ในอนาคต1-2ปี จากนี้
ถ้าเน้นofflineอย่างเดียวจะเหนื่อย
แต่ถ้าเน้นOnlineยังจะได้ไปต่อ
แต่ถ้าปรับตัวได้ไวด้วยจะมั่งคั่ง
(ต้องปรับให้ทัน)
A
-------
“ดี หรือ ไม่ดี”
“มันขึ้นอยู่กับว่าเราถามใคร”
เป็นคำจากนักการตลาดตะวันตกท่านนึง
พูดเอาไว้....
เช่น...
นิยามความสวย
บางคนเห็นรถคันนึงอาจจะบอกว่าสวย
แต่อีกคนเห็นรถคันเดียวกัน
"กลับบอกว่าไม่สวย"
บางคนเห็นที่เที่ยวที่นึงสวย
แต่อีกคนยืนอยู่ข้างกัน
"บอกว่าธรรมดา"
เช่นกันกับเรื่องเศรษฐกิจ
ถ้าคุณไปถามว่าเศรษฐกิจตอนนี้เป็นยังไง
คุณอาจจะเจอคำตอบหลายแบบ
ทั้งไม่ดีเลย /okนะ /หรือดีมากๆ
เรื่องนี้สอนอะไรเรา?
สำหรับผม
ในเรื่องเดียวกัน
คำตอบอาจจะขึ้นอยู่กับ
บริบท สถานการณ์ที่เค้ากำลังพบเจอ
ดี หรือ ไม่ดี
“มันขึ้นอยู่กับว่าเราถามใคร”
B
—
“แล้วในแง่การตลาดล่ะ”
หรือการตลาดOnline
“หรือในแง่การค้าขาย”
คิดว่าไง?
ถ้าเราไปถามว่า
เศรษฐกิจดีไหม?
(จริงไม่อยากใช้คำว่าเศรษฐกิจ
เพราะคำนี้มันกว้าง
คำตอบที่ได้อาจจะไม่ใช่แค่จาก
บริบท สถานการณ์ที่เค้ากำลังพบเจอ
แต่อาจจะมาจากสิ่งที่เค้าได้ยินเฉยๆก็ได้)
เปลี่ยนเป็นอันนี้ดีกว่า....
"ช่วงนี้ค้าขายดีไหม?"
คุณคิดว่าคำตอบจะเป็นยังไง?
แต่ละคนจะแตกต่างไหม?
พอเห็นภาพใช่ไหมครับ?
C
---
"ผมขยี้อีกนิดนึง"
ผมชอบค้นหา...
ผมได้ถามขายกระเป๋าในร้านในย่านนึง
เค้าพูดกับผมว่า
“ขายไม่ค่อยดีเลย
คนเดินน้อยมาก
ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดีคนระวังตัว
ไม่ใช้เงิน”
"ผมไม่ได้ตอบอะไร
เพราะเค้าไม่ได้ถามอะไรต่อ"
ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา
ผมได้เจอน้องคนนึงที่ขายกระเป๋าOnline
เค้าพูดกับผมว่า....
“ยอดดรอปพี่ช่วงนี้
แต่ก็ไปได้อยู่
ไม่คิดว่าจะเป็นเพราะเศรษฐกิจ
"เพราะของแบบนี้ขายกลุ่มคนมีเงิน"
น่าจะเป็นเพราะคู่แข่งเยอะด้วยมากกว่า
ไปไล่ดูมีเต็มเลยตอนนี้
"คนซื้อเลยลดลง แต่ยิงแอดสู้อยู่ "
แต่เดี๋ยวนี้
ลูกค้าก็เปลี่ยนไป
ชอบต่อเยอะ!
ชอบเอาแต่ละที่มาเทียบ”
แล้วไม่ลองออกมาแนะนำความรู้
หรือวิธีเลือกพวกนี้ล่ะ?(ผมถาม)
โอยไม่เอาอะ เขิลกล้องพี่
ขายแบบนี้แหละ
มันก็ยังไปได้อยู่
สู้เอาๆ(เค้าหัวเราะ)
"เช่นกันผมได้ตอบอะไรเค้า"
"เพราะเค้าไม่ได้ถามผมต่อ"
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ผมเจออีกคนที่ขายประเป๋า
เค้าพูดกับผมว่า
“ดีเลยช่วงนี้พี่"
"ของพวกนี้ขายได้ตลอดแหละ"
ผมถามต่อว่า...
