แ จ ก ทอง 1 บาท 🔥 เอาไปเลยยยย แค่สั่ง 2 กล่องขึ้นไป
👉🏼 แค่สั่ง AMARY Thailand 📌 คละได้หมด
วันนี้ 9 9 9 วันเดียว 🥰🥰🥰
ทอง 1 บาท วันนี้ 在 Money Coach Facebook 的最佳貼文
“แก้หนี้ อย่าโฟกัสที่ ‘หนี้’
ต้องโฟกัสที่ ‘กระแสเงินสด’”
ตลอดระยะเวลา 15 ปี ที่สอนและให้คำปรึกษาเรื่องการจัดการหนี้ ผมพบว่าปัญหาทางความคิดรูปแบบหนึ่งที่ทำให้คนเป็นหนี้หลุดพ้นจากปัญหาไม่ได้ ก็คือ การโฟกัสปัญหาผิดจุด ผิดที่ผิดทาง
ยังไง?
เวลามีความทุกข์จากหนี้ คนเรามักจะคิดแต่ว่า เมื่อไหร่หนี้ 5 แสน 8 แสน 3 ล้าน หรือ 10 ล้าน ของเรา จะหมดไปเสียที ตัวผมเองก็เคยเป็นแบบนั้น ในวันที่หนี้ทับถมชีวิต ไม่ว่าใคร ก็อยากให้หนี้หมดไปเร็ว ๆ วันนี้ พรุ่งนี้ ได้เลยยิ่งดี
แต่ “หนี้” ไม่ใช่ “สิว” ครับ ที่บีบนิดเดียว ก็หลุดจากหน้าผากของเรา มันเกิดจากปัญหาการเงินที่สั่งสมมาเป็นเวลานาน บวกกับความพยายามแก้ปัญหาแบบผิด ๆ (หรืออาจไม่พยายามเลย) ต่อเนื่องกันมานาน
ดังนั้นการพยายามแก้ปัญหา โดยคิดถึงแต่จำนวนเงินที่เป็นหนี้ จึงมีแต่จะทำให้ทุกข์ใจ และอาจทำให้ท้อ หมดแรงแก้ปัญหาไปเลยก็ได้
ที่ถูกแล้ว เราควรโฟกัสที่ “กระแสเงินสดต่อเดือน” ครับ เพราะเอาเข้าจริง ชีวิตทางการเงินที่มีความสุข ไม่จำเป็นต้องปราศจากหนี้ หรือการใช้สินเชื่อนะครับ เพราะแม้จะมีสินเชื่อหรือกู้เงินเขามาใช้ในกิจกรรมของชีวิตอยู่บ้าง แต่หากเราผ่อนชำระได้ กระแสเงินสดไม่ติดลบ มีเงินเหลือออม ชีวิตก็ยังเคลื่อนต่อไปได้ไม่ลำบาก
(ดูตัวอย่างงบการเงินในภาพประกอบ)
จากตารางจะเห็นว่า ถ้าเราโฟกัสที่หนี้ ตั้งโจทย์จะเคลียร์หนี้ให้หมดทั้ง 3,140,000 บาท แต่ละเดือนที่เราสู้เราพยายาม แล้วหันไปมองตัวเลขหนี้ เราจะรู้สึกเหนื่อยและหมดพลังได้ง่าย เพราะหารายได้ได้เดือนละ 30,000 และมีค่าใช้จ่ายในชีวิตตั้งมากมาย เงินเดือนที่ได้มาไม่ได้เอาไว้จ่ายหนี้อย่างเดียว ต้องกินต้องใช้ด้วย จะตัดหนี้แต่ละเดือนได้สักกี่บาทกัน
ดังนั้นการแก้ปัญหาหนี้ โดยโฟกัสไปที่จำนวนเงินที่เป็นหนี้ทั้งหมด จึงไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้อง ที่ถูกเราควรโฟกัสไปที่ตัวเลขกระแสเงินสด (หรือเงินคงเหลือ) ซึ่งติดลบอยู่เดือนละ 9,500 บาท ถ้าเราลดตัวเลขติดลบ จาก 9,500 ให้กลายเป็นศูนย์ ชีวิตการเงินเราก็จะหายใจหายคอได้คล่องมากขึ้น เพราะมีเงินจ่ายหนี้และค่าใช้จ่ายทุกตัว ไม่ติดลบ และถ้าเปลี่ยนจากติดลบกลายเป็นบวกนิดหน่อย ก็จะทำให้ชีวิตเริ่มมีเงินออม มีความหวังกับเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ มากขึ้น
