🏡 ที่พักน่ารัก มินิมอลสุด #สมุทรปราการ
⛅ ขาว คลีน บรรยากาศเหมือนอยู่เกาหลี
🌊 นอนดูวิวทะเลคลองด่าน ใกล้บางปู
🌿 ล้อมรอบด้วยป่าชายเลน ส่วนตัวที่สุด
.
โฮมสเตย์สไตล์เกาหลีน่าไปนอน พิกัด “ครัวสมอไม้” จังหวัดสมุทรปราการ ที่พักใกล้กรุงเทพฯ ตกแต่งแบบคลีน ๆ สไตล์มินิมอล ได้ความเป็นส่วนตัวสุด เพราะมีห้องพักแค่ห้องเดียว เหมาะกับการไปพักผ่อนชิลล์ ๆ ค่าที่พักก็น่ารักปุ๊ก ปิ๊ก เพียง 1,590.- /คืน พักได้ 2 คน แต่ถ้าไปพักคนเดียวเค้าคิดแค่ 1,000.- /คืน เท่านั้นจ้าาาา แถมยังมีอาหารเช้าและเซ็ต Afternoon tea รวมไว้ให้พร้อมเลย
.
ความพิเศษอีกอย่างหนึ่ง ที่ถือว่าเป็นไฮไลท์เลย คือ ที่นี่แสงสวยมาก ! ไม่ว่าจะบรรยากาศช่วงเช้า ช่วงบ่าย ช่วงเย็น ก็สวยหมด สวยแบบคนละฟีลกันไปเลย เราสามารถถ่ายรูปเล่นได้เพลิน ๆ เลยล่ะ
.
ตัวที่พักถูกล้อมรอบไปด้วยป่าชายเลน ทำให้สดชื่นสุด ๆ แถมยังอยู่กลางทะเลเลยล่ะ แต่ข้อควรรู้ก่อนไปอย่างหนึ่งเลยคือ เรื่องระดับน้ำขึ้นน้ำ-ลง อยู่ที่ข้างขึ้นหรือข้างแรม ถ้าอยากไปแล้วเจอน้ำทะเลด้วย ก่อนไปสามารถสอบถามที่กับทางที่พักเค้าก่อนได้เลยน้าาาา
.
ยังไม่หมดแค่นี้ เพราะพักที่นี่ นอกจากได้บรรยากาศดี ๆ ความเป็นส่วนตัว ความสงบและธรรมชาติแล้วนั้น เรายังได้ทานอาหารแบบสะดวกสุด ๆ เพราะที่นี่เค้ามีร้านอาหารด้วย เดินออกจากที่พักไม่กี่ก้าวก็ถึง ไม่ต้องออกไปไหนไกล ก็ได้พักผ่อนแบบสบาย ๆ แล้ววววว
.
🚘 หนีเที่ยวได้ที่
🗾 ครัวสมอไม้ : อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ
📍 พิกัด : https://goo.gl/maps/KeFEso35qiRmEFTw7
📞 เบอร์ติดต่อ : 099-096-4925
.
🌈 ส่วนใครที่คิดถึงการเดินทาง แล้วยังไม่ได้ไปไหน กดเข้ากลุ่ม https://bit.ly/2FjnTPj มาพูดคุยเรื่องเที่ยว หรือแนะนำที่เที่ยวสวย ๆ กันได้นะ ที่ ‘กลุ่มคนหนีเที่ยว หรือดูภาพสวย ๆ จาก Instagram https://bit.ly/2VxlEh0 ของเรากันได้เลยน้าาา
.
🙏 ขอบคุณรูปภาพจาก : Escape to
.