แล้วคนขายแข่งมีเยอะขึ้นไหม?
เค้าตอบน่าจะเยอะนะพี่
"ไม่รู้ดิ ไม่ได้ไปสนใจเลย"
แล้วไม่มีลูกค้ามาต่อราคา
หรือบลัพแข่งเหรอคู่แข่งเยอะขึ้น
โอย....นานๆ จะมีมาทีพี่!
"แต่ส่วนใหญ่ลูกค้าตามมาจากแนะนำ"
มาจากคลิปในเพจ
ที่เราแชร์วิธีการดูต่างๆ
เค้าไม่ค่อยมาต่อนะ
เค้าก็รู้ใส่ใจ
เราบอกความจริงตอนทำคลิปตอนLive
ไม่เคยโกหก
ส่วนใหญ่ทักมาก็ซื้อเลยนะ
หรือให้หาให้หน่อย
เนี่ยตอนนี้มีorderรอเพียบเลย
ของพี่ด้วย
หาไม่ทัน!!!(เค้าหัวเราะ)
พวกเราได้อะไรจากเรื่องนี้บ้าง?
ทั้งๆที่เค้าขายของอย่างเดียวกันเลย
เวลาเดียวกัน ประเทศเดียวกัน
ที่กำลังซื้อยังมีอยู่เยอะ
1.ถ้าจากคำถามในคอลัมน์A
คงต้องบอกแบบเดิมว่า
“คำตอบว่าขายดีหรือไม่ดี
ขึ้นอยู่กับเราถามใคร”
แต่สิ่งที่ได้เพิ่มคือ...
2.เราควรถามตัวเองว่า
ปัจจุบัน
เวลาใครมาถามเรา
ว่าเศรษฐีกิจดีไหม หรือ ค้าขายดีไหม?
“จากสถานการณ์จริงของเราตอนนี้
เราอยู่ในโหมดไหน?”
“เราควรทำอะไรสักอย่างได้แล้ว
หรือถึงเวลาต้องปรับอะไรไหม?”
D
——
“เศรษฐกิจไม่ดี เงินก็ไม่เคยไหลออกไปนอกโลก”
นักธุรกิจคนนึงพูดกับผมไว้
แล้วก็พูดต่อว่า...
“แต่มันไปเข้ากระเป๋าใครล่ะ?”
“แล้วเหตุผลว่า
อะไรมันถึงลอยไปเข้ากระเป๋าเค้า”
ต่อจากเรื่องก่อนหน้า
ผมว่าประโยคนี้มันเป็นตอบที่
ให้ความหมายแบบคมชัด
E
—
“3 ยุค ใน 20ปี”
1.
สะดวกที่ไหน ประทับใจที่ไหน
2.
“ใครเข้าถึงลูกค้าได้มากกว่า”
“คนนั้นได้เปรียบ”
3.
“ใครๆก็เข้าถึงได้”
“แต่เค้าเลือกใคร?”
ไม่ต้องสนใจ
ไปอ่านข้างล่างต่อ
F
—
"ผมนึกถึงเรื่องJoke
เรื่องนึงขึ้นพอดีตอนเขียนอยู่ตอนนี้"
ถ้าสมมุติ
ผมไปถอนเงินออกมา
แล้วให้เงินคนกลุ่มนึงไป100ล้าน
เป็นกลุ่มที่บ้ากระเป๋า
ชอบกระเป๋าแบรนด์มาก
แล้วสมมุติมันมีแค่3ร้านนี้
“1.ถ้าเป็นสมัยก่อนสักปี2000”
ที่ยังไม่มีOnline
รายได้ก็คงเฉลี่ยๆกันไป
ได้มากได้น้อยคงขึ้นอยู่กับ
ใครเป็นคนที่จริงใจ มีลูกค้ารักมากกว่า
แนะนำดีกว่า
บริการดีกว่า มีserviceเหนือกว่า
หรือมีอะไรที่ทำให้ลูกค้าประทับ
และติดเค้า
“สะดวกที่ไหน ประทับใจที่ไหน
ก็ซื้อที่นั่น”
G
—
“2.ถ้าเป็น1-10ปีที่แล้วสักปี2010-2018”
เป็นยุคที่มีonlineใหม่ๆ
"เริ่มเห็นความแตกต่าง"
พฤติกรรมคนเริ่มเปลี่ยน
ระยะทางไม่ใช่ข้อจำกัด
ความไกล
"ไม่ใช่ประด็นที่สำคัญมาก"
"แต่ความเชื่อใจได้ ไว้ใจได้
ยังเป็นประเด็นหลัก"
แต่ความสะดวก
ความเข้าถึงง่าย
"เริ่มเข้ามามีอิทธิพล"
ใครเข้าถึงคนได้เยอะกว่า
"คนนั้นได้เปรียบ"
ถ้าเทียบให้เห็นชัดๆ...
