ทางออกของธุรกิจประกันหลังโควิด | ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 23-25 เมษายน 2563
.
ระหว่างที่ทุกประเทศเข้าสู่โหมด Lockdown หลายสำนักวิจัยทางเศรษฐกิจทั่วโลกต่างเผชิญโจทย์ยากต่อการประเมินสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด และผลกระทบจะลากยาวแค่ไหน แต่ส่วนใหญ่ประเมินเหมือนกันคือ โควิดจะเป็นบททดสอบผู้กำหนดนโยบายระดับประเทศที่จะควบคุมด้านสาธารณสุข และด้านเศรษฐกิจไม่ให้ถดถอยหรือลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจที่เป็นผลพวงจากการชะงักงันของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ทว่า ธุรกิจประกันภัย จะเป็นกันชนหรือเครื่องมือทางเงินพื้นฐานในการบริหารความเสี่ยงสำหรับครัวเรือน!
.
“ฐานเศรษฐกิจ”มีโอกาสได้สัมภาษณ์พิเศษ อาจารย์ “พิเชฐ เจียรมณีทวีสิน หรืออาจารย์ ทอมมี่” นายกสมาคมนักคณิตศาสตร์ประกันภัยแห่งประเทศไทย ซึ่งสะท้อนความเห็นถึงภาพรวมธุรกิจประกันภัยว่า ขึ้นอยู่กับบริษัทจะจับจังหวะบวกได้แค่ไหนและสามารถป้องกันปัจจัยลบได้เพียงไร โดยระบุถึง 3 ปัจจัยบวกของทั้งธุรกิจประกันวินาศภัยและประกันชีวิต ได้แก่ โรคโควิดที่แพร่ระบาดสร้างความตระหนักรู้ให้ประชาชนสนใจ ประกอบกับการเข้าสู่ภาวะสังคมผู้สูงอายุ ซึ่งบลูมเบิร์ก ประเมินว่า อัตราการเพิ่มขึ้นของผู้สูงอายุไทยที่มีอายุเกิน 60ปี วิ่งเข้าสู่อันดับ 3 ของโลก ซึ่งในอีก 15ปีข้างหน้า(ปี2575)ประชากรไทย 1ใน 4หรือจำนวน 25คนจาก 100คนจะมีอายุเกิน 60ปี และเรื่องค่ารักษาพยาบาลที่จะแพงมากขึ้นจนควักเงินจ่ายเองไม่ไหว เพราะจากสถิติของไทยนั้น ค่ารักษาพยาบาลเพิ่มขึ้นเฉลี่ย8%ต่อปี เช่น ถ้าเป็นไข้หวัด 1ครั้ง สมมติค่าต้นทุนค่ารักษาพยาบาลคือราคา 1,500บาท ในตอนนี้ แต่ในอีก 10 ปีข้างหน้าต้นทุนค่ารักษาพยาบาลจะเพิ่มเป็น 3,000บาท เป็นต้น
.
“ปีนี้โควิดเป็นปัจจัยเสริม มีทั้งปัจจัยบวกและลบ ในเชิงบวกคือ ความตื่นตัวของลูกค้าซื้อประกัน แต่ปัจจัยลบก็มี เพราะธุรกิจประกันภัยเป็นธุรกิจที่รับเบี้ยเข้ามาก่อน จึงมีความเสี่ยงโดยตรงหลายมิติเช่น โรคระบาดไม่ได้ใช้สถิติจำลองอนาคตอีกต่อไป แต่เกี่ยวข้องกับปัจจัยภายนอกมากซึ่งจะเกิดข้อพิพาทขึ้น ว่าคุ้มครองหรือไม่คุ้มครอง รวมถึงค่ายาหรืออัตราการตาย โดยเฉพาะบริษัทที่คุ้มครองถึง 12 เดือน ทั้งวิวัฒนาการของโควิดและทางการแพทย์ซึ่งวิ่งตลอดเวลา เหล่านี้เป็นความเสี่ยงที่ต้องเตรียมเงินหน้าตักและประเมินกรณีเลวร้ายที่สุด เพื่อบริหารจัดการการจ่ายเคลมซึ่งต้องวางแผน Stop Loss ให้ได้ แถมยังมีผลกระทบทั้งจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับลดเป็นขาลงอีกด้วย ขณะเดียวกันธุรกิจวินาศภัยปีนี้มีแนวโน้มเติบโตในแง่เบี้ยประกันจากโควิด และยังได้ปัจจัยบวกจากโซเชียลดิสเท็นต์ หรือ WFH เพราะ ยอดเคลมสินไหมรถยนต์น้อย”
.