#sneakout #หนีเที่ยว #sneakoutthailand #หนีเที่ยวไทย #คนหนีเที่ยว #ออกไปค้นหาสิ่งใหม่ #ชมรมคนหนีเที่ยว #เที่ยวมุมมองใหม่ไปกับSneakOut #เที่ยวโดนใจทุกไลฟ์สไตล์ #เที่ยวตามได้ไม่มีOut #เพจท่องเที่ยวสุดปัง
ความเป็นส่วนตัว คือ 在 หมอๆ ตะลุยโลก Facebook 的精選貼文
4 สิ่งที่ ชีวิตคนในทะเล ไม่เหมือน ชีวิตของคนบนฝั่ง
ผมขอสรุปจากประสบการณ์ของผมในช่วงนี้เอามาแบ่งปันกันนะครับ ก่อนอื่นรูปนี้นำมาจาก Google นะครับเป็นภาพแท่นขุดเจาะที่ชื่อว่า Kvitebjørn ที่ตั้งอยู่ในทะเลเหนือ (North sea) ประเทศนอร์เวย์ครับ
จากภาพจะมองเห็นกลุ่มอาคารทางซ้ายมือของภาพที่มีลานจอดเฮลิคอปเตอร์อยู่ด้านบนคือส่วนที่เป็นที่อยู่ จะเรียกว่า Living quarter ส่วนลานจอด ฮ. คนในทะเลจะเรียก ฮ. ว่า Chopper นะครับ (ไม่ได้เรียกว่า Helicopter) จะเห็นได้ว่าทุกๆคนที่ทำงานในนี้จะอยู่อาศัยกันในพื้นที่ๆจำกัดมาก เลยเป็นที่มาของความแตกต่างของการใช้ชีวิตในทะเลนั่นเองครับ
ความเป็นส่วนตัว (privacy) อาจจะบอกได้เลยว่า พื้นที่ส่วนตัวกลางทะเล นั้นอาจจะเรียกได้ว่ามีน้อยมากจนอาจจะถึงไม่มีสำหรับใครบางคน อาจจะมีพนักงานที่ได้พักห้องเดี่ยวของตนเอง แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นห้องนอนแบบแชร์ทั้งหมด ลักษณะที่เป็น Bunk bed คือเป็นเตียง 2 ชั้น และเพื่อนร่วมห้องเรามักจะเปลี่ยนหน้าไปตลอดเวลา เพราะการสลับคนทำงานเกิดขึ้นได้แทบจะทุกอาทิตย์ครับ เมื่อพื้นที่ส่วนตัวที่มักจะเป็นห้องนอนของใครหลายคนไม่มี ก็อาจบอกได้ว่าพื้นที่ส่วนตัวกลางทะเลก็อาจจะหายไปเลย แต่จริงๆอาจจะเป็นโอกาสที่ดีมากก็ได้ที่เราจะได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนประสบการณ์มากมายจากพื้นที่แห่งนี้
อินเตอร์เน็ต เขาบอกว่าตอนนี้เน็ตกลางทะเลนั้นดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมากแล้ว แต่ก็ต้องอย่าลืมครับว่าค่า data กลางทะเลนั้นราคาสูงมาก ความเร็ว 5G แบบบนชายฝั่งนั้นลืมไปได้เลยครับ ถ้าเตรียมตัวมาดีพอ คอมพิวเตอร์หรือไอแพตของเราควรจะต้องเต็มไปด้วยหนังสือ eBook หรือคลิปวีดีโอ หรือภาพยนตร์ต่างๆที่อัดแน่นมาอย่างเต็มที่ โดยให้คิดเสมอว่า การไม่มีเน็ตคือเรื่องปกติครับ
เวลาทำงานกลางทะเลจะไม่ใช่แบบ เข้า 9 ออก 5 เหมือนบนฝั่งนะครับ แต่ส่วนใหญ่จะนับเป็นกะการทำงาน 12 ชั่วโมง แล้วแต่ว่าใครจะไปอยู่กะไหน แต่โดยหลักการคือต้องมีคนทำงานตลอด 24 ชั่วโมงครับ และการทำงานกลางทะเลจะไม่มีวันหยุด ถ้าอยู่ 10 วัน ก็คือทำงาน 10 วัน เป็นแบบนี้โดยมาตรฐานทั้งโลกเลยครับ
และข้อสุดท้ายที่อาจจะเป็นข้อทีสำคัญมากๆ คือ การเดินทางนั่นเอง ด้วยแผนการทำงานที่ชัดเจน วันทำงานและวันพักที่เปลี่ยนแปลงได้ลำบาก ดังนั้นเมื่อเราไปอยู่กลางทะเลแล้ว ต่อให้มีเหตุฉุกเฉินแค่ไหนการจะกลับมาที่แผ่นดินในเวลานั้นอาจจะทำได้ค่อนข้างยากมาก การออกทะเลในแต่ละครั้งจึงเต็มไปด้วยการเตรียมตัวในแทบจะทุกประเด็นของชีวิต หรือ เรียกได้ว่าต้องคิดทุกเหตุการณ์ไว้ในใจเลยว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์ที่ไม่อยากให้เกิดในเวลาดังกล่าว เราจะหาทางออกของปัญหาไว้ได้อย่างไรครับ
คิดว่าหลายๆท่าน คงพอมองภาพออกแล้วนะครับว่า ชีวิตออฟชอร์กลางทะเลนั้นมีเรื่องราวเป็นรูปแบบใดครับ
ความเป็นส่วนตัว คือ 在 สมองไหล Facebook 的最佳貼文
ตามที่หลายคนเรียกร้องกันมาตั้งแต่ช่วงกลางปีที่แล้ว ว่าอยากเรียนการทำธุรกิจออนไลน์กับสมองไหล เพราะเห็นหลักฐานเป็นรูปธรรมจากการลงมือทำจริงและประสบความสำเร็จของผมมานานแล้ว
.
หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมที่ผ่านมาผมไม่ยอมเปิดสอนสักที ทำไมต้องรอให้ถึงปีนี้ ถามกี่ทีก็บอกว่ายังไม่เปิด
.
ผมขอสารภาพกับทุกคนตามตรงครับ ว่าที่ผมไม่ยอมสอนใครไม่ได้เป็นเพราะผมหวงวิชา แต่เป็นเพราะผมไม่อาจนำสิ่งที่ผมรู้ในตอนนั้นไปสอนคนทั่วไปได้ หากมันยังไม่ผ่านการ “ทดสอบ”
.
เพราะไม่มีอะไรการันตีว่า สิ่งที่ผมทำแล้วสำเร็จ มันจะสำเร็จกับคนอื่นด้วย
.
ผมจึงใช้เวลาตลอด 1 ปีเต็ม นำสิ่งที่ผมได้ตกผลึกจากการลงมือทำธุรกิจออนไลน์จริงๆ ไปทดสอบกับกลุ่มต่างๆ โดยเฉพาะกับมหาวิทยาลัย
.
ไม่ว่าจะเป็น มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ฯลฯ เพื่อทดสอบและวัดผลออกมาว่าสิ่งที่ผมสอนไปนั้น คนอื่นสามารถนำไปสร้างผลลัพธ์ได้จริงไหม
.
ผมยอมรับตามตรงว่า ตอนแรกมันไม่ใช่ทุกอย่างที่ได้ผล แต่มันก็เป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะผมจะได้ตัดเนื้อหาที่ไม่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ออก และ คัดเฉพาะเนื้อหาที่ได้ผลจริงๆ มาสอนคุณ เท่านั้น
.
จากนั้นก็นำมาทดสอบกับคนทำธุรกิจ อีก 3 กลุ่ม ซึ่งเป็นคนที่ผมขอเข้าไปช่วยทำออนไลน์ และ ให้คำปรึกษา แบบฟรีๆ เพราะอยากจะ “ทดสอบ” อีกขั้นว่า ถ้าคนทำธุรกิจที่ไม่ใช่นักศึกษา จะนำไปใช้จริงได้ไหม
.
คนแรก คือ คุณกมลฉัตร เจ้าของเพจ Urban Jungle.Start ทำธุรกิจเกี่ยวกับต้นไม้ ซึ่งผมเข้าไปช่วยตั้งแต่เริ่มต้นใหม่ๆ ที่เพจยังมีคนตามไม่ถึง 200 คน เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
.
ผลลัพธ์ คือ ตอนนี้มีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นมากกว่า 37,000 คน คอนเทนต์มียอดแชร์ทะลุเกิน 60,000 ครั้ง และ สามารถทำรายได้จากธุรกิจต้นไม้ได้อย่างมหาศาล ที่สำคัญคือ ทุกอย่างทำแบบออแกนิก ไม่ได้ยิงแอดสักบาท
.
คนที่สอง คือ บริษัทประกันชีวิตค่ายหนึ่ง ซึ่งเดิมทีการขายประกันจะหาลูกค้าจากคนใกล้ตัว การแนะนำ และ การวอคอิน เป็นหลัก แน่นอนว่าสมัยก่อนวิธีสามารถทำได้ดี แต่สมัยนี้มันไม่ใช่อย่างนั้นแล้ว เพราะปัจจุบันพฤติกรรมของคนซื้อประกันเปลี่ยนไปแล้ว พวกเขาจะหาข้อมูลเปรียบเทียบบนออนไลน์ก่อนตัดสินใจเสมอ
.
ดังนั้น ใครที่ทำธุรกิจประกันแล้วไม่ได้เอาตัวเองขึ้นไปอยู่บนออนไลน์ คุณก็จะหายไปจากวงโคจรในชีวิตของลูกค้าทันที เพราะเมื่อลูกค้าเสิร์ชหาแล้วไม่เจอ เขาก็ไม่รู้ ไม่เห็น สุดท้ายเขาก็ไม่ซื้อกับคุณจริงไหม ซึ่งการที่ยอดขายประกันของบางคนหายไป ไม่ใช่เพราะคนซื้อประกันน้อยลงแต่อย่างใด เพียงแต่เขาไปซื้อกับคนอื่นต่างหาก ซึ่งนี่เป็นงานที่ท้าทายสำหรับผมมากๆ ผมตอบตกลงทำงานนี้โดยไม่รับค่าตอบแทนใดๆ ผมบอกกับทางบริษัทนี้ว่า ถ้าผมสร้างผลลัพธ์ให้ได้ ค่อยมาจ่ายให้ผม ซึ่งผลปรากฎว่า ประสบความสำเร็จ ตามแผนเป็นอย่างดี
.
