3 ตะกร้าตัวช่วยเก็บออมเงิน 🧺💰
มีคำถามเข้ามาว่า “ควรจัดแบ่งเงินออมยังไงดี?” เพราะหลายคนเอาเงินออมไปกองไว้ในที่เดียวกัน แล้วก็หยิบใช้ และออมเพิ่มในที่เดียวกัน สุดท้ายเงินออมเลยไม่เติบโตสักที
.
วันนี้เลยอยากพูดถึงการ “แบ่ง” หรือ “จัดสรร” เงินออม สำหรับผู้ที่เริ่มออมเงินได้และมีเงินกับกันครับ
.
ที่จริงก่อนจะไปถึงเรื่องการจัดสรรเงินออม ก็ต้องชื่นชมก่อนครับ เพราะเอาเข้าจริงคนที่จะเก็บออมเงินได้ มีเงินออมให้บริหาร ในบ้านเราก็อาจเรียกได้ว่า “ครึ่งต่อครึ่ง” เลย
.
คือ ไม่มีเงินออมครึ่งนึง (รีบทำให้มีนะ) และอีกครึ่งคือมีเงินออม แต่ก็บริหารจัดการไม่ถูกต้อง เอาเงินออมทั้งหมดที่มีไปออมไว้ในที่เดียวกัน พอจะลงทุน ก็ยกโขยงไปลงทุนพร้อมกันทั้งหมด ที่ถูกต้องเราควรจัดสรรเงินออมที่มีออกจากกัน โดยแบ่งตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งใจจะใช้เงินก้อนนั้นในอนาคต
.
โดยส่วนตัวผมมักจะแนะนำคนที่มาเรียนด้วย ให้แบ่งเงินออมเบื้องต้น ออกเป็นสามตะกร้า ดังนี้ (มีมากกว่านี้ได้นะ ถ้ามีวัตถุประสงค์อื่นๆ เช่น เก็บเงินซื้อของ เก็บเงินเรียนต่อ ฯลฯ อันนี้แล้วแต่ละบุคคลเลยครับ)
.
1. ตะกร้าเงินสำรองเผื่อฉุกเฉิน (Emergency Basket)
.
ตะกร้านี้เป็นแหล่งเก็บเงินสำรองเผื่อไว้สำหรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ที่อาจจะส่งผลกระทบกับการเงินของเรา เช่น ตกงาน ไม่ได้รับค่าจ้าง เจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ ฯลฯ เป็นตะกร้าเงินที่มีเป้าหมายเพื่อป้องกันความเสี่ยงปกป้องสภาพคล่องของการเงินเรา
.
ขนาดที่เหมาะสมของตะกร้านี้ คือ 6-12 เท่าของรายจ่ายรวมต่อเดือน โดยควรเก็บออมในทรัพย์สินที่มีสภาพคล่องดี รักษามูลค่าได้ไม่ผันผวนมาก เช่นเงินฝาก สลากออมทรัพย์ กองทุนรวมตลาดเงิน กองทุนรวมตราสารหนี้ หรือทองคำ
.
2. ตะกร้าเงินเกษียณรวย (Retirement Basket)
.
ตะกร้านี้เป็นแหล่งเก็บสะสมเงินไว้สำหรับใช้จ่ายยามเกษียณจากการทำงาน เน้นทยอยสะสมและลงทุนในเครื่องมือกลุ่มตราสารการเงิน ใช้วิธีการที่ไม่ซับซ้อน ลงทุนแบบระยะยาว เป้าหมายคือ มีกินใช้หลังเกษียณสบายๆ 20-25 ปี
.
เครื่องมือที่ช่วยเก็บเงินสำหรับตะกร้านี้ เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ , กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) , กองทุนรวมต่างๆ (ตราสารหนี้ อสังหาริมทรัพย์ หุ้น), กองทุนรวมที่มีสิทธิประโยชน์ทางภาษี (RMF และ SSF), ประกันชีวิต ประกันบำนาญ หุ้นสหกรณ์ หุ้นสามัญ เป็นต้น
.
ที่ดีควรเริ่มต้นวางแผนเงินเกษียณนี้ ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มต้นทำงาน ควบคู่ไปกับการวางแผนชำระหนี้ให้หมดก่อนเกษียณ เริ่มต้นลงทุนทีละน้อยสร้างประสบการณ์ ที่สำคัญ! เงินก้อนนี้ห้ามแบ่งให้ใครเด็ดขาด เพราะมันคือเงินที่เราต้องเก็บไว้กินใช้ในวันที่รายได้ลดลง
.