เพราะฉะนั้นคำถามที่ดีกว่า เป็นหนี้เท่าไหร่ ก็คือ ตอนนี้คุณติดลบอยู่เดือนละเท่าไหร่ นั่นคือ โจทย์การแก้หนี้ของคุณครับ ซึ่งคุณจะไม่มีทางเห็นตัวเลขนี้ได้ชัดเจน ถ้าหากไม่ลองทำสิ่งที่เรียกว่า “งบรายรับรายจ่าย” ล่วงหน้าไป 6 เดือน
นี่คือสิ่งที่ผมจะร้องขอจากคนที่มาขอคำปรึกษาอยู่เสมอ ‘เงิน’ เป็นเรื่องที่คิดในสมองไม่ได้ ทดเลขในใจยิ่งไม่ดี ต้องเขียนมันออกมาครับ เขียนออกมาให้หมด รายรับแต่ละเดือนเท่าไหร่ ออมและลงทุนแต่ละเดือนไปกับอะไรบ้าง (ถ้ามี) ใช้จ่ายอะไรบ้าง ค่าใช้จ่ายทั่วไปและหนี้แต่ละรายการ มีอะไรแยกแยะแจกแจงให้ละเอียดที่สุด
สุดท้ายเราจะได้โจทย์ที่เราต้องแก้ปัญหา นั่นก็คือ “เงินคงเหลือ” ในแต่ละเดือนนั่นเอง
อีกประเด็นหนึ่งที่คนเป็นหนี้ชอบหลงทาง ก็คือ การคิดว่าเงินจะแก้ปัญหาทางการเงิน ที่จริงแล้วไม่ใช่เลยครับ และนั่นจึงเป็นที่มาของการรีไฟแนนซ์ กู้สินเชื่อใหม่เอาไปเคลียร์หนี้เดิมที่มีอยู่ไม่รู้จบ หลายคนกู้กันทุกเดือนทุกปี โดยไม่หยุดสังเกตดูเลยว่า วิธีการที่ทำนำไปสู่ปัญหาหนี้ที่เพิ่มมากขึ้นหรือเปล่า
ที่ถูกแล้ววิธีการแก้หนี้ที่ดีที่สุด ก็คือ ลดรายจ่าย และเพิ่มรายได้
หลักการอาจจะดูง่าย แต่ทำจริงรับประกันว่าไม่ง่ายครับ เพราะแค่เรื่องลดรายจ่าย หลายคนก็ลดรายจ่ายผิดประเภทผิดวิธี พากันไปกินใช้อัตคัด เป็นหนี้เยอะแล้วคิดว่า ทำข้าวไปกินเองจะช่วยแก้ปัญหาได้ สุดท้ายหนี้ก็แก้ไม่ได้ แถมยังสูญเสียความรู้สึกภูมิใจต่อตัวเองไปอีกด้วย
ทั้งนี้ผมไม่ได้บอกนะครับ ว่าการลดการกินอยู่ใช้จ่ายนั้นไม่จำเป็นสำหรับคนเป็นหนี้ เพียงแต่อยากจะบอกว่าผลกระทบมันช้า ลักษณะเหมือนรักษาแบบเลี้ยงไข้ เลยไม่ค่อยได้ผล
ที่เร็วและแก้ปัญหาได้ดีกว่า คือ การลดค่าใช้จ่ายที่เกิดจากหนี้ หรือภาระค่าใช้จ่ายคงที่ ครับ การหันหน้าชนกับรายจ่ายพวกนี้ จะช่วยให้กระแสเงินสดเราดีขึ้นเร็วกว่ามาก ไม่เชื่อลองมาดูตัวอย่างนี้กันครับ
ครั้งหนึ่งผมไปบรรยายให้กับพนักงานธนาคารแห่งหนึ่ง มีน้องผู้ชายคนหนึ่งอายุ 26 ปี เงินเดือน 18,000 บาท เดินเข้ามาขอคำปรึกษาเรื่องหนี้กับผม เพราะรายได้แต่ละเดือนไม่พอใช้จ่าย เรื่องของเรื่องเกิดจากเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว น้องคนนี้ออกรถยนต์มาใช้งาน 1 คัน มีภาระผ่อนต่อเดือน 12,000 บาท
