เซเว่นอีเลฟเว่น พื้นที่ที่เหล่าผู้ประกอบการทั่วประเทศ ต่างต้องการแย่งชิงเพื่อนำสินค้าของตนมาวางขายบนเชลฟ์ ซึ่งไม่ได้มีเพียงแค่สินค้าจากเครือซีพี แบรนด์ใหญ่ หรือแบรนด์ดังเท่านั้น แต่ยังมีสินค้าจากเหล่าผู้ประกอบการรายย่อย SMEs อีกจำนวนไม่น้อย ที่มีโอกาสได้เข้าไปช่วงชิงพื้นที่บนเชลฟ์แล้ว แต่หลายคนก็อาจยังไม่ทราบ เนื่องจากสินค้าส่วนมากในร้าน มักติดโลโก้ของเซเว่นอีเลฟเว่นไว้บนบรรจุภัณฑ์ของสินค้านั้นๆ ด้วย ซึ่งเราสามารถแบ่งสินค้าในเซเว่นฯ ออกเป็น 3 ส่วนดังนี้
.
1. Seven Select คือสินค้าที่ผลิตจาก SMEs เอง โดยเซเว่นฯได้คัดเลือกมาแล้ว อาทิ น้ำถั่วเหลืองโทฟุซัง, ผลไม้แปรรูปบ้านมะขาม, วุ้นแม่ละมาย ฯลฯ
2. Seven Fresh คือสินค้าในหมวด เบเกอรี ขนมปัง ผลไม้ ฯลฯ ซึ่งในหมวดนี้ส่วนใหญ่จะมาจาก SMEs และผู้ค้ารายใหญ่ สินค้าที่มาจากเครือซีพีเองก็มีเช่นกันแต่เป็นส่วนน้อย
3. Only at Seven คือสินค้าของ SMEs รายเล็ก-กลาง ที่เซเว่นฯมีการร่วมคิดค้นและพัฒนาขึ้นมา โดยเซเว่นฯต้องขอสงวนสิทธิ์สินค้านั้นๆ ให้วางขายเฉพาะที่เซเว่นฯ เท่านั้น
.
และด้วยสาขาที่มีมากกว่า 10,000 สาขาทั่วประเทศ ทั้งยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง แต่กลับมีเกณฑ์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับจำนวนสินค้าทั้งหมดกว่า 20,000 รายการ ทำให้เหล่าผู้ประกอบการรายย่อยต่างก็อยากนำสินค้าของตนไปวางขายในเซเว่นฯ บ้าง มาดูกันดีกว่าว่าสำหรับคนที่อยากนำสินค้ามาวางขายขึ้นเชลฟ์ในเซเว่นฯ ต้องทำอย่างไรบ้าง
.
สำหรับขั้นตอนการนำสินค้าขึ้นเชลฟ์จะมีอยู่ด้วยกัน 2 รูปแบบได้แก่
1. บริษัทติดต่อไปยังผู้ผลิตสินค้า โดยการส่งทีมงานไปค้นหาสินค้าที่น่าสนใจและตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าของร้าน
2. เจ้าของร้านติดต่อเซเว่นฯ เพื่อนำเสนอสินค้าเอง
.
ซึ่งทั้ง 2 วิธีนี้ต้องผ่านกระบวนการดังนี้
- ส่งสินค้าให้คณะกรรมการทดลองชิม
- ทดสอบความสะอาด ของสินค้ารวมทั้งตรวจสารรพิษ/สารตกค้าง
- ตรวจสอบวัตถุดิบส่วนผสม ข้อมูลทางโภชนาการ
- ตรวจสอบสุขอนามัย ความน่าเชื่อถือของโรงงานผลิต ตามหลักกระทรวงสาธารณสุข, สำนักงานอาหารและยา(อย.), มาตรฐาน HACCP และมาตรฐานของเซเว่นอีเลฟเว่น
- ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์ ซอง ห่อ ขนาดที่เหมาะสมกับการวางบนชั้นสินค้าของเซเว่นฯ ที่ต้องหยิบง่ายพร้อมทาน
- ราคาที่เหมาะสม (เซเว่นฯไม่เน้นสินค้าราคาแพง)
.
จากข้อกำหนดข้างต้น ต้องผ่านทุกข้อหากไม่ผ่านข้อใดข้อหนึ่ง ก็ต้องทำการปรับปรุง โดย จะมีทีมงานของเซเว่นฯ คอยให้คำแนะนำ เมื่อผ่านทั้งหมดแล้วถึงจะสามารถกำหนดวันจำหน่ายสินค้าและยอดสั่งผลิตล็อตแรกได้ ในส่วนของระยะเวลาตั้งแต่เริ่มขั้นตอนถึงการได้วางขายนั้นก็จะอยู่ที่ประมาณ 2 เดือน จนถึง 1 ปีก็มี เพราะสินค้าบางอย่างต้องผ่านการพิจารณาจากหลายทีม ไม่ว่าจะเป็นรูป รส กลิ่น เสียง ภาพลักษณ์และอื่นๆ อีกมาก
.