3. ตะกร้าเงินเกษียณเร็ว (Money Freedom Basket)
.
ตะกร้านี้เป็นแหล่งเงินสะมที่จะนำไปลงทุนในทรัพย์สินที่สร้างกระแสเงินสด (Passive Income) เพื่อสร้างความมั่งคั่งอย่างรวดเร็ว ทำให้หมดกังวลเรื่องการเงินได้ก่อนเกษียณอายุจากการทำงาน
.
เป้าหมายของตะกร้านี้คือ รายได้จากทรัพย์สิน (Passive Income) มากกว่ารายจ่ายรวมต่อเดือน (Total Expenses) เครื่องมือที่ช่วยของตะกร้าเกษียณเร็วก็คือ ธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ ทรัพย์สินทางปัญญา ที่ให้รายได้เราในรูปแบบ ดอกเบี้ย เงินปันผล ค่าเช่า และค่าลิขสิทธิ์ (หรือปัจจุบันจะมาในรูปแบบค่าโฆษณาก็ได้)
.
ทั้งหมดนี้คือ ตะกร้าเงินพื้นฐานที่ควรจะจัดแบ่งเงินออมไว้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย อย่างไรก็ดี แต่ละคนมีความต้องการแต่ปัจเจก แตกต่างกันไปในแต่ละคน ดังนั้นหากจะมีตะกร้าเงินอื่นๆ เพิ่มเติมจากนี้ หรือแบ่งเงินแตกต่างไปจากนี้ ก็ไม่ถือว่าผิดกติกา
.
ยังไงลองวางแผนจัดการเงินออมของตัวเองดูนะครับ หวังว่าแนวทางข้างต้นจะเป็นประโยชน์กับทุกคนครับ
#TheMoneyCoachTH
「กองทุนรวมตราสารหนี้ คือ」的推薦目錄:
- 關於กองทุนรวมตราสารหนี้ คือ 在 Money Coach Facebook 的精選貼文
- 關於กองทุนรวมตราสารหนี้ คือ 在 Money Coach Facebook 的最讚貼文
- 關於กองทุนรวมตราสารหนี้ คือ 在 Money Coach Facebook 的最佳解答
- 關於กองทุนรวมตราสารหนี้ คือ 在 EP8 รู้จักกองทุนตราสารหนี้ ทางเลือกของคนไม่ชอบความเสี่ยง 的評價
- 關於กองทุนรวมตราสารหนี้ คือ 在 Money Coach - ตราสารหนี้📊 VS ตราสารทุน 📈 คืออะไร... 的評價
กองทุนรวมตราสารหนี้ คือ 在 Money Coach Facebook 的最讚貼文
เป้าหมายการเงินที่หลายคนมองข้าม
ในแทบทุกครั้งที่บรรยายเรื่องการเงินส่วนบุคคล หัวข้อหนึ่งที่คนส่วนใหญ่มักรู้สึกเฉยๆ ไม่ค่อยสนใจฟังกันสักเท่าไหร่ ก็คือ เรื่องการจัดการความเสี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องของการเก็บเงินสำรองเผื่อฉุกเฉิน (ส่วนใหญ่อยากฟังเรื่องการลงทุนมากกว่า)
เอาเข้าจริง เงินสำรองเผื่อฉุกเฉิน หรือ Emergency Fund เป็นเรื่องที่สำคัญมาก สำคัญถึงขั้นเป็นเป้าหมายแรกของการออมเลยทีเดียว เรียกได้ว่า ก่อนที่จะคิดไปถึงการวางแผนการเงินเพื่อความมั่งคั่ง คนเราควรเผื่อเหลือเผื่อขาด เก็บเงินไว้ในตระกร้านี้ให้เต็มก่อนเป็นอันดับแรก
โดยเป้าหมายของการเก็บเงินก้อนนี้ ก็คือ 6 เท่าของค่าใช้จ่ายรวมต่อเดือน (เช่น ถ้าเดือนหนึ่งใช้ 20,000 บาท เงินสำรองก็จะเท่ากับ 20,000 x 6 = 120,000 บาท) เก็บสะสมไว้ในที่ๆ รักษาเงินต้น (เงินต้นไม่สูญหาย) และมีสภาพคล่องในการเบิกถอนสูง
