เมื่อกี้ดูข่าว เห็นที่พี่ชายของเหยื่อออกมาพูดถึงคอมเม้นท์ในเน็ท ที่ victim blaming ใส่น้องเขาแล้ว น่าเจ็บปวดแทน คือการโทษเหยื่อแบบนั้นมันคือหนึ่งในการสร้างเหตุผลเพื่อสร้างความชอบธรรมให้การข่มขืนนะ โพสนี้เขียนดีมากลองอ่านกันฮะ
ช่วงนี้มีข่าวข่มขืนออกมาเยอะ แอดเลยอยากนำเสนอเรื่อง "รากฐานของการข่มขืน" ให้ทราบกัน โดยเราแปลชาร์ตมาจากองค์กร 11thPrincipleConsent และเขียนให้เข้าใจง่ายกับบริบทของบ้านเราอีกที ... ยินดีให้แชร์โดยไม่ต้องขออนุญาตค่ะ ^^
👉 รากฐานของการข่มขืน หมายถึง ชุดความคิดที่ทำให้เราเข้าใจว่าเวลาคนคนนึงตัดสินใจใช้ความรุนแรงกับคนอีกคน ความคิดของเค้าก่อรูปมาจากอะไร เพราะหลายครั้งคนที่ข่มขืนไม่รู้ตัวว่าตัวเองทำเรื่องเลวร้าย เค้าอาจคิดจริงๆ ว่าสิ่งที่เค้าทำมันปกติเพราะ "ใครๆ ก็ทำกัน"
👉 ซ้ำร้ายคือ ในคนที่ลงมือข่มขืน มักไม่คิดว่าตัวเองกำลังข่มขืนอีกฝ่ายถ้าตัวเองไม่เห็นสัญญาณต่อสู้หรือไม่เห็นการปฏิเสธอย่างรุนแรง (ทั้งๆ ที่อีกฝ่ายไม่มีสติ เอาแค่ยืนเองยังยืนไม่ได้ก็ตาม)
👉 รู้มั้ยว่านักข่มขืนหลายคนไม่รู้สึกว่าได้ทำผิดต่อเหยื่อ แต่คิดว่าตัวเองโชคไม่ดีที่โดนจับได้หรือเหยื่อไม่ยอมเงียบแบบที่เหยื่อคนอื่นมักจะทำกัน
👉 นักข่มขืนอาจรู้สึกผิดต่อพ่อแม่ ต่อองค์กร เพราะการโดนจับได้และถูกประนามเป็นการทำร้ายอนาคตตัวเองหรือทำให้เสียชื่อเสียงโดยตรง แต่ย้ำอีกครั้ง "ไม่รู้สึกผิดต่อเหยื่อ" เพราะคิดว่าใครๆ ก็ทำกัน แต่ตัวเองซวยที่โดนจับได้แค่นั้นเอง
👁 อะไรทำให้คนคนนึงถึงคิดว่าตัวเองข่มขืนคนอื่นได้ ?????