คนที่สาม คือ พี่ก้อย ซึ่งเป็นพี่ที่ผมรู้จักคนหนึ่ง เขาเปิดร้านต่อขนตา แต่สิ่งที่เป็นอุปสรรคสำหรับเขา ก็คือ “ทำเล”
.
เพราะเมื่อโควิดระบาด ร้านเสริมสวยต้องปิดตัว พี่ก้อยจึงต้องกัดฟันปิดร้าน แล้วมาใช้บ้านของตัวเองเปิดร้านแทน แต่ปัญหา คือ บ้านของเขาอยู่ท้ายซอยหลังสุดท้าย ซึ่งเป็นซอยตัน แถมเส้นทางการเดินทางก็คดเคี้ยว นอกจากลูกค้าประจำจะหายไปเยอะแล้ว ลูกค้าใหม่ยังแทบหาไม่ได้ สิ่งที่เกิดขึ้น คือ พี่ก้อยเครียดมาก เพราะค่าใช้จ่ายในบ้านก็เริ่มไม่พอ ไหนจะค่าเช่าบ้าน ค่าเทอมลูก และ ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ อีก
.
อย่างไรก็ตาม Mindset ของพี่ก้อยก็เปลี่ยนไปทันที เมื่อผมพูดกับเขาว่า “พี่ฟังดีๆ นะ ทำเล ไม่ใช่อาคาร ไม่ใช่ตึก ไม่ใช่ร้านริมถนน แต่คำว่า ทำเล มันหมายถึง ที่ๆ มีลูกค้า”
.
พี่ลองคิดดูดีๆ ว่ายุคนี้ ที่ไหน คือ ที่ๆ มีลูกค้ามากที่สุด
.
ใช่ครับ !! บนออนไลน์ไง ออนไลน์ คือ “ทำเลทอง” ของยุคนี้ เพราะลูกค้าอยู่บนออนไลน์เยอะที่สุด ตลอด 24 ชั่วโมง
.
ซึ่งตอนแรกพี่เขาไม่เก็ท แถมยังเกือบจะด่าผมกลับว่า “กูต่อขนตา ไม่ได้ขายออนไลน์ มันส่งไปรษณีย์ไม่ได้โว้ยยย”
.
ผมเลยถามพี่เขากลับไปว่า “เวลาพี่ไปต่างจังหวัดพี่หาโรงแรม พี่ทำยังไง ? แล้วถ้าพี่หิวข้าวล่ะ อยากหาร้านอาหารอร่อยๆ สักร้าน พี่ทำยังไง ?
.
“ก็เสิร์ชหาในเฟซบุ๊ก กูเกิล หรือไม่ก็ แอพวงในไง” พี่ก้อยตอบ
.
แล้วพี่ไม่คิดบ้างหรอ ว่าคนที่อยากต่อขนตา เขาจะหาร้านพี่บนออนไลน์ ดูคอนเทนต์ ดูรีวิวก่อนว่าพี่สามารถทำให้เขาสวยได้ไหม แล้วถ้าเกิดเขาดูรีวิวแล้วชอบฝีมือการต่อขนตาของพี่ พี่ไม่คิดบ้างหรอ ว่าเขาก็จะขับรถตามมาทำกับพี่ถึงในซอยตันนี้
.
ตอนแรกเขาก็ไม่เชื่อ แต่ด้วยความที่มันไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ถ้าไม่ทำก็เจ๊ง ก็เลยลองทำดู
.
ผลปรากฎว่าผ่านไป 1 เดือน ตอนนี้ร้านต่อขนตาแห่งนี้ ถ้าคุณจะทำแต่ละที บอกเลยว่าต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ที่สำคัญ ตั้งแต่เปิดร้านยันปิดร้าน ร้านของพี่ก้อยก็ไม่เคยว่างเว้นจากลูกค้าเลย เพราะเมื่อลูกค้าคนปัจจุบันทำเสร็จ ก็จะมีคิวต่อไปมานั่งรอทันที
.
หลังจากพี่ก้อยคิวเต็ม จนไม่ค่อยมีเวลาคุยกับผม ผมจึงแกล้งถามติดตลกว่า “พี่ยังอยากจะกลับไปจ่ายเงินเช่าร้านแพงๆ ทำเลดีๆ อีกไหม ?”
.
ซึ่ง คุณก็คงรู้ดี ว่าพี่เขาจะตอบผมอย่างไร
.
ผลการ “ทดสอบ” ทั้งหมดนี้ ทำให้ผมมั่นใจแล้วว่า วิชาความรู้จากประสบการณ์ของผม ทุกคนสามารถนำไปใช้ให้เกิดผลลัพธ์ได้จริง ผมจึงกลั่นออกมาเป็น 9 บทเรียน ที่คนอยากสำเร็จในธุรกิจออนไลน์ต้องใช้ และขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไปไม่ได้ ประกอบด้วย
.
