ส่วนตัวพี่คิดว่าสำหรับตัวน้องเองก็ได้บทเรียนไปเยอะแล้วนะครับ ก็อยากให้หลาย ๆ คนที่ยังมีอคติกับน้องหรือไม่ชอบน้อง ก็อยากให้ลองเปิดใจดู พี่ว่าใคร ๆ ก็พลาดกันได้ครับ และทุกคนก็สามารถปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นได้
สิ่งสำคัญที่พี่อยากจะบอกทุกคนคือถึงแม้ว่าเราจะไม่ชอบใครสักคน(*หมายถึงคนทั่วไปทุกคนเลยครับ) แต่เราไม่จำเป็นต้องทำสิ่งที่ไม่ดีกับเขา เพราะทุกคนต้องได้รับผลจากการกระทำของตัวเองอยู่แล้ว เราไม่จำเป็นต้องไปทำร้ายจิตใจใครเลยครับ
ปล.ไม่โกรธแล้วแต่ไม่ลืมนะ 55 *-*
“ไม่ว่าที่ผ่านมาบลูจะเคยผ่านอะไรมา ทำดีหรือผิดพลาด วันนี้บลูเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเราแล้ว” น้องบลู Devita
เจ้าหนูน้อยอายุ 14 คนนี้ยังคงหวาดกลัวและตัวสั่นทุกๆครั้งที่ต้องก้าวสู่เวทีที่ใหญ่ขึ้น เด็กคนหนึ่งต้องรับแรงกดดันมากมายจากสังคมออนไลน์ ถูกต่อว่า ถูกนินทา หรือถูกชื่นชม บลูจะต้องรับมันในๆทุกครั้งที่ปรากฎตัว
ไม่ว่าอดีตบลูจะเคยทำอะไร ผิดพลาด หรือเป็นสิ่งไม่ดี โค้ชคิดว่าบลูก็ได้เรียนรู้สิ่งเหล่านั้นมาด้วยตัวเอง เพราะโลกปัจจุบันทำให้เด็กและผู้ใหญ่เชื่อมต่อกันไวเกินควร เด็กต้องเล่นเกมในสังคมเวทีเดียวกับผู้ใหญ่ บางครั้ง ที่บลูคิดว่า มันคือการเล่นสนุก มันกลับกลายเป็นสิ่งที่ดูไม่เหมาะสมสำหรับบางคนไป
แต่สำหรับโค้ช บลูเป็นเพียงแค่เด็กอายุ 14 บลูเปลี่ยนแปลงได้แน่ บลูวันนี้ต่างจากเมื่อก่อน บลูจะต้องเติบโตขึ้นและเป็นนักกีฬา E sport ที่ดี โค้ชเชื่อและเห็นอย่างนั้น
ผู้ใหญ่อย่างเราๆมีหน้าที่ชี้ทางอะไรถูกผิดให้เจ้าหนูน้อยคนนี้ มากกว่าที่จะใช้สื่อกดดันและตอกย้ำแต่เรื่องเดิมๆไม่ใช่หรือ... ที่ผ่านมาใครเคยต่อว่าหรืออบรมสั่งสอนบลูผมมองว่าไม่ผิดนะ เป็นสิ่งที่ดี เป็นการชี้ให้บลูเห็นผลจากการกระทำ มากกว่าการด่าทอโดยไร้เหตุผล (ผมไม่นับอารมณ์ตอนกดเกมละกันเพราะตัวเกมมันทำให้การควบคุมอารมณ์ยาก " หัวร้อน “)เพราะนั่นบ่งบอกถึงวุฒิภาวะในการพูดคุยหรือสั่งสอนกับเด็ก แต่วันนี้ถ้าใครยังต่อว่าบลูแต่เรื่องเดิมๆซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยที่บลูไม่ได้ทำผิดซ้ำอีกคุณจะกลายเป็นผู้ใหญ่ที่ใช้แต่ ทิฐิ และให้โอกาสใครไม่ได้แม้กระทั่งเด็กคนหนึ่งที่เคยทำผิดพลาด จากการเล่น นิสัยดื้อ นิสัยทะเล้น ในวัยเยาว์
