ลงทุนแมน X บ้านปู
หุ้นกู้ ‘บ้านปู’ เรทติ้ง A+ ดอกเบี้ย [2.90-4.00]% ต่อปี
โอกาสลงทุนกับผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลายในระดับนานาชาติ
บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU ผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลายในระดับนานาชาติ เตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ฯให้กับผู้ลงทุนทั่วไป จำนวน 3 รุ่น เสนอขายผ่านสถาบันการเงิน 4 แห่ง ซึ่งจะประกาศวันจองซื้อเร็วๆ นี้ โดยหุ้นกู้แต่ละรุ่น มีอัตราดอกเบี้ยตามรายละเอียดดังนี้
อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยระหว่าง [2.90-3.10]% ต่อปี
อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยระหว่าง [3.20-3.50]% ต่อปี และ
อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยระหว่าง [3.70-4.00]% ต่อปี
บ้านปูและหุ้นกู้ฯ ได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ A+ แนวโน้ม “คงที่” จากทริสเรทติ้ง เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2564 สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม และมีศักยภาพในการขยายธุรกิจในอนาคต
บ้านปูก่อตั้งขึ้นในปี 2526 และ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2532 ปัจจุบัน บ้านปูได้เข้าดำเนินธุรกิจด้านพลังงานครบวงจรครอบคลุม 10 ประเทศทั่วโลก ได้แก่ ประเทศไทย สาธารณรัฐอินโดนีเซีย สาธารณรัฐประชาชนจีน ออสเตรเลีย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มองโกเลีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม
บ้านปูเดินหน้าสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืนเพื่อให้สอดคล้องกับเทรนด์สิ่งแวดล้อมโลก ผ่านกลยุทธ์ Greener & Smarter ที่มุ่งสู่การใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือดิจิทัลที่ทันสมัยเพื่อเปลี่ยนผ่านธุรกิจพลังงานในปัจจุบันสู่พลังงานสะอาดแห่งโลกอนาคต โดยมีเป้าหมายในการสร้างพลังงานที่ยั่งยืนให้กับโลก และสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว
แผนธุรกิจ 5 ปีนับจากปี 2564-2568 ของบ้านปู จะช่วยเร่งกระบวนการเปลี่ยนผ่านไปสู่พอร์ตพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีพลังงานที่สอดคล้องกับเทรนด์พลังงานสะอาดในอนาคตได้รวดเร็วและยั่งยืนมากยิ่งขึ้น ตามกลยุทธ์ Greener & Smarter เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานและคว้าโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ และต่อยอดจากธุรกิจพลังงานในปัจจุบันที่บ้านปูมีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว โดยสร้างการเติบโตจาก 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ดังนี้
กลุ่มธุรกิจแหล่งพลังงาน ประกอบด้วย ถ่านหินและก๊าซธรรมชาติ รวมถึงงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การตลาด การค้า โลจิสติกส์ การจัดหาเชื้อเพลิง และสายส่ง โดยบ้านปูจะมองหาโอกาสการลงทุนใหม่ๆ เพื่อต่อยอดธุรกิจและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับห่วงโซ่คุณค่าหรือ Value Chain ของบ้านปู โดยมุ่งเน้นไปที่ก๊าซธรรมชาติที่เป็นแหล่งพลังงานที่สะอาดมากขึ้นและมีความต้องการใช้ที่เพิ่มสูงขึ้น
