📍Youtube ประกาศแบนวิดีโอเนื้อหาต่อต้านวัคซีน
.
😷😷😷 โดย บริษัท YouTube ได้เพิ่มนโยบายเกี่ยวกับการเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับวัคซีน 🧪โดยกำหนดแนวทางใหม่สำหรับวิดีโอที่มีเนื้อหาต่อต้านวัคซีน ไม่อนุญาตให้แสดงเนื้อหาที่มีความเสี่ยงสูงว่าจะเป็นภัยร้ายแรง 🌀โดยเผยแพร่ข้อมูลทางการแพทย์ ที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับวัคซีน ซึ่งนโยบายนี้จำกัดเฉพาะเนื้อหาที่ขัดแย้งกับคำแนะนำของหน่วยงานด้านสาธารณสุขในท้องถิ่นหรือ WHO เกี่ยวกับความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และส่วนผสมของวัคซีน
https://www.it24hrs.com/2021/policy-youtube-video-vac/
#ข่าว #WHO #news
同時也有2949部Youtube影片,追蹤數超過46萬的網紅เจาะข่าวตื้น Shallow News in Depth,也在其Youtube影片中提到,ร่วมเป็นผู้สนับสนุนพวกเรา ผ่านบัญชีกสิกรไทย 0698966939 บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด หรือสนับสนุนพวกเราแบบรายเดือนคลิกที่ลิงก์นี้เลยคร้าบ https://www.youtub...
「บริษัท」的推薦目錄:
- 關於บริษัท 在 Facebook 的精選貼文
- 關於บริษัท 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
- 關於บริษัท 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
- 關於บริษัท 在 เจาะข่าวตื้น Shallow News in Depth Youtube 的最佳解答
- 關於บริษัท 在 CarDebuts Youtube 的最讚貼文
- 關於บริษัท 在 BorntoDev Youtube 的最讚貼文
- 關於บริษัท 在 บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน): หน้าหลัก 的評價
- 關於บริษัท 在 บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) - PTT Global ... 的評價
บริษัท 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
รู้จักเรื่องราวของ Kildall ที่เสียโอกาสทองให้ Bill Gates ไปอย่างน่าเสียดาย /โดย ลงทุนแมน
คงปฏิเสธไม่ได้ว่า “Microsoft Windows” เป็นระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก โดยมีส่วนแบ่งการตลาด ที่มากถึง 83%
นวัตกรรมดังกล่าว กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผู้ก่อตั้งบริษัท Microsoft อย่าง “Bill Gates” กลายเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐี ที่รวยที่สุดในโลกมาอย่างยาวนาน ปัจจุบันเขามีทรัพย์สินมากถึง 4.4 ล้านล้านบาท
โดยจุดเริ่มต้นของ Microsoft Windows เกิดจากการที่บริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่สุดในโลกขณะนั้นอย่าง IBM เริ่มผลิตคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรือ PC และกำลังตามหาบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาระบบปฏิบัติการ ซึ่ง IBM ก็ได้เลือกทำสัญญากับบริษัท Microsoft ที่ในตอนนั้นเพิ่งก่อตั้งมาได้ 5 ปี
แต่รู้หรือไม่ว่านอกจาก Bill Gates แล้ว ยังมีนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์อัจฉริยะอีกคน ที่เกือบได้เป็นผู้พัฒนาระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ให้กับ IBM และอาจจะกลายมาเป็นแบบ Bill Gates ในทุกวันนี้
แล้วเขาคนนั้น คือใคร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
อัจฉริยะที่เกือบได้เป็น Bill Gates คนนั้น มีชื่อว่า “Gary Kildall”
Kildall เกิดในปี 1942 ที่เมืองซีแอตเทิล ประเทศสหรัฐอเมริกา
แต่เดิม Kildall ตั้งใจว่าเมื่อเรียนจบมาจะเป็นอาจารย์สอนคณิตศาสตร์ แต่ระหว่างเรียนระดับปริญญาตรีเขาเริ่มสนใจเรื่องเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ Kildall จึงเรียนต่อจนถึงระดับปริญญาเอกในสาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์
ในปี 1971 ช่วงที่ Kildall กำลังเรียนปริญญาเอก เขาได้ยินมาว่า Intel จะเปิดตัว ไมโครโพรเซสเซอร์ตัวแรกของโลกที่ชื่อว่า “Intel 4004”
ไมโครโพรเซสเซอร์ ก็คือชิปขนาดเล็กที่มีแผงวงจรรวมจำนวนมหาศาล
