#ประสบการณ์เปิ่นๆในญี่ปุ่น 😂🇯🇵
ตอน ขอให้รถตำรวจมารับ 🚨
———————
เรื่องมีอยู่ว่า
ตอนนั้นเรากับเพื่อนคนไทยอีกคนนึง
ได้มีโอกาสไปทำงานเป็นล่ามให้กับคณะรำวงไทย🇹🇭
ที่มาแสดงที่ฟูจิ คิว เป็นเวลา4 วัน
ตอนนั้น มาอยู่ญี่ปุ่นได้แค่2ปี
ก็ยังโก๊ะๆ ไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราวกันเท่าไหร่
วันสุดท้าย พองานเสร็จ
ทางคนที่ว่าจ้างก็บอกพวกเราว่า
เสร็จงานแล้ว
จะกลับเองไหม
หรือว่าจะติดรถไปพร้อมคณะไปลงระหว่างทาง
เรากับเพื่อน ก็บอกว่า
ขอติดรถเข้าโตเกียวไปด้วยละกัน
จะได้ประหยัดค่ารถ
ระหว่างทางขากลับมาโตเกียว
ก็มีแวะพักที่จุดพักรถบนทางด่วน
ตอนนั้น เรากับเพื่อนคนไทย
มองเห็นตัวเมือง คล้ายๆแถวๆฮาราจุกุ
(ไม่แน่ใจว่าที่ไหน เพราะนานมาแล้ว)
ก็เลยเกิดความคิดกันว่า
“เฮ้ย! ทำไมเราไม่ลงรถกันตรงนี้เลย
แล้วเดินลงบันไดข้างล่าง
จะได้ไม่ต้องอ้อม ตรงนี้น่าจะใกล้กว่า”
(ไม่รู้ตอนนั้นคิดอะไรอยู่😂 คิดแล้วอาย
ด้วยความโง่ของตัวเอง คิดว่าคนที่ทำงานที่จุดพักรถ คงเดินขึ้นบันไดมาจากด้านล่าง
เพราะจุดพักรถนั้น มันเตี้ยมาก จนมองเห็นบ้านคน)
เราสองคน ก็เลยไปบอกคนขับรถว่า
ขอลงตรงนี้ละกัน
คนขับรถญี่ปุ่น ก็ทำหน้างงๆ😶
ถามว่าจะลงตรงนี้แน่เหรอ
พวกเราก็ตอบด้วยเสียงมั่นใจว่า “แน่!”
(คุณลุงคนขับไม่ได้ถามพวกเราต่อว่าจะมีใครมารับมั้ย ถึงจะลังเลแต่ก็ตอบตกลง แต่โดยดี)
สรุปพวกเราก็เลยลงที่จุดพักรถ
และคนขับรถ
ก็ไปส่งคนจากคณะรำต่อ
ที่นี้พวกเราก็ช่วยกันหาบันไดลงกัน😂
แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ
(แน่สิ มันจะไปเจอได้ยังไง!!)
เลยไปถามพนง.ขายของที่ร้านขายอาหาร
พนง.ก็บอกว่า ไม่มีทางลงหรอกตรงนี้
ต้องขับรถลงไปเท่านั้น
เวร!! แล้วสิ ทีนี้😱😱
พวกเราติดแหงก จะทำยังไงดี!!!