กลุ่มธุรกิจผลิตพลังงาน ครอบคลุมโรงไฟฟ้าจากพลังงานเชื้อเพลิงทั่วไป และจากพลังงานหมุนเวียน โดยบ้านปูจะมุ่งเน้นการลงทุนเพิ่มเติมในโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน และขยายการลงทุนไปสู่ตลาดใหม่ๆ ที่มีศักยภาพสูง เช่นในสหรัฐอเมริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน ประกอบด้วยธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาและทุ่นลอยน้ำ ธุรกิจจัดเก็บพลังงาน ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า ธุรกิจพัฒนาชุมชนอัจฉริยะ และธุรกิจแพลตฟอร์มการซื้อขายไฟฟ้า โดยบ้านปูจะมุ่งเน้นไปที่การขยายระบบนิเวศของธุรกิจพลังงานที่เป็นธุรกิจเดิมของบ้านปู และต่อยอดสู่ธุรกิจใหม่ๆ ที่เป็นเทรนด์พลังงานแห่งอนาคต เพื่อเร่งสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ทั้งการพัฒนาโซลูชันและขยายการให้บริการที่ตอบโจทย์ลูกค้ายุค New Normal อย่างต่อเนื่อง
จากความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ตลอดจนการเล็งเห็นถึงความสำคัญของพลังงานสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม บ้านปูได้ตั้งเป้าขยายการผลิตพลังงานไฟฟ้าในหลายรูปแบบเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน สู่เป้าหมายกำลังการผลิต 6,100 เมกะวัตต์ภายในปี 2568 ล่าสุดเมื่อต้นเดือนมิถุนายน 2564 บ้านปูได้เข้าซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่ที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว 2 แห่ง ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ (New South Wales) ประเทศออสเตรเลีย มีกำลังการผลิตรวม 166.8 เมกะวัตต์ และมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวกับผู้รับซื้อที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในกลุ่มน่าลงทุน สะท้อนถึงกระแสเงินสดที่มั่นคงในระยะยาว ดันกำลังผลิตพลังงานหมุนเวียนแตะ 1,073 เมกะวัตต์
โดยบ้านปู มีพันธมิตรทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ที่จะมาร่วมขับเคลื่อนเจตนารมณ์ในการสร้างความมั่นคงในการส่งมอบกระแสไฟฟ้า เพื่อประโยชน์ต่อการพัฒนาชุมชน เศรษฐกิจ และสังคม ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม การสร้างสมดุลระหว่างปริมาณการผลิตและความต้องการใช้พลังงาน รวมทั้งสร้างรากฐานสู่การใช้พลังงานอย่างยั่งยืนในอนาคต
ด้วยความมุ่งมั่นทุ่มเทในการดำเนินธุรกิจและเป้าหมายในการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) ความรับผิดชอบต่อสังคม (Social) และการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Governance) หรือ ESG ที่เป็นรูปธรรมตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านปู ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในผู้นำด้านความยั่งยืนจากองค์กรชั้นนำทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ เช่น การได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิกในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices: DJSI) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7, การคว้าตำแหน่ง “Gold Class” ในกลุ่มอุตสาหกรรม Coal & Consumable Fuels จากการประกาศผลรางวัล SAM Sustainability Award 2021 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7, ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในระดับ A (ตามเกณฑ์วัด AAA ถึง CCC) ในการประเมินความยั่งยืน ESG Rating จาก MSCI ปี 2562, ได้รับคัดเลือกเป็นหนึ่งในรายชื่อหุ้นยั่งยืน (Thailand Sustainability Investment) หรือ THSI ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, ได้รับการจัดอันดับดำเนินธุรกิจตามหลักบรรษัทภิบาลในระดับดีเลิศ จากผลสำรวจการกำกับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียนไทย ประจำปี 2563 และตอกย้ำความยั่งยืนระดับนานาชาติด้วย รางวัล Asia’s Best SDG Reporting ระดับ Silver เป็นครั้งแรกจากเวที Asia Sustainability Reporting Awards (ASRA) ครั้งที่ 6 ประจำปี 2020 ซึ่งเป็นรางวัลระดับนานาชาติสำหรับการจัดทำรายงานเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์กร