ซึ่งนวัตกรรมนี้เรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คอมพิวเตอร์ ซึ่งแต่เดิมมีขนาดใหญ่ นิยมใช้กันแต่ในองค์กร มีขนาดเล็กลง จนเป็นไมโครคอมพิวเตอร์และคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในเวลาต่อมา
ด้วยความที่ Kildall สนใจเรื่องราวของไมโครโพรเซสเซอร์เป็นอย่างมาก เขาจึงตัดสินใจเข้าไปทำงานพาร์ตไทม์เป็นที่ปรึกษาให้กับ Intel ซึ่งหลัก ๆ แล้ว Kildall จะพัฒนาและเขียนโปรแกรมที่ใช้งานร่วมกับไมโครโพรเซสเซอร์ของ Intel ได้
จากจุดเริ่มต้นนี้ Kildall ก็ได้ต่อยอดจนสามารถพัฒนาซอฟต์แวร์
ที่ชื่อว่า “CP/M” ที่นับว่าเป็นระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์แรกของโลก
โดยก่อนหน้าที่จะมี CP/M คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องบนโลกจะต้องใช้ซอฟต์แวร์ที่เขียนขึ้นมาของใครของมัน แต่ Kildall ได้พัฒนา CP/M ให้เป็นระบบปฏิบัติการกลาง ซึ่งสามารถนำไปใช้งานได้กับคอมพิวเตอร์ทุกเครื่อง
แรงผลักดันในการพัฒนา CP/M และผลงานอื่น ๆ ของ Kildall เกิดขึ้นจากความหลงใหลในคอมพิวเตอร์
เพราะจริง ๆ แล้ว Kildall ไม่เคยสนใจเรื่องธุรกิจเลย แต่ภรรยาของเขาก็ได้โน้มน้าวให้จัดตั้งบริษัทเพื่อจดสิทธิบัตรระบบปฏิบัติการและทำธุรกิจจัดจำหน่ายซอฟต์แวร์ ทั้งคู่เลยร่วมกันก่อตั้งบริษัทที่ชื่อว่า “Digital Research”
ลูกค้าที่เลือกใช้ CP/M ของ Digital Research ก็เช่น IMSAI 8080 ไมโครคอมพิวเตอร์ชื่อดัง ที่เปิดตัวในปี 1975 ซึ่งทำออกมาแข่งกับไมโครคอมพิวเตอร์รุ่นตำนานอย่าง Altair 8800 ของบริษัท MITS
โดย Altair 8800 ที่เปิดตัวมาก่อนหน้านั้น 1 ปี ยังใช้ซอฟต์แวร์ที่เขียนขึ้นมาใช้เฉพาะรุ่น ชื่อว่า BASIC ซึ่งซอฟต์แวร์นี้เองก็เป็นผลิตภัณฑ์แรก ๆ ของบริษัทซอฟต์แวร์น้องใหม่ที่ก่อตั้งโดยชายวัย 20 ปี ที่ชื่อว่า “Bill Gates” ซึ่งเขาได้ลาออกจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดแล้วชวนเพื่อนมาตั้งบริษัท “Microsoft”
มาถึงในปี 1976 บริษัท Apple ก็ได้ปฏิวัติวงการคอมพิวเตอร์ด้วยการเปิดตัวคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะรุ่นแรก ๆ ของโลกที่ชื่อว่า Apple I ก่อนที่ในปีถัดมาจะประสบความสำเร็จจาก Apple II ซึ่งบริษัท Apple เรียกว่าเป็น Home Computer ที่คนทั่วไปใช้งานได้ที่บ้าน ไม่จำเป็นต้องเป็นโปรแกรมเมอร์
นั่นเลยทำให้ Apple II ได้รับความนิยมสูงมากและสามารถลบคำสบประมาทที่คนมักเถียงกันว่าคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก เป็นเพียงอุปกรณ์สำหรับคนที่คลั่งไคล้ในคอมพิวเตอร์เท่านั้น คนทั่วไปคงไม่สนใจซื้อมาใช้งาน
ความสำเร็จของ Apple ก็ทำให้บริษัทเทคโนโลยีอันดับหนึ่งของโลกในขณะนั้นอย่าง IBM อยากเข้ามาร่วมในตลาดคอมพิวเตอร์สำหรับคนทั่วไปบ้าง
ในปี 1980 IBM จึงได้เริ่มออกแบบคอมพิวเตอร์ซึ่งเรียกว่า Personal Computer หรือ PC แทน Home Computer แบบ Apple เพราะ IBM ไม่ได้มองว่าคอมพิวเตอร์จะต้องใช้แค่ที่บ้าน แต่จะถูกใช้งานให้เกิดประโยชน์ได้มากกว่านั้น อย่างเช่นการนำไปใช้งานตามออฟฟิศ
IBM ต้องการทำให้ PC เริ่มวางขายได้เร็วที่สุด IBM จึงโฟกัสที่การออกแบบฮาร์ดแวร์โดยใช้ชิปของ Intel ส่วนซอฟต์แวร์อย่างระบบปฏิบัติการ ทางบริษัทจะจ้างบริษัทขนาดเล็กพัฒนาแทน โดยหนึ่งในบริษัทที่ IBM ติดต่อไปก็คือ Microsoft ซึ่งในตอนนั้นเพิ่งก่อตั้งมาได้เพียง 5 ปี
IBM เดินทางไปที่ออฟฟิศของ Microsoft ซึ่งเมื่อไปถึง IBM ได้ให้ Gates เซ็นสัญญาห้ามเปิดเผยข้อมูล เพราะ IBM ต้องการเก็บเรื่องที่กำลังพัฒนา PC ไว้เป็นความลับ
หลังจากนั้น IBM ก็ได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ Gates ฟัง
แต่โชคร้ายที่ตอนนั้น Microsoft ยังไม่ได้พัฒนาระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์
Gates จึงได้แนะนำกับ IBM ว่าให้ไปหา Kildall แห่งบริษัท Digital Research ที่พัฒนาระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ไว้แล้ว IBM ตัดสินใจเดินทางไปพบ Kildall ที่ซีแอตเทิลทันที