ได้ยินข้อมูลน้องเค้าครั้งแรก สิ่งที่ผมสงสัยก็คือ บริษัทสินเชื่อคิดอะไร ถึงกล้าออกรถให้น้องคนนี้ เพราะถ้าค่าผ่อน 12,000 วิ่งรถในกรุงเทพอย่างต่ำ ๆ ค่าน้ำมันก็ต้องมี 2,000-3,000 บาทต่อเดือน แล้วไหนจะค่าอะไรต่อมิอะไรอีก ดังนั้นการที่เงินเดือนจะไม่พอใช้ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
น้องคนนี้เล่าให้ผมฟังว่า ทุกวันนี้ต้องกระเบียดเกษียรในการใช้จ่ายอย่างมาก เงินเดือน 18,000 เหลือกินใช้แต่ละเดือนไม่ถึง 3,000 บาท ประหยัดบีบค่าใช้จ่ายทุกทางแล้วก็ยังไม่พอ เลยมาปรึกษาเพื่อขอแนวทางการแก้ปัญหา
ผมเลยถามน้องเขากลับไปว่า “ก่อนหน้าจะออกรถ มาทำงานยังไง”
น้องเขาตอบว่า “นั่งมอเตอร์ไซต์ออกจากคอนโด แล้วก็ต่อด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส”
ผมถามต่อว่า “แล้วแต่ก่อนที่นั่งมอเตอร์ไซต์ต่อบีทีเอสมาทำงาน ช่วงนั้นแต่ละเดือนมีเงินเหลือบ้างหรือเปล่า”
น้องเขาตอบแบบไม่ต้องคิดเลยว่า “มีครับ เหลือเก็บเดือนละ 2,000 สบายๆ”
พอได้ฟังคำตอบ ผมเอามือตบไหล่เขา และบอกไปว่า “กลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมสิ”
หลังได้ยินคำแนะนำ น้องเค้าโพร่งออกมาเสียงดังเลยว่า “อาจารย์จะให้ผมขายรถเหรอครับ ผมขายไม่ได้นะครับ ถ้าขายรถแล้ว ผมจะบอกเพื่อนยังไง ว่ารถผมหายไปไหน”
เมื่อไม่เลือกตัดรายจ่ายจากหนี้ ด้วยการขาดรถยนต์ออกไป แล้วเอาเงินเดือนละ 15,000 บาท (ค่าผ่อนและค่าน้ำมัน) กลับมา ก็ต้องอดทนกินอยู่แบบขาดแคลน และปวดหัวกับการติดตามทวงถามหนี้ต่อไปครับ
หรืออีกกรณีหนึ่ง สามีภรรยาวัยรุ่น รายได้รวมกัน 19,000 บาท มีลูกน้อยวัย 3 ขวบ ด้วยความที่ต้องทำงานประจำตั้งแต่เช้าจรดเย็น ไม่มีเวลาดูแลลูก เลยส่งลูกไปให้แม่ของฝ่ายหญิงเลี้ยง ทางแม่ของฝ่ายหญิงเลยเรียกค่าจ้างช่วยเลี้ยงดู เดือนละ 12,000 บาท (ครอบครัวเดียวกันนะเนี่ย)
ทางฝ่ายหญิงเองก็ไม่อยากลำบากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เลยยอมรับเงื่อนไข และให้สามีทำเรื่องจ่ายให้แม่ตัวเองทุกเดือน ทางสามีเองไม่ได้คิดอะไร ก็เลยตามใจภรรยา สุดท้ายหลังจากส่งลูกไปให้แม่เลี้ยง เงินไม่พอใช้ทุกเดือน ต้องกดบัตรกดเงินสด จนหนี้เต็มวงเงินไปแล้ว 3 ใบ
วันที่มาขอคำปรึกษากับผม ผมก็แนะนำไปว่า ไม่ลองหาสถานรับเลี้ยงเด็กหรือเนิร์ซเซอรีใกล้บ้านหรือที่ทำงานให้ช่วยดูแลลูกในช่วงเวลาทำงานดู ฝากเขาไว้ตอนเช้า เย็นหลังเลิกงานก็ไปรับกลับ