ด้านปัจจัยลบอันดับแรก คือ เงินลงทุน เพราะทั้งธุรกิจวินาศภัยและประกันชีวิตรับเงินมาก่อนแล้วต้องใช้เงินทำงานโดยเฉพาะธุรกิจประกันชีวิตต้องสำรองเงินเพื่อจ่ายคืนผู้บริโภคในอนาคต ส่วนใหญ่ลงทุนในพันธบัตร หรือหุ้นกู้ ซึ่งรวมเงินหมุนเวียนลงทุนราว 2.5 ล้านล้านบาท เพราะทุกวันนี้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรได้ปรับลดลงอย่างมาก ซึ่งเหลือแค่ประมาณ 1.1-1.2% และหากย้อนไปเมื่อ 20ปี 10ปี 5ปีและ 3ปีจะอยู่ที่10% 5% และ 3%ตามลำดับ โดยเงินหมุนเวียนประมาณ 2.5 ล้านล้านบาทที่ลงทุนในพันธบัตรหรือหุ้นกู้คิดเป็น 80-90% ของสินทรัพย์ทั้งหมดที่บริษัทประกันมี ทำให้ต้องจับคู่ระหว่างเงินลงทุนในสินทรัพย์และหนี้สิน การบันทึกรายได้ต้องกระจายตามสัญญารับประกันที่มีผลคุ้มครองจำแนกตามมาตรฐานบัญชี จึงเป็นทิศทางของประกันสะสมทรัพย์ให้เข้าสู่การทำตลาดประกันควบการลงทุนหรือยูนิตลิ้งค์ซึ่งเป็นการปลดล็อคศักยภาพให้บริษัทประกันลงทุนนอกเหนือจากพันธบัตร แต่ยังเป็นเงินลงทุนของลูกค้า(เลือกลงทุนและรับความเสี่ยงเอง) เน้นวัตถุประสงค์การซื้อเพื่อความมั่นคง (ไม่ใช่ความมั่งคั่ง) โดยบริษัทประกันทำหน้าที่ให้คุ้มครองตามเหตุปัจจัยที่ตกลงไว้ในสัญญา ประกอบกับ กฎระเบียบข้อบังคับความมั่นคงทางการเงินที่ปีนี้มีการปรับสูตรการดำรงเงินกองทุนตามระดับความเสี่ยง(RBC) เพื่อยกระดับมาตรฐานสากล
.
อาจารย์ทอมมี่ ระบุว่า โจทย์หลักของนักคณิตศาสตร์ต่อมุมมองโควิด คือ การสื่อสารกับบริษัทประกันเตรียมความพร้อมเงินกองทุนและเงินสำหรับจ่ายคืนลูกค้า ขณะเดียวกันต้องคิดเผื่อปัจจัยวิวัฒนาการทั้งการระบาดของโควิด วิวัฒนาการด้านยา หรือทางการแพทย์ ทั้งหมดนี้ต้องทำโมเดลแตกต่างจากแบบจำลองทั่วไป ถึงวันนี้ลูกค้ายังไม่มีการเคลมมากนัก แต่หากต่อไปเกิดข้อพิพาทจะต้องสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภคต้องเชื่อมโยงเงื่อนไขเป็นตัวเลข
.