1. เทคนิคปิดการขาย ให้ลูกค้าอยากซื้อ โดยที่คุณไม่ต้องง้อ
.
เพราะสิ่งแรกที่คนทำธุรกิจต้องมี คือ คุณต้องขายเป็น เพราะถ้าคุณขายไม่เป็น ก็อย่าหวังเลยครับว่าจะทำธุรกิจออนไลน์หรือเขียนคอนเทนต์ให้คนอยากซื้อได้ เพราะขนาดขายต่อหน้าที่ลูกค้ายังมีความเกรงใจยังทำไม่ได้ แล้วนับประสาอะไรกับการขายผ่านตัวอักษร
.
2. Content Marketing
.
ถ้าคุณขายเป็นแล้ว สิ่งนี้จะทำให้ยอดขายของคุณทวีคูณ เพราะมันเหมือนคุณเอาวิชาการขายไปสร้าง Content แล้วให้ Content ไปช่วยขายแทนคุณ ไม่ต่างกับการมีพนักงานขายนับพัน คุณคิดดูว่าถ้าคุณขายลูกค้า 1 คนได้ แล้ว Content ของคุณที่สามารถเข้าถึงคนเป็นล้าน จะช่วยทำเงินให้คุณได้มากขนาดไหน
.
3. การเขียนโพสต์ขายแบบป้ายยา แบบสมองไหล ที่ใครอ่านแล้วต้องรีบกดสั่งซื้อทันที
.
ถ้าคุณเป็นคนที่เคยอ่านโพสต์ขายของผม แล้วรู้สึกเคลิ้มเหมือนโดนป้ายยา รู้ตัวอีกที คือ โอนเงิน แล้ว วันนี้คุณจะเป็นคนที่ทำแบบนั้นได้ครับ เพราะผมจะเปิดเผยมันแบบหมดเปลือกซึ่งไม่ใช่แค่วิธีการ แต่จะสอนแบบขั้นลึกถึงกระบวนการเลย
.
4. การเขียน Copy Writing หรือ โพสต์ขายทองคำ ให้ใช้ทำยอดขายได้ยาว 5 ปี ในโพสต์เดียว (จากผู้เชี่ยวชาญ)
.
เท่านั้นยังไม่พอ ผมยังเชิญผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเขียน Copy writing ตัวท็อปของประเทศ ที่สามารถเขียนโพสต์สร้างยอดขายหลักร้อยล้าน ด้วยโพสต์ขายเพียงโพสต์เดียว แถมยังใช้โพสต์เดิมทำเงินมามากกว่า 5 ปี บอกเลยว่าแค่คุณได้เรียนบทนี้ ก็คุ้มเกินคุ้มแล้ว
.
5. การทำรูปด้วย Canva จากมือถือเครื่องเดียว
.
ภาพที่สะดุดตา คือ ส่วนสำคัญของการทำธุรกิจออนไลน์ เพราะมัน คือ ตัวตัดสิน ว่าลูกค้าจะหยุดนิ้วดูคุณไหม แต่การจะทำภาพให้สวยแบบดีไซน์เนอร์ที่ใช้โปรแกรม Adobe ก็ดูจะไกลตัวใครหลายคน แต่ข่าวดีคือ ยุคนี้เรามีแอพพลิเคชั่น Canvas ซึ่งช่วยให้คุณสามารถทำรูปออกมาได้พรีเมี่ยมด้วยมือถือเครื่องเดียว ซึ่งผมได้เชิญผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้มาเช่นกัน รับรองเลยว่าเมื่อจบคอร์สแล้ว เพจของคุณจะยกระดับเป็นธุรกิจพรีเมี่ยมได้อย่างแน่นอน
.
6. การตลาด เพิ่มยอดขาย โดยไม่ต้องหาลูกค้าเพิ่ม
.
การตลาดที่ดีจะทำให้ธุรกิจดีๆ โตแบบก้าวกระโดด บทนี้จะทำให้คุณสามารถขายดีได้ตลอดทั้งปี ไม่มีตก อะไรที่คุณเคยพลาด เงินตราที่คุณเคยทำหล่นหาย บทนี้จะเก็บกลับมาให้หมด หรือ ถ้าคุณเคยขายของได้ 1 ชิ้นต่อลูกค้า 1 คน บทนี้จะช่วยให้ลูกค้าจ่ายเงินซื้อของจากคุณเพิ่มอีก 2 ชิ้น จนยอดขายของคุณเติบโตได้ 2-10 เท่า แบบไม่ต้องเหนื่อยหาลูกค้าใหม่เลย
.