แบ่งเป็นร้านที่ขายofflineอย่างเดียว
กับร้านที่ขายonline
ยอดขายอาจจะเฉลี่ยๆในช่วงแรก
เพราะความน่าเชื่อถือ
การมีหน้าร้าน
สำหรับคนยุคก่อนยังรู้สึกสำคัญ
"ยังมีความกลัวการซื้อOnline"
แต่เมื่อคนเริ่มชินกับการใช้Onlineซื้อของแล้ว
"คนเริ่มไม่แคร์ว่าจะมีหน้าร้าน"
"ความมั่นใจของลูกค้า
ไม่ได้จากการมีหน้าร้าน
แต่ได้จากคนพูดถึงร้านนี้ว่ายังไง?
คนเริ่มสน รีวิว จากคนเคยซื้อจริง
มากกว่าที่จะสนว่า
ร้านนี้มันอยู่ที่ไหน"
ช่วงนี้.....
"เงินจะเริ่มเทไปร้านที่2ที่ทำOnline
แบบก้าวกระโดด
เพราะขายกับคนทั้งประเทศ
"เข้าถึงคนได้ทั้งประเทศ"
ตอนนี้ร้านแรกจะเริ่มพูดว่า
“เศรษฐกิจไม่ดี”
หรือ
“ยอดลดลง”
ความประทับใจ
ความมีหน้าร้านที่น่าเชื่อถือ(เพียงอย่างเดียว)
โดนรบกวน...
ด้วยความสะดวก(ที่เป็นปัจจัยใหม่)
แล้วความน่าเชื่อถือแบบยุคใหม่
ที่ไม่ได้มองหน้าร้านเป็นความน่าเชื่อถือแรกๆ
"แต่มองถึงเสียงใช้จริงอย่างรีวิว "
และพฤติกรรมมนุษย์ที่เปลี่ยนไปถาวร
คนไม่ได้มีแค่ชีวิตโลกที่เจอหน้ากัน
แต่คนมีชีวิตอีกด้านบนOnlineด้วย
และเวลาOnlineของแต่ละคน
เริ่มเยอะขึ้น
จนใกล้เคียงหรือมากกว่าชีวิตพบหน้า
จนแบ่งไม่ถูก
จนมันกลายเป็นชีวิตจริงๆ
"เป็นเทรนด์การใช้ชีวิตของคนในยุค"
พอนานเข้าๆ
เงินจากร้าน1ยิ่งวิ่งเข้าหาร้านที่2มากขึ้น
จาก50%-50%
เป็น40-60
เป็น30-70
20-80
จน10-90
เหลือแต่ลูกค้าผู้ซื้อดั้งเดิมที่
ยังรักร้านผูกพันธ์
หรือคนซื้อที่ยังไม่ชอบปรับตัว
"ชอบซื้อแบบเจอตัวแบบเดิม"
ยุคนี้....
ร้านที่1offlineที่ยังไม่ปรับ
เริ่มอยู่ลำบากขึ้นทุกปี
"ทั้งลูกค้าที่น้อยลง"
"และความมีหน้าร้านที่
มีต้นทุนค่าใช้จ่ายมากกว่า"
ร้าน2 ที่ ขายOffline
"ขายดี ไปต่อได้สบายๆ"
“ข้อคิด...”