แล้วสินค้าแบบไหนที่จะโดนใจเซเว่นอีเลฟเว่นล่ะ?
คุณสมบัติของสินค้าที่จะมานำเสนอวางขายในร้านนั้นไม่จำเป็นต้องมีชื่อในตลาดมาก่อนแต่คุณภาพต้องดี ถ้าเป็นอาหารก็ต้องอร่อย ที่สำคัญควรตอบโจทย์พฤติกรรมลูกค้าของเซเว่นฯ ที่ปกติแล้วยอดบิลเฉลี่ยต่อคนจะอยู่ที่ 60-80 บาทเท่านั้น นั่นก็คือ ปริมาณที่เหมาะสมในราคาที่เหมาะสมไม่แพงจนเกินไป
.
ดังนั้นการกำหนดราคาสินค้าให้เหมาะสมนั้นเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ แพ็กเกจจิงก็มีส่วนสำคัญเพราะถ้ามีของสวยๆงามๆ มาตั้งอยู่บนเชลฟ์ แถมยังมีคุณภาพดีด้วย ใครล่ะจะไม่ชอบ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องคำนึงถึงเรื่องของขนาดด้วยเช่นกัน เพราะส่วนมากลูกค้าของเซเว่นฯ จะไม่เน้นซื้อสินค้าชิ้นใหญ่ รวมถึงพื้นที่วางสินค้าไม่ได้มีขนาดใหญ่ ดังนั้นถ้าสินค้าชิ้นใหญ่ไปจะไม่สามารถวางขายในเซเว่นฯ ได้ ทั้งยังอาจถูกเมินจากผู้บริโภคด้วย
.
สำหรับสินค้าจาก SMEs ที่ยอดนิยมในเซเว่น ยกตัวอย่างเช่น กล้วยหอมสด, ผลไม้พร้อมน้ำจิ้ม, มะขามแปรรูป, ขนมหวาน และแซนวิสแฮมชีส (ขายได้ถึง500,000ชิ้นต่อวัน) เป็นต้น
.
หลายคนอาจจะเป็นกังวล เพราะกว่าจะนำสินค้าขึ้นไปวางขายบนเชลฟ์ของเซเว่นฯ ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องผ่านทุกกฎเกณฑ์ข้อกำหนด มาตรฐาน แล้วยังต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบนาน ดังนั้นผู้ประกอบการต้องพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพสินค้าให้ดี ตอบโจทย์กับกลุ่มผู้บริโภคของเซเว่นฯ เพื่อโอกาสในการสร้างรายได้ที่มากขึ้น โดยที่ SMEs ส่วนใหญ่มักเริ่มต้นจากธุรกิจไซส์ S แล้วขยับขยายกลายเป็นธุรกิจไซส์ M และ L ในเวลาต่อมา
.
แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะมีผู้ประกอบการประสบความสำเร็จ สามารถกอบโกยกำไรจากเซเว่นฯ ไปได้มาก แต่ก็มีไม่น้อยที่ถึงแม้สินค้าจะขายได้และดีด้วย แต่กลับขาดทุน จนต้องเลิกขายสินค้านั้นไป ดังนั้น เพื่อไม่ให้เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นกับตัวเอง ถ้าคุณต้องการนำสินค้าเข้าวางจำหน่ายในเซเว่นฯ อย่าเอาแต่ลุยท่าเดียว แต่ต้องวางแผนกลยุทธ์อย่างรอบคอบ คำนึงถึงค่าใช้จ่าย ต้นทุนต่าง ๆ เช่น ต้นทุนการผลิต ต้นทุนด้านภาษี รวมถึงต้นทุนแฝง ที่มักมาให้เราต้องจัดการแบบไม่รู้ตัว
.
ที่สำคัญคือ ต้องบริหารจัดการสต๊อกสินค้าให้ดี อย่าสั่งมากเกินไปหรือน้อยไป แต่ต้องสั่งในปริมาณที่พอดี และต้องเร็วที่สุดให้ทันต่อความต้องการของตลาดและผู้บริโภค ถ้าบริหารจัดการไม่ดี ไม่มีประสิทธิภาพก็อาจเกิดผลเสียทางธุรกิจได้
.
ที่มา : https://www.mangozero.com/how-to-selling-in-7-11-for-sme.../
https://www.smartsme.co.th/content/72294
.
#อายุน้อยร้อยล้าน #ryounoi100lan
#อายุน้อยร้อยล้านNEWS
#SME #7eleven #bussiness
#ขายของในเซเว่น #Shelf #ConvenienceStore
ต้นทุนการผลิต 在 สอนสูตรการคิดต้นทุนสินค้า การคํานวณต้นทุนการผลิต - YouTube 的推薦與評價
สอนสูตรการคิดต้นทุนสินค้า การคํานวณ ต้นทุนการผลิต การทำธุรกิจหากเราไม่สามารถควบคุม ต้นทุนการผลิต ต้นทุนรวมสินค้าได้ จะเกิดปัญหาต่อเนื่อง ... ... <看更多>