7. Data driven การวิเคราะห์ดาต้าหาความต้องการของลูกค้าได้อย่าง เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างแม่นยำ เน้นยอดขาย
.
พูดถึง Data อย่าเพิ่งตกใจ ผมไม่ได้จะสอนคุณทำ Big data เพื่อไปทำ AI แต่อย่างใด แต่ผมกำลังช่วยให้การทำธุรกิจของคุณประหยัด แม่นยำ และ ได้ผลลัพธ์มากขึ้น
.
ยกตัวอย่าง เช่น ถ้าวันนี้คุณขายรองเท้าผ้าใบ เพียงแค่คุณใช้ระบบ (ซึ่งผมจะสอน และ มันง่ายมาก) เก็บข้อมูลว่าลูกค้าคนนี้ ชื่ออะไร อายุเท่าไหร่ เพศอะไร ซื้อของวันไหน อยู่จังหวัดอะไร และ ใช้งานรองเท้าลักษณะใด
.
สมมติว่าลูกค้าคนนี้ เป็นคนทำงานอายุ 25-30 ปี ในกรุงเทพฯ มันเป็นไปได้ว่าเขาจะใช้วิ่งในลู่ที่ฟิตเนส นั่นหมายความว่าเมื่อเขาใช้รองเท้าไป 1 เดือน มันอาจจะเริ่มมีกลิ่น มันก็มีโอกาสที่ลูกค้าจะต้องการมองหาสเปรย์ดับกลิ่น แล้วถ้าคุณยิงโฆษณาขายสเปรย์ดับกลิ่นตรงไปที่ลูกค้าคนนี้ มันก็มีโอกาสที่เขาจะซื้อของจากคุณเพิ่ม
.
แต่ถ้าเขาอยู่ต่างจังหวัด สมมติว่าเป็นภาคใต้ที่ฝนตก และ ส่วนใหญ่เขาใส่วิ่งในสวนสาธารณะ ซึ่งอาจจะมีน้ำขังตามพื้นถนน ถ้าคุณยิงโฆษณาสเปรย์กันน้ำไปหาเขาล่ะ คุณก็จะมีโอกาสได้เงินจากลูกค้าคนนี้เพิ่มจริงไหม ?
.
ทุกวันนี้มีแต่คนบ่นว่าค่าแอดแพง คุณลองคิดดูครับ ว่าถ้าคุณยิงแอดด้วย Data แบบนี้ แอดมันยังจะแพงอยู่ไหม เพราะสาเหตุที่แอดแพง เกิดจากการยิงแบบหว่านเงินทิ้งไปเรื่อยต่างหาก
.
8. การยิงโฆษณาขั้นสูง ให้ได้ผลมาก แต่ค่า Ad ถูก
.
หรือ พูดง่ายๆ คือ การยิงแอดนั่นแหละ แต่ในคลาสนี้ผมไม่ได้จะมาสอนยิงแอดแบบที่มีกันตามยูทูบทั่วไป แต่จะสอนการยิงเชิงกลยุทธ์ และเปิดเผยความลับ ของคนที่ “ยิงแอดร้อย ได้ล้าน” ว่าอันดับแรกคุณต้องยิงหาลูกค้าใหม่ยังไง แล้วเมื่อได้กลุ่มเป้าหมายแล้ว จะทำยังไงให้เขาอยากซื้อของจากเรา แล้วถ้าเขายังไม่ซื้อล่ะต้องทำยังไง หรือ แม้แต่การยิง Ads หาลูกค้าเก่าที่ห่างหายไปให้กลับมาซื้อของๆ เราต้องทำยังไง เทคนิคเหล่านี้จะช่วยคุณประหยัดทั้งค่าแอดและโปรโมชั่นได้เยอะมาก เพราะคุณจะยิงแอดนำส่งโปรโมชั่น ไปหาลูกค้าแค่บางกลุ่ม ไม่ได้ยิงไปหาทุกคน ซึ่งอาจจะเป็นลูกค้าที่ห่างหายไป หรือ ลูกค้ากลุ่มอื่นๆ ที่คุณต้องการ เท่านั้น ซึ่งทุกอย่างมีสูตรที่สามารถนำไปใช้ได้เลย
.
แล้วอย่างนี้ ค่าแอดจะยังแพงอยู่อีกไหม ?
.
9. กลยุทธ์สร้างความแตกต่างทางธุรกิจ โดยไม่ต้องแข่งราคา
.
สิ่งที่คนทำธุรกิจทุกคนต้องการมากที่สุด คือ “ความยั่งยืน” เพราะต่อให้คุณทำ 8 ข้อก่อนหน้านี้ดีแค่ไหน แต่สิ่งที่วัดว่าคุณจะยืนระยะได้นานเท่าไหร่ คือ โมเดลธุรกิจ
.