ลองคิดดดูว่า10ครั้งล่าสุด
ที่คุณซื้อขอonline
ไม่ว่าจะจากเพจ ig หรือ Lazada Shopee
มีกี่ร้านที่คุณตัดสินใจซื้อโดยไม่ได้ดูว่า
ร้านนั้นมีหน้าร้านอยู่ที่ไหน
หรือมีหน้าร้านจริงๆไหม?
นั่นแหละคำตอบของคนส่วนใหญ่เช่นกัน
“Online เริ่มเข้ามาTake Over”
H
——
3. ถ้าเป็นประมาณ2017-202X(ยุคตั้งแต่ปัจจุบัน)
“เป็นยุคที่online ตั้งหลักได้แล้วระยะหนึ่ง”
จะเริ่มเห็นธุรกิจที่ทำofflineอย่างเดียว
ที่ไม่ได้เป็นธุรกิจที่แตกต่างจริงๆ
ไม่Uniqจริงๆ
ไม่เด่นจริงๆ
หรือเป็นธุรกิจเฉพาะจริงๆ
ที่ใครก็แข่งไม่ได้
“จะอยู่ไม่ได้ในยุคนี้”(แบบเห็นได้ชัด)
ด้วยต้นทุนที่สูงกว่า
การเข้าถึงคนที่น้อยกว่า
หากสิ่งที่คุณทำมันถูกรบกวนจากOnlineได้
แบบร้านแรก
จะเป็นยุคที่อยู่ยากมาก
“หากไม่ปรับตัว”
“offlineจะเหนื่อย
“โดนเพราะโดน Online Take Over”
i
———
“ตลาดเปลี่ยน แต่พฤติกรรมคนก็เปลี่ยนตาม”
“เงินประมาณ 90% ขึ้นไปจะอยู่บนOnline”
"สำหรับกรณีกับ3ร้านกระเป๋า"
ร้านแรกofflineล้วนจะเหนื่อย!
"2ร้านที่ทำOnlineจะไปต่อได้ในอนาคต"
แต่.....
"ต้องไม่ลืมว่าพฤติกรรมคนก็เปลี่ยนตาม"
การที่คนหันมาใช้เงินบนโลกOnline
นั้นมีข้อดีทั้ง สะดวก เข้าถึงง่าย
ไม่ต้องเดินทาง
และมีรีวิวเชื่อใจได้
มันดีกับเค้า
แต่ในข้อดี
เมื่อเวลาผ่านไป
“มันมักจะกลายเป็นแค่มาตรฐานนึง”
เรื่อง
สะดวก เข้าถึงง่าย
ไม่ต้องเดินทาง มีรีวิว
พวกนี้
“มันจะกลายเป็นแค่มาตรฐาน”
“ที่ใครๆก็มี”
"ใครๆก็ทำกัน ไม่แตกต่างอีก"
J
———
“Ofline จากไป”
“Online แข่งกันเอง”
เพราะฉะนั้น
ช่วงแรก online(แบบร้านที่2)
ทำให้ofline(แบบร้านที่1)อยู่ลำบาก
และเมื่อคนเข้าใจ
คนรู้ดีว่าฉันต้องมาทำ
"การตลาดOnline(แบบร้านที่2)"
"คราวนี้ข้อดีทุกอย่าง
ที่เคยเป็นข้อดี....
พอคนชินเคยสะดวก เขาถึงง่าย
ไม่ต้องเดินทาง
มันก็กลายเป็นมาตฐานที่ใครๆก็มี"
Online(แบบร้านที่2)
มีเต็มไปหมด
แล้วยังไง?
Online(แบบร้านที่2)
“มันก็ต้องแข่งกันเองไง”
“ร้านกระเป๋าร้านที่2ก็เลยยอดตกลง”
“เพราะเงินมันก็ได้กลับมาเฉลี่ยกันอีกครั้งนึง”
K
--------
“โจทย์เปลี่ยนอีกครั้ง”
“คนซื้อ
ไม่ใช่แค่
ใครๆก็เข้าถึงเค้าได้”
“แต่เค้าอยากเลือกใคร?”