ด้านผลประกอบการของบ้านปู ในไตรมาสที่ 1 ปี 2564 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 51 ล้านเหรียญสหรัฐ (เทียบเท่า 1,543 ล้านบาท) โดยมีรายได้จากการขายจำนวน 736 ล้านเหรียญสหรัฐ (เทียบเท่า 22,269 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 102 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดอยู่ที่ 936 ล้านเหรียญสหรัฐ (เทียบเท่า 29,336 ล้านบาท) และ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 มีสินทรัพย์รวมจำนวน 9,628 ล้านเหรียญสหรัฐ (เทียบเท่า 301,728 ล้านบาท) มีหนี้สินรวมจำนวน 6,781 ล้านเหรียญสหรัฐ (เทียบเท่า 212,510 ล้านบาท) ซึ่งฐานะการเงินดังกล่าวนี้แสดงถึงการเติบโตได้แม้ในภาวะที่เศรษฐกิจโดยรวมไม่เอื้ออำนวย และยังมีความแข็งแกร่งทางการเงินที่สามารถรองรับความผันผวนที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้อีกด้วย
โดยบ้านปูอยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนกับสำนักงาน ก.ล.ต. ผู้ที่สนใจลงทุนหุ้นกู้ฯ ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่สูงระดับ A+ โดยทริสเรทติ้ง ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่จ่ายให้ผู้ถือหุ้นกู้อย่างสม่ำเสมอทุกๆ 6 เดือน สามารถจองซื้อขั้นต่ำที่ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท ติดต่อสอบถามผ่านสถาบันการเงิน 4 แห่งนี้ได้เลย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ยกเว้นสาขาไมโคร โทร. 1333
ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-111-1111
ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-626-7777
บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) (ซึ่งรวมถึงธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขาย) โทร. 02-165-5555
และด้วยสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของโควิด 19 ผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อผ่านระบบออนไลน์หรือแอปพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ หรือกรณีจองซื้อผ่านบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) สามารถจองซื้อหุ้นกู้ผ่านทางโทรศัพท์บันทึกเสียงโดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปที่สาขาของสถาบันการเงินทั้ง 4 แห่ง ถือเป็นความสะดวกให้กับผู้ลงทุนในยุค new normal ที่แท้จริง
คำเตือน:
1.โปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวนก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถศึกษารายละเอียดได้จากแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนที่ www.sec.or.th
2. ตลาดตราสารหนี้ในประเทศไทยมีสภาพคล่องต่ำ การขายตราสารในตลาดรองนั้นอาจได้รับมูลค่าขายตราสารลดลง หรือเพิ่มขึ้นได้ โดยขึ้นอยู่กับสภาวะและความต้องการของตลาดในขณะนั้น
3. การจัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้เป็นเพียงข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนเท่านั้น มิใช่สิ่งชี้นำการซื้อขายหุ้นกู้ที่เสนอขาย และไม่ได้รับประกันความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ออกหุ้นกู้
หมายเหตุ:
บริษัทฯ อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งยังไม่มีผลใช้บังคับ การจัดสรรหุ้นกู้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ เงื่อนไขการจัดจำหน่ายเป็นไปตามที่กำหนดในร่างหนังสือชี้ชวน
「ความรับผิดชอบต่อสังคม」的推薦目錄:
- 關於ความรับผิดชอบต่อสังคม 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
- 關於ความรับผิดชอบต่อสังคม 在 Facebook 的精選貼文
