#ทีมEstonia มะครับ
ลองดู ขอนำเสนอบ้างครับ ไม่เคยไปอยู่ แต่เคยไปถ่ายรายการมาค่อนข้างประทับใจ ใครมีข้อมูลเพิ่มก็มาแชร์กัน
Estonia ประเทศเล็กๆ อดีตสหภาพโซเวียต ซึ่งตอนนี้ไฮเทคมาก จุดเด่นอยู่ที่ระบบดิจิดอลที่ดีเกือบที่สุดในโลก และมีรัฐบาลแบบ E-Government (อันนี้ข้อมูลที่ได้มาเมื่อปี 2019 นะครับ ไปมาปีนั้น) เขียนไว้ครั้งแรกที่
https://web.facebook.com/wannasingh/posts/2069733896397754
ข้อเสีย หน้าหนาวอากาศแย่ฮะ (บางคนอาจจะชอบ) ท้องฟ้าครึ้ม ชวนหดหู่มาก ธงชาติเขาสามสี สีขาวคือพื้นหิมะ สีดำคือต้นไม้ที่ไม่มีใบในหน้าหนาว สีฟ้าคือท้องฟ้าครับ
-------------------------------------------------
E Government คือ?
- 99% ของการใช้บริการของภาครัฐ สามารถทำออนไลน์ได้ ตั้งแต่เลือกตั้งออนไลน์ จ่ายภาษี จดทะเบียนรถ จดทะเบียนบริษัท ทำHealthCare เช็คเกรดลูกที่โรงเรียน ไปจนถึงเช็คกรุ๊ปเลือดของผู้ประสบอุบัติเหตุบนท้องถนน ฯลฯ (มีแค่สามสิ่งที่กฏหมายจงใจให้ทำออนไลน์ไม่ได้คือ แต่งงาน หย่าร้าง และซื้อขายที่ดิน เพราะถือว่าเป็นเรื่องความเสี่ยงสูง ต้องมายืนยันด้วยตัวเอง)
-ทุกอย่างนี้ทำผ่าน one stop portal คือเวปไซต์กลางแห่งเดียวของรัฐบาล ที่ทำการเชื่อมต่อ ฐานข้อมูลทุกชนิดจากทุกหน่วยงานเข้าด้วยกันผ่านระบบส่วนกลางที่ชื่อว่า X Road
-รัฐธรรมนูญของเอสโทเนียระบุเอาไว้ว่าการเข้าถึง Free Internet เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนทุกคน เพราะฉะนั้น ไปไหนก็มี Free Wifi ให้ใช้แทบทุกหย่อมหญ้า ใช้ได้แทบทุกที่
-ประชาชนทุกคนมีบัตรประชาชนที่สามารถเอาไว้ใช้ยืนยันตัวตนของตัวเองในโลกออนไลน์ได้ (ใช้พร้อมกับรหัสส่วนตัว) + คอมพิวเตอร์แทบทุกเครื่องใน Estonia จะมีเครื่องอ่าน Smart Card แบบที่มีชิปฝังอยู่ในตัว
- ข้อมูลแทบจะทุกอย่างของประชาชนทุกคนจะถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูลออนไลน์ตั้งแต่เกิดยันตาย ภายใต้รหัสประจำตัวประชาชน
- การใช้ลายเซ็นดิจิตอลโดยใช้บัตรประชาชนและรหัสส่วนตัว ถือว่ามีผลบังคับใช้ทางกฏหมายเหมือนลายเซ็นจริงๆ
-ตัวรัฐบาลเองก็พยายามลดการใช้เอกสารกระดาษให้เหลือ 0% ลดขั้นตอนเชิงราชการลงให้น้อยที่สุด แม้แต่ตัวรัฐบาลเองก็มีการทำงานแบบ e carbinet ซึ่งเน้นการประหยัดเวลาด้วยเครื่องมือออนไลน์ เช่น ประชุมออนไลน์เป็นหลัก และก่อนประชุมจะมีการส่งหัวข้อที่จะโหวตให้ก่อน ถ้าเกิดว่าทุกคนเห็นพ้องต้องกันตั้งแต่ก่อนประชุมแล้ว เวลาประชุมจริงก็ข้ามเรื่องนั้นไปเลย เอาเวลาไปคุยเรื่องอื่นๆแทน
-ระบบนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่บริการของภาครัฐ ID เดียวกันนี้สามารถใช้บริการธนาคารเอกชน ขึ้นรถเมล์รถแท็กซี่ หรือแม้กระทั่งสะสมแต้มในร้านค้าต่างๆ เพราะมีการเชื่อมระบบฐานข้อมูลของทั้งหน่วยงานรัฐและเอกชนเข้าหากัน ทำให้บัตรประชาชนใบเดียวสามารถทำหน้าที่แทนบัตรจำนวนมากที่คนประเทศอื่นๆต้องพกได้
