เทคนิคการบูรณาการงานวิจัยสู่การเรียนการสอน : ประสบการณ์ผู้เขียน
สิทธิกร ศักดิ์แสง
จากปัญหาและไม่เข้าใจว่า เอางานวิจัยมาบูรณาการและประโยชน์ในการเรียนการสอนได้อย่างไร
ถาม การบูรณากานงานวิจัยสู่การเรียนการสอน เป็นอย่างไร
ตอบ การบูรณาการงานวิจัยสู่การเรียนการสอน ทำได้หลายรูปแบบ ได้แก่
รูปแบบที่ 1 นำกระบวนการวิจัยมาใช้ในการเรียนการสอนในรายวิชา โดยระบุวิธีการ กระบวนการมอบหมายงานให้นักศึกษาโดยกำหนดไว้ในแผนการสอน เข่น กำหนดไว้ใน มคอ.3
รูปแบบที่ 2 จัดเป็นหนึ่งของงานวิจัยให้นักศึกษาจัดทำเป็นปัญหาพิเศษหรือทดลองปฏิบัติในชั่วโมงปฏิบัติการ โดยอาจเป็นกิจกรรมกลุ่มหรือกิจกรรมเดี่ยวให้นักศึกษาหรืออาจารย์ระบุเรื่องที่จะทำวิจัยให้เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับประเด็นหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับรายวิชาที่อาจารย์รับผิดชอบ
รูปแบบที่ 3 นำผลงานวิจัยของอาจารย์ที่ได้ดำเนินการจนเสร็จ นำมาใช้ในการสอนในภาคทฤษฎี (เช่น การนำงานวิจัยในการเขียนหนังสือ ตำรา ในรายวิชาที่สอน) และต่อยอดในภาคปฏิบัติโดยให้นักศึกษาไปจัดทำกิจกรรมเพิ่มโดยเป็นงานวิจัยต่อยอดแล้วนำสรุปผล อภิปรายร่วมกัน
รูปแบบที่ 4 กำหนดหรือมอบหมายให้นักศึกษาทำงานวิจัยร่วมกับอาจารย์โดยจัดทำงานวิจัยในโครงการวิจัยเชื่อมโยงกับงานวิจัยของอาจารย์หรือนำงานวิจัยของอาจารย์มาแยกส่วนย่อยๆและมอบหมายให้นักศึกษาแต่ละกลุ่มนำไปดำเนินงานโดยจัดทำวิจัยตั้งแต่ต้นจนจบ
โดยประสบการณ์ของผู้เขียนจะใช้รูปแบบที่ 3 คือ นำผลงานวิจัยมาเขียนใน หนังสือ ตำรา ใช้สอนในภาคทฤษฎี และนำมาอภิปรายกลุ่มจัดทำกิจกรรม เช่น การทำกิจกรรมรณรงค์การเลือกตั้งในรายวิชา กฎหมายรัฐธรรมนูญและสถาบันทางการเมือง โดยนำงานวิจัยเรื่อง “การมีส่วนร่วมทางการเมืองโดยตรงของประชาชน :กรณีศึกษาเปรียบเทียบการให้สิทธิประชาชนเข้าชื่อเสนอกฎหมาย ตามรัฐธรรมนูญ 2540 กับ 2550”
และที่สำคัญในรายวิชาที่ผมสอนส่วนใหญ่รายวิชาที่เน้นภาคทฤษฎี การนำงานวิจัยมาเขียนในตำรา หนังสือ จึงเป็นส่วนสำคัญ
ถาม งานวิจัยที่เราทำไปนั้นเอามาใส่ในหนังสือ/ตำราได้อย่างไร
ตอบ จากประสบการณ์ที่ผมได้นำงานวิจัยที่ผมทำมาบูรณาการสู่การเรียนสอนในการเขียนหนังสือ/ตำรา การเขียนบทความวิจัย อยู่ 4 รูปแบบ
ถาม การนำงานวิจัยมาบูรณาการสู่หนังสือ/ตำรา ในรูปแบบที่ 1 ทำอย่างไร
ตอบ การนำงานวิจัมาบูรณาการในหนังสือ/ตำรา รูปแบบที่ 1 คือ นำงานวิจัย มาแทรกหรือเป็นตัวอย่างกรณีศึกษาในหัวข้อหนึ่งในหนังสือ/ตำรา เช่น นำแนวคิดเรื่องการมีส่วนร่วมทางการเมืองโดยตรงของประชาชน จากงานวิจัยเรื่อง การมีส่วนร่วมทางการเมืองโดยตรงของประชาชน : กรณีศึกษาเปรียบเทียบการให้สิทธิประชาชนเข้าเสนอกฎหมายตามรัฐธรรมนูญ 2540 กับ 2550” มาใส่ในตำรากฎหมายรัฐธรรมนูญและสถาบันทางการเมือง