“ถ้าเด็กคนหนึ่งอายุ 14 เคยขโมยของในร้านขายของชำ สังคมจะต้องตราหน้าว่าเด็กคนนี้ขี้ขโมย และเติบโตขึ้นเป็นเด็กที่ไม่ดีไปตลอดอย่างนั้นหรือ... ถ้าสังคมรุมต่อว่าและประณามแบบนี้ไปเรื่อยๆ สักวันหนึ่งเด็กคนนี้ก็จะเป็นขโมยขึ้นมาจริงๆนั่นแหละ หรือไม่ก็เติบโตกลายเป็นเด็กมีปมเข้าสักวัน เรายังจะเรียกตัวเองว่าผู้ใหญ่ที่ดีในสังคมได้อีกหรือไม่"
เด็กหน่ะมันเปลี่ยนง่าย เปรียบเสมือนผ้าขาว มันอยู่ที่เราจะแต่งแต้มอะไรกับกับพวกเขา เพราะว่าช่วงวัยเด็กนั้น คิดอะไรทำอะไร เล่นอะไรก็ทำออกมาตรงๆแบบไม่มีการแอบแฝงและที่สำคัญ ไม่มี “ทิฐิ” ต่างจากผู้ใหญ่อย่างเราๆ ที่ยึด “ทิฐิ”ตนเอง ไว้แน่นและเปลี่ยนอะไรได้ยากกว่าเด็ก
มาร่วมสร้างสังคมที่ดีกัน ช่วยดูแลเด็กๆในสังคมไทย ไม่ใช่เพียงแค่น้องบลู ที่ผมยกตัวอย่าง แต่ยังมีเด็กๆอีกมากที่พวกเราต้องพบเจอร่วมกันในสังคมออนไลน์ที่โลกมันเปลี่ยนและเชื่อมผู้คนต่างเพศต่างวัยเข้าหากันมากขึ้น หากเราใช้สื่อในทางที่ผิดมันจะกลายเป็นดาบสองคมให้กับผู้คนในสังคมไป
แม้ผมจะไร้ชื่อ ไร้ผลงาน สอน ROV หรืออะไรก็แล้วแต่มันเป็นเพียงแค่นัยแฝงไม่ใช่สิ่งสำคัญอะไรนอกจากการ ได้ คลุกคลี ได้มีโอกาสพูดคุยกับเด็กๆ การให้โอกาส การสนับสนุน การอบรมสั่งสอน การได้ทำสิ่งเหล่านี้และมองพวกลูกศิษย์เติบโตขึ้น นั่นแหละ คือ ความภูมิใจ ที่เราติดตัวไว้ยามแก่เฒ่าหรือยามใกล้จะสิ้นลมหายใจ ตราบที่เรายังเรียกตัวเองว่า ”ครู ”
ป.ล. ผมก็เคยทำผิดพลาด เคยควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ เคยเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่ดี เมื่อเวลาผ่านไปนานขึ้น ผมก็เรียนรู้และต้องปรับปรุงและยอมรับข้อผิดพลาดของตัวเอง เพื่อที่จะเติบโตขึ้นต่อไป
「ทิฐิ คือ」的推薦目錄:
- 關於ทิฐิ คือ 在 Doyser Facebook 的精選貼文
- 關於ทิฐิ คือ 在 Janie Thienphosuvan JT Facebook 的最讚貼文
- 關於ทิฐิ คือ 在 ทิฐิ หรือ ทิฏฐิ ?- . ต้นปีใหม่ 2564 แอดมินได้รับหนังสือเล่มหนึ่งมา ... 的評價
- 關於ทิฐิ คือ 在 “ทิฐิมานะ” ว่าเก่งหรือดีกว่าคนอื่น “เป็นกิเลส” ขอให้บัณฑิตทั้งหลายอย่า ... 的評價
- 關於ทิฐิ คือ 在 ทิ้งพยศ ลดมานะ ละทิฐิ คือมรรควิธีแห่งสันติสุข - Facebook 的評價
- 關於ทิฐิ คือ 在 "ทิฐิ"...คือใจแคบอวดดี 的評價
- 關於ทิฐิ คือ 在 เธอคือ 'เสืออาคม' ตัวพิเศษที่จอมขมังเวทย์ตามหา - YouTube 的評價
- 關於ทิฐิ คือ 在 พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ : สัมมาทิฐิที่แท้จริงก็คือ ทุกอย่างสงบ 'no ... 的評價