สุดท้ายฝ่ายสามีก็ไปหาเจอเนิร์ซเซอรีใกล้บ้าน ค่าใช้จ่ายเดือนละ 4,000 บาทต่อเดือน ลดภาระไปได้มาก มีเงินเหลือกลับมากินใช้เดือนละ 8,000 บาท แล้วก็มาตั้งหลักแก้หนี้ 3 รายการที่มีต่อไปได้
นี่คือตัวอย่างของการลดรายจ่ายที่เป็นค่าใช้จ่ายคงที่จากหนี้หรือภาระประจำ ซึ่งเป็นการแก้ไขที่ตรงจุด และมีผลต่อสภาพคล่องได้มากกว่าการลดค่าใช้จ่ายทั่วไป
สำหรับแนวทางการสร้างรายได้เพิ่ม ผมขอติดไว้เล่าในตอนต่อ ๆ ไป ของหนังสือเล่มนี้นะครับ บอกเลยว่าถ้าลดรายจ่ายเป็น และสร้างรายได้เพิ่มได้ต่อเนื่อง รวมถึงบริหารจัดการเงินส่วนเพิ่มได้ดี รับประกันว่าออกจากปัญหาได้เร็วกว่าคนที่โฟกัสแต่จำนวนหนี้คงค้างหลายปีเลยครับ
ที่มา: หนังสือ “เปลี่ยนหนี้เป็นอิสรภาพการเงิน” เขียนโดย โค้ชหนุ่ม จักรพงษ์ เมษพันธุ์
ทอง 1 บาท วันนี้ 在 เข็มทิศชีวิต ฐิตินาถ ณ พัทลุง Facebook 的最佳貼文
#บุญใหญ่ที่สุดในชีวิต สร้างพระมหาธาตุเจดีย์ บนผืนดินที่หลวงปู่เสาร์หลวงปู่มั่น ธุดงค์มาปักกลดเจริญกรรมฐานภาวนา #พระมหาธาตุเจดีย์วัดป่านาคนิมิตต์ สกลนคร
#บุญใหญ่ที่สุดในชีวิต สร้างพระมหาธาตุเจดีย์ตั้งแต่อิฐก้อนที่หนึ่งถวายองค์โคตมสัมมาสัมพุทธเจ้า
ร่วมสร้างพระเจดีย์ ชื่อบัญชีของทางวัดคือ กองทุนร่วมสร้างเจดีย์วัดป่านาคนิมิตต์ บัญชี ธนาคาร กรุงไทยเลขที่ 4123238084
ที่ดินวัดป่านาคนิมิตต์นั้นเป็นผืนดินที่หลวงปู่เสาร์ได้ธุดงค์มาพำนัก หลวงปู่มั่นได้มาเจริญสมณธรรมและเป็นสถานที่ภาวนาของ หลวงปู่เทสก์ หลวงปู่อ่อน หลวงปู่ชอบ หลวงปู่หลุย หลวงปู่ทองสุขหลวงปู่ฝั้น หลวงปู่กงมา หลวงตามหาบัว หลวงปู่วิริยังค์ หลวงปู่คำพอง และหลวงปู่อว้าน เขมโกเจ้าอาวาสวัดป่านาคนิมิตต์ นับเป็นผืนดินอันศักดิ์สิทธิ์ ที่เราจะได้มีโอกาสสร้างพระเจดีย์ถวายแด่ พระพุทธเจ้า พระอาจารย์ใหญ่ 2 รูป และ พ่อแม่ครูบาอาจารย์ผู้ใหญ่ อีก 11 องค์
ในพระไตรปิฏกจะมีพระสูตรระบุว่า เวลาพระอรหันต์เถระและเถรีบรรลุเป็นพระอรหันต์ ท่านมักจะเล่าว่า ในอดีตชาติท่านได้สร้างกุศลด้วยการ วางอิฐ 1 ก้อน หรือ ดวงประทีป ถวายพระเจดีย์ ผลของกุศลทำให้เป็น ราชาของเทวดา และของมนุษย์หลายชาติ มีอานิสงส์ในการตัดกรรมที่ท่านกำลังรับวิบาก และส่งผลให้ท่านได้รับชีวิตที่ดี และในที่สุดได้บรรลุเป็นพระอรหันต์