เงินฝากสถาบันการเงิน เงินฝากสหกรณ์ กองทุนรวมตลาดเงิน กองทุนรวมตราสารหนี้ สลากออมสิน (หรือ ธกส.) จะเลือกช่องทางไหนก็ได้ทั้งหมด
ค่อยๆ ทยอยเก็บทีละน้อย ควบคู่ไปกับตะกร้าเงินอื่นๆ (เช่น เงินเกษียณ) เต็มครบ 6 เท่าของรายจ่ายก็หยุดเก็บสะสม แล้วเอาเงินออมไปสะสมในตะกร้าอื่นๆ แทน
เหตุผลที่เราต้องเก็บเงินสำรองเผื่อฉุกเฉินไว้บ้าง ก็เพราะชีวิตมีความไม่แน่นอนสูง ยิ่งกรณีของการขาดหายไปของรายได้ (Income Shock) ไม่ว่าจะเกิดจากการตกงาน ถูกลดค่าแรง เลื่อนการรับชำระเงิน คนในครอบครัวเจ็บป่วยกระทันหัน ฯลฯ คนที่ไม่มีเงินสำรอง ก็อาจมีความจำเป็นต้องหยิบยืม และพาชีวิตเข้าสู่วงจรหนี้ได้
ด้วยเหตุที่เป็น “เงินเตรียมตัว” เรื่องโชคร้ายอาจไม่เกิดกับเรา และด้วยแหล่งสะสมเงินที่ผมแนะนำไป มักมีอัตราผลตอบแทนที่ต่ำ (เงินสำรองไม่ควรลงทุนในหุ้น อนุพันธ์ หรือแม้แต่สะสมในรูปแบบประกันชีวิต) จึงทำให้ใครหลายคนหงุดหงิดที่เห็นเงินตัวเอง เติบโตในเครื่องมือที่ดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนต่ำติดดิน
หลายคนจึงละเลย ไม่เก็บเงินสำรอง ข้ามไปลุยกับการลงทุนที่มีความเสี่ยงด้วยเงินทั้งหมดที่มี หรือบางคนหนักกว่านั้น คือ แค่เริ่มเก็บให้มี ยังไม่เริ่มเก็บเลย ด้วยคิดเอาเองว่า
“เราคงไม่โชคร้ายขนาดนั้น”
แล้วก็หลายครั้งอีกเช่นกัน ที่เรื่องโชคร้ายที่ไม่น่าจะเกิดกับเรา ดันมาเกิดกับเรา หรือคนในอุปการะของเรา แล้วกลายมาเป็นปัญหาการเงินก้อนใหญ่ ที่ทำให้ชีวิตการเงินเสียหาย
เช้าวันนี้ขณะเขียนบทความ น้องคนหนึ่งเขียนข้อความส่งมาทางเฟซบุ๊กเล่าให้ฟังว่า ปีก่อนบริษัทจ่ายโบนัส 3 เดือน เขาได้เงินมาราว 200,000 บาท ตอนแรกตั้งใจจะซื้อของที่อยากได้หลายอย่าง แต่นึกไปนึกมา (ไม่รู้อะไรดลใจ) สุดท้ายตัดสินใจไม่ซื้อของที่เล็งไว้เลยสักอย่าง
เขาหักเงิน 180,000 บาท ไปฝากธนาคารและซื้อกองทุนตราสารหนี้อย่างละครึ่ง เพื่อสะสมไว้เป็นเงินสำรองเผื่อฉุกเฉิน (น้องเค้ารายจ่ายต่อเดือน 30,000 บาท)
เดือนก่อน น้องท่านนี้เพิ่งถูกให้ออกจากงาน เนื่องจากบริษัทมีการควบรวมกิจการ และมีการลดตำแหน่งงานที่ซ้ำซ้อนลง แจ็คพ็อตมาลงที่เขาโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว
แม้จะต้องออกจากงาน แต่เขารู้สึกขอบคุณตัวเองที่วันนั้นตัดใจไม่ซื้อของที่อยากได้ แล้วนำมาสะสมเป็นทุนสำรองชีวิตของตัวเอง (ที่จริงจะเก็บสักครึ่ง แล้วค่อยทยอยเก็บเพิ่มก็ได้) อย่างน้อยก็ยังมีเงินใช้อีก 6 เดือน มีเวลาคิด เวลาหางานใหม่ โดยไม่ต้องห่วงเรื่องปากท้องได้สักระยะ
