่
ซึ่งต่อมาพวกเขาก็ได้เพื่อนอีกคน คือ คุณวรเดช สุชัยบุญศิริ หรือ คุณต้อง
ที่จบด้านวิศวกรรมศาสตร์ เข้าร่วมเป็นหุ้นธุรกิจด้วย โดยมาช่วยดูแลเรื่องปุ๋ยอินทรีย์
ในช่วงแรกของการดำเนินธุรกิจ พวกเขาก็ต้องพบกับอุปสรรคนานาเช่นเดียวกับทุกธุรกิจ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง น้ำท่วมครั้งใหญ่หรือพายุ จนไม่สามารถเพาะปลูกผักได้เป็นเวลานาน
แต่พวกเขาก็ค่อยๆ ช่วยกันแก้ปัญหา และฟันฝ่าอุปสรรค จนสามารถก้าวผ่านความท้าทายมาได้
และหลังจากปลูกพืชผักได้ประมาณ 2 ปี
ทั้ง 3 คน ก็เกิดความคิดที่อยากต่อยอดผลผลิต และเพิ่มมูลค่าให้กับพืชผักของพวกเขา
จึงได้ลองเปิดร้านคาเฟ่เล็กๆ สำหรับคนรักสุขภาพขึ้น บริเวณหน้าแปลงผักของพวกเขา ที่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ในปี พ.ศ. 2556
ภายใต้คอนเซ็ปต์ว่า From Farm to Table โดยนำพืชผักจากสวนของพวกเขามาใช้เป็นวัตถุดิบหลัก
และตัดสินใจตั้งชื่อร้านว่า “โอ้กะจู๋”
ซึ่งชื่อร้านก็มาจากชื่อของ คุณอู๋ และ คุณโจ้ ผวนคำกันเพื่อเพิ่มความแปลกใหม่
พอเปิดร้านไปสักระยะหนึ่ง โอ้กะจู๋ ก็ได้ขยายเมนู โดยเพิ่มสเต๊กและเมนูอื่นๆ เข้าไป เพื่อไว้ทานคู่กับสลัดผัก
ซึ่งปรากฏว่าร้านได้กระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้ามากขึ้นเรื่อยๆ
จนพวกเขาทั้ง 3 คน ตัดสินใจหันมาโฟกัสกับธุรกิจร้านอาหาร แทนการขายส่งผัก เพราะธุรกิจนี้ สร้างมูลค่าเพิ่มและมีอัตรากำไรที่ดีกว่า
ต่อมาในปี พ.ศ. 2560
โอ้กะจู๋ ก็ได้บุกกรุงเทพฯ เพื่อสนองความต้องการของคนเมืองกรุง ที่มีแนวโน้มต้องการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพกันมากขึ้น โดยเข้ามาเปิดสาขาที่สยามสแควร์
และหลังจากเปิดร้านได้ไม่นาน ด้วยความสำเร็จที่เกินความคาดหมาย
ร้านโอ้กะจู๋ มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการอย่างล้นหลาม จนที่นั่งภายในร้านรองรับลูกค้าไม่พอ
โอ้กะจู๋ จึงต้องเปิดสาขาที่สยามสแควร์ เป็นแห่งที่ 2 เพิ่ม
และได้ขยายสาขามาเรื่อยๆ จนปัจจุบันมีอยู่ 12 สาขา
พร้อมกับเพิ่มโรงเรือนสำหรับปลูกพืชผัก จนมีฟาร์มผักขนาดใหญ่ 4 แห่ง พื้นที่รวมมากกว่า 200 ไร่
สำหรับผลประกอบการย้อนหลังของร้านโอ้กะจู๋
บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด
ปี 2560 มีรายได้ 84 ล้านบาท กำไร 2 ล้านบาท
ปี 2561 มีรายได้ 182 ล้านบาท กำไร 12 ล้านบาท
ปี 2562 มีรายได้ 643 ล้านบาท กำไร 80 ล้านบาท
มีรายได้เติบโตเฉลี่ย 177% ต่อปี
และกำไรเติบโตเฉลี่ย 532% ต่อปี
โดยสาเหตุหลักๆ ที่ผลประกอบการของบริษัทเติบโตอย่างก้าวกระโดด
ก็คือ การขยายสาขาเพิ่ม เพื่ออำนวยความสะดวก และรองรับความต้องการของลูกค้า
ที่น่าสนใจคือ ที่มาของชื่อบริษัท “ปลูกผักเพราะรักแม่”