เรามักจะคิดว่าท่านช่างมีโชคดีจริงที่ได้สร้างพระเจดีย์ถวายพระพุทธเจ้า เพราะสมัยเราเจดีย์องค์สำคัญล้วนสร้างเสร็จแล้ว
พระอนุรุธ มีทิพยจักษุ คือมีตาทิพย์ และมีทรัพย์มาก เพราะ ถวายดวงประทีป ประดับพระเจดีย์
พระนางสกุลาเถรี มีตาทิพย์เพราะถวายดวงประทีปประดับพระเจดีย์
พระนางภัททิกาปิรานี ภรรยาของพระมหากัสสปะตั้งแต่อดีตชาติ เคยมีวิบากเก่าทำให้ร่างกายเหม็นเป็นที่รังเกียจ สามีไล่ออกจากบ้านทุกครั้ง พระนางจึงถอดเครื่องประดับบดเป็นก้อนอิฐวางสร้างพระเจดีย์ทำให้ตัดวิบากกรรมนั้น ทันทีทันใด เมื่อกลับไปที่บ้านจึงได้ครองคู่กันตลอดไป และเกิดมาทุกชาติเป็นเศรษฐีมหาศาลทุกชาติ ในพุทธกาลปัจจุบันได้เป็นพระอรหันต์ผู้เป็นเลิศด้านบุพเพนิวาสานุสติญาณคือระลึกชาติได้
ชฎิลเศรษฐี ทำหม้อดอกไม้ทองคำ 3 ใบ ไปบรรจุไว้ในเจดีย์ทองคำที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ กลายเป็น 1 ใน 5 ของเศรษฐีที่รวยที่สุดในสมัยพุทธกาล อานิสงส์การทำบุญด้วยทองคำของชฏิลเศรษฐี ทำให้มีภูเขาทองคำเกิดขึ้นหลังบ้าน บวชได้เพียง 3 วันเท่านั้นก็บรรลุเป็นพระอรหันต์ ด้วยอานิสงส์ของการสร้างพระเจดีย์
สมัยพระพุทธเจ้าปทุมมุตตระ เสด็จปรินิพพานแล้วพระมหากัสสปเถระได้ชักชวนประชาชน ให้ร่วมกันสร้างเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อบูชาพระพุทธเจ้า สร้างเจดีย์สูง 50เมตร หรือ 100 ศอก (ทั้งนี้ความสูงพระมหาเจดีย์ วัดนาคนิมิตต์ ที่เรากำลังจะสร้างคือ 56.90 ม. น้อยกว่าพระธาตุพนม 10 ซม
) อานิสงส์ส่งให้ท่านไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ วิมานของท่านสูงตระหง่านเจ็ดชั้น มีปราสาททองคำหนึ่งพันวิมาน
เมื่อเกิดเป็นมนุษย์ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิหรือเศรษฐีที่ยิ่งใหญ่ ชาติสุดท้ายได้มาเกิดในสกุลพราหมณ์ที่ร่ำรวยมหาศาล แต่สละทรัพย์ออกบวช จนสำเร็จเป็นพระอรหันต์
วันนี้ เป็นโอกาสสำคัญ ที่เราทุกคนจะเป็นคนต้นบุญที่ได้วางอิฐก้อนแรกของพระเจดีย์ ซึ่งในอนาคตกาลภายหน้า จะมีผู้เล่าว่า ในอดีตกาลได้เคยสร้างพระเจดีย์ถวายแด่พระโคตมสัมมาสัมพุทธเจ้าพระพุทธเจ้าองค์ที่ 4 แห่ง ภัทรกัปป์ ได้ทำให้ผู้มาพบเห็นกราบไหว้ได้มีจิตศรัทธารำลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า และพระอรหันต์ทั้งปวง