👁ในปิรามิดความรุนแรงนี้อธิบายว่า ความรุนแรงมีหลายระดับ ระดับบนสุดคือความรุนแรงที่มองเห็นได้ง่าย เพราะเกิดความเสียหายแก่ร่างกายหรือชีวิตของเหยื่อ ส่วนปิรามิดลำดับล่างๆ ลงมา เป็นความรุนแรงที่ไม่ได้เห็นด้วยตา แต่สร้างความเสียหายแก่ "อำนาจในตัวเอง" "คุณค่าในตัวเอง" และลำดับล่างสุดคือสภาพแวดล้อมที่ทำให้คนเรียนรู้ว่า "ความรุนแรงเป็นเรื่องปกติ" จนกล้าที่จะตัดสินใจกระทำการในขั้นบนๆ ได้ในที่สุด
👁 แต่ไม่ได้หมายความว่า คนที่เล่นมุกตลกข่มขืนจะเป็นคนที่ข่มขืนคนอื่นเสมอไป หลายคนอยู่ที่ระดับสร้างสภาพแวดล้อมที่ช่วยกันพูดว่าความรุนแรงเป็นเรื่องปกติ แต่อย่าลืมว่าคำพูดของเราเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนจำนวนมากคิดว่า "เรื่องปกติ = ทำได้" เพราะพวกเค้าเรียนรู้จากสภาพแวดล้อมมาอีกที ลองจินตนาการถึงพัฒนาการทางความคิดต่อไปนี้ดูนะ
📌 ยอมรับว่าความรุนแรงเป็นเรื่องปกติ : หมายถึงการคิดว่ามนุษย์เห็นแก่ตัวโดยสันดานโดยที่สังคมไม่สามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมได้ เราจึงปล่อยให้ความรุนแรงเกิดขึ้นกับคนอื่น ขอแค่มันไม่เกิดกับตัวเองและคนที่เรารักก็พอ ซึ่งมันก็ไม่ผิดหรอกที่จะป้องกันตัวเองและไม่ได้รุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวของคนอื่น
แต่ ! ความหลอนจะเกิดขึ้นเมื่อ
>>> คนจำนวนนึงเรียนรู้จากสังคมว่า "ความรุนแรงเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นฉันสามารถทำกับคนอื่นได้หนิ โดยเฉพาะคนที่ปกป้องตัวเองได้ไม่ดีพอ" คนเหล่านี้จะพัฒนา ไปสู่ผู้ใช้ความรุนแรงเลเวลถัดไป
>>> คนจำนวนหนึ่งดันเรียนรู้ว่า "การป้องกันตัวเองให้ปลอดภัย แปลว่ามีข้อยกเว้นให้ใช้ความรุนแรงได้ในบางเวลาบางสถานที่" เช่น คิดว่า ผับ บาร์ ปาร์ตี้ ผู้หญิงบริการ เป็นพื้นที่ยกเว้นที่ทุกคนทำอะไรกับใครก็ได้ ทั้งๆที่ที่ไหนมีคน ที่นั่นต้องเคารพคน โดยไม่มีข้อยกเว้น ซึ่ง พอดันเรียนรู้แบบแย่ๆ ไปแล้ว พวกเขาอาจอีโวไปเป็นผู้ใช้ความรุนแรงเลเวลถัดไป
📌 เริ่มลดคุณค่าของอีกฝ่าย : เมื่อคนกลุ่มดังกล่าวเริ่มคิดว่า "งั้นเราก็แสดงอำนาจเหนือคนอื่นได้สิถ้าอีกฝ่ายเอาคืนเราไม่ได้" เขาก็จะสามารถปล่อยคลิปแก้แค้น แอบถ่ายรูป ส่งรูปโป๊ให้โดยไม่ได้ขอ ตามตื๊อ การสตอล์ค ทำตัวสนิทสนมเกินเลยจนอีกฝ่ายลำบากใจ หรือใช้วาจาคุกคาม แซวแบบน่ากลัว เพราะต่อให้อีกฝ่ายไม่พอใจ ผู้คุกคามก็สามารถพูดได้ว่า "มันยังไม่ได้รุนแรงขนาดนั้นหนิ" "เธอแหละคิดมากไป" "ใครๆ ก็ทำกัน"
