British East India บริษัทที่เติบโต และล่มสลาย ใน 274 ปี / โดย ลงทุนแมน
ระบบทุนนิยม เป็นระบบเศรษฐกิจระดับประเทศ ว่าด้วยการที่บริษัทเอกชน
มีเสรีภาพที่จะเป็นเจ้าของปัจจัยการผลิตทั้งสินค้าและบริการ
และแน่นอนว่าบริษัทเหล่านี้ มีเป้าหมายตรงกันคือ “การแสวงหาผลกำไร”
หนึ่งในวิธีการทำความเข้าใจเกี่ยวกับระบบทุนนิยมคงไม่พ้นการศึกษาประวัติศาสตร์
วันนี้เรามารู้จักกับบริษัทที่เคยดำเนินกิจการมายาวนานกว่า 274 ปี
และมีการพึ่งพาระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม จนสามารถเติบโต
กลายเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรปในช่วงเวลาหนึ่ง
บริษัทนี้ มีชื่อว่า “British East India Company”
แล้วบริษัทแห่งนี้ ทำธุรกิจอะไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
บริษัท British East India ก่อตั้งขึ้นจากการร่วมทุนระหว่างพ่อค้าและชนชั้นสูงในประเทศอังกฤษ
ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1600 ผ่านการพระราชทานตราตั้งบริษัท โดยสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1
British East India มีลักษณะธุรกิจคือ การเดินเรือไปยังประเทศแถบตะวันออก
ซึ่งประเทศแรกก็คือ ประเทศอินเดีย โดยบริษัทแห่งนี้จะเข้าไปหาซื้อสินค้า
เพื่อนำกลับมาขายที่ประเทศอังกฤษ รวมถึงอีกหลายประเทศแถบยุโรป
อย่างไรก็ตาม British East India ไม่ได้เพียงแต่จะหาสินค้าเพื่อนำเข้ามาตีตลาดเท่านั้น
แต่บริษัทมีแนวคิดในการผูกขาดสินค้าต่าง ๆ เพื่อโอกาสที่จะสร้างกำไรสูงที่สุดให้กับบริษัทอีกด้วย
โดยการที่จะผูกขาดการค้าได้นั้น British East India ต้องควบคุมเส้นทางการค้าสำคัญให้ได้ก่อน
ในสมัยนั้นก็คือ “เส้นทางเดินเรือ”
รวมถึงต้องใช้อำนาจในการผลักดันสินค้าให้เป็นที่รู้จักของชาวตะวันตก
เพื่อให้สินค้าที่นำเข้ามาขายกลายเป็นสินค้าสามัญประจำบ้านที่คนทั่วไปขาดไม่ได้
ซึ่งบริษัทแห่งนี้ก็ทำได้ไม่ยาก เพราะได้รับการสนับสนุน และการอำนวยความสะดวกจากรัฐบาล
แล้ว British East India เดินเรือไปนำสินค้าอะไรกลับมาจากอินเดียบ้าง ?
บริษัทได้เริ่มเข้าไปล่าอาณานิคมบริเวณ “อนุทวีปอินเดีย” ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ประเทศอินเดีย ไปจนถึงหมู่เกาะอินโดนีเซีย โดยอนุทวีปอินเดียแห่งนี้ ถือเป็นแหล่งผลิตสินค้าสำคัญ เช่น ผ้าฝ้ายอินเดีย เครื่องเทศ รวมถึงแรงงานทาสราคาถูก
และด้วยความที่ผ้าฝ้ายอินเดียมีลักษณะพิเศษ คือ มีน้ำหนักเบา ทำความสะอาดได้รวดเร็วและราคาถูก
บริษัท British East India จึงได้ไอเดียที่จะผลักดันให้คนอังกฤษหันมาใช้ผ้าฝ้ายอินเดีย
ซึ่งสมัยนั้นถือเป็นสินค้าแปลกใหม่ และยังไม่เคยมีชาวอังกฤษคนไหนรู้จักมาก่อน
บริษัทใช้วิธีการโฆษณาเพื่อบ่งบอกถึงสรรพคุณ รวมถึงนำไปเปรียบเทียบกับสินค้าดั้งเดิมอย่าง
“ผ้าขนแกะ” ที่นิยมใช้กันที่ประเทศอังกฤษ โดยได้อ้างว่าผ้าฝ้ายจากอินเดียดีกว่า และถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า