การตลาดแบบ
แค่เราเข้าถึงเค้าได้
มันไม่พออีกแล้ว
“ในโลกการตลาดยุคใหม่ที่จะเกิดขึ้นต่อไป"
"ในอนาคตใกล้ๆจะเป็นช่วงเปลี่ยนถ่ายอีกครั้ง"
แต่ทุกการเปลี่ยนแปลง
ทกเทรนด์
จะมีคนได้ไปก่อน
และจะมีคนตกขบวนเสมอ
อย่างในยุคนี้
เป็นช่วงเปลี่ยนถ่าย
"อาจจะยังชะล่าใจอยู่
เพราะยังขายได้ดี
ยอดตกก็ยิงแอดเอา
เหมือนร้านที่2"
แล้วแอดก็แพงขึ้นๆ
เพราะแข่งกันเยอะ
ตัดราคากันเยอะขึ้น
ก็ยิงแอดสู้
แต่วันนึงก็จะถึงจุดที่
ค่าแอดไม่คุ้มกับการลงทุน
มันก็จะเริ่มแข่งกันแบบ
สมัยofflineรุ่นพ่อรุ่นแม่เราเหมือนดิม
“โจทย์เปลี่ยนอีกครั้ง”
“คนซื้อ
ไม่ใช่แค่
ใครๆก็เข้าถึงเค้าได้”
“แต่เค้าอยากเลือกใคร?”
L
------
"ตัวช่วยคุณ"
“Product4Level”
ช่วง2สัปดาห์นี้
“ผมพูดประเด็นเรื่องการแก้ปัญหาจุดนี้”
ถึง.....
Product4Level(ที่ผมเขียนไปวันก่อนใครดูแล้วอ่านผ่านๆ)
(ใครที่อยากซ้ำไปย้อนดูได้)
Product Levelที่1 -
Productที่เหมือนกันๆ(ต้องแข่งราคาอย่างเดียว)
ProductLevelที่2-
Productที่ยังไม่เคยมีใครเคยทำมาก่อน(แตกต่างชัดเจน)
Product Levelที่3
-Product ที่เรามีserviceที่เหนือกว่า
(ของอาจเหมือนกัน
แต่ยังไม่มีใครเซิร์ฟบริการลูกค้าได้แบบนี้)
Product Levelที่4
-Product ที่แตกต่างที่ประสบการณ์
(ของอาจคล้ายกัน แต่ลูกค้าเลือกเพราะประสบการณ์ที่เค้าได้รับ)
“จำ4Level นี้ให้ขึ้นใจ”
“ถ้าคุณขายทำการตลาดOnlineอยู่”
“คุณต้องพัฒนาสินค้า
หรือบริการของคุณ
ให้เป็นLevel2,3,4ให้ได้
เพราะเมื่อคุณแตกต่าง
คุณจะเป็นวัวสีม่วง(ผมพูดในบทความก่อน)
“คุณจะไม่มีผลกระทบ”
“คุณจะเป็นคนที่ได้ไปต่อ
และมั่งคั่งพลิกยกระดับชีวิตได้อีกในยุคนี้”
“จงพัฒนาเรื่องProduct Level”
M
—————
"อีกตัวช่วย"
“ธุรกิจที่มีความสัมพันธ์กับผู้คนจะอยู่ได้”
"The Most Human Company Wins"
5ปีก่อนผมได้รู้ว่า...