นอกจากนี้ยังมีโปรเจคล้ำๆอื่นๆอีกมากมายที่กำลังพัฒนาอยู่เช่น ให้พ่อแม่กดเลือกตั้งแต่ตอนลูกเกิดเลยว่าจะเข้าเรียนโรงเรียนไหน เพื่อที่จะสามารถวางแผนพัฒนาโรงเรียนให้เพียงพอต่อความต้องการของสังคมเมื่อเด็กโตขึ้นมาถึงวัยเรียนจริงๆ
โดยไอเดียทั้งหมดก็เพื่อให้ทุกอย่างที่มักจะกินเวลาเยอะ กลายเป็นเรื่องง่ายและสะดวกที่สุด เพื่อที่ทุกคนจะได้เอาเวลาไปทำสิ่งที่มีประโยชน์และอยากทำแทน
แต่แน่นอนว่าในระบบที่ทุกคนมีฐานข้อมูลออนไลน์ละเอียดยิบขนาดนี้ ก็ย่อมมีความเสี่ยงในหลายๆรูปแบบตามมา ซึ่งในระยะเวลาสามสิบปีที่เอสโทเนียพัฒนาระบบนี้มา ก็ทำให้มีมาตรการรับมือแต่ละข้ออย่างชัดเจน
รัฐหรือบริษัทไหนจะเอาข้อมูลส่วนตัวเราไปทำอะไรไหม?
- แนวคิดที่เจ๋งมากๆของระบบ E government นี้ก็คือว่า มันไม่ได้มีรากฐานมาจากแนวคิดว่ารัฐเป็นเจ้าของข้อมูลของประชาชน หรือรัฐมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลทุกอย่างของเราเพื่อรักษาความมั่นคงหรืออะไรก็ตามแต่ แต่ในทางกลับกัน ระบบนี้มองว่าประชาชนทุกคนยังเป็นเจ้าของข้อมูลของตัวเองอยู่ และรัฐเปรียบเสมือนเป็นเพียงผู้ให้บริการเชิงฐานข้อมูล ส่วนเราจะเลือกเปิดเผยข้อมูลส่วนไหนให้ใครบ้างก็เป็นสิทธิของเรา ถ้าให้เปรียบก็คงจะเหมือนกับธนาคาร ที่ถึงแม้ธนาคารจะเป็นผู้เก็บเงินไว้ แต่ความเป็นเจ้าของก็ยังเป็นของเราอยู่ดี ซึ่งในเชิงปฏิบัติแปลว่า
- เราสามารถเลือก block ข้อมูลบางส่วนที่เราไม่อยากให้ใครรู้เลยได้
- ทุกครั้งที่มีคนเข้ามาดูข้อมูลของเรา ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ แพทย์ หรือว่าทนาย เราจะได้รับการเตือนจากระบบทันที ทั้งชื่อของคนที่มาดู วันเวลาที่เข้ามา และจำนวนข้อมูลที่ถูกเปิดเผยไป ซึ่งประชาชนทุกคนมีสิทธิ์ตามกฏหมายที่จะเรียกร้องขอคำอธิบายจากเจ้าหน้าที่ ถึงเหตุที่ต้องเข้ามาดูข้อมูล และหากไม่พอใจคำอธิบาย สามารถนำไปฟ้องต่อในชั้นศาลได้
- ทุกหน่วยงานจะมีสิทธิเข้าถึงข้อมูลบนพื้นฐานของสิ่งที่ "ต้องรู้" เท่านั้น (Need to know Basis) เช่นไปรษณีย์อาจจะเข้าถึงที่อยู่ของเราได้ แต่ไม่มีสิทธิดูข้อมูลสุขภาพเรา เพราะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับบริการของหน่วยงาน และตัวระบบได้ออกแบบไว้ให้เจ้าหน้าที่รัฐทุกคนเข้าถึงข้อมูลได้ตามหน่วยงานที่ตัวเองสังกัดเท่านั้น และต้องอธิบายได้ทุกครั้งว่าเข้าไปดูข้อมูลเหล่านั้นทำไม ไม่เช่นนั้นอาจถูกไล่ออกหรือทำโทษได้
ทุกอย่างเป็นดิจิตอลไม่เสี่ยงไปหน่อยเหรอ ? ถ้ารัฐโดน Hack จะทำไง
จริงๆ Estonia เคยโดน Cyber Attack ครั้งใหญ่มาแล้วหนหนึ่งในปี 2008 ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับประเทศเป็นอย่างมาก ซึ่งหลังจากนั้นก็ได้พัฒนาระบบไปในทิศทางที่ Decentralized มากๆคือ