จะเห็นได้ว่าผู้กระทำเริ่ม "ละเมิดพื้นที่ของอีกคน" โดยเฉพาะ "คนที่ป้องกันตัวเองไม่ได้และไม่มีปัญญาเอาคืนแน่ๆ" เพื่อตอบสนองความรู้สึก "เหนือกว่า" ของผู้กระทำ และลดคุณค่าของอีกฝ่ายจากคนที่มีความรู้สึกไปสู่คนที่ "ฉันไม่จำเป็นต้องสนใจว่าเธอจะรู้สึกยังไง เพราะยังไงคนอื่นก็ไม่เข้าข้างเธอหรอกนะ"
และเมื่อไม่มีใครห้าม หรือเรียนรู้ว่าไม่มีใครทำอะไรพวกเขาได้ พวกเขาก็จะเริ่มอีโวไปสู่ขั้นถัดไป
📌 เริ่มลดอำนาจของอีกฝ่าย : ความเหิมเกริมในข้อนี้เกิดจากความชินชาในข้อหนึ่งและข้อสอง จนทำให้คิดว่า "ต่อให้เธอไม่โอเค ฉันก็จะทำให้เธอโอเคให้ได้" "เธอน่าจะชอบ" "เธอน่าจะโอเค" การคิดแทนเหล่านี้แสดงออกผ่านการการบังคับทางเพศด้วยเทคนิคต่างๆ มอมเหล้ามอมยา ข่มขู่ สัมผัสโดยอีกฝ่ายไม่ยอม หรือต่อให้อีกฝ่ายแสดงสัญญาณปฏิเสธก็ยืนยันที่จะทำต่อไปเพราะมั่นใจมากๆ ว่าอีกฝ่ายไม่มีทางสู้ตัวเองได้ หรือไม่ก็มั่นใจมากๆ ว่าเดี๋ยวเธอก็จะชอบ เธอต้องชอบแน่ๆ คือโคตรมั่นใจในตัวเองแบบสุดๆ
ความมั่นใจในตัวเองเบอร์นี้ทำให้คนพวกนี้คิดว่า "ถ้าอีกฝ่ายไม่ด่าไม่โวยวาย แปลว่าเธออาจจะชอบ" หรืออาจเริ่มคิดแทนไปแล้วว่า การนิ่ง คือการยินยอม
จากเดิมที่ "ขอแค่ไม่ถูกจับได้" ความคิดคนเหล่านี้อาจจะอีโวไปถึงจุดที่คิดว่า "ต่อให้ถูกจับได้ยังไงเราก็มีทางรอด" เช่น ยังไงเหยื่อก็มีส่วนผิดด้วย ยังไงก็จะมีคนเข้าข้างเรา ฉันมีเพื่อนเยอะ ฉันรู้จักตำรวจ เรื่องนี้ใช้เงินปิดปากได้ ฯลฯ
📌 ใช้ความรุนแรงที่เห็นได้ด้วยตา : ข่มขืน รุมโทรม ลวนลาม รุนแรง ฆ่า เหล่านี้เราคงไม่ต้องอธิบายว่ามันเลวร้าย เพราะใครๆ ก็เข้าใจว่าทำแล้วเกิดความเสียหายแก่อีกฝ่ายยังไง
แต่ที่อยากย้ำคือ คนที่ทำข้อนี้ ขณะทำก็ยังเข้าใจว่าตัวเองทำเรื่องปกติ หรืิอคิดว่า "ไม่ได้ข่มขืนซักหน่อยเธอไม่ปฏิเสธชัดๆ เองนี่" เพราะตลอดการเดินทางที่ผ่านมา ไม่มีใครห้าม ไม่มีใครเตือน ไม่มีใครบอกว่าอย่าทำ อย่างเดียวที่พวกเขาเรียนรู้คือ "ทำได้แต่อย่าโดนจับได้" "โดนจับได้แล้วยังไงก็รอด" "เดี๋ยวคนก็ลืม" "เดี๋ยวก็มีคนเข้าข้าง" ไปจนถึง "ยังไงเราก็ได้ผิดขนาดนั้น สังคมต่างหากที่เวอร์เกินควร"
😔 ข่าวเศร้าจึงเกิดขึ้นรายวัน เพราะสำนึกที่สร้างอาชญากรมีเท่าเดิม!
⭐️ แล้วเราจะทำให้สังคมดีขึ้นได้อย่างไร ?????