ในวันแรกที่เราได้รับโอกาสจากหลวงปู่อว้าน เขมโก และคณะสงฆ์วัดนาคนิมิตต์ ในการบอกเรื่องสร้างพระเจดีย์ เมื่อ วันที่ 31 ตุลาคม 2563 ภายใน 11 นาที มีผู้ขอร่วมบุญดังนี้
1.ท่านที่ 1 ร่วมด้วยทองคำ 10 กิโลกรัม และอีก 3 บาทหรือ 659 บาททองคำ คิดเป็นเงิน 18,880,350 บาท
2.นางสาว พัชรศรี เบญจมาศ 3,333,333 บาท
3.นายรติวัฒน์-นางวรรณพร สุวรรณไตรย์ ทองคำ 111 บาททอง
4.นางสาว รรินทร์ ทองมา 1,111,111 บาท
5.นางสาว พรหมจิตร เชียงหลิว 1,111,111 บาท
6.นางสาว ขวัญ เกตุศิริ 1,111,111 บาท
7.นางสาว ภัทร์พิชชา ปุณยานันต์ 1,111,111 บาท
8. นางสาว นภัค เพชรวงษ์ 1,111,111 บาท
9.ดร.วรงค์ศรี แสงบรรจง และ รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล 1,111,111 บาท
10.นางสาว อมราพร เจียง 1,111,111 บาท
11.นางสาวอัสมา แวโน๊ะ นางสาวชลลดา นาโคดา 1,111,111 บาท
12.นายเชาวน์ - นางทิพย์ เปรมสุริยา น.ส.เรวดี เกตุแก้ว และ นางสิรินงคร์นาถ เพรียวพานิช 1,111,111 บาท
13.นางสาวปาเจรา เอียสกุล นางสาวธิติมา ไชยมงคล นางสาววสี ณ นคร นางสาวณัฐญา วาโน นางสาวพัชรพรรณ์ สุทธาศวิน นางสาวนายศุภณัฐ หยองบางไทร นางสาวเมธาวดี นาทธนนันท์ นางสาวประทุมพร ลิ้มวัฒนาพิบูลย์ นายณัฐดนัย ผิวสานต์ นางสาวรัดเกล้า กาญจนวิสิษฐผล นางสาวโสรยา วิภาณุรัตน์ นางสาววรานิษฐ์ พงศ์เภสัชบัณฑิต 1,111,111 บาท
14.พญ.พจนา จิตตวัฒนรัตน์ นางสาวสิริมา ขจรวุฒิเดช และนางสาวพิมพ์นรี โหตะไวทยกร 1,111,111 บาท
15.นางสาวภคมน ภูริชชลธิศ นพ.พีรวรรธน์-พญ.กัญจนธรณ์ ศรีสุคนธ์ นางสาวนาฎรินทร์ นิธิฉัตรโชติรัตนา ณพนรี-ปวีณ วัฒนศิริเวช ชนิกานต์ ชุนรักษา 1,111,111 บาท
16.คณะคุณสุภาพร ปิ่นนาค 111,111 บาท
17.นายพชร อัตตาภิบาล และนางสาวภัทรนารี วิรัตน์พงษ์ 111,111 บาท
18.นายยุทธศักดิ์-นางธิรชา คัตตพันธ์ นายมนตรี มูลจินดา นางสาวธัญญพัทธ์ ธิชาพงศ์พิศาล นางสาวนพวรรณ สัจจาไชยนนท์ นายธีรภัช สถาพรวจนา นายณัฐภณ วุฒิกานากร นางสาวภัชรี ทับโคตร นางสาวฐิตพร สมัญญาหิรัญ นายพงศ์ภพ สุจริตพงศ์ นางสาวณัติกาญ ปิยะวัฒนะนนท์ นางสาวกัลยกร เลิศถิรธนพงศ์ ทองคำ 11 บาททอง
19.คณะนายภูวศิษฐ์ จิรวงศ์ณธิพร ทอง 3 บาท นางสาวเฌอภา วชิระชยากร ทอง 2 บาท นางสาวรัชญา พฤฒิพฤกษ์ ทอง 3 บาท นางสาวฐานิตดา สุวรรณไพศาลกุล ทอง 3 บาท รวมทองคำ 11 บาททอง
20.คุณลีลา ดีไชยเศษฐ ทองคำ 11 บาททอง
21.นางสาวอรกานต์ ศุภวิริยกุล 11,111 บาท
22.นายณัฐกิตติ์ วัฒนรุ่งสิทธิ์กุล 11,111 บาท