ในเรื่องของการใช้อำนาจอธิปไตยกึ่งทางตรง หรือ นำหลักการเรื่องการใข้อำนาจดุลพินิจของฝ่ายปกครอง จากงานวิจัยเรื่อง ปัญหาการใช้อำนาจผูกพัน อำนาจดุลพินิจของราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาคส่วผลกระทบต่อเทศบาล : กรณีศึกษาเทศบาลในจังหวัดขึมพร มาใส่ในเรื่อง หลักการใช้อำนาจทางปกครอง ในตำรากฎหมายปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง เป็นต้น
ถาม การนำงานวิจัยมาบูรณาการในหนังสือ/ตำราในรูปแบบที่ 1 ต้องอ้างอิงหรือไม่
ตอบ ต้องอ้างอิงในงานวิจัยครับ ถึงแม้เป็นงานของตนเองก็ต้องอ้างอิง เพราะถ้าไม่อ้างอิงจะเป็นการคัดบอกผลงานตนเอง
ถาม การนำงานวิจัยในมาใส่ในหนังสือ/ตำราในรูปแบบที่ 1 ต้องขออนุญาติเจ้าของทุนวิจัยหรือไม่
ตอบ ไม่ต้องขออนุญาติจากเจ้าของทุนวิจัย
ถาม การนำงานวิจัยมาบูรณาการสู่หนังสือ/ตำรา ในรูปแบบที่ 2 ทำอย่างไร
ตอบ การนำงานวิจัยมาบูรณาการในหนังสือ/ตำรา รูปแบบที่ 2 คือ นำงานวิจัย หัวข้อหนึ่งของงานวิจัยมาใส่เป็นบทหนึ่ง ของตำรา เช่น กฎหมายที่เกี่ยวกับวิธีปฎิบัติราชการทางปกครอง นำมาใส่เป็นบทหนึ่งของตำรา กฎหมายปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง โดยการอ้างอิงที่มาของงานวิจัยนั้นด้วย เป็นต้น
ถาม การนำงานวิจัยมาบูรณาการในหนังสือ/ตำราในรูปแบบที่ 2 ต้องอ้างอิงหรือไม่
ตอบ ต้องอ้างอิงในงานวิจัยครับ ถึงแม้เป็นงานของตนเองก็ต้องอ้างอิง เพราะไม่อ้างอิงจะเป็นการคัดลอกผลงานตนเอง
ถาม การนำงานวิจัยในมาใส่ในหนังสือ/ตำราในรูปแบบที่ 2 ต้องขออนุญาติเจ้าของทุนวิจัยหรือไม่
ตอบ ไม่ต้องขออนุญาติจากเจ้าของทุนวิจัย แต่ต้องอ้างอิงแหล่งที่มาของงานวิจัย
ถาม การนำงานวิจัยมาบูรณาการสู่หนังสือ ในรูปแบบที่ 3 ทำอย่างไร
ตอบ การนำงานวิจัยมาเป็นหนังสือใน รูปแบบที่ 3 หลังจากได้สรุปทำรายงานวิจัยเสนอต่อเจ้าของทุนวิจัยและเผยแพร่งานวิจัยแล้ว ถ้าผู้วิจัยจะต่อยอดหรือการบูรณาการงานวิจัย เช่น การบูรณาการงานวิจัยเป็นหนังสือวิจัย ก็สามารถทำได้
ถาม การบูรณาการงานวิจัยในรูปแบบที่ 3 ต้องขออนุญาติเจ้าของทุนวิจัยหรือไม่
ตอบ ในกรณีงานวิจัยนั้นเป็นทรัพย์สินทางปัญญาของเจ้าของทุนวิจัย ผู้วิจัยต้องขออนุญาตเจ้าของทุนวิจัยก่อน เพราะในข้อสัญญาทุนวิจัย จะระบุว่าวิจัยนั้นเป็นของใคร ถ้าไม่ได้ระบุว่าเป็นของใคร ก็เป็นของผู้วิจัย แต่โดยหลักส่วนใหญ่งานวิจัยจะเป็นของเจ้าของทุนวิจัย ดังนั้นเอางานวิจัยไปใช้ประโยชน์อย่างไร
นอกจากการเผยแพร่งานวิจัย ต้องไม่ต้องขออนุญาติเจ้าของทุนวิจัย
ในกรณีงานวิจัยของผู้เขียนเป็นงานวิจัยของมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเจ้าของทุนวิจัย ผู้วิจัยก็ได้ทำเป็นหนังสือรายงานวิจัยเพื่อเสนอต่อมหาวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยก็อนุญาตให้ทำเป็นหนังสือวิจัย