โดยเบื้องหลังของชื่อมาจาก โอ้กะจู๋ ต้องการสื่อว่า
พืชผักของทางร้านมีความสะอาดและปลอดสารพิษ-สารเคมี จนกล้านำไปให้คุณแม่รับประทาน
นอกจากนี้ แม่ ยังสื่อได้ว่า เป็นตัวแทนความห่วงใยของคนในครอบครัวอีกด้วย
โดยจากปีล่าสุด โอ้กะจู๋ มีรายได้ 643 ล้านบาท
และ ณ สิ้นปี 2562 โอ้กะจู๋ มีร้านอยู่ 9 สาขา
แสดงว่าเฉลี่ยแล้ว โอ้กะจู๋ 1 สาขา สามารถสร้างยอดขายได้เกือบ 6 ล้านบาทต่อเดือน เลยทีเดียว..
แรกเริ่มเดิมที คุณอู๋ คุณโจ้ และคุณต้อง
ไม่ได้ตั้งใจว่า จะให้ร้านคาเฟ่เล็กๆ ที่ขายสลัดผัก ในวันนั้น
กลายมาเป็นบริษัทที่ขยายสาขา ขยายกิจการอย่างรวดเร็ว จนมีรายได้หลักหลายร้อยล้านบาท ในวันนี้
ซึ่งถ้าให้สรุปปัจจัยที่ทำให้เกิด ความสำเร็จที่เกินความคาดหมายนี้
ก็คงมาจากส่วนผสมหลักๆ 2 อย่างก็คือ
ความกล้าที่จะทำตาม “ความฝัน” ของตัวเอง
และการ “ลงมือทำ” อย่างไม่ย่อท้อและมีกลยุทธ์ แม้จะต้องเจอกับทุกอุปสรรค นั่นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์มของแหล่งรวมนักคิด
ที่ช่วยอัปเดตสถานการณ์ ในรูปแบบบทความ วิดีโอ
รวมไปถึงพอดแคสต์ ที่มีให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
ลองใช้กันที่ Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-http://www.ohkajhuorganic.com/history/
-https://www.smartsme.co.th/content/93590
-https://www.mangozero.com/facts-about-ohkajhu/
-https://workpointtoday.com/sme-3/
-https://adaybulletin.com/talk-lesson-restaurant
-กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เชียงใหม่ 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
ใครเป็นเจ้าของโรงแรมเครือ SALA /โดย ลงทุนแมน
SALA เครือโรงแรม 5 ดาว ที่มีสาขาอยู่ไม่ถึง 10 แห่ง แต่ก็เป็นหนึ่งในโรงแรมหน้าใหม่ที่ได้รับความสนใจจากทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ
แล้วเครือ SALA เป็นของใคร?
คนไทยหรือคนต่างชาติ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์มของแหล่งรวมนักคิด
ที่ช่วยอัปเดตสถานการณ์ ในรูปแบบบทความ วิดีโอ
รวมไปถึงพอดแคสต์ ที่มีให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
ลองใช้กันที่ Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ความจริงแล้วเครือโรงแรมนี้เป็นของคนไทย
และเจ้าของผู้พัฒนาโครงการนี้ก็คือ คุณทศ จิราธิวัฒน์
ผู้บริหารเครือ เซ็นทรัล รีเทล หรือ CRC นั่นเอง
แต่ที่น่าสนใจคือโรงแรมนี้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือโรงแรมในครอบครัวอย่าง Centara แต่อย่างใด
แต่เป็นธุรกิจที่คุณทศ และ คุณศุกตา (ภรรยา) เป็นผู้ลงทุนเอง
แล้วจุดเริ่มต้นของโรมแรมนี้เป็นมาอย่างไร?