ในขณะเดียวกันก็ได้นำเสนอชาวอังกฤษว่า ผ้าฝ้ายอินเดียยังสามารถใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับเครื่องแต่งกาย ผ้าเช็ดหน้า ไปจนถึงผ้าปูเตียง ซึ่งมีความหลากหลายในการนำไปประยุกต์ใช้
ทำให้หลังจากนั้นชาวอังกฤษเริ่มหันมาให้ความสนใจกับผ้าฝ้ายอินเดีย จนกระทั่งมันได้กลายมาเป็นวัตถุดิบสำคัญในประเทศอังกฤษ
และด้วยความที่ British East India มีพันธมิตรเป็นรัฐบาล บริษัทจึงมีอำนาจการปกครองกองกำลังเรืออังกฤษภายในประเทศอินเดีย
นั่นหมายความว่าบริษัทสามารถกีดกัดบริษัทเดินเรือรายอื่นจนสามารถทำกำไรได้มหาศาลเพราะไร้คู่แข่ง และเรื่องนี้เองก็ได้นำมาสู่ความรุ่งเรืองของบริษัท จนในช่วงนั้น British East India ถือเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป
ต่อมา บริษัทก็ยังเฟ้นหาแหล่งผลิตสินค้าสามัญ ที่เหมือนกับผ้าฝ้ายอินเดีย
เพื่อนำไปขายทำกำไรต่อที่อังกฤษและประเทศแถบยุโรปตะวันตก
ยกตัวอย่างวัตถุดิบสำคัญเช่น เครื่องเทศ, ใบชาอินเดีย (ชาอัสสัม), สีย้อมผ้า, เกลือ และดินประสิว
และเมื่ออำนาจทางกองเรือจักรวรรดิอังกฤษ ได้ขยายอาณาเขตเข้าไปสู่เอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
บริษัท British East India ก็ได้นำกองกำลังทหารเรืออังกฤษมาควบคุมเส้นทางเดินทะเลในอาณาเขตที่ขยายไปด้วยจนทำให้เกิดความขัดแย้งกับประเทศล่าอาณานิคมอื่น ๆ
ยกตัวอย่างเช่น การปะทะกันของกองเรืออังกฤษ กับกองเรือของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ของฝรั่งเศส
บนหมู่เกาะเครื่องเทศ ในปี ค.ศ. 1804 รวมถึงการยึดเกาะชวาจากเนเธอร์แลนด์ ในปี ค.ศ. 1811
ความสำเร็จจากอินเดีย ได้ทำให้ British East India มองไปยังเป้าหมายใหม่ ซึ่งจุดหมายปลายทางต่อไป ก็คือ ประเทศจีน
โดยสินค้าสำคัญที่บริษัทเล็งเห็นคือ ผ้าไหมดิบ, เครื่องกระเบื้อง และใบชาของจีน ซึ่งก็ถูกนำไปขายในทวีปยุโรปในเวลาต่อมา
อ่านมาถึงตรงนี้ ก็ต้องบอกว่า British East India เป็นบริษัทที่มีส่วนสำคัญ
ที่ทำให้เกิดวัฒนธรรมต่าง ๆ ในยุโรปหลายประเทศ ซึ่งสินค้าหลายตัวก็มีให้เราพบเห็นในปัจจุบัน
ยกตัวอย่างเช่น ชาเอิร์ลเกรย์
ที่จริง ๆ แล้ว มีต้นกำเนิดมาจากชาดำเจิ้งซานเสียวจ่ง จากประเทศจีน
แต่ก็ได้ถูกชาวอังกฤษนำไปผสมกับน้ำมันมะกรูด
จนกลายมาเป็นชาเอิร์ลเกรย์ ที่เรารู้จักกันอยู่ในทุกวันนี้
นอกจากชาเอิร์ลเกรย์แล้ว ก็ยังมีเบียร์อินเดียเพลเอล (IPA) และเหล้าจินโทนิค จากประเทศอินเดีย อีกเช่นกัน
แต่ในอีกมุมหนึ่ง British East India ก็ได้สร้างความเหลื่อมล้ำทางสังคม
โดยเฉพาะในประเทศอินเดีย และประเทศขนาดเล็กอื่น ๆ ที่อยู่ใต้อาณานิคม
รวมไปถึงการผลักดันสินค้าอันตราย เพื่อหวังแต่การทำกำไร เช่น
การนำเข้ายาเสพติดประเภทฝิ่นในประเทศจีน และเอเชียตะวันออก
จนเป็นชนวนทำให้เกิดสงครามฝิ่น (Opium War) ระหว่างจีนกับอังกฤษในสมัยต่อมา
แล้ว British East India มีจุดจบอย่างไร ?