Gates โทรไปบอก Kildall ว่าจะมีคนสำคัญมากไปพบ ให้ปฏิบัติกับพวกเขาดี ๆ
แต่ Gates เล่ารายละเอียดให้ฟังไม่ได้เพราะติดสัญญาห้ามเปิดเผยข้อมูลกับ IBM
Kildall ไม่รู้เลยว่ากลุ่มคนที่กำลังมาพบเขา จะมาจากบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่สุดในโลก
ซึ่งเขากลับคิดว่าคนที่ Gates เล่าถึงจะเป็นเพียงกลุ่มคนที่มาจากบริษัทขนาดเล็ก
เขาจึงไม่ได้สนใจมากนักและเขาก็ได้ขับเครื่องบินส่วนตัวไปอีกเมือง ซึ่งจนถึงตอนนี้ ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันว่าเขาไปขับเครื่องบินเล่นเพื่อหลีกเลี่ยงการพูดคุยหรือไปติดต่องานทางธุรกิจกันแน่
นั่นจึงทำให้เมื่อ IBM ไปถึงออฟฟิศบริษัท Digital Research ทีมงานจึงได้เจอแต่เพียงภรรยาของ Kildall ซึ่งก่อนที่ทีมงานจาก IBM จะแนะนำตัวและเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการให้ฟัง
ทาง IBM ก็ได้ขอให้ภรรยาของ Kildall เซ็นสัญญาห้ามเปิดเผยข้อมูลก่อนเหมือนกับที่ให้ Gates เซ็น แต่ภรรยาของ Kildall ยังไม่ยอมเซ็นสัญญา
ซึ่งสาเหตุที่เธอไม่ได้เซ็นก็เพราะว่าเธอรู้สึกเหมือนโดนบังคับ
รวมถึงเธอก็อยากรอ Kildall กลับมาพูดคุยเองมากกว่า
ส่วนทาง IBM ก็เริ่มหัวเสียที่เธอไม่ยอมเซ็นสัญญา ทีมงานจาก IBM ก็รอต่อไปไม่ไหว
สุดท้ายแล้ว IBM จึงเดินทางกลับไปโดยยังไม่ทันได้เล่ารายละเอียดเรื่องระบบปฏิบัติการให้ฟัง..
หลังจากนั้น IBM เลยติดต่อไปหา Gates อีกครั้ง
Gates เห็นว่าโปรเจกต์ PC ของ IBM กำลังจะเปลี่ยนตลาดคอมพิวเตอร์ทั่วโลกครั้งใหญ่ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้คอมพิวเตอร์ของเราให้มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายมากขึ้นแบบก้าวกระโดด
Gates เลยบอก IBM ไปว่า Microsoft สามารถทำระบบปฏิบัติการให้ได้
ทั้งที่ความจริงแล้ว ในตอนนั้น Microsoft ยังไม่มีอะไรเลย
ทางออกเดียวที่ Microsoft จะมีระบบปฏิบัติการไปเสนอให้ IBM ได้ทันเวลาก็คือ การควานหาผู้ที่พัฒนาระบบปฏิบัติการไว้แล้วและไปซื้อต่อมา
Microsoft ไปเจอว่ามีโปรแกรมเมอร์ที่ชื่อว่า Tim Paterson ซึ่งทำงานในบริษัทเล็ก ๆ ที่ชื่อ Seattle Computer ได้พัฒนาระบบปฏิบัติการที่ชื่อว่า Q-DOS
หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Microsoft จึงเดินทางไปพบ Paterson เพื่อเจรจาขอซื้อ Q-DOS และดึงตัว Paterson มาเพื่อดัดแปลง Q-DOS ให้เป็นระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์เพื่อขายให้ IBM
โดยใช้ชื่อว่า “MS-DOS” โดยที่ Microsoft ไม่รู้ว่า Q-DOS เป็นระบบปฏิบัติการที่ Paterson เลียนแบบและดัดแปลงมาจาก CP/M ของ Kildall
IBM ตกลงซื้อ MS-DOS ของ Microsoft แต่แทนที่ Microsoft จะขายระบบปฏิบัติการแบบครั้งเดียวจบ Gates เสนอกับทาง IBM ว่าให้ Microsoft ได้รับส่วนแบ่งจากทุกเครื่อง PC ที่ทาง IBM ขายได้ ซึ่งเป็นวิธีที่ Gates เคยใช้มาแล้วตอนเขียนซอฟต์แวร์ให้ไมโครคอมพิวเตอร์ Altair 8800
ความนิยมของ PC จาก IBM ก็เป็นไปตามที่ Gates คาด เพราะหลังจากที่ “IBM PC” เปิดตัวในเดือนสิงหาคม ปี 1981 ผ่านไป 2 ปีแรก IBM PC สามารถขายได้กว่า 2 ล้านเครื่อง เกินกว่าที่คาดการณ์เอาไว้เกือบ 10 เท่า
และด้วยความที่ IBM PC มีราคา คิดเป็นเพียง 2 ใน 3 ของ Apple จึงทำให้อุปกรณ์ชิ้นนี้ได้กลายเป็นคอมพิวเตอร์ที่ถูกนำไปใช้กันทั่วไปในสำนักงาน จน IBM สามารถเอาชนะ Apple และกลายมาเป็นผู้ผลิต PC ที่ใหญ่สุดในโลกได้
แต่จุดอ่อนของ IBM PC ก็คือตัวเครื่องไม่มีอะไรซับซ้อนและเลียนแบบได้ง่าย
จึงทำให้ในเวลาต่อมา แบรนด์อื่นอย่างเช่น Compaq และ HP ซึ่งก็เป็นผู้พัฒนาคอมพิวเตอร์เหมือนกันสามารถทำตามได้ ในขณะที่เจ้าของซอฟต์แวร์อย่าง Microsoft ก็ไม่เคยตกลงว่าจะขายระบบปฏิบัติการให้ IBM เจ้าเดียว..
Microsoft เลยสามารถขาย MS-DOS ให้กับคู่แข่งของ IBM ได้ทั้งหมด