เพราะเราจะไม่ได้ทำธุรกิจแบบฉาบฉวยแค่วันนี้ พรุ่งนี้ แต่เราจะต้องทำให้มันยั่งยืนจนสามารถส่งต่อให้รุ่นลูกรุ่นหลานได้ และ แน่นอนถ้ามันจะต้องไปถึงรุ่นลูกหลาน มันต้องไม่แข่งราคา เพราะถ้าต้องแข่งราคาคุณจะไม่มีวันชนะ และ จะต้องล้มหายตายจากไปในที่สุด
.
ซึ่งนี่แหละ คือ สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจอะไรก็ตาม
.
อย่างคำกล่าวที่ว่า...
.
✅ ถ้าคุณอยากเหนื่อยตลอดชีวิต ให้เน้นที่ การขาย
.
✅ ถ้าคุณอยากเหนื่อยน้อยหน่อย ให้เน้นที่ Marketing
.
✅ แต่ถ้าอยากยืนระยะยาวๆ และ ส่งต่อเป็นมรดกได้ จงสร้างแบรนด์
.
ซึ่งผมจะเป็นคนช่วยคุณตอกเสาเข็มต้นแรก ต้นที่สอง และ ต้นที่สาม นี้ ให้จนครบเอง
.
สุดท้ายนี้ ผมอยากจะบอกทุกคนว่า นี่คือ ปีสุดท้ายแล้วที่คุณจะสามารถเข้ามาทำธุรกิจบนออนไลน์ได้แบบง่ายๆ (แม้ก่อนหน้านี้จะง่ายกว่า) เพราะอย่างที่รู้กันดีว่าตอนนี้ Apple ออก IOS 14.6 ซึ่งปิดกั้นการเก็บข้อมูลพฤติกรรมส่วนตัว ทำให้การยิงแอดทำได้ยากขึ้น ซึ่งนี่เป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น แต่มันก็ส่งสัญญาณบางอย่างแล้วว่า เทรนต่อจากนี้บริษัทสมาร์ทโฟนจะให้ความสำคัญกับ “ความเป็นส่วนตัว” มากขึ้นเรื่อยๆ และ ถ้าการเปลี่ยนแปลงของ Apple ในครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อยอดขายสมาร์ทโฟนของค่ายอื่น มันก็มีโอกาสสูงมากที่ค่ายอื่นจะทำตาม
.
นั่นหมายความว่าต่อจากนี้การทำออนไลน์แบบเดิมจะไม่ได้ผลแล้ว คนที่ทำออนไลน์อยู่แล้ว ถ้าวันนี้คุณหยุดยิงแอดแล้วยอดขายหายไป นั่นคือ สัญญาณว่าธุรกิจและแบรนด์ของคุณกำลังอ่อนแอลง สิ่งเดียวที่จะทำให้ธุรกิจออนไลน์ของคุณยั่งยืน คือ การทำให้แบรนด์ของเราไปอยู่ในใจของลูกค้า ทำให้เขานึกถึงเราเมื่อนึกถึงเรื่องนั้น แล้วเมื่อเขาต้องการสิ่งนั้น เขาจะมาหาเราเองโดยไม่ต้องร้องขอในแบบที่สมองไหลทำอยู่ คือ ไม่ต้องยิงแอด แต่เมื่อไหร่ที่ลูกค้าต้องการหนังสือ เขาจะกดมาที่เพจสมองไหลเอง
.
แต่ถ้าวันนี้คุณยังไม่ได้ทำออนไลน์ นี่คือ จุดที่อันตรายอย่างยิ่ง เพราะพฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนไปแล้ว และ จะไม่มีวันกลับมาเหมือนเดิมอีก
.
ยกตัวอย่าง ถ้าวันนี้ผมอยากซื้อกระเป๋า ผมจะไม่เดินไปหาตามห้าง จะไม่เดินไปพันทิป จะไม่ขับรถวนหาร้านขายกระเป๋าอีกแล้ว
.
แต่ผมจะเสิร์ชหาข้อมูลบนออนไลน์ก่อน ว่าที่ไหนมีของที่ผมถูกใจบ้าง แล้ว “ตัดสินใจตั้งแต่ที่บ้าน” ว่าจะซื้อของชิ้นไหน ที่ร้านไหน แล้วถึงจะขับรถไปซื้อ
.
นั่นหมายความว่า ร้านที่ผมจะไม่เดินทางไปซื้อ มี 2 กรณี คือ
.
1. ผมไม่ได้ถูกใจ
2. ผมไม่เจอร้านนั้น ตั้งแต่ในออนไลน์ เมื่อผมไม่เจอ ร้านนั้นก็ไม่อยู่ในชีวิตของผม
.