นอกจากหน้าที่ผู้บริหารเครือเซ็นทรัลแล้ว
คุณทศ ก็ยังมีความชื่นชอบในงานดีไซน์ และการออกแบบอีกด้วย
ทำให้มีความคิดที่จะเปิดโรงแรมขึ้นมา ที่อยากให้มีความแตกต่างจากเชนโรงแรมทั่วๆ ไป
โดยเริ่มต้นแห่งแรกคือ Six Senses Samui โดยจ้างเครือโรงแรมซิกซ์เซนส์ เชนโรงแรมในเครือ InterContinental Hotels Group มาบริหาร
หลังจากประสบความสำเร็จ จึงตัดสินใจพัฒนาแบรนด์เป็นของตัวเอง
และนี่ก็คือ จุดเริ่มต้น ของเครือโรงแรม SALA หรือ ศาลา นั่นเอง
โดยเปิดสาขาแรกที่สมุย ชื่อว่า ศาลา สมุย เชิงมนบีช รีสอร์ท ห่างจาก Six Senses Samui ไปไม่กี่หาด
และต่อมาก็เริ่มขยายมาเป็นจังหวัดอื่นๆ มากขึ้น
ซึ่งในเวลานั้น กลุ่มเป้าหมายของศาลาค่อนข้างชัดเจนไปที่นักท่องเที่ยวต่างชาติ
แต่ก็มีบางแห่งที่ได้รับความนิยมในหมู่คนไทยไม่แพ้กัน และ ถือเป็นโลเคชันที่ทำให้ ศาลา นั้นเป็นที่รู้จักในหมู่คนไทยมากขึ้น นั่นก็คือ ศาลา รัตนโกสินทร์ และ ศาลา อยุธยา
เริ่มจาก “ศาลา รัตนโกสินทร์” โรงแรมพร้อมร้านอาหารริมน้ำ ที่ตั้งอยู่ตรงข้ามวัดอรุณราชวราราม ทำให้สามารถเห็นวิวสวยของวัดอรุณได้แบบเต็มที่ และกลายเป็นมุมโปรดของผู้ที่ได้มาเข้าพัก
ส่วน “ศาลา อยุธยา” ที่มีจุดเด่นของโรงแรม คือกำแพงอิฐสูง เหมือนกำแพงเมืองโบราณของไทย และตัดด้วยตัวตึกสีขาวและสระน้ำหินอ่อนแบบตะวันตก กลายเป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิตอีกแห่งหนึ่งของเครือโรงแรมนี้
แล้วปัจจุบันเครือศาลามีโครงการอะไรบ้าง
ที่พักในเครือศาลานั้นจะแบ่งเป็น โรงแรมแบบรีสอร์ตและโรงแรมแบบบูติก
เริ่มจากแบบรีสอร์ต มีทั้งหมด 3 แห่งคือ
ศาลา สมุย เชิงมนบีช รีสอร์ท
ศาลา สมุย เฉวงบีช รีสอร์ท
ศาลา ภูเก็ต ไม้ขาวบีช รีสอร์ท
และ โรงแรมแบบบูติกอีกทั้งหมด 5 แห่ง คือ
ศาลา เขาใหญ่
ศาลา ลานนา เชียงใหม่
ศาลา รัตนโกสินทร์
ศาลา อยุธยา
ศาลา บางปะอิน (เปิดปี 2021)
จุดเด่นสำคัญที่ทำให้ ศาลา นั้นเป็นที่นิยม นั่นก็คือดีไซน์การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร และถือว่าแปลกใหม่กว่าโรงแรมอื่นๆ ในไทย ซึ่งคุณทศก็ได้ตัดสินใจเลือกสถาปนิกหน้าใหม่อย่าง คุณศิริยศ ชัยอำนวย ผู้ก่อตั้งบริษัท Onion มาเป็นผู้ออกแบบหลายๆ โครงการ ตั้งแต่ ศาลา เขาใหญ่, ศาลา รัตนโกสินทร์, ศาลา อยุธยา และล่าสุดคือ ศาลา สมุย เฉวงบีช รีสอร์ท
ซึ่งทำให้โรงแรมในเครือนี้ นอกจากจะเป็นโรงแรมหรูแล้ว ยังเป็นสถานที่ถ่ายภาพที่ทำให้ผู้ที่เข้ามาพักหรือเยี่ยมชมได้รูปสวยๆ กลับไป และยังคว้ารางวัลโรงแรมดีเด่นจากหลายสำนักทั้งในไทยและต่างประเทศอีกด้วย
แล้วปัจจุบันเครือศาลามีรายได้แค่ไหน
เรามาดูตัวอย่างผลประกอบการในปีที่ผ่านมากัน
บริษัท ศาลา สมุย จำกัด
ปี 2562 รายได้ 264.8 ล้านบาท กำไร 48.2 ล้านบาท
บริษัท ศาลารัตนโกสินทร์ จำกัด
ปี 2561 รายได้ 74.2 ล้านบาท กำไร 7.5 ล้านบาท
บริษัท ศาลา อยุธยา จำกัด