ซึ่ง Microsoft ก็ยังใช้วิธีเดิมคือคิดส่วนแบ่งจาก PC ทุกเครื่องที่ขายได้
แต่สุดท้ายแล้ว ของเลียนแบบก็คือของเลียนแบบ
เพราะในภายหลัง MS-DOS ที่ดัดแปลงมาจาก Q-DOS ถูกพบว่าเป็นของที่เลียนแบบมาจาก CP/M ของ Kildall
พอ Kildall รู้ เลยจะฟ้องร้อง IBM และ Microsoft ว่าลอกเลียนแบบผลงาน
IBM ไม่อยากให้เรื่องบานปลาย เลยยอมวางขายระบบปฏิบัติการทั้ง 2 ยี่ห้อไปพร้อมกัน Kildall ดีใจได้เพียงไม่นาน ก็ต้องพบว่าราคาขาย CP/M ของเขา แพงกว่า MS-DOS ถึง 6 เท่า
ของคล้ายกันที่ใช้ทดแทนกันได้ แต่มีราคาต่างกันถึง 6 เท่า แถมคนส่วนใหญ่ได้รู้จักและลองใช้ MS-DOS มาก่อนจึงเริ่มคุ้นเคยและไม่ได้รู้สึกว่าจำเป็นที่ต้องลองอีกยี่ห้อหนึ่ง สุดท้ายแล้ว CP/M จึงหายไปจากตลาด
Microsoft จึงกลายเป็นผู้ชนะไป ซึ่งในเวลาต่อมา MS-DOS ก็ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น “Microsoft Windows” ที่ได้เปิดตัวในปี 1983 ก่อนที่จะเริ่มวางขายจริงในปี 1985
หลังจากพลาดโอกาสครั้งสำคัญในชีวิตของ Kildall เขาได้หย่ากับภรรยา และใช้ชีวิตอยู่กับความสิ้นหวัง จนท้ายที่สุด เขาก็ได้จบลงที่กลายเป็นคนติดแอลกอฮอล์ตั้งแต่นั้นมา
ส่วนบริษัท Digital Research ก็ถูกขายให้กับบริษัท Novell ในปี 1991
จนกระทั่งในปี 1994 Kildall ในวัย 52 ปี ก็เสียชีวิตลง จากเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทในบาร์ ซึ่งเป็นเวลาเพียง 1 ปีก่อนที่ระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows 95 จะเปิดตัวและดังระเบิดไปทั่วโลก
ซึ่งก็น่าคิดเหมือนกันว่าหากวันนั้น Kildall ใส่ใจในสิ่งที่ Bill Gates พูดสักนิด
เรื่องราวที่เกิดขึ้นบนโลกนี้ จะมีเส้นทางที่ต่างจากเดิมมากแค่ไหน
Kildall อาจกลายเป็นมหาเศรษฐีคล้าย Bill Gates
Bill Gates อาจจะไม่ได้โปรเจกต์นั้น และ Windows คงไม่เกิดขึ้น
ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม
เส้นทางที่เป็นไปแล้วก็คือ ทุกคนรู้จัก Windows และไม่รู้จัก CP/M..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.bloomberg.com/news/articles/2004-10-24/the-man-who-could-have-been-bill-gates
-https://www.forbes.com/forbes/1997/0707/6001336a.html?sh=65404ead140e
-https://www.theguardian.com/technology/blog/2004/oct/16/themanwhocou
-https://www.embedded.com/was-dos-copied-from-cp-m/
-https://medium.com/@Harasees_Singh/gary-kildall-the-inventor-of-operating-system-ccae7bb50e46
-https://bookjelly.com/the-tragic-story-of-gary-kildall/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Gary_Kildall
บริษัท 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
TRUE เสนอขายหุ้นกู้ 4 ชุด ดอกเบี้ย 3.20% ถึง 4.60% ต่อปี
TRUE x ลงทุนแมน
บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE เป็นหนึ่งในบริษัทผู้ให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 31 ปี
และเร็ว ๆ นี้ TRUE จะเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ต่อผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนรายใหญ่ ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่เราสามารถสร้างผลตอบแทนสม่ำเสมอ ในรูปแบบของหุ้นกู้ ด้วยอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทและหุ้นกู้ที่ระดับ “BBB+” แนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2564 เสนอดอกเบี้ยตั้งแต่ 3.20% ถึง 4.60% ต่อปี ตามอายุของหุ้นกู้แต่ละชุด
ภาพรวมธุรกิจของ TRUE เป็นอย่างไร
แล้วรายละเอียดหุ้นกู้ของทางบริษัท มีอะไรบ้าง ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ก่อนอื่น เราลองมาดูภาพรวมธุรกิจของ TRUE กันก่อน
TRUE เป็นผู้ให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมและบริการดิจิทัลครบวงจร
โดยเราสามารถแบ่งธุรกิจหลักของบริษัท ออกเป็น