ตอนนั้นก็เริ่มเย็นแล้ว
คนรู้จักที่มีรถก็ไม่มี
มีแต่เพื่อนคนต่างชาติด้วยกัน
แท๊กซี่ที่ผ่านไปผ่านมาก็ไม่มี
จะลงยังไงล่ะ😣
พนง.ขายเลยชี้ไปที่ตู้โทรศัพท์ฉุกเฉิน
บอกให้เราโทรไปหาตำรวจ
เราก็ขอบคุณเขา
และหันไปถามเขาว่า
“เออ เราจะบอกตำรวจว่ายังไงดี
เพราะสถานการณ์มันค่อนข้างซับซ้อน
อย่างที่คุณรู้”💦
(พร้อมทำเสียงหัวเราะแห้งๆ)
พนง.ขายก็ใจดีมาก
แนะนำเป็นภาษาญี่ปุ่นให้เราบอกว่า
“ให้บอกตำรวจไปว่าถูกทิ้งอยู่บนทางด่วน”
พวกเราก็จดคำพูดและประโยคจากพนงขาย
และโทรไปหาตำรวจโดยใช้ตู้โทรศัพท์ฉุกเฉินนั้น
ตู้นั้น ไม่มีเบอร์อะไรเลย มีแค่หูฟัง
แค่ยกหูปุ๊บ ก็ต่อสายไปถึงตำรวจทันที
(สะดวกมาก โทรหาตำรวจได้อย่างเดียว
โทรหาคนอื่นไม่ได้)
พอโทรไป ตำรวจก็รับสายจริงๆ
ตำรวจถามว่า
“どうしましたか?” เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ
โอ๊ยยยยย😂
ตอนนั้นทั้งตื่นเต้น ทั้งอายมากกกก💦
ก็เลยตอบไปว่า
“หนูถูกทิ้งอยู่บนทางด่วน ลงไม่ได้ ทำยังไงดี”
คุณตำรวจทำเสียง “ห๊ะ” แบบงงมาก
#อะไรคือถูกทิ้งอยู่บนทางด่วน
คงงงว่าพวกเราขึ้นไปบนทางด่วนได้ยังไง โดยที่ไม่มีรถ!
ตำรวจก็บอกให้รออยู่ที่นั่น
เดี๊ยวจะส่งจนท.ไปรับ
วินาทีนั้น โล่งอกมากกกก
เพราะเราสองคนก็เป็นผู้หญิง ฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว
ตอนนั้นเป็นแค่นักเรียนที่ร.ร.สอนภาษาญี่ปุ่น
เงินก็ไม่ได้มีมาก และถ้าโทรเรียกแท๊กซี่ขึ้นมารับกลางทางด่วน
นี่สงสัยต้องจ่ายเงินอ๊วกแน่ๆเลย
สรุป สักพักตำรวจก็มารับพวกเราจริงๆ🙏🏻
พวกเราก็ได้ขึ้นรถตำรวจ
คุณตำรวจใจดีมากกกกก
นึกว่าจะโดนด่าซ่ะแล้ว
แต่ในระหว่างที่อยู่บนรถตำรวจ คุณตำรวจก็ชวนคุย🚓🚔
ถามว่าพวกเราทำอะไรอยู่ เป็นคนประเทศไหน
พอบอกว่าเป็นคนไทย คุณตำรวจอีกคนนึง
บอกว่า เคยไปเมืองไทยด้วย ชอบมากเลย
ของถูกด้วย
และยังหัวเราะในความเปิ่นของพวกเราอีกว่า
คิดยังไงถึงคิดว่า “บน highway จะมีทางลงไปข้างล่าง”
(โอ๊ยยยย อายยยยยยยยยมากกกกกกกในความคิดน้อยของตัวเอง)
พอมาถึงที่หมาย
พวกเราก็ขอโทษคุณตำรวจกันยกใหญ่ที่ทำให้ลำบาก
คุณตำรวจก็บอกว่า ไม่เป็นไร
คราวหน้าอย่าทำอีกแล้วกัน
และนี่ก็เป็นประสบการณ์การนั่งตำรวจครั้งแรกในญี่ปุ่นค่ะ
ถามว่าทำไมถึงพูดว่าครั้งแรก
เพราะว่าครั้งที่สองก็มี
แต่เป็นตอนที่ถูกคนโรคจิตบุกบ้าน
ประสบการณ์ครั้งนี้เวลาเจอเพื่อนคนนั้น
เรายังพูดถึงกันอยู่เลย
เอาเป็นว่า นี่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีนะคะ
ใครไปญี่ปุ่นก็ศึกษาเส้นทางและกฎระเบียบให้ดีก่อนนะคะ
อย่าทำตามกันนะคะ
ครั้งนี้เป็นเหตุสุดวิสัย ><
🔴อ่าน Ep ก่อนๆย้อนหลัง
ประสบการณ์ชีวิตในญี่ปุ่น
▪️Ep1
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2694878520745677&id=1407865602780315&sfnsn=mo
▪️Ep2 ตอน ทำงานเป็นนางแบบที่ญี่ปุ่น🇯🇵
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2707207256179470&id=1407865602780315&sfnsn=mo