- 關於ความรับผิดชอบต่อสังคม 在 อวยไส้แตกแหกไส้ฉีก Facebook 的最讚貼文
- 關於ความรับผิดชอบต่อสังคม 在 โครงการความรับผิดชอบต่อสังคม 的評價
- 關於ความรับผิดชอบต่อสังคม 在 ความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR, Corporate Social Responsibility) 的評價
ความรับผิดชอบต่อสังคม 在 Facebook 的精選貼文
คนเยอรมันกับการบริโภคที่มี "ความรับผิดชอบ"
บทความนี้ได้แรงบันดาลใจจากการที่พ่อบ้านเข้าไปชม Live สดของคุณครูลูกกอล์ฟ LG and Friends ที่เค้าได้ถกกันในเรื่องของ Food literacy ซึ่งตามความหมายที่พ่อบ้านเข้าใจก็คือ
"การบริโภคด้วยความรู้และมีจริยธรรม ทั้งในแง่ของคุณค่าและโภชนาการ, แหล่งที่มา, และการจัดการอาหาร"
ซึ่งหัวข้อนี้ได้สะท้อนถึงคนเยอรมันไม่น้อยทีเดียว เพราะคุณเชื่อมั้ยครับว่าคนเยอรมันนั้นยินดีที่จะจ่ายเงินสูงขึ้นถ้า
1. สินค้านั้นปลอดสารพิษ (อันนี้พ่อบ้านคงไม่ต้องลงรายละเอียดเยอะ)
2. สินค้านั้นไม่มีส่วนในการทารุณกรรมสัตว์ อาทิ ไข่ไก่ของเยอรมันจะมีขายหลายประเภท ทั้งแบบเลี้ยงในฟาร์มปิด หรือจะเป็นแบบเลี้ยงโดยให้ไก่ได้เดินและวิ่งแบบอิสระ Freilandhaltung
3. สินค้าชนิดนั้นมีการรับซื้อด้วยราคาที่แฟร์ต่อผู้ผลิต อาทิ ชาวนาหรือชาวสวน ก่อนมาถึงมือผู้บริโภค
4. สินค้านั้นมีส่วนสนับสนุนเกษตรกรในท้องถิ่น หรือในประเทศ ซึ่งตอนนี้ก็เป็นเทรนที่กำลังฮิตมากๆ เพราะนอกจากจะทำให้เกษตกรท้องถิ่นอยู่รอดได้แล้วยังเป็นการลดอำนาจของการผูกขาดได้อีกด้วย
หรือถ้าสินค้านั้นไม่ได้สนับสนุนเกษตรกรท้องถิ่นแล้วสินค้าชนิดนั้นมีส่วนช่วยเหลือสังคมอย่างไร
5. สินค้าเหล่านั้นมีส่วนช่วยสนับสนุน การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมหรือต่อสู้กับภาวะโลกร้อนอย่างไร
ซึ่งสิ่งเหล่านี้นั้นคือปัจจัยนึงที่คนเยอรมันหลายๆ คนมักจะอ่านฉลากสินค้าแบบละเอียดมากๆ เหมือนอย่างเพื่อนพ่อบ้านเค้าจะดูว่า
"สินค้าชนิดนั้นมีประโยชน์อย่างไร แหล่งผลิตคือที่ไหน มีมาตรฐานอะไรรับรองหรือไม่ และมีการจัดการอย่างไร"
"ถึงแม้จะจ่ายแพงขึ้นก็ยอม"
ซึ่งข่าวดีก็คือด้วยความที่คนเยอรมันจำนวนมากนั้นต่างก็เล็งและมีความต้องการในสินค้าสินค้าเหล่านี้จึงทำให้กลายเป็นมาตรฐานของอุตสาหกรรมที่คุณสามารถเช็คดูจากฉลากได้โดยง่าย
และแน่นอนว่าถ้าความต้องการมากราคาของสินค้าบางชนิดก็ย่อมจะมีต้นทุนหรือราคาถูกลงเพราะเกิดจากการแข่งขันและปริมาณการสั่งซื้อ, จนทำให้เกษตรกรหรือบริษัทสามารถขายสินค้าได้มากขึ้นในราคาที่เหมาะสม
และยิ่งไปกว่านั้นด้วยแรงผลักดันของความต้องการของผู้บริโภคยังทำให้บริษัทต่างๆ และแบรนด์ต่างๆ ที่ต้องการทำตลาดในเยอรมันนั้นต่างก็จะต้องปรับตัวตามไปด้วย
ดังนั้นเราจะไม่แปลกใจเลยว่าเกษตรหรือบริษัทที่ปรับตัวไวและกันมาจับตลาด และคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อลูกค้าและสังคมจะกลายเป็นอาชีพและเป็นสิ่งที่ทำรายได้ดี จนบางคนนี่ถือว่ารวยและประสบความสำเร็จมากๆ
ซึ่งจะเห็นได้เลยว่าความรับผิดชอบและการเลือกสินค้าของผู้บริโภคนั้นมีอำนาจมากขนาดไหนจนสามารถทำให้ตลาดของเยอรมันนั้นปรับตัวจนทำให้สินค้าประเภทนี้มีอนาคตที่สดใสไม่น้อยเลยทีเดียว
ดังนั้นคุณก็อาจจะส่วนหนึ่งเป็นคนที่ช่วยสนับสนุนเรื่องนี้โดยการสนับสนุนผลิตภัณฑ์และสินค้าที่เกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบต่อสังคม และที่สำคัญก็คือดีต่อสุขภาพของตัวคุณเองด้วย
"เพียงแค่คุณ หยิบสิ่งที่คุณจะซื้อมาอ่านหรือสอบถามซักนิดก่อนที่จะจ่ายเงิน เพราะคุณมีสิทธิเลือกครับ"
#พ่อบ้านเยอรมัน #เยอรมนี #เยอรมัน #Germany #German #CSR #ความรับผิดชอบต่อสังคม #Sustainability
ความรับผิดชอบต่อสังคม 在 อวยไส้แตกแหกไส้ฉีก Facebook 的最讚貼文
บันทึกไว้ในประเทศไทย ณ วันที่สื่อกระหายแสงเสียจนเชิดชูผู้ต้องหาให้กลายเป็นไอดอล
.