- ทรูมูฟ เอช ธุรกิจบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ครอบคลุมตั้งแต่ 3G จนถึง 5G โดยเครือข่ายอัจฉริยะ True5G มีย่านความถี่มากที่สุด และครอบคลุมสูงสุดทั่วประเทศ
- ทรูออนไลน์ ธุรกิจบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต ด้วยโครงข่ายไฟเบอร์คุณภาพสูงที่ให้ความเร็วระดับ 1 Gbps
- ทรูวิชั่นส์ ธุรกิจบริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกและทีวีดิจิทัล และเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์ มีคอนเทนต์คุณภาพสูงทั้งในและต่างประเทศ
- ทรูดิจิทัลกรุ๊ป ธุรกิจบริการดิจิทัลครบวงจร สำหรับผู้บริโภค ธุรกิจรายย่อย และลูกค้าองค์กร อาทิ แพลตฟอร์มสื่อดิจิทัล (Digital Media Platform) หรือทรูไอดี แพลตฟอร์มที่เชื่อมระหว่างออนไลน์และออฟไลน์ (O2O) พร้อมสิทธิประโยชน์หลากหลาย เทคโนโลยีการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) เทคโนโลยี Internet of Things (IoT) ดิจิทัลโซลูชันต่าง ๆ และธุรกิจดิจิทัล เฮลท์ (Digital Health) เป็นต้น
และแม้ว่าในปีที่ผ่านมา หลายธุรกิจในประเทศไทยยังคงได้รับผลกระทบจากโรคระบาดโควิด 19 แต่ธุรกิจให้บริการสื่อสาร และบริการดิจิทัล ก็ยังคงแข็งแกร่ง สะท้อนให้เห็นจากผลประกอบการของบริษัท
ในช่วงครึ่งปีแรก ของปี 2564 กลุ่ม TRUE มีรายได้รวม 69,223 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.7%
กำไรจากการดำเนินงาน 6,909 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.2%
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
ในด้านจำนวนผู้ใช้บริการ ก็เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน
- ทรูมูฟ เอช มีผู้ใช้บริการรายใหม่เพิ่มขึ้นสุทธิ 4.9 แสนราย ณ ไตรมาส 2 รวมทั้งหมดเป็น 31.7 ล้านราย คิดเป็นมากถึง 46% ของจำนวนประชากรในประเทศไทย
- ทรูออนไลน์ มีผู้ใช้บริการรายใหม่เพิ่มขึ้นสุทธิ 1.05 แสนราย ณ ไตรมาส 2 รวมทั้งหมดเป็น 4.4 ล้านราย
- แพลตฟอร์มทรูไอดี มีจำนวนผู้ใช้งานรายเดือนเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 25 ล้านคน มียอดรับชมคอนเทนต์วิดีโอต่อเดือนโดยเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้นที่ 265 ล้านครั้งต่อเดือน
จากตรงนี้ จะเห็นได้ว่าแต่ละกลุ่มธุรกิจของ TRUE ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง
แม้จะอยู่ในช่วงที่สถานการณ์โรคระบาดในประเทศยังไม่เป็นปกติ
รวมทั้งบริษัทยังมีบริการที่เข้ากับพฤติกรรมการรับชมคอนเทนต์ของคนรุ่นใหม่ ที่มีการเติบโตที่น่าสนใจ รวมถึงบริการดิจิทัลโซลูชันและ IoT ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคและภาคธุรกิจได้อย่างตรงจุด
และเพื่อสร้างการเติบโตต่อไปในอนาคต ทางบริษัท TRUE จึงได้เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่สำหรับทั้งผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน
โดยมีจุดประสงค์ของการออกหุ้นกู้ดังนี้
- นำไปชำระคืนหนี้คงค้าง เช่น หนี้เงินกู้และหนี้จากการออกตราสารที่ครบกำหนดชำระในปี พ.ศ. 2564
- ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการของกลุ่มบริษัท
สำหรับการเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ที่เสนอขายให้กับผู้ลงทุนทั่วไป (Public Offering, “PO”) ครั้งนี้ มีทั้งหมด 4 ชุด ได้แก่
ชุดที่ 1 อายุ 3 ปีอัตราดอกเบี้ย 3.20% ต่อปี
ชุดที่ 2 อายุ 4 ปีอัตราดอกเบี้ย 3.60% ต่อปี
ชุดที่ 3 อายุ 5 ปีอัตราดอกเบี้ย 4.05% ต่อปี
ชุดที่ 4 อายุ 7 ปีอัตราดอกเบี้ย 4.60% ต่อปี
โดยทั้ง 4 ชุดนี้ จะมีงวดการจ่ายดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือนในวันที่ 15 มกราคม, 15 เมษายน, 15 กรกฎาคม และ 15 ตุลาคม ของแต่ละปี ตลอดอายุของหุ้นกู้
ซึ่งหุ้นกู้ที่ออกครั้งนี้ของ TRUE ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ “BBB+” แนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2564