ทิฐิ คือ 在 Janie Thienphosuvan JT Facebook 的最讚貼文
มาอ่านการวิเคราะห์ตัวละครของคนเขียนบทกันค่ะ
ติดตามเพลิงบุญ เร็วๆนี้แน่นอนค่ะ
Admin
การขุดด้านมืดของตัวละคร
ถึงนัทจะดูเป็นผู้หญิงหน้าหมวยๆ ยิ้มตาหยี มีเขี้ยว แต่จริงๆนัทไม่ใช่ผู้หญิงใสๆ มองโลกสวยนะคะ ตรงกันข้ามค่อนข้างเทาหนักมาทางดาร์ก (ฮา)
"ด้านมืดของจิตใจ" มักซ่อนเร้นอยู่ในตัวเรา ถ้าเรารู้ไม่ทัน มันอาจจะนำพาชีวิตเราเข้าสู่ความลำบาก ความทุกข์ และความพังทลาย
นัทสนใจในด้านมืดของตัวเอง ทำให้สนใจในด้านมืดของตัวละคร
หลังจากอ่าน “เพลิงบุญ” จบ .. บอกได้เลยว่า “ชอบมากกกกกก” 4 ตัวละครเด่น คือ พิมาลา (เบลล่า) ใจเริง (เจนี่) ฤกษ์ (ป้อง) และเทิดพันธ์ (หลุยส์) ทุกคนมีความพิกลพิการทางสติปัญญา มีความเขลา ความโลภ ความอิจฉา ริษยา และทุกคนพยายามตะเกียกตะกายเอาตัวเองให้หลุดพ้นออกจากห้วงทุกข์
นัทเลือก “พิมาลา (พิม)” มาเป็นตัวนำเรื่อง (Protagonist) เพราะเธอคือตัวละครที่ได้รับการเรียนรู้ และมีพัฒนาการมากที่สุดในเรื่อง (room to grow) มีความน่าเห็นอกเห็นใจ และน่าเอาใจช่วยมากที่สุด (ถ้าใครเคยมาเรียนเขียนบทเบื้องต้นกับนัทคงจะจำหลักการสร้างตัวนำเรื่องแบบง่ายๆได้นะคะ....หวังว่า ^^ )
นัทใช้เวลานานมากในการ “ขุด” เข้าไปในตัวของพิม หามิติ หาความสับสน ความซับซ้อน และพลังของเธอ นัทไปหาถึงความหมายที่แท้จริงของคำว่า “บุญ” ... บุญคืออะไร ? แล้วทำไม “การทำบุญ” ถึงทำให้คนเราเดือดร้อนเหมือน “จุดไฟ” เผาตัวเอง เผาบ้านตัวเองได้ขนาดนี้
สุดท้ายนัทก็ค้นพบด้านมืดที่แสนละเอียดละอ่อนของ “พิม” นั่นคือ ... การทำความดีแบบไม่มีปัญญา รวมไปถึงอาการติดดีของเธอนี่เอง มันเป็นด้านมืดที่แสนร่วมสมัย ไม่ว่าเวลาจะผ่านมากี่สิบปี คนแบบนี้ยังมีอยู่ และอาจจะมีมากขึ้นด้วยซ้ำในยุคปัจจุบัน หลังจากที่นัทเจอจุดบกพร่องนี้เอง ... พิมคือตัวนำเรื่องที่มีอานุภาพอย่างที่สุด บริบทของพิมจึงเป็นนัยยะแห่งการ "ติดดี" ที่เราเห็นกันอยู่ในสังคม (จะมีอะไรบ้าง...รอดูในละครนะคะ ^^)
หมดห่วงจาก “พิม” นัทก็หันมาขุด “ใจเริง” ต่อ ... ใจเริง เป็นตัวละครที่มีสีสัน มีเสน่ห์ และน่าจดจำมากที่สุดอีกตัวหนึ่ง แต่จุดอันตรายของการเขียนตัวละครที่มีความ “ร้อนแรง” คือ ... เราต้องเติมความ “ลุ่มลึก” ให้กับพวกเขาด้วย
ความลุ่มลึกของใจเริง คือ อะไร ?