ส่วนหน้าที่ของนักคณิตศาสตร์ประกันภัยคือ ตอบโจทย์ผู้บริโภคทั้งคุ้มครองความเสี่ยงและเคลมง่ายเวลาเกิดเหตุไม่คาดฝัน และต้องป้องกันการหาประโยชน์เก็งกำไรจากกรมธรรม์เวลาออกแบบประกันต้องป้องกันคนที่จะเข้ามาทุจริตเคลม เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์เต็มๆ เพราะหากปล่อยให้คนไม่ควรจะเคลมเข้ามาเคลมสินไหนจะทำให้ค่าเบี้ยเฉลี่ยโดยรวมแพงขึ้น ซึ่งการดีไซน์แบบประกันและกระบวนการต้องไม่เอื้อต่อการทุจริตเคลม เช่น ประกันเจอปุ๊ปจ่ายปั๊บต้องตีเงื่อนไขเป็นตัวเลข ในทางปฎิบัติต้องมองภาพและป้องกันการทุจริตเคลม
.
#อาจารย์ทอมมี่ #พิเชฐเจียรมณีทวีสิน #นายกสมาคมนักคณิตศาสตร์ประกันภัย
「ประชากรไทย 2563」的推薦目錄:
- 關於ประชากรไทย 2563 在 TAS19 คำนวณผลประโยชน์พนักงาน โดยนักคณิตศาสตร์ประกันภัย ABS Facebook 的精選貼文
- 關於ประชากรไทย 2563 在 นักคณิตศาสตร์ประกันภัย - ทอมมี่ แอคชัวรี Actuary Facebook 的最佳解答
- 關於ประชากรไทย 2563 在 BLT Bangkok - ข้อมูลสถิติประชากรไทยทั้งประเทศ ปี 2562... 的評價
- 關於ประชากรไทย 2563 在 จีนจะมีประชากรเพิ่มขึ้น 1,420 ล้านคน ในปี 2563 - YouTube 的評價
ประชากรไทย 2563 在 นักคณิตศาสตร์ประกันภัย - ทอมมี่ แอคชัวรี Actuary Facebook 的最佳解答
ทางออกของธุรกิจประกันหลังโควิด | ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 23-25 เมษายน 2563
.
ระหว่างที่ทุกประเทศเข้าสู่โหมด Lockdown หลายสำนักวิจัยทางเศรษฐกิจทั่วโลกต่างเผชิญโจทย์ยากต่อการประเมินสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด และผลกระทบจะลากยาวแค่ไหน แต่ส่วนใหญ่ประเมินเหมือนกันคือ โควิดจะเป็นบททดสอบผู้กำหนดนโยบายระดับประเทศที่จะควบคุมด้านสาธารณสุข และด้านเศรษฐกิจไม่ให้ถดถอยหรือลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจที่เป็นผลพวงจากการชะงักงันของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ทว่า ธุรกิจประกันภัย จะเป็นกันชนหรือเครื่องมือทางเงินพื้นฐานในการบริหารความเสี่ยงสำหรับครัวเรือน!
.
“ฐานเศรษฐกิจ”มีโอกาสได้สัมภาษณ์พิเศษ อาจารย์ “พิเชฐ เจียรมณีทวีสิน หรืออาจารย์ ทอมมี่” นายกสมาคมนักคณิตศาสตร์ประกันภัยแห่งประเทศไทย ซึ่งสะท้อนความเห็นถึงภาพรวมธุรกิจประกันภัยว่า ขึ้นอยู่กับบริษัทจะจับจังหวะบวกได้แค่ไหนและสามารถป้องกันปัจจัยลบได้เพียงไร โดยระบุถึง 3 ปัจจัยบวกของทั้งธุรกิจประกันวินาศภัยและประกันชีวิต ได้แก่ โรคโควิดที่แพร่ระบาดสร้างความตระหนักรู้ให้ประชาชนสนใจ ประกอบกับการเข้าสู่ภาวะสังคมผู้สูงอายุ ซึ่งบลูมเบิร์ก ประเมินว่า อัตราการเพิ่มขึ้นของผู้สูงอายุไทยที่มีอายุเกิน 60ปี วิ่งเข้าสู่อันดับ 3 ของโลก ซึ่งในอีก 15ปีข้างหน้า(ปี2575)ประชากรไทย 1ใน 4หรือจำนวน 25คนจาก 100คนจะมีอายุเกิน 60ปี และเรื่องค่ารักษาพยาบาลที่จะแพงมากขึ้นจนควักเงินจ่ายเองไม่ไหว เพราะจากสถิติของไทยนั้น ค่ารักษาพยาบาลเพิ่มขึ้นเฉลี่ย8%ต่อปี เช่น ถ้าเป็นไข้หวัด 1ครั้ง สมมติค่าต้นทุนค่ารักษาพยาบาลคือราคา 1,500บาท ในตอนนี้ แต่ในอีก 10 ปีข้างหน้าต้นทุนค่ารักษาพยาบาลจะเพิ่มเป็น 3,000บาท เป็นต้น
.