สำหรับนักลงทุนที่สนใจ หุ้นกู้ของ TRUE จะเสนอขายตั้งแต่วันที่ 11-12 และวันที่ 14 ตุลาคม 2564
มีจำนวนจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท โดยมีผู้จัดจำหน่าย ดังนี้
- ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา (ยกเว้นสาขาไมโคร) หรือ โทร. 1333 หรือจองซื้อผ่าน แอป Bualuang mBanking
- ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02 888 8888 กด 819 โดยบุคคลธรรมดาจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน https://www.kasikornbank.com/kmyinvest
- ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา หรือ โทร. 02 777 6784 หรือจองซื้อผ่าน แอป SCB Easy
- ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา หรือ โทร. 02 626 7777 หรือจองซื้อผ่าน แอป CIMB THAI Digital Banking
และด้วยสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของโควิด 19 ผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อผ่านระบบออนไลน์หรือแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปที่สาขาของสถาบันการเงินทั้ง 4 แห่ง เป็นการเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ลงทุนทั่วไปที่สนใจ สามารถอยู่บ้านและหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาก็สามารถจองซื้อหุ้นกู้ได้แล้ว
-ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) โทร 1428 กด #4 (สำหรับผู้ลงทุนรายใหญ่เท่านั้น)
คำเตือน
1. โปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้าเงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุนการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุน
2. การจัดสรรขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ เงื่อนไขการจัดจำหน่ายเป็นไปตามที่กำหนดในร่างหนังสือชี้ชวน
3. ตลาดตราสารหนี้ในประเทศไทยมีสภาพคล่องต่ำ การขายตราสารในตลาดรองนั้นอาจได้รับมูลค่าขายตราสารลดลงหรือเพิ่มขึ้นได้โดยขึ้นอยู่กับสภาวะและความต้องการของตลาดในขณะนั้น
4. อันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้เป็นเพียงข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนเท่านั้นมิใช่สิ่งชี้นำการซื้อขายตราสารหนี้ที่เสนอขายและไม่ได้เป็นการรับประกันความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร และเมื่อผู้ออกหุ้นกู้หยุดจ่ายดอกเบี้ย (กรณีบริษัทไม่ได้แจ้งเลื่อนการจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้) หรือเงินต้นก็เป็นการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ (default) ซึ่งหากผู้ออกหุ้นกู้ประกาศล้มละลายหรือผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ ผู้ถือหุ้นกู้และเจ้าหนี้อื่นของบริษัทผู้ออกหุ้นกู้จะมีบุริมสิทธิเหนือผู้ถือหุ้นสามัญของบริษัทผู้ออกหุ้นกู้ ในการประเมินความเสี่ยงด้านเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้ผู้ลงทุนสามารถดูผลการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้หรือผู้ออกหุ้นกู้ (credit rating) ที่จัดทำโดยสถาบันจัดอันดับความเสี่ยงประกอบการตัดสินใจลงทุนได้ถ้า credit rating ของหุ้นกู้หรือผู้ออกหุ้นกู้ต่ำแสดงว่าความเสี่ยงด้านเครดิตของหุ้นกู้หรือผู้ออกหุ้นกู้สูงผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนได้รับควรจะสูงด้วยเพื่อชดเชยความเสี่ยงที่สูงของหุ้นกู้ดังกล่าว
บริษัท 在 เจาะข่าวตื้น Shallow News in Depth Youtube 的最佳解答
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนพวกเรา ผ่านบัญชีกสิกรไทย 0698966939 บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
หรือสนับสนุนพวกเราแบบรายเดือนคลิกที่ลิงก์นี้เลยคร้าบ https://www.youtube.com/c/ShallowNewsinDepth/join
แล้วเข้ามาดูของแปลกกันในกลุ่มนะ 555 ?