มีคนบอกว่าสื่อสะท้อนคุณภาพประชาชน ผมเองก็ไม่ได้อยากเหมารวมอะไรอย่างนั้น ทุกๆครั้งที่ผมอ่านข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกคือความหดหู่ ผมไม่ได้ไปหดหู่อะไรกับข่าวอาชญากรรมหรอกครับ เพราะมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นโดยเราควบคุมไม่ได้ แต่ผมหดหู่กับคุณภาพของสื่อบ้านเรา คดีน้องชมพู่ เป็นคดีฆาตกรรม เด็กคนหนึ่งตายทั้งคน พ่อแม่และคนรอบข้างย่อมเสียใจ ประชาชนให้ความสนใจ แต่สื่อเลือกที่จะไปให้ความสำคัญกับร่างทรง ไปให้ความสนใจกับหมอผีหิวแสง ไปจนถึงเหล่าบรรดาคนหิวแสงก็ดาหน้าไปบ้านกกกอกเพื่อเกาะกระแสข่าว และก็มีตัวละครสำคัญชื่อ ลุงพล ปรากฏตัวขึ้นมา พร้อมกับแสงไฟก็พุ่งตรงไปหาลุงพลทันที!!
.
แก่นความดังของลุงพลที่คนให้ความสนใจในครั้งแรกคือ beauty privilege คือ ความหล่อ เพราะมีคนเอาภาพลุงพลสมัยหนุ่มๆมาให้สื่อลง และคนก็เฮกรูกันไปกรี๊ดว่าลุงพลหล่อ จากนั้นสื่อก็ตามลุงพล จนลุงพลได้ออกงาน มีนักปั้นมาดันมาหางานให้ลุงพล สื่อก็ทำข่าวลุงพล ลุงพลกินข้าว ลุงพลกินก๋วยเตี๋ยว ลุงพลทำอะไรก็ลงข่าว จนถึงขนาดมีคนแต่งเพลงให้กำลังใจลุงพล ลุงพลทำพิธีสาบานก็ลงข่าว มี youtuber ตามไปลงพื้นที่ สื่อไปเกาะตามถึงหน้าบ้าน เฝ้ากางเต๊นท์อยู่หน้าบ้านลุงพลเป็นเดือนๆปีๆ นักข่าวนำเสนอข่าวลุงพล คนอ่านข่าวก็อ่านข่าวลุงพลโดยอุทิศเวลาให้เบรคนึงไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมง ร เวลานั้น สื่อไม่กล้านำเสนอเลยว่าลุงพลมีพิรุธหรือมีความน่าสงสัยตรงไหน แต่เกือบทุกสื่อนำเสนอความน่ารักและนำเสนอลุงพลในแง่ความน่าเอ็นดู มีการเอาหมอเอานักจิตวิทยามีวิเคราะห์ภาษากายและบอกว่าลุงพลบริสุทธิ์ ตัดสินแทนไปเสร็จสรรพ จนลุงพลแทบจะกลายเป็นขวัญใจประชาชน มีแต่คนรักลุงพล จนลุงพลเหมือนเป็นผู้ถูกกระทำ
.
