เมืองอู่ฮั่น มีความสำคัญอย่างไร? /โดย ลงทุนแมน
ล่าสุดมีการประกาศปิดการเดินทางเข้าออกเมืองอู่ฮั่นทุกรูปแบบ
เนื่องจากการระบาดของ ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
โดยมีผู้ที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อกว่า 800 ราย
และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 25 ราย
ซึ่งผู้ป่วยกระจายตัวอยู่ในหลายมณฑลของจีน พื้นที่อื่นในโลก รวมถึงในประเทศไทย
อะไรเป็นสาเหตุที่ไวรัสชนิดนี้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว?
และการปิดเมืองอู่ฮั่นจะส่งผลกระทบอย่างไร?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
┏━━━━━━━━━━━━┓
ติดตามข่าวสารอัปเดตแบบนี้ได้ที่
ทวิตเตอร์ ลงทุนแมน twitter.com/longtunman
┗━━━━━━━━━━━━┛
อู่ฮั่น (Wuhan) เป็นเมืองใหญ่ที่สุดในมณฑลหูเป่ย์ มีประชากร 11 ล้านคน ถือเป็นศูนย์กลางทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ การเงิน การค้า และวัฒนธรรม ของภูมิภาคจีนตอนกลาง
โดยชื่อ “อู่ฮั่น” มาจากการรวมกันของ 3 เมือง ได้แก่ อู่ชาง ฮั่นโข่ว และฮั่นหยาง เพื่อตั้งเป็นเมืองหลวงของจีนในช่วงปี ค.ศ. 1927
สำหรับในด้านภูมิศาสตร์
ลองนึกถึงเมืองใหญ่ที่สุดในประเทศจีน 4 เมือง คือ
กรุงปักกิ่งทางตอนเหนือ นครกว่างโจวทางตอนใต้
นครเซี่ยงไฮ้ทางตะวันออก และนครฉงชิ่งทางตะวันตก
ถ้าลากเส้น 2 เส้น จากปักกิ่งมากว่างโจว และเซี่ยงไฮ้มาฉงชิ่ง
เส้นทั้ง 2 จะตัดกันแถบเมืองอู่ฮั่นพอดี
ด้วยทำเลที่อยู่ใจกลางของเมืองใหญ่ อู่ฮั่นจึงกลายเป็นศูนย์กลางคมนาคมที่สำคัญมากของประเทศจีน ทั้งการขนส่งทางน้ำ ทางบก ทางรถไฟ และทางอากาศ
การขนส่งทางน้ำ
อู่ฮั่นตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแยงซี แม่น้ำสายที่ยาวที่สุดของประเทศจีน
แม่น้ำนี้เป็นเส้นทางขนส่งสินค้าที่สำคัญ ไหลผ่านเขตอุตสาหกรรมต่างๆ ตั้งแต่นครฉงชิ่ง ออกสู่ทะเลใกล้กับนครเซี่ยงไฮ้
ท่าเรืออู่ฮั่นซึ่งตั้งอยู่ระหว่างทางจึงกลายเป็นท่าเรือที่สำคัญของแม่น้ำแยงซี
การขนส่งทางรถไฟ
สถานีรถไฟอู่ฮั่น เป็นจุดตัดของรถไฟความเร็วสูงสายปักกิ่ง-กว่างโจว และรถไฟความเร็วสูงสายเซี่ยงไฮ้-เฉิงตู รวมถึงรถไฟทั่วไปอีกหลายเส้นทาง
ทำให้การเดินทางจากเมืองอู่ฮั่นไปยังเมืองอื่นๆ ทั่วประเทศจีนสะดวกและรวดเร็ว
แต่ประเด็นมันอยู่ที่..
การเป็นศูนย์กลางของทุกอย่าง
ทำให้การระบาดของไวรัสชนิดนี้แพร่กระจายไปทั่วประเทศ..
แล้วอู่ฮั่นยังมีเป็นศูนย์กลางของอะไรอีก?