การที่บริษัท British East India ที่ใช้ระบบทุนนิยม แต่กลับต้องพึ่งพารัฐบาลจากอังกฤษมากเกินไป
จนไม่ต่างอะไรไปจากผู้ผูกขาด ก็เปรียบเสมือนดาบสองคม
ในวันที่เศรษฐกิจของอังกฤษรุ่งเรือง ทุกอย่างก็ดีไปหมด
แต่ในวันที่ไม่เป็นแบบนั้น British East India ก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย
หลังจากที่บริษัทแห่งนี้ทำธุรกิจมาได้ยาวนานกว่า 200 ปี
เศรษฐกิจของจักรวรรดิอังกฤษก็เริ่มฝืดเคือง สืบเนื่องจากการเริ่มมีกลุ่มผู้ต่อต้านการขยายอำนาจของอาณานิคมอังกฤษ จนเกิดการกบฏอยู่หลายต่อหลายครั้ง
รวมถึงค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการทำสงครามต่าง ๆ ที่อังกฤษต้องเผชิญในช่วงนั้น
ยกตัวอย่างเช่น สงครามฝิ่นกับประเทศจีน หรือสงครามไครเมียกับจักรวรรดิรัสเซีย
นั่นจึงทำให้ประเทศอังกฤษต้องหันไปขูดรีดเหล่าประเทศที่อยู่ใต้อาณานิคม มากขึ้นกว่าเดิม
ด้วยการเพิ่มภาษี ขึ้นราคาสินค้าสามัญที่ผูกขาด บังคับให้เกิดสนธิสัญญาที่ไม่เป็นธรรมต่าง ๆ
เหตุการณ์สำคัญต่อมา คือ การเกิดกลุ่มกบฏเพื่อเอกราชของอินเดียครั้งยิ่งใหญ่ (The Great Mutiny)
ซึ่งเป็นการรวมตัวของ กลุ่มชาตินิยมของอินเดีย ที่เริ่มออกมาแสดงจุดยืนต่อต้านบริษัท British East India และอาณานิคมอังกฤษ
เรื่องนี้จึงทำให้รัฐบาลอังกฤษ ต้องทำการลดทอนอำนาจของบริษัท British East India ลง
เพื่อเข้าไปบริหารธุรกิจและการปกครองในประเทศอินเดียเองทั้งหมด
ซึ่งนั่นทำให้ British East India ต้องถึงจุดล่มสลาย จากพระราชบัญญัติรัฐบาลอินเดีย ค.ศ. 1858 ที่ออกมาภายหลังกบฏอินเดีย ว่าด้วยอำนาจการปกครองอนุทวีปอินเดีย ให้บริษัท British East India มาขึ้นกับราชสำนักอังกฤษโดยตรง
หลังจากนั้น บริษัท British East India จึงได้ปิดตัวลง ในวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 1874
และกลายเป็นกรณีศึกษาของบริษัทที่เติบโต และล่มสลาย ภายใน 274 ปี
ที่ก็เรียกได้ว่าเป็นรากฐานการวิวัฒนาการของระบบทุนนิยมในช่วงเริ่มต้น ให้เราได้ศึกษากัน..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-หนังสือ British East India Company โดยคุณปรีดี หงษ์สตัน
-บทความชุด “ความรุ่งเรืองและถดถอย ของ บริษัทบริติชอีสต์อินเดีย” เขียนโดย ดร.ทศพร มะหะหมัด
-https://www.matichon.co.th/columnists/news_1132417
-https://en.wikipedia.org/wiki/East_India_Company
-http://www.polsci-law.buu.ac.th/pegjournal/document/3-1/6.pdf
同時也有2部Youtube影片,追蹤數超過56萬的網紅PHOLFOODMAFIA,也在其Youtube影片中提到,รายการพลพรรคนักปรุง 6 กันยายน 2019 กดติดตาม หรือ subscribe YOUTUBE ช่อง PHOLFOODMAFIA http://bit.ly/2kYY1KR รายการพลพรรคนักปรุงสามารถเข้ามาพูดคุยกันได...