สื่อมวลชนไทยกระหายยอดไลค์ กระหายเอนเกจเมนต์จนเกินงาม นำเสนอแต่ข่าวที่ประชาชนอยากเห็น ไม่เคยคิดต่อยอดหรือตกตะกอนทางความคิดไม่เคยให้ประชาชนได้เรียนรู้ หรือสร้างองค์ความรู้อะไรให้กับประชาชนเลย ไม่เคยให้ประชาชนเรียนรู้ถึงจิตสำนึกทางการเมือง ไม่เคยให้ประชาชนรู้จักความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งที่สื่อต้องการมีแค่ยอดคนดู ยอดคนแชร์ Youtuber ก็อยากได้เอนเกจเมนต์ เพราะมันจะได้เอาตัวเลขไปเสนอขายเอเยนซี่มาลงโฆษณาได้
ทุกวันนี้มีคนบ่นว่า ข่าวอภิปรายงบประมาณของรัฐบาลถูกข่าวลุงพลกลบหมด ผมไม่ได้อยากโทษข่าวนะครับ เพราะถ้าสังคมเราให้คามสนใจกับเรื่องรัฐบาลจริงๆ โมเมนตัมมันจะไปที่ข่าวรัฐบาลเอง แต่เราต้องยอมรับว่าสื่อให้ความสำคัญกับข่าวที่คนอยากรู้มากกว่าข่าวที่ประชาชนควรรู้
.
ท่ามกลางกระแสที่เชี่ยวกราก สื่อขาดความกล้าหาญในการนำเสนอข้อเท็จจริงที่อาจจะขัดใจประชาชน เพราะกลัวประชาชน Unlike เพจ เพราะกลัวคนไปรุมเอาทัวร์มาลง สื่อทำหน้าที่ได้เพียงตามน้ำ นำเสนอข่าวที่ประชาชนอยากเห็น ลุงพล ณ เวลานั้นอาจจะเป็นเพียงผู้ต้องสงสัย แต่ก็มีคนพากันเชิดชู พากันเอาไปออกงาน เอาไปเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณา รับทรัพย์นี่ต่ำๆก็หลักสิบล้าน จนมีเงินไปต่อเติมบ้าน ซื้อที่ทางใหญ่โต มีบริษัท เห็นหน้าเห็นหลังในเวลาไม่ถึงปี นี่หรือคือสิ่งที่สื่อมอบให้กับผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรม ประชาชนเรียนรู้อะไร นอกจากมีความรู้สึกว่าฉันต้องการแสงบ้าง เพราะถ้ามีแสงก็จะมีเงินอาชีพใหม่ที่เกิดขึ้นคืออาชีพ Youtuber เฝ้าบ้านและตามลุงพล หลายๆคนมีรายได้เป็นกอบเป็นกำได้ทำหน้าที่สื่อไปด้วย แต่เป็นสื่อที่นำเสนอในสิ่งที่คนชอบใจและอยากเห็น แต่ไม่เคยนำเสนอข้อเท็จจริงได้ เอาจริงๆเราไปโทษ Youtuber ก็คงไม่ได้ เพราะพวกเค้าไม่ใช่สื่ออาชีพ
.
สำนักข่าว ทีวี กลับมาทบทวนบทบาทตัวเองได้หรือยังครับ เราสร้างบาดแผลให้กับสังคมมากขนาดไหน เราไปยกย่องผู้ต้องสงสัยให้กลายเป็นไอดอล แต่วันนี้ผู้ต้องสงสัยกลายมาเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับไปแล้ว คดีโดนบิดเบือนรูปคดีเพราะกระแสมหาชน จนทำให้เจ้าหน้าที่รัฐทำคดีด้วยความยากลำบากและล่าช้า อย่าคิดว่าสื่อไม่เกี่ยว เรื่องแบบี้นี้ ความรับผิดชอบต่อสังคม ต่อรูปคดี การไปลงพ้นที่มากมายมหาศาล นำฝูงชนเข้าไปในพื้นที่ มันจะมีผลต่อร่องลอยหลักฐานไหม ผมนึกสภาพไม่ออกเลย แต่ผมอยากจะบอกว่าคดีน้องชมพู่เละเทะและล่าช้าเป็นปี เราปฏิเสธไม่ได้หรอกครับว่ามาจากสื่อที่เข้าไปเล่นข่าวจนเละเทะขนาดนี้!!