มันจะมีอีกสิ่งนึงที่ช่วยได้
และผมเห็นสัญญาณCEOใหญ่ๆ
ออกมามีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน
ผมเห็นแบรนด์เล็กในต่างประเทศ
ก็ทำ
แล้วคนตัดสินใจง่ายขึ้น
แล้วผมเห็นการเติบโตก้าวกระโดด
ผมเตือนเรื่องนี้
ในหน้าเพจ
ว่าการที่คุณเอาตัวออกมา
แชร์สิ่งที่คุณขาย
ให้ความรู้/หรือสนุก/แตกต่าง
จะเปิดโอกาสให้คนเปิดใจกับคุณ
เลือกคุณได้ง่ายกว่า
คุณจะได้เปรียบคนอีก100 หรือ1,000คน
ที่ขายสิ่งเดียวกับคุณ
ซึ่งตลอด5มีพี่น้องหน้าเพจเราที่เริ่มทำ
กลายเป็นเศรษฐียุคใหม่
พลิกชีวิตได้
ยกระดับฐานะตัวเอง
จาก"The Most Human Company Wins"
จากการออกมาแตกต่าง
(จริงๆตัวผมก็เป็นผลลัพธ์จากเรื่องนี้เช่นกัน)
ซึ่งมาตรงConcept
กับร้านกระเป๋าร้านที่3
"ที่เค้าโดดเด่นออกมา
จากทุกคน"
ในขณะที่ทุกร้านดีเหมือนกัน
จนแยกไม่ออก
"พอแยกไม่ออกมันคือธรรมดา"
“เค้ากลับทำคลิปให้วิธีการเลือก”
“รุ่นที่ควรสะสม”
“เทคนิคต่างๆ”
คนสะดุด
คนใช้เวลาแช่กับเค้ามีความผูกพันได้นานกว่า
ดึงสายตาจากคนได้มากกว่านานกว่า
"โอกาสก็มากกว่า"
N
-----
รวมเรื่องProduct 4 Level
กับ
เรื่อง
“ธุรกิจที่มีความสัมพันธ์กับผู้คนจะอยู่ได้”
"The Most Human Company Wins"
เป็นสิ่งที่แยกความแตกต่างของเรา
จากผู้ขายคนอื่นๆ
“คนซื้อ
ไม่ใช่แค่
ใครๆก็เข้าถึงเค้าได้”
“แต่เค้าอยากเลือกใคร?”
“โจทย์แห่งการทำการตลาดยุคใหม่
เลยเปลี่ยนอีกครั้ง”
O
-------
“ย้อนกลับไปที่เรื่อง3 ยุค...
1.Offline
2.Online
3.Onlineยุคใหม่
คำถามคือ
คุณทำการตลาดแบบยุคไหนอยู่?
เศรษฐกิจคุณดีอยู่ไหม?
คุณขายดีอยู่ไหม?
อย่างที่พูดตั้งแต่คอลัมน์A
คำตอบแต่ละคนย่อมแตกต่างกัน
"มันควรจะปรับเร่งด่วนเลยตอนนี้"
หรือ
"ควรจะเริ่มปรับก่อนล่วงหน้าก่อนที่มันจะไม่ทัน"
หรือบางคนมองกาลไกลปรับตั้งแต่วันนี้
"เพื่อเป็นคนแรกๆเพื่อโอกาสที่มากกว่า"
หรือไม่ต้องปรับ รอให้สถานการณ์
"มันบังคับ"
แต่ผมเชื่อคนที่ลงทุนใช้เวลาอ่านอะไรแบบนี้
กับผมทุกวัน ไม่ใช่คนแบบนั้น
P
————
"ในอนาคต1-2ปี จากนี้"
"ถ้าเน้นofflineอย่างเดียวจะเหนื่อย"
"แต่ถ้าเน้นOnlineยังจะได้ไปต่อ"
"แต่ถ้าปรับตัวได้ไวด้วยจะมั่งคั่ง"
(ต้องปรับให้ทัน)
จบครับวันนี้
เป็นสารจากอนาคตอีกอันครับพี่ผมจี้ลึกลงไป
จริงๆ ณ ตอนนี้ยังถือว่าเป็นช่วงเริ่มต้น
มีคนทำแบบเข้าใจจริงยังไม่เยอะ
(เราเลยได้ข่าวลบบ่อยๆ)
ว่าขายไม่ดี ขายยาก
"ทั้งๆที่จริงๆ
มันมีตัวอย่างคนที่ขายแบบเดียวกัน
ที่ขายดี"
"เราต้องไม่หลงเชื่อภาพแบบนี้"
"แล้วทำให้เราชะลอ"
"แล้วให้มันมาเบรคความสำเร็จเรา"
และจริงที่โอกาสยังมีอีกเยอะมากครับ
และโดยส่วนตัวผมคิดว่า
น่าจะมากกว่าปีก่อนๆอีก
เพราะมันมีช่วยเยอะมากในยุคนี้
ทั้งเครื่องมือ สื่อ และการหาความรู้
ในการลงมือทำ
ใน1-2ปีนี้
เราจะยังเห็นคนสำเร็จที่รวยขึ้น
ชีวิตเปลี่ยนจากonline
หรือยกระดับชีวิตขึ้น
เป็นเศรษฐีหน้าใหม่
ให้เห็นกันอีกเยอะแน่นอน
แต่ก็อยู่ในเงื่อนไขของ
“การลงมือทำ
การปรับตัว
และตามให้ทันอยู่เสมอ”
จากบทเรียนในวันนี้ทั้งหมด
จำไว้ว่า....