⭐️ จริงๆ แค่เข้าใจภาพนี้ก็ช่วยได้มากแล้ว ถ้าเรารู้ตัวว่า "คนเรียนรู้เรื่องเพศจากสังคมและเพื่อนมากกว่าโรงเรียน ตำรวจ และพ่อแม่" เราก็จะตระหนักถึงบทบาทของตัวเองในการสร้างบทสนทนาในสังคม
⭐️ แค่เข้าใจว่า "ลดเหยื่อไม่เท่ากับลดอาชญากร แต่ลดว่าที่อาชญากรเท่ากับลดเหยื่อ" วิธีการที่เราพูดกับคนอื่นๆ หรือการสร้างค่านิยมสาธารณะก็จะเปลี่ยนไป
⭐️ แค่ไม่ยอมรับว่าความรุนแรงเป็นเรื่องปกติ ก็ช่วยได้มาก อย่างน้อยที่สุดคุณก็ไม่ได้ซ้ำเติมให้เหยื่อคนไหนเจ็บช้ำน้ำใจจนเก็บเงียบ และไม่ได้ทำให้คนใช้ความรุนแรงได้ใจ
⭐️ แค่ตระหนักว่าสังคมเป็นครูของคน การสอนให้ระวังตัว พ่อแม่ของทุกคนย่อมสอนลูกหลานอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่พ่อแม่ทุกคนที่จะสอนลูกหลานไม่ให้ใช้ความรุนแรงกับคนอื่น ... เรื่องนี้สังคมและสื่อช่วยได้ เหมือนที่เราสร้างค่านิยมอื่นๆ ในสังคมอย่างการไม่คดโกง ไม่ลักขโมย ไม่เอาเปรียบไม่ฉวยโอกาสนั่นเอง
⭐️ ชวนกันลดละเลิกการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้คนใช้ความรุนแรงกับคนอื่นนะคะ เราป้องกันตัวเองป้องกันคนที่เรารักเนี่ยดีแล้วค่ะ แต่ถ้าช่วยกันสอนว่า "อย่าไปทำไม่ดีกับคนอื่น" แทนบ้านที่เค้าไม่ได้สอนลูกหลานตัวเอง ก็จะดีมากๆ
⭐️ เริ่มง่ายที่สุดในเพื่อนฝูงของตัวเอง ถ้าเพื่อนใครมีพฤติกรรมเมาแล้วมีโอกาสข่มขืนลวนลามคนอื่น เราในฐานะเพื่อนควรพาเขากลับบ้าน อย่าปล่อยให้เขาไปทำร้ายใคร
#ลดเหยื่อไม่เท่ากับลดอาชญากร #ลดว่าที่อาชญากรเท่ากับลดเหยื่อ #สังคมเป็นครูของคน #ความรุนแรงไม่ใช่เรื่องปกติ
Recently, there is a lot of rape news. I want to present about " the foundation of rape... we translate the charts from 11 thprincipleconsent organization and write to understand easily with the context of our home again... welcome to share without asking for permission. (sighs)
👉 the foundation of rape means a mind set that makes us understand that when one person decides to use violence against another person, what does his thoughts are made from? Because many times, the rapists don't realize that they do bad things. He may really think what he is. Do it normally because "everyone does it"
👉 repeated is in those who do rape, they often think that they are raping the other. If they don't see the signs of fighting or don't see severe rejection. (even when the other is not conscious, just stand by themselves, you can
👉 do you know that cuddle rapists don't feel that they have wronged their victims, but think they are unlucky that they are caught or the victims will not be silent as other victims usually do.
👉 rapists may feel guilty of parents for the organization because of being caught and named as hurting their future or infamous directly, but repeat "not guilty of the victim" because they think that everyone is unlucky that they are caught. That's all.
👁 what makes a person think they can rape someone else?????
👁 in the pyramid, this violence explains that there are many levels of violence. It is easily visible violence because of damage to the body or life of victims. The pyramids are lower to violence that does not agree. Eyes but damage to " Self-Power Self-worth " and the bottom order is an environment that makes people learn that " violence is normal " to finally dare to decide to do the upper level.
👁 but it doesn't mean that people who play rape jokes will always be the one who rape others. Many people are at the level of creating an environment that help say violence is normal. But don't forget that our words are part that makes many people think "normal = doable" Because they learn from the environment again, imagine the following thought development.
📌 admit that violence is normal: it means to think that human beings are selfish by nature. Society cannot change behavior. So we let violence happen to others. It doesn't happen to ourselves and our loved ones, which is not wrong. To protect yourself and not take other people's personal space.
But! Haunting will happen when
>>> a number of people learn from society that " violence is normal, so I can do it to others, especially those who protect themselves well enough these people will develop to the next level of violence users.
>>> a number of people learn that "keeping yourself safe means there are exceptions to violence at some places" such as thinking pub bar, party, women, service is an area except that everyone can do anything to anyone, even when there are people there must respect people without Exceptions, when they learn bad, they may evo to be the next level of violence users.