นัทเริ่มใช้จอบ เสียม ขุดลงไปในรากเหง้าของใจเริง (ซึ่งมีอยู่แล้วในนิยาย) ลงไปในการเลี้ยงดู สังคม สิ่งที่หล่อหลอมให้เธอเกิดและเติบโตขึ้นมา และสิ่งที่นัทค้นพบคือ .. ใจเริงเป็นผู้หญิงที่ “ฉลาด และมีรสนิยม” สองสิ่งนี้ทำให้เธอดูแพง ดูดี มีผู้ชายเข้ามาในชีวิตตลอดเวลา ความฉลาดและมีรสนิยมนี้เอง ที่ทำให้ใจเริงไม่ใช่ “ตัวร้าย (Antagonist)” ที่ตื้นเขินและดาษดื่น ตรงกันข้ามเธอใช้ “สมอง” เล่นกับ “หัวใจ” ของผู้คน ใช้ “ความคิด” เรียกร้อง “ความรัก” จากคนรอบข้าง และทุกคนก็ต้องยอมสยบให้เธอ
ใจเริงมีทุกอย่างและได้ทุกอย่างเพราะเสน่ห์ที่มาจากความฉลาดของเธอ เป็นด้านดีที่นำเธอเข้าไปสู่ด้านมืดโดยไม่รู้ตัว
“ฤกษ์” ผู้ชายแสนดี มีพร้อมทุกอย่าง เป็นตัวแทนผู้ชายในฝันของผู้หญิง ด้านมืดของฤกษ์คือ .. ทิฐิ ความอยากเอาชนะ และความมั่นใจในตัวเองจนเกินไปทำให้เขาต้องมาพลาดให้กับคนที่เขาคิดเสมอว่า “เอาอยู่” !! ฤกษ์เป็นตัวแทนของผู้ชายที่ไม่เคยคิดจะเดินออกนอกลู่นอกทาง แต่ก็พลาดอย่างคาดไม่ถึง !