“ปีนี้โควิดเป็นปัจจัยเสริม มีทั้งปัจจัยบวกและลบ ในเชิงบวกคือ ความตื่นตัวของลูกค้าซื้อประกัน แต่ปัจจัยลบก็มี เพราะธุรกิจประกันภัยเป็นธุรกิจที่รับเบี้ยเข้ามาก่อน จึงมีความเสี่ยงโดยตรงหลายมิติเช่น โรคระบาดไม่ได้ใช้สถิติจำลองอนาคตอีกต่อไป แต่เกี่ยวข้องกับปัจจัยภายนอกมากซึ่งจะเกิดข้อพิพาทขึ้น ว่าคุ้มครองหรือไม่คุ้มครอง รวมถึงค่ายาหรืออัตราการตาย โดยเฉพาะบริษัทที่คุ้มครองถึง 12 เดือน ทั้งวิวัฒนาการของโควิดและทางการแพทย์ซึ่งวิ่งตลอดเวลา เหล่านี้เป็นความเสี่ยงที่ต้องเตรียมเงินหน้าตักและประเมินกรณีเลวร้ายที่สุด เพื่อบริหารจัดการการจ่ายเคลมซึ่งต้องวางแผน Stop Loss ให้ได้ แถมยังมีผลกระทบทั้งจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับลดเป็นขาลงอีกด้วย ขณะเดียวกันธุรกิจวินาศภัยปีนี้มีแนวโน้มเติบโตในแง่เบี้ยประกันจากโควิด และยังได้ปัจจัยบวกจากโซเชียลดิสเท็นต์ หรือ WFH เพราะ ยอดเคลมสินไหมรถยนต์น้อย”
.
ด้านปัจจัยลบอันดับแรก คือ เงินลงทุน เพราะทั้งธุรกิจวินาศภัยและประกันชีวิตรับเงินมาก่อนแล้วต้องใช้เงินทำงานโดยเฉพาะธุรกิจประกันชีวิตต้องสำรองเงินเพื่อจ่ายคืนผู้บริโภคในอนาคต ส่วนใหญ่ลงทุนในพันธบัตร หรือหุ้นกู้ ซึ่งรวมเงินหมุนเวียนลงทุนราว 2.5 ล้านล้านบาท เพราะทุกวันนี้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรได้ปรับลดลงอย่างมาก ซึ่งเหลือแค่ประมาณ 1.1-1.2% และหากย้อนไปเมื่อ 20ปี 10ปี 5ปีและ 3ปีจะอยู่ที่10% 5% และ 3%ตามลำดับ โดยเงินหมุนเวียนประมาณ 2.5 ล้านล้านบาทที่ลงทุนในพันธบัตรหรือหุ้นกู้คิดเป็น 80-90% ของสินทรัพย์ทั้งหมดที่บริษัทประกันมี ทำให้ต้องจับคู่ระหว่างเงินลงทุนในสินทรัพย์และหนี้สิน การบันทึกรายได้ต้องกระจายตามสัญญารับประกันที่มีผลคุ้มครองจำแนกตามมาตรฐานบัญชี จึงเป็นทิศทางของประกันสะสมทรัพย์ให้เข้าสู่การทำตลาดประกันควบการลงทุนหรือยูนิตลิ้งค์ซึ่งเป็นการปลดล็อคศักยภาพให้บริษัทประกันลงทุนนอกเหนือจากพันธบัตร แต่ยังเป็นเงินลงทุนของลูกค้า(เลือกลงทุนและรับความเสี่ยงเอง) เน้นวัตถุประสงค์การซื้อเพื่อความมั่นคง (ไม่ใช่ความมั่งคั่ง) โดยบริษัทประกันทำหน้าที่ให้คุ้มครองตามเหตุปัจจัยที่ตกลงไว้ในสัญญา ประกอบกับ กฎระเบียบข้อบังคับความมั่นคงทางการเงินที่ปีนี้มีการปรับสูตรการดำรงเงินกองทุนตามระดับความเสี่ยง(RBC) เพื่อยกระดับมาตรฐานสากล
.