เรื่องราวของเงินสำรองมักเป็นอย่างนี้ครับ
อาจขัดใจคนเก็บสะสมอยู่บ้าง ในวันที่อะไรยังดีๆ
แต่ในวันที่อะไรๆ ไม่เป็นใจ วันนั้นแหละ คุณถึงจะเข้าใจความสำคัญของเงินก้อนนี้
แล้วคุณหละ! วางแผนจะรับมือกับความเสี่ยงของการขาดหายไปของรายได้อย่างไร
อยู่เฉยๆ เจอแล้วค่อยคิดค่อยว่ากัน หรือลงมือเริ่มเก็บสะสมตั้งแต่วันนี้ (และเริ่มหาแหล่งรายได้ที่ 2 และ 3)
ทั้งสองทางเลือกเป็นสิทธิที่อยู่ในความรับผิดชอบของคุณครับ
#TheMoneyCoachTH
กองทุนรวมตราสารหนี้ คือ 在 Money Coach Facebook 的最佳解答
เป้าหมายการเงินที่หลายคนมองข้าม
ในแทบทุกครั้งที่บรรยายเรื่องการเงินส่วนบุคคล หัวข้อหนึ่งที่คนส่วนใหญ่มักรู้สึกเฉยๆ ไม่ค่อยสนใจฟังกันสักเท่าไหร่ ก็คือ เรื่องการจัดการความเสี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องของการเก็บเงินสำรองเผื่อฉุกเฉิน (ส่วนใหญ่อยากฟังเรื่องการลงทุนมากกว่า)
เอาเข้าจริง เงินสำรองเผื่อฉุกเฉิน หรือ Emergency Fund เป็นเรื่องที่สำคัญมาก สำคัญถึงขั้นเป็นเป้าหมายแรกของการออมเลยทีเดียว เรียกได้ว่า ก่อนที่จะคิดไปถึงการวางแผนการเงินเพื่อความมั่งคั่ง คนเราควรเผื่อเหลือเผื่อขาด เก็บเงินไว้ในตระกร้านี้ให้เต็มก่อนเป็นอันดับแรก
โดยเป้าหมายของการเก็บเงินก้อนนี้ ก็คือ 6 เท่าของค่าใช้จ่ายรวมต่อเดือน (เช่น ถ้าเดือนหนึ่งใช้ 20,000 บาท เงินสำรองก็จะเท่ากับ 20,000 x 6 = 120,000 บาท) เก็บสะสมไว้ในที่ๆ รักษาเงินต้น (เงินต้นไม่สูญหาย) และมีสภาพคล่องในการเบิกถอนสูง
เงินฝากสถาบันการเงิน เงินฝากสหกรณ์ กองทุนรวมตลาดเงิน กองทุนรวมตราสารหนี้ สลากออมสิน (หรือ ธกส.) จะเลือกช่องทางไหนก็ได้ทั้งหมด
ค่อยๆ ทยอยเก็บทีละน้อย ควบคู่ไปกับตะกร้าเงินอื่นๆ (เช่น เงินเกษียณ) เต็มครบ 6 เท่าของรายจ่ายก็หยุดเก็บสะสม แล้วเอาเงินออมไปสะสมในตะกร้าอื่นๆ แทน
เหตุผลที่เราต้องเก็บเงินสำรองเผื่อฉุกเฉินไว้บ้าง ก็เพราะชีวิตมีความไม่แน่นอนสูง ยิ่งกรณีของการขาดหายไปของรายได้ (Income Shock) ไม่ว่าจะเกิดจากการตกงาน ถูกลดค่าแรง เลื่อนการรับชำระเงิน คนในครอบครัวเจ็บป่วยกระทันหัน ฯลฯ คนที่ไม่มีเงินสำรอง ก็อาจมีความจำเป็นต้องหยิบยืม และพาชีวิตเข้าสู่วงจรหนี้ได้
ด้วยเหตุที่เป็น “เงินเตรียมตัว” เรื่องโชคร้ายอาจไม่เกิดกับเรา และด้วยแหล่งสะสมเงินที่ผมแนะนำไป มักมีอัตราผลตอบแทนที่ต่ำ (เงินสำรองไม่ควรลงทุนในหุ้น อนุพันธ์ หรือแม้แต่สะสมในรูปแบบประกันชีวิต) จึงทำให้ใครหลายคนหงุดหงิดที่เห็นเงินตัวเอง เติบโตในเครื่องมือที่ดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนต่ำติดดิน