“เทิดพันธ์” อีกหนึ่งตัวละครที่มีความสำคัญกับเรื่อง สามีเก่าของใจเริง ตัวแปรสำคัญที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ ในนิยายเทิดพันธ์ไม่ได้ถูกพูดถึงมากนัก แต่มีความสำคัญกับเรื่องในหลายเหตุการณ์ นัทจึงเพิ่มน้ำหนักให้มากขึ้น และ “ขุด” เข้าไปในความเป็นเทิดพันธ์ ผู้ชายที่เพียบพร้อม เคยอยู่สูง และต้องตกต่ำอย่างที่สุด ทำในสิ่งที่ไม่คิดจะทำเพราะความอ่อนแอที่ซ่อนอยู่ลึกๆในใจ แต่แล้วเขาคือคนแรกที่เรียนรู้การลุกขึ้นยืนและต่อสู้กับด้านมืดของตัวเอง
พิมาลา ใจเริง ฤกษ์ และ เทิดพันธ์ เป็นตัวละครที่สมบูรณ์แบบเพราะมีความบกพร่องที่ร่วมสมัย “การขุดเข้าไปในด้านมืด” ไม่ได้ทำให้ละครของเรา “แซ่บ” ขึ้น หรือ มีสถานการณ์ที่หวือหวา คำด่าที่รุนแรง แต่มันทำให้ตัวละครทุกตัวมีมิติ มีความเป็นคน
“เพลิงบุญ” เป็นอีกงานที่ท้าทายสำหรับนัท การดัดแปลงนิยายของนักเขียนระดับครูคือสิ่งที่เราต้องคิดให้รอบคอบ นัทอ่านนิยายหลายรอบ คัดกรองข้อมูล วิเคราะห์ตัวละครอย่างละเอียด หลายฉากที่ดีในนิยายนัทเก็บไว้เกือบหมด แต่ปรับบริบทรอบข้างให้เข้ากับเวลาที่เปลี่ยนไป
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ “ให้เกียรติตัวละคร และ ให้เกียรติคนดู” นัทคิดเสมอว่าคนดูไม่ได้อยากดูแค่คนมาด่ากัน มาทำกริยาแรงๆใส่กัน เพราะถ้าอยากดูแค่นั้นเปิดคลิป หรือ เดินไปหน้าปากซอยก็คงหาดูได้ไม่ยาก แต่นัทเชื่อว่า...คนดู (ส่วนใหญ่) ต้องการดูสิ่งที่ทำให้สมอง หรือ หัวใจ ได้ทำงาน
ละครเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของการแย่งผู้ชาย แต่เป็นการเฝ้าดูการเดินเข้าสู่ด้านมืดของตัวละครในแบบต่างๆ และลุ้นต่อไปว่า...แต่ละคนจะหลุดออกมาสู่แสงสว่างได้หรือไม่ ... อย่างไร ?
ดูแล้ว เราอาจจะย้อนกลับมาถามตัวเองว่า ... แล้วด้านมืดของเราคืออะไร ? เรารู้ทันมันหรือเปล่า ? และมันจะมีสักวันที่เราจะพลาดมั้ย ? และถ้าพลาด .. เราจะเดินออกมาอย่างไร ?
อีกไม่นาน ... มาหาคำตอบร่วมกันนะคะ
#เพลิงบุญ
#Ch33
#Ch3
#MakerY
#เพื่อนชั่ว_ผัวเลว
#ณัฐิยา_ศิรกรวิไล
ทิฐิ คือ 在 “ทิฐิมานะ” ว่าเก่งหรือดีกว่าคนอื่น “เป็นกิเลส” ขอให้บัณฑิตทั้งหลายอย่า ... 的推薦與評價
ทิฐิ มานะ” ว่าเก่งหรือดีกว่าคนอื่น “เป็นกิเลส” ขอให้บัณฑิตทั้งหลายอย่าประมาทหลงผิด คิดว่าเมื่อมีปริญญาแปลว่ามีความรู้มากพอแล้ว “ก่อให้เกิด ทิฐิ มานะ”... ... <看更多>
ทิฐิ คือ 在 ทิ้งพยศ ลดมานะ ละทิฐิ คือมรรควิธีแห่งสันติสุข - Facebook 的推薦與評價
ทิ้งพยศ ลดมานะ ละ ทิฐิ คือ มรรควิธีแห่งสันติสุข To let go of one's unruliness and conceitedness is the path towards peacefulness. ... <看更多>
ทิฐิ คือ 在 ทิฐิ หรือ ทิฏฐิ ?- . ต้นปีใหม่ 2564 แอดมินได้รับหนังสือเล่มหนึ่งมา ... 的推薦與評價
แต่ในภาษาไทย คือที่เขียนแบบไม่มี “ฏ = ทิฐิ” เป็นคำที่ถูกบัญญัติใช้งานเพื่อชี้ไปหานัยยะที่ไม่ดี เช่น ความยึดถือยึดมั่นในความคิดเห็นของตนเอง การเห็น ... ... <看更多>