▪️Ep3 ตอน ลองเป็นนางแบบผมในญี่ปุ่น🇯🇵
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2709352195964976&id=1407865602780315&sfnsn=mo
▪️Ep4 ตอน ทำไมถึงเลือกไปเรียนที่ญี่ปุ่น
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2713089222257940&id=1407865602780315&sfnsn=mo
▪️Ep5 ตอน ชีวิตในโรงเรียนสอนภาษาฯในญี่ปุ่น ภาค1
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2720486891518173&id=1407865602780315
▪️Ep6 ทำงานพิเศษในญี่ปุ่นครั้งแรก ภาค1
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2770806399819555&id=1407865602780315&sfnsn=mo
▪️Ep7 ทำงานพิเศษในญี่ปุ่นครั้งแรก ภาค2
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2775727302660798&id=1407865602780315&sfnsn=mo
▪️Ep8 ทำงานพิเศษในญี่ปุ่นครั้งแรก ภาค3
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2775763995990462&id=1407865602780315&sfnsn=mo
▪️Ep9 ทำงานพิเศษในญี่ปุ่นครั้งแรก ภาค4
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2775792779320917&id=1407865602780315&sfnsn=mo
「ทำไมถึงเลือกไปเรียนที่ญี่ปุ่น」的推薦目錄:
- 關於ทำไมถึงเลือกไปเรียนที่ญี่ปุ่น 在 I Love Japan TH Facebook 的精選貼文
- 關於ทำไมถึงเลือกไปเรียนที่ญี่ปุ่น 在 I Love Japan TH Facebook 的最讚貼文
- 關於ทำไมถึงเลือกไปเรียนที่ญี่ปุ่น 在 ทำไมต้องไปเรียนภาษาญี่ปุ่น (ระยะยาว) ที่ญี่ปุ่น ? l วางแผนเรียนต่อ ... 的評價
- 關於ทำไมถึงเลือกไปเรียนที่ญี่ปุ่น 在 ที่มาที่ไป ทำไมเลือกเรียนภาษา”ญี่ปุ่น”ที่ประเทศญี่ปุ่น!!!? - YouTube 的評價
- 關於ทำไมถึงเลือกไปเรียนที่ญี่ปุ่น 在 Jeducation เรียนภาษาญี่ปุ่น เรียนต่อญี่ปุ่น - ใครคิดไว้ว่าอยากไปเรียน ... 的評價
ทำไมถึงเลือกไปเรียนที่ญี่ปุ่น 在 I Love Japan TH Facebook 的最讚貼文
#ประสบการ์ณชีวิตในญี่ปุ่น Ep4
ตอน #ทำไมถึงเลือกไปเรียนที่ญี่ปุ่น 🇯🇵
ย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 กว่าปีก่อน
ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเรียนภาษาญี่ปุ่น
หรือจะได้ไปใช้ชีวิตอยู่ที่ญี่ปุ่น
ถ้าตอนนี้ ย้อนเวลากลับไปเจอตัวเองได้ในอดีต แล้วมีคนมาบอกแบบนี้
คงจะไม่เชื่อ555😆
.
สมัยก่อน ตอนม.ปลาย บ้าเรียนภาษาสเปนมาก
เพราะไปแลกเปลี่ยนโครงการ AFS ที่ประเทศปานามา (ใช้ภาษาสเปน)🇵🇦มา
แต่สมัยนั้น ภาษาสเปนยังไม่เป็นที่แพร่หลายหาที่เรียนก็ยาก
หลังจากที่กลับมาก็ไม่ได้มีโอกาสใช้ภาษาสเปนเท่าไหร่
.
ตอนอยู่มหาวิทยาลัยก็เรียนสาขาบริหารธุรกิจ เอกการตลาด
ไม่ได้เกี่ยวกอะไรกับญี่ปุ่นเลย
แถมภาษาที่2 ที่เลือกเรียน คือ ภาษาจีน (จริงๆอยากเลือกภาษาสเปน แต่ตอนนั้นยังไม่มี)
.
เพราะฉะนั้น แค่ 3 ภาษา (สเปน จีน อังกฤษ) ก็ปวดหัวจะแย่อยู่แล้ว
จะให้มาเรียนภาษาที่สี่อีก คงไม่ไหว😵
มีหลายเหตุการ์ณที่รู้สึกว่าทำให้เราต้องมาเกี่ยวพันกับญี่ปุ่นตลอด
แต่มายก็หนี ไม่อยากเรียน
.