23.นางสาวอัจฉรา กอบคุณนันท์ 11,111 บาท
คิดเป็น เงิน ทำบุญ ใน 11 นาที แรกที่ 39.8 ล้านบาท ขอให้ทุกท่านมีส่วนในบุญนี้ด้วยเทอญ
ขอบุญกุศลทั้งปวง ส่งให้ความปรารถนาของท่านเต็มเหมือนพระจันทร์วันเพ็ญ เหมือนแก้วมณีรัศมีสว่างไสว ขอความปรารถนาของท่านจงสำเร็จด้วยเทอญ 🙏🙏🙏
เมื่อวาน วันที่ 2 พย ครบรอบ 161 ปี ชาตกาล ของหลวงปู่เสาร์ เราได้ประกาศ การสร้างเจดีย์นี้ จึงมีผู้มาขอร่วมบุญอีก เป็นจำนวน 2.5 ล้านบาท มีรายนามดังนี้
24.คุณนพวรรณ สัจจาไชยนนท์ 111,111 บาท
25.นางสาวลักษณ์วิไล โชคอำนวยพร 111,111 บาท
26.คุณภัชรี ทับโคตร 11,111 บาท
27.คุณจินาพร อุตส่าห์ 11,111 บาท
28.คุณปิ่นกมล รักษ์เผ่า 11,111 บาท
29.คุณประเสริฐ สมบูรณ์ สุรีรัตน์ ศรีพรหมคำ 11,111 บาท
30.คุณชญาณิศา รักษาเวียง 11,111 บาท
31.คุณกัลยารัตน์ ดวงศรีจันทร์ 11,111 บาท
32 คุณพัชรนันทน์ พูลมานะอุสาหะกุล 11,111 บาท
33.คุณปารวี ศิริล้น 11,111 บาท
34.คุณบุญชัย อมรปัญญาวงศ์ 11,111 บาท
35.คุณอัณณ์ชญา สิริโชติพัชญ์ 1,000,000 บาท
36.นางสาวสิรินันท์ นันทวิชิต 11,111 บาท
37.คุณณัฏฐา พานิชย์ 1,111บาท
38.คุณสวิมล เงินสด 1,111 บาท
39.คุณวิลาสินี จินทะวงค์ 3,000 บาท
40.ดร.เล็ก สุรเชษฐ์ เจริญขจรชัย และคุณขวัญหล้า จันทาคำ 1,111 บาท
41.คุณณัติกาญ ปิยะวัฒนะนนท์ 11,111 บาท
42.คุณรัชนี เจริญกลมรัตน์ 1,111 บาท
43.คุณเอกมล สว่างวรรณรัตน์ และคุณสกุลหญิง สว่างวรรณรัตน์ 11,111 บาท
44.นางสุรวลี-นายสมยศ สาระภิรมย์ 111,111 บาท
45.นางสาวเพียงพิศ แก่นท้าวและนายธนกร ตั้งมนัสสุขุม ทองคำ 11 บาททอง
46.นางสาว ปิยะนุช สุริยันต์ 111,111 บาท
47.นางสาวพลอยรัศมี สุยะนันท์ 1,111 บาท
48.คุณอุไรรัตน์ ธนวัชรางกูร 11,111บาท
49.คุณศิรินันท์ พลเทียร 1,111 บาท
50.กองกลางบัสน้ำเงิน 3,343 บาท
51.คุณพลังวัชร เอกสินทรัพย์ 11,111 บาท
52.คุณรุ่งรัตน์ และครอบครัว 1,111.11 บาท
53.คุณมินทร์ลดา หมายชอบ 1,111 บาท
54.คุณวิรัลยุพา จรีบุญสมโภช นายสมเกียรติ นายกวิน นส ธมนวรรณ โล่ห์จินดาพงศ์ 11,111 บาท
55.คุณณรงฤทธ ไพศาลวิภัชพงศ์ และครอบครัว 22,222 บาท
56.คุณธัญษร นิตยภาพสกุล 111,111 บาท
57.คุณนุสรา จงชนะนที และคุณวรลักษณ์ ทองมาก 111,111 บาท
58.คุณชมพูนุท วงค์การ 111,111 บาท
59.คุณวรลักษณ์ แย้มชื่น 11,111 บาท
60.คุณศิรกวิณฑ์ วรัจฉริยางกูร 11,111 บาท