การขนส่งทางอากาศ
สนามบินนานาชาติอู่ฮั่นเทียนเหอ รองรับผู้โดยสารกว่า 24.5 ล้านคนในปี 2018 มีเส้นทางการบินเชื่อมต่อสู่หลายเมืองหลักทั่วโลก ทั้งโตเกียว ปารีส สิงคโปร์
สำหรับประเทศไทย มีเส้นทางบินเชื่อมระหว่างอู่ฮั่น กับกรุงเทพฯ เชียงใหม่ และภูเก็ต
นอกจากการเป็นศูนย์กลางคมนาคมและขนส่งแล้ว
อู่ฮั่นยังเป็นฐานการผลิตยานยนต์ และอุตสาหกรรมเหล็กที่สำคัญของประเทศจีน
โดยเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของ ตงฟงมอเตอร์ (Dongfeng Motor Group) บริษัทยานยนต์ที่มีรายได้มากเป็นอันดับ 2 ของประเทศจีน ผู้ผลิตรถบรรทุก และรถบัสที่สำคัญของตลาดจีน
ในปี 2018 ตงฟงมอเตอร์ มีรายได้ 2.8 ล้านล้านบาท เป็นบริษัทที่มีรายได้อันดับ 82 ของโลก จากการจัดอันดับของ Global Fortune 500
นอกจากนั้น อู่ฮั่นยังให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โดยจัดเป็นโซนอุตสาหกรรมพิเศษหลายแห่ง เน้นตั้งแต่การผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยีชีวภาพ ยา ไปจนถึงเทคโนโลยีด้านโทรคมนาคม
ซึ่งอุตสาหกรรมเหล่านี้ ทำให้ในปี 2018 อู่ฮั่นเมืองเดียวมีขนาด GDP สูงถึง 6.5 ล้านล้านบาท
ใกล้เคียงกับ GDP ของเวียดนามทั้งประเทศ และคิดเป็น GDP สูงถึงเดือนละเกือบ 50,000 บาทต่อหัว
สำหรับด้านการศึกษา อู่ฮั่นก็ถือว่าเป็นเมืองที่โดดเด่น เป็นรองเพียงเซี่ยงไฮ้และปักกิ่ง
โดยมีมหาวิทยาลัยอู่ฮั่น หรือ Wuhan University เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยระดับ Top 10 ของประเทศจีน และ Huazhong University of Science and Technology ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยไม่กี่แห่งที่เป็นผู้จัดการสถาบันวิจัยระดับชาติ
ด้วยปัจจัยทั้งหมดนี้ จึงไม่น่าแปลกใจว่า ในแต่ละวันจะมีทั้งนักเดินทาง นักท่องเที่ยว และนักธุรกิจ เดินทางเข้าออกเมืองอู่ฮั่นวันละหลายแสนคน
เมื่อมีความสำคัญทางเศรษฐกิจเกือบเท่าเวียดนามทั้งประเทศ
การปิดเมืองอู่ฮั่น ปิดเส้นทางคมนาคมทุกเส้นทาง
ย่อมส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่สิ่งสำคัญที่สุดในเวลานี้
ก็คือการยับยั้งการระบาดของเชื้อไวรัสนี้ให้เร็วที่สุด
ก่อนที่จะเกิดการแพร่กระจายอย่างกรณีของโรคซาร์ส ในปี 2002 ซึ่งพบในมณฑลกวางตุ้งของจีนเป็นที่แรก จนมีผู้ติดเชื้อกว่า 8,000 ราย และคร่าชีวิตคนทั่วโลกไปกว่า 800 ราย
เรื่องนี้ก็ทำให้เราคิดได้ว่า
ทุกวันนี้ยิ่งโลกเชื่อมต่อกันอย่างไร้เขตแดนมากขึ้น
เราสามารถเดินทางไปอีกฟากโลกได้ภายในเวลาไม่กี่วัน
แม้ว่าเรื่องนี้จะส่งผลดีอำนวยความสะดวกให้กับมนุษย์เราในด้านต่างๆ
แต่ในอีกด้านหนึ่งก็แปลว่าถ้าเกิดโรคติดต่ออย่างในกรณีนี้
การแพร่กระจายก็จะเป็นไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน
โดยเฉพาะเมืองที่เป็นจุดศูนย์กลางด้านการคมนาคมอย่างเมืองอู่ฮั่น
และถ้าถามว่าเมืองไหนที่มีความเสี่ยง เพราะเป็นจุดศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวคมนาคมที่สำคัญของภูมิภาคที่คล้ายกับอู่ฮั่น
รู้ไหมว่า หนึ่งในเมืองนั้นก็คือ กรุงเทพมหานคร นั่นเอง..
