แอดมินขอวิชาการนิดนึงครับ
ตามที่มีผู้ทักท้วงมาหลายท่านต้องขออภัยแทนผู้พากย์ นะครับในช่วง บัวขาวชกครั้งที่ผ่านมา ว่า หนุมานแผลงศร
บัวขาวจะใช้ท่าร่ายรำท่าหนุมานแผลงศร
นั้นที่จริงทางบัวขาวใช้ท่าร่ายรำพระรามแผลงศร
ซึ่ง ท่าร่ายรำมวยไทยของบัวขาวนั้นมีที่มาที่ไปตามอย่างโบราณ ไม่ไช่คิดเองทำสนุกๆสวยๆ ฮาๆ โดยอาจจะดัดแปลงไปตามครูบาอาจารย์ที่สั่งสอนมาตามความเหมาะสม ดังนี้
บัวขาวยิงศรทั้ง3เล่ม โดยเล่มสุดท้ายนี้มีอนุภาพร้ายแรงมาก นั้นมีชื่อ ความสำคัญดังนี้
พระรามมีศร3เล่มเป็นอาวุธ
1. ศรพลายวาต
2. ศรอัคนิวาต
3. ศรพรหมมาสตร์
พรหมาสตร์ แปลว่า ศรแห่งพระพรหม เป็นศรที่พระพรหมสร้างขึ้น. ศรพรหมาสตร์เป็นศัตราวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง ไม่มีสิ่งใดต้านทานได้ ตามคัมภีร์ปุราณะ มีแต่ไม้เท้าพรหมทัณฑ์ของฤๅษีวสิษฐ์เท่านั้นที่จะต้านอำนาจของศรพรหมาสตร์ได้ ส่วนรามเกียรติ์ฉบับรัชกาลที่ ๑ ว่า ศรพรหมาสตร์สามารถล้างศรพรหมาสตร์ด้วยกันเองได้ ศรพรหมาสตร์นั้นเมื่อแผลงออก ก็เกิดเสียงสะเทือนเลื่อนลั่น [ผู้ใช้ศรสามารถบังคับให้แล่นไปสังหารศัตรูได้ดังใจแม้จะไม่เห็นกายศัตรูก็ตาม และยังอาจ]บันดาลเป็นลูกศร[หรือศัตราวุธนานาชนิด]กลาดเกลื่อนเต็มท้องฟ้าและพุ่งอย่างรวดเร็วไปพิฆาตหมู่ศัตรู ในรามเกียรติ์ฉบับรัชกาลที่ ๑ กล่าวถึง ศรพรหมาสตร์ที่อินทรชิตแผลงไป ดังนี้
"จึ่งจับพรหมาสตร์ขึ้นพาดสาย หมายองค์พระลักษณ์รังสรรค์
หน่วงน้าวเหนือคอเอราวัณ กุมภัณฑ์ก็ผาดแผลงไป
บันดาลเป็นศรเกลื่อนกลาด ทำอำนาจพ่างพื้นแผ่นดินไหว"
ในรามเกียรติ์อสูรสำคัญ เช่น กุมภกรรณ อินทรชิต และทศกัณฐ์ ต้องสิ้นชีวิตลงเพราะศรพรหมาสตร์ของพระราม
พระราม (เทวนาครี: राम รามะ) เป็นตัวละครเอกในเรื่องรามเกียรติ์ ตามตำนาน เล่าว่าพระรามเป็นปางที่ 7 ของพระนารายณ์หรือพระวิษณุ (รามาวตารหรือรามจันทราวตาร) อวตารลงมาเป็นโอรสท้าวท ศรถ และพระนางเกาสุริยา มีพระวรกายเป็นสีเขียว ทรงธนูเป็นอาวุธ มีศรวิเศษสามเล่มคือ ศรพรหมมาตร ศรอัคนิวาต และศรพลายวาต เวลาสำแดงอิทธิฤทธิ์จะปรากฏเป็น 4 มือ ทรงเทพอาวุธ ตรี คฑา จักร สังข์
การร่ายรำท่าพระรามแผลงศร
เป็นการร่ายรำที่สวยงามท่าหนึ่งที่เป็นท่ายืน ก่อนการร่ายรำท่าพระรามแผลงศร
ใหัเริ่มต้นการไหว้ครู ตั้งแต่ท่านั่งเทพพนม ตามลำดับจนถึงท่าเทพนิมิตร
ท่าพระรามแผลงศรมักจะ นิยมร่ายรำเพียงทิศเดียว คือหันหน้าไปทางทิศของคู่ต่อสู้
จังหวะที่ ๑ หมุนตัวไปทิศเบื้องขวาไหว้พระพรหมทิศ เบี้องขวา ๑ ครั้ง
จังหวะที่ ๒ ก้าวเท้าซ้ายไปข้างหน้า ๑ ก้าว พร้อม
กับชูแขนทั้งสองข้างในลักษณะคล้ายจับคันศร ด้วยมือซ้าย
จังหวะที่ ๓ มือขวาเอื้อมมาด้านหลังทำท่าลักษณะ หยิบลูกศรบริเวณต้นคอ
มาพาดคันศร แล้วน้าวสาย ศรมาด้านหลัง ๒ - ๓ ครั้ง ทำท่าน้าวศรครั้งที่ไม่
ปล่อยศร ค่อยๆ เลื่อนมือขวา ตามมแรงดึงของคัน ศรน้าวศรครั้งที่ ๒ ก็ไม่ปล่อยศร
พอน้าวศรครั้งที่๓ ทำลักษณะยกคันศรสูง ระดับหูตัวยืนนิ่งสายตามอง
เล็งไปที่เป้าหมายแล้วปล่อยศรโดยบิดมือขวาขึ้น
จังหวะที่๔ เมื่อปล่อยลูกศรออกไปแล้วเท้าขวา ลงพื้น
แล้วยกขาซ้ายงอขึ้นด้านหน้า พรัอมกับ ทำท่ายกมีอเหนือหน้าผาก
ตามองตามลูกศรไปคล้าย
กับดูว่าลูกศรจะถูกที่หมายหรือ ไม่หากไม่ถูกให้ส่าย หน้าถ้าถูกให้ผงกศีรษะ
สีหน้าแสดงความยินดี
จังหวะที่๕ ให้เสกคาถา เช่น นะจังงัง ๓ จบ และใชัเท้ากระทืบพื้น ๓ ครั้ง
จังหวะที่๖ ย่างสามขุมเข้ามุมของตนแล้วโค้งคำนับให้คู่ต่อสู้ ๑ ครั้ง
เป็นจบกระบวนท่า.
Search