61.คุณจิรัฏฐ์ เสกรัมย์ 11,111 บาท
62.คุณปวรดา ฝันฝา 11,111 บาท
63.คุณศรนินาท วัฒนะจันทร์ คุณสิริ มตีนิมมานเหมินท์ และครอบครัว 11,111 บาท
64.คุณเบญจวรรณ พุ่มพึ่งศรี 3,333 บาท
65.นายอัศวิน ทองประดับ และนางสาวณิชารัศม์ พีรสิริวัชร์ 11,111 บาท
66.คุณปัญญา คุณศิริรัตน์ อารักษ์สกุลวงศ์ 111,111 บาท
67.คุณฐิติกร ทิพย์พรวงษ์ 11,111 บาท
68.คุณธัญญ์ธิชา วันหลุมข้าว 11,111 บาท
69.คุณชลีพร ต้นสักตระกูล และแม่นางเซี่ยมหง แซ่ลี้ 11,000 บาท
วันที่ 3 พย เราได้ประกาศ การสร้างเจดีย์นี้ จึงมีผู้มาขอร่วมบุญอีก เป็นจำนวน 4.5 แสนบาท มีรายนามดังนี้
70.คุณจิตราภรณ์ ณัฐนันทน์ และคุณณัฐวัตร คัมภีระพันธุ์ 11,111 บาท
71.คุณพีระณัฐ และคุณพิชชานันท์ และคุณธนันชัย วรานนท์ 11,111 บาท
72.คุณจิตติมา บุญมา และคุณธัญชยา วานิชมนตรี และคุณสุดใจ บุญมา และครอบครัว 11,111 บาท
73.โบและครอบครัว 1,111 บาท
74.คุณสุดาวดี ลัมพ์เรคช์เทอร์ 11,111 บาท
75.พันเอก(พิเศษ)วิชัย สาคำภีร์ 500 บาท
76.คุณพรพิมล เทียนชัยกุล 2,000 บาท
77.คุณกัลยา 500 บาท
78.คุณพัทธานันท์-คุณเจนวิทย์ หงส์ปิติเจริญ 11,111 บาท
79.คุณรวิวรรณ เทพรักษา 28,000 บาท (1บาททองคำ)
80.คุณภรณ์ณภัส จิระประเสริฐสุข และครอบครัว 111,111 บาท
81.คุณบัว บุษลักษณ์ บุญมาก 11,111 บาท
82.คุณธนานิษฐ์ วุฒิธนัยโรจน์-พิมพ์ปวีณ์ มูลศรีแก้ว 11,111 บาท
83.คุณชลพิชา สิริภีมพิมล 1,111.11 บาท
84.คุณชนก จันทาทอง 11,111 บาท
85.คุณวิลาสินี&นัทที เลืองวัฒนะวนิช 11,111 บาท
86.นพ.วีรยุทธและพญ.ณิชกานต์ พานิชสาส์นและครอบครัว 22,222 บาท
87.นายกัณฑ์พงษ์ และ นางสาวอรร์รวี ถิระพุฒิพันธ์ พร้อมครอบครัว 11,111 บาท
88.คุณภรกานต์ พัทรชนม์ เอื้อย 1,111 บาท
89.คุณสุธาสิณี ดลสุขกุล และ อรรถพชร พัทโร 22,222 บาท
90.คุณกิตติมา ค้ำชู และครอบครัว 11,111บาท
91.คุณกัญลิน นาวีสัมพันธ์ ร่วมเป็นทองคำ 2 สลึง
92.คุณอภิชญา คำหวาน และครอบครัว 11,111 บาท
93.คุณชญาดา ศิรินันทวิทยา คุณสิรินเวช ล้ำเลิศธรรม คุณสมหมาย จันทน์ประภาวุฒิ คุณสุภาภรณ์ ไพเราะ 111,111 บาท
94. ชุติวันตุ์ รอดสุด ร่วมทำบุญเงินสด 11,111 โอนแล้ว
รวมยอดร่วมทำบุญทั้งหมด 42.9 ล้านบาท
ขอบุญกุศลทั้งปวง ส่งให้ความปรารถนาของท่านเต็มเหมือนพระจันทร์วันเพ็ญ เหมือนแก้วมณีรัศมีสว่างไสว ขอความปรารถนาของท่านจงสำเร็จด้วยเทอญ 🙏🙏🙏