หนังสือ รายงานการวิจัย โดยการนำงานวิจัยมาสังเคราะห์ เรียบเรียงเป็นหนังสือวิจัย มีอยู่ 2 เรื่อง ดังนี้
เรื่องที่ 1 รายงานวิจัยเรื่อง “ความสัมพันธ์ระหว่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการกระทำและการควบคุมการกระทำทางปกครองโดยองค์กรภายในฝ่ายปกครอง : กรณีศึกษากฎหมายว่าด้วยวิธิปฏิบัติราชการทางปกครอง กฎหมายว่าด้วยความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่และกฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการ” โดยการแยกหัวข้อ แต่ละหัวข้อ ออกมาเป็นบท คือ
บทที่ 1 ความสำคัญและความเป็นมา
บทที่ 2 แนวคิดเกี่ยวกับการกระทำทางปกครอง
บทที่ 3 แนวคิดว่าด้วยการควบคุมการกระทำทางปกครองและหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อาจถูกควบคุมการกระทำทางปกครอง
บทที่ 4 กฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
บทที่ 5 กฎหมายว่าด้วยความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่
บทที่ 6 กฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการ
บทที่ 7 วิเคราะห์ความสัมพันธ์ของกฎหมายทั้ง 3 ฉบับ
บทที่ 8 บทสรุปข้อเสนอแนะ
เรื่องที่ 2 นำงานวิจัย เรื่อง “ปัญหาสถานะและการจัดลำดับชั้นทางกฎหมายภายใต้บทบัญญัตืรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 : กรณีศึกษาพระราชกฤษฎีกา” นำไปเขียนเป็นหนังสือ เรื่อง “สถานะอันหลากหลายของพระราชกฤษฎีกาภายใต้รัฐธรรมนูญ 2560 “ โดยมีวิธีเขียนดังนี้
เอาบทที่ 1 มาย่อสรุปเขียนเป็นคำนำ
เอาบทที่ 2 แนวคิดทฤษฎี ทบทวนวรรณกรรม แยกออกมาเขียนขยาย โดยแยกเป็นบทตามความเหมาะสมของเนื้อหา
ตัดบทที่ 3 วิธีการดำเนินการวิจัยออกไป เพราะเนื้อหาส่วนนี้ไม่จำเป็นต้องเขียนไว้ในหนังสือ
เอาบทที่ 4 มาเขียนเพิ่มเติมพร้อมยกตัวอย่าง เช่น นำคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ คำพิพากษาศาลปกครอง หรือข้อหารือคณะกรรมการต่างๆ มาเสริม
บทที่ 5 บทวิเคราะห์ ก็เขียนวิเคราะห์เพิ่มเติมแยกประเด็นให้มีรายละเอียดเพิ่มมากขึ้น เช่น นำคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ คำพิพากษาศาลปกครอง มาเสริมและที่สำคัญมีตารางเปรียบเทียบได้ยิ่งดี
บทที่ 6 บทสรุป นำไปเขียนเป็นบทส่งท้าย เพิ่มขยายประเด็นการสรุปและประเด็นการนำเสนอหรือข้อเสนอแนะ
ถาม การบูรณาการงานวิจัยสู่การเรียนการสอนในรูปแบบ 4 ทำอย่างไร
ตอบ การบูรณาการงานวิจัยสู่การเรียนการสอนในรูปแบบที่ 4 คือ ผมได้นำงานวิจัยมาเขียนเป็นบทความวิจัยมาวิเคราะห์ในประเด็นหัวข้อในงานวิจัย