อาจารย์ทอมมี่ ระบุว่า โจทย์หลักของนักคณิตศาสตร์ต่อมุมมองโควิด คือ การสื่อสารกับบริษัทประกันเตรียมความพร้อมเงินกองทุนและเงินสำหรับจ่ายคืนลูกค้า ขณะเดียวกันต้องคิดเผื่อปัจจัยวิวัฒนาการทั้งการระบาดของโควิด วิวัฒนาการด้านยา หรือทางการแพทย์ ทั้งหมดนี้ต้องทำโมเดลแตกต่างจากแบบจำลองทั่วไป ถึงวันนี้ลูกค้ายังไม่มีการเคลมมากนัก แต่หากต่อไปเกิดข้อพิพาทจะต้องสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภคต้องเชื่อมโยงเงื่อนไขเป็นตัวเลข
.
ส่วนหน้าที่ของนักคณิตศาสตร์ประกันภัยคือ ตอบโจทย์ผู้บริโภคทั้งคุ้มครองความเสี่ยงและเคลมง่ายเวลาเกิดเหตุไม่คาดฝัน และต้องป้องกันการหาประโยชน์เก็งกำไรจากกรมธรรม์เวลาออกแบบประกันต้องป้องกันคนที่จะเข้ามาทุจริตเคลม เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์เต็มๆ เพราะหากปล่อยให้คนไม่ควรจะเคลมเข้ามาเคลมสินไหนจะทำให้ค่าเบี้ยเฉลี่ยโดยรวมแพงขึ้น ซึ่งการดีไซน์แบบประกันและกระบวนการต้องไม่เอื้อต่อการทุจริตเคลม เช่น ประกันเจอปุ๊ปจ่ายปั๊บต้องตีเงื่อนไขเป็นตัวเลข ในทางปฎิบัติต้องมองภาพและป้องกันการทุจริตเคลม
.
#อาจารย์ทอมมี่ #พิเชฐเจียรมณีทวีสิน #นายกสมาคมนักคณิตศาสตร์ประกันภัย
ประชากรไทย 2563 在 จีนจะมีประชากรเพิ่มขึ้น 1,420 ล้านคน ในปี 2563 - YouTube 的推薦與評價
![影片讀取中](/images/youtube.png)
... และคาดการณ์ว่าในปี 2563 จีนจะมีจำนวน ประชากร เพิ่มขึ้นถึง 1420000000 คน. ... พยากรณ์อากาศ 1 สิงหาคม 2566. Thai PBS News New 4.2K views. ... <看更多>
ประชากรไทย 2563 在 BLT Bangkok - ข้อมูลสถิติประชากรไทยทั้งประเทศ ปี 2562... 的推薦與評價
ข้อมูลสถิติประชากรไทยทั้งประเทศ ปี 2562 มีประมาณ 66.56 ล้านคน คาดว่า ปี 2563 จะมี 68.97 ล้านคน โดยกลุ่มที่มีประชากรมากที่สุดคือ กลุ่มอายุ 25-54 ปี... ... <看更多>