┏━━━━━━━━━━━━┓
ติดตามข่าวสารอัปเดตแบบนี้ได้ที่
ทวิตเตอร์ ลงทุนแมน twitter.com/longtunman
┗━━━━━━━━━━━━┛
References
-https://www.bbc.com/news/world-asia-china-51202254
-http://www.caac.gov.cn/…/TJSJ/2…/P020190305338562571372.xls…&
-https://www.studyinchina.com.my/…/qs-university-rankings-a…/
-https://www.ceicdata.com/…/gross-domesti…/cn-gdp-hubei-wuhan
-https://fortune.com/global500/2019/dongfeng-motor/
-https://www.who.int/ith/diseases/sars/en/
「การขนส่งทางน้ำ คือ」的推薦目錄:
การขนส่งทางน้ำ คือ 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
เมืองอู่ฮั่น มีความสำคัญอย่างไร? /โดย ลงทุนแมน
ล่าสุดมีการประกาศปิดการเดินทางเข้าออกเมืองอู่ฮั่นทุกรูปแบบ
เนื่องจากการระบาดของ ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
โดยมีผู้ที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อกว่า 800 ราย
และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 25 ราย
ซึ่งผู้ป่วยกระจายตัวอยู่ในหลายมณฑลของจีน พื้นที่อื่นในโลก รวมถึงในประเทศไทย
อะไรเป็นสาเหตุที่ไวรัสชนิดนี้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว?
และการปิดเมืองอู่ฮั่นจะส่งผลกระทบอย่างไร?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
┏━━━━━━━━━━━━┓
ติดตามข่าวสารอัปเดตแบบนี้ได้ที่
ทวิตเตอร์ ลงทุนแมน twitter.com/longtunman
┗━━━━━━━━━━━━┛
อู่ฮั่น (Wuhan) เป็นเมืองใหญ่ที่สุดในมณฑลหูเป่ย์ มีประชากร 11 ล้านคน ถือเป็นศูนย์กลางทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ การเงิน การค้า และวัฒนธรรม ของภูมิภาคจีนตอนกลาง
โดยชื่อ “อู่ฮั่น” มาจากการรวมกันของ 3 เมือง ได้แก่ อู่ชาง ฮั่นโข่ว และฮั่นหยาง เพื่อตั้งเป็นเมืองหลวงของจีนในช่วงปี ค.ศ. 1927
สำหรับในด้านภูมิศาสตร์
ลองนึกถึงเมืองใหญ่ที่สุดในประเทศจีน 4 เมือง คือ
กรุงปักกิ่งทางตอนเหนือ นครกว่างโจวทางตอนใต้
นครเซี่ยงไฮ้ทางตะวันออก และนครฉงชิ่งทางตะวันตก
ถ้าลากเส้น 2 เส้น จากปักกิ่งมากว่างโจว และเซี่ยงไฮ้มาฉงชิ่ง
เส้นทั้ง 2 จะตัดกันแถบเมืองอู่ฮั่นพอดี
ด้วยทำเลที่อยู่ใจกลางของเมืองใหญ่ อู่ฮั่นจึงกลายเป็นศูนย์กลางคมนาคมที่สำคัญมากของประเทศจีน ทั้งการขนส่งทางน้ำ ทางบก ทางรถไฟ และทางอากาศ
การขนส่งทางน้ำ
อู่ฮั่นตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแยงซี แม่น้ำสายที่ยาวที่สุดของประเทศจีน
แม่น้ำนี้เป็นเส้นทางขนส่งสินค้าที่สำคัญ ไหลผ่านเขตอุตสาหกรรมต่างๆ ตั้งแต่นครฉงชิ่ง ออกสู่ทะเลใกล้กับนครเซี่ยงไฮ้
ท่าเรืออู่ฮั่นซึ่งตั้งอยู่ระหว่างทางจึงกลายเป็นท่าเรือที่สำคัญของแม่น้ำแยงซี
การขนส่งทางรถไฟ
สถานีรถไฟอู่ฮั่น เป็นจุดตัดของรถไฟความเร็วสูงสายปักกิ่ง-กว่างโจว และรถไฟความเร็วสูงสายเซี่ยงไฮ้-เฉิงตู รวมถึงรถไฟทั่วไปอีกหลายเส้นทาง
ทำให้การเดินทางจากเมืองอู่ฮั่นไปยังเมืองอื่นๆ ทั่วประเทศจีนสะดวกและรวดเร็ว
แต่ประเด็นมันอยู่ที่..