จะเห็นว่าพฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนไปแล้ว ยิ่งโควิดเข้ามาเร่งการเปลี่ยนแปลงนั้นให้เร็วขึ้นไปอีก ที่สำคัญ การเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนเลย และ จะไม่มีวันกลับมาเหมือนเดิมอีก
.
ถ้ายังทำธุรกิจแบบเดิม ลูกค้าจะหายไปจากชีวิต และ ไม่มีวันกลับมาอีก ต่อให้วันนี้คุณจะลดราคา หรือ ขายของราคาถูกแค่ไหน เขาก็ไม่ซื้อของคุณ เพราะเขาไม่เจอคุณบนออนไลน์ ตามพฤติกรรม การซื้อของเขา ซึ่งเมื่อเขาไม่เจอ เขาก็ไม่รู้ ไม่เห็น แล้วเขาจะไปซื้อได้ยังไงล่ะ จริงไหม ?
.
อย่างที่ บิล เกตส์ เคยกล่าวเอาไว้ว่า “ถ้าธุรกิจของคุณไม่ได้อยู่บนอินเทอร์เน็ต นั่นแสดงว่าธุรกิจของคุณกำลังจะเจ๊ง” นั่นแหละครับ
.
ดังนั้น ถ้าคุณอยากไปต่อ ต้องเปลี่ยนแปลงครับ ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจอะไรก็ตาม คุณจำเป็นต้องเข้ามาในออนไลน์โดยด่วน ก่อนจะหมดเวลา เพราะสิ่งนี้เเหละ จึงทำให้ผมโต 10 เท่า และ ลาออกจากงานประจำได้ แม้อยู่ในช่วงโควิดก็ตาม
.
ถ้าคุณอยากจะลุยต่อไปกับผม และ เพื่อนๆ ชาว Online Signature ก็เข้ามาลุยด้วยกันในคลาสได้เลยครับ
.
เพราะสิ่งที่คุณจะได้จากคลาสนี้ คือ แก่นทั้งหมด เมื่อขึ้นชื่อว่า “แก่น” นั่นหมายความว่า มันจะเปลี่ยนแปลงน้อยมาก และคุณจะใช้มันกับธุรกิจไปได้ตลอดอย่างน้อยที่สุดก็ 10 ปี
.
โดยคลาสนี้ ผมจะเริ่มเปิดรับสมัคร Pre-order ในวันที่ 3 มิถุนายน นี้
.
แต่ถ้าคุณ คือ คนที่อ่านมาถึงตรงนี้ขอแสดงความยินดีด้วยครับ เพราะคุณจะได้สิทธิ์รับ “ราคาพิเศษ” ไปทันที ซึ่งจะไม่มีใครได้ราคาที่ดีไปกว่านี้อีกแล้ว เพราะราคาจะถูกปรับขึ้นเรื่อยๆ
.
โดยคลาส Online Signature จะเรียนแบบสดผ่าน Live ในกลุ่มเฟซบุ๊ก ดูย้อนหลังได้ตลอดชีวิต พร้อม Section ถาม/ตอบ
.
- ราคาเต็มอยู่ที่ 46,000 บาท
- ช่วงโปรโมชั่น 24,000 บาท
.
แต่สำหรับคนที่ทักมา 20 คนแรก
.
✅ ราคาพิเศษเพียง 9,640 บาท เท่านั้น
.
และ รับฟรีอีก 2 โบนัส คลาส คือ
.
✅ Bonus class : วิธีทดลองตลาด หาสินค้ามาขาย สร้างธุรกิจได้ โดยไม่ต้องใช้เงินทุน
.
✅ Bonus class : เคล็ดลับทำให้คุณขายดีตลอดทั้งปี ไม่มีตก
.
สำหรับใครที่มีหนังสือ งานประจำสอนทำธุรกิจ พร้อมลายเซ็นของผม สามารถนำมาใช้เป็นส่วนลดได้อีก 500 บาท นะครับ
.
✅ **ย้ำอีกที ว่าถ้าทักมา เป็นคนที่ 21 จะไม่ใช่ราคานี้แล้วนะครับ
.
✅ รีบทักมาได้เลยครับที่ Line : @samounglai
.
เพราะถ้าช้าไปกว่านี้ ราคาจะปรับขึ้นเรื่อยๆ และ ปรับขึ้นจริงๆ เพราะถ้าคุณติดตามเพจสมองไหลมา คุณจะรู้ดีว่า ปกติผมจะไม่ลดราคานานๆ
.
** ทั้งหมดนี้จะเริ่มเปิดคลาสวันที่ 19 มิถุนายน 2564
และ จะเริ่มเรียนแบบเข้าเนื้อหาหลักกันวันที่ 26 มิถุนายน 2564 นี้
.
แล้วเจอกันในคลาสนะครับ ^^