แต่เหมือนดวงชะตาเล่นตลก
ยิ่งอยากหนีจากญี่ปุ่น ยิ่งต้องเจอ555
จนตอนปี 4 ก่อนเรียนจบ
มีเหตุการณ์นึงที่ทำให้มาย
ตัดสินใจเปลี่ยนเข็ม
จากที่ตั้งใจว่าจะไปเรียนต่อโทที่อเมริกา
เปลี่ยนโค้งสุดท้ายไปที่ญี่ปุ่น
.
🟠นั่นก็ คือ การได้ไปแลกเปลี่ยนที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลา 3 สัปดาห์
ตอนใกล้ๆจบปี 3 ได้เข้าร่วมโครงการนึง
นั่นเป็นครั้งแรกที่ได้ประเทศญี่ปุ่น
ต้องไปอยู่กับ Host Family
แน่นอนว่า ตอนนั้น พูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้เลยสักคำ
.
ทั้งๆที่รู้ว่าจะต้องไป
แต่ก็ไม่ได้เตรียมตัวด้านภาษาอะไรเลยแม้แต่น้อย เพราะจปส.ของเราครั้งนั้นไม่ใช่การไปเรียนภาษา
แม้แต่ไกด์บุ๊ค หรือหนังสือสอนภาษาสักเล่มก็ไม่ได้เอาไปด้วย
อย่างที่บอกไปแล้วว่า ไม่อยากจะเรียนภาษาที่4เพิ่มแล้ว
บวกกับทางโครงการแจ้งว่า Host Family
พูดภาษาอังกฤษได้นิดหน่อยด้วย
เลยชิว
คิดว่าโฮสพอพูดภาษาอังกฤษได้ แค่สื่อสารได้ก็คงโอเค
แต่ปรากฎว่า ตอนที่ไปถึงจริงๆ
โฮสพูดได้นิดหน่อยจริงๆค่ะ!
พูดได้แค่ one two three และ thank you, sorry, yes, no 😵😵
แม่เจ้า! จะรอดมั้ยเนี่ย!
สมัยนั้นsmart phone ก็ยังไม่มี
ยังเป็นNokia กับมือถือพับๆอยู่เลย
พวกapp สอนภาษา Youtube ก็ยังไม่มี
(จะว่าไปเขาก็ไม่ได้โกหก พูดได้นิดหน่อยจริงๆ!
แค่นิดหน่อยของเรากับเขาไม่เท่ากัน T_T)
.
แต่ถึงจะคุยกันไม่รู้เรื่อง
โฮสต์คุณแม่ใจดีกับมายมากกกก
ดูแลมายอย่างดี
เราคุยกันด้วยภาษากาย ชี้โน้นชี้นี่
ได้เรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นมาหลายคำ
ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ว่ามายฟังภาษาญี่ปุ่นไม่เข้าใจ
เขาก็ยังจะคงพูดภาษาญี่ปุ่นรัวๆใส่มาย555
เขาไม่ทำให้มายรู้สึกแปลกแยก หรือเอ้าท์เลย
พาไปเที่ยวเมืองโน้นเมืองนี้ พยายามจะสื่อสารกับมาย ทั้งๆที่คุยกันไม่รู้เรื่อง
.
เขาเป็น Single mom
และเป็นเจ้าของบริษัทรับจัดงานศพ
วันที่มารับมายที่สนามบิน เอารถขนศพมารับ (พีคมากกก)🥶
ข้างหลังแทนที่จะใส่โลงศพ เอากระเป๋าเดินทางมายใส่แทน
คือ นั่งรถไป ก็กลัวไป เพราะเป็นคนกลัวผีอยู่แล้ว
.
อีกหนึ่งประสบการณ์ที่ลืมไม่ลงเลย คือ
เขาพามายไปดู "การแต่งหน้าศพ" 😱
แทบจะเป็นลม ตอนเขาพาเข้าไป และเรียกเราให้ไปยืนใกล้ศพ จะเป็นลม แต่ต้องอดทน เพราะไม่อยากให้เขาเสียน้ำใจ
(คือ คุยไม่รู้เรื่อง ถ้ารู้ก่อนคงไม่ไปแน่ๆ)
ตอนไปถึงนี่คือ สวดมนต์ในใจตลอด ฮืออออ
ยังมีพาเราไปดูสถานที่สำหรับเผาโลงศพ อีก ฯลฯ 😭
ถ้าจะให้เล่า นี่ยาววว
.