การเป็นศูนย์กลางของทุกอย่าง
ทำให้การระบาดของไวรัสชนิดนี้แพร่กระจายไปทั่วประเทศ..
แล้วอู่ฮั่นยังมีเป็นศูนย์กลางของอะไรอีก?
การขนส่งทางอากาศ
สนามบินนานาชาติอู่ฮั่นเทียนเหอ รองรับผู้โดยสารกว่า 24.5 ล้านคนในปี 2018 มีเส้นทางการบินเชื่อมต่อสู่หลายเมืองหลักทั่วโลก ทั้งโตเกียว ปารีส สิงคโปร์
สำหรับประเทศไทย มีเส้นทางบินเชื่อมระหว่างอู่ฮั่น กับกรุงเทพฯ เชียงใหม่ และภูเก็ต
นอกจากการเป็นศูนย์กลางคมนาคมและขนส่งแล้ว
อู่ฮั่นยังเป็นฐานการผลิตยานยนต์ และอุตสาหกรรมเหล็กที่สำคัญของประเทศจีน
โดยเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของ ตงฟงมอเตอร์ (Dongfeng Motor Group) บริษัทยานยนต์ที่มีรายได้มากเป็นอันดับ 2 ของประเทศจีน ผู้ผลิตรถบรรทุก และรถบัสที่สำคัญของตลาดจีน
ในปี 2018 ตงฟงมอเตอร์ มีรายได้ 2.8 ล้านล้านบาท เป็นบริษัทที่มีรายได้อันดับ 82 ของโลก จากการจัดอันดับของ Global Fortune 500
นอกจากนั้น อู่ฮั่นยังให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โดยจัดเป็นโซนอุตสาหกรรมพิเศษหลายแห่ง เน้นตั้งแต่การผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยีชีวภาพ ยา ไปจนถึงเทคโนโลยีด้านโทรคมนาคม
ซึ่งอุตสาหกรรมเหล่านี้ ทำให้ในปี 2018 อู่ฮั่นเมืองเดียวมีขนาด GDP สูงถึง 6.5 ล้านล้านบาท
ใกล้เคียงกับ GDP ของเวียดนามทั้งประเทศ และคิดเป็น GDP สูงถึงเดือนละเกือบ 50,000 บาทต่อหัว
สำหรับด้านการศึกษา อู่ฮั่นก็ถือว่าเป็นเมืองที่โดดเด่น เป็นรองเพียงเซี่ยงไฮ้และปักกิ่ง
โดยมีมหาวิทยาลัยอู่ฮั่น หรือ Wuhan University เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยระดับ Top 10 ของประเทศจีน และ Huazhong University of Science and Technology ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยไม่กี่แห่งที่เป็นผู้จัดการสถาบันวิจัยระดับชาติ
ด้วยปัจจัยทั้งหมดนี้ จึงไม่น่าแปลกใจว่า ในแต่ละวันจะมีทั้งนักเดินทาง นักท่องเที่ยว และนักธุรกิจ เดินทางเข้าออกเมืองอู่ฮั่นวันละหลายแสนคน
เมื่อมีความสำคัญทางเศรษฐกิจเกือบเท่าเวียดนามทั้งประเทศ
การปิดเมืองอู่ฮั่น ปิดเส้นทางคมนาคมทุกเส้นทาง
ย่อมส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่สิ่งสำคัญที่สุดในเวลานี้
ก็คือการยับยั้งการระบาดของเชื้อไวรัสนี้ให้เร็วที่สุด
ก่อนที่จะเกิดการแพร่กระจายอย่างกรณีของโรคซาร์ส ในปี 2002 ซึ่งพบในมณฑลกวางตุ้งของจีนเป็นที่แรก จนมีผู้ติดเชื้อกว่า 8,000 ราย และคร่าชีวิตคนทั่วโลกไปกว่า 800 ราย