「ชาอัสสัม」的推薦目錄:
- 關於ชาอัสสัม 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
- 關於ชาอัสสัม 在 Iloveaday's blog ครบเครื่องเรื่องผู้หญิง Facebook 的最佳貼文
- 關於ชาอัสสัม 在 ผู้บริโภค Facebook 的最佳解答
- 關於ชาอัสสัม 在 PHOLFOODMAFIA Youtube 的最讚貼文
- 關於ชาอัสสัม 在 feelthai Youtube 的最佳貼文
- 關於ชาอัสสัม 在 "ชาอัสสัม" (Assam Tea) คือชาดำ... - รู้เฟื่องเรื่องชา | Facebook 的評價
ชาอัสสัม 在 Iloveaday's blog ครบเครื่องเรื่องผู้หญิง Facebook 的最佳貼文
สายปาร์ตี้จะต้องถูกใจสิ่งนี้ เพราะนี่คือ Party Box ชานมไข่มุก bo.baa.bar เสิร์ฟชานมไข่มุกง่ายๆ ด้วยตัวเอง จะตักไข่มุกเยอะแค่ไหนก็ด้ายยย จริงๆ เค้ามีหลายเมนูมากกก น่าทานสุดๆ มาในกล่องที่บรรจุชานมและไข่มุกข้างใน เปิดก๊อกรินใส่แก้วได้เลย สะดวกสุดๆ
อ๊อฟแนะนำตัว Signature ชานมทิกวนอิมลาเต้ เป็นชาคั่วหอมๆ มีกลิ่นไหม้นิดๆ รสชาติเค้าจะคล้ายชาอู่หลง แต่ว่าตัวนี้เค้ามีเอกลักษณ์เฉพาะตัวกว่า เป็นชานมหวานกำลังดีทานคู่กับเฉาก๊วยนุ่มๆ ผสมน้ำผึ้ง
ฟินมากกก
อีกตัว Classic Black Tea Late เป็นชาดำเบลน กลิ่นจะคล้ายๆ ชาอัสสัม หอม เข้มข้นกว่า ทานคู่กับไข่มุก brown Sugar หนุบหนับหวานน้อย อร่อยมากกก
ความพิเศษของร้านนี้คือ ไข่มุกหวานน้อย ปั้นสด
ไร้สารกันเสีย กันเชื้อรา ไม่มีกลูเตน ไม่มีสารฟอกซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ไม่ผสมครีมเทียมและนมข้น ไม่แต่งสี ไม่เติมกลิ่น แถมแก้วและหลอดยังย่อยสลายได้ด้วย
Size M 3 ลิตร (15-20 เสิร์ฟ) 899 บาท/เซ็ต
Size L 5 ลิตร (25-30 เสิร์ฟ) 1,399 บาท/เซ็ต
จัดส่งพร้อมแก้วและหลอด (ไม่มีน้ำแข็งให้น้าาา)
ค่าส่งคิดตามระยะทาง
จัดส่งภายใน 2 ชม.
จัดส่งทุกวัน 08.00 - 20.00 น.
ชาอัสสัม 在 ผู้บริโภค Facebook 的最佳解答
สารภาพตามตรงเลยว่าเพราะกระแสชาวิตามินซีที่รีวิวในทวิตเตอร์มันพามา
เลยต้องมาลองชาวิตามินซี ของร้านกาแฟโบราณมังกรบินในตำนาน
.
ปกติก็จำได้แต่กาแฟโบราณมังกรบินที่เป็นร้านขายตามซอย ซึ่งเราเห็นกันตั้งแต่เด็กๆ...เกิดทันและรู้จักกันตั้งแต่ใส่ถุงหูหิ้ว จนมาถึงใส่กระติก
แม่งไปๆมาๆเพิ่งรู้ว่ากาแฟมังกรบินมีอายุถึง 73 ปีแล้วไปแล้ว คือแก่กว่าพ่อพี่งัวอีก !!!!
.