ปี 2562 รายได้ 2.8 ล้านบาท กำไร 1.1 ล้านบาท
บริษัท ศาลา ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป จำกัด
ปี 2562 รายได้ 52.0 ล้านบาท กำไร 6.8 ล้านบาท
ซึ่งประเภทโรงแรมแบบรีสอร์ต เช่น ที่ภูเก็ตและสมุย จะมีรายได้มากกว่าเนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่ ส่วนโครงการอื่นๆ จะเป็นโรงแรมขนาดเล็กเพียงไม่กี่ยูนิตเท่านั้น
และนี่ก็เป็นผลงานธุรกิจอีกแห่งหนึ่งของคุณทศ ที่มาจากความรักและชอบในการตกแต่งบวกกับ
ความตั้งใจให้ทุกโลเคชันมีเอกลักษณ์
ถึงแม้ว่าเครือศาลา จะไม่ได้เป็นเครือโรงแรมใหญ่เหมือนรายอื่นๆ แต่ก็สามารถประสบความสำเร็จ และกลายเป็นโรงแรมที่สร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือน ทั้งคนไทยและคนต่างชาติได้ไม่น้อยเลยทีเดียว..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์มของแหล่งรวมนักคิด
ที่ช่วยอัปเดตสถานการณ์ ในรูปแบบบทความ วิดีโอ
รวมไปถึงพอดแคสต์ ที่มีให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
ลองใช้กันที่ Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://www.thairath.co.th/lifestyle/travel/59002
-https://www.sanook.com/men/34069/
-https://www.salahospitality.com/
-กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
-https://www.youtube.com/watch?v=NsriYeQqXlM
-http://freesplans.blogspot.com/2012/06/blog-post_3461.html
-http://sixsensessamui.blogspot.com/2010/08/4-14.html
-https://www.style-stay.com/brand/sala-hotel/
-https://www.facebook.com/kantjournal/posts/10158526618364271/
-https://www.onion.co.th/
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เชียงใหม่ 在 หนังสือรับรอง 的推薦與評價
ที่ สจก. 002775. กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์. หนังสือรับรอง. ขอรับรองว่าบริษัทนี้ ได้จดทะเบียน เป็นนิติบุคคลตามกฎหมายว่าด้วยบริษัทมหาชนจำกัด. เมื่อวัน ... ... <看更多>
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เชียงใหม่ 在 เชียงใหม่ อธิบดีกรมที่ดินเปิดบริการจดทะเบียนที่ดินต่างสำนักงานแบบ ... 的推薦與評價
32:34. Go to channel · การ บรรยาย เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธี การ จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในสำนักงานที่ดินอิเล็กทรอนิกส์ ... นัก ธุรกิจ สหรัฐฯ ผวา ถูกจีนเอา ... ... <看更多>
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เชียงใหม่ 在 สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดเชียงใหม่ 的推薦與評價
ศาลากลางจังหวัด ชั้น ๒ ถนนโชตนา ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ สอบถามและดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 0-5311-2736-7 ต่อ 13 โทรสาร 0- ... ... <看更多>