📌 start reducing the value of the other: when such people start to think " then we can show power over others. If the other can't take it back he can release revenge clips, secretly take photos, send naked photos by I didn't ask to follow the stock. I was too close that the other one was difficult or used a scary word to tease. Because even if the other is not satisfied, the menace can say "it's not that severe yet" you I think too much everyone does it "
It can see that the doer starts to " abuse another's area " especially " the one who can't protect themselves and cannot take it back " to satisfy the " superior " feelings of the doer and reduce the value of the other from those who have feelings to the " me. I don't need to care how you feel, because other people won't take your side "
And when nobody forbid or learns that nobody can do anything to them, they start evo to the next step.
📌 starting to reduce the power of the other: this is caused by chin in one and second to think " even if you are not okay, I will make you okay you will like it. " you should be okay these thinking is acting through sexual force with various techniques, drinking, drug, threatening, touch by the other, not giving up, or even if the other shows the denial signs, insists to keep going because they are very confident that the other is no way. Fight yourself or be very sure that you will like it. You will love it. I am very confident in yourself.
This number of self-confidence makes these people think "if the other doesn't scold, doesn't rant, it means you might like it" or may start thinking that being calm is consent.
From the beginning that "just don't get caught" thoughts, these people may evo to the point where they think that we are caught, we have a way to survive however, there will be a wrong part. Anyway, there will be many friends. I have a lot of friends. I know the police This can spend money to shut my mouth, etc.
📌 use the violence that you can see by the eyes: rape, severe, molested, these murders. We don't have to explain that it's bad because everyone understands how it does and damage to the other.
But what I want to repeat is that the person who did this while doing it still understand that he did normal things or thought that "I didn't rape. You didn't deny it clearly" because throughout the past journey, no one would stop, no one would warn. No one said not to do it They learn is to " do it, but don't get caught get caught, then you will survive people will forget someone will be siding with me until " anyway, we are so wrong. Society is beyond "
😔 sad news happens daily because I feel grateful that I create the same criminals!
⭐️ how can we make society better?????
⭐️ in fact, just understanding this picture helps a lot. If we know that "people learn gender from society and friends more than school, police and parents" we will realize our role in creating social conversations.
⭐️ just understand that " reducing victims is not equal to reducing criminals, but reducing criminals are equal to reducing victims the way we speak to others or creating public values will change.
⭐️ just don't accept that violence is normal, it helps a lot. At least you don't hurt any victim, hurt, so that they keep it quiet and doesn't make people violence.
⭐️ just realize that society is a teacher of people. Teaching to be careful. Everyone's parents teach their children. But not all parents will teach children not to use violence against others... this, society and media can help as we create values. Other people in society like not crooked, no stealing, no exploiting, not taking advantage of the opportunity.
⭐️ invite each other to lose weight and stop creating an environment that is conducive violence with others. We protect ourselves. It's good to protect our loved ones. But if you teach "don't don't do bad to others" instead of the house that they didn't teach Their children will be very good.
⭐️ start the easiest in your own friends. If a friend has drunk behavior and have a chance to rape other people. We as friends should take him home. Don't let him hurt anyone.
#ลดเหยื่อไม่เท่ากับลดอาชญากร #ลดว่าที่อาชญากรเท่ากับลดเหยื่อ #สังคมเป็นครูของคน #ความรุนแรงไม่ใช่เรื่องปกติTranslated
「ความรุนแรงไม่ใช่เรื่องปกติtranslated」的推薦目錄:
ความรุนแรงไม่ใช่เรื่องปกติtranslated 在 วัน พีช ตอน ที่ 666 facebook - TH733 的推薦與評價
วัน พีช ตอน ที่ 666 facebookเป็นทางการ-ความสนุกล่าสุดวัน พีช ตอน ที่ 666 facebook. Khemika S. TH733.com. 20 hours ago ... และเป็นเรื่องปกติทั่วไปมากๆ ... ... <看更多>
ความรุนแรงไม่ใช่เรื่องปกติtranslated 在 รวบรวมข้อมูลการศึกษาเพื่อเด็กไทย รู้ไกล เข้าใจโลก | ซ้ำขออภัยครับ..... 的推薦與評價
เพศศึกษาไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่สอนได้ด้วยการบอกตรงๆ ... ความรุนแรงไม่ใช่เรื่องปกติและเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ ... หรือ literal translation นั่นเองค่ะ. ... <看更多>