มาว่ากันเรื่องชาวิตามินซีกันบ้าง
จริงๆมันชื่อว่า ชาอัสสัม-วิตซี200% แม่มตั้งแต่เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่เพิ่งเคยได้กินชาวิตามินซีจากอันนี้แหละ
มันคือชาส้มแมนดาริน ให้ฟีลแบบชามะนาวแต่ไม่เปรี้ยวเท่ามะนาว แถมละมุนกว่า ที่สําคัญคือหอมกลิ่นใบชาอัสสัมปนๆกันกับกลิ่นของส้มแมนดารินและมีประโยชน์ตรงที่เขาใส่วิตามินซี 200% ผสมมากับชาเลย ซึ่งเราก็รู้ๆกันอยู่ว่าวิตามินซีมีประโยชน์ต่อร่างกายยังไงคงไม่ต้องเล่าให้ยาวนะ
.
โดยรวมชอบนะ ฟีลเหมือนกินชามะนาว(หมายถึงรสชาตินะ) แต่มันคือชาส้มแมนดาริน สดชื่นดี ฉีกกฎชาไทยใหม่หมด
ราคาจำไม่ได้(ใครจำได้ช่วยบอกหน่อย)
แบบนี้ก็ดี จะได้กินได้โดยไม่รู้สึกผิดอีกต่อไป 5555+
#ผู้บริโภค
ชาอัสสัม 在 PHOLFOODMAFIA Youtube 的最讚貼文
รายการพลพรรคนักปรุง 6 กันยายน 2019
กดติดตาม หรือ subscribe YOUTUBE ช่อง PHOLFOODMAFIA http://bit.ly/2kYY1KR
รายการพลพรรคนักปรุงสามารถเข้ามาพูดคุยกันได้ที่
ติดตามสูตรในเวปไซต์ : https://www.pholfoodmafia.com
Facebook: PHOLFOODMAFIA - พลพรรคนักปรุง
IG: PHOLFOODMAFIA
เอแคลร์หงส์ไส้รอยัลมิลก์ที
Royal Milk Tea Swan Choux
เอแคลร์รูปหงส์คอยาวสวยสง่า เสิร์ฟมาพร้อมกับมูสรอยัลมิลก์ที (Royal Milk Tea) หรือชานมซึ่งมีส่วนผสมของชาอัสสัมเป็นหลัก
แป้งเอแคลร์
• น้ำสะอาด 160 มิลลิลิตร
• นมข้นจืดตรานกหยี่ยวฟอลคอน40 มิลลิลิตร
• เนย 100 กรัม
• เกลือ ¾ ช้อนชา
• น้ำตาลทราย 8 กรัม
• แป้งสาลีอเนกประสงค์ 120 กรัม
• ไข่ไก่ 4 ฟอง
• น้ำตาลไอซิง สำหรับโรยหน้า
มูสรอยัลมิลก์ที
• ชาอัสสัม ¼ ถ้วย
• นมข้นจืดตรานกเหยี่ยวฟอลคอน400 มิลลิลิตร
• น้ำสะอาด 60 มิลลิลิตร
• ไข่แดง 4 ฟอง
• แป้งข้าวโพด 35 กรัม
• น้ำตาลทราย 80 กรัม
• เจลาติน 4 แผ่น
• ครีม 250 มิลลิลิตร
1. ทำแป้งชูหงส์ โดยเปิดเตาอบที่ 190 องศาเซลเซียส โปรแกรมพัดลม เตรียมถาดอบสองถาด
2. นำนมข้นจืดในส่วนของแป้งชูหงส์ พร้อมด้วยน้ำสะอาด เนย เกลือ และน้ำตาลทรายตั้งไฟ
3. พอส่วนผสมเดือดและเนยละลายดี ยกออกจากความร้อน ใส่แป้งสาลีที่ร่อนแล้วลงไป คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน
4. ตอกไข่ทั้งหมดใส่ชาม ตีให้เป็นเนื้อเดียวกัน ค่อยๆ ใส่ไข่ลงไปในแป้งทีละน้อย คนให้เข้ากันก่อนใส่ส่วนต่อไป ใส่ไข่จนแป้งมีเนื้อเงา ไม่เหลวเกินไป เมื่อใช้ช้อนตักแป้งยกขึ้น แป้งจะย้อยตัวลงช้าๆ แต่ยังมีส่วนที่ติดช้อนอยู่