- ไม่ได้เก็บฐานข้อมูลไว้ในที่ใดที่เดียว แต่เก็บไว้อย่างกระจายมากๆ ทำให้การ Hack ส่วนใดส่วนหนึ่งของระบบไม่สามารถสร้างความเสียให้กับระบบโดยรวมได้
- มีการนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ คือไม่ได้เก็บข้อมูลใน Server เดียว แต่กระจายระบบไปยัง Network ของคอมพิวเตอร์จำนวนมากที่ช่วยกันสอดส่องและสนับสนุนระบบพร้อมๆกัน (แบบBitCoin) ทำให้ hack ยากมาก
- มีการตั้งหน่วย Cyber Defense ขึ้นมาอย่างจริงจัง มีการTrainและRecruit hackerทั้งหลายเข้าไปช่วยทำงาน และรับอาสาสมัคร Cyber Defense Unit จำนวนมากมาช่วยงาน
****** และอีกด้านนึงที่น่าสนใจมากๆคือ Estonia ได้เปิดโครงการชื่อ e-Residency ที่ให้คนจากที่ไหนก็ได้บนโลก สมัครเข้ามาเป็น "ประชากรออนไลน์" ของประเทศ ซึ่งไม่ได้แปลว่าให้วีซ่ามาอาศัยอยู่ในEstonia แต่หมายความว่าสมาชิกจะสามารถจดทะเบียนธุรกิจ เปิดบัญชี จ่ายภาษี ฯลฯ ทำทุกอย่างออนไลน์ได้ราวกับว่าเขาเป็นคนEstonia โดยที่ไม่จำเป็นต้องเคยมาเยือน Estonia เลยก็ได้ โดยทุกอย่างสามารถทำผ่านบัตร ID Card ไม่ต่างอะไรกับที่ชาวเอสโทเนียใช้
มุมมองนี้น่าสนใจมากๆคือ เขามองประเทศและรัฐบาลขของเขาเป็น "Service" ที่กำลังแข่งขันกับรัฐบาลอื่นๆทั่วโลกเพื่อดึงดูดให้คนมาทำธุรกิจในประเทศเขา ซึ่งจุดขายสำคัญของเขาก็ระบบที่โคตรจะมีประสิทธิภาพ และการที่ทุกอย่างสามารถทำ Online ได้ ซึ่งสิ่งนี้ได้ดึงดูดให้บริษัท Startup ทั้งหลายจากทั่วทุกมุมโลกไปเริ่มธุรกิจของตัวเองที่ Estonia (หลายคนอาจะไม่รู้ว่า Skype จริงๆก็มาจาก Estonia) และตัวรัฐบาลเองก็มีแนวคิดชัดเจนที่ไม่ยึดติดกับการแบ่งชนชาติ แบ่งชายแดน แต่กลับตัวเองให้น่าดึงดูดที่สุดสำหรับประชากรโลกมากที่สุด และเขาตั้งใจจะเป็น The world biggest virtual country ในขณะที่ในเชิงกายภาพเขามีขนาดเล็กนิดเดียว
ซึ่งนี่อาจจะเป็นหน้าต่างที่เราจะสามารถเห็นโลกในอีก50-100ปีข้างหน้าก็ได้ โลกที่มนุษย์ทกคนไม่ได้ถูกจำกัดให้ต้องเป็นสมาชิกของสังคมตามพื้นที่ที่เราเกิด แต่เราสามารถเลือกได้ว่าเราอยากจะเป็นสมาชิกของสังคมไหนตามมุมมอง วัฒนธรรม ค่านิยม และวิถีชีวิตของเรา ทำให้ผมเฃื่อว่าแนวคิดที่กำลังนำการพัฒนาของ Estonia อยู่ในตอนนี้เป็นสิ่งที่มองการไกลเป็นอย่างมา
ทีมestonia 在 2022 BRONZE NATIONS LEAGUE - FRANCE v ESTONIA 的推薦與評價
2022 BRONZE NATIONS LEAGUE - FRANCE v ESTONIA ... ภารกิจแพทย์ประจำ ทีม วอลเลย์บอลหญิงชิงแช้มป์โลก2022 EP.26 Match Day THA vs SRB in Łódź. ... <看更多>
ทีมestonia 在 Ukraine 1 - 0 Estonia | ยูเครน - Pinterest 的推薦與評價
ไฮไลท์ฟุตบอล กระชับมิตรทีมชาติ ยูเครน 1-0 เอสโตเนีย. ... <看更多>
ทีมestonia 在 #ทีมestonia - Explore | Facebook 的推薦與評價
explore #ทีมestonia at Facebook. ... Estonia ประเทศเล็กๆ อดีตสหภาพโซเวียต ซึ่งตอนนี้ไฮเทคมาก จุดเด่นอยู่ที่ระบบดิจิดอลที่ดีเกือบที่สุดในโลก และมีรัฐบาลแบบ ... ... <看更多>