การโหลด น้ำ+อาหาร ก่อน หลัง ระหว่างวิ่ง
ยังคงเป็นเรื่องปริศนา ตรงนี้หมายความว่า ร่างกายของแต่ละคน ระบบย่อยอาหารไม่เหมือนกัน บางคนย่อยได้ดี ปัญหาอาจไม่ได้เยอะมาก บางคนย่อยดูดซึมไม่ดี เป็นลมเป็นแล้งตะคิวขึ้น ก็มีเห็นกันเยอะ
จากประสบการณ์อันน้อยนิดของผม ที่เคยผ่านการวิ่งเกิน 30 กิโลมา 2 ครั้ง
ปัญหาส่วนหนึ่ง นอกจากการซ้อมวิ่ง คือการโหลดน้ำและอาหาร ก็เมื่อในไม่รู้ อะไรที่เค้ากินกัน ก็หามากินบ้าง แต่สุดท้าย ท้องไม่ย่อยและดูดซึม ก็นำมาใช้การไม่ได้
จากครั้งแรกที่เคยวิ่งไกลที่สุด 32 กิโลไป ปัญหาที่เกิดคือช่วงแดดจัด อากาศร้อน ร่างกายขาดน้ำ เลยกินน้ำไปให้เยอะที่สุด ส่งผลให้จุก วิ่งไม่ออก คาร์โบไฮเดรตไม่พอ ตะคริวถามหา ตั้งแต่กิโล 23
วันนี้จึงทำการทดลอง ระหว่างที่ฝึกวิ่งยาว ฝึกการโหลดอาหารและน้ำไปในตัว
ก่อนออกวิ่ง ทานคาร์โบไฮเดรต มาม่าเกาหลีแห้ง + น้ำผลไม้ ก่อน 3 ชั่วโมง ยืดกล้ามเนื้ออย่างดี
ก่อนวิ่ง กล้วย 2 ใบ เกลือแร่
5 กิโลแรกยังไม่ได้โหลดน้ำ
ตั้งแต่กิโลที่ 5 ขึ้นไป จะโหลดน้ำทุกๆ 2.5 กิโล และเกลือแร่ทุกๆ 5 กิโล
ผลคือไม่จุก และไม่มีตะคิว แต่ก็มีความล้าสะสมบ้าง เนื่องจากซ้อมมาน้อย ไม่ค่อยได้ซ้อมวิ่งยาว ตรงนี้ต้องฝึกฝนต่อไป
หลังวิ่ง ทานอาหารตามปกติเน้นคาร์โบไฮเดรต ดื่มน้ำเยอะๆ
ลองเอาไปซ้อมโหลดกันนะครับ อาหารบางอย่างอาจไม่เหมาะกับเรา
อย่างเช่น เจล ผมทานเจล แล้วไม่ดูดซึม ไม่ค่อยได้ประโยชน์จากเจลเท่าที่ควรจะเป็น แต่ได้ผลดีกับเครื่องดืมเกลือแร่
เพราะฉะนั้น ก็ควรซ้อมโหลดอาหารก่อนแข่งวิ่งจริง จะได้รู้ปัญหาของตัวเรา และแก้ไขได้ทัน
เชื่อผมเถอะ แก้ไขตอนแข่ง ไม่สนุกหรอก ปัญหาเกิดเฉพาะหน้า ถ้าไม่มีประสบการณ์โดยตรง อาจจะวิ่งไม่จบ วิ่งไม่สนุกได้
ขอให้วิ่งสนุกกันทุกท่านครับ
Search