เอาเป็นว่า รู้สึกผูกพันก็เขาอย่างประหลาด
ก่อนกลับไทย ที่สนามบิน เราสองคนยืนกอดกันร้องไห้ที่สนามบิน
มายตัดสินใจว่าจะกลับมาหาเขาอีกให้ได้
อยากจะกลับมาขอบคุณ รู้สึกเหมือนเขาเป็นแม่คนที่2
นี่คือ จุดเริ่มต้น ของการตัดสินใจเรียนภาษาญี่ปุ่นค่ะ555
.
🟠สาเหตุที่สอง คือ รู้สึกได้ว่าภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาที่สำคัญที่ยังไม่ค่อยมีคนพูดได้เยอะ
ถ้าพูดภาษาญี่ปุ่นได้ ไม่ตกงานแน่นอน
อยู่ที่ว่าเราจะเกี่ยงงานมั้ย
ภาษาอังกฤษ จีน คนพูดได้เยอะแล้ว
แต่ภาษาญี่ปุ่น ยังไม่ค่อยมี และ
บริษัทญี่ปุ่นในไทยมากมาย ต้องการบุคลากรที่พูดญี่ปุ่นได้
.
มีครั้งนึง ที่มหาวิทยาลัยมีงาน Job Fair
บริษัทดังๆส่วนใหญ่ๆ ระบุว่า ถ้าพูดภาษาญี่ปุ่นได้
จะรับพิจารณาเป็นพิเศษ
มายก็รู้สึกว่า ภาษาอังกฤษ มายก็พอพูดได้ระดับนึงแล้ว
คนที่พูดอังกฤษเก่งๆได้ก็มีเยอะ
เทียบอัตราส่วนแล้ว คนพูดญี่ปุ่นได้ ยังมีน้อยกว่าเยอะ
เลยตัดสินใจว่าจะเรียนภาษาญี่ปุ่น
และนี่คือ สามสาเหตุหลักที่ตัดสินใจไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่นค่ะ
.
ที่มาเล่า เพราะมีหลายคนมาถามมายว่า
ตอนนี้เพิ่งเรียนจบ อยากเริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่น
จะไม่ช้าไปใช่มั้ย
อยากจะบอกว่า ไม่มีคำว่าช้าไปหรอกค่ะ
ตอนมายไปญี่ปุ่นแรกๆ มีเพื่อนร่วมชั้นอายุ40 พูดญี่ปุ่นไม่ได้ มาเริ่มเรียนก็มี
เริ่มช้า ดีกว่าไม่เริ่ม
ยิ่งตอนนี้ มีเรื่องโควิดมา
ถือโอกาสนี้ เอาเวลาว่างที่ออกไปเที่ยว
มาพัฒนาทักษะของตัวเองกัน ^^
เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ ^^
.
#มายเซนเซ
ทำไมถึงเลือกไปเรียนที่ญี่ปุ่น 在 ที่มาที่ไป ทำไมเลือกเรียนภาษา”ญี่ปุ่น”ที่ประเทศญี่ปุ่น!!!? - YouTube 的推薦與評價
เล่าสู่กันฟัง บอกเหตุผล อะไรเป็นแรงจูงใจ ที่ ทำให้อยาก เรียน ภาษา ญี่ปุ่นทำไม ไม่ เลือกเรียน ภาษา ญี่ปุ่นที่ ไทย ? ... <看更多>
ทำไมถึงเลือกไปเรียนที่ญี่ปุ่น 在 Jeducation เรียนภาษาญี่ปุ่น เรียนต่อญี่ปุ่น - ใครคิดไว้ว่าอยากไปเรียน ... 的推薦與評價
ถ้าจะไปภาคเรียน : เมษายน 2021 ต้องสมัคร เดือนกันยายน 2020 นี้ . ซึ่งเมื่อโรงเรียนเปิดรับสมัคร ถึง ... ... <看更多>
ทำไมถึงเลือกไปเรียนที่ญี่ปุ่น 在 ทำไมต้องไปเรียนภาษาญี่ปุ่น (ระยะยาว) ที่ญี่ปุ่น ? l วางแผนเรียนต่อ ... 的推薦與評價
... 02:55 " ทำไม " เรา ถึง ต้อง ไปเรียน ภาษาระยะยาว ที่ญี่ปุ่น 07:14 "เป้าหมาย" ... 14:26 วิธีการ เลือก สถาบันสอนภาษา ที่ญี่ปุ่น 17:51 ค่าครองชีพ และ ... ... <看更多>