เรื่องนี้ก็ทำให้เราคิดได้ว่า
ทุกวันนี้ยิ่งโลกเชื่อมต่อกันอย่างไร้เขตแดนมากขึ้น
เราสามารถเดินทางไปอีกฟากโลกได้ภายในเวลาไม่กี่วัน
แม้ว่าเรื่องนี้จะส่งผลดีอำนวยความสะดวกให้กับมนุษย์เราในด้านต่างๆ
แต่ในอีกด้านหนึ่งก็แปลว่าถ้าเกิดโรคติดต่ออย่างในกรณีนี้
การแพร่กระจายก็จะเป็นไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน
โดยเฉพาะเมืองที่เป็นจุดศูนย์กลางด้านการคมนาคมอย่างเมืองอู่ฮั่น
และถ้าถามว่าเมืองไหนที่มีความเสี่ยง เพราะเป็นจุดศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวคมนาคมที่สำคัญของภูมิภาคที่คล้ายกับอู่ฮั่น
รู้ไหมว่า หนึ่งในเมืองนั้นก็คือ กรุงเทพมหานคร นั่นเอง..
┏━━━━━━━━━━━━┓
ติดตามข่าวสารอัปเดตแบบนี้ได้ที่
ทวิตเตอร์ ลงทุนแมน twitter.com/longtunman
┗━━━━━━━━━━━━┛
References
-https://www.bbc.com/news/world-asia-china-51202254
-http://www.caac.gov.cn/XXGK/XXGK/TJSJ/201903/P020190305338562571372.xls?COLLCC=3782305670&
-https://www.studyinchina.com.my/web/page/qs-university-rankings-asia-2016/
-https://www.ceicdata.com/en/china/gross-domestic-product-prefecture-level-city/cn-gdp-hubei-wuhan
-https://fortune.com/global500/2019/dongfeng-motor/
-https://www.who.int/ith/diseases/sars/en/
การขนส่งทางน้ำ คือ 在 sittikorn saksang Facebook 的最讚貼文
สื่อการสอนสัปดาห์ที่ 9 ภารกิจของรัฐ กล่าวถึงประเภทของภารกิจ องค์กรผู้จัดทำภารกิจ เครื่องมื่อของรัฐในการจัดทำภารกิจ
สาระสำคัญ ของสื่อการสอนสัปดาห์นี้
เครื่องมือของรัฐในการจัดทำภารกิจของรัฐ
"รัฐ" มีฐานะเป็นนิติบุคคลมหาชน มีสิทธิหน้าที่ตามกฎหมาย แต่อย่างไรก็ตามรัฐเป็นนิติบุคคลไม่มีชีวิตจิตใจ ไม่สามารถกระทำได้ จึงต้องมีบุคคลกระทำการแทนในนามรัฐ ซึ่งจะต้องมีเครื่องมือของรัฐในการจัดทำภารกิจของรัฐ ดังนี้
"ภารกิจของรัฐ"
ภารกิจของรัฐ จะมีอยู่ 2 ภารกิจ ดังนี้
1.ภารกิจหลักหรือภารกิจขั้นพื้นฐาน เป็นภารกิจที่รัฐต้องดูความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เข่น การกำลังทหารปกป้องประเทศ มีตำรวจไว้ดูแลความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ การมีศาลไว้ตัดสินระงับข้อพิพาทให้ยุติ ถือ เป็น"การบริการสาธารณะทางปกครอง" เป็นต้น