เจาะข่าวตื้น SpokeDark : สุขสันต์วันชาติ 24 มิถุนายน 2564 วันครบรอบ 89 ปีของการเทสต์เดโมรัฐธรรมนูญไทย หรือจะเรียกว่าวันม็อบเดย์ วันดันเพดานแห่งชาติดี มาพูดถึงความดีงามของการดันเพดานตลอดปีที่ผ่านมา ศาลยุติธรรมเอาไปเทียบกับศาลรัฐธรรมนูญได้ยัง? ต้องลอง ไปดูคดีละเมิดศาลของเบญจา อะปัญ ต่อมาไปดูสลิ่มที่ยังเหลือรอดและยังออกหน้าออกตาอยู่ในทุกวันนี้ ว่าเป็นสลิ่มแบบไหน ผ่านกลุ่ม “นักเรียนดี” ร่างมารของ “นักเรียนเลว” ที่ดันเพดาน LGBTQ+ ที่กระทรวงศึกษาธิการ และเราดันเพดานกันจนพวกอำนาจนิยมหน้าด้านได้ยากขึ้นในกรณีกระทรวงมหาดไทยจะสั่งให้ผู้ว่าแต่ละจังหวัดช่วยบริการพนักงานและพ่อแม่พี่น้องของบริษัทไทยเบฟ ดันเพดานจนสื่อต่างประเทศ Financial Times ยังช่วยขยี้กรณีวัคซีนแอสตร้าเซเนก้ากับบริษัทรับจ้างผลิตในไทย สุดท้ายอัพเดตหมอไม่พร้อม ที่บอกว่าให้แต่ละโรงพยาบาลไปบริหารกันเองแล้วแต่บริบท ทั้งหมดนี้ใน!!! ประเทศอะไรเอ่ย ฝ้าเตี้ยที่สุดในโลก 555 ดันสิครับ! รอให้มันทับพ่องตายเหรอ?: เจาะข่าวตื้น 276
#แก้รัฐธรรมนูญ #ม็อบ24มิถุนา #เจาะข่าวตื้น
บริษัท 在 CarDebuts Youtube 的最讚貼文
เปิดตัวในไทยแล้ว The new Honda City Hatchback eHEV RS (Sport Hybrid i-MMD) 2021 - 2022 ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก อีเอชอีวี ราคา 849,000 บาท
ฮอนด้า เสริมความแข็งแกร่งไลน์อัปไฮบริดเปิดตัว “เดอะ ซิตี้ แฮทช์แบ็ก อี:เอชอีวี” ครั้งแรกในโลก และเติมเต็ม “เดอะ ซิตี้ ซีรีส์” ให้สมบูรณ์แบบ
• มูฟไปตามใจคิดกับเทคโนโลยีอันล้ำสมัยระดับพรีเมียม ระบบขับเคลื่อน Sport Hybrid i-MMD มอบสมรรถนะ
ทรงพลังแบบ Full Hybrid และมั่นใจยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING
• โดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ตแบบ RS รอบคัน พร้อมเอกลักษณ์ความอเนกประสงค์ กับเบาะนั่ง อัลตราซีท (ULTR)
• การันตีความมั่นใจ ด้วยการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง*
• ค่าบำรุงรักษาเบาๆ สไตล์ซิตี้คาร์ พร้อมฟรีค่าแรงในการเช็กระยะเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร* และฮอนด้า อัลติเมท แคร์* ขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่โดยเพิ่มระยะเวลาอีก 2 ปี หรือระยะทาง 40,000 กิโลเมตร พร้อมด้วยบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง
(กรุงเทพฯ – 24 มิถุนายน 2564) บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ตอกย้ำตำแหน่งผู้บุกเบิกและผู้นำเซกเมนต์ซิตี้คาร์ในประเทศไทย เปิดตัว ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก อี:เอชอีวี ใหม่ ครั้งแรกในโลก ยนตรกรรมซิตี้คาร์แฮทช์แบ็กฟูลไฮบริด ที่จะมาเสริมความแข็งแกร่งของไลน์อัปไฮบริดของฮอนด้าไปอีกขั้น และเติมเต็มความสมบูรณ์แบบของ “เดอะ ซิตี้ ซีรีส์” (The City Series) มาพร้อมจุดเด่นเทคโนโลยี Full Hybrid อันทรงพลัง กับระบบขับเคลื่อน Sport Hybrid i-MMD มั่นใจในทุกการขับขี่ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ “ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง” (Honda SENSING) พร้อมด้วยเอกลักษณ์ความอเนกประสงค์กับเบาะนั่ง อัลตราซีท (ULTR) ครบครันด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยและฟังก์ชันการใช้งานระดับพรีเมียม ดีไซน์สปอร์ตทั้งภายนอกและภายใน ด้วยดีไซน์สไตล์ RS รอบคัน เสริมเอกลักษณ์ยนตรกรรมไฮบริดด้วยโลโก้ H Mark ตกแต่งกรอบสีฟ้า และโลโก้ e:HEV พร้อมแนะนำสีใหม่สุดเอกซ์คลูซีฟกับสีน้ำเงินบริลเลียนท์ สปอร์ตตี้ (เมทัลลิก) เสริมความมั่นใจในการใช้งานด้วยการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง* อีกทั้งฟรีค่าแรงในการเช็กระยะเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร* (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) คุ้มค่าเกินคลาส ด้วยราคาจำหน่ายรุ่น e:HEV RS 849,000 บาท