“ความขยันไม่ได้ทำให้เรารวย”
“แต่ความขยันมันทำให้เราไม่อดตาย”
เพราะฉะนั้น
ความขยันต้องมีเป็นทุนก่อน
แต่สิ่งที่ต้องเติมเข้าไปคือ
"รู้เร็ว รู้ทัน ทำไว"
"และปรับตัวตลอดเวลา"
อวยพรให้ทุกคน
“เป็นกำลังใจให้ทุกคนเป็น1ในนั้นครับ”
และวันนี้ใครอ่านจบแล้ว
อย่าลืม
ทักทายกันหน่อยนะครับ^-
ลุย!
"Online Take Over!!!"
#A10(เอเท็น)
#iClassUniversity
#สังคมแห่งความเป็นไปได้
-----
Ps: สำหรับใครที่อยากเริ่มทำธุรกิจ Online
แต่ไม่รู้ว่า จะเริ่มยังไง
และทำยังไงให้ธุรกิจโต อย่างรวดเร็ว
ผมเพิ่งเปิดรับสมัคร
คลาสเรียนล่าสุด
"Online Take Over" ชนะทั้งตลาด ด้วย Online
เป็นคลาสเรียน Online
เรียนจากที่ไหนก็ได้
และสามารถถาม-ตอบผมได้สดๆ
ผ่าน Live
ตอนนี้เป็นราคาพิเศษ
เฉพาะแฟนเพจ เท่านั้น
รายละเอียดที่
http://bit.ly/36tiW1F
หรือ ทักไปที่ Line: @iClass
(ราคาพิเศษ เฉพาะช่วงเปิดตัว ช่วงนี้เท่านั้นครับ)
「การปรับตัว ในอนาคต」的推薦目錄:
- 關於การปรับตัว ในอนาคต 在 Aten Arnon: เอเท็น อานนท์ Prince of Marketing Facebook 的最讚貼文
- 關於การปรับตัว ในอนาคต 在 การปรับตัวในยุค DIGITAL TRANSFORMATION กับเทคโนโลยีที่ ... 的評價
- 關於การปรับตัว ในอนาคต 在 ทำไมต้องกลัว"เทคโนโลยี" - การปรับตัวให้ทันกับโลกในอนาคตที่กำลัง ... 的評價
- 關於การปรับตัว ในอนาคต 在 ในโลกอนาคต ไม่ว่าคุณจะเก่งแค่ไหน เคยประสบความสำเร็จมากขนาด ... 的評價
- 關於การปรับตัว ในอนาคต 在 การปรับตัวเพื่อเพิ่มขีดความสามารถและรองรับการเปลี่ยนแปลงใน ... 的評價
การปรับตัว ในอนาคต 在 ทำไมต้องกลัว"เทคโนโลยี" - การปรับตัวให้ทันกับโลกในอนาคตที่กำลัง ... 的推薦與評價
ทำไมต้องกลัว?#เทคโนโลยี#บทความสร้างแรงบันดาลใจ เนื้อหาและเรื่องราว ใน คลิปนี้ เป็นบทความที่เขียนและเรียบเรียง โดยผู้เป็นเจ้าของช่อง ... ... <看更多>
การปรับตัว ในอนาคต 在 ในโลกอนาคต ไม่ว่าคุณจะเก่งแค่ไหน เคยประสบความสำเร็จมากขนาด ... 的推薦與評價
เพราะโลกเปลี่ยน พฤติกรรมคนเปลี่ยน ธุรกิจจึงต้อง ปรับตัว เพื่อความอยู่รอด เทคโนโลยีไม่ใช่เรื่องไกลตัว SMEs ... ... <看更多>
การปรับตัว ในอนาคต 在 การปรับตัวในยุค DIGITAL TRANSFORMATION กับเทคโนโลยีที่ ... 的推薦與評價
ลงทุนแมนสัมภาษณ์ คุณโอม ศิวะดิตถ์ National Technology Officer ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) ใน หัวข้อ “ การปรับตัวใน ยุค DIGITAL TRANSFORMATION ... ... <看更多>