5. แบ่งแป้งชูเล็กน้อยใส่ถุงบีบ ตัดปลายถุงบีบประมาณ 2 มิลลิลิเมตร บีบแป้งเป็นคอหงส์ ลักษณะเหมือนตัว S กลับด้าน สูงประมาณ 2 ½ นิ้ว ประมาณ 30 ชิ้น หลังจากนั้น ให้บีบส่วนหัวที่บริเวณส่วนปลายด้านบนโดยบีบเป็นก้อนกลมเล็กๆ แล้วตวัดมาด้านหน้าให้เป็นปลายแหลมเพื่อเป็นปากหงส์ นำเข้าอบ 15 นาที
6. ใส่แป้งชูที่เหลือในถุงบีบอีกใบ ใช้หัวบีบรูปดาวขนาดประมาณ 1 ½ เซนติเมตร บีบชูเป็นตัวหงส์ โดยบีบแป้งให้กลมเล็กน้อย แล้วค่อยตวัดปลายให้เป็นหางแหลม ทำซ้ำให้ได้ 30 ตัว โรยไอซิ่งบางๆ ให้ทั่ว นำเข้าอบเป็นเวลา 25 นาที
7. พักแป้งชูทั้งหมดให้เย็นลงที่อุณหภูมิห้อง
8. ทำส่วนของมูส โดยตีไข่แดง น้ำตาลทราย และแป้งข้าวโพดให้เข้ากันด้วยตะกร้อมือ
9. แช่เจลาตินในน้ำเย็น และนำนมข้นจืดในส่วนของมูส พร้อมด้วยน้ำสะอาดและชาอัสสัมใส่หม้อตั้งไฟ พอเดือด ยกออกจากความร้อน แล้วกรองใส่ส่วนผสมไข่แดง ตีให้เข้ากัน
10. นำส่วนผสมขึ้นตั้งไฟกลาง ตีด้วยตะกร้อจนส่วนผสมข้นเงา และสุกดี ยกออกจากความร้อน ใส่เจลาตินที่นุ่มดีแล้วลงไป คนให้ละลายดี
11. ตีครีมให้ตั้งยอดดี นำไปตะล่อมกับคัสตาร์ดชา ใส่ถุงบีบ
12. ใช้มีดตัดหลังของตัวหงส์ แล้วผ่าครึ่งตรงกลางเพื่อให้เป็นปีก บีบครีมลงไปบนตัวหงส์ โรยไอซิ่งที่ปีกแล้วเสียบลงบนครีมรอยัลมิลค์ที ปักหัวลงไป ทำซ้ำจนหมด
เมนูอื่นๆ ในพลพรรคนักปรุง 6 กันยายน 2019
เมนูแซนด์วิชสลัดไข่สไตล์ญี่ปุ่น
Japanese Egg Sandwich
https://youtu.be/TVt2i9B_A-0
เมนูนักเก็ตไก่เต็มคำกับซอสบาร์บีคิวก้นครัว
Almost Famous Chicken Nuggets with BBQ Sauce
https://youtu.be/VJ4tizgoYEA
เมนูเอแคลร์หงส์ไส้รอยัลมิลก์ที
Royal Milk Tea Swan Choux
https://youtu.be/7Ea03L8Ob0g
เมนูวุ้นลูกชุบไข่เค็ม
Salted Egg Mung Bean Marzipan on Coconut Jelly
https://youtu.be/xCYkT5YUDJY
ชาอัสสัม 在 feelthai Youtube 的最佳貼文
เลขเข้ามาครับมาฟังเรื่องราวของการทำเมี่ยง ที่บ้านศรีนาป่าน-ตาแวน ตำบลเรือง จังหวัดน่านที่นี่ทำเมี่ยงมากมายซึ่งได้จากการเก็บใบชา มา หมักแล้วปรุงรส ส่งออกขายทั่วภาคเหนือและในหลายประเทศ
ชาอัสสัม 在 "ชาอัสสัม" (Assam Tea) คือชาดำ... - รู้เฟื่องเรื่องชา | Facebook 的推薦與評價
"ชาอัสสัม" (Assam Tea) คือชาดำ ที่ถูกปลูกขึ้นในรัฐอัสสัม ประเทศอินเดีย มีรสและกลิ่นของชาค่อนข้างเข้ม นิยมนำไปเบลนด์เป็น English Breakfast ... ... <看更多>