หลายคนจึงละเลย ไม่เก็บเงินสำรอง ข้ามไปลุยกับการลงทุนที่มีความเสี่ยงด้วยเงินทั้งหมดที่มี หรือบางคนหนักกว่านั้น คือ แค่เริ่มเก็บให้มี ยังไม่เริ่มเก็บเลย ด้วยคิดเอาเองว่า
“เราคงไม่โชคร้ายขนาดนั้น”
แล้วก็หลายครั้งอีกเช่นกัน ที่เรื่องโชคร้ายที่ไม่น่าจะเกิดกับเรา ดันมาเกิดกับเรา หรือคนในอุปการะของเรา แล้วกลายมาเป็นปัญหาการเงินก้อนใหญ่ ที่ทำให้ชีวิตการเงินเสียหาย
เช้าวันนี้ขณะเขียนบทความ น้องคนหนึ่งเขียนข้อความส่งมาทางเฟซบุ๊กเล่าให้ฟังว่า ปีก่อนบริษัทจ่ายโบนัส 3 เดือน เขาได้เงินมาราว 200,000 บาท ตอนแรกตั้งใจจะซื้อของที่อยากได้หลายอย่าง แต่นึกไปนึกมา (ไม่รู้อะไรดลใจ) สุดท้ายตัดสินใจไม่ซื้อของที่เล็งไว้เลยสักอย่าง
เขาหักเงิน 180,000 บาท ไปฝากธนาคารและซื้อกองทุนตราสารหนี้อย่างละครึ่ง เพื่อสะสมไว้เป็นเงินสำรองเผื่อฉุกเฉิน (น้องเค้ารายจ่ายต่อเดือน 30,000 บาท)
เดือนก่อน น้องท่านนี้เพิ่งถูกให้ออกจากงาน เนื่องจากบริษัทมีการควบรวมกิจการ และมีการลดตำแหน่งงานที่ซ้ำซ้อนลง แจ็คพ็อตมาลงที่เขาโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว
แม้จะต้องออกจากงาน แต่เขารู้สึกขอบคุณตัวเองที่วันนั้นตัดใจไม่ซื้อของที่อยากได้ แล้วนำมาสะสมเป็นทุนสำรองชีวิตของตัวเอง (ที่จริงจะเก็บสักครึ่ง แล้วค่อยทยอยเก็บเพิ่มก็ได้) อย่างน้อยก็ยังมีเงินใช้อีก 6 เดือน มีเวลาคิด เวลาหางานใหม่ โดยไม่ต้องห่วงเรื่องปากท้องได้สักระยะ
เรื่องราวของเงินสำรองมักเป็นอย่างนี้ครับ
อาจขัดใจคนเก็บสะสมอยู่บ้าง ในวันที่อะไรยังดีๆ
แต่ในวันที่อะไรๆ ไม่เป็นใจ วันนั้นแหละ คุณถึงจะเข้าใจความสำคัญของเงินก้อนนี้
แล้วคุณหละ! วางแผนจะรับมือกับความเสี่ยงของการขาดหายไปของรายได้อย่างไร
อยู่เฉยๆ เจอแล้วค่อยคิดค่อยว่ากัน หรือลงมือเริ่มเก็บสะสมตั้งแต่วันนี้ (และเริ่มหาแหล่งรายได้ที่ 2 และ 3)
ทั้งสองทางเลือกเป็นสิทธิที่อยู่ในความรับผิดชอบของคุณครับ
#TheMoneyCoachTH
กองทุนรวมตราสารหนี้ คือ 在 Money Coach - ตราสารหนี้📊 VS ตราสารทุน 📈 คืออะไร... 的推薦與評價
ตราสารหนี้ VS ตราสารทุน คืออะไร และมีความแตกต่างกันอย่างไร ❓ “ตราสารหนี้ (Bond)” คือ ตราสารทางการเงินที่ผู้ถือ (นักลงทุน) มีสถานะเป็น “เจ้าหนี้”... ... <看更多>
กองทุนรวมตราสารหนี้ คือ 在 EP8 รู้จักกองทุนตราสารหนี้ ทางเลือกของคนไม่ชอบความเสี่ยง 的推薦與評價
... D) ดังนั้นหากจะลงทุนใน กองทุนรวมตราสารหนี้ ต้องอย่าลืมพิจารณาถึง Credit Rating ของผู้ออกตราสารที่กองทุนไปลงทุนไว้ด้วย ดังนั้นวิธีการดู คือ ... ... <看更多>