เสริมความสปอร์ตพรีเมียมในทุกมูฟเมนต์ด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่งโมดูโล (Modulo) ที่มาพร้อมแนวคิด “Stage Up Booster” โดยมีไอเท็มอุปกรณ์ตกแต่งให้เลือก อาทิ ชุดป้องกันรอยบริเวณที่เปิดประตู ราคา 1,100 บาท ชุดตกแต่ง
สปอยเลอร์หลัง ราคา 5,500 บาท คิ้วตกแต่งซุ้มล้อด้านหน้า ราคา 1,700 บาท คิ้วบันไดสแตนเลส LED ราคา 4,400 บาท แผงครอบกันรอยขอบห้องสัมภาระ ราคา 900 บาท กล้องวิดีโอติดรถยนต์ ราคา 3,850 บาท
หรือเลือกตกแต่งในรูปแบบแพ็กเกจชุดแต่งรอบคัน ทั้งหมด 2 แพ็กเกจ ได้แก่
Modulo Aero Sport Package ราคา 21,500 บาท ประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า แบบ 2 ชิ้น สเกิร์ตข้าง สเกิร์ตหลัง แบบ 2 ชิ้น และ ชุดตกแต่งสปอยเลอร์หลัง
Modulo Aero Package ราคา 16,900 บาท ประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า แบบ 2 ชิ้น สเกิร์ตข้าง และ สเกิร์ตหลัง แบบ 2 ชิ้น
รายละเอียดเพิ่มเติม https://cardebuts.com/2021/06/the-new-2022-honda-city-hatchback-ehev-rs-sport-hybrid-i-mmd-modulo-aero-sport-package-thailand-debut/
ติดตามช่องของเราทาง Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/CarDebuts-891205251089964
หรือเว็บไซต์ https://cardebuts.com/
บริษัท 在 BorntoDev Youtube 的最讚貼文
มาอัพเดทกันหน่อยสำหรับสายเดฟทั้งหลาย! ว่าในปี 2021 นี้ถ้าอยากจะทำเว็บ ทำแอป ภาษาไหนเหมาะ? ภาษาไหนดี? เครื่องมือไหนมาแรงน่าลองใช้งานบ้าง? ถ้าอยากรู้แล้วล่ะก็ ไปดูพร้อมกันเลย!!
▲ ติดตามช่องของเราได้ที่ : http://bit.ly/borntoDevSubScribe...
▲ Facebook : https://www.facebook.com/borntodev...
▲ Website : http://www.borntodev.com...
?BorntoDev Channel คือ ช่องยูทูปที่เน้นสาระด้านเทคโนโลยี การพัฒนาโปรแกรม ไปพร้อมกับความสนุกสนาน และ รอยยิ้มเข้าไว้ด้วยกันทั้งในรูปแบบบทเรียน และ vlog
เพื่อการเปลี่ยนรูปแบบการเรียนรู้ด้านการพัฒนาโปรแกรม และ เทคโนโลยีแบบเดิม ๆ ที่เป็นเรื่องเฉพาะกลุ่มให้เข้าถึง เข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยพัฒนาเน้นไปที่รูปแบบการนำเสนอใหม่ ๆ ที่เป็นมิตรกับทุกคน
▲ กิจกรรมใน Channel BorntoDev เป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินงานของ บริษัท บอร์นทูเดฟ จำกัด ที่เปิดรับ Partners ที่สนใจร่วมเปลี่ยนแปลงให้สังคมไทยเป็นสังคมด้านวิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น หากคุณสนใจสนับสนุน และ ก้าวไปพร้อมกัน สามารถติดต่อร่วมงานได้แล้ววันนี้
▲ ติดต่อโฆษณา สนับสนุน และ ร่วมงานได้ที่: support@borntoDev.com
บริษัท 在 บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) - PTT Global ... 的推薦與評價
บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำ กัด (มหาชน) หรือ GC บริษัทอันดับ 1 ของโลกในกลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์จาก Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) ... ... <看更多>
บริษัท 在 บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน): หน้าหลัก 的推薦與評價
ดำเนินธุรกิจด้านพลังงานและปิโตรเคมีอย่างครบวงจรในฐานะเป็นบริษัทพลังงานแห่งชาติ โดยมีพันธกิจในการดูแล ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างสมดุล. ... <看更多>