อนึ่งการที่จะนำบทความความวิจัยมาใช้ในการเรียนการสอนได้โดยส่วนใหญ่งานวิจัยจะเป็นงานวิจัยในประเด็นหัวข้อหรือเนื้อหาที่เกี่ยวกับการเรียนการสอนเกือบทั้งหมด และใช้สอนในระดับปริญญาโท โดยใช้หลักวิชาในการเรียนการสอนมาวิเคราะห์ศึกษางานวิจัย ทำให้งานวิจัยนั้นสามารถเขียนเป็นบทความวิจัยได้หลายเรื่องแล้วนำมาเป็นส่วนหนึ่งที่เป็นสื่อการสอนนอกจาก หนังสือ ตำรา คือ บทความวิจัย
ถาม การบูรณาการงานวิจัยเขียนบทความวิจัยเสนอตีพิมพ์นี้ต้องได้รับ ความยินยอมจากเจ้าของทุนวิจัยหรือไม่
ตอบ ไม่ต้องครับ สามารถนำไปตีพิมพ์เผยแพร่ได้เลยและต้องระบุงานวิจัย ผู้ให้ทุนวิจัย
ถาม ในงานวิจัยนั้นผู้วิจัยทำกันหลายคน นำไปตีพิมพ์เผยแพร่คนเดียวได้หรือไม่
ตอบ ไม่ได้ครับ แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าปู้วิจัยร่วมแสดงความยินยอมและรับทราบเป็นหนังสือ ก็อาจจะเป็นเหตุให้ไม่ถือว่าผิดจรรยาบรรณ
ถาม การนำงานวิจัยทั้ง 4 รูปแบบข้างต้น ได้ทำมานานหรือยังไร
ตอบ การนำวิจัยมาบูรณาการสู่การเรียนการสอนนี้ ทั้ง 4 รูปแบบนี้ผู้เขียนได้ทำมาตั้งเริ่มเขียนเอกสารประกอบการสอน พัฒนาเป็นเอกสารคำสอนและพัฒนามาเป็นตำราและเขียนตำราเล่มแรกในปี 2549 และทำมาตลอด ถึงปัจจุบัน
ถาม การบูรณาการบริการวิชาการจากงานวิจัยสู่การเรียนการสอนได้อย่างไร
ตอบ จากการนำงานวิจัยไปบูรณาการสู่การเรียนการสอน มีได้หลายรูปแบบ ที่ทำให้นักศึกษาเกิดความรู้และได้จัดทำกิจกรรมในการบริการวิชาการ
รูปแบบหนึ่งที่ผมทำ เช่น การจัดทำกิจกรรมของนักศึกษาเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมในทางการเมืองการณรงค์การเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 โดยการจัดกิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับการเลือกตั้ง การเดินรณรงค์ให้เห็นความสำคัญการเลือกตั้ง ในการใช้อำนาจอธิปไตยของประชาชน ในรายวิชา กฎหมายรัฐธรรมนูญและสถาบันทางการเมือง เป็นต้น
ถาม จากการบูรณาการงานวิจัยสู่การเรียนการสอนเราจะได้ประโยชน์อย่างไร บ้าง
ตอบ การบูรณาการงานวิจัยสู่การเรียนการสอน เราจะได้ประโยชน์หลายประการ ได้แก่
ประการที่ 1 การบูรณาการงานวิจัยสู่การเขียนหนังสือ ตำรา ผู้เขียนได้นำงานวิจัยมาเขียนไว้ในตำรา ที่ใช้สอน เช่น ตำราหลักกฎหมายมหาชน และได้นำตำรานี้เสนอตำแหน่งรองศาสตราจารย์
ประการที่ 2 การบูรณาการงานวิจัยเป็นหนังสือวิจัย เพื่อเตรียมเสนอขอตำแหน่งศาสตราจารย์ในอนาคต
ประการที่ 3 การบูรณาการงานวิจัยในหนังสือ ตำรา ใช้สอน มันจะช่วยให้การเรียนการสอนเกิดประโยชน์กับตัวเราและตัวนักศึกษา สามารถนำตัวอย่างประเด็นที่เราทำวิจัยมาอธิบายให้นักศึกษาได้มองเห็นภาพ เห็นตัวอย่าง ที่ชัดเจนเข้าใจง่าย ในการเรียนการสอน
ประการที่ 4 การบูรณาการงานวิจัย มาเขียนบทความวิจัย เพื่อบริการวิชาการ และเกิดผลงานวิชาการที่ได้รับตีพิมพ์เผยแพร่ ประโยชน์ในการประกันคุณภาพของคณะและมหาวิทยาลัย และที่สำคัญนำไปเป็นส่วนหนึ่งในการเรียนการสอน เป็นต้น
Search