2.ภารกิจรอง หรือภารกิจเสริม เป็นภารกิจของรัฐที่ต้องการให้ประชาชน อยู่ดินกินดี มีชีวิตที่ดีขึ้น เช่น การให้ประชาชนไฟฟ้าใช้ มีน้ำประปาใช้ การขนส่งทางน้ำ ทางบก ถือ เป็น ถือเป็น"การบริการสาธารณะทางพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรม" กับให้ประชาชนมีความรู้ดีขึ้นการให้การศึกษา การรักษาพยาบาล การมีสถานท่องเที่ยวและการกีฬา การมีสถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ (วัด) เป็นต้น ถือ เป็น"การบริการสาธารณะทางสังคมและวัฒนธรรม"
"เครื่องมือของรัฐในการจัดทำภารกิจ"
เครื่องมือของรัฐในการจัดทำภารกิจของข้างต้นจะสำเร็จได้นั้นต้องประกอบ ด้วย 3 ส่วนดังนี้
1.กฎหมาย การที่รัฐกระทำการใดๆได้ต้องมีกฎหมายให้อำนาจ กฎหมายจึ่งเป็น "แหล่งที่มาของอำนาจ" และ กฎหมายเป็น "แหล่งการจำกัดอำนาจ" รัฐ เพื่อคุ้มครองสิทธิเสรีภาพจองประชาชน ภายใต้หลักนิติรัฐ
2.บุคลากรของรัฐ ในฐานะผู้มีอำนาจปกครองรัฐ หรือ เรียกว่า"ผู้ปกครอง" ใช้อำนาจปกครอง คือ อำนาจอธิปไตยในนามรัฐ บุคลากรของรัฐ แยก ได้ 3 ฝ่าย คือ บุคลากรของรัฐฝ่ายนิติบัญญัติ บุคลากรของรัฐฝ่ายบริหาร และบุคลากรของรัฐฝ่ายตุลาการ
สำหรับบุคลากรของรัฐที่ทำหน้าที่บริการสาธารณะ คือ บุคลากรของรัฐฝ่ายบริหารในฐานะฝ่ายปกครอง
อนึ่งบุคลากรของรัฐฝ่ายบริหาร มีอยู่ 2 สถานะ คือ ฝ่ายการเมือง กับบุคลากรของรัฐฝ่ายปกครอง
3.ทรัพย์สินของรัฐ ทรัพย์สินของรัฐ จะประกอบด้วย "อสังหาริมทรัพย์" และ "สังหาริมทรัพย์" เรียกว่า "ทรัพย์สินของแผ่นดิน"
ทรัพย์สินของรัฐที่จัดทำได้ประสิทธิภาพ มากที่ สุดคือ การมีงบประมาณ (เงิน) ในการขับเคลื่อนปกครองประเทศ
ดังนั้นสรุปได้ว่า รัฐจะจัดทำภารกิจ ทั้ง 2 ภารกิจได้สำเร็จจะต้องประกอบด้วยเครื่องมือของรัฐ 3 ส่วนที่ดีและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะ เครื่องมือที่เป็นมาตรการทางกฎหมาย เป็นเครื่องที่สำคัญเป็นทั้งแหล่งอำนาจและจำกัดอำนาจรัฐที่กระทบสิทธิเสรีภาพของประชาชน เป็นอย่างมาก กฎหมายจึงเป็นต้องเป็นกฎหมายที่ดีและเป็นธรรม โดยเฉพาะกฎหมายแม่บทซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศ ก็คือ "รัฐธรรมนูญ"
การขนส่งทางน้ำ คือ 在 การคมนาคมทางน้ำ - Facebook 的推薦與評價
ข่งขันทางเรือระหว่างประเทศได้ อันได้แก่ การขนส่งทางทะเลโดยเพิ่มศักยภาพของกองเรือไทย การเดินเรือ กิจการท่าเรือ กิจการอู่เรือ การผลิตบุคลากร ด้าน พาณิชย์นาวี ... ... <看更多>
การขนส่งทางน้ำ คือ 在 ศักยภาพการขนส่งทางเรือไทยในอาเซียน I EEC Focus 30-07-64 的推薦與評價
เปิดยุทธศาสตร์ การขนส่งทางน้ำ ไทย กับการจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติ เพื่อสร้างโอกาสและการได้เปรียบในอาเซียน พร้อมตามดูสถานการณ์ โควิด-19 ... ... <看更多>