.
ข่าวสะท้อนคุณภาพประชาชน เอาจริงๆนะ ถ้าประชาชนเรากระหายใคร่รู้ข่าวรัฐบาล ข่าวการเมืองมากกว่าข่าวชาวบ้าน โมเมนตัมของสื่อมันจะย้ายไปทำข่าวงบประมาณของรัฐบาลเอง ไม่เชื่อลองเอาเอนเกจเมนต์ข่าวลุงพลกับข่าวรัฐบาลมาเทียบสิ คนอ่านอะไรมากกว่ากัน ปัญหาอีกส่วนคือสื่อเองก็ค่อนข้างจะเพิกเฉยกับข่าวรัฐด้วย เพราะกลัวจะมีปัญหากับผู้ปกครองประเทศ รวมไปถึงเม็ดเงินโฆษณาจากผู้สนับสนุนที่บางครั้งก็ตกอยู่ในความกลัวที่จะมาสนับสนุนช่องที่ไม่โปรผู้บริหารประเทศด้วย มันคือผลประโยชน์ แต่ในเวลาเดียวกัน คนไทยเองก็ชอบข่าวชาวบ้าน ข่าวไสยศาสตร์เป็นทุนอยู่แล้ว ไม่ต้องแปลกใจหรอกที่โมเมนตัมข่าวมันจะไปที่ลุงพล แต่ก่อนที่เราจะไปด่าเรื่องปั่นประแสข่าว เราต้องถามตัวเองก่อนนะว่า ถ้ามีข่าวงบประมาณกับข่าวลุงพลมาอยู่คู่กัน คนไทยส่วนใหญ่จะอ่านข่าวอะไรก่อน เราอยากจะบอกว่าเราอย่าหยุดที่จะสนใจข่าวรัฐบาล ข่าวงบประมาณ เข้าไปอ่านเข้าไปแชร์ข่าวพวกนี้มากๆ ให้สื่อเค้าอยากทำข่าวให้เราอ่านแทนข่าวอะไรแบบนี้ดีกว่าครับ
.
สื่อกลับมาย้อนดูการทำงานของตัวเองได้แล้วนะครับ เราจะปล่อยให้ลูกหลานของเราเติบโตขึ้นมาในสังคมที่เต็มไปด้วยข่าวสารแบบที่คุณนำเสนอเหรอครับ พวกคุณเป็นสื่อกระแสหลัก คนจำนวนมากยังให้เครดิตคุณในฐานะสื่อกระแสหลักอยู่ คนเชื่อคนแชร์เพราะเค้าให้คุณค่าพวกคุณนะครับ กรุณานำเสนอข่าวที่มันมีคุณค่าและให้ประโยชน์กับสังคมบ้างเถอะครับ สร้างองค์ความรู้ สร้างภูมิปัญญาให้ประชาชนเถอะครับ อย่างน้อยควรเริ่มต้นด้วยการออกมาขอโทษประชาชนกับบทบาทที่เคยทำที่ผ่านมาให้ประชาชนหยุดสับสนก็ยังดีครับ...
ความรับผิดชอบต่อสังคม 在 ความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR, Corporate Social Responsibility) 的推薦與評價
ความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR, Corporate Social Responsibility) ไม่ได้เป็นแค่ทางเลือกหนึ่งในการประชาสัมพันธ์องค์กร ... ... <看更多>
ความรับผิดชอบต่อสังคม 在 โครงการความรับผิดชอบต่อสังคม 的推薦與評價
จำนวนชุมชนที่ได้รับการพัฒนาจากโครงการและกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคม. 0. ชุมชน. รูปแบบการลงทุนและบริจาคเพื่อสังคม, ปี 2563 (